ตอนที่ 8
ฆ่าตัวตาย
“คุณแม่คะเฌอไม่เข้าใจเลย ทำไมกรไปต่างประเทศคราวนี้ถึงได้ติดต่อไม่ได้”
หลายวันแล้วที่เฌอเอมติดต่อคู่หมั้นไม่ได้อารมณ์ของเธอเริ่มไม่ปกติเริ่มอยู่เหนือการควบคุม เธอจึงพูดกับตรีประดับด้วยเสียงสูงและท่าทีที่ดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“วันนี้ก็ถึงกำหนดกลับแล้ว ไม่เห็นหนูเฌอต้องอารมณ์ไม่ดีขนาดนี้เลย ตากรไปแค่ไม่กี่วันแล้วก็ไปเรื่องงาน แม่ว่าใจเย็น ๆ ไม่น่าจะเกินเที่ยงคงกลับมาถึงบ้าน”
คนสูงวัยที่เริ่มสังเกตคู่หมั้นของลูกชายในอีกแง่มุมหนึ่ง เป็นมุมที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ปกติเฌอมณีจะพูดแต่ค่ะและก็มักจะเป็นแต่ผู้ฟังมากกว่าแต่ตั้งแต่ชลากรไม่อยู่ หญิงสาวมาที่บ้านทุกวันและเริ่มแสดงและพูดในสิ่งที่คนฟังไม่คุ้นเคย
เสียงรถยนต์ที่เข้ามาจอดในบ้านทำเอาเฌอมณีวิ่งจนเกือบจะสะดุดขาตัวเองเพื่อรีบไปดูว่าใช่คู่หมั้นของเธอหรือเปล่า
“กรคุณไปไหน ไม่เคยคิดจะบอกเฌอเลยเราหมั้นกันแล้วนะไม่ใช่เล่นขายของถึงจะได้ทำอะไรไม่เห็นหัวกันแบบนี้”
ทันทีที่ชายหนุ่มก้าวลงจากรถรับจ้างยังไม่ทันจะยกกระเป๋าลง ฝ่ายที่รีบวิ่งไปหาก็พรั่งพรูคำพูดที่ประชดประชันและน้ำเสียง เกรี้ยวกราดอย่างไม่เกรงใจตรีประดับที่ยืนอยู่
“แม่ว่าเราควรจะเข้ามาคุยกันในบ้านไม่ใช่ยืนพูดจาเป็น คนไม่มีสกุลโวยวายกันอยู่ตรงนั้น”
ตรีประดับเดินลงจากบันได้มาควงแขนลูกชายก่อนจะสั่งให้แม่บ้านมาช่วยกันยกกระเป๋าของชายหนุ่ม
หญิงสาวที่รู้ตัวดีว่าตัวเองกำลังโดนด่ากำมือทั้งสองแน่น กัดฟันเพื่อจะอดทนกลับการไม่สวนกลับแม่อนาคตสามี ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครกล้าพูดกับเธอแบบนี้แม้แต่พ่อและแม่ ต่างก็เอาแต่ชื่นชมว่าเธอแสนดี เรียบร้อยและมีมารยาทตลอด
เฌอมณียืนควบคุมสติอยู่สักพักกว่าที่จะตามสองแม่ลูกขึ้นไปบนบ้าน
“มาแล้วเหรอหนูเฌอ มีอะไรก็ค่อย ๆ พูด การที่จะไปยืนโวยวายแบบนั้นต่อหน้าคนอื่นปกติแม่ก็ไม่เคยเห็นหนูเป็นหรือ ความจริงหนูแค่ไม่เคยแสดงให้แม่เห็นเท่านั้น”
ชลากรยิ้มในใจนี่แค่เขากลับมาวันแรกยังไม่ทันได้เริ่มทำอะไร คู่หมั้นของเขาก็เก็บอาการไม่อยู่แสดงความเป็นตัวตนให้มารดาของเขาให้เริ่มได้รู้
“คุณแม่อย่าว่าไปว่าเฌอเลยครับ เธอคงโกรธที่ผมทำอะไรไม่ยอมบอก”
หญิงสาวฉีกยิ้มด้วยความดีใจที่ชลากรพูดจาเข้าข้างเธอ แต่สุดท้ายเธอก็แทบจะหุบยิ้มไม่ทัน เมื่อชายหนุ่มยังคงพูดต่อ
“แรก ๆ ผมก็เคยตกใจเหมือนคุณแม่ แต่ตอนนี้ผมชินแล้ว เฌอเวลาไปที่ทำงาน ถ้าผมขัดใจเธอก็จะขี้น้อยใจโวยวายเสียงดัง แบบนี้เหมือนเด็ก ๆ ครับ คนที่ทำงานต่างพากันเอ็นดูในความน่ารักของเฌอเขา”
ตรีประดับเพิ่งเคยได้ยินลูกชายพูดเรื่องนี้ครั้งแรกเพราะที่ผ่านมาชลากรไม่เคยเล่าถึงเฌอเอมว่าเป็นอย่างไรบ้างเวลาที่ไปหาเขาที่ทำงาน
“กรก็ว่าเฌอเสียดูแย่เลย คุณแม่อย่าไปฟังกรมากนะคะ ชอบเห็นเฌอเป็นเด็ก”
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตัวเองกำลังโดนสาวไส้แต่หญิงไทยใจงามอย่างเฌอมณีก็ต้องพยายาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
2 สองเดือนผ่านไป
ชลากรเริ่มมีเวลาให้กับคู่หมั้นน้อยลงแล้วเขาก็เริ่มเล่าถึงสิ่งต่าง ๆ ที่หญิงสาวแสดงต่อเขาที่บริษัทให้พ่อกับแม่ฟัง ตรีประดับเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแต่ชัยกรมองว่าเป็นเรื่องของเด็กสองคนเขาจึงไม่อยากออกความคิดเห็นอะไรมาก ได้แต่สอนลูกตามประสาผู้ชายเหมือนกัน
