แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: หมาอีหรูเสวี่ย
เมื่อรู้ว่าชุยอันหรูเข้าวัง ทุกคนในตระกูลเซียวไม่มีแก่ใจจะต้อนรับแขกเหรื่อ

หลินจืออินขอตัวกลับบ้านอย่างรู้กาลเทศะ

เซียวรั่งส่งนางออกจากจวนด้วยตัวเอง อีกทั้งยังปลอบใจกันยกใหญ่

หลินจืออินรู้สึกแค่เริ่มต้นนางก็ชนะแล้ว จึงอารมณ์ดีมาก จนกระทั่งกลับไปถึงหน้าประตูตระกูลหลิน ยังตกรางวัลให้คนเฝ้าประตู

คราวนี้บ่าวในตระกูลหลินรู้กันไปทั่วว่าคุณหนูใหญ่ท่านนี้ ที่แอบหนีออกไปโดยพลการ จนทำให้นายท่านกับฮูหยินอับอายขายหน้า กำลังจะได้ดิบได้ดี

ทว่าสุดท้ายตรงหน้าประตูใหญ่ตระกูลหลิน กลับมีคนกลุ่มหนึ่งมายืนล้อมวงกัน จากนั้นตีฆ้องร้องป่าวอย่างเป็นลำดับ

เมื่อคนตระกูลหลินได้ยินเสียง จึงรีบมาที่ประตูทางเข้า อยากจะดูว่าเกิดอะไรขึ้น

ทว่าเมื่อได้ยินคำอวยพรอย่างชัดเจน กลับสีหน้าซีดเซียว!

“ตระกูลหลินมีบุตรสาวแรกแย้ม กลายเป็นผู้มีผลงานในชั่วข้ามคืน พ่อแม่พี่น้องไม่ได้ผลประโยชน์ คิดแต่จะแต่งงานกับสามีผู้อื่น”

นี่มาอวยพรหรือ? เห็นได้ชัดว่ามาหาเรื่อง

หลินจืออินที่เมื่อครู่เพิ่งกระหยิ่มได้ใจทั้งตกใจและโมโห คนพวกนี้กล้าดูถูกตัวเองขนาดนี้เชียวหรือ?

“ที่นี่คือจวนตระกูลหลิน ไม่ใช่ที่ที่พวกเจ้าจะมากำเริบเสิบสาน!” นางเวินสงสารบุตรสาว จึงรีบเอ่ยปากตำหนิ

ทว่านอกจากคนพวกนั้นจะไม่กลัวแล้ว กลับดึงป้ายผ้าสองป้ายต่อหน้าชาวบ้านอย่างดีใจ

ตัวอักษรขนาดใหญ่ด้านบน โดดเด่นสะดุดตา

“ยินดีกับตระกูลหลินที่ได้รับเกียรติยศ มีลูกสาวกตัญญูเช่นนี้ ผลงานที่สร้างไว้เพียงเพื่อแย่งสามีชาวบ้าน ไม่คิดทำเพื่ออนาคตบิดา”

“ขอบคุณบุตรสาวคนโตในตระกูลหลินที่ขยันถวายตัวให้อันหนานโหวตอนอยู่ชายแดน หนำซ้ำยังตั้งครรภ์อย่างราบรื่นระหว่างกลับเมืองหลวง”

ตัวอักษรบนป้ายผ้าทั้งสอง ทำให้ทุกคนยิ่งตะลึงพรึงเพริด

โดยเฉพาะข้อความที่สอง หลินจืออินตั้งครรภ์แล้วหรือ?

หลังจากหลายคนสมองตอบสนองคิดขึ้นมาได้ ก็คิดว่าเซียวรั่งกับหลินจืออินทำตัวน่าเกลียดมาก

เจิ้นกั๋วกงกับซื่อจื่อออกรบจนตาย พวกเขากลับ...

“ช่างบังอาจยิ่งนัก ถึงกับกล้าปล่อยข่าวลือหน้าจวนตระกูลหลิน ทำลายชื่อเสียงลูกสาวข้า! ลูกสาวข้าสร้างผลงานทางทหาร แม้แต่ฮองเฮายังชื่นชม แต่พวกเจ้ากลับกล้ามาใส่ร้ายป้ายสีเช่นนี้ ข้าไม่ปล่อยพวกเจ้าไว้แน่!”

หลินจื้อหย่วนผู้เป็นบิดาคือขุนนางนอกราชการกรมคลัง

เขาตวาดขึ้นมาจึงทำให้สถานการณ์สงบลงไม่น้อย

นางเวินผู้เป็นมารดาจึงพูดเสียงแข็งบ้าง “ถูกต้อง! พวกเจ้ากล่าวหาปากเปล่า กล้าใส่ร้ายแม้แต่คนที่ฮองเฮาเอ่ยชม ยามนี้ฮ่องเต้ได้พระราชทานสมรสแล้ว พวกเจ้าทำเช่นนี้ หรือกำลังเยาะเย้ยฮ่องเต้กับฮองเฮาตาไม่มีสายพระเนตรหรือ?”

ตอนหลินจืออินเดินเข้ามายังกระหยิ่มได้ใจ ทว่าตอนนี้กลับเหมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง!

รู้สึกแค่ว่าภายในหัวของตัวเองเหมือนมีบางอย่างระเบิดออก!

เรื่องนี้เล็ดลอดออกไปได้อย่างไร?

หากถูกยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ชื่อเสียงของนางป่นปี้แน่!

หลินจืออินทำเป็นเข้มแข็ง แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงขึงขัง “ใครเป็นคนสั่งให้พวกเจ้าทำเช่นนี้? ข้าได้บอกน้องสาวตระกูลชุยไว้แล้ว จะไม่แตะต้องตำแหน่งของนาง ขอแค่มีพื้นที่ได้อยู่อย่างสงบสุข เหตุใดพวกเจ้าต้องใส่ร้ายข้าเช่นนี้? เหล่าทหารที่ข้ารักษาที่ชายแดน อาจเป็นคนในครอบครัวพวกเจ้า หากพวกเขารู้เรื่องนี้เข้า จะคิดเห็นอย่างไร?”

คำพูดของหลินจืออิน ทำให้คนไม่น้อยก้มหัวลง คิดว่านางสร้างผลงานเอาไว้ที่ชายแดนจริง

กระทั่งบางคนที่ได้ยินคำพูดของนาง รู้สึกว่านางอาจมีเหตุผลพออภัยให้ได้...

“บอกมา ใครใช้ให้พวกเจ้าใส่ร้ายหญิงสาวบอบบางคนหนึ่ง ที่เดินทางไปชายแดนโดยไม่ห่วงชื่อเสียงของตัวเอง?”

