แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: หมาอีหรูเสวี่ย
ภายในรถม้าที่กำลังเข้าวัง

ตันชิงยังไม่หายโกรธเคือง “ตระกูลที่หน้าด้านเช่นนี้ ฮูหยิน...ไม่สิ คุณหนูอยู่ต่อไปก็อัปมงคลเสียเปล่า”

ตันจูรู้ว่าคำพูดนี้มีเหตุผล แต่อดเป็นห่วงไม่ได้ “ยามนี้ ท่านกั๋วกงกับฮูหยินสิ้นไปแล้ว ภายในจวนเหลือเพียงฮูหยินซื่อจื่อและซื่อจื่อน้อย คุณหนูจะไปไหนได้ล่ะ...”

ชุยอันหรูกล่าวขึ้น “จะไปไหน ก็สบายใจกว่าต้องใช้ชีวิตอยู่กับคนเนรคุณพวกนี้”

ตลอดเวลาที่ผ่านมา นางทำตามคำสั่งท่านแม่ อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่เคยโอ้อวดชื่อเสียงของอาจารย์ และไม่เคยแสดงฝีมือต่อหน้าใคร

อีกทั้งทำตามคำสั่งท่านพ่อ ออกเรือนกับผู้มีฐานะต่ำกว่าเพื่อความสงบในชีวิต

ผลลัพธ์ เวลาภายในสองปี เป็นเพียงสิ่งยืนยันว่าอย่างไรท่านพ่อก็มองพลาดไป

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางจะกล้ำกลืนฝืนทนต่อไปทำไม

ต่อให้เหลือนางเพียงคนเดียว ก็ต้องกอบกู้ชื่อเสียงเกียรติยศของจวนเจิ้นกั๋วกงให้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีพี่สะใภ้หม้ายและหลานชายตัวน้อย

นางเอ่ยเสียงเรียบ “ข่าวได้ส่งถึงตันไป๋แล้ว นางรู้ดีว่าควรทำเช่นไร พวกเราแค่เตรียมตัวเข้าเฝ้าก็พอ”

ตันชิงผงกศีรษะแรง ๆ

ตันจูทอดมองประตูวังที่ใกล้เข้ามา “คุณหนู ฮ่องเต้จะออกหน้าแทนพวกเราจริงหรือเจ้าคะ?”

ชุยอันหรูมีสติเป็นอย่างดี “ขุนนางที่เพิ่งสร้างผลงานได้ชัยกลับมา กับหญิงกำพร้าที่ไม่มีพ่อแม่อย่างข้า ฮ่องเต้ย่อมไม่ช่วยข้าอยู่แล้ว”

“พวกเราไม่มีเหตุผลจริง แต่พวกเรามีความผิด”

ภายในรถเงียบไปสักครู่

“ระวังเด็กคนนั้น!”

เสียงอุทานทำให้บนถนนโกลาหลไปหมด รถม้าคันหนึ่งที่หลบเด็กน้อยซึ่งพุ่งออกมาบนถนน เกือบชนเข้ากับรถม้าของชุยอันหรู

“แม่นาง ท่านไม่เป็นไรนะ?” หลังจากคนรถบังคับม้าได้แล้ว จึงรีบสอบถามชุยอันหรู

“ขออภัยด้วยขอรับ เมื่อครู่เป็นเหตุฉุกละหุก จนทำให้ทุกท่านตกใจ นายของข้ายินดีชดใช้ค่าเสียหายของทุกท่าน...ไม่ทราบว่าบนรถม้าคือท่านผู้ใดในจวนอันหนานโหวหรือ?” คนรถอีกคนก็รีบเข้ามาหาเช่นกัน

องครักษ์ด้านหลังเขา กำลังชดใช้เงินให้กับร้านแผงลอยที่ได้รับความเสียหาย

เมื่อครู่ชุยอันหรูเพียงตกใจเท่านั้น โชคดีที่คนรถทั้งสองมีความชำนาญ จึงไม่ได้เกิดเรื่องใดขึ้น

“ไม่เป็นไร ข้ารีบ โปรดหลีกทาง...”

นางยังพูดไม่ทันจบ ทันใดนั้น

“ช่วยด้วย แม่ของข้ากระอักเลือด...”

เด็กคนเมื่อครู่คุกเข่าร้องตะโกนเสียใจอยู่กลางถนน

“ซวีหวย ไปตามหมอมา”

บนรถม้าอีกคัน มีเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น

ชุยอันหรูเปิดม่านรถม้าขึ้น แล้วเดินออกมาทันที

ตันชิงกับตันจูรีบตามติดอยู่ด้านหลัง พลันมองเห็นเด็กหญิงตัวน้อยไม่ถึงสิบขวบ ทำหน้าสิ้นหวัง รีบทำท่าคารวะขอความช่วยเหลือจากรอบด้าน

“แม่เจ้าอยู่ที่ใด?” ชุยอันหรูไม่รอช้า

“ทางโน้นเจ้าค่ะ!”

เด็กหญิงรีบปาดน้ำตา แล้วลุกขึ้นทันที ชี้ทางไปด้วยพลางนำทางทุกคนให้เดินไปทางนั้น

“นายท่าน เป็นหญิงสาวขอรับ น่าจะเป็นฮูหยินอันหนานโหว ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่านางเป็นวิชาแพทย์ พวกเรายังตามหมอหรือไม่ขอรับ?” ซวีหวยเอ่ยถาม

“ตาม”

คนในรถม้าเอ่ยกระชับได้ใจความ เพียงแต่น้ำเสียงค่อนข้างห่างเหิน

ชุยอันหรูตามเด็กหญิงไปจนถึงมุมถนนและพบตัวหญิงสาวที่นั่น ขณะนี้นางกำลังถูกพวกชาวบ้านที่แห่กันมาดูมุงล้อม ซึ่งหมดสติไปแล้ว

เมื่อนึกถึงภาพที่แม่ของตัวเองจากไปกะทันหัน ชุยอันหรูไม่ลังเล คุกเข่าลงพื้นแล้วใช้มืออังจมูกอีกฝ่าย จากนั้นเปิดหนังตา แล้วค่อยตรวจชีพจร

เด็กหญิงปิดปากตัวเองอย่างรู้ความ ไม่ให้เสียงร้องไห้ของตนส่งผลต่อชุยอันหรู

โทสะโจมตีหัวใจ ขาดสารอาหารระยะยาว หัวใจและปอดเสียหาย

แทบจะแน่ใจสาเหตุการป่วยได้ทันที แต่ชุยอันหรูกลับพบว่าตัวเองไม่มียาบำรุงหัวใจ ช่วงที่ผ่านมานางกลัวพี่สะใภ้จะกดดันมากเกินไป จึงมอบสิ่งของให้นางไปหมด

“ต้องการสิ่งใด?”

