ตอนที่ 4
มันคือความเข้ากัน
เช้านี้ทั้งเลขาและเจ้านายต่างพากันตื่นสายแต่คนที่ตื่นก่อนก็คือตรีญาภาคงเป็นเพราะเธอหลับไปก่อนด้วย
หญิงสาวหยิบจดหมายน้อยขึ้นมาอ่าน ก่อนจะลุกไปอุ่นข่วต้มกินและกลับเข้ามาอาบน้ำแต่งตัว มองนาฬิกาได้เวลาปลุกเจ้านายของเธอ
“คุณกร ตื่นได้แล้วค่ะ”
ชายหนุ่ทำท่าบิดขี้เกลียดก่อนจะดึงตัวเลขาสาวมานั่งข้าง ๆ และใช้มือโอบเอวไว้
“ตรงเวลาจริง ๆ ตัวหอมเชียวสงสัยผมต้องซื้อครีมอาบน้ำยี่ห้อเดียวกับตรีมาใช้บ้างแล้ว แอบหลงรักกลิ่นไปเต็ม ๆ ”
เลขาสาวที่ตอนนี้เริ่มจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะ ความเจ้าเล่ห์ของเจ้านาย เธอจึงรีบจับมือเขาออกและยืนออกมาให้ห่างจากโซฟา
“ไปอาบน้ำนะคะ ตรีจะไปอุ่นข้าวต้มให้ มีไข่เค็มด้วยคุณกรจะเอาไหมคะ”
“ของโปรดผมเลย โอเคตื่นก็ตื่น”
ข้าวต้มหมดหม้อจนได้ วันนี้ตรีกินข้าวเช้าถึงสองรอบเพราะคนทำทำท่าน้อยใจที่ข้าวต้มของเขายุบไปนิดเดียว หญิงสาวจึงกิน อีกรอบเป็นเพื่อนเจ้านาย
ทั้งสองคนมาทำงานพร้อมกันก็ไม่ได้สร้างแปลกใจอะไรให้กับพนักงานคนอื่นเพราะหลายครั้งที่เจ้านายกับเลขาออกไปเจอลูกค้าในช่วงเช้าแล้วกลับเข้ามาพร้อมกันในช่วงบ่าย แต่ตอนนี้ที่พนักงานคนอื่นกำลังลุ้นอยู่คือระเบิดก้อนใหญ่ที่นั่งรออยู่ในห้องทำงานของเจ้านายได้สองชั่วโมงแล้ว
“ไปนอนกับใครมาคะ”
เฌอมณีส่งเสียงแสบหูดังจนลั่นห้องออกมาทันทีที่ชลากรเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงาน
“ผมนอนโรงแรมแถวนี้ กว่าจะกลับก็ดึกงานก็ไม่เสร็จต้องขนไปทำเลยไม่อยากขับรถกลับบ้าน”
ชายหนุ่มอธิบายแบบไม่ได้ใส่ใจกับคนถามและทำสีหน้าท่าทางแสดงความรำคาญอย่างเห็นได้ชัด
หญิงสาวที่ตอนนี้ทั้งหึงทั้งหวงทั้งโกรธเดินไปยืนกอดอกที่หน้าโต๊ะทำงานของคู่หมั้นแบบเอาจริง
“ไปนอนกับเลขาตัวเอง มันไหมคะกร ชอบกินของเน่าก็ไม่บอก”
“เฌอทำไหมหนูพูดจาแบบนี้ล่ะคะ”
ตรีประดับมารดาของชลากรเปิดประตูเข้ามาทันได้ยินเฌออณีพูด เธอถึงกลับตกใจเพราะหญิงสาวไม่เคยแสดงวาจาแบบนี้ต่อหน้าเธอเลย
“อุ๊ย! คุณแม่คะ เฌอลืมตัวไปค่ะ เมื่อวานกรไม่รับโทรศัพท์เลย วันนี้เฌอก็มาหาที่ทำงานแต่เช้าเพราะนอนไม่หลับทั้งคืนคิดไปทั่วกลัวกรจะเกิดอันตราย แต่พอมาถึงเลขาก็หายไปด้วย อารมณ์ผู้หญิงก็เลยหึงมากไปหน่อยค่ะ”
คู่หมั้นสาวไม่ได้เปลี่ยนแค่คำพูดแต่ท่าทางน้ำเสียงอารมณ์เธอเปลี่ยนไปแบบคนละคน ชลากรได้แต่ส่ายหัวเพราะตัวเขาชินกับเรื่องแบบนี้แล้ว
ตรีประดับจากที่รู้สึกไม่ชอบใจอนาคตลูกสะใภ้ที่พูดแบบนั้น พอเจอท่าทางรู้สึกผิดของหญิงสาวเข้าไปก็ใจอ่อนและเข้าใจหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกันทันที
“โอ๋...หนูเฌอ ลูกต้องใจเย็น ๆ นะ กรเขาทำงานหนักเมื่อคืนเขาก็โทรศัพท์คุยเรื่องงานกับพ่อเขาเป็นชั่วโมงแปลว่าเขาไม่ได้ไปนอกลู่นอกทางแน่ ๆ ส่วนเรื่องตรี เขาเป็นเลขาก็ต้องตามเจ้านายเป็นปกติ ถ้าเข้าขากันไม่ได้คงทำงานด้วยกันไม่สำเร็จ แม่ว่าถ้าหนูเฌอจะคิดหึงตากรกับเลขาเขาหนูคงต้องหึงทุกวันแน่ ๆ เชื่อแม่เถอะหนูเฌอทั้งสวย จิตใจ มารยาท ชาติตระกูลดีแบบนี้ ตากรเขาไปไหนแน่ ๆ ”
ชายหนุ่มเหลือบตาดูคู่หมั้น ไม่รู้ว่าหญิงสาวจะสำนึกได้ไหม เพราะคำที่มารดาชมเธอมันตรงข้ามกับพฤติกรรมของเธอมาก
