หน้าหลัก / โรแมนติก / สนมใบ้ไร้ศักด์ / ไม่จำเป็นอะไรต้องพบนาง

แชร์

ไม่จำเป็นอะไรต้องพบนาง

ผู้เขียน: จันทร์ส่องแสง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-23 07:23:15

“ไม่มีอะไรน่าห่วงฝ่าบาททรงกังวลมากไปแล้ว สองวันมานี่ชิงกวานอยู่สบายกินอิ่มนอนหลับ”

อู่อินเฉิงเหลือบตามองเครื่องเสวยบนโต๊ะที่มากมายก่ายกอง

“ตั้งใจจะมาเสวยร่วมกันกับท่านอา อินเฉิงมาช้าไปเสียแล้วใช่ไหม”

หยวนกังยกถาดชาเข้ามาพร้อมกับขนมขบเคี้ยว

“ข้าเพิ่งจะอิ่มไปเมื่อครู่”

“วันนี้ ท่านอ๋องทรงเสวยร่วมกันกับคุณหนูเจิ้ง”

ชิงกวานอ๋องขมวดคิ้ว เมื่อเห็นรอยยิ้มหยันผุดขึ้นที่ใบหน้าของอินเฉิงก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าปกติ

“คุณหนูเจิ้งท่านอาจะไม่แนะนำนางหน่อยหรือไร”

“หากเป็นพระบัญชาชิงกวานก็ไม่อาจขัดพระบัญชา แต่หากว่าไม่มีบัญชาก็คงต้องรอให้ถึงวันที่ชิงกวานจะเลี้ยงต้อนรับนางอย่างเป็นทางการ เพราะชิงกวานเพิ่งจะให้นางกลับไปที่ห้องของนางเมื่อครู่”

ป้อคุนประสานมือถอยออกจากตรงนั้นไปในทันที

“ไม่มีความจำเป็นถึงเพียงนั้น ท่านอาเองพักผ่อนเสียเถิด หลานแค่เพียงแวะมาก็เท่านั้นห่วงอาการบาดเจ็บของท่านอา อินเฉิงกำชับหมอหลวงให้หาทางรักษาให้ดีที่สุด และอีกอย่างงานที่ท่านอารับผิดชอบอยู่ ต่อจากนี้คงต้องให้ชินอ๋องดูแลแทนไปก่อนจนกว่าท่านอาจะหายหรือดีขึ้นกว่านี้”

ชิงกวานอ๋อง ยิ้มน้อยๆ

“ชินอ๋อง อืม ไม่เลวควรจะมีหน้าที่รับผิดชอบเสียบ้างมิใช่เที่ยวเล่นสนุกไปวันๆ หรือไม่ก็เที่ยวระรานชาวบ้านจนต้องมีคนถวายฎีกามายังราชสำนักบ่อยๆ ”

“หลายวันมานี้ชินอ๋องช่วยงานหลานได้มาก บางทีนี่อาจเป็นสัญญาณอันดีว่าต่อไปนี้ชินอ๋องจะ รู้จักรับผิดชอบงานในราชสำนัก”

ชิงกวานอ๋องยิ้ม ยกจอกชาขึ้นจิบช้าๆ

“ฝ่าบาท ชิงกวานอ๋องหากวางมือได้ ก็อยากจะวางมือเสียเพราะตอนนี้ไม่ได้คาดหวังสิ่งใดแล้วทั้งทรัพย์สินเงินทองและตำแหน่งหน้าที่ล้วนสูงสุดสิ่งเดียวที่ต้องการตอนนี้คือความสงบสุข สองวันมานี้ทำให้คิดได้ว่ายังหาความสุขไม่พอ..”

อู่อินเฉิงกลับคิดว่า ชิงกวานอ๋องพอใจที่มีคนข้างกายอย่างเสี่ยวเจิ้ง จึงพอใจเท่านี้

“ ท่านอา ราชสำนักยังต้องการท่านอา อู่อินเฉิงตอนนี้แม้จะสามารถดูแลราชสำนักและแคว้นเหว่ยได้เพียงลำพังแล้ว แต่ทว่าไม่มีท่านอาเช่นไรจึงจะมีข้าอู่อินเฉิงในวันนี้ หากจะให้อู่อินเฉิงขอร้องให้ท่านอาช่วยหลานก่อนก็ไม่ผิด”

ชิงกวานอ๋องถอนหายใจยาว

“เสี่ยวเจิ้งนางสดใสน่ารัก ข้าเมื่อนางเข้ามาในจวนอ๋องทำให้จวนอ๋องไม่เงียบเหงาเหมือนเคยบางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่ชิงกวานอ๋องไขว่คว้ามาตลอด”

คิดไปเองว่าชิงกวานอ๋องมีใจให้กับเสี่ยวเจิ้ง

“หลานเองไม่ได้มีสิ่งใดขัดข้องหากท่านอาจะยกย่องนาง”

“ดีแล้ว ชิงกวานอ๋องจะถือว่านี่คำขอแรกและคำขอเดียวของชิงกวาน หากฝ่าบาทขัดข้องชิงกวานอ๋องก็คงจะต้องยอมขัดบัญชาสักครั้ง” 

ยิ้มสดใส ในแบบที่อู่อินเฉิงไม่เคยเห็นมาก่อน

ป้อคุนก้าวเดินลัดเลาะไปในจวนด้วยความชำนาญหันหน้าหันหลัง สะดุดตาเข้ากับ เรือนหลังน้อยในป่าไผ่เขียวครึ้ม ที่สะอาดสะอ้านประดับตกแต่งอย่างดงาม เหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง จงหลินกระโดดออกมายืนขวางหน้า ป้อคุนไว้

“ท่านเป็นใคร”

จงหลินอ้าปากค้างเมื่อจำได้ขึ้นใจว่าคือป้อคุนคนที่ ช่วยหยิบถึงเงินจากตาเฒ่าในห้องเครื่อง

“ใต้เท้า”