น้ำเสียงกังวานแต่ไม่ค่อยมีแรงดังขึ้น ชายหนุ่มที่อยู่บนรถม้าอีกคันได้เดินมาถึงที่นี่แล้ว

สองคนที่อยู่ข้างกายเขา ดูเหมือนเตรียมเข้าประคองเขาตลอดเวลา

“แค่รักษาหัวใจของนางได้ก็พอแล้ว” ชุยอันหรูกวาดตามองแล้วพูดออกไป

“รั่วกู่” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น

คนข้างกายเขาลังเลอยู่สักครู่ แต่ในไม่ช้าก็รีบนำขวดกระเบื้องออกมาจากหน้าอก แล้วเทออกมาหนึ่งเม็ดอย่างระมัดระวัง

หลังจากชุยอันหรูรับมา มองดูคุณภาพหนึ่งครั้ง ต่อมาไม่เอ่ยถามสิ่งใดเลย เอาใส่ปากหญิงผู้นั้นทันที ขณะนี้เจ้าของร้านแผงลอยใกล้เคียงยื่นน้ำให้หนึ่งถ้วย

“แม่เจ้าน่าจะค่อยยังชั่วแล้ว ในบ้านเจ้ายังมีใครอื่นอีกหรือไม่?” ชุยอันหรูเอ่ยถามเด็กหญิง

เด็กหญิงส่ายหน้า น้ำตาไหลรินอย่างทนไม่ไหวอีกต่อไป

“ท่านพ่อกับท่านย่าไม่ต้องการพวกเราแล้ว พวกเราถูกไล่ออกมา...”

ตันชิงกับตันจูได้ยินแล้วรู้สึกสงสาร ทำไมรู้สึกคล้ายคลึงกับคุณหนูของพวกนางเหลือเกิน

เหล่าชาวบ้านที่มามุงดู ก็ยิ่งสงสารเด็กหญิงมากขึ้น

“มีท่านตาหรือว่าท่านลุงหรือไม่?”

เด็กหญิงตอบ “พวกท่านอยู่ไกลมาก”

“พ่อเจ้าคือผู้ใด?” ชุยอันหรูถามอีกครั้ง

“เป็นทหารที่เพิ่งชนะศึกกลับมา เขาบอกว่าตัวเองมีผลงานแล้ว จะแต่งงานกับคนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเจ้าค่ะ”

ชุยอันหรูรู้สึกเย้ยหยัน ใครว่าใต้หล้านี้มีนางเพียงคนเดียวที่โชคร้ายเล่า?

บุรุษมากรักแล้งน้ำใจ กระทั่งไม่ต้องการยศยาตำแหน่ง นี่คือสันดานของพวกเขา

เมื่อเหล่าชาวบ้านได้ยิน ได้แต่เห็นใจไปตาม ๆ กัน

เมื่อมองดูหญิงสาวที่ยังนอนหมดสติ ต่อให้นางฟื้นขึ้นมา ร่างกายคงรับไม่ไหว

ชุยอันหรูลุกขึ้นยืน แล้วมองดูชายหนุ่มที่ยื่นยาให้เมื่อครู่

“ฮูหยินอันหนานโหว มีสิ่งใดให้รับใช้?”

ยังไม่ทันที่นางจะพูดออกไป อีกฝ่ายก็สอบถามก่อนแล้ว

พวกชาวบ้านถึงได้ตะลึง ที่แท้หญิงที่ให้ความช่วยเหลือเมื่อครู่คือบุตรสาวของเจิ้นกั๋วกง

ช่วงเวลาที่ผ่านมามีคนมากมายไว้ทุกข์ให้เจิ้นกั๋วกงพ่อลูก ทั้งพ่อและพี่ชายตายในสนามรบพร้อมกัน ชุยอันหรูจะสะเทือนใจมากเพียงใด? จวนเจิ้นกั๋วกงที่ใหญ่โต ตอนนี้แม้แต่คนกอบกู้ศักดิ์ศรีสักคนก็ไม่มี

โชคดีที่ลูกเขยของเจิ้นกั๋วกงกลับมาพร้อมชัยชนะ จึงถูกแต่งตั้งให้เป็นท่านโหว ไม่อย่างนั้นหญิงสกุลชุยจะมีชีวิตต่อไปอย่างไร?

ชุยอันหรูไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายรู้จักตน ราชโองการเพิ่งมาถึงไม่นาน เรื่องที่ตัวนางโต้แย้งกับคนเหล่านั้นหน้าประตูใหญ่ตระกูลเซียวคงไม่ได้แพร่เร็วขนาดนั้น ไม่สู้นางเป็นคนประกาศเองดีกว่า

“คงไม่ถึงขั้นรับใช้ ส่วนเรื่องฮูหยินอันหนานโหว อีกไม่ช้าคงไม่ใช่แล้ว เซียวรั่งอาศัยว่าตัวเองมีผลงาน จึงคิดจะตบแต่งหลินจืออินบุตรสาวในภรรยาเอกแห่งตระกูลหลินให้มาเป็นภรรยาเท่าเทียม ทั้งสองคนมีลูกด้วยกันตอนคุ้มกันศพของท่านพ่อและท่านพี่ข้ากลับเมืองหลวง เรื่องอัปยศอดสูเช่นนี้ตระกูลชุยของข้าไม่จำเป็นต้องอดกลั้น ขณะนี้ข้ากำลังจะเข้าวังไปขอรับโทษ ให้ฝ่าบาททรงคืนความเป็นธรรมให้ข้า”

เมื่อได้ยินดังนั้น ทำให้ทุกคนตะลึงพรึงเพริดไปทั่ว

เซียวรั่งเป็นคนเช่นนี้หรือ?

หลินจืออินแพทย์หญิงแห่งชายแดนที่ช่วงนี้ได้รับคำชื่นชม หน้าด้านเพียงนี้เชียวหรือ?