“เรื่องแบบนี้ลูกไม่จำเป็นต้องเล่าให้แม่เขาฟังก็ได้ ลูกเป็นคนที่ต้องอยู่กับหนูเฌอไปทั้งชีวิตถ้าตัดสินใจแต่งงานกัน แม่เขาไม่ได้ไปแต่งด้วย พ่อว่ากรรู้ดีที่สุด ว่าหนูเฌอเขาใช่คนที่ลูกรักและลูกอยู่กับเขามีความสุขหรือทุกข์มากกว่ากัน คิดให้มันดี ๆ เราเป็นผู้ชายไม่มีอะไรเสียหายแต่เขาเป็นผู้หญิง แต่ถ้าคิดว่าสุดท้ายจะไปกันไม่รอดก็อย่ายื้อไว้ให้นานและอย่าดึงแม่กับพ่อเข้าไปยุ่งเลย พ่อแม่ทางนู้นเขาจะถอนหงอกเอา”
ชลากรคิดตามคำที่บิดาพูดเพราะที่เขายอมยื้อเวลาทั้งหมดเพราะเกรงใจผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายแต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจจะถอนหมั้นอยู่แล้ว จะช้าจะเร็วมันก็ต้องเกิดขึ้นเขาคงต้องเผชิญความจริง
คืนนี้ตรีญาภาไม่ต้องนอนคนเดียวเพราะมีสามีแบบลับ ๆ ของเธอมาค้างคืนด้วยแต่ความจริงแล้วเขาก็มาหามานอนกับเธออยู่ บ่อย ๆ เพียงแต่บางคืนสักตี1 ชลากรก็กลับไปนอนต่อที่บ้านเพราะไม่อยากให้มารดาสงสัย และกลัวว่ามารดาจะคิดไปว่าที่เขาไม่อยากแต่งงานกับเฌอมณีเป็นเพราะเขามีตรี
“พรุ่งนี้ผมจะขอถอนหมั้นเฌอ ผมทนไม่ไหวแล้ว สุดท้ายก็ต้องเลิกกันสักวันผมไม่อยากทำให้เฌอต้องเสียเวลากับผม เธอจะได้เจอคนที่ดี”
ชายหนุ่มไม่ได้ปรึกษาหรือถามความคิดเห็นจากคนรักแต่เขาแค่บอกให้เธอรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร
“ไม่ใช่เพราะตรีใช่ไหมคะ ที่ทำให้ความรักของคุณทั้งคู่ต้องพังแบบนี้”
หญิงสาวเริ่มรู้สึกว่าตัวเองอาจจะเป็นตัวปัญหาสำหรับเรื่องของสองคนนี้ ความรู้สึกผิดเริ่มเข้ามาในหัวใจ
“ระหว่างผมกับเฌอมันไม่ใช่ความรักอยู่แล้ว มันเป็นแค่อารมณ์เพียงชั่ววุบผมผิดเองที่ไม่คิดอะไรให้ดีกว่านี้ ตัดสินใจอะไร ง่าย ๆ โดยที่ไม่ได้คิดถึงผลที่จะเกิดขึ้นเลย”
เย็นนี้เฌอมณีดีใจเป็นที่สุดที่ชลากรโทรศัพท์มานัดเธอไปกินข้าวเย็น เธอแต่งตัวสวยที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้และแอบหวังเล็ก ๆ ว่าเขาจะขอเธอแต่งงาน เพราะทั้งคู่ก็หมั้นกันมานานแล้ว
“กรมีอะไรพิเศษหรือเปล่าคะ ถึงได้ชวนเฌอมากินข้าวเย็นแบบนี้ ตั้งแต่หมั้นกันมาไม่ถึงสิบครั้งที่กรเป็นคนชวนเอง”
“มี เฌอผมมีความรู้สึกทั้งหมดภายในหัวใจที่อยากจะบอกคุณเป็นความรู้สึกที่จริงใจที่สุด”
หญิงสาวทำท่าเขินอายเมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้หัวใจของเฌอมณีตอนนี้มันคาดหวังไปไกล
“เฌอพร้อมฟังแล้วค่ะ”
“เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเถอะ การเป็นคู่หมั้นของเรามันทำให้ผมรู้ว่าเราไปด้วยกันไม่ได้จริง ๆ ”
“กรรู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา”
“กรรู้ตัวและคิดเรื่องนี้มานานแล้วเพียงแต่คิดว่าวันนี้มันคงถึงเวลา”
เฌอมณีนั่งเงียบ เธอไม่มีน้ำตา ไม่มีเสียงกรี๊ดร้อง สายตาของเธอมองมาที่อดีตคู่หมั้นอย่างเครียดแค้นก่อนที่จะลุกออกจากร้านไป
ชลากรยังไม่อยากเจอหน้าใครหรือพูดคุยกับใคร เขาเลือกที่จะไปนั่งดื่มในร้านเล็ก ๆ ที่มีเพลงเพราะ ๆ ให้ฟังแล้วปิดเครื่องโทรศัพท์เพราะไม่อยากได้ยินหรือรับรู้อะไรตอนนี้
ตีสองชายหนุ่มกลับบ้านด้วยอาการที่เกือบเมาแต่ก็ยังมีสติอยู่ ภาพพ่อกับแม่ที่นั่งรอเขาอยู่ที่กลางบ้านทำให้ชายหนุ่มต้องเรียกสติให้กลับคืน
“ลูกรู้หรือยังว่าตอนนี้เฌอมณีอยู่โรงพยาบาล”
ตรีประดับพูดด้วยท่าทางที่เหมือนกำลังโกรธลูกชายทั้งที่เขายังไม่รู้เรื่องราวจริง ๆ ด้วยซ้ำเพราะเฌอก็ยังพูดอะไรไม่ได้มาก
“เอ้า! เกิดอะไรขึ้นครับ ตอนเย็นยังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย”