วันนี้ชลากรไม่ออกไปกินข้าวกลางวันเพราะมารดาของเขาทำข้าวกับน้ำพริกกะปิผักต้มแล้วก็ปลาทูทอดของโปรดเขามาให้และทำมาเยอะมากจนสามารถแบ่งน้ำพริกให้คนในฝ่ายการเงินกินด้วย
เฌอเองจึงกลับไปหลังจากที่ตรีประดับกลับ เพราะเธอแสร้งว่าจะอยู่กินข้าวกับชลากร แต่ชายหนุ่มรู้ดีว่าคู่หมั้นของเขาไม่มีทางกินกับข้าวแบบนี้ได้แน่นอน
“อร่อยมากเลยค่ะ ผักราดกะทิมาด้วยเห็นแล้วคิดถึงแม่เลยค่ะ เวลากลับไปบ้านแม่ทำให้กินทุกวันเลย”
เลขาสาวนั่งกินข้าวกับเจ้านายด้วยความอร่อยเธอเผลอลืมเขินอายเลยกินแบบเอร็ดอร่อยจนชลากรไม่กล้าแย่งเลย
“แล้วทำไมไม่เอาแม่มาอยู่ด้วย”
“ไม่มีทางมาค่ะ ถ้าคุณกรเห็นหมู่บ้านของตรีคุณจะรู้ว่าน่าอยู่กว่ากรุงเทพมาก อากาศดี มีลำธารไหลผ่าน แม่เขาทำที่พักเล็ก ๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวพักอยู่สามหลัง ตรียังอยากกลับไปอยู่บ้านเลยค่ะดังนั้นไม่มีทางที่แม่จะยอมมา”
พ่อของหญิงสาวจากไปตั้งแต่เธออายุได้เพียงห้าขวบแม่ของเธอเป็นผู้หญิงเก่ง ทำทุกอย่างด้วยตัวเองส่งเธอเรียนจนจบ ทุกวันนี้ตรีไม่ได้ส่งเงินให้มารดาเลย เพราะเธอตั้งใจจะรีบผ่อนคอนโดให้หมดแล้วเก็บเงินสักก้อนและขายคอนโดย้ายกับไปอยู่ที่อำเภอ บ่อเกลือจังหวัดน่านบ้านเกิดของเธอ
“ผมเคยไปเที่ยวแต่หลายปีแล้วตอนเรียนมหาวิทยาลัย ไว้เราพาพนักงานไปเที่ยวกันบ้างก็ดีนะแต่เสียดายแม่ตรีมีที่พักน้อยไม่อย่านั้นคงได้ใช้บริการ”
“ไม่เป็นไร ยังมีของญาติทางพ่อที่เป็นรีสอร์ตใหญ่ไว้คุณกรจะพาพนักงานไปตรีจะติดต่อให้ค่ะ”
วันนี้ทั้งสองคนก็กลับมืดอีกเช่นเคยแต่ไม่ดึกเท่าเมื่อวานและวันนี้ชลากรก็อ่านรายงานที่ทำงานเลยก่อนที่จะไปส่งเลขาที่ คอนโดมิเนียมของเธอ
งานที่ต้องเตรียมไปที่พังงาเหลือไม่มากแล้วแต่ชลากรก็หาเรื่องกลับมืดอีกก่อนจะอ้อนขอไปนอนที่คอนโดของตรีญาภา เจ้าของห้องใจจริงอยากให้เจ้านายไปนอนทุกวัน แต่ด้วยที่เป็นผู้หญิงเธอก็หาเหตุผลมาอ้างไม่ให้อีกฝ่ายไป
“อย่าเลยค่ะ ตรีไม่อยากมีปัญหากับคุณเฌอมณีแค่นี้เธอก็ระแวงเราสองคนจะแย่แล้ว มีหวังถ้ารู้ว่าคุณมานอนที่ห้องตรี คงได้ไล่ตรีออกแน่ ๆ ”
“ไร้สาระ ผมเป็นเจ้านาย ดีระแวงมาก ๆ จะได้แสดงความเป็นตัวตนให้พ่อกับแม่ผมเห็นเสียทีว่าแท้จริงเป็นคนอย่างไร เวลาไปกินข้าวที่บ้าน ถ้าตรีเห็นเฌอแสดง คงตกใจในความเรียบร้อย พูดน้อยแม่บ้านแม่เรือน ผมไม่รู้ว่าเธอจะเป็นแบบนี้ไม่อย่างนั้นผมไม่มีทางยอมหมั้นด้วยหรอก”
เมื่อคนเป็นเจ้านายไม่ยอมฟัง ตรีญาภาก็ต้องยอมให้เขาไปนอน จนถึงวันที่ทั้งคู่ต้องเดินทางไปประชุม ชลากรก็ไม่บอกเรื่องนี้กับเฌอมณีและให้ทุกคนในแผนกบอกว่าเขาไปต่างประเทศด่วน ส่วนตรีก็ลากลับบ้าน เรื่องนี้ตรีประดับมารดาของชลากรก็ช่วยโกหกเพราะกลัวเฌอมณีจะทำลูกชายเสียเรื่องงาน
“หวังว่าลูกจะเป็นผู้ชายที่ไว้ใจได้นะ”
คนเป็นแม่มองแววตาลูกชายที่มองเลขา เธอก็พอจะเดาออกก็ได้แต่หวังว่าคงไม่มีอะไรเกินเลยเกิดขึ้น