สีหน้าชายหนุ่มเปลี่ยนไป ยามหันมองชุยอันหรู เจือด้วยความค้นหามากขึ้น

“หรือคนในตระกูลเซียวไม่มีผู้ใดมีเหตุผลแล้วหรือ? ถึงได้รังแกกันขนาดนี้” มีคนเอ่ยอย่างไม่พอใจ

“ถูกต้อง ฮูหยินใหญ่ตระกูลเซียวเจอใครเป็นต้องเอ่ยปากชมโหวฮูหยินน้อย คิดว่าคงไม่เห็นด้วยที่อันหนานโหวตระบัดสัตย์ละทิ้งคุณธรรมเช่นนี้”

ตันชิงอดไม่ไหว จึงโพล่งออกไป “คนตระกูลเซียวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ฉวยโอกาสตอนคุณหนูพวกข้าไปจัดการงานศพที่จวนเจิ้นกั๋วกง ไปพบคุณหนูตระกูลหลินแล้ว อีกทั้งยังแอบหารือกับตระกูลหลินเรียบร้อยแล้ว ท่านกั๋วกงและซื่อจื่อของพวกข้าเสียชีวิต พวกเขากลับฉลองชัยที่ลูกชายได้เลื่อนขั้นอย่างออกหน้าออกตา หนำซ้ำยังปิดบังคุณหนูพวกข้า ให้คุกเข่ารับราชโองการที่ท่านโหวเซียวจะตบแต่งภรรยาเท่าเทียมไปพร้อมกัน!”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 3

    คำพูดเช่นนี้ยิ่งสะเทือนใจทุกคนที่อยู่ที่นี่มากมายชุยอันหรูกล่าวต่อไป “วันนี้ขอให้ทุกคนช่วยเป็นพยานด้วย ข้าชุยอันหรูแต่งเข้าตระกูลเซียวมาสองปี กตัญญูผู้อาวุโส เลี้ยงดูน้องสาวสามีอย่างดี ไม่เคยทำความผิดใดมาก่อน ยามนี้เมื่อบิดาและพี่ชายสิ้นชีพ กลับถูกคนอื่นรังแกกันเพียงนี้ จึงยืนกรานตัดขาดบุญคุณคุณธรรมกับตระกูลเซียว นับจากวันนี้เป็นต้นไป สมุนไพรราคาแพงที่เคยมอบให้ฮูหยินผู้เฒ่าจากร้านขายยาในเมือง เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่มอบให้ฮูหยินใหญ่เลือกตัดเป็นชุดจากร้านขายผ้า และยังมีเครื่องหัวอัญมณีที่เซียวเสวี่ยหลิงใช้ ข้าจะไม่ใช้สินเดิมของตัวเองจ่ายให้อีกแล้ว เชิญเถ้าแก่แต่ละร้านไปเรียกเก็บจากจวนโหวได้เลย”ผู้คนที่มุงดูต่างมึนงง ตระกูลเซียวหน้าไม่อายขนาดนี้เชียวหรือ ถึงกับใช้สินเดิมของหลานสะใภ้มาตั้งสองปี“มิน่าละ ก่อนหน้านี้ตระกูลเซียวตกต่ำถึงขนาดนั้นแล้ว จู่ ๆ ถึงได้ล่ำซำขึ้นมา”“ถูกต้อง กินของคนอื่นใช้ของคนอื่น สุดท้ายยังรังแกคนอื่นลับหลัง”ในที่สุดซวีหวยก็รีบไปตามหมอมาจนได้ ชุยอันหรูไม่สนใจ และไม่ถือสาที่หมอจะตรวจหญิงสาวคนนั้นใหม่ พอดีกับที่ความสนใจของชาวบ้านถูกหันเหไปนางฉวยโอกาสนี้เอ่

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 4

    เมื่อรู้ว่าชุยอันหรูเข้าวัง ทุกคนในตระกูลเซียวไม่มีแก่ใจจะต้อนรับแขกเหรื่อหลินจืออินขอตัวกลับบ้านอย่างรู้กาลเทศะเซียวรั่งส่งนางออกจากจวนด้วยตัวเอง อีกทั้งยังปลอบใจกันยกใหญ่หลินจืออินรู้สึกแค่เริ่มต้นนางก็ชนะแล้ว จึงอารมณ์ดีมาก จนกระทั่งกลับไปถึงหน้าประตูตระกูลหลิน ยังตกรางวัลให้คนเฝ้าประตูคราวนี้บ่าวในตระกูลหลินรู้กันไปทั่วว่าคุณหนูใหญ่ท่านนี้ ที่แอบหนีออกไปโดยพลการ จนทำให้นายท่านกับฮูหยินอับอายขายหน้า กำลังจะได้ดิบได้ดีทว่าสุดท้ายตรงหน้าประตูใหญ่ตระกูลหลิน กลับมีคนกลุ่มหนึ่งมายืนล้อมวงกัน จากนั้นตีฆ้องร้องป่าวอย่างเป็นลำดับ เมื่อคนตระกูลหลินได้ยินเสียง จึงรีบมาที่ประตูทางเข้า อยากจะดูว่าเกิดอะไรขึ้นทว่าเมื่อได้ยินคำอวยพรอย่างชัดเจน กลับสีหน้าซีดเซียว!“ตระกูลหลินมีบุตรสาวแรกแย้ม กลายเป็นผู้มีผลงานในชั่วข้ามคืน พ่อแม่พี่น้องไม่ได้ผลประโยชน์ คิดแต่จะแต่งงานกับสามีผู้อื่น” นี่มาอวยพรหรือ? เห็นได้ชัดว่ามาหาเรื่องหลินจืออินที่เมื่อครู่เพิ่งกระหยิ่มได้ใจทั้งตกใจและโมโห คนพวกนี้กล้าดูถูกตัวเองขนาดนี้เชียวหรือ?“ที่นี่คือจวนตระกูลหลิน ไม่ใช่ที่ที่พวกเจ้าจะมากำเริบเสิบสาน!”