“แม่ต้องถามลูกมากกว่าว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเฌอมณีกลับมาจากกินข้าวกับลูกแล้วเธอถึงได้กลับมากินยาเกินขนาดเพื่อฆ่าตัวตาย พ่อกับแม่พยายามติดต่อลูกก็ติดต่อไม่ได้”
ชลากรรู้สึกเหมือนสิ่งที่ได้ยินคือความฝันหรือเขากำลังเมาแล้วได้ยินเสียงแว่ว เฌอมณีฆ่าตัวตาย ชายหนุ่มพูดคนเดียว อย่างสงสัยและล้มตัวนั่งลงบนโซฟาด้วยอาการที่เริ่มจะยืนไม่อยู่
“พ่อว่าลูกขึ้นไปนอนก่อน พรุ่งนี้เช้าเล่าค่อยคุยกันสภาพแบบนี้คุยกันไปก็คงไม่รู้เรื่อง”
ผู้ใหญ่ทั้งสองคนเดินกลับขึ้นไปบนบ้านทิ้งให้ลูกชายนอนหลับอยู่บนโซฟาแบบนั้นจนถึงเช้า
ตอนที่ 9ของขวัญที่ไม่ได้ตั้งใจ ชลากรลืมตาตื่นขึ้นมาเขามองไปรอบ ๆ แล้วพยายามคิดว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน พอเริ่มจำเรื่องราวทุกอย่างได้ เขาถึงนึกถึงเฌอมณีขึ้นมาจึงรีบโทรศัพท์ไปหามารดาของเธอและรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปเยี่ยมเธอและเตรียมไปทำงานต่อ “กรจะไปเยี่ยมหนูเฌอไหม”ตรีประดับร้องถามลูกชายที่กำลังจะเดินออกจากบ้านไปที่โรงรถ“แม่ไปด้วยแล้วแม่จะเลยไปที่ทำงานของลูกไปทักทายลูกน้องเก่า ๆ เสียหน่อยไว้สาย ๆ แม่จะกลับเอง”ชลากรดีใจที่มารดาจะไปด้วยเพราะเขาไม่อยากไปเจอครอบครัวของเฌอมณีตามลำพังเพราะไม่รู้ว่าคู่หมั้นของเขาไปพูดอะไรไว้บ้างเมื่อไปถึงโรงพยาบาลสองคนแม่ลูกเดินเข้าไปในห้องพักฟื้นพร้อมกับคุณหมอที่รักษาเฌอพอดีจึงได้ฟังอาการของหญิงสาวด้วย“คนไข้กินยาเข้าไปเกินขนาดแต่ก็ไม่มากจนเป็นอันตรายในระยะสั้นแต่อาจจะมีผลต่อไตในระยะยาว ทางญาติไม่ต้องเป็นห่วงพรุ่งนี้กลับบ้านได้แล้วครับ”ชลากรได้ยินแบบนี้ทำไมเขาถึงได้ไม่รู้สึกเชื่อเลยว่าเฌอมณีจะฆ่าตัวตายจริง ๆ เขาคิดว่าเธอแค่กำลังเรียกร้องความสนใจเท่านั้น“กรแม่ขอคุยอะไรด้วยหน่อย”อมรามารดาของเฌอเดินนำหน้าชลากรออกจากห้องพักฟื้นคนป
ตอนที่ 10ตั้งใจเอากันให้ตาย ชลากรไม่อยากให้ตรีญาภาไปทำงานแล้วแต่หญิงสาวยังไม่อยากให้ใครสงสัยเธอจึงขอที่จะไปทำงานเพื่อยื่นใบลาออกล่วงหน้าหนึ่งเดือน โดยอ้างว่ามีปัญหาสุขภาพเลยอยากกลับไปอยู่กับมารดา “คิดดีแล้วนะตรีแล้วคอนโดล่ะ ยังผ่อนไม่หมดเลยกลับไปจะเอาเงินที่ไหนใช้” หัวหน้าฝ่ายบุคคลเธอเป็นมากกว่าหัวหน้าเพราะเธอห่วงใยลูกน้องทุกคน พนักงานในฝ่ายจึงรักและเคารพเธอเหมือนพี่สาว “ตรีผ่อนคอนโดหมดแล้วค่ะและตอนนี้มีคนมาติดต่อเช่าแล้ว ก็คงใช้ค่าเชานี่แหละค่ะใช้จ่าย ที่บ้านพอมีห้องพักอยู่ สองอย่างรวมกันก็เฉลี่ยเดือนละห้าพันเพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตที่บ่อเกลือสบาย ๆ ค่ะ” คนเป็นทั้งพี่และหัวหน้าก็ได้แต่อวยพรขอให้น้องสาวคนเล็กของแผนกนี้ไปดีมีชัย ตอนแรกทุกคนคิดว่าถ้าใบลาออกไปถึงชลากรเขาไม่มีทางยอมแต่ทุกอย่างผิดแผน ชายหนุ่มกลับเซ็นให้ง่าย ๆ แบบไม่มีปัญหา พร้อมกับให้เงินหญิงสาวไปตั้งตัวเป็นเงินเดือนถึงห้าเดือนซึ่งเรื่องนี้ ชลากรขอให้หัวหน้าฝ่ายบุคคลปิดเป็นความลับเพราะกลัวลูกน้องจะพากันลาออกหมด ระหว่างนี้ตรีญาภาก็สอนงานให้กับน้องฝึกงาน