นางจงใจพุ่งเป้าไปที่เรื่องมีมือมืดอยู่เบื้องหลัง พุ่งเป้าไปที่การใส่ร้ายป้ายสี

จึงย่อมมีคนคิดไปถึงชุยอันหรู

ทว่าขบวนตีฆ้องร้องป่าวกลับไม่สะทกสะท้าน คนที่เป็นหัวหน้ายังเอ่ยอย่างใจเย็น “ชุยอันหรูลูกสาวเจิ้นกั๋วกงเชิญให้พวกข้ามาอวยพร!”

หลินจืออินกำลังจะดีใจ

คนที่เป็นหัวหน้าพูดต่อไป “คุณหนูใหญ่ชุยบอกไว้ก่อนแล้ว จวนเจิ้นกั๋วกงสร้างผลงานมาหลายปี ไม่เคยคิดฉวยโอกาสแย่งชิง ไม่คิดรังแกผู้อื่น นางในฐานะบุตรสาวแห่งเจิ้นกั๋วกง ไม่ยี่หระจะใช้สามีร่วมกับบุตรสาวตระกูลหลิน นางจะหย่าขาดกับอันหนานโหว จะทำให้คู่รักที่แม้แต่ระหว่างทางคุ้มกันโลงศพกลับเมืองหลวงยังลักลอบได้เสียกันได้สมหวัง”

“หากบุตรสาวตระกูลหลินไม่ยอมรับว่าตั้งครรภ์ ขอให้เชิญหมอหลวงมาตรวจ ไม่ว่าพวกเจ้าจะเก็บเด็กคนนี้ไว้หรือกำจัดทิ้ง หมอหลวงล้วนตรวจเจอทั้งสิ้น”

คำพูดเหล่านี้ เหมือนฝ่ามือฉาดใหญ่ที่ตบลงบนหน้าหลินจืออินอย่างรุนแรง

ทำให้สีหน้าของนางขาวซีดทันที!

เหล่าชาวบ้านที่หันมองหลินจืออินซึ่งเมื่อครู่ยังพูดจาฉะฉาน สายตาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว!

“ไร้ยางอาย...”

“ไม่เคยเห็นคนหน้าด้านขนาดนี้มาก่อน ถึงกับกล้าทำเรื่องบัดสีข้างโลงศพเจิ้นกั๋วกงกับท่านซื่อจื่อ...หลังจากกลับมา ยังกล้ารังแกบุตรสาวกำพร้าของเจิ้นกั๋วกงอีก...”

เสียงซุบซิบของชาวบ้าน ทำให้สีหน้าของคนในตระกูลหลินย่ำแย่มาก หลินจืออินหวังว่านี่จะเป็นเพียงฝันร้าย

แต่ว่าคนที่เป็นหัวหน้ากลับไม่คิดจะปล่อยตระกูลหลินไป กลับพูดต่อไป “บุตรสาวเจิ้นกั๋วกงยังฝากคำพูดมาอีก อันหนานโหวเลื่อนตำแหน่งจากป๋อเป็นโหว บุตรสาวตระกูลหลินเองก็ได้รับพระราชทานรางวัลจากฮ่องเต้และฮองเฮา ทว่าใต้เท้าหลินกลับไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง ช่างสั่งสอนลูกหลานได้ดียิ่งนัก ไม่หวังสิ่งตอบแทน!”

ในใจหลินจื้อหย่วนตะลึง แต่ภายนอกกลับพยายามสงบนิ่ง

แม้แต่สายตาที่นางเวินมองลูกสาว ยังเต็มไปด้วยความระแวงสงสัย

ในที่สุดหลินจืออินก็ล้มลง คนตระกูลหลินกัดฟันพลางวุ่นวายไปหมด รีบไล่คนหน้าประตูใหญ่ให้สลายตัวและปิดประตูใหญ่

วังหลวง ตำหนักหย่างซิน

ภายในห้องเงียบสงัด คำขอของชุยอันหรู ราวกับฟ้าผ่าลงมา

ฮ่องเต้ขมวดคิ้วแน่นพร้อมเอ่ยถาม “หย่าขาดสามี เพื่อภรรยาเท่าเทียมเพียงคนเดียวหรือ?”

ชุยอันหรูตอบอย่างไม่หวั่นเกรง “ทูลฝ่าบาท หม่อมฉันพอรู้วิชาแพทย์มาบ้าง อีกทั้งเคยสัมผัสชีพจรของบุตรสาวตระกูลหลินมาก่อน แม่นางหลินตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือนแล้วเพคะ”

“หากพระองค์ไม่ทรงเชื่อก็ส่งหมอหลวงไปตรวจดูได้เพคะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น ขันทีใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านข้างเกือบบีบแส้ปัดของตัวเองจนเกือบหัก

ฮ่องเต้ขมวดคิ้วแน่น

เมื่อได้ใส่ไฟออกไปแล้ว ชุยอันหรูรู้สึกว่ายังไม่พอ “หม่อมฉันรู้ดีว่าการที่พระองค์พระราชทานสมรสไม่ใช่เพื่อเหยียดหยามจวนเจิ้นกั๋วกง และไม่ได้ข่มหม่อมฉัน แต่อันหนานโหวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีจริง ๆ เพคะ”

“หม่อมฉันออกเรือนไปตั้งสองปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถแก้ไขนิสัยยโสโอหังของอันหนานโหวได้ ยิ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความใจแคบเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนลืมคุณธรรมของเขาได้ เมื่อเทียบกับแม่นางหลินที่สร้างผลงานที่ชายแดน หม่อมฉันไม่เอาไหนจริง ๆ เพคะ”

คำพูดเช่นนี้ย่อมเป็นคำเหน็บแนม

ชุยอันหรูหยุดไปสักครู่ เมื่อเห็นแล้วว่าฮ่องเต้ไม่ได้โมโห จึงพูดต่อไป

“หม่อมฉันไม่กล้าขอให้เซียวรั่งรักษาจริยธรรมของบุรุษ แต่อย่างไรก็ต้องมีจริยธรรมของมนุษย์บ้าง พวกเขากระทำเช่นนี้ มันเกินมนุษย์มนาไปแล้วเพคะ ด้วยเหตุนี้หม่อมฉันจะรู้ว่ามีความผิด แม้ตายร้อยครั้งก็ยังตั้งมั่นแน่วแน่ไม่เปลี่ยนเจตนารมณ์เดิม ขอฝ่าบาทโปรดให้หม่อมฉันหย่าสามีด้วยเพคะ”