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 5

    หลังจากชุยอันหรูได้ยิน รีบลงจากรถม้าทันที พร้อมวิ่งไปที่ประตูทางเข้าเสียงจากด้านใน ดังออกมาอย่างชัดเจน“พวกเจ้าคนตระกูลเซียวที่เห็นแก่ผลประโยชน์ ไร้ศีลธรรมจรรยา ถึงกับกล้าทำเรื่องที่ไร้ยางอายถึงเพียงนี้ ไม่กลัวฟ้าดินลงโทษ ไม่กลัวต้องตายโหงตายห่ากันทุกคนหรือ!”“ลองไปดูทั่วเมืองหลวงสิ มีบ้านไหนที่กล้าแต่งอนุภรรยาเข้าจวนอย่างออกหน้าออกตา ในขณะที่พ่อตากับพี่ชายภรรยาเพิ่งตายได้ร่างกระดูกไม่ทันเย็น แต่พวกเจ้าตระกูลเซียวกลับจะแต่งภรรยาเท่าเทียม ซ้ำยังไปขอพระราชทานต่อหน้าพระพักตร์ ไม่กลัวสุสานบรรพบุรุษตระกูลเซียวจะระเบิด ลูกหลานอับอายขายหน้าบ้างหรือ!”“ข้าจะบอกพวกเจ้านะ จวนเจิ้นกั๋วกงยังมีลูกชายข้าอยู่ แต่ต่อให้ไม่มีบุรุษสักคน ข้าที่เป็นหม้ายก็จะขอสู้ตาย ทวงความยุติธรรมให้น้องสาวสามีข้าแน่นอน!”ชุยอันหรูอบอุ่นหัวใจ ความมั่นใจจากครอบครัวบ้านมารดา กลับได้มาจากพี่สะใภ้หรือนี่ช่วงเวลาที่ผ่านมา แรงกดดันที่พี่สะใภ้ได้รับ จะน้อยไปกว่านางได้อย่างไร?“วันนี้โชคดีที่ข้ามา ไม่อย่างนั้นคงจับไม่ได้ว่าพวกเจ้าคิดจะใช้สินเดิมของน้องสาวสามีข้า ไปสู่ขอนังหน้าด้านตระกูลหลินนั่น เห็นว่าจวนเจิ้นกั๋วกงของพ

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 6

    คนตระกูลเซียวคาดคิดไม่ถึงว่าในวังจะส่งคนมาจริงๆ คำพูดเมื่อครู่ของชุยอันหรู ทำให้พวกเขาเริ่มกระวนกระวายเหลียงจื่ออวี้ก็มองชุยอันหรูอย่างกังวลเช่นกัน กลัวว่านางแค่กำลังอวดเก่ง“วางใจได้”ชุยอันหรูตบมือของนางเบาๆ ก่อนจะดึงชุยหลางมาที่ข้างกายตัวเองและคุกเข่ารับราชโองการด้วยกัน“ด้วยโองการแห่งสวรรค์ ฝ่าบาทมีพระบัญชา อันหนานโหวละเมิดหลักจริยธรรม แต่งภรรยาเท่าเทียมในช่วงไว้อาลัย เราเห็นแก่ที่ความดีความชอบด้านการศึกซึ่งไม่เคยมีมาก่อน แม้ปฏิเสธคำร้องปลดสามีของบุตรสาวเจิ้นกั๋วกง แต่อนุญาตให้หย่า ให้มีผลทันที จวนอันหนานโหวต้องคืนค่าใช้จ่ายบุตรสาวเจิ้นกั๋วกงในสองปีทั้งหมดภายในสามวัน รวมเป็นเงินเจ็ดแสนห้าหมื่นตำลึง จบราชโองการ”เซียวรั่งมองตาค้างแล้ว ชุยอันหรูเข้าวังก็เพื่อขอราชโองการปลดสามี?“ชุยอันหรู เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? พ่อและพี่ชายของเจ้าไม่อยู่แล้ว หย่ากับพี่ชายข้า ยังจะมีใครเอาเจ้าอีก?”เซียวเสวี่ยหลิงเป็นคนแรกที่ทนไม่ไหว ตะคอกออกมาโดยตรงสิ่งที่ฮูหยินผู้เฒ่าปวดใจมากกว่านั้นคือเงินทอง“เจ็ดแสนห้าหมื่นตำลึง เหตุใดเจ้าไม่ไปปล้นเลยล่ะ?”ชุยอันหรูมองพวกนางด้วยสายตาเย็นชา“ถ้าหากพวกท่าน

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 7

    จวนตระกูลหลิน“ตกลงชุยอันหรูรู้เรื่องที่เจ้าท้องได้อย่างไร?” จนถึงตอนนี้นางเวินก็ยังไม่เข้าใจหลินจืออินแทบจะนอนอยู่ตรงนั้นอย่างสิ้นหวัง นึกถึงตัวเองกลับมาอย่างมีเกียรติ และยังสามารถเข้าจวนโหว เดิมทีควรจะมีหน้ามีตาสมปรารถนา แต่เพราะการกระทำที่สวนทางของชุยอันหรู กลับตาลปัตรในพริบตาตอนนี้ชื่อเสียงของนางป่นปี้แน่“ท่านแม่ ข้าไม่รู้จริงๆ…”เสียงของหลินจืออินแหบแห้ง“ไม่แน่นางเฒ่าคนนั้นนั่นแหละที่ได้ใจจนชั่วขณะเผลอพลั้งปาก ผู้อาวุโสสองคนนั้นของตระกูลเซียว คนหนึ่งเห็นผลประโยชน์ลืมบุญคุณ อีกคนหน้าเนื้อใจเสือ น้องหญิงแต่งไปต้องได้รับความคับข้องใจแน่นอน”หลินชวนที่เซียวเสวี่ยหลิงชอบมาโดยตลอด บ่นอย่างไม่เกรงใจหลินจื้อหย่วนเงียบมาโดยตลอด สีหน้าบึ้งตึง“มาพูดเรื่องนี้ตอนนี้มีประโยชน์อะไร? เพราะเจ้าคนเดียว ชื่อเสียงของตระกูลหลินถูกทำลายหมดแล้ว”“ชุยอันหรูคนนี้เหลวไหลจริงๆ ไม่มีจวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว นางกลับไม่อยากพึ่งใบบุญของจวนอันหนานโหว และยังบ้าๆ บอๆ จะสู้จนตายไปข้างหนึ่ง หมดหนทางเยียวยาแล้วจริงๆ”ท้ายที่สุดนางเวินก็ตำหนิลูกสาวไม่ลง“เอาเป็นว่ามอบเรื่องนี้ให้เซียวรั่งไปจัดการ เขาต้องให