ตอนที่ 5อันดามัน “ตรีลืมถามเลยว่าเราไปโรงแรมกันอย่างไรคะ” หลังจากที่ลงจากเครื่องบินตรีญาภาก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าทั้งสองคนไม่ได้เอารถมาเพราะปกติจะไปหาลูกค้าต่างจังหวัดที่ใช้การขับรถไป ครั้งนี้คือครั้งแรกที่ขึ้นเครื่องบินมา “ผมเช่ารถไว้ เดี๋ยวเขาจะเอารถมาให้เราที่สนามบินเลย เวลาไปไหนจะได้สะดวก เพราะมาไกลขนาดนี้เราคงไม่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเดียวแน่ คงใช้ช่วงนี้พักผ่อนกันบ้าง นอนดึกยาวกันมาทั้งสัปดาห์” ตอนแรกตรีญาภาเข้าใจว่าเจ้านายคงเช่าโรงแรมใหญ่ของที่นี่ที่แยกเป็นห้องใครห้องมันเพราะเขาไม่ยอมให้เธอดำเนินการเรื่องนี้ แต่พอมาถึงเป็นโรงแรมก็จริงแต่เป็นส่วนที่เป็นเหมือนบ้านแยกออกมาอยู่ติดทะเล แค่ก้าวเท้าลงจากบ้านก็คือชายหาดในนั้นมีห้องนอนสองห้อง และมีห้องครัวที่มีอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อม ตรีญาภาเดินดูรอบ ๆ บ้านเปิดดูทั้งสองห้องนอนด้วยแววตาที่ดูมีความสุข “คงแพงน่าดูเลยนะคะแล้วเราอยู่ถึงเจ็ดวันด้วย เกิดมาตรียังไม่เคยได้มาพักอะไรแบบนี้เลยแค่ก้าวเท้าลงจากบ้านก็เจอหาดทรายแล้ว” ชลากรเดินมาจับมือเลขาและพาเธอเดินลงมาจากบ้านโดยที่ไม่ใส่รองเ
ตอนที่ 6เวลาของสองเราชลากรอาบน้ำเสร็จเขาก็เดินมาเคาะประตูที่หน้าห้องของตรีญาภาพร้อมกับถือหมอนและหมอนกอดมาด้วย “คุณกรถือหมอนมาทำไมคะ” “มาเอารางวัลไง คืนนี้ขอนอนด้วย ผมนอนคนเดียวในห้องมันเหงายิ่งเวลาได้ยินเสียงลมเสียงคลื่นน้ำตาจะไหลคิดถึงแม่” หญิงสาวยังไม่ทันจะพูดอะไรอีกฝ่ายก็ดันตัวเองเข้ามาในห้องนอนของเลขาแล้ว “ยืนอยู่ได้มานอนเดี๋ยวพรุ่งนี้ประชุมไม่ทันนะ” ชายหนุ่มกระโดดขึ้นเตียงห่มผ้านอนเรียบร้อยเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของห้องนอนเองเสียอย่างนั้น คืนนี้ตรีญาภาต้องนอนเตียงเดียวกับผู้ชายที่เธอหลงรักแต่เขามีคู่หมั้นแล้วหญิงสาวได้แต่ภาวนาขออย่าให้เขาทำอะไรเธอเลย เพราะเธอต้องยอมแน่ ๆ โคมไฟหัวเตียงถูกปิดลงมือหนาก็เริ่มซุกซนโอบกอดเอว คนตัวเล็ก ชลากรลองหยั่งเชิงดูว่าอีกฝ่ายจะมีท่าทีอะไรแต่สุดท้าย คนตัวเล็กก็ได้แต่นอนนิ่งตัวแข็งเป็นท่อนไม้เหมือนแค่หายใจยังไม่กล้าที่จะหายใจแรงเลย ชายหนุ่มดึงคนในอ้อมกอดให้เข้ามาแนบชิดกับตัวเขาก่อนที่จะกระซิบข้างหู “ตรีผมรักคุณนะ” คำว่ารักจากปากผู้ชายที่
ตอนที่ 7ความสุขเพียงชั่วคราว เช้าที่มีบางอย่างไม่เหมือนเดิมเพราะจากเลขาวันนี้เธอกลายมาเป็นภรรยาลับ ๆ ของเจ้านายไปแล้ว ตรีญาภาตั้งใจว่าเมื่อไหร่ที่กลับจากทะเลเธอจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับชลากรเกินกว่าความเป็นเจ้านายและลูกน้องกัน ทริปท่องเที่ยววันนี้ชายหนุ่มพาเลขาคนสวยไปทั้งดำน้ำ ดูปะการัง พาไปเที่ยวที่เกาะที่มีหาดทรายสีขาวก่อนที่ทั้งสองจะเดินทางกลับมาถึงที่พักก็เกือบมืดแล้ว “คุณกรวันนี้ตรีสนุกและเหนื่อยมา ตอนแรกกลัวแทบตายค่ะไม่กล้าจะดำนำแต่พอจริง ๆก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ขอบคุณมากนะคะที่พาตรีไปได้ประสบการณ์แบบนี้” เจ้านายสุดหล่อดึงตัวหญิงสาวในชุดว่ายน้ำที่มีผ้าคลุมไว้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนเขา “ผมไม่อยากกลับกรุงเทพเลย ไม่อยากกลับไปเจอกับเฌอเลย ความจริงเรื่องนี้ผมก็มีส่วนผิดเลือกหมั้นกับเธอเองทั้งที่ไม่ได้รัก แต่ตอนนั้นผมคิดว่าแค่หมั้นคงไม่มีอะไร ไว้วันหนึ่งก็ถอนหมั้นก็ได้แต่พอวันนี้วันที่ผมรักตรีเข้าแล้ว ผมว่าทุกอย่างมันไม่ง่ายเลย แต่ผมก็สัญญานะว่าทำให้เรื่องของเราถูกต้องให้ได้” ตรีญาภาดีใจท