เงียบสงัด ทุกคนในตำหนักหย่างซินไม่มีใครเอ่ยสิ่งใด

ชุยอันหรูคุกเข่าอยู่ตรงนั้นเงียบเชียบ หัวของนางยังคำนับติดพื้น แม้แต่แผ่นหลังยังดึงดัน

“ช่างเถอะ วันนี้ข้าเพิ่งแต่งตั้งเซียวรั่งให้เป็นโหว อีกทั้งยังพระราชทานสมรส หากปล่อยให้เจ้าหย่าสามี จะกลายเป็นที่ครหาของผู้คน”

“ข้ารู้ว่าเจ้าเองก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม ข้าได้ยินมาว่าสองปีมานี้ตระกูลเซียวอาศัยสินเดิมของเจ้าชดเชย เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ ข้าอนุญาตให้พวกเจ้าทั้งสองหย่าขาดจากกัน แล้วให้ตระกูลเซียวคืนสินเดิมและสมบัติทั้งหมดของเจ้ากลับไป เจ้าเห็นว่าอย่างไร?”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท”

เมื่อได้ตามที่หวังชุยอันหรูจึงรู้จักพอ

หลังออกมาจากตำหนักหย่างซิน นางรู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว

“คุณหนู เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” ตันชิงวิ่งเข้ามาอย่างร้อนใจ

“สำเร็จแล้ว ตันไป๋กับตันเสวียนน่าจะเก็บของเสร็จแล้ว พรุ่งนี้เมื่อราชโองการมาถึงเราจะย้ายออกทันที”

คำพูดของชุยอันหรู ทำให้ใบหน้าของตันชิงกับตันจูเปื้อนไปด้วยความดีใจ

แต่แล้วตันจูกลับเศร้าสร้อยขึ้นมาอีก

“คุณหนู พวกเราจะกลับไปจวนเจิ้นกั๋วกงหรือเจ้าคะ?”

ตันชิงเองก็ลังเล ที่นั่นไม่มีท่านกั๋วกงและไม่มีท่านซื่อจื่อแล้ว ไม่รู้ว่ายังถือเป็นบ้านมารดาของคุณหนูอยู่หรือไม่

นางยังคิดไม่เสร็จ รถม้าก็มาถึงจวนอันหนานโหวแล้ว

เมื่อตันจูหันมองหน้าประตูจวนที่มีคนยืนล้อมวงกัน นางเห็นร่างของสองคนที่คุ้นเคย!

“คุณหนู ฮูหยินซื่อจื่อกับซื่อจื่อน้อยมาอาละวาดที่จวนเจ้าค่ะ บอกว่าจะมาทวงความยุติธรรมให้คุณหนู”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 5

    หลังจากชุยอันหรูได้ยิน รีบลงจากรถม้าทันที พร้อมวิ่งไปที่ประตูทางเข้าเสียงจากด้านใน ดังออกมาอย่างชัดเจน“พวกเจ้าคนตระกูลเซียวที่เห็นแก่ผลประโยชน์ ไร้ศีลธรรมจรรยา ถึงกับกล้าทำเรื่องที่ไร้ยางอายถึงเพียงนี้ ไม่กลัวฟ้าดินลงโทษ ไม่กลัวต้องตายโหงตายห่ากันทุกคนหรือ!”“ลองไปดูทั่วเมืองหลวงสิ มีบ้านไหนที่กล้าแต่งอนุภรรยาเข้าจวนอย่างออกหน้าออกตา ในขณะที่พ่อตากับพี่ชายภรรยาเพิ่งตายได้ร่างกระดูกไม่ทันเย็น แต่พวกเจ้าตระกูลเซียวกลับจะแต่งภรรยาเท่าเทียม ซ้ำยังไปขอพระราชทานต่อหน้าพระพักตร์ ไม่กลัวสุสานบรรพบุรุษตระกูลเซียวจะระเบิด ลูกหลานอับอายขายหน้าบ้างหรือ!”“ข้าจะบอกพวกเจ้านะ จวนเจิ้นกั๋วกงยังมีลูกชายข้าอยู่ แต่ต่อให้ไม่มีบุรุษสักคน ข้าที่เป็นหม้ายก็จะขอสู้ตาย ทวงความยุติธรรมให้น้องสาวสามีข้าแน่นอน!”ชุยอันหรูอบอุ่นหัวใจ ความมั่นใจจากครอบครัวบ้านมารดา กลับได้มาจากพี่สะใภ้หรือนี่ช่วงเวลาที่ผ่านมา แรงกดดันที่พี่สะใภ้ได้รับ จะน้อยไปกว่านางได้อย่างไร?“วันนี้โชคดีที่ข้ามา ไม่อย่างนั้นคงจับไม่ได้ว่าพวกเจ้าคิดจะใช้สินเดิมของน้องสาวสามีข้า ไปสู่ขอนังหน้าด้านตระกูลหลินนั่น เห็นว่าจวนเจิ้นกั๋วกงของพ

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 6

    คนตระกูลเซียวคาดคิดไม่ถึงว่าในวังจะส่งคนมาจริงๆ คำพูดเมื่อครู่ของชุยอันหรู ทำให้พวกเขาเริ่มกระวนกระวายเหลียงจื่ออวี้ก็มองชุยอันหรูอย่างกังวลเช่นกัน กลัวว่านางแค่กำลังอวดเก่ง“วางใจได้”ชุยอันหรูตบมือของนางเบาๆ ก่อนจะดึงชุยหลางมาที่ข้างกายตัวเองและคุกเข่ารับราชโองการด้วยกัน“ด้วยโองการแห่งสวรรค์ ฝ่าบาทมีพระบัญชา อันหนานโหวละเมิดหลักจริยธรรม แต่งภรรยาเท่าเทียมในช่วงไว้อาลัย เราเห็นแก่ที่ความดีความชอบด้านการศึกซึ่งไม่เคยมีมาก่อน แม้ปฏิเสธคำร้องปลดสามีของบุตรสาวเจิ้นกั๋วกง แต่อนุญาตให้หย่า ให้มีผลทันที จวนอันหนานโหวต้องคืนค่าใช้จ่ายบุตรสาวเจิ้นกั๋วกงในสองปีทั้งหมดภายในสามวัน รวมเป็นเงินเจ็ดแสนห้าหมื่นตำลึง จบราชโองการ”เซียวรั่งมองตาค้างแล้ว ชุยอันหรูเข้าวังก็เพื่อขอราชโองการปลดสามี?“ชุยอันหรู เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? พ่อและพี่ชายของเจ้าไม่อยู่แล้ว หย่ากับพี่ชายข้า ยังจะมีใครเอาเจ้าอีก?”เซียวเสวี่ยหลิงเป็นคนแรกที่ทนไม่ไหว ตะคอกออกมาโดยตรงสิ่งที่ฮูหยินผู้เฒ่าปวดใจมากกว่านั้นคือเงินทอง“เจ็ดแสนห้าหมื่นตำลึง เหตุใดเจ้าไม่ไปปล้นเลยล่ะ?”ชุยอันหรูมองพวกนางด้วยสายตาเย็นชา“ถ้าหากพวกท่าน

