คอนโดมีเนียมหรูนางแบบสาวนั่งดูทีวีได้ยินเสียงเคาะประตูก็เดินไปเปิดก่อนจะถอนหายใจยาวอย่างเบื่อหน่าย
“มาทำไมยัยวีวี้แผนแกคราวก่อนทำเอากานต์โกรธฉันเอาเป็นเอาตาย โทรไปก็ไม่รับ ไปหาก็ไม่พูดด้วย” “ ฉันมีข่าวเด็ดมาเล่าให้แกฟัง เด็ดสุดๆ เพื่อนฉันที่เป็นพยาบาลเล่าให้ฟัง” “ เรื่องอะไรของแกอีก ฉันไม่เอาด้วยหรอก” “ เด็ดจริงๆ นะ” “ เท่าไหร่ไม่ต้องโยกโย้” “ ห้าพัน” “ ต้องเด็ดจริงๆ นะไม่งั้นไม่จ่าย” จามิกาต่อรอง “ ฉันแน่ใจสิ ไม่งั้นไม่มาด้วยตนเองหรอก” “ ข่าวอะไรของแก” “ เพื่อนฉันบอกว่าแม่คุณกานต์ไปนอนป่วยอยู่โรงพยาบาล ที่สำคัญคุณกานต์กับเมียเค้าหย่ากันแล้ว” “ อะไรนะ” แล้วเสียงกริ๊ดร้องด้วยความดีใจของสองสาวก็ดังลั่นห้อง โรงพยาบาล ตรีรินทร์เผลอหลับไปที่โซฟาพร้อมกับหนังสือนิตยสาร ธมกานต์เดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะมาหยุดมองร่างอดีตภรรยาด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะนั่งลงข้างๆ ก่อนจะเผลอเอามือลูบแก้มเบาๆ ริมฝีปากบาง ก่อนจะก้มลงจูบริมฝีปากเบาๆ ตรีรินทร์ขยับตัวทำให้ธมกานต์ตกใจรีบเปลี่ยนอิริยาบถก่อนปรับสีหน้าให้เคร่งขรึม “ คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ได้ยินเสียง” “ ผมเห็นคุณนอน ก็เลยไม่อยากกวน” “ คุณกานต์ค่ะ เดี๋ยวฉันต้องเข้าบริษัทสักสองชั่วโมง เย็นๆ ฉันจะแวะมาอีกนะคะ” “ ฉันต้องเอางานไปส่งพี่พงค์ คงต้องพรีเซ็นต์งานอีกนิดหน่อย” “ เดี๋ยวผมให้รถไปส่ง” ชายหนุ่มเสนอความช่วยเหลือ “ อ๋อ ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวพี่โตมารับค่ะ วันนี้เค้าหยุดพอดี” ธมกานต์ใบหน้าเคร่งขรึมก่อนจะพยักหน้า ธมกานต์แอบกัดฟันอย่างระงับอารมณ์ที่กำลังเดือดดาล ธมกานต์แอบมองอดีตภรรยากับคู่รักด้วยความแค้นใจ ผิดหวัง ก่อนจะเตะเข้าที่เสาข้างๆ เหมือนจะระบายอารมณ์หึงที่กำลังคุกรุ่น ภาพนายตำรวจหนุ่มที่ประคองอดีตภรรยาขึ้นรถ ช่างขวางหูขวางตาตนยิ่งนักใจเจ็บแปลบ ธมกานต์มีสีหน้าเคร่งขรึมก่อนจะกดโทรศัพท์หานางแบบสาว “ จี้ ว่างไหม ไปทานข้าวด้วยกันหน่อยสิ” จามิกานางแบบสาวร้องกริ๊ดดังลั่นด้วยความดีใจ ธมกานต์หันไปสั่งพยาบาลสาวที่มานั่งเฝ้าไข้มารดาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ฝากแม่ผมด้วยนะครับ ผมจะออกไปทานอาหาร อีกสักประเดี๋ยวภรรยาผมคงกลับ บอกให้เธอรอผมด้วย ผมคงกลับประมาณสักทุ่ม