ตอนที่ 8ฆ่าตัวตาย “คุณแม่คะเฌอไม่เข้าใจเลย ทำไมกรไปต่างประเทศคราวนี้ถึงได้ติดต่อไม่ได้” หลายวันแล้วที่เฌอเอมติดต่อคู่หมั้นไม่ได้อารมณ์ของเธอเริ่มไม่ปกติเริ่มอยู่เหนือการควบคุม เธอจึงพูดกับตรีประดับด้วยเสียงสูงและท่าทีที่ดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “วันนี้ก็ถึงกำหนดกลับแล้ว ไม่เห็นหนูเฌอต้องอารมณ์ไม่ดีขนาดนี้เลย ตากรไปแค่ไม่กี่วันแล้วก็ไปเรื่องงาน แม่ว่าใจเย็น ๆ ไม่น่าจะเกินเที่ยงคงกลับมาถึงบ้าน” คนสูงวัยที่เริ่มสังเกตคู่หมั้นของลูกชายในอีกแง่มุมหนึ่ง เป็นมุมที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ปกติเฌอมณีจะพูดแต่ค่ะและก็มักจะเป็นแต่ผู้ฟังมากกว่าแต่ตั้งแต่ชลากรไม่อยู่ หญิงสาวมาที่บ้านทุกวันและเริ่มแสดงและพูดในสิ่งที่คนฟังไม่คุ้นเคย เสียงรถยนต์ที่เข้ามาจอดในบ้านทำเอาเฌอมณีวิ่งจนเกือบจะสะดุดขาตัวเองเพื่อรีบไปดูว่าใช่คู่หมั้นของเธอหรือเปล่า “กรคุณไปไหน ไม่เคยคิดจะบอกเฌอเลยเราหมั้นกันแล้วนะไม่ใช่เล่นขายของถึงจะได้ทำอะไรไม่เห็นหัวกันแบบนี้” ทันทีที่ชายหนุ่มก้าวลงจากรถรับจ้างยังไม่ทันจะยกกระเป๋าลง ฝ่ายที่รีบวิ่งไปหาก็พรั่งพรูคำพูดท
ตอนที่ 9ของขวัญที่ไม่ได้ตั้งใจ ชลากรลืมตาตื่นขึ้นมาเขามองไปรอบ ๆ แล้วพยายามคิดว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน พอเริ่มจำเรื่องราวทุกอย่างได้ เขาถึงนึกถึงเฌอมณีขึ้นมาจึงรีบโทรศัพท์ไปหามารดาของเธอและรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปเยี่ยมเธอและเตรียมไปทำงานต่อ “กรจะไปเยี่ยมหนูเฌอไหม”ตรีประดับร้องถามลูกชายที่กำลังจะเดินออกจากบ้านไปที่โรงรถ“แม่ไปด้วยแล้วแม่จะเลยไปที่ทำงานของลูกไปทักทายลูกน้องเก่า ๆ เสียหน่อยไว้สาย ๆ แม่จะกลับเอง”ชลากรดีใจที่มารดาจะไปด้วยเพราะเขาไม่อยากไปเจอครอบครัวของเฌอมณีตามลำพังเพราะไม่รู้ว่าคู่หมั้นของเขาไปพูดอะไรไว้บ้างเมื่อไปถึงโรงพยาบาลสองคนแม่ลูกเดินเข้าไปในห้องพักฟื้นพร้อมกับคุณหมอที่รักษาเฌอพอดีจึงได้ฟังอาการของหญิงสาวด้วย“คนไข้กินยาเข้าไปเกินขนาดแต่ก็ไม่มากจนเป็นอันตรายในระยะสั้นแต่อาจจะมีผลต่อไตในระยะยาว ทางญาติไม่ต้องเป็นห่วงพรุ่งนี้กลับบ้านได้แล้วครับ”ชลากรได้ยินแบบนี้ทำไมเขาถึงได้ไม่รู้สึกเชื่อเลยว่าเฌอมณีจะฆ่าตัวตายจริง ๆ เขาคิดว่าเธอแค่กำลังเรียกร้องความสนใจเท่านั้น“กรแม่ขอคุยอะไรด้วยหน่อย”อมรามารดาของเฌอเดินนำหน้าชลากรออกจากห้องพักฟื้นคนป
ตอนที่ 10ตั้งใจเอากันให้ตาย ชลากรไม่อยากให้ตรีญาภาไปทำงานแล้วแต่หญิงสาวยังไม่อยากให้ใครสงสัยเธอจึงขอที่จะไปทำงานเพื่อยื่นใบลาออกล่วงหน้าหนึ่งเดือน โดยอ้างว่ามีปัญหาสุขภาพเลยอยากกลับไปอยู่กับมารดา “คิดดีแล้วนะตรีแล้วคอนโดล่ะ ยังผ่อนไม่หมดเลยกลับไปจะเอาเงินที่ไหนใช้” หัวหน้าฝ่ายบุคคลเธอเป็นมากกว่าหัวหน้าเพราะเธอห่วงใยลูกน้องทุกคน พนักงานในฝ่ายจึงรักและเคารพเธอเหมือนพี่สาว “ตรีผ่อนคอนโดหมดแล้วค่ะและตอนนี้มีคนมาติดต่อเช่าแล้ว ก็คงใช้ค่าเชานี่แหละค่ะใช้จ่าย ที่บ้านพอมีห้องพักอยู่ สองอย่างรวมกันก็เฉลี่ยเดือนละห้าพันเพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตที่บ่อเกลือสบาย ๆ ค่ะ” คนเป็นทั้งพี่และหัวหน้าก็ได้แต่อวยพรขอให้น้องสาวคนเล็กของแผนกนี้ไปดีมีชัย ตอนแรกทุกคนคิดว่าถ้าใบลาออกไปถึงชลากรเขาไม่มีทางยอมแต่ทุกอย่างผิดแผน ชายหนุ่มกลับเซ็นให้ง่าย ๆ แบบไม่มีปัญหา พร้อมกับให้เงินหญิงสาวไปตั้งตัวเป็นเงินเดือนถึงห้าเดือนซึ่งเรื่องนี้ ชลากรขอให้หัวหน้าฝ่ายบุคคลปิดเป็นความลับเพราะกลัวลูกน้องจะพากันลาออกหมด ระหว่างนี้ตรีญาภาก็สอนงานให้กับน้องฝึกงาน