“เจ้า เป็นเจ้าเองหรือ”ส่ายหน้าไปมา

“ท่านหมายถึงอะไรจงหลินไม่เข้าใจ”

“เจ้าเองหรือไรที่…เป็นบุตรีบุญธรรมของท่านอ๋องไหน..ชือหรูบอกว่าแค่หญิงใบ้”ท้ายประโยคส่งเสียงเบาๆ ในลำคอ

“ไม่ไม่ไม่ไม่ใช่ข้า เป็นเสี่ยวเจิ้ง”

เสี่ยวเจิ้งเดินออกมาจากเรือนหลังเล็ก เงยหน้าขึ้นช้าๆ ป้อคุนอ้าปากค้างเมื่อเห็นใบหน้าของเสี่ยวเจิ้งชัดเจนเต็มตา

เสี่ยวเจิ้งยิ้มบางๆ ให้กับป้อคุนเพราะจำเขาได้ดี

“เป็นนางอย่างนั้นหรือ..เป็นนาง…..”

น้ำเสียงขาดหายไปในลำคอ จงหลินจ้องป้อคุนที่อ้าปากค้าง เข้าใจสถานการณ์ได้ในทันที

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   หากไม่กล้าข้าจัดการนางเอง

    "ฝ่าบาท… คงไม่มีโอกาสแล้วพ่ะย่ะค่ะ""หมายถึงเรื่องที่ท่านอามีใจให้หญิงใบ้คนนั้นนะหรือ""ข้าน้อยเห็นว่า เป็นธรรมดาที่ท่านอ๋องจะจิตใจไหวเอนเพราะ เพราะนางงดงามที่สุด (กลืนน้ำลายลงคอยากเย็น) งดงามเกินกว่าจะคาดถึง""หญิงทั่วไปเช่นนางใบ้ ไม่ได้มีฐานะสูงส่งจะงดงามได้แค่ไหนกัน""ฝ่าบาท ป้อคุนพบหน้าเจิ้งเหม่ยอิงแล้วพูดได้เพียงว่าในตอนนี้นางคือหญิงงามอันดับหนึ่งในใต้หล้าแห่งนี้""ไม่ใช่สำหรับข้า นางก็เพียงหญิงงามที่ตั้งใจมาล่อลวงท่านอาให้ไขว่เขว้ก็เท่านั้น ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้จริงอย่างที่เจ้าว่า แต่หาใช่เพราะความงามของนางหากแต่ท่านอาในตอนนี้หลงใหลนางเกินกว่าที่ข้าจะกล้าขัดใจ เรายังต้องอาศัยท่านอาในหลายเรื่อง รอให้เหล่าขุนนางวางใจในตัวข้าเสียก่อนที่ผ่านมาทุกอย่างต้องผ่านชิงกวานอ๋องเพียงผู้เดียว เพราะเสด็จพ่อทรงฝากฝังข้ากับแคว้นเหว่ยไว้กับท่านอา”“ฝ่าบาทคงต้องพูดเรื่องนี้กับท่านอ๋อง”“ท่านอายินดีสละทุกอย่างขอเพียงมีนางข้างกาย ข้ากลัวว่าข้าพูดเจาะจงท่านอายิ่งจะขุ่นเคือง”“แล้วฝ่าบาทจะทำเช่นไรต่อจากนี้”“ทำให้นางมัวหมองจนท่านอา ..ไม่อาจจะยกย่องนางได้”ป้อคุนหน้าถอดสี หญิงใบ้อ่อนต่อโลกเพียงคนเดียวอู่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-23
  • สนมใบ้ไร้ศักด์   มิน่าเล่า

    อู่อินเฉิงควบม้าด้วยความเร็วมุ่งตรงยังตำหนักฤดูหนาวที่ห่างไกลจากวังหลวงนับ ร้อยลี้“ชือหรูไปไหน ทำไมไม่มากับเกี้ยว”จงหลินตั้งข้อสังเกต เสี่ยวเจิ้งเปิดผ้าม่านมองหาชือหรูแต่ก็ไม่เห็นส่งภาษามือเหมือนจะบอกว่าชือหรูคงล่วงหน้าไปก่อนแล้ว จงหลินพยักหน้าเข้าใจแต่ก็อดที่จะกังวลไม่ได้ ในเมื่อวันนี้หยวนกังไม่ได้ออกมาด้วยคนหามเกี้ยว พาเกี้ยวลัดเลาะไปตามชายป่าก่อนจะถึงย่านร้านตลาดบุรุษที่สวมอาภรณ์สีดำมีผ้าปิดบังใบหน้าเข้าล้อมเกี้ยวไว้คนหามเกี้ยวต่างวางเกี้ยวรอดูท่าที“หยุดเกี้ยว”คนหามเกี้ยวรู้แล้วว่าคนทั้งหมดไม่ได้มาดีแน่ ชักกระบี่ออกมาป้องกันตัว แต่ทว่าบุรษนับสิบมีหรือจะเกรงกลัว ต่างคนต่างห่ำหั่นฟาดฟัน คนหามเกี้ยวล้วนบาดเจ็บร้องโอดโอยด้วยกำลังคนและฝีมือด้อยกว่า“ส่งของมีค่ามาให้หมด”จงหลินกำมือเสี่ยวเจิ้งไว้แน่น“หนี”เสี่ยวเจิ้งเหลือบตามองช่องหน้าต่างตรงผ้าม่าน รีบพุ่งตัวออกไปจากเกี้ยวแต่ช้าไปเสียแล้ว บุรุษผู้หนึ่งขวางหน้าไว้ กระชากร่างเล็กของจงหลินติดมือไป“ฮ่าาาา มี สาวงามด้วยข้าขอคนนี้ เฮ้ยข้าเอาอีกคนหนึ่งละกัน”จงหลิน ก้มลงกัดไปบนท่อนแขนของบุรุษผู้นั้นที่มือไวเท่าความคิดสะบัดมือเข้าใส่ใบหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-25
  • สนมใบ้ไร้ศักด์   เปลื้องผ้า