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 7

    จวนตระกูลหลิน“ตกลงชุยอันหรูรู้เรื่องที่เจ้าท้องได้อย่างไร?” จนถึงตอนนี้นางเวินก็ยังไม่เข้าใจหลินจืออินแทบจะนอนอยู่ตรงนั้นอย่างสิ้นหวัง นึกถึงตัวเองกลับมาอย่างมีเกียรติ และยังสามารถเข้าจวนโหว เดิมทีควรจะมีหน้ามีตาสมปรารถนา แต่เพราะการกระทำที่สวนทางของชุยอันหรู กลับตาลปัตรในพริบตาตอนนี้ชื่อเสียงของนางป่นปี้แน่“ท่านแม่ ข้าไม่รู้จริงๆ…”เสียงของหลินจืออินแหบแห้ง“ไม่แน่นางเฒ่าคนนั้นนั่นแหละที่ได้ใจจนชั่วขณะเผลอพลั้งปาก ผู้อาวุโสสองคนนั้นของตระกูลเซียว คนหนึ่งเห็นผลประโยชน์ลืมบุญคุณ อีกคนหน้าเนื้อใจเสือ น้องหญิงแต่งไปต้องได้รับความคับข้องใจแน่นอน”หลินชวนที่เซียวเสวี่ยหลิงชอบมาโดยตลอด บ่นอย่างไม่เกรงใจหลินจื้อหย่วนเงียบมาโดยตลอด สีหน้าบึ้งตึง“มาพูดเรื่องนี้ตอนนี้มีประโยชน์อะไร? เพราะเจ้าคนเดียว ชื่อเสียงของตระกูลหลินถูกทำลายหมดแล้ว”“ชุยอันหรูคนนี้เหลวไหลจริงๆ ไม่มีจวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว นางกลับไม่อยากพึ่งใบบุญของจวนอันหนานโหว และยังบ้าๆ บอๆ จะสู้จนตายไปข้างหนึ่ง หมดหนทางเยียวยาแล้วจริงๆ”ท้ายที่สุดนางเวินก็ตำหนิลูกสาวไม่ลง“เอาเป็นว่ามอบเรื่องนี้ให้เซียวรั่งไปจัดการ เขาต้องให

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 8

    ความอัปยศอดสูที่ชัดเจนเช่นนี้ ตระกูลหลินไม่อยากรับต่อให้หักแค่หนึ่งตำลึง วันข้างหน้าจะไม่สามารถเงยหน้าต่อหน้าชุยอันหรูได้อีก“นี่น้องหญิงพูดอะไรเนี่ย ตระกูลหลินของเราเลื่อมใสพ่อลูกเจิ้นกั๋วกงมาโดยตลอด จะมาเรียกร้องเช่นนี้ในเวลานี้ได้อย่างไร เป็นเพราะคนรับใช้ของจวนอันหนานโหวถ่ายทอดคำพูดผิดแน่ๆ ส่งผลให้ท่านโหวเข้าใจเจตนาผิด”เวลานี้หลินจืออินยังคิดจะแสร้งเป็นคนดี“ไม่ตายแล้ว?”ชุยอันหรูกล่าวถากถางมองดูสีหน้าของหลินจืออินที่ปั้นยาก นางอารมณ์ดีเป็นพิเศษ“เจอข้าครั้งหน้า จำไว้ว่าอย่าเรียกน้องหญิง ข้าเป็นคนต่ำตมมากเลยหรือ ถึงรับคนอย่างเจ้าเป็นพี่หญิง?”ในที่สุดคำพูดของชุยอันหรู ก็ทำให้สัญชาตญาณการปกป้องน้องสาวของหลินชวนระเบิด“เจ้าอย่าให้มันมากนัก น้องหญิงข้าเกรงใจเจ้ามากแล้ว เจ้ายังเอาอย่างไรอีก?”เหลียงจื่ออวี้ถามทันที “บอกข้าสิ อันหรูทำเกินไปอย่างไร? ถ้าหากน้องหญิงของเจ้าพบเจอเรื่องเช่นนี้ เจ้าจะหัวเราะเหอะๆ เกลี้ยกล่อมให้น้องสาวเจ้าอดทนหรือ?”หลินชวนเงียบแล้ว เพราะเขาเป็นคนสองมาตรฐานหลินจื้อหย่วนเอ่ยปาก “ข้าน้อยเข้าใจได้ว่าฮูหยินท่านแม่ทัพกับแม่นางชุยโกรธ แต่ก็ไม่จำเป็นต้อ

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 9

    ชุยอันหรูส่ายศีรษะ “นางไม่กล้า ตอนนี้ข้าอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ อีกทั้งท่านพ่อกับท่านพี่ตายในสนามรบ ถ้าหากนางจะให้ข้าแต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์ ผู้คนทั่วใต้ฟ้าล้วนรังเกียจ”เหลียงจื่ออวี่พยักหน้า “อืม ในเมื่อเจ้าพูดเช่นนี้แล้ว ข้าก็วางใจแล้ว ปัจจุบันจวนเจิ้นกั๋วกงของเรายังมีหลางเอ๋อร์ บรรดาศักดิ์ของเจิ้นกั๋วกงก็ไม่ถูกเรียกคืน ใครก็อย่าคิดดูถูกตระกูลชุยของพวกเรา”ชุยอันหรูคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็ตัดสินใจทำให้พี่สะใภ้มีสติ“พี่สะใภ้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะฝ่าบาทระแวงท่านพ่อกับท่านพี่ ก็ไม่จำเป็นต้องนำทหารออกรบด้วยตัวเอง และข้าก็ไม่จำเป็นต้องออกเรือนกับผู้มีศักดิ์ต่ำกว่า”“วันนี้หากไม่ใช่เพราะข้าทำให้เรื่องราวมันบานปลาย อีกทั้งเรื่องที่หลินจืออินท้องก็กลายเป็นที่หัวเราะเยาะของผู้คน เกรงว่าข้าคงขอราชโองการหย่าฉบับนี้ไม่ได้”เหลียงจื่ออวี้ตะลึง อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจชุยอันหรูถอนใจแล้วกล่าว “เพราะเซียวรั่งใช้ความดีความชอบด้านการทหารบีบคั้นฝ่าบาท”“ท่านพ่อกับท่านพี่มีความดีความชอบด้านการศึกเช่นนี้ ยังไม่เคยบังคับฝ่าบาททำอะไรเลย เขาที่เป็นขุนนางใหม่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ ก็กล้าขอพระราชทา