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 8

    ความอัปยศอดสูที่ชัดเจนเช่นนี้ ตระกูลหลินไม่อยากรับต่อให้หักแค่หนึ่งตำลึง วันข้างหน้าจะไม่สามารถเงยหน้าต่อหน้าชุยอันหรูได้อีก“นี่น้องหญิงพูดอะไรเนี่ย ตระกูลหลินของเราเลื่อมใสพ่อลูกเจิ้นกั๋วกงมาโดยตลอด จะมาเรียกร้องเช่นนี้ในเวลานี้ได้อย่างไร เป็นเพราะคนรับใช้ของจวนอันหนานโหวถ่ายทอดคำพูดผิดแน่ๆ ส่งผลให้ท่านโหวเข้าใจเจตนาผิด”เวลานี้หลินจืออินยังคิดจะแสร้งเป็นคนดี“ไม่ตายแล้ว?”ชุยอันหรูกล่าวถากถางมองดูสีหน้าของหลินจืออินที่ปั้นยาก นางอารมณ์ดีเป็นพิเศษ“เจอข้าครั้งหน้า จำไว้ว่าอย่าเรียกน้องหญิง ข้าเป็นคนต่ำตมมากเลยหรือ ถึงรับคนอย่างเจ้าเป็นพี่หญิง?”ในที่สุดคำพูดของชุยอันหรู ก็ทำให้สัญชาตญาณการปกป้องน้องสาวของหลินชวนระเบิด“เจ้าอย่าให้มันมากนัก น้องหญิงข้าเกรงใจเจ้ามากแล้ว เจ้ายังเอาอย่างไรอีก?”เหลียงจื่ออวี้ถามทันที “บอกข้าสิ อันหรูทำเกินไปอย่างไร? ถ้าหากน้องหญิงของเจ้าพบเจอเรื่องเช่นนี้ เจ้าจะหัวเราะเหอะๆ เกลี้ยกล่อมให้น้องสาวเจ้าอดทนหรือ?”หลินชวนเงียบแล้ว เพราะเขาเป็นคนสองมาตรฐานหลินจื้อหย่วนเอ่ยปาก “ข้าน้อยเข้าใจได้ว่าฮูหยินท่านแม่ทัพกับแม่นางชุยโกรธ แต่ก็ไม่จำเป็นต้อ

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 9

    ชุยอันหรูส่ายศีรษะ “นางไม่กล้า ตอนนี้ข้าอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ อีกทั้งท่านพ่อกับท่านพี่ตายในสนามรบ ถ้าหากนางจะให้ข้าแต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์ ผู้คนทั่วใต้ฟ้าล้วนรังเกียจ”เหลียงจื่ออวี่พยักหน้า “อืม ในเมื่อเจ้าพูดเช่นนี้แล้ว ข้าก็วางใจแล้ว ปัจจุบันจวนเจิ้นกั๋วกงของเรายังมีหลางเอ๋อร์ บรรดาศักดิ์ของเจิ้นกั๋วกงก็ไม่ถูกเรียกคืน ใครก็อย่าคิดดูถูกตระกูลชุยของพวกเรา”ชุยอันหรูคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็ตัดสินใจทำให้พี่สะใภ้มีสติ“พี่สะใภ้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะฝ่าบาทระแวงท่านพ่อกับท่านพี่ ก็ไม่จำเป็นต้องนำทหารออกรบด้วยตัวเอง และข้าก็ไม่จำเป็นต้องออกเรือนกับผู้มีศักดิ์ต่ำกว่า”“วันนี้หากไม่ใช่เพราะข้าทำให้เรื่องราวมันบานปลาย อีกทั้งเรื่องที่หลินจืออินท้องก็กลายเป็นที่หัวเราะเยาะของผู้คน เกรงว่าข้าคงขอราชโองการหย่าฉบับนี้ไม่ได้”เหลียงจื่ออวี้ตะลึง อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจชุยอันหรูถอนใจแล้วกล่าว “เพราะเซียวรั่งใช้ความดีความชอบด้านการทหารบีบคั้นฝ่าบาท”“ท่านพ่อกับท่านพี่มีความดีความชอบด้านการศึกเช่นนี้ ยังไม่เคยบังคับฝ่าบาททำอะไรเลย เขาที่เป็นขุนนางใหม่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ ก็กล้าขอพระราชทา

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 10

    วันรุ่งขึ้นสมาชิกสกุลเซียวที่ถูกไล่ออกมารวมตัวกันแต่เช้าผู้นำคือชายชราคนหนึ่ง เขาไม่เพียงถูกชุยอันหรูไล่ออกจากร้านค้า แม้แต่ลูกชายก็ถูกจับแล้ว“นางที่เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ถือสิทธิ์อะไรมาบอกว่าไม่ให้พวกเราทำ ก็ไม่ให้พวกเราทำเลย?”“ไป ไปคุยกับนาง”คนทั้งกลุ่มยกพลไป แม้แต่เซียวรั่งที่อยู่บ้านก็ได้รับข่าวเช่นกันนางหยางกังวลเล็กน้อย “ปล่อยพวกเขาไปเช่นนี้ จะเพิ่มปัญหาให้เจ้าหรือไม่?”เซียวรั่งแค่อยากเห็นชุยอันหรูอยู่ในสภาพหัวหมุน “ท่านแม่ พวกเขาอยากโวยวายก็ให้พวกเขาโวยวาย! พวกเราไปตระกูลหลินก่อน แม้การแต่งงานนี้พระราชทานโดยฝ่าบาท แต่อย่างไรก็ต้องทำให้อีกฝ่ายพอใจจึงจะถูก”ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้า “ถูกต้อง ครอบครัวทางแม่ของฮูหยินหลินเป็นตระกูลชั้นสูงของจริง ตาของจืออินเป็นมหาราชครู ลุงคืออัครมหาเสนาบดี เจ้าแต่งงานกับจืออิน มีสองท่านนี้อยู่ ใครกล้าหัวเราะเยาะเจ้าจริงๆ?”หึ คอยดูเถอะ ตอนนี้รั่งเอ๋อร์กำลังอยู่ในช่วงที่รุ่งโรจน์ รอจืออินแต่งเข้ามา พวกเรากับตระกูลเวินก็ดองญาติกันแล้ว อย่างไรก็ต้องมีการสนับสนุนบนราชสำนัก พวกเราอยากกดดันชุยอันหรู ยังไม่ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือหรือ?”“ถึงเวลาต่