    “แต่ไม่ใช่ข้าข้าไม่มีทางหลงใหลเจ้าแน่”วางร่างบางลงบนแท่นหินที่เขาเพิ่งลุกขึ้นเมื่อครู่ มองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าหญิงใบ้เช่นไรจึงมีใบหน้างดงามเพียงนี้ หรืออาจเพราะนางเสแสร้งให้ชิงกวานอ๋องหลงใหลนางเพื่อแผนการบางอย่างเห็นได้ชัดว่า นางใช้ชีวิตปกติกับชิงกวานอ๋องเขาได้ยินว่านางฟังออกทว่าไม่ยอมเปล่งเสียง เป็นไปได้มากว่าแสร้งทำเพื่อให้ชิงกวานสงสารใช้กระบวยทำจากผลฝักแห้ง ผ่าครึ่งตักน้ำในอ่างหิน สาดเข้าใส่ใบหน้าของเสี่ยวเจิ้งอย่างแรง“แค่กๆๆๆ แอ่กๆๆๆๆ ปล่อย…” ด้วยความตกใจและยังคิดว่าถูกจับตัวไว้จากบุรษผู้อำพรางตัว เสี่ยวเจิ้งจึงเผลอพูดออกมาเป็นคำพูดชัดเจน อินเฉิงยิ้มหยันสาดน้ำเข้าใส่ใบหน้าอีกครั้งเสี่ยวเจิ้งลืมตามอง ใบหน้าหล่อเหลาที่จำได้ขึ้นใจว่าคือฮ่องเต้แคว้นเหว่ยที่เคยดูแคลนเสี่ยวเจิ้งกับจงหลินในวันนั้น ก็ผละถอยห่างด้วยความกลัว“เสแสร้งยิ่งนัก”เสี่ยวเจิ้งผุดลุกขึ้น อาภรณ์สีขาวเปียกปอนหนาวสั่น ผ้าแพรบางเบาแนบเนื้อเนียนมองเห็นเนื้อหนังและอกอวบอิ่มชัดเจน แม้จะหนาวแค่ไหนก็ฝืนใจรีบวิ่งออกจากตรงนั้น แต่อินเฉิงคว้ามือบางกระชากสุดแรงจนร่างเล็กชนเข้ากับแท่นหินจุกแอ่ก“จะไปไหน เจ้าต้องอยู่ที่นี่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-25
  • สนมใบ้ไร้ศักด์   นอนร่วมห้อง

    เสี่ยวเจิ้งถลาเข้ายื้ออินเฉิงไว้พยายามส่งภาษามืออธิบายว่าเสี่ยวเจิ้งไม่ได้ต้องการจะมาเป็นชายาท่านอ๋อง อินเฉิงแกะมือเล็กออกผลักให้ล้มลงไปกองกับพื้น“เจ้าคงเห็นว่า ข้าสูงส่งกว่าท่านอา แต่รู้ไว้ข้าเป็นฮ่องเต้ไม่กินของเหลือเดนจากคนอื่นไม่ต้องมายั่วยวนถูกเนื้อต้องตัวข้า อีกอย่างนู่นครัวไปเตรียมเครื่องเสวยก่อนที่ข้าจะฆ่าเจ้าเพราะความหิว”ตวาดเสียงดังลั่น ไร้เหตุผล เสี่ยวเจิ้งทรุดลงไปกองกับพื้นก้มหน้านิ่งหยิบอาภรณ์มาสวมก้าวเดินเข้าห้องครัวไปอย่างยอมจำนน แต่ในใจเล่ากำลังคิดหาทางที่จะหนีไปจากที่นี่เสียก่อไฟหุงข้าวในหม้อดินด้วยไฟอ่อนๆ ก้าวเดินไปยังห้องเก็บเสบียงที่อยู่ติดกันกับครัวกว้างภายใน ห้องเก็บเสบียง ที่หนาวเหน็บเสี่ยวเจิ้งยกมือกอดอก ที่มองเห็นในตอนนี้คือ นกเป็ดน้ำที่ถูกเก็บไว้ โดยการนำมาหมักเครื่องพะโล้กันเน่าเหม็นให้เครื่องพะโล้แทรกซึมเข้าไปในเนื้อ เสี่ยวเจิ้งหั่นช่วงอกออกมาจากราวแขวนเดินถือเนื้อนกเป็ดออกมา ก้มลงขุดเหง้าขิงจากใต้ต้นดอกเหมยที่ขึ้นเป็นกอ ได้ขิงอ่อนแก่อย่างละครึ่งมองสำรวจไปทั่วบริเวณ“หิวแล้ว ข้าหิวแล้วเจ้าทำอะไรอยู่หญิงใบไร้ศักดิ์ ชักช้าเสียจริง”เสี่ยวเจิ้งสะดุ้งโหยงเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-25
  • สนมใบ้ไร้ศักด์   ดูแลนางด้วยตัวเอง