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 10

    วันรุ่งขึ้นสมาชิกสกุลเซียวที่ถูกไล่ออกมารวมตัวกันแต่เช้าผู้นำคือชายชราคนหนึ่ง เขาไม่เพียงถูกชุยอันหรูไล่ออกจากร้านค้า แม้แต่ลูกชายก็ถูกจับแล้ว“นางที่เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ถือสิทธิ์อะไรมาบอกว่าไม่ให้พวกเราทำ ก็ไม่ให้พวกเราทำเลย?”“ไป ไปคุยกับนาง”คนทั้งกลุ่มยกพลไป แม้แต่เซียวรั่งที่อยู่บ้านก็ได้รับข่าวเช่นกันนางหยางกังวลเล็กน้อย “ปล่อยพวกเขาไปเช่นนี้ จะเพิ่มปัญหาให้เจ้าหรือไม่?”เซียวรั่งแค่อยากเห็นชุยอันหรูอยู่ในสภาพหัวหมุน “ท่านแม่ พวกเขาอยากโวยวายก็ให้พวกเขาโวยวาย! พวกเราไปตระกูลหลินก่อน แม้การแต่งงานนี้พระราชทานโดยฝ่าบาท แต่อย่างไรก็ต้องทำให้อีกฝ่ายพอใจจึงจะถูก”ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้า “ถูกต้อง ครอบครัวทางแม่ของฮูหยินหลินเป็นตระกูลชั้นสูงของจริง ตาของจืออินเป็นมหาราชครู ลุงคืออัครมหาเสนาบดี เจ้าแต่งงานกับจืออิน มีสองท่านนี้อยู่ ใครกล้าหัวเราะเยาะเจ้าจริงๆ?”หึ คอยดูเถอะ ตอนนี้รั่งเอ๋อร์กำลังอยู่ในช่วงที่รุ่งโรจน์ รอจืออินแต่งเข้ามา พวกเรากับตระกูลเวินก็ดองญาติกันแล้ว อย่างไรก็ต้องมีการสนับสนุนบนราชสำนัก พวกเราอยากกดดันชุยอันหรู ยังไม่ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือหรือ?”“ถึงเวลาต่

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 11

    “เรื่องบางอย่างคาดพูดแค่ครั้งเดียว หลังจากวันนี้ ใครกล้ามาก่อกวนที่ตระกูลชุยของพวกเราอีก ข้าจะทำให้คนคนนั้นรู้ว่าอะไรคืออำมหิต อะไรคือเหี้ยมโหด”ชุยอันหรูกล่าวจบก็ปรบมือ มีองครักษ์ถือกระบองกลุ่มหนึ่งเดินออกมาทันทีเวลานี้ตันชิงจึงจะตะโกน “ยังไม่ไสหัวไปอีก รอองครักษ์ของจวนกั๋วกงใช้พลองหรือ?”เมื่อนั้นฝูงคนตระกูลเซียวจึงกลับชุยอันหรูจึงจะหัวเราะเบาๆตระกูลหลิน จะมีละครสนุกๆ แล้วเรือนส่วนหลังตระกูลหลินหลินจื้อหย่วนกำลังระบายความไม่พอใจของตัวเองตรงนั้น“วันนี้ก่อนและหลังประชุมเช้า เซียวรั่งมาขอโทษข้าแล้ว บอกว่าจะให้คำอธิบายกับตระกูลหลินของเราแน่นอน!”หลินจืออินที่เป็นต้นเหตุก้มหน้า ท่าทางที่เชื่อฟังมากหลินชวนพ่นลมออกจากจมูกอย่างเย็นชา “นี่ก็สมควรแล้วไม่ใช่หรือ? เขาควรพาคนทั้งตระกูลมาขอโทษที่จวนจึงจะถูก”มือของนางเวินรินชาให้หลินจื้อหย่วนไม่หยุด ปากก็ไม่ได้ว่างงาน“วันนี้เจอท่านพี่หรือไม่? เขาได้พูดอะไรกับท่านหรือไม่?”สีหน้าหลินจื้อหย่วนอึมครึม “จะพูดอะไรได้ล่ะ แค่ให้พวกเราระวังภาพลักษณ์ของตัวเอง เขาบอกว่าเรื่องที่จืออินท้อง พวกเราเป็นฝ่ายผิด ถ้าหากฝ่าบาทไม่ประทานงานแต่ง เ

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 12

    “เรื่องนี้ ข้าจะให้คำอธิบายกับตระกูลเซียวแน่นอน”ชั่วขณะเซียวรั่งกดดันมาก กว่าจะไล่คนเหล่านี้ไปไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่คนตระกูลหลินยังไม่หายโกรธ“ตระกูลเซียวทำให้ผู้คนต้องมองใหม่จริงๆ ก็แค่เพิ่งมีท่านโหว ทั้งตระกูลก็จะมาขี่อยู่บนหัวจืออินของเราแล้ว?”นางเวินก็โกรธเช่นกัน “ถ้าหากไม่ใช่เพราะเซียวรั่งถูกพิษระหว่างทางกลับ ลูกสาวของข้าก็ไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสเข้าใกล้ และยังตั้งครรภ์อีก ชื่อเสียงก็พังยับเยินหมดแล้ว”หลินจืออินถึงจะเดินเข้ามาจากข้างนอกนางหยางรีบดึงนางเข้าไป “จืออิน เด็กดี สองวันนี้ทำให้เจ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมแล้ว ล้วนเป็นเพราะตระกูลเซียวของเราไม่สามารถปลอบใจชุยอันหรู เจ้าจะโทษก็โทษข้าเถอะ”หลินจืออินฟังจนรู้สึกตื้นตัน “ท่านป้า นี่จะโทษท่านได้อย่างไร น้องหญิงชุยเสียพ่อกับพี่ชายแล้ว และยังริษยาแค้นเคืองที่ข้ามีความรักกับเซียวรั่ง ข้าไม่ถือสานางหรอกเจ้าค่ะ”“น้องหญิงของข้าก็ใจกว้างเช่นนี้แหละ ไม่เหมือนพวกคนใจร้ายที่ชอบแทงข้างหลัง ไม่เช่นนั้นเหตุใดสวรรค์ไม่ช่วยนางเลย”ไม่มีใครคัดค้านข้อสรุปของหลินชวนเซียวรั่งยิ่งรู้สึกว่าเขาพยายามไว้หน้าชุยอันหรูที่สุดแล้ว แต่เป็นนางที่แ