สองทุ่ม คืนนี้ผมจะนอนค้างที่นี่นะครับ” “ ค่ะ” พยาบาลสาวรับคำ จามิกานั่งมองธมกานต์ดื่มเหล้าติดๆ กันหลายแก้วด้วยสายตามาดหมายก่อนจะผสมเหล้าให้เข้มขึ้นไปอีก “ กานต์ค่ะ ไหนชวนมาทานข้าวไม่เห็นทานเลย เอาแต่ดื่ม มีเรื่องกลุ้มใจอะไรหรือเปล่า “ “ แค่อยากดื่ม จี้ดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อย ดื่มให้มันสะใจไปเลย” “ จี้ได้ยินว่าแม่กานต์ป่วยพรุ่งนี้ จี้ไปเยี่ยมนะคะ” “ อืม ตามใจคุณสิ” จามิกายิ้มอย่างสะใจ ตรีรินทร์จ้องมองนาฬิกาด้วยความร้อนใจ สี่ทุ่มแล้วธมกานต์ยังไม่กลับมาเปลี่ยนเวร ตรีรินทร์เดินไปเดินมาก่อนจะตัดสินใจโทรเข้ามือถือของชายหนุ่ม “นี่คุณเมื่อไหร่จะมาสักที ฉันรออยู่นานแล้วนะ แล้วนี่มันก็ดึกมากแล้ว” ตรีรินทร์พูดรัวเร็ว ก่อนจะตกใจจนตัวชาเมื่อได้ยินเสียงนางแบบสาว “ กานต์เค้าคงกลับไปไม่ไหวหรอก นอนอยู่ข้างๆ ฉัน คืนนี้รบกวนเธออยู่เฝ้าคุณแม่ไปก่อนก็แล้วกัน อ้อ แล้วต่อไปเราคงไม่รบกวนให้เธอมาเฝ้าคุณแม่แล้ว เพราะกานต์เค้าเพิ่งขอร้องให้ฉันไปดูแลคุณแม่เอง จริงไหมค่ะกานต์” นางแบบสาวเอามือเขี่ยเท้าชายหนุ่มอย่างเจ้าเล่ห์ เสียงครางของชายหนุ่มทำให้ตรีรินทร์ตัวชาน้ำตาไหลออกมาด้วยความเสียใจ ก่อนจะกลั้นใจตอบกลับไปว่า “ ตกลงค่ะ” “ หวังว่าเธอคงรักษาคำพูด อย่าให้ฉันเห็นเธอที่โรงพยาบาลอีก ไม่งั้นฉันจะคิดว่าที่เธอยังมาเพราะเธอหวังจะได้คืนดีกับกานต์ ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้ เพราะกานต์เค้าเพิ่งชวนให้ฉันไปดูแลคุณแม่ต่อที่บ้าน หวังว่าเธอคงเข้าใจที่เค้าทนแต่งงานกับเธอก็มากพอแล้วสำหรับกานต์เธอคงไม่รู้หรอกว่า กานต์เค้ารักแม่ เค้าทำเพื่อแม่ของเค้า ในเมื่อแม่เค้าขอร้องเค้าก็ต้องทำตาม” นางแบบสาวพูดต่ออย่างสะใจ “ขอบคุณนะคะที่บอก แล้วสบายใจได้เลยว่าฉันจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับแฟนคุณอีก” ตรีรินทร์กดปิดสายก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำไปนั่งร้องไห้อย่างปวดร้าว “ จบแล้วจริงๆ สินะ เค้ามาเรียกร้องสิทธิเค้าคืนแล้ว ตรีรินทร์เธอต้องเข้มแข็ง อย่าร้องสิ อย่าร้อง เธอต้องเข้มแข็ง ยังมีอีกหลายอย่างที่เธอต้องทำ” ตรีรินทร์ร้องไห้จนเผลอหลับไปในห้องน้ำ ตื่นขึ้นมาก็รู้สึกเวียนหัวคลื่นไส้เหมือนที่เป็นประจำ เสียงอ้วกในห้องน้ำทำให้ธมกานต์ซึ่งกำลังเปิดประตูห้องเข้ามาหยุดฝีเท้าก่อนจะเคาะประตูห้องน้ำ “ คุณเป็นอะไรมากไหม ให้ผมไปตามหมอไหม” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยทำเอาตรีรินทร์น้ำตาคลอเบ้าก่อนจะไล่น้ำตา ก่อนจะสูดลมหายใจและเปิดประตูออกมาปรับสีหน้าให้เรียบเฉย เย็นชา “ ไม่ต้องยุ่ง ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคุณ มาก็ดีแล้วฉันจะได้กลับบ้านสักที” “ เออ ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องนอนค้างที่นี่ ทำให้คุณต้องรอ เออ ผม ผม” ธมกานต์เริ่มติดอ่างอึดอัดที่จะพูด “ คุณจะไปไหน ทำอะไร กับใคร ฉันไม่ต้องการรับรู้ เราไม่มีอะไรที่ต้องเกี่ยวข้องกันแล้ว จะไปไหนทำอะไรก็เชิญ” ตรีรินทร์สะบัดหน้าจะเดินจากไป น้ำเสียง ท่าทางและถ้อยคำพูดของอดีตภรรยาทำให้ธมกานต์หงุดหงิดโมโห ชายหนุ่มกระชากแขน แล้วลากหญิงสาวให้มาเผชิญหน้าก่อนที่จะตะเบ็งเสียงดังว่า “ ใช่สินะ ผมจะทำอะไรกับใคร คุณก็ไม่เคยแคร์อยู่แล้วนี่” “ ใช่ เพราะฉะนั้นปล่อยได้แล้ว ฉันจะกลับบ้าน” ธมกานต์กระชากหญิงสาวเข้ามาใกล้พร้อมกับใช้อุ้งมือประคองใบหน้าก่อนจะบดจูบอย่างรุนแรง ตรีรินทร์ทั้งทุบทั้งหยิก แต่ชายหนุ่มกลับทวีความรุนแรงแล้วก็ปรับเปลี่ยนเป็นความอ่อนหวานเมื่อหญิงสาวหยุดดิ้น ตรีรินทร์น้ำตาไหลด้วยความแค้นใจที่เผลอไปร่วมมือกับชายหนุ่มในตอนท้าย คราบน้ำตาทำให้ธมกานต์ชะงัก ปล่อยหญิงสาวในอ้อมแขนด้วยความเสียดาย “ ฉันเกลียดคุณ” ตรีรินทร์พูดเน้นคำ ก่อนจะจ้องมองตาชายหนุ่ม ตาประสานตา ธมกานต์ยิ้มก่อนจะตอบว่า “ ผมชอบความเกลียดของคุณ มันดีกว่าคุณมองผมเป็นอากาศ หรืออะไรไม่รู้ที่อยู่บนโลกนี้” “ คนบ้า มีใครชอบให้คนเกลียดบ้าง” ตรีรินทร์พูดอย่างระอา ธมกานต์หัวเราะก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป ตรีรินทร์ล้างหน้าก่อนจะใช้มือลูบริมฝีปากบางที่บวมเจ่อ จากรอยจูบที่เร่าร้อนรุนแรงที่เพิ่งผ่านมาเมื่อไม่กี่นาที ตรีรินทร์เดินออกจากห้องน้ำในเวลาต่อมา ก่อนจะตีสีหน้าขรึม เรียบเฉย “ รออีกสักแป๊บหนึ่งสิ ผมให้เข้มเอาของมาให้ เดี๋ยวจะให้เข้มไปส่งคุณที่บ้าน” “ ไม่ต้อง ฉันมีปัญญากลับเองได้” “ อวดดี นี่คุณจะอวดดีไปถึงไหนกัน” ธมกานต์พูดอย่างหงุดหงิด “ เรื่องของฉันคุณไม่เกี่ยว อ้อพรุ่งนี้ฉันคงไม่ได้มาเยี่ยมคุณป้า มีธุระต้องทำหลายอย่าง” “ หาเวลามาสักแป๊บหนึ่งไม่ได้หรือไง คุณก็รู้ว่าแม่ผมรักคุณ ตื่นมาก็ถามถึงคุณก่อนทุกที” “ ฉันว่าคุณป้าต้องเข้าใจฉัน คุณบอกอย่างที่ฉันสั่งก็แล้วกัน ฉันกลับก่อนลาก่อน คุณธมกานต์”ธมกานต์ขมวดคิ้วแล้วมองร่างหญิงสาวเดินจากไปสามวันผ่านไป ธมกานต์โมโหหงุดหงิดที่ไม่สามารถติดต่ออดีตภรรยาได้เลยตลอดสามวันนี้ โทรศัพท์ปิดเครื่องตลอดเวลา ธมกานต์ตัดสินใจขับรถมาจอดหน้าบ้านหญิงสาวด้วยความร้อนใจ ก่อนจะตกตะลึงเมื่อเห็นป้าย ประกาศขายบ้านด่วน!! ธมกานต์ออกไปยืนหน้าบ้านก่อนจะตกใจเมื่อได้ยินเสียงตะโกนจากบ้านข้างๆ “พ่อหนุ่ม ใช่คุณธมกานต์ไหมนั่น” ยายข้างบ้านตะโกนถาม “ ครับ ผมธมกานต์” “ ใช่ ผัวเก่าหนูรินทร์ใช่ไหม” ยายคนเดิมตะโกนถาม “ ครับ ผมเอง “ “ เดี๋ยวนะ พ่อหนุ่มหนูรินทร์เค้าฝากของให้” ธมกานต์ขับรถออกมาอย่างใจลอย ก่อนจะนึกถึงถ้อยคำในจดหมายที่หญิงสาวฝากยายข้างบ้านเอาไว้ให้ ถึงคุณธมกานต์ เมื่อคุณได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ฉันคงไปอยู่ในจังหวัดๆหนึ่งในประเทศไทยแล้ว ขอโทษที่ไม่รักษาสัญญาว่าจะดูแลคุณแม่จนกว่าท่านจะพร้อมเดินทาง แต่เท่าที่ฉันคุยกับหมอก็คงอีกไม่นานเท่าไหร่ ฉันจึงไม่เห็นความจำเป็นที่ฉันจะอยู่ต่อ ฉันขอขอบคุณ สำหรับทุกๆอย่างที่คุณทำเพื่อฉัน ต่อจากนี้ไปเราต่างคนต่างก็มีชีวิตใหม่ ฉันขอบคุณอย่างสุดซึ้งสำหรับของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิตฉัน ฉันจะดูแลเป็นอย่างดี ฝากเรียนคุณป้าด้วยว่าฉันก็รักท่านเหมือนที่ท่านรักและเอ็นดูฉัน..............ตรีรินทร์ ธมกานต์รู้สึกเจ็บจนชาขับรถไปเรื่อย ๆ จนไม่รู้ว่าขับไปถึงที่ไหน ธมกานต์จอดรถ ก่อนภาพต่างๆ ตั้งแต่ที่พบกับหญิงสาวครั้งแรกก็ปรากฎเป็นภาพที่ต่อๆ กัน ธมกานต์น้ำตาซึม นี่สินะที่เค้าว่าอกหักเจียนตาย สามชั่วโมงผ่านไป ธมกานต์นอนหลับตา อย่างรวดร้าว อยู่ในรถก่อนจะขมวดคิ้ว “ เราเคยให้ของขวัญอะไรรินทร์นะ ทำไมจำไม่ได้” ธมกานต์พึมพำออกมาก่อนจะตกใจเมื่อมองนาฬิกา “ ตายล่ะ แม่คงห่วงแล้ว” ธมกานต์ขับรถเลี้ยวกลับเข้าเมืองเพื่อไปโรงพยาบาล บาร์ เล็กๆย่านทองหล่อ นายตำรวจหนุ่มดื่มเบียร์ติดๆกัน ก่อนภาพของอดีตคนรักก็ตัดซ้อนเข้ามาอยู่ในความทรงจำ ภาพตั้งแต่เด็กๆ อนุบาล ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย ภาพในความทรงจำต่างๆ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ก่อนภาพสุดท้าย ที่ชายหนุ่มไปหาหญิงสาวที่บ้านก่อนที่หญิงสาวจะเอ่ยลา “ พี่โต รินทร์