    “ได้ยินไหมข้าง่วงแล้ว”ส่งภาษามือบอกว่าถ้าง่วงก็หลับไปจะให้นวดทำไม(เสี่ยวเจิ้งไม่ธรรมดาขี้เถียง)“เจ้านี่ นอกจากจะแสร้งว่าพูดไม่ได้แล้วเจ้า ยังแสร้งว่าโง่งมไม่รู้ว่าการที่ข้าเรียกเจ้ามานวดให้มันหมายความว่าอย่างไร จะมาหรือไม่หากไม่ยอมมาข้าจะไปอุ้มมาเดี๋ยวนี้”ตวาดลั่นหุบเขา เสี่ยวเจิ้งพยุงตัวลุกขึ้น ปวดเมื่อยไปทั่วทั้งตัว อีกทั้งยังรู้สึกว่า ตัวร้อนเพราะพิษไข้ กอดอกก้าวเดินไปยังแท่นนอนก่อนที่ร่างบางจะร่วงพล่อยลงกับพื้นสติดับวูบไปทันที“อย่าเสแสร้งลุกขึ้นเดี๋ยวนี้”ส่ายหน้าไปมา“บอกให้ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้” เอื้อมมือคว้าแขนบางต้้งใจดึงให้ลุกขึ้น แต่สัมผัสแรกที่อินเฉิงรับรู้คือผิวเนื้อที่ร้อนผะผ่าว ขมวดคิ้วก่อนจะสปริงตัวลงจากแท่นนอน ยกมือขึ้นอังที่หน้าผาก ยกมือกลับในทันทีความร้อนจากหน้าผากเนียนริมฝีปากแดงระเรื่อเผยอขึ้นเล็กน้อย อินเฉิงส่ายหน้ามาไม่ไล่ความคิดไม่ถูกกาลเทศะในหัวแม้แต่ยามนี้ริมฝีปากนางยังน่าจูบ หอบเอาร่างบางวางบนแท่นนอน“อ่อนแอเสียจริง แค่เพียงราดน้ำไม่กี่ทีก็ตัวร้อนเสียได้ แล้วข้าจะทำอย่างไรกับเจ้าเล่า”เดินออกไปที่หน้าต่างจุดพลุไฟขึ้นทันที เพียงไม่กี่อึดใจป้อคุนก็ขึ้นมาบนเขา“ฝ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27
  • สนมใบ้ไร้ศักด์   รอยยิ้มเศร้าๆของพวกเจ้าทุกคน

    เดินเข้าไปในครัวเปิดกาดินเผามีขิงทุบอยู่ข้างในเสี่ยวเจิ้ง รินน้ำใส่เข้าไปในกาดินเผาอีกครั้ง นั่งกอดอกผิงไฟด้วยความหนาวยามค่ำคืน รินน้ำขิงยกมือขึ้นกุมที่ถ้วยด้วยความหนาว อยู่ๆหยาดน้ำตาก็ไหลรินป่านนี้จงหลินกับป้าจงจะเป็นอย่างไรบ้าง คงเป็นห่วงเสี่ยวเจิ้งไม่น้อย แล้วท่านอ๋องเล่าจะเป็นอย่างไรจะตามหาเสี่ยวเจิ้งหรือเปล่า คิดถึงแววตาเศร้าสร้อยกับท่าทีอ่อนโยนของท่านอ๋อง เสี่ยวเจิ้งเผลอยิ้มก่อนจะเอนกายพิงพนังดินหลับไปพร้อมกับรอยยิ้ม ท่านอ๋องจะต้องมาช่วยท่านอ๋องจะต้องหาส่งคนค้นหาเสี่ยวเจิ้งจวนอ๋องหยวนกัง ยกถ้วยข้าวตรงหน้าชิงกวานอ๋องที่นั่งบนรถเข็นมีผ้าห่มคลุมท่อนขาไว้กันหนาวอีกชั้น“ท่านอ๋องเสวยเสียหน่อย” ชิงกวานอ๋องสายตาเหม่อลอยมือใหญ่ ยกขึ้นทุบไปที่หน้าขาแรงๆ หยวนกังรีบยื้อไว้“ท่านอ๋องได้โปรด อย่าทำแบบนี้” หยวนกังมีสีหน้าห่วงใย“ชินอ๋องปากแข็งไม่ยอมพูดเรื่องที่ลักพาตัวเสี่ยวเจิ้ง ข้าอยากจะฆ่าเขาเสียจริง หากไม่ติดว่าข้า แม้แต่ลุกขึ้นยืนยังทำไม่ได้”แววตาตัดพ้อต่อโชคชะตา“ท่านอ๋องอย่าได้โทษตัวเอง”“ข้าโดดเดี่ยวมานานแสนนานพอพบกับเสี่ยวเจิ้ง เหมือนกำลังจะมีสิ่งดีดีเกิดขึ้น แต่ ทำไมกันสวรรค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27
  • สนมใบ้ไร้ศักด์   ต้องมีคนอดข้าวกันบ้างล่ะ

    ชิงกวานอ๋องนั่งมองดวงจันทราบนขอบฟ้าไกลป่านนี้ยังไม่นอน“ท่านอ๋อง”หยวนกังยกกาใส่น้ำชาร้อนๆ มารินตรงหน้าชิงกวานอ๋อง“หากเสี่ยวเจิ้งเป็นอันตรายข้าคงไม่ให้อภัยตัวเอง”“ความจริงแล้ว เรื่องนี้อาจมีเงื่อนงำ”“หมายความว่าอย่างไร”“มีเรื่องแปลกที่ฝ่าบาทไม่ยอมให้ผู้ใดติดตามไปประพาสป่าครั้งนี้ บางคนพูดว่าฝ่าบาทถึงกลับส่งองครักษ์ที่ติดตามทั้งหมดไปยังด่านกวงเหมิน ส่วนฝ่าบาทกับป้อคุนเร้นกายหายไป”“เจ้าจะบอกอะไรข้า”“หากว่าเป็นฝ่าบาทที่ทำเรื่องนี้ เพราะตั้งใจจะรั้งท่านอ๋องไว้”“รั้งข้าไว้ ข้ารับนางมาเป็นบุตรบุญธรรม ข้าไม่ได้หนีหายไปไหนกับเสี่ยวเจิ้ง”ชิงกวานอ๋องนึกทบทวนคำพูดของตัวเองไปมา คำพูดที่ฝืนใจ ความจริงความรู้สึกดีๆ และหัวใจเขาพองโตเมื่อเสี่ยวเจิ้งยิ้ม นั่นคือความรู้สึกใดกันแน่“เป็นฝ่าบาทที่หวาดระแวง แต่เดิมฝ่าบาทต้องพึ่งพาท่านอ๋องทุกอย่างมาบัดนี้เมื่อคุณหนูเข้ามาฝ่าบาทจึงคิดว่า คิดว่าท่านอ๋องจะละทิ้งทุุกอย่างเพื่อ..คุณหนู”“หากเป็นอินเฉิง เจ้าคิดว่าข้ายังจะกล้า ต่อกรกับเขาหรือ”“ท่านอ๋องหมายความว่า”“หากเป็นอินเฉิง ที่ต้องการเสี่ยวเจิ้งไว้ข้างกาย อ๋องต่ำต้อยเช่นข้าจะมีหน้าไปขัดขวางทั้งสองไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27
  • สนมใบ้ไร้ศักด์   เจ้าเป็นคนของข้าแล้ว