บทล่าสุด

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 100

    “ตอนนี้เซียวรั่งแต่งงานกับหลินจืออินแล้ว ในภายภาคหน้าตระกูลหลินกับตระกูลเวินก็ต้องเข้าข้างเขาอย่างแน่นอน...”เหลียงจื่ออวี้ก็นึกถึงเรื่องเหล่านี้ นางจึงถามออกมาตรง ๆ“พี่สะใภ้ ข้าย่อมมีวิธีของข้าอยู่แล้ว ท่านมิต้องกังวล ตอนนี้ข้ายังมิอาจอธิบายให้ท่านฟังได้ อย่างไรก็ตามข้ารับปากท่าน สามปีให้หลัง ตอนที่ท่านกับหลางเอ๋อร์กลับมา ผู้คนในเมืองหลวงที่ทำให้ท่านรู้สึกรังเกียจเหล่านั้น หากไม่ตายแล้วก็ต้องหมดสภาพ”เมื่อเห็นแววตาที่แน่วแน่ของชุยอันหรู เหลียงจื่ออวี้ก็รู้ว่านางมิได้โกหกตนยิ่งไปกว่านั้นนางเข้าใจตนเองอย่างชัดเจนแล้ว ภูมิหลังของนาง ความรู้ของนาง และสมองของนาง การอยู่ที่นี่ต่อไปมิได้ช่วยเหลือสิ่งใดชุยอันหรูได้เลย ในทางตรงกันข้ามอาจจะกลายเป็นภาระของนาง“ข้ารู้แล้ว แต่เจ้าต้องปกป้องตนเองให้ดี หลังจากสามปี เจ้าก็มิจำเป็นต้องไว้ทุกข์อีกแล้ว หากเจอบุรุษที่เหมาะสมก็อย่าพลาดโอกาสเชียว”ตอนนี้ตระกูลชุยมีนางเพียงคนเดียวที่มีคุณสมบัติช่วยชุยอันหรูจัดการเรื่องการแต่งงาน“ได้ ข้ารู้”วันรุ่งขึ้น หลังจากที่เวินจี้หลี่เลิกประชุมเช้าก็เจาะจงไปที่จวนอ๋องอี้ หลังจากเมื่อวานนางเวินไปเอะอะโวยวา

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 99

    หลังจากชุยอันหรูรับมาแล้ว ก็ตั้งใจอ่านอยู่รอบหนึ่ง“ระวังว่าจวนอ๋องอี้จะไม่ส่งผลดีต่อศิษย์ของหมอเทวดา”ในตอนนั้นนางเข้าใจแล้ว ช่วงที่ศิษย์ของหมอเทวดาเข้ามาเมืองหลวงประจวบเหมาะกับองค์ไทเฮากำลังจะออกจากเมืองหลวงในสายตาของไท่เฟยจวนอ๋องอี้ ก็ยังมิแน่ว่าจะทำเพื่อรักษาลู่จิ่งเชินหากทำเพื่อให้ลู่จิ่งเชินตายเร็วขึ้น พวกเขาจะไม่ปล่อยให้ศิษย์ของหมอเทวดาติดต่อกับเขาอย่างแน่นอน วิธีที่ดีที่สุดและตรงไปตรงมาที่สุดก็คือทำให้เขาหายตัวไปนางค่อย ๆ นำจดหมายหย่อนเข้าไปในกระถางธูป และมองดูมันกลายเป็นเถ้าถ่าน“ศิษย์พี่เข้ามาในเมืองหลวงครั้งนี้ เกรงว่าคงต้องเจอปัญหาไม่น้อย”“แน่นอนว่าจะต้องมีคนจำนวนมากแย่งชิงศิษย์ของหมอเทวดา...” ตันจูเอ่ยวิเคราะห์ตันเสวียนนิ่งเงียบ ปกตินางจะมิชอบเอ่ยขัดจังหวะตันชิงกลับเป็นคนซ่อนความในใจไม่อยู่ จึงเอ่ยออกมาตามตรงว่า “หากพูดตามหลักแล้ว คนที่มีความสามารถเช่นศิษย์พี่ของท่านหญิง มิใช่คนมากมายต้องการปกป้องหรอกหรือ? อย่างไรเสียก็ไม่มีผู้ใดรับประกันได้ว่าวันข้างหน้าตนเองและครอบครัวจะไม่เจ็บป่วยหนัก หมอธรรมดาก็ไม่อาจรักษาได้”ชุยอันหรูไม่รีบร้อนอธิบาย ตันจูจึงเอ่ยขึ้น

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 98

    เซียวรั่งมิได้แสดงท่าทีใดนัก ที่จริงเขาคิดวิธีนี้ออกตั้งแต่ตอนที่อยู่ตระกูลเวินแล้ว แต่มิกล้าพูดเท่านั้นในเวลานี้นางเวินพูดออกมาแล้ว เขาก็มีความหวังเพิ่มขึ้นมาบ้างบางที หากมารดาสามีไปเอะอะโวยวายที่ตระกูลเวินเอง พวกเขาก็คงจะช่วยเหลือตนหลินจืออินก็คิดว่าวิธีนี้ดีเช่นกัน ในตอนนั้นนางก็นึกไม่ออกจริง ๆ“หากข้าคิดได้ พี่ชายของเจ้าจะคิดไม่ออกได้อย่างไร เพียงแต่มิอยากออกหน้าเท่านั้นเอง ถึงอย่างไรตระกูลเวินก็มิใช่เขาเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ข้ามิเชื่อหรอกว่าท่านพ่อกับท่านพี่จะไม่ช่วยข้า”เป็นจริงตามคาด ท่าทีของนางเวินเป็นไปในทิศทางที่เซียวรั่งคาดไว้ในขณะที่พวกเขากำลังสนทนากัน บ่าวรับใช้ก็เข้ามา“นายท่าน ฮูหยิน...”“มีอะไรหรือ?”สีหน้าของบ่าวรับใช้ดูแปลกชอบกล คงว่าได้ยินข่าวแปลก ๆ บางอย่างมา“ด้านนอกดูเหมือนมีคนกระจายข่าวว่า อีกไม่กี่วันศิษย์ของหมอเทวดาจะเข้ามาในเมืองหลวง...”“จริงหรือ?” เซียวรั่งแทบจะดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้ข่าวนี้ช่างมาในเวลาที่เหมาะสม ประจวบเหมาะกับการแก้ปัญหาเร่งด่วนของพวกเขา“มิรู้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ แต่ทุกคนก็พูดต่อๆ กัน อย่างไรเสียก็เป็นเรื่องที่เกี่ยว