ตอนที่11ยอมรับและรัก ตรีญาภาออกจากโรงพยาบาลและกลับมาพักที่คอนโด แต่สุดท้ายเธอกลับต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านของชลากร เพราะตรีประดับเล่าทุกอย่างให้สามีฟังหมดแล้วและคุณปู่ที่แสนใจดีอย่างชัยกรอยากมีหลานมานานเพราะเขาเหงาเหลือเกินตั้งแต่ลาออกจากงานมาอยู่บ้าน จึงเป็นห่วงว่าถ้าตรีต้องไปอยู่คนเดียวอีกอาจจะมีอันตราย “รอให้แผลของหนูหายดีก่อนนะแล้วพ่อกับแม่จะไปทำทุกอย่างให้ถูกต้อง เพราะถ้าไปตอนนี้แม่หนูคงเป็นห่วงลูกสาวและอาจจะไม่ยิมให้หนูกลับมาอยู่ที่นี่ก็ได้” ตรีประดับยังคงทำใจไม่ค่อยได้เพราะเธอคิดว่าถ้าลูกชายไม่แต่งงานกับเฌอมณีก็ควรจะมีเมียที่ฐานะใกล้เคียงกับคู่หมั้นเก่า ไม่ใช่เอาเลขามาทำเมียแบบนี้ “คุณ คนเราถ้าเลือกเกิดได้ คงเกิดเป็นคนรวยกันหมดแล้ว ก่อนที่ครอบครัวผมจะมีบริษัทแบบนี้ ปู่ของผมก็ซ่อมรถปะยางอยู่ ริมถนน ถ้าไม่ได้เจอกับย่าที่เป็นลูกสาวเจ้าของโรงงานผลิตยางรถยนต์ ผมก็คงเป็นแค่หลานคนปะยาง คุณก็คงจะไม่เลือกผมใช่ไหม” ชัยกรที่ปกติเป็นคนพูดน้อยถึงขั้นไม่ค่อยพูดแต่ครั้งนี้เขาพูดจนภรรยาต้องยอมรับและพยายามเปิดใจ ทางตำร
ตอนที่ 12หัวใจของซาตาน วันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงตรีญาภาเจ็บท้องคลอดลูกเธอปวดท้องอยู่นานจนในที่สุดหมอก็สั่งผ่าเพราะเด็กตัวใหญ่และแม่ตัวเล็กมาก กว่าจะออกจากห้องผ่าตัดเล่นเอาทุกคนต่างใจคอไม่ดี เพราะตรีประดับเองก็คลอดชลากรโดยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนของการผ่าชลากรเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนภรรยาเพราะเขากลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในระหว่างที่เขารออยู่ด้านนอก เสียงร้องของเด็กน้อยที่ดังออกมาทำเอาน้ำตาของทั้งพ่อและแม่ไหลออกมาไม่รู้ตัว ลูกสาวคนแรก หลานสาวคนแรก ลืมตาดูโลกแล้ว และตัวก็ใหญ่จริง ๆ สมแล้วที่ตรีจะไม่สามารถคลอดเองได้ เพราะตัวแม่ทั้งผอมทั้งตัวเล็ก คุณหมอแซวว่าลูกสาวเหมือน คุณพ่อหมดเลยกระดูกใหญ่ดูแล้วคงไม่ตัวเล็กเหมือนแม่ หลานสาวกลับบ้านคุณปู่ทำห้องข้างล่างไว้สำหรับเลี้ยงหลานในช่วงกลางวันแต่ตอนนี้ชัยกรยังไม่ให้ใช้เพราะอยากให้เว้นระยะห่างจากการทาสีอีกสักสองเดือน ตอนนี้หน้าที่หลักเป็นของคุณแม่กับคุณย่าเพราะคุณปู่และคุณพ่อไม่กล้าอุ้มเพราะข้าวปุ้นยังคอไม่แข็งและอ้อนสามเดือนเอามาก ๆ ตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงสองทุ่มทุกคนที่บ้าน
ตอนที่ 12ซาตานแพ้รัก ข่าวเสี่ยโดนยิงดังไปทั่วจังหวัดตอนนี้หมอแจ้งว่าไม่มีกระสุนฝังในและไม่โดนยิงในส่วนที่อันตรายจึงได้ทำการรักษาและพาขึ้นไปอยู่ที่ห้องพิเศษเพื่อพักฟื้น ผู้คนจากหลายตำบลต่างพากันมาเยี่ยม จนต้องทำสมุดให้เซ็นเพราะหมอไม่อยากให้เยี่ยมมากกลัวจะทำให้แผลติดเชื้อและคนไข้ไม่ได้พักผ่อน ตอนนี้คนที่เฝ้ากลางวันจะเป็นเสกส่วนกลางคืนจะเป็นโชคกับเดือนอ้าย “อ้ายขอน้ำหน่อย คอแห้ง” พยาบาลส่วนตัวรีบลุกไปหยิบแก้วน้ำดื่มให้กับคนเจ็บทันทีเพราะกกลัวชายหนุ่มจะพยายามขยับตัวแล้วจะมีผลต่อแผล “มากอดหน่อยสิ ปิดกันได้อย่างไรเรื่องท้อง พี่เป็นพ่อนะ” เสี่ยหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์หลอกให้เดือนอ้ายไปใกล้ ๆ เพื่อจะคว้าตัวเธอมากอด “ก็อ้ายเห็นเสี่ยไม่มาหาเลยก็คิดว่าคงลืมกันไปแล้ว ลูกคนเดียวอ้ายเลี้ยงได้ถ้าพ่อของลูกไม่ได้ตั้งใจให้มีเขาขึ้นมา” บู๊เอียงตัวหญิงสาวที่เป็นรักแรกของเขาและรักสุดท้ายให้หันหน้ามามองสบตาและฟังในสิ่งที่เขาจะพูด “ฟังนะอ้าย ไม่ว่าเธอจะคิดอะไร จะมองว่าเสี่ยบู๊คนนี้เป็นแบบไหน แต่พี่ยืนยันว่าพี่ยังเป็นพี่
ตอนที่ 11คิดถึง หนึ่งเดือนผ่านไป บ้านซ่อมแซมเสร็จนานแล้วแต่เดือนอ้ายก็ยังคงไม่ย้ายออกมาจากไร่ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมและในเกือบทุกคืนเธอกับอดีตเจ้านี้ก็มีความสัมพันธ์กันทั้งที่มันไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นแล้ว วันนี้หญิงสาวตัดสินใจเก็บของกลับบ้าน เธอมาแค่เพียงกระเป๋าใบเดียว เธอก็กลับไปเพียงแค่นั้น เธอบอกเรื่องนี้ให้เสี่ยรู้ตั้งแต่เมื่อคืน เธอคิดว่าเขาคงจะไปส่งเธอกลับบ้านแต่เขากลับให้โชคไปส่งเธอและเอาจักรยานของเธอขึ้นท้ายรถไป “เริ่มต้นใหม่นะอ้าย ว่าง ๆ ก็มาเที่ยวที่ไร่ได้นะ ทุกคนยินดีต้อนรับ” โชคบอกร่ำลาเพื่อนหลังจากที่ช่วยถือกระเป๋าไปไว้บนบ้านและเอาจักรยานของเธอลงไว้ที่ใต้ถุน “โชคดีนะโชค ขอบคุณที่ดูแลอ้ายมาตลอด” สองคนเพื่อนรักโบกมือลากันทั้งที่ความจริงไร่ห่มรักกับบ้านของเธออยู่ห่างไม่ได้มากอะไร บ้านหลังเดิมที่ไม่เหมือนเดิม หลังคาเปลี่ยนใหม่ผนังบ้านเปลี่ยนใหม่ จากที่เป็นบ้านโ ล่ง ๆ ตอนนี้ก็มีห้องนอนสองห้อง หน้าต่างติดเหล็กดัด มีโทรทัศน์เครื่องใหญ่ ตู้เย็นและมีห้องครัวอยู่ที่ระเบียงหลังบ้านที่ตอนนี้ไม่โล่งเหมือนเดิน
ตอนที่ 10คืนอิสระ โชคยิ้มให้กับตัวเองเมื่อเขาคิดไว้ไม่มีผิดไม่ถึงชั่วโมงเจ้านายของเขาก็ขับรถมาถึงทั้งที่ความจริงจากตัวจังหวัดมาที่ไร่เกือบชั่วโมงแต่คนปากแข็งใช้เวลาไม่ถึงสี่สิบนาที “ไหนว่าจะไม่กลับอย่างไรล่ะครับเจ้านาย” โชคยิ้มแซวทั้งที่รู้ว่าเวลนี้เจ้านายของเขาคงไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นด้วยก็ตาม “ลืมของโว๊ย!” บู๊ตะโกนตอบลูกน้องแบบไม่ใส่ใจเพราะรีบเดินเข้าไปยังห้องนอน “นายเขาลืมหัวใจไว้ เอ็งก็ทำเป็นไม่รู้นะไอ้โชค” เสกและลูกน้องอีกสองคนลงจากรถพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าที่ตั้งใจว่าคืนนี้จะไปนอนโรงแรมกัน เจ้าหนี้จอมปากแข็งเปิดประตูห้องนอนเข้าไป เขานั่งข้าง ๆ เดือนอ้ายอยู่นานจนแน่ใจว่าเธอหลับสนิท เขาจึงเอาฝ่ามือแตะที่หน้าผากของเธอ “กินยาไปแล้วยังตัวร้อนอยู่เลย” บู๊ไม่คิดว่าเดือนอ้ายจะไม่สบายเป็นไข้ตัวร้อนหนักแบบนี้ ดีนะที่เขาตัดสินใจกลับมา ผ้าชุบน้ำแตะลงที่ตัวของคนป่วยเธอจึงค่อย ๆ ลืมตา พอเห็นว่าเป็นใครที่กำลังเช็ดตัวให้เธออยู่เธอก็หลับตาลงอีกครั้งด้วยความอ่อนแรง ทั้ง