บทล่าสุด

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 100

    “ตอนนี้เซียวรั่งแต่งงานกับหลินจืออินแล้ว ในภายภาคหน้าตระกูลหลินกับตระกูลเวินก็ต้องเข้าข้างเขาอย่างแน่นอน...”เหลียงจื่ออวี้ก็นึกถึงเรื่องเหล่านี้ นางจึงถามออกมาตรง ๆ“พี่สะใภ้ ข้าย่อมมีวิธีของข้าอยู่แล้ว ท่านมิต้องกังวล ตอนนี้ข้ายังมิอาจอธิบายให้ท่านฟังได้ อย่างไรก็ตามข้ารับปากท่าน สามปีให้หลัง ตอนที่ท่านกับหลางเอ๋อร์กลับมา ผู้คนในเมืองหลวงที่ทำให้ท่านรู้สึกรังเกียจเหล่านั้น หากไม่ตายแล้วก็ต้องหมดสภาพ”เมื่อเห็นแววตาที่แน่วแน่ของชุยอันหรู เหลียงจื่ออวี้ก็รู้ว่านางมิได้โกหกตนยิ่งไปกว่านั้นนางเข้าใจตนเองอย่างชัดเจนแล้ว ภูมิหลังของนาง ความรู้ของนาง และสมองของนาง การอยู่ที่นี่ต่อไปมิได้ช่วยเหลือสิ่งใดชุยอันหรูได้เลย ในทางตรงกันข้ามอาจจะกลายเป็นภาระของนาง“ข้ารู้แล้ว แต่เจ้าต้องปกป้องตนเองให้ดี หลังจากสามปี เจ้าก็มิจำเป็นต้องไว้ทุกข์อีกแล้ว หากเจอบุรุษที่เหมาะสมก็อย่าพลาดโอกาสเชียว”ตอนนี้ตระกูลชุยมีนางเพียงคนเดียวที่มีคุณสมบัติช่วยชุยอันหรูจัดการเรื่องการแต่งงาน“ได้ ข้ารู้”วันรุ่งขึ้น หลังจากที่เวินจี้หลี่เลิกประชุมเช้าก็เจาะจงไปที่จวนอ๋องอี้ หลังจากเมื่อวานนางเวินไปเอะอะโวยวา

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 99

    หลังจากชุยอันหรูรับมาแล้ว ก็ตั้งใจอ่านอยู่รอบหนึ่ง“ระวังว่าจวนอ๋องอี้จะไม่ส่งผลดีต่อศิษย์ของหมอเทวดา”ในตอนนั้นนางเข้าใจแล้ว ช่วงที่ศิษย์ของหมอเทวดาเข้ามาเมืองหลวงประจวบเหมาะกับองค์ไทเฮากำลังจะออกจากเมืองหลวงในสายตาของไท่เฟยจวนอ๋องอี้ ก็ยังมิแน่ว่าจะทำเพื่อรักษาลู่จิ่งเชินหากทำเพื่อให้ลู่จิ่งเชินตายเร็วขึ้น พวกเขาจะไม่ปล่อยให้ศิษย์ของหมอเทวดาติดต่อกับเขาอย่างแน่นอน วิธีที่ดีที่สุดและตรงไปตรงมาที่สุดก็คือทำให้เขาหายตัวไปนางค่อย ๆ นำจดหมายหย่อนเข้าไปในกระถางธูป และมองดูมันกลายเป็นเถ้าถ่าน“ศิษย์พี่เข้ามาในเมืองหลวงครั้งนี้ เกรงว่าคงต้องเจอปัญหาไม่น้อย”“แน่นอนว่าจะต้องมีคนจำนวนมากแย่งชิงศิษย์ของหมอเทวดา...” ตันจูเอ่ยวิเคราะห์ตันเสวียนนิ่งเงียบ ปกตินางจะมิชอบเอ่ยขัดจังหวะตันชิงกลับเป็นคนซ่อนความในใจไม่อยู่ จึงเอ่ยออกมาตามตรงว่า “หากพูดตามหลักแล้ว คนที่มีความสามารถเช่นศิษย์พี่ของท่านหญิง มิใช่คนมากมายต้องการปกป้องหรอกหรือ? อย่างไรเสียก็ไม่มีผู้ใดรับประกันได้ว่าวันข้างหน้าตนเองและครอบครัวจะไม่เจ็บป่วยหนัก หมอธรรมดาก็ไม่อาจรักษาได้”ชุยอันหรูไม่รีบร้อนอธิบาย ตันจูจึงเอ่ยขึ้น

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 98

    เซียวรั่งมิได้แสดงท่าทีใดนัก ที่จริงเขาคิดวิธีนี้ออกตั้งแต่ตอนที่อยู่ตระกูลเวินแล้ว แต่มิกล้าพูดเท่านั้นในเวลานี้นางเวินพูดออกมาแล้ว เขาก็มีความหวังเพิ่มขึ้นมาบ้างบางที หากมารดาสามีไปเอะอะโวยวายที่ตระกูลเวินเอง พวกเขาก็คงจะช่วยเหลือตนหลินจืออินก็คิดว่าวิธีนี้ดีเช่นกัน ในตอนนั้นนางก็นึกไม่ออกจริง ๆ“หากข้าคิดได้ พี่ชายของเจ้าจะคิดไม่ออกได้อย่างไร เพียงแต่มิอยากออกหน้าเท่านั้นเอง ถึงอย่างไรตระกูลเวินก็มิใช่เขาเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ข้ามิเชื่อหรอกว่าท่านพ่อกับท่านพี่จะไม่ช่วยข้า”เป็นจริงตามคาด ท่าทีของนางเวินเป็นไปในทิศทางที่เซียวรั่งคาดไว้ในขณะที่พวกเขากำลังสนทนากัน บ่าวรับใช้ก็เข้ามา“นายท่าน ฮูหยิน...”“มีอะไรหรือ?”สีหน้าของบ่าวรับใช้ดูแปลกชอบกล คงว่าได้ยินข่าวแปลก ๆ บางอย่างมา“ด้านนอกดูเหมือนมีคนกระจายข่าวว่า อีกไม่กี่วันศิษย์ของหมอเทวดาจะเข้ามาในเมืองหลวง...”“จริงหรือ?” เซียวรั่งแทบจะดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้ข่าวนี้ช่างมาในเวลาที่เหมาะสม ประจวบเหมาะกับการแก้ปัญหาเร่งด่วนของพวกเขา“มิรู้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ แต่ทุกคนก็พูดต่อๆ กัน อย่างไรเสียก็เป็นเรื่องที่เกี่ยว