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 97

    เซียวรั่งกับหลินจืออินมิได้รับประโยชน์ใด ๆ และมิได้กลับจวนในทันที แต่ไปที่จวนตระกูลหลินนางเวินเห็นสีหน้าของพวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาน่าจะพบเจอปัญหาแล้ว“มีสิ่งใดหรือ? เพราะหน้าที่ต้อนรับคณะราชทูตถูกคนแย่งไปหรือ?”หลินจืออินอธิบายว่า “มิใช่เจ้าค่ะ พวกเราเพิ่งกลับมาจากบ้านท่านยาย...”“อยากให้ลุงเจ้าออกหน้า? เดาว่าเขาคงไม่เห็นด้วย” นางเวินคาดเดาบทสรุปได้แล้ว“ถูกต้องเจ้าค่ะ แต่ก็มิใช่ว่าท่านลุงไม่เต็มใจ แต่เป็นพี่ชายที่ปฏิเสธ...ป้าสะใภ้ก็ไม่พูดสิ่งใดตั้งแต่แรกจนจบ จะต้องไม่อยากช่วยเหลืออย่างแน่นอน”ความขุ่นเคืองของหลินจืออินพรั่งพรูออกมาเป็นคำพูด“พี่ชายเจ้าผู้นี้กับหรูซวง ได้รับการอบรมสั่งสอนจากป้าสะใภ้เจ้า จึงไม่สนิทสนมกับพวกเราแม้แต่น้อย พวกเราก็มิใช่คนนอก เอาแต่กังวลว่าพวกเราจะทำให้ตระกูลเวินเดือดร้อน ระแวดระวังมาหลายปีแล้ว ก็ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย”หลินจืออินรีบคว้าแขนของนาง “ท่านแม่...”ตอนนี้นางเวินถึงนึกขึ้นได้ว่า ยังมีเซียวรั่งอยู่ข้าง ๆนางเปลี่ยนสีหน้าในทันที “เซียวรั่ง เรื่องของวันนี้ เจ้าอย่าโทษลุงเจ้าเลย เรื่องที่ฝ่าบาททรงตัดสินพระทัยแล้ว ผู้ใดก็มิอาจเปลี่ยนแปลง หากลุงเ

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 96

    “ถ้าเช่นนั้นท่านลุงกราบทูลฝ่าบาทไปตามตรงว่า เซียวรั่งเป็นคนที่เหมาะสมกว่า ท่านลุงเป็นถึงอัครมหาเสนาบดี ทำเช่นนี้มิได้หรือเจ้าคะ?” หลินจืออินนึกถึงความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งเวินหรูเฟิงเอ่ยเตือนอีกครั้ง “ครั้งนี้คนที่ฝ่าบาททรงเลือกเป็นที่แน่นอนแล้วคือหลี่ฉุนจงเสนาบดีกรมพิธีการ เป็นพระเชษฐาแท้ ๆ ของฮองเฮา เจ้าหวังว่าจะให้ท่านพ่อใช้เหตุผลใดถึงจะทำให้ฝ่าบาททรงเพิกถอนเขา ทั้งยังมิทำให้ฮองเฮาทรงแค้นเคืองตระกูลเวินของพวกเรา?”คราวนี้หลินจืออินอับจนหนทางอย่างสิ้นเชิงแล้ว นางมองเวินหรูเฟิงด้วยความขุ่นเคือง“ท่านพี่ ท่านดูแคลนพวกเรามากใช่หรือไม่?”เวินหรูเฟิงถึงกับงงงัน เอาความคิดนี้มาจากที่ใด?“น้องสาว เจ้าดูเหมือนจะเข้าใจผิดบางอย่าง”“ข้ามิได้เข้าใจผิด ข้าออกเรือนท่านก็มิได้มา พวกเรากลับมาเยี่ยมบ้านหลังแต่งงานท่านก็มิได้มา...”หัวข้อสนทนาของหลินจืออิน ถูกโยงไปอีกทิศทางหนึ่ง ในเวลานี้นางเมิ่งเอ่ยขึ้นว่า “ในเมื่อเจ้าพาน้องเขยมาสอบถามถึงจวนแล้ว เจ้ารีบเอ่ยขอโทษก็พอ มิต้องอธิบายให้มากความ”หลังจากนางเอ่ยจบ เริ่มแรกก็ทำเป็นตัวอย่าง “จืออินเอ๋ย สองครั้งนั้นป้าสะใภ้มีธุระก็มิได้ไปเช่นกัน แล

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 95

    หลินจืออินเอ่ยจบ ทุกคนพากันเงียบสนิทความเงียบของเซียวรั่ง เป็นเพราะเสียอารมณ์กับเรื่องการแต่งงานที่เคยเกือบจะเกิดขึ้นส่วนความเงียบของคนในตระกูลเวิน ก็เป็นเพราะพวกเขาไม่มีทางจะตามหาหมอเทวดาได้ มิเช่นนั้นหลายปีมานี้พวกเขาก็คงทนรับทางด้านของไทเฮาไม่ไหวไปนานแล้ว“จืออิน ความคิดนี้ของเจ้าก็ไม่เลว ทว่าพวกเรามิรู้ว่าหมอเทวดาอยู่ที่ใด...” เวินจี้หลี่อธิบายด้วยความอึดอัดใจ“เป็นไปได้อย่างไร ทุกครั้งขอเพียงท่านตาเกิดปัญหา หมอเทวดาก็มักจะมาปรากฏตัว หลายวันก่อนท่านตาทวดร่างกายไม่สบาย ก็มิใช่หมอเทวดาให้คนนำยามาส่งให้ กินยาจนกระทั่งหายจากอาการป่วย...หากพวกท่านหาเขาไม่พบ แล้วเขาจะมาปรากฏตัวอย่างทันเวลาทุกครั้งได้อย่างไร...”คำถามของหลินจืออิน ที่จริงแล้วก็สร้างความสงสัยให้ตระกูลเวินมานานมาก “จืออิน พวกเรามิรู้ที่พำนักของหมอเทวดาจริง ๆ เขาไปมาอย่างไร้ร่องรอยเสมอ เมื่อหลายปีก่อนเคยมาที่จวนมหาราชครูครั้งหนึ่งจริง ๆ นับแต่นั้นมา ทุกครั้งที่ท่านตาเจ้าล้มป่วย จะมีคนนำยามาส่งให้โดยเฉพาะ พวกเราก็ลองสะกดรอยตามคนส่งยา ทว่ากลับไม่ได้เบาะแสใดเลย”ฮูหยินผู้เฒ่าเฮ่อเป็นพยานได้ว่า พวกเขาไม่มีหนทางจริง ๆ