ตอนที่ 9ฝังใจ สองสัปดาห์เต็มที่เดือนอ้ายมาอยู่ที่ไร่ห่มรัก เธอเพิ่งหาเงินใช้หนี้แค่เพียงสามหมื่นจากสองครั้งที่เขานอนกับเธอ หญิงสาวจึงตั้งใจจะพยายามวันนี้อีกครั้งและเป็นการพยายามที่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากที่เธอพยายามแบบธรรมดามาหลายคืนแล้ว คืนนี้ชายหนุ่มก็กลับบ้านดึกเหมือนเช่นทุกวันและเดือนอ้ายก็ยังคงรอเขากินข้าวเหมือนเดิม เธอพยายามพูดจาเอาใจชายหนุ่มในแบบที่ไม่ใช่เธอ ทั้งที่ตัวเธอเองก็สัมผัสได้ว่าคนฟังก็รู้ว่าเธอกำลังพยายามเอาใจเขาไม่ได้เกิดจากความรู้สึกที่แท้จริง ไฟทุกดวงปิดลงแสงที่ลอดผ่านม่านเข้ามาในห้องทำให้บู๊ที่ยังคงไม่หลับมองเห็นหญิงสาวตรงหน้าในสภาพเปลือยเปล่า “เธอทำอะไรของเธอ” ชายหนุ่มตะคอกด้วยความไม่พอใจ “ก็ทำให้เสี่ยนอนกับอ้ายไงล่ะ ทำไมคะในเมื่อเสี่ยอยากได้อ้ายมาบำเรอใช้หนี้แต่ตอนนี้เสี่ยกลับนอนเฉย ๆ ทุกคืน เสี่ยไม่พอใจอ้ายเหรอหรือว่าอ้ายมันไม่สวยไม่เก่งเหมือนผู้หญิงคนอื่น” หญิงสาวก้าวขึ้นเตียงเธอพยายามจะเอาตัวเองคร่อมล่างชายหนุ่มที่กำลังตกใจแต่ไม่สำเร็จเพราะสู้แรงอีกฝ่ายไม่ไหว บู๊ผลักร่างบางที่พยายามจะขึ้น
ตอนที่ 8ยืดเวลา อาหารมื้อเย็นวันนี้แม่ครัวคนใหม่ทำเมนูง่าย ๆ เพราะเธอยังไม่คุ้นชินกลับครัวที่นี่จากเคยใช้เตาถ่านก็เปลี่ยนมาใช้เตาแก๊สแทน “มื้อนี้ขอแบบเบา ๆ ก่อนนะคะ ยังไม่ชินกับครัวใหม่เลยกว่าจะใช้เตาแก๊สเป็นก็กลัวแทบแย่ ทำอีกสักครั้งสองครั้งก็คงดีขึ้น เสี่ยทน ๆ กินไปก่อนแล้วกัน” คนนั่งรอกินไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะสำหรับชายหนุ่มที่ชีวิตโหยหาคำว่าครอบครัวมานานแสนนานแค่ได้มีโอกาสได้กินข้าวที่บ้าน ณ ไร่ห่มรักโดยมีผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าตอนนี้เป็นเมียเขา ทำกับข้าวให้กินก็สุขใจเกินพอแล้ว “พรุ่งนี้ให้โชคพาไปดูในไร่หน่อยได้ไหมคะ ไม่อยากไปคนเดียวไม่รู้จักใคร” ตอนแรกอ้ายคิดว่าเธออยู่ที่นี่แค่ไม่นานคงไม่ทันเบื่อแค่คอยทำกับข้าวในแต่ละวันก็คงหมดวันแล้ว แต่พอมาคิดมาคิดไปเธอเริ่มอยากรู้ว่าในไร่ห่มรักมีอะไรบ้าง ทำไมจึงทำให้บู๊จากเด็กชายธรรมดามีฐานะดีขึ้นมาเร็วแบบนี้ “ได้สิ นัดกับโชคเอาแล้วกัน เพราะตอนนี้พี่ให้โชคอยู่เป็นเพื่อนเราทุกวัน มันก็คงไม่อยู่หน้าประตูไร่ก็เดินไปเดินมาแถวนี้แหละ” พรุ่งนี้งานนอกเข้ามาเสี่ยจำเป็นต้องไปจัดการสะสาง
ตอนที่ 7ความดีที่ไม่มีใครเห็น เดือนอ้ายเดินมาเพื่อขึ้นรถไปซื้อของตามคำสั่งของเจ้าหนี้เธอ ทั้งที่เธอก็คิดมาทั้งวันว่าเธอคงอยู่ที่นี่เต็มที่ก็แค่เดือนเดียวทำไมอีกฝ่ายต้องลงทุนให้ไปซื้อของเข้าครัวทำเหมือนเธอจะมาอยู่ที่นี่ เป็นปีหรือหลายปี “ทำไมยังไม่ไปคะ” หญิงสาวขึ้นมานั่งบนรถได้เกือบห้านาทีแล้ว เธอยังไม่เห็นว่าคนขับทำท่าจะขับออกไปเลยจึงถามด้วยความแปลกใจ “รอคนงาน เขาจะพาแม่ไปหาหมอจะขับไปพร้อมกัน ๆ ” “แม่เขาเป็นอะไรหรือคะ” คนถามได้ยินแบบนี้ยิ่งคิดถึงแม่ขึ้นมาเพราะเวลาที่เธอจะพาแม่ไปหาหมอแต่ละครั้งแสนลำบากยังดีที่รถรับจ้างคิดเงินเธอไม่แพงเพราะสงสาร “ปวดขาเฉย ๆ คนที่ไปหาหมอชื่อป้าพร มีลูกสองคนเป็น ฝาแฝดกันชื่อพีกับเพื่อน ป้าพรก็รู้จักอ้ายนะแต่อ้ายคงจำแกไม่ได้แล้วเพราะตั้งแต่แกมาทำงานในไร่ก็ไม่ค่อยออกไปไหนเลย” บู๊พูดจบรถคันใหญ่สีดำก็ขับผ่านหน้าเขาไปไม่ถึงสองนาที เขาก็ขับตามออกไป “ถ้าอยู่แต่บ้านแล้วมันเหงาไปช่วยงานในไร่ก็ได้นะ ลองปั่นจักรยานดูก็ได้ว่าอยากทำอะไร เพราะก็เลือกให้ไม่ถูกเหมือนกัน”