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 97

    เซียวรั่งกับหลินจืออินมิได้รับประโยชน์ใด ๆ และมิได้กลับจวนในทันที แต่ไปที่จวนตระกูลหลินนางเวินเห็นสีหน้าของพวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาน่าจะพบเจอปัญหาแล้ว“มีสิ่งใดหรือ? เพราะหน้าที่ต้อนรับคณะราชทูตถูกคนแย่งไปหรือ?”หลินจืออินอธิบายว่า “มิใช่เจ้าค่ะ พวกเราเพิ่งกลับมาจากบ้านท่านยาย...”“อยากให้ลุงเจ้าออกหน้า? เดาว่าเขาคงไม่เห็นด้วย” นางเวินคาดเดาบทสรุปได้แล้ว“ถูกต้องเจ้าค่ะ แต่ก็มิใช่ว่าท่านลุงไม่เต็มใจ แต่เป็นพี่ชายที่ปฏิเสธ...ป้าสะใภ้ก็ไม่พูดสิ่งใดตั้งแต่แรกจนจบ จะต้องไม่อยากช่วยเหลืออย่างแน่นอน”ความขุ่นเคืองของหลินจืออินพรั่งพรูออกมาเป็นคำพูด“พี่ชายเจ้าผู้นี้กับหรูซวง ได้รับการอบรมสั่งสอนจากป้าสะใภ้เจ้า จึงไม่สนิทสนมกับพวกเราแม้แต่น้อย พวกเราก็มิใช่คนนอก เอาแต่กังวลว่าพวกเราจะทำให้ตระกูลเวินเดือดร้อน ระแวดระวังมาหลายปีแล้ว ก็ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย”หลินจืออินรีบคว้าแขนของนาง “ท่านแม่...”ตอนนี้นางเวินถึงนึกขึ้นได้ว่า ยังมีเซียวรั่งอยู่ข้าง ๆนางเปลี่ยนสีหน้าในทันที “เซียวรั่ง เรื่องของวันนี้ เจ้าอย่าโทษลุงเจ้าเลย เรื่องที่ฝ่าบาททรงตัดสินพระทัยแล้ว ผู้ใดก็มิอาจเปลี่ยนแปลง หากลุงเ

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 96

    “ถ้าเช่นนั้นท่านลุงกราบทูลฝ่าบาทไปตามตรงว่า เซียวรั่งเป็นคนที่เหมาะสมกว่า ท่านลุงเป็นถึงอัครมหาเสนาบดี ทำเช่นนี้มิได้หรือเจ้าคะ?” หลินจืออินนึกถึงความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งเวินหรูเฟิงเอ่ยเตือนอีกครั้ง “ครั้งนี้คนที่ฝ่าบาททรงเลือกเป็นที่แน่นอนแล้วคือหลี่ฉุนจงเสนาบดีกรมพิธีการ เป็นพระเชษฐาแท้ ๆ ของฮองเฮา เจ้าหวังว่าจะให้ท่านพ่อใช้เหตุผลใดถึงจะทำให้ฝ่าบาททรงเพิกถอนเขา ทั้งยังมิทำให้ฮองเฮาทรงแค้นเคืองตระกูลเวินของพวกเรา?”คราวนี้หลินจืออินอับจนหนทางอย่างสิ้นเชิงแล้ว นางมองเวินหรูเฟิงด้วยความขุ่นเคือง“ท่านพี่ ท่านดูแคลนพวกเรามากใช่หรือไม่?”เวินหรูเฟิงถึงกับงงงัน เอาความคิดนี้มาจากที่ใด?“น้องสาว เจ้าดูเหมือนจะเข้าใจผิดบางอย่าง”“ข้ามิได้เข้าใจผิด ข้าออกเรือนท่านก็มิได้มา พวกเรากลับมาเยี่ยมบ้านหลังแต่งงานท่านก็มิได้มา...”หัวข้อสนทนาของหลินจืออิน ถูกโยงไปอีกทิศทางหนึ่ง ในเวลานี้นางเมิ่งเอ่ยขึ้นว่า “ในเมื่อเจ้าพาน้องเขยมาสอบถามถึงจวนแล้ว เจ้ารีบเอ่ยขอโทษก็พอ มิต้องอธิบายให้มากความ”หลังจากนางเอ่ยจบ เริ่มแรกก็ทำเป็นตัวอย่าง “จืออินเอ๋ย สองครั้งนั้นป้าสะใภ้มีธุระก็มิได้ไปเช่นกัน แล

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 95

    หลินจืออินเอ่ยจบ ทุกคนพากันเงียบสนิทความเงียบของเซียวรั่ง เป็นเพราะเสียอารมณ์กับเรื่องการแต่งงานที่เคยเกือบจะเกิดขึ้นส่วนความเงียบของคนในตระกูลเวิน ก็เป็นเพราะพวกเขาไม่มีทางจะตามหาหมอเทวดาได้ มิเช่นนั้นหลายปีมานี้พวกเขาก็คงทนรับทางด้านของไทเฮาไม่ไหวไปนานแล้ว“จืออิน ความคิดนี้ของเจ้าก็ไม่เลว ทว่าพวกเรามิรู้ว่าหมอเทวดาอยู่ที่ใด...” เวินจี้หลี่อธิบายด้วยความอึดอัดใจ“เป็นไปได้อย่างไร ทุกครั้งขอเพียงท่านตาเกิดปัญหา หมอเทวดาก็มักจะมาปรากฏตัว หลายวันก่อนท่านตาทวดร่างกายไม่สบาย ก็มิใช่หมอเทวดาให้คนนำยามาส่งให้ กินยาจนกระทั่งหายจากอาการป่วย...หากพวกท่านหาเขาไม่พบ แล้วเขาจะมาปรากฏตัวอย่างทันเวลาทุกครั้งได้อย่างไร...”คำถามของหลินจืออิน ที่จริงแล้วก็สร้างความสงสัยให้ตระกูลเวินมานานมาก “จืออิน พวกเรามิรู้ที่พำนักของหมอเทวดาจริง ๆ เขาไปมาอย่างไร้ร่องรอยเสมอ เมื่อหลายปีก่อนเคยมาที่จวนมหาราชครูครั้งหนึ่งจริง ๆ นับแต่นั้นมา ทุกครั้งที่ท่านตาเจ้าล้มป่วย จะมีคนนำยามาส่งให้โดยเฉพาะ พวกเราก็ลองสะกดรอยตามคนส่งยา ทว่ากลับไม่ได้เบาะแสใดเลย”ฮูหยินผู้เฒ่าเฮ่อเป็นพยานได้ว่า พวกเขาไม่มีหนทางจริง ๆ