ตอนที่11ยอมรับและรัก ตรีญาภาออกจากโรงพยาบาลและกลับมาพักที่คอนโด แต่สุดท้ายเธอกลับต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านของชลากร เพราะตรีประดับเล่าทุกอย่างให้สามีฟังหมดแล้วและคุณปู่ที่แสนใจดีอย่างชัยกรอยากมีหลานมานานเพราะเขาเหงาเหลือเกินตั้งแต่ลาออกจากงานมาอยู่บ้าน จึงเป็นห่วงว่าถ้าตรีต้องไปอยู่คนเดียวอีกอาจจะมีอันตราย “รอให้แผลของหนูหายดีก่อนนะแล้วพ่อกับแม่จะไปทำทุกอย่างให้ถูกต้อง เพราะถ้าไปตอนนี้แม่หนูคงเป็นห่วงลูกสาวและอาจจะไม่ยิมให้หนูกลับมาอยู่ที่นี่ก็ได้” ตรีประดับยังคงทำใจไม่ค่อยได้เพราะเธอคิดว่าถ้าลูกชายไม่แต่งงานกับเฌอมณีก็ควรจะมีเมียที่ฐานะใกล้เคียงกับคู่หมั้นเก่า ไม่ใช่เอาเลขามาทำเมียแบบนี้ “คุณ คนเราถ้าเลือกเกิดได้ คงเกิดเป็นคนรวยกันหมดแล้ว ก่อนที่ครอบครัวผมจะมีบริษัทแบบนี้ ปู่ของผมก็ซ่อมรถปะยางอยู่ ริมถนน ถ้าไม่ได้เจอกับย่าที่เป็นลูกสาวเจ้าของโรงงานผลิตยางรถยนต์ ผมก็คงเป็นแค่หลานคนปะยาง คุณก็คงจะไม่เลือกผมใช่ไหม” ชัยกรที่ปกติเป็นคนพูดน้อยถึงขั้นไม่ค่อยพูดแต่ครั้งนี้เขาพูดจนภรรยาต้องยอมรับและพยายามเปิดใจ ทางตำร
ตอนที่ 12หัวใจของซาตาน วันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงตรีญาภาเจ็บท้องคลอดลูกเธอปวดท้องอยู่นานจนในที่สุดหมอก็สั่งผ่าเพราะเด็กตัวใหญ่และแม่ตัวเล็กมาก กว่าจะออกจากห้องผ่าตัดเล่นเอาทุกคนต่างใจคอไม่ดี เพราะตรีประดับเองก็คลอดชลากรโดยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนของการผ่าชลากรเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนภรรยาเพราะเขากลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในระหว่างที่เขารออยู่ด้านนอก เสียงร้องของเด็กน้อยที่ดังออกมาทำเอาน้ำตาของทั้งพ่อและแม่ไหลออกมาไม่รู้ตัว ลูกสาวคนแรก หลานสาวคนแรก ลืมตาดูโลกแล้ว และตัวก็ใหญ่จริง ๆ สมแล้วที่ตรีจะไม่สามารถคลอดเองได้ เพราะตัวแม่ทั้งผอมทั้งตัวเล็ก คุณหมอแซวว่าลูกสาวเหมือน คุณพ่อหมดเลยกระดูกใหญ่ดูแล้วคงไม่ตัวเล็กเหมือนแม่ หลานสาวกลับบ้านคุณปู่ทำห้องข้างล่างไว้สำหรับเลี้ยงหลานในช่วงกลางวันแต่ตอนนี้ชัยกรยังไม่ให้ใช้เพราะอยากให้เว้นระยะห่างจากการทาสีอีกสักสองเดือน ตอนนี้หน้าที่หลักเป็นของคุณแม่กับคุณย่าเพราะคุณปู่และคุณพ่อไม่กล้าอุ้มเพราะข้าวปุ้นยังคอไม่แข็งและอ้อนสามเดือนเอามาก ๆ ตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงสองทุ่มทุกคนที่บ้าน
ตอนที่ 1รักแรก “นายครับมีคนของท้องถิ่นมาหาอยากจะเอากระเช้ามาสวัสดีนายหลังจากที่เขาได้รับตำแหน่ง” โชคลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาบอกณรงค์ฤทธิ์หรือที่ชาวบ้านทั้งจังหวัดพากันเรียกว่าเสี่ยบู๊ “ให้มันนั่งรอไปก่อน ฉันยังไม่ว่างกำลังนั่งแคะฟันอยู่” เสี่ยบู๊ผู้ทำธุรกิจหลายอย่างบังหน้าโดยเฉพาะทางด้านการเกษตรและธุรกิจก่อสร้างที่เขาทำหน้าที่รับงานจากทางการและส่งต่อคอยกินกำไรอย่างเดียวเพราะนักการเมืองท้องถิ่นต่างใช้เงินและบารมีของเขาในการหาเสียง โชคไม่กล้าพอที่จะไปบอกตามที่เจ้านายสั่ง เขาจึงเลือกใช้คำพูดที่ดูดีขึ้นเพราะตัวเขาเองก็ไม่อยากสร้างศัตรู “เสี่ยยังไม่ว่างรอสักครู่นะครับ” แม่บ้านของไร่ห่มรักซึ่งคือไร่ที่บู๊รักที่สุดเพราะมารดาของเขาเป็นคนสร้างมากับมือและตั้งชื่อด้วยตัวเองก่อนจะจากไปเมื่อสิบปีก่อน นำน้ำมาต้อนรับแขกที่มา คนรอก็ต้องพยายามรออย่างใจเย็นที่สุด ส่วนคนที่ตั้งใจจะกวนอารมณ์ก็ไม่ยอมออกมารอจนกว่าจะแกล้งให้สาแก่ใจเพราะ ลึก ๆ แล้วบู๊ก็ไม่ได้ชอบนักการเมืองพวกนี้เสียเท่าไหร่แต่เห็นแก่ ผลประโยชน์ที่มีร่วมกัน