    วางบางเล็กบนแท่นนอน เสี่ยวเจิ้งยังตัวร้อนระอุ ขยับตัวเบาๆ“หนาว ท่านแม่ลูกหนาวเหลือเกิน ท่านแม่อย่าทิ้งลูกไป”ไขว่คว้ากอดรัดไม่รู้ว่าคนที่กำลังกอดรัดอยู่นั่นใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ดวงตาคมจับจ้องที่ริมฝีปากที่ขยับขึ้นลง กลิ่นกายยามชิดใกล้ยิ่งทำให้ ใจของอินเฉิงบัดนี้เต้นรัวเร็วเหมือนหนุ่มน้อยที่เริ่มรักภาพความทรงจำ ที่อยู่ท่ามกลางหิมะขาวโพลน ถูกปล่อยทิ้งไว้กลางป่าห่างไกลไร้ผู้คนเสียงหมาจิ้งจอกเห่าหอน และเสียงหมีส่งเสียงคำราม เสียงสรรพสัตว์ที่ออกหากินยามค่ำคืน ซุกมือไว้ในอ้อมกอดของตัวเองร่างเล็กระจ้อยซุกกายอยู่ในโพรงไม้ใหญ่ ทั้งกลัวทั้งหิวและเหน็บหนาวเด็กหญิงวัยสามขวบ ร้องไห้จนตาบวมแต่ไม่อาจช่วยอะไรได้ ร้องเรียกให้คนช่วยทั้งวิ่งวนหาทางออกฝูงหมาจิ้งจอกวิ่งตามไล่ล่าเหมือนต้องการจะขย้ำเสียให้ตายลงไป พร้อมกับเสียงเห่าหอนเรียกพวกของหมาจิ้งจอกที่ดังขึ้นรอบๆ ตัว สติกำลังจะหลุดลอยร่างกาย ไม่อาจขยับเขยื่อน ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือมารดาที่เดินเข้ามาโอบกอดไว้ ฟงหยงเจิ้งกอดรอบเอวของมารดา หวังความอบอุ่น น้ำตาไหลรินซุกใบหน้าลงบนอกอุ่นของมารดา“ท่านแม่ ท่านมาช่วยหยงเจิ้งแล้ว”อินเฉิงพยายามปลดมือบางที่กอดรั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29

บทล่าสุด

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   ตอนพิเศษ

    "แต่ฝ่าบาทหมดหนทางแล้วท่านอ๋องจะต้องไม่เป็นอะไรหยวนกังก็จะพาท่านอ่องหนีออกมาเช่นกันตามที่ตกลงกันไว้ตอนนี้แค่เพียงช่วยให้ฝ่าบาทหนีออกมาก่อน ท่านอ๋องขวางพวกมันไว้เพื่อให้ฝ่าบาทหนีอกมาฝ่าบาทอย่าทำให้ความตั้งใจของท่านอ๋องเสียเปล่า""แต่ท่านอาบาดเจ็บไม่น้อยข้าจะไปช่วยท่านอา เจ้าขลาดเขลาเพียงนั้นเชียวหรือป้อคุน"ป้อคุนทรุดกายลงคุกเข่ากับพื้น"ฝ่าบาท หนีก่อนก่อนเถอะขอรับ ความปลอดภัยของฝ่าบาทสำคัญที่สุดท่านอ๋องทรงเข้าใจข้อนี้ดีจึงพยายามที่จะกันทหารพวกนั้นเพื่อให้ฝ่าบาทหนีไปหากว่าฝ่าบาทยังเป็นว่าสิ่งที่ป้อคุนหยวนกังและท่านอ๋องทำไปทั้งหมดนั้นขลาดเขลาป้อคุนจะขอให้ฝ่าบาททรงสังหารป้อคุนเสียไม่เช่นนั้นป้อคุนก็ไม่อาจปล่อยให้ฝ่าบาท กลับไปที่ด่านปงเปียง"อู่อินเฉิงทรุดกายลงปล่อยกระบี่ลงข้างกาย"ข้าไม่อาจปล่อยท่านอาไว้ที่นั่นป้อคุนเข้าใจไหมท่านอาเป้นเหมือนบิดาเป็นเป็นพี่น้องและเป็นเหมือนคนที่หวังดีกับข้าเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในตอนนี้""ฝ่าบาท ท่านอ๋องจะดีใจหากทว่าฝ่าบาทปลอดภัยและด้วยความภักดีของหยวนกังจะไม่มีทางให้ท่านอ๋องต้องตาย"อู่อินเฉิงพยักหน้า"กันเถอะไปรอที่ด่านชายแดนแคว้นใต้"สูดลมหายใจเข้าลึกๆ