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 94

    มหาราชครูเวินคิดจะวางมาดน่าเกรงขามตามเดิม ทว่าสำหรับหลานสาวที่เอ็นดูมาตั้งแต่เล็กผู้นี้ คงมิอาจทำได้เสียแล้ว“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ต้องบอกให้ตารู้ว่า เจ้าต้องการจะทำสิ่งใดกันแน่...”“หรือเป็นเพราะคำพูดที่อ๋องอี้เอ่ยในราชสำนักวันนี้ ทำให้ฝ่าบาททรงยึดหน้าที่การต้อนรับคณะทูตของเซียวรั่งกลับไป?”เวินจี้หลี่ครุ่นคิดอยู่เล็กน้อยก็รู้ว่าพวกเขาต้องการทำสิ่งใด“ท่านลุงยอดเยี่ยมยิ่งนัก จืออินยังมิทันเอ่ย ท่านก็คาดเดาได้ถูกแล้ว”เวินจี้หลี่ยิ้มจาง ๆ พร้อมเอ่ยว่า “เจ้าหนอเจ้า วันนี้มีเพียงเรื่องเดียวนี้เท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับเขา เจ้าคิดว่าจะเป็นเรื่องใดได้อีกเล่า?”“ข้าเกิดคิดถึงท่านตาท่านยาย และคิดถึงท่านลุงมิได้หรือเจ้าคะ?”หลินจืออินโผเข้าไปข้างกายเวินจี้หลี่ราวกับผีเสื้อตัวหนึ่ง และคล้องแขนของเขาไว้“ท่านลุงพวกเราทำศึกชนะ การต้อนรับคณะทูตในครั้งนี้ ท่านโหวมิใช่คนที่เหมาะสมที่สุดหรอกหรือ? หากเปลี่ยนให้ผู้อื่นไปคงไม่มีอำนาจโน้มน้าวกระมัง?”นางเมิ่งเฝ้าดูอย่างเงียบ ๆ ดื่มชาด้วยท่าทางผ่าเผย ประโยคเดียวก็มิเอ่ยเซียวรั่งมองเห็นท่าทางของนางเมิ่ง ในใจก็นึกถึงสิ่งที่หลินจืออินบอกเขาเมื่อหลายวัน

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 93

    “จืออิน เจ้ามีวิธีใด?” ในเวลานี้เซียวรั่งรู้สึกเหนื่อยใจความสุขของการมีภรรยาหลายคนที่เขาวาดฝันนอกจากจะไม่เคยได้รับ ทว่าภายใต้การจัดการต่าง ๆ นานาของชุยอันหรู กลับต้องกลายมาเป็นสภาพเช่นทุกวันนี้แม้ว่าเขาจะได้แต่งงานกับหลินจืออินแล้ว ตอนกลับไปบ้านฝ่ายหญิงก็ได้พบปะคนตระกูลเวิน ทว่าทุกครั้งที่ตนเอ่ยว่าจะไปเยี่ยมเยือนจวนมหาราชครู เวินจี้หลี่ก็จะใช้เหตุผลต่าง ๆ มาคัดค้านเขาเข้าใจดี คนตระกูลเวินดูถูกเขาเพราะเขาเป็นคนทรยศจวนเจิ้นกั๋วกง“ท่านโหว พวกเราไปตระกูลเวินสักครั้งเถิด”คำพูดของหลินจืออิน ประจวบเหมาะกับทำให้จิตใจที่วิตกกังวลของเซียวรั่งได้คลายลงในทันทีเขาถึงกับคิดว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญที่สรรค์ประทานให้ เรื่องที่เขากลุ้มใจเป็นที่สุดก็คือจะเข้าไปสร้างสัมพันธ์กับตระกูลเวินอย่างไร นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้หลินจืออินจะช่วยเขาแก้ปัญหา“ตอนนี้หรือ?”น้ำเสียงของเขาฟังดูสั่นเครือฮูหยินผู้เฒ่ากับนางหยางต่างมิกล้าพูดมาก พวกเขาเข้าใจดีว่า หากตีสนิทกับตระกูลเวินได้จริง ๆ ก็จะนำพาผลประโยชน์มาให้พวกเขาได้มากเพียงใด“แน่นอนว่า หากรอจนกระทั่งองค์ชายสามของต้าชิ่งผู้นั้นเสด็จมาถึง ทั้งหมดก็จะไม่

  • วิวาห์ใหม่ไปเป็นชายาตัวร้าย   บทที่ 92

    เซียวเสวี่ยหลิงชอบยกยอหลินจืออินอยู่เสมอ ไม่เพียงเพราะตระกูลเวินที่อยู่เบื้องหลังนางเท่านั้น ยังเป็นเพราะนางปรารถนาจะแต่งงานกับหลินชวนมาตลอดแม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะเป็นจวนป๋อ ทว่ากลับได้รับการเมินเฉย ทำให้นางเมื่ออยู่ต่อหน้าคนตระกูลหลินที่มิใช่ขุนนางใหญ่ยังคงรู้สึกไม่มั่นใจตามเดิมตอนนี้นางเป็นน้องสาวของอันหนานโหวแล้ว ตามหลักแล้วก็ควรมองหาคนที่มีสถานะสูงกว่า ทว่านางยังคงทุ่มเทใจให้กับหลินชวนหลินจืออินลูบคลำท้องของตนเอง “ตอนนี้ไม่สำคัญแล้ว สถานะของนางในเมืองหลวงจะเป็นอย่างไร ข้ามิจำเป็นต้องพูดให้มากความ นางล่วงเกินฮองเฮากลับคิดจะหลีกหนี ทำได้ง่ายเช่นนั้นที่ไหนกัน ถึงแม้จะฝากฝังคนไว้กับไทเฮา แล้วจะอย่างไร? หรือว่าองค์ไทเฮาจะไม่เสด็จกลับมาอีกแล้ว? ภายภาคหน้า ชุยหลางมิต้องการจะรับตำแหน่งต่อหรือ? คนที่นางล่วงเกินเหล่านั้น ก็ไม่คิดจะให้นางชดใช้หรือ?”เซียวเสวี่ยหลิงดูเหมือนก็ตั้งตารอคอย “คนอย่างนาง ต่อให้ตายหมื่นครั้งก็ไม่สามารถทำให้ข้าคลายความโกรธแค้นได้...”ขณะที่พวกเขากำลังสนทนากันอยู่ เซียวรั่งก็กลับมาแล้ว“ท่านโหว เหตุใดวันนี้ถึงกลับจวนมาเร็วเช่นนี้?”หลินจืออินรีบลุกขึ้นและเด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status