ตอนที่ 3มันอ่อนที่ใจ ณรงค์ฤทธิ์กลับมาที่ไร่เขานั่งครุ่นคิดกับสิ่งที่ธนาและพิมพ์พูดเกี่ยวกับเดือนอ้าย ชีวิตของเธอตอนนี้มีเพียงแค่บ้านของยลดาและผู้ใหญ่บ้านเท่านั้นที่ดูแลอยู่ ซึ่งทั้งสองบ้านนี้ก็ได้เงินจาก ชายหนุ่มนั่นแหละที่ไปคอยช่วยเหลือ เวลาผ่านมาไม่ถึงครึ่งเดือนนับจากวันที่ชายหนุ่มไปกินข้าวที่บ้านของยลดา ธนาก็โทรศัพท์มาส่งข่าวว่าตอนนี้พ่อของเดือนอ้ายได้เสียชีวิตแล้ว “ผมรับเป็นเจ้าภาพทั้งสามคืนเลยนะครับ ส่วนค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเดี๋ยวผมให้ทางผู้ใหญ่บ้านจัดการ เดือนอ้ายจะได้ไม่กระดากใจที่ต้องรับ” งานศพทั้งสามคืนเป็นไปแบบเรียบง่ายแม่ของเดือนอ้ายไม่ได้มาร่วมงานเพราะป่วยติดเตียงอยู่แต่ก็รับรู้ว่าสามีของเธอได้จากไปแล้ว “แม่จ๊ะอ้ายไปสวดศพพ่อก่อนนะ สวดเสร็จจะรีบกลับมาเพราะตอนกลางคืนมีพวกที่เขาเล่นการพนันกันมาอยู่เป็นเพื่อนพ่อให้” ละเอียดได้แต่นอนน้ำตาไหลรินที่ถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิตเธอก็ไม่มีโอกาสไปส่งสามีเพราะตัวเองก็คงเหลือเวลาอีกไม่นานที่จะตามสามีไปอยู่ห่วงก็แต่ลูกสาวที่จะต้องอยู่คนเดียวพร้อมกับหนี้สินจำนวนมาก เ
ตอนที่ 4ใครกันที่เปลี่ยนไป พระอาทิตย์ยังไม่ทันตกดินเดือนอ้ายก็ปั่นจักรยานกลับมาที่บ้านของเสี่ยบู๊ ทั้งที่ความจริงชายหนุ่มตั้งใจจะขับรถไปรับแต่เธอดันมาถึงก่อน “ให้อ้ายเอาเสื้อผ้าไปไว้ที่ไหนคะ” หญิงสาวกลับมาด้วยสีหน้าที่ดูแจ่มใสมากกว่าเดิมแต่ภายในดวงตากลมคู่สวยยังคงดูเหมือนคนที่ไม่มีหัวใจเช่นเดิม “ตามมา” ชายหนุ่มเดินนำไปที่ห้องนอนของเขาที่เขาสั่งให้แม่บ้านจัดไว้ให้เรียบร้อยเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับที่เดือนอ้ายจะได้ใช้ส่วนตัว ประตูห้องถูกปิดลง บู๊หันหน้ามาหาหญิงสาวที่เดินตามมาด้านหลัง คว้ากระเป๋าจากมือของเธอวางลงและเปลี่ยนมาจับมือเล็กของเดือนอ้ายแทน “อ้ายเรากลับมาสนิทกันเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้เหรอทำไมเราต้องเปลี่ยนไปแบบนี้ด้วย” เสี่ยบู๊ที่เคยวางท่าว่าดูยโสไม่ได้สนใจอะไรในตัวหญิงสาวชาวบ้านอย่างเดือนอ้ายเท่าไหร่ก็เปลี่ยนเป็นคนละคนทันที มือเล็กบีมมือหนาที่จับเธอไว้แน่น หญิงสาวค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้กับเสี่ยหนุ่มจนหน้าแทบจะติดกัน “อ้ายยังเป็นอ้ายคนเดิม เด็กสาวที่เคยจนและก็จนมาถึงตอนนี้ อ้ายยังเป็นอ้ายที่ไม่เ
ตอนที่ 5เรือนร่างแทนหนี้ เสี่ยหนุ่มกลับมาพร้อมกับถุงในมือจำนวนหนึ่ง สองคนลูกน้องรีบวิ่งไปรับหน้าทันที “นาย..ที่หลังจะไปไหนก็บอกกันบ้าง ผมสองคนเป็นห่วง” โชคจัดการต่อว่าเจ้านายของเขาทันทีที่เดินไปถึงตัวเพื่อช่วยถือข้าวของในมือ “ครับเสี่ยโชค” บู๊หันมาตอบลูกน้องคนสนิทด้วยรอยยิ้มแบบประชดประชัน จนโชคเองก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ที่ถูกเรียกว่าเสี่ยโชคกลับ “เสี่ยประชดเก่งเป็นผู้หญิงเลยนะครับ” ลูกน้องมือซ้ายถูกเจ้านายไล่เตะอย่างอารมณ์ดีเมื่อยังคงถูกลูกน้องว่าต่อ เดือนอ้ายแอบดูผ่านหน้าต่างของห้องนอน เธอไม่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้ของชายหนุ่มที่เธอกำลังจะต้องยอม ทำตามทุกอย่างที่เขาสั่งแบบนี้มานานมากแล้ว เสกได้รับคำสั่งจากเจ้านายให้เอาถุงทั้งหมดมาให้กับ เดือนอ้ายและบอกให้เธอออกไปเจอเขาที่โต๊ะอาหารได้แล้ว หญิงสาวในชุดนอนที่เป็นแค่เพียงกระโปรงยาวแค่เข่า ผ้าซาตินเนื้อเบา เวลาโดนลมพัดยิ่งทำให้เห็นเนื้อขาวที่อยู่ด้านใน “นั่งลงสิ ไม่รู้กับข้าวจะถูกปากไหมเพราะน้าพิมพ์ทำมาให้แต่ต่อไปเธอต้องทำให้ฉันกินทุกวัน พรุ่งน