ตอนที่ 6เมีย เช้าแล้วแสงจากดวงอาทิตย์ลอดผ่านม่านสีน้ำตาล ลายดอกไม้ผ่านเข้ามายังห้องนอน เดือนอ้ายลืมตาช้า ๆ ค่อย ๆ พลิกตัวมองมายังข้าง ๆ ตัวเธอที่ตอนนี้มีแต่ความว่างเปล่า เมียปลดหนี้นอนหลับตาพยายามคิดว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงหรือแค่เพียงฝันไป เธอฝันมาตลอดที่จะได้มีครอบครัวที่แสนอบอุ่นแต่สุดท้ายชีวิตของเธอก็เหลือเพียงตัวคนเดียวและตอนนี้เธอต้องกลายมาเป็นผู้หญิงที่ทำหน้าที่บำเรอชายเพื่อแลกหนี้ ประตูห้องถูกเปิดออกเดือนอ้ายจะแกล้งหลับต่อก็ไม่ทันแล้วเพราะคนที่เปิดเข้ามาส่งยิ้มหวานและมองสบตาเธอเรียบร้อยแล้ว “ลุกไปล้างหน้าแปรงฟันได้แล้ว พี่ซื้อโจ๊กมาให้ร้านนี้อร่อยมาก” “แทนตัวว่าพี่ไม่กระดากปากเหรอคะเสี่ย” บรรยากาศกำลังดี ๆ เดือนอ้ายก็เตรียมจะทำลายมันด้วยคำพูดของเธอเสียอย่างนั้น คนตั้งใจซื้อโจ๊กมาฝากมองหน้าหญิงสาว สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเหมือนคนที่พยายามอดทนอย่างสุดกำลัง “ไปล้างหน้าเถอะ เอาเป็นว่าต่อไปนี้ฉันจะแทนตัวว่าพี่ ฉัน หรือผม มันก็สิทธิ์ของเจ้าของไร่แห่งนี้ อย่าทำลายบรรยากาศของอาหารมื้อเช้าเลย เสร็
ตอนที่ 5เรือนร่างแทนหนี้ เสี่ยหนุ่มกลับมาพร้อมกับถุงในมือจำนวนหนึ่ง สองคนลูกน้องรีบวิ่งไปรับหน้าทันที “นาย..ที่หลังจะไปไหนก็บอกกันบ้าง ผมสองคนเป็นห่วง” โชคจัดการต่อว่าเจ้านายของเขาทันทีที่เดินไปถึงตัวเพื่อช่วยถือข้าวของในมือ “ครับเสี่ยโชค” บู๊หันมาตอบลูกน้องคนสนิทด้วยรอยยิ้มแบบประชดประชัน จนโชคเองก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ที่ถูกเรียกว่าเสี่ยโชคกลับ “เสี่ยประชดเก่งเป็นผู้หญิงเลยนะครับ” ลูกน้องมือซ้ายถูกเจ้านายไล่เตะอย่างอารมณ์ดีเมื่อยังคงถูกลูกน้องว่าต่อ เดือนอ้ายแอบดูผ่านหน้าต่างของห้องนอน เธอไม่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้ของชายหนุ่มที่เธอกำลังจะต้องยอม ทำตามทุกอย่างที่เขาสั่งแบบนี้มานานมากแล้ว เสกได้รับคำสั่งจากเจ้านายให้เอาถุงทั้งหมดมาให้กับ เดือนอ้ายและบอกให้เธอออกไปเจอเขาที่โต๊ะอาหารได้แล้ว หญิงสาวในชุดนอนที่เป็นแค่เพียงกระโปรงยาวแค่เข่า ผ้าซาตินเนื้อเบา เวลาโดนลมพัดยิ่งทำให้เห็นเนื้อขาวที่อยู่ด้านใน “นั่งลงสิ ไม่รู้กับข้าวจะถูกปากไหมเพราะน้าพิมพ์ทำมาให้แต่ต่อไปเธอต้องทำให้ฉันกินทุกวัน พรุ่งน
ตอนที่ 4ใครกันที่เปลี่ยนไป พระอาทิตย์ยังไม่ทันตกดินเดือนอ้ายก็ปั่นจักรยานกลับมาที่บ้านของเสี่ยบู๊ ทั้งที่ความจริงชายหนุ่มตั้งใจจะขับรถไปรับแต่เธอดันมาถึงก่อน “ให้อ้ายเอาเสื้อผ้าไปไว้ที่ไหนคะ” หญิงสาวกลับมาด้วยสีหน้าที่ดูแจ่มใสมากกว่าเดิมแต่ภายในดวงตากลมคู่สวยยังคงดูเหมือนคนที่ไม่มีหัวใจเช่นเดิม “ตามมา” ชายหนุ่มเดินนำไปที่ห้องนอนของเขาที่เขาสั่งให้แม่บ้านจัดไว้ให้เรียบร้อยเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับที่เดือนอ้ายจะได้ใช้ส่วนตัว ประตูห้องถูกปิดลง บู๊หันหน้ามาหาหญิงสาวที่เดินตามมาด้านหลัง คว้ากระเป๋าจากมือของเธอวางลงและเปลี่ยนมาจับมือเล็กของเดือนอ้ายแทน “อ้ายเรากลับมาสนิทกันเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้เหรอทำไมเราต้องเปลี่ยนไปแบบนี้ด้วย” เสี่ยบู๊ที่เคยวางท่าว่าดูยโสไม่ได้สนใจอะไรในตัวหญิงสาวชาวบ้านอย่างเดือนอ้ายเท่าไหร่ก็เปลี่ยนเป็นคนละคนทันที มือเล็กบีมมือหนาที่จับเธอไว้แน่น หญิงสาวค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้กับเสี่ยหนุ่มจนหน้าแทบจะติดกัน “อ้ายยังเป็นอ้ายคนเดิม เด็กสาวที่เคยจนและก็จนมาถึงตอนนี้ อ้ายยังเป็นอ้ายที่ไม่เ