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   ตอนพิเศษ

    “ท่านอาเราทั้งหมดลงเรือลำเดียวกันแล้วข้าไม่อาจดูดายปล่อยให้ท่านอาและพวกเขาต้องเผชิญศึกเพียงลำพัง เช่นนั้นจึงขอยืนยันคำเดิมว่าจะอยู่ที่นี่แต่สัญญาว่าหากเราทั้งหมดไม่อาจต้านทัพของอิงฉางได้ข้าจะเร้นกายไปยังที่ปลอดภัยพร้อมกันนั้นท่านอาเองก็สำคัญไม่น้อยการกอบกู้บัลลังก์ของเฉิงอู่ต้องกาศัยท่านอา เช่นนั้นหากเราทั้งหมดไม่อาจต่อกรก็ควรจะหนีไปเสียแต่ในตอนนี้ก็ต้องลองยืนหยัดให้ถึงที่สุดก่อน”ชิงกวานอ๋องถอนหายใจปฏิเสธไม่ได้ว่าที่อินเฉิงพูดมาทุกอย่างล้วนสำคัญเขาเองจากประสบการณ์ที่ผ่านมารู้ดีว่าด่านปงเปียงมีกำลังเพียงหยิบมือไม่อาจต่อกรกับทหารของอินฉางฮ่องเต้ได้แม้จะมีฝีมือดีแค่ไหนก้ไม่อาจต่อกรกับทหารจำนวนมากราวกับมดปลวกได้“ฝ่าบาทอย่าลืมคำมั่นนี้หากว่าไม่อาจต่อกรฝ่าบาทจะต้องหนีไปเสียอย่าได้ห่วงใครไม่ว่าจะใครหรือแม้กระทั่งชิงกวานอ๋อง”อู่อิงเฉิงยิ้มน้อยๆ“อิงเฉิงสัญญาจะไม่ทำให้ท่านอาจต้องเป้นกังวล“ดี เช่นนั้นร่วมรบเคียงข้างสร้างขวัญกำลังใจ ป้อคุนหยวนกังอารักขาฝ่าบาทจนถึงที่สุดหากไม่ไหวสิ่งเดียวที่ต้องทำแบบไม่ต้องคิดคือพาฝ่าบาทเร้นกายไปเสียแล้วพบกันที่จุดนัดพบข้ามผ่านด่านชายแดนแคว้นใต้”สี่แรงร่วมใจฟ

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   ตอนพิเศษ

    “เช่นนั้นหยงเจิ้งกลับไปที่นั่น เสด็จพ่อกับฮองเฮาตั้งใจออกผนวช จึงขาดคนคอยดูแล”“จะดีไหมหากให้ป้อคุนไปคอยดูที่นั่น พร้อมกับหยวนกัง”“ข้าตั้งใจประทานงานแต่งงานให้กับป้อคุนและซือหรูเสียเพราะสองคนรอเวลานี้มานาน”หยงเจิ้งพูดยิ้มๆ“ดีเลย เช่นนั้นส่งข่าวให้เจียเกอช่วยดูแลพวกเขา ระหว่างนี้คนทั้งหมดภักดียิ่งนักไม่มีสิ่งใดให้หนักใจ ฝ่าบาทหยงเจิ้งจึงจะออกผนวชได้อย่างหมดห่วงเสียที”“ที่นี่คงเงียบเหงาหากไม่มีป้อคุนหยวนกังและซือหรู”“ชิงกวานน้อย ขอตามไปที่วังหลวงแคว้นใต้กับท่านอาทั้งสอง ข้าเองก็ไม่อาจขัดเพราะหยวนกังกับป้อคุนดูแลชิงกวานน้อยอีกทั้งยังฝึกปรือวรยุทธ์ให้จนเชี่ยวชาญ”“คงจะต้องคิดถึงทุกคน”อินเฉิงกอดรวบร่างอุ้ยอ้ายไว้ในอ้อมแขน“มีข้าอยู่เจ้าจะไม่ต้องเหงา”“ฝ่าบาทเอาแต่ใจใครกันจะลืมได้ เมื่อคราวอยู่ที่ตำหนักฤดูหนาวก็เอาแต่ใจไม่เปลี่ยน”“เช่นนั้นอย่างไรเล่าเจ้าจึงตั้งครรภ์ข้าจึงไม่ต้องรอนาน หากไม่ไปที่ตำหนักฤดูหนาวรำลึกความหลังกันเจ้าจะตั้งครรภ์หรือไร ข้าเองตามใจชิงกวานน้อยที่อยากจะมีน้อง”หยงเจิ้งยิ้มเขินอาย ใบหน้าแดงระเรื่อ อู่อินเฉิงกอดไว้แน่น“ข้ารักเจ้ามีเจ้าคนเดียวตลอดไปข้าสัญญาและจะไม

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   จบ

    อินเฉิงลุกขึ้นพิงแท่นบรรทมเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่างมองเห็นชัดเจนแจ่มใส ทั้งสองตารอยยิ้มเป็นสุข ก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของหยงเจิ้งที่หลับใหลไปกับอ้อมกอดของเขา ความสุขที่มาถึงยามที่ผ่านความทุกข์ระทม จึงนับว่าเป็นความสุขที่แท้จริงสายลมพัดผ่าน ชิงกวานอ๋องวิ่งหลบซุกตัวยังโขดหิน หยวนกังเกาหัวแกรกๆ ป้อคุนวิ่งตาม หันหน้าหันหลังไม่พบ อ๋องน้อยว่าแอบหลบอยู่ตรงไหนหยวนกังส่ายหน้าไปมา ลูบเคราวยาว“เราสองคนคงจะแก่ไปแล้วจึงไม่อาจหาท่านอ๋องน้อยพบ”“เชิญท่านเพียงลำพังเลยหยวนกัง ข้ายังไม่อยากจะแก่ท่านอ๋องน้อยวิ่งหลบรวดเร็วเหมือนชิงกวานอ๋องที่พลิกพลิ้วยิ่งกว่าใคร อีกหน่อยหากฝึกปรือวิชากระบี่คงหาตัวจับยาก”หยวนกังอมยิ้ม“ข้า ได้ยินว่าท่านอ๋องน้อยทรงขออนุญาตฝ่าบาทฝึกวิชากระบี่ เราสองคนคงต้องลับคมกันหน่อยเพื่อรอวันถวายการฝึกสอน”“ฮ่าาา เหมือนจริงๆ ช่างเหมือนท่านอ๋องชิงกวานเสียจริง มุ่งมั่นยิ่งนัก เราสองคนคงต้อง ทุ่มเทฝึกสอนกันให้มากหน่อย”ป้อคุนเอ่ยขึ้นดังๆ“หยวนกัง…ป้อคุน…..”ชิงกวานน้อยวิ่งออกจากที่ซ่อน กระโดดเข้าสู่อ้อมกอดของหยวนกัง“ฮ่าาาาท่านอ๋องในที่สุดก็ยอมออกมา”ป้อคุนอมยิ้ม“ก็ข้าได้ยินว่า ท่านอาทั้ง