ตอนที่ 12ซาตานแพ้รัก ข่าวเสี่ยโดนยิงดังไปทั่วจังหวัดตอนนี้หมอแจ้งว่าไม่มีกระสุนฝังในและไม่โดนยิงในส่วนที่อันตรายจึงได้ทำการรักษาและพาขึ้นไปอยู่ที่ห้องพิเศษเพื่อพักฟื้น ผู้คนจากหลายตำบลต่างพากันมาเยี่ยม จนต้องทำสมุดให้เซ็นเพราะหมอไม่อยากให้เยี่ยมมากกลัวจะทำให้แผลติดเชื้อและคนไข้ไม่ได้พักผ่อน ตอนนี้คนที่เฝ้ากลางวันจะเป็นเสกส่วนกลางคืนจะเป็นโชคกับเดือนอ้าย “อ้ายขอน้ำหน่อย คอแห้ง” พยาบาลส่วนตัวรีบลุกไปหยิบแก้วน้ำดื่มให้กับคนเจ็บทันทีเพราะกกลัวชายหนุ่มจะพยายามขยับตัวแล้วจะมีผลต่อแผล “มากอดหน่อยสิ ปิดกันได้อย่างไรเรื่องท้อง พี่เป็นพ่อนะ” เสี่ยหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์หลอกให้เดือนอ้ายไปใกล้ ๆ เพื่อจะคว้าตัวเธอมากอด “ก็อ้ายเห็นเสี่ยไม่มาหาเลยก็คิดว่าคงลืมกันไปแล้ว ลูกคนเดียวอ้ายเลี้ยงได้ถ้าพ่อของลูกไม่ได้ตั้งใจให้มีเขาขึ้นมา” บู๊เอียงตัวหญิงสาวที่เป็นรักแรกของเขาและรักสุดท้ายให้หันหน้ามามองสบตาและฟังในสิ่งที่เขาจะพูด “ฟังนะอ้าย ไม่ว่าเธอจะคิดอะไร จะมองว่าเสี่ยบู๊คนนี้เป็นแบบไหน แต่พี่ยืนยันว่าพี่ยังเป็นพี่
ตอนที่ 11คิดถึง หนึ่งเดือนผ่านไป บ้านซ่อมแซมเสร็จนานแล้วแต่เดือนอ้ายก็ยังคงไม่ย้ายออกมาจากไร่ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมและในเกือบทุกคืนเธอกับอดีตเจ้านี้ก็มีความสัมพันธ์กันทั้งที่มันไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นแล้ว วันนี้หญิงสาวตัดสินใจเก็บของกลับบ้าน เธอมาแค่เพียงกระเป๋าใบเดียว เธอก็กลับไปเพียงแค่นั้น เธอบอกเรื่องนี้ให้เสี่ยรู้ตั้งแต่เมื่อคืน เธอคิดว่าเขาคงจะไปส่งเธอกลับบ้านแต่เขากลับให้โชคไปส่งเธอและเอาจักรยานของเธอขึ้นท้ายรถไป “เริ่มต้นใหม่นะอ้าย ว่าง ๆ ก็มาเที่ยวที่ไร่ได้นะ ทุกคนยินดีต้อนรับ” โชคบอกร่ำลาเพื่อนหลังจากที่ช่วยถือกระเป๋าไปไว้บนบ้านและเอาจักรยานของเธอลงไว้ที่ใต้ถุน “โชคดีนะโชค ขอบคุณที่ดูแลอ้ายมาตลอด” สองคนเพื่อนรักโบกมือลากันทั้งที่ความจริงไร่ห่มรักกับบ้านของเธออยู่ห่างไม่ได้มากอะไร บ้านหลังเดิมที่ไม่เหมือนเดิม หลังคาเปลี่ยนใหม่ผนังบ้านเปลี่ยนใหม่ จากที่เป็นบ้านโ ล่ง ๆ ตอนนี้ก็มีห้องนอนสองห้อง หน้าต่างติดเหล็กดัด มีโทรทัศน์เครื่องใหญ่ ตู้เย็นและมีห้องครัวอยู่ที่ระเบียงหลังบ้านที่ตอนนี้ไม่โล่งเหมือนเดิน
ตอนที่ 10คืนอิสระ โชคยิ้มให้กับตัวเองเมื่อเขาคิดไว้ไม่มีผิดไม่ถึงชั่วโมงเจ้านายของเขาก็ขับรถมาถึงทั้งที่ความจริงจากตัวจังหวัดมาที่ไร่เกือบชั่วโมงแต่คนปากแข็งใช้เวลาไม่ถึงสี่สิบนาที “ไหนว่าจะไม่กลับอย่างไรล่ะครับเจ้านาย” โชคยิ้มแซวทั้งที่รู้ว่าเวลนี้เจ้านายของเขาคงไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นด้วยก็ตาม “ลืมของโว๊ย!” บู๊ตะโกนตอบลูกน้องแบบไม่ใส่ใจเพราะรีบเดินเข้าไปยังห้องนอน “นายเขาลืมหัวใจไว้ เอ็งก็ทำเป็นไม่รู้นะไอ้โชค” เสกและลูกน้องอีกสองคนลงจากรถพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าที่ตั้งใจว่าคืนนี้จะไปนอนโรงแรมกัน เจ้าหนี้จอมปากแข็งเปิดประตูห้องนอนเข้าไป เขานั่งข้าง ๆ เดือนอ้ายอยู่นานจนแน่ใจว่าเธอหลับสนิท เขาจึงเอาฝ่ามือแตะที่หน้าผากของเธอ “กินยาไปแล้วยังตัวร้อนอยู่เลย” บู๊ไม่คิดว่าเดือนอ้ายจะไม่สบายเป็นไข้ตัวร้อนหนักแบบนี้ ดีนะที่เขาตัดสินใจกลับมา ผ้าชุบน้ำแตะลงที่ตัวของคนป่วยเธอจึงค่อย ๆ ลืมตา พอเห็นว่าเป็นใครที่กำลังเช็ดตัวให้เธออยู่เธอก็หลับตาลงอีกครั้งด้วยความอ่อนแรง ทั้ง