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 94

    มหาราชครูเวินคิดจะวางมาดน่าเกรงขามตามเดิม ทว่าสำหรับหลานสาวที่เอ็นดูมาตั้งแต่เล็กผู้นี้ คงมิอาจทำได้เสียแล้ว“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ต้องบอกให้ตารู้ว่า เจ้าต้องการจะทำสิ่งใดกันแน่...”“หรือเป็นเพราะคำพูดที่อ๋องอี้เอ่ยในราชสำนักวันนี้ ทำให้ฝ่าบาททรงยึดหน้าที่การต้อนรับคณะทูตของเซียวรั่งกลับไป?”เวินจี้หลี่ครุ่นคิดอยู่เล็กน้อยก็รู้ว่าพวกเขาต้องการทำสิ่งใด“ท่านลุงยอดเยี่ยมยิ่งนัก จืออินยังมิทันเอ่ย ท่านก็คาดเดาได้ถูกแล้ว”เวินจี้หลี่ยิ้มจาง ๆ พร้อมเอ่ยว่า “เจ้าหนอเจ้า วันนี้มีเพียงเรื่องเดียวนี้เท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับเขา เจ้าคิดว่าจะเป็นเรื่องใดได้อีกเล่า?”“ข้าเกิดคิดถึงท่านตาท่านยาย และคิดถึงท่านลุงมิได้หรือเจ้าคะ?”หลินจืออินโผเข้าไปข้างกายเวินจี้หลี่ราวกับผีเสื้อตัวหนึ่ง และคล้องแขนของเขาไว้“ท่านลุงพวกเราทำศึกชนะ การต้อนรับคณะทูตในครั้งนี้ ท่านโหวมิใช่คนที่เหมาะสมที่สุดหรอกหรือ? หากเปลี่ยนให้ผู้อื่นไปคงไม่มีอำนาจโน้มน้าวกระมัง?”นางเมิ่งเฝ้าดูอย่างเงียบ ๆ ดื่มชาด้วยท่าทางผ่าเผย ประโยคเดียวก็มิเอ่ยเซียวรั่งมองเห็นท่าทางของนางเมิ่ง ในใจก็นึกถึงสิ่งที่หลินจืออินบอกเขาเมื่อหลายวัน

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 93

    “จืออิน เจ้ามีวิธีใด?” ในเวลานี้เซียวรั่งรู้สึกเหนื่อยใจความสุขของการมีภรรยาหลายคนที่เขาวาดฝันนอกจากจะไม่เคยได้รับ ทว่าภายใต้การจัดการต่าง ๆ นานาของชุยอันหรู กลับต้องกลายมาเป็นสภาพเช่นทุกวันนี้แม้ว่าเขาจะได้แต่งงานกับหลินจืออินแล้ว ตอนกลับไปบ้านฝ่ายหญิงก็ได้พบปะคนตระกูลเวิน ทว่าทุกครั้งที่ตนเอ่ยว่าจะไปเยี่ยมเยือนจวนมหาราชครู เวินจี้หลี่ก็จะใช้เหตุผลต่าง ๆ มาคัดค้านเขาเข้าใจดี คนตระกูลเวินดูถูกเขาเพราะเขาเป็นคนทรยศจวนเจิ้นกั๋วกง“ท่านโหว พวกเราไปตระกูลเวินสักครั้งเถิด”คำพูดของหลินจืออิน ประจวบเหมาะกับทำให้จิตใจที่วิตกกังวลของเซียวรั่งได้คลายลงในทันทีเขาถึงกับคิดว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญที่สรรค์ประทานให้ เรื่องที่เขากลุ้มใจเป็นที่สุดก็คือจะเข้าไปสร้างสัมพันธ์กับตระกูลเวินอย่างไร นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้หลินจืออินจะช่วยเขาแก้ปัญหา“ตอนนี้หรือ?”น้ำเสียงของเขาฟังดูสั่นเครือฮูหยินผู้เฒ่ากับนางหยางต่างมิกล้าพูดมาก พวกเขาเข้าใจดีว่า หากตีสนิทกับตระกูลเวินได้จริง ๆ ก็จะนำพาผลประโยชน์มาให้พวกเขาได้มากเพียงใด“แน่นอนว่า หากรอจนกระทั่งองค์ชายสามของต้าชิ่งผู้นั้นเสด็จมาถึง ทั้งหมดก็จะไม่

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 92

    เซียวเสวี่ยหลิงชอบยกยอหลินจืออินอยู่เสมอ ไม่เพียงเพราะตระกูลเวินที่อยู่เบื้องหลังนางเท่านั้น ยังเป็นเพราะนางปรารถนาจะแต่งงานกับหลินชวนมาตลอดแม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะเป็นจวนป๋อ ทว่ากลับได้รับการเมินเฉย ทำให้นางเมื่ออยู่ต่อหน้าคนตระกูลหลินที่มิใช่ขุนนางใหญ่ยังคงรู้สึกไม่มั่นใจตามเดิมตอนนี้นางเป็นน้องสาวของอันหนานโหวแล้ว ตามหลักแล้วก็ควรมองหาคนที่มีสถานะสูงกว่า ทว่านางยังคงทุ่มเทใจให้กับหลินชวนหลินจืออินลูบคลำท้องของตนเอง “ตอนนี้ไม่สำคัญแล้ว สถานะของนางในเมืองหลวงจะเป็นอย่างไร ข้ามิจำเป็นต้องพูดให้มากความ นางล่วงเกินฮองเฮากลับคิดจะหลีกหนี ทำได้ง่ายเช่นนั้นที่ไหนกัน ถึงแม้จะฝากฝังคนไว้กับไทเฮา แล้วจะอย่างไร? หรือว่าองค์ไทเฮาจะไม่เสด็จกลับมาอีกแล้ว? ภายภาคหน้า ชุยหลางมิต้องการจะรับตำแหน่งต่อหรือ? คนที่นางล่วงเกินเหล่านั้น ก็ไม่คิดจะให้นางชดใช้หรือ?”เซียวเสวี่ยหลิงดูเหมือนก็ตั้งตารอคอย “คนอย่างนาง ต่อให้ตายหมื่นครั้งก็ไม่สามารถทำให้ข้าคลายความโกรธแค้นได้...”ขณะที่พวกเขากำลังสนทนากันอยู่ เซียวรั่งก็กลับมาแล้ว“ท่านโหว เหตุใดวันนี้ถึงกลับจวนมาเร็วเช่นนี้?”หลินจืออินรีบลุกขึ้นและเด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status