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   จบบริบูรณ์

    ดวงตาพร่ามัวกลอกกลิ้งไปมาทั้งซ้ายและขวา เสียงอ้อแอ้ขององค์ชายน้อยดังแว่วมา แต่ไกล“ชิงกวานน้อยของแม่ เจ้าจะรีบตื่นแต่เช้าทำไมกันเสด็จพ่อยังคงหลับใหล”เสียงหวานของหยงเจิ้งทำเอาอินเฉิงยิ้มกว้างยกมือขึ้นคลำที่ดวงตาทั้งสองข้างสูดลมหายใจลึกๆ“เสี่ยวเจิ้ง”หยงเจิ้งขยับกายหันมา มองร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาลืมตาอยู่บนแท่นบรรทม รอยยิ้มสดใสปรากฏขึ้นที่ใบหน้างาม“ฝ่าบาท ท่านฟื้นแล้ว”ดวงตาซ้ายขวากลอกกลิ้งไปมา มองเห็นใบหน้างามเด่นชัด“ข้านอนไปนานแค่ไหน เสี่ยวเจิ้งกับองค์ชายน้อยถึงได้มาอยู่ข้างกายข้าได้”“องค์ชายน้อยชิงกวาน”อุ้มร่างเล็กที่ส่งเสียงอ้อแอ้ปลุกยามเช้ามาใกล้ๆ อินเฉิงรับเอาร่างเล็กจิ๋วไว้ในอ้อมแขน“ชิงกวาน ชื่อนี้เหมาะกับเจ้าเสียจริง เจ้า เป็นคนที่ทำให้ พ่อกับแม่ได้มีวันนี้วันที่เราพร้อมหน้า”หยงเจิ้งปาดน้ำตาที่เอ่อล้นขอบตา อินเฉิงดึงมือหยงเจิ้งให้นั่งลงข้างๆ เขาจูบซับน้ำตาให้เบาๆ“ท่านอาไม่อยากเห็นน้ำตาเจ้าหยงเจิ้งของข้า ดวงตานี้ของท่านอาอยากเห็นรอยยิ้มของเจ้า มิใช่หยาดน้ำตา”หยงเจิ้งยิ้มทั้งน้ำตา“มีวันนี้ได้เพราะท่านอ๋อง ข้าหยงเจิ้งเช่นไรจะกล้าขัดคำสั่ง”ยิ้มกว้างสดใส อินเฉิงกอดรวบร่าง

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   เพื่อเจ้า

    “ข้า อัปลักษณ์เพียงนี้ เป็นท่านอาที่จะต้องดูแลหยงเจิ้งต่อไป เป็นท่านอาอินเฉิงจึงวางใจ”หมอหลวงวิ่งถือหลวมยาเข้ามา อินเฉิง ขยับกายให้หมอหลวงตรวจดูอาการของ ชิงกวานอ๋อง“ฝ่าบาท ชิงกวานอ๋องไร้ความสามารถไม่อาจดูแลนาง ฝ่าบาทจึงคู่ควรที่สุด”หมอหลวงลุกขึ้นยืนประสานมือตรงหน้าอินเฉิงพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอินเฉิงหลับตาไล่หยาดน้ำตา หยวนกังเบือนหน้าหนีปาดน้ำตาที่ไหลริน“ท่านอา เราไปพักที่ตำหนักให้ท่านหมอ จัดเทียบยาดีไหม”น้ำเสียงอ่อนโยน“หยวนกังตามอาจารย์ให้ข้าทีข้าอยากจะพักเสียหน่อย ฝ่าบาทพยุงชิงกวานไปเถิด ให้หยวนกังตามอาจารย์”หยวนกังยิ้มกว้าง เหมือนจะเริ่มมีความหวังว่าอาจารย์กับวิชาแพทย์เถื่อนจะสามารถช่วยชีวิตท่านอ๋องได้“หยวนกังรีบไปแล้วท่านอ๋องอดทนหน่อย”วิ่งออกจากท้องพระโรงกระโดดขึ้นหลังม้าควบออกไปราวกับลูกดอกพุ่งเข้าสู่เป้าอินเฉิงพยุงชิงกวานอ๋องหมอหลวงตรวจดูอาการของป้อคุนอย่างเร่งรีบบนแท่นบรรทม ร่างสูงองอาจนอนเหยียดยาวใบหน้าหล่อเหลาที่บัดนี้กลับซีดขาว แต่แววตายังอ่อนโยนเหมือนเช่นทุกครั้งที่อินเฉิงเคยเห็น เลือดสดๆ ยังไหลซึมออกจากบาดแผล“ท่านอาอดทนหน่อย อาจารย์ปู่กำลังมา”“เพื่อฝ่าบาทต่างหาก