ตอนที่ 9ฝังใจ สองสัปดาห์เต็มที่เดือนอ้ายมาอยู่ที่ไร่ห่มรัก เธอเพิ่งหาเงินใช้หนี้แค่เพียงสามหมื่นจากสองครั้งที่เขานอนกับเธอ หญิงสาวจึงตั้งใจจะพยายามวันนี้อีกครั้งและเป็นการพยายามที่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากที่เธอพยายามแบบธรรมดามาหลายคืนแล้ว คืนนี้ชายหนุ่มก็กลับบ้านดึกเหมือนเช่นทุกวันและเดือนอ้ายก็ยังคงรอเขากินข้าวเหมือนเดิม เธอพยายามพูดจาเอาใจชายหนุ่มในแบบที่ไม่ใช่เธอ ทั้งที่ตัวเธอเองก็สัมผัสได้ว่าคนฟังก็รู้ว่าเธอกำลังพยายามเอาใจเขาไม่ได้เกิดจากความรู้สึกที่แท้จริง ไฟทุกดวงปิดลงแสงที่ลอดผ่านม่านเข้ามาในห้องทำให้บู๊ที่ยังคงไม่หลับมองเห็นหญิงสาวตรงหน้าในสภาพเปลือยเปล่า “เธอทำอะไรของเธอ” ชายหนุ่มตะคอกด้วยความไม่พอใจ “ก็ทำให้เสี่ยนอนกับอ้ายไงล่ะ ทำไมคะในเมื่อเสี่ยอยากได้อ้ายมาบำเรอใช้หนี้แต่ตอนนี้เสี่ยกลับนอนเฉย ๆ ทุกคืน เสี่ยไม่พอใจอ้ายเหรอหรือว่าอ้ายมันไม่สวยไม่เก่งเหมือนผู้หญิงคนอื่น” หญิงสาวก้าวขึ้นเตียงเธอพยายามจะเอาตัวเองคร่อมล่างชายหนุ่มที่กำลังตกใจแต่ไม่สำเร็จเพราะสู้แรงอีกฝ่ายไม่ไหว บู๊ผลักร่างบางที่พยายามจะขึ้น
ตอนที่ 8ยืดเวลา อาหารมื้อเย็นวันนี้แม่ครัวคนใหม่ทำเมนูง่าย ๆ เพราะเธอยังไม่คุ้นชินกลับครัวที่นี่จากเคยใช้เตาถ่านก็เปลี่ยนมาใช้เตาแก๊สแทน “มื้อนี้ขอแบบเบา ๆ ก่อนนะคะ ยังไม่ชินกับครัวใหม่เลยกว่าจะใช้เตาแก๊สเป็นก็กลัวแทบแย่ ทำอีกสักครั้งสองครั้งก็คงดีขึ้น เสี่ยทน ๆ กินไปก่อนแล้วกัน” คนนั่งรอกินไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะสำหรับชายหนุ่มที่ชีวิตโหยหาคำว่าครอบครัวมานานแสนนานแค่ได้มีโอกาสได้กินข้าวที่บ้าน ณ ไร่ห่มรักโดยมีผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าตอนนี้เป็นเมียเขา ทำกับข้าวให้กินก็สุขใจเกินพอแล้ว “พรุ่งนี้ให้โชคพาไปดูในไร่หน่อยได้ไหมคะ ไม่อยากไปคนเดียวไม่รู้จักใคร” ตอนแรกอ้ายคิดว่าเธออยู่ที่นี่แค่ไม่นานคงไม่ทันเบื่อแค่คอยทำกับข้าวในแต่ละวันก็คงหมดวันแล้ว แต่พอมาคิดมาคิดไปเธอเริ่มอยากรู้ว่าในไร่ห่มรักมีอะไรบ้าง ทำไมจึงทำให้บู๊จากเด็กชายธรรมดามีฐานะดีขึ้นมาเร็วแบบนี้ “ได้สิ นัดกับโชคเอาแล้วกัน เพราะตอนนี้พี่ให้โชคอยู่เป็นเพื่อนเราทุกวัน มันก็คงไม่อยู่หน้าประตูไร่ก็เดินไปเดินมาแถวนี้แหละ” พรุ่งนี้งานนอกเข้ามาเสี่ยจำเป็นต้องไปจัดการสะสาง
ตอนที่ 7ความดีที่ไม่มีใครเห็น เดือนอ้ายเดินมาเพื่อขึ้นรถไปซื้อของตามคำสั่งของเจ้าหนี้เธอ ทั้งที่เธอก็คิดมาทั้งวันว่าเธอคงอยู่ที่นี่เต็มที่ก็แค่เดือนเดียวทำไมอีกฝ่ายต้องลงทุนให้ไปซื้อของเข้าครัวทำเหมือนเธอจะมาอยู่ที่นี่ เป็นปีหรือหลายปี “ทำไมยังไม่ไปคะ” หญิงสาวขึ้นมานั่งบนรถได้เกือบห้านาทีแล้ว เธอยังไม่เห็นว่าคนขับทำท่าจะขับออกไปเลยจึงถามด้วยความแปลกใจ “รอคนงาน เขาจะพาแม่ไปหาหมอจะขับไปพร้อมกัน ๆ ” “แม่เขาเป็นอะไรหรือคะ” คนถามได้ยินแบบนี้ยิ่งคิดถึงแม่ขึ้นมาเพราะเวลาที่เธอจะพาแม่ไปหาหมอแต่ละครั้งแสนลำบากยังดีที่รถรับจ้างคิดเงินเธอไม่แพงเพราะสงสาร “ปวดขาเฉย ๆ คนที่ไปหาหมอชื่อป้าพร มีลูกสองคนเป็น ฝาแฝดกันชื่อพีกับเพื่อน ป้าพรก็รู้จักอ้ายนะแต่อ้ายคงจำแกไม่ได้แล้วเพราะตั้งแต่แกมาทำงานในไร่ก็ไม่ค่อยออกไปไหนเลย” บู๊พูดจบรถคันใหญ่สีดำก็ขับผ่านหน้าเขาไปไม่ถึงสองนาที เขาก็ขับตามออกไป “ถ้าอยู่แต่บ้านแล้วมันเหงาไปช่วยงานในไร่ก็ได้นะ ลองปั่นจักรยานดูก็ได้ว่าอยากทำอะไร เพราะก็เลือกให้ไม่ถูกเหมือนกัน”
ตอนที่ 6เมีย เช้าแล้วแสงจากดวงอาทิตย์ลอดผ่านม่านสีน้ำตาล ลายดอกไม้ผ่านเข้ามายังห้องนอน เดือนอ้ายลืมตาช้า ๆ ค่อย ๆ พลิกตัวมองมายังข้าง ๆ ตัวเธอที่ตอนนี้มีแต่ความว่างเปล่า เมียปลดหนี้นอนหลับตาพยายามคิดว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงหรือแค่เพียงฝันไป เธอฝันมาตลอดที่จะได้มีครอบครัวที่แสนอบอุ่นแต่สุดท้ายชีวิตของเธอก็เหลือเพียงตัวคนเดียวและตอนนี้เธอต้องกลายมาเป็นผู้หญิงที่ทำหน้าที่บำเรอชายเพื่อแลกหนี้ ประตูห้องถูกเปิดออกเดือนอ้ายจะแกล้งหลับต่อก็ไม่ทันแล้วเพราะคนที่เปิดเข้ามาส่งยิ้มหวานและมองสบตาเธอเรียบร้อยแล้ว “ลุกไปล้างหน้าแปรงฟันได้แล้ว พี่ซื้อโจ๊กมาให้ร้านนี้อร่อยมาก” “แทนตัวว่าพี่ไม่กระดากปากเหรอคะเสี่ย” บรรยากาศกำลังดี ๆ เดือนอ้ายก็เตรียมจะทำลายมันด้วยคำพูดของเธอเสียอย่างนั้น คนตั้งใจซื้อโจ๊กมาฝากมองหน้าหญิงสาว สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเหมือนคนที่พยายามอดทนอย่างสุดกำลัง “ไปล้างหน้าเถอะ เอาเป็นว่าต่อไปนี้ฉันจะแทนตัวว่าพี่ ฉัน หรือผม มันก็สิทธิ์ของเจ้าของไร่แห่งนี้ อย่าทำลายบรรยากาศของอาหารมื้อเช้าเลย เสร็
ตอนที่ 5เรือนร่างแทนหนี้ เสี่ยหนุ่มกลับมาพร้อมกับถุงในมือจำนวนหนึ่ง สองคนลูกน้องรีบวิ่งไปรับหน้าทันที “นาย..ที่หลังจะไปไหนก็บอกกันบ้าง ผมสองคนเป็นห่วง” โชคจัดการต่อว่าเจ้านายของเขาทันทีที่เดินไปถึงตัวเพื่อช่วยถือข้าวของในมือ “ครับเสี่ยโชค” บู๊หันมาตอบลูกน้องคนสนิทด้วยรอยยิ้มแบบประชดประชัน จนโชคเองก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ที่ถูกเรียกว่าเสี่ยโชคกลับ “เสี่ยประชดเก่งเป็นผู้หญิงเลยนะครับ” ลูกน้องมือซ้ายถูกเจ้านายไล่เตะอย่างอารมณ์ดีเมื่อยังคงถูกลูกน้องว่าต่อ เดือนอ้ายแอบดูผ่านหน้าต่างของห้องนอน เธอไม่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้ของชายหนุ่มที่เธอกำลังจะต้องยอม ทำตามทุกอย่างที่เขาสั่งแบบนี้มานานมากแล้ว เสกได้รับคำสั่งจากเจ้านายให้เอาถุงทั้งหมดมาให้กับ เดือนอ้ายและบอกให้เธอออกไปเจอเขาที่โต๊ะอาหารได้แล้ว หญิงสาวในชุดนอนที่เป็นแค่เพียงกระโปรงยาวแค่เข่า ผ้าซาตินเนื้อเบา เวลาโดนลมพัดยิ่งทำให้เห็นเนื้อขาวที่อยู่ด้านใน “นั่งลงสิ ไม่รู้กับข้าวจะถูกปากไหมเพราะน้าพิมพ์ทำมาให้แต่ต่อไปเธอต้องทำให้ฉันกินทุกวัน พรุ่งน
ตอนที่ 4ใครกันที่เปลี่ยนไป พระอาทิตย์ยังไม่ทันตกดินเดือนอ้ายก็ปั่นจักรยานกลับมาที่บ้านของเสี่ยบู๊ ทั้งที่ความจริงชายหนุ่มตั้งใจจะขับรถไปรับแต่เธอดันมาถึงก่อน “ให้อ้ายเอาเสื้อผ้าไปไว้ที่ไหนคะ” หญิงสาวกลับมาด้วยสีหน้าที่ดูแจ่มใสมากกว่าเดิมแต่ภายในดวงตากลมคู่สวยยังคงดูเหมือนคนที่ไม่มีหัวใจเช่นเดิม “ตามมา” ชายหนุ่มเดินนำไปที่ห้องนอนของเขาที่เขาสั่งให้แม่บ้านจัดไว้ให้เรียบร้อยเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับที่เดือนอ้ายจะได้ใช้ส่วนตัว ประตูห้องถูกปิดลง บู๊หันหน้ามาหาหญิงสาวที่เดินตามมาด้านหลัง คว้ากระเป๋าจากมือของเธอวางลงและเปลี่ยนมาจับมือเล็กของเดือนอ้ายแทน “อ้ายเรากลับมาสนิทกันเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้เหรอทำไมเราต้องเปลี่ยนไปแบบนี้ด้วย” เสี่ยบู๊ที่เคยวางท่าว่าดูยโสไม่ได้สนใจอะไรในตัวหญิงสาวชาวบ้านอย่างเดือนอ้ายเท่าไหร่ก็เปลี่ยนเป็นคนละคนทันที มือเล็กบีมมือหนาที่จับเธอไว้แน่น หญิงสาวค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้กับเสี่ยหนุ่มจนหน้าแทบจะติดกัน “อ้ายยังเป็นอ้ายคนเดิม เด็กสาวที่เคยจนและก็จนมาถึงตอนนี้ อ้ายยังเป็นอ้ายที่ไม่เ