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   ชิงกวานอ๋อง2

    อินฉางดวงตาเหลือกลานเมื่อเห็นว่า หมิงเยว่ล้มลงคว่ำหน้าลงกับพื้นเลือดอาบไปทั่วร่างบาง ตรงเข้าหอบเอาร่างบางที่หายใจรวยริน“ม่ายยยยไม่นะหมิงเยว่ต้องไม่ใช่เจ้าต้องไม่ใช่เจ้าหมิงเยว่ขะขะข้าขอโทษ หมิงเยว่ ข้าไม่ให้เจ้าตายไม่หมิงเยว่ อย่าทำแบบนี้หมิงเยว่”ทว่าร่างโชกเลือดหาได้ขยับเขยื่อนเคลื่อนไหวไม่ยังคงนิ่งงัน ดวงตาอาบไปด้วยหยาดน้ำตา สิ้นลมหายใจโดยไม่ได้ร่ำลา“หมิงเยว่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ”อินฉางอุ้มร่างโชกเลือดไว้ในอ้อมแขนดวงตาแดงก่ำ“อินฉิง ท่านจะต้องรับผิดชอบ ปาถั่วรับบัญชาข้า ฆ่าอู่อินเฉิงกับป้อคุนแล้วสับร่างเป็นชิ้นๆ ”ปาถั่วก้มหน้าประสานมืออินฉางเดินโซเซพาร่างไร้วิญญาณของหมิงเยว่ออกจากท้องพระโรง“ยิง”ปาถั่วสั่งพลธนูทว่ายังไม่ทันได้เหนี่ยวคันธนู พลธนูทั้งหลายต่างล้มลงไปกองกับพื้นองครักษ์หลายนายต่างวิ่งถือกระบี่เข้ามาล้อมชิงกวานอ๋องที่ในมือกำกระบี่ ฟาดฟันสังหารมือยิงธนูจนบาดเจ็บล้มตาย“ฝ่าบาท”พยุง อินเฉิงที่ถูกลูกดอกปักเข้าที่ขาข้างขวา“ท่านอา มาทันเวลาพอดี”“อย่าเพิ่งพูดอะไร ฝ่าบาทจงรีบเปิดประตูให้คนของเรา ชิงกวานจะหันเหความสนใจของคนพวกนี้ ป้อคุนยังไหวหรือไม่”ป้อคุนที่ไม่อาจขยับกาย“ชิงกวา

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   ชิงกวานอ๋อง

    ทัพของอู่อินเฉิง ดาหน้าที่ประตูวังหลวงแคว้นเหว่ย พลธนูเหนี่ยวคันธนูสุดแรงรอเพียงคำสั่งให้ยิงอยู่บนป้อมปราการสูงบนประตูวังทั้งสี่ด้าน“ยิง”ป้อคุนทะยานเข้ามาขวางอู่อินเฉิงที่ตกเป็นเป้าของธนูใช้กระบี่ในมือกวัดแกว่งคุ้มภัย อู่อินเฉิงเองก็กำกระบี่ในมือกวัดแกว่งปัดป้อง เหล่าทหารโห่ร้องหาได้สะทกสะท้านต่อความเจ็บความตายตรงหน้า“บุกเข้าไปในวังหลวงจับตัวอู่อินฉางมาคุกเข่าตรงหน้าฝ่าบาท”ป้อตี้ออกคำสั่ง ดังลั่น หทารกล้าทั้งหลายต่างพุ่งตัวเข้าไปยังประตูวัง ออกแรงดันประตู ให้เปิดอ้าออกเพื่อให้กองทัพเข้าไปภายในห่างจากวังหลวงสิบลี้“ท่านอ๋องเปลวไฟ ลุกไหม้อยู่ที่วังหลวงเกรงว่าตอนนี้ทัพของฝ่าบาทคงถึงที่นั่นแล้ว”หยวนกังเอ่ยปากด้วยสีหน้ากังวล“เร่งเดินทางอารักขาฝ่าบาท ข้าไม่อาจวางใจอู่อินฉางหาใช่ผู้ที่ซื่อตรงไม่จะต้องซ่อนกลโกงไว้รอฝ่าบาทเป็นแน่”ชิงกวานอ๋องควบม้าเร็วรี่ยังกลุ่มควันที่ลอยวนบนท้องฟ้าอินฉางนั่ ไขว่ห้างอยู่บนบัลลังก์มังกรในท้องพระโรง ในมือมีจอกสุรารสเลิศ ข้างกายเป็นหมิงเยว่ ที่นั่งก้มหน้ามองมือตัวเอง กับปาถั่วที่กุมกระบี่ข้างเอวไว้แน่นเสียงโห่ร้องใกล้เข้ามา อินเฉิงก้าวขายาวๆยังหน้าบัลลั

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   ปลดข้าออกจากพันธนาการเสียที

    “ข้าหากจะต้องตายเพราะการณ์นี้ ก็คงจะต้องยอมเพราะเลือกข้างผิดเดิม อู่อินเฉิงไม่จะไม่เคยใส่ใจ กองทัพแต่ทว่าชิงกวานอ๋องกับผูกใจ เหล่าทหารกล้าบทเรียนครั้งนี้ ไม่อาจแก้ไขแม้ตอนนี้จะมีที่มั่นและกำลังคนแต่หากชิงกวานอ๋อง เอ่ยปากไม่แน่ว่าเหล่าทาหรพวกนี้จะย้ายข้างหรือไม่”“ข้าน้อยได้ยินมาว่า ชิงกวานอ๋องในครั้งนี้ไม่ได้ มาด้วยมีเพียงอู่อินเฉิงเท่านั้น”ปาถั่วขมวดคิ้ว“บางทีนี่อาจเป็นแผนการตลบหลังไม่อาจวางใจ”ถอนหายใจยาวตำหนักชิงหนิงกง“ฮองเฮาอู่อินเฉิงยกทัพกลับมาที่วังหลวง คงจะถึงวังหลวงในอีกไม่ช้า”หมิงเยว่ ลุกขึ้นจากแท่นนอนสีหน้าแสดงความดีใจ“เขากลับมาแล้วเขาไม่ได้ทอดทิ้งข้าเขายังรักข้าอย่างน้อยก็กลับมาทวงบัลลังก์และคงจะมารับข้าเป็นฮองเฮาของเขาเหมือนเคย”ตงฟางหัวถอนหายใจ หมิงเยว่หลายเดือนที่ผ่านมา สติหลุดลอย พูดจาเลื่อนเปื้อนติดอยู่ในความเพ้อฝันเสียมากกว่าความจริง“ฮองเฮา ไม่แน่ว่าอู่อินเฉิงจะกลับมาหาฮองเฮา”“เขาต้องมาในเมื่อในใจเขามีข้าเพียงคนเดียว เขาทำทุกอย่างเพื่อข้า ข้ารู้แล้วข้าเองก็จะทำทุกอย่างเพื่อเขาเช่นกันเขาจะได้ไม่ต้องลำบากทวงคืนบัลลังก์”ดวงตาเป็นประกายสดใสตงฟางหัวถอนหายใจ“ฮองเฮา

DMCA.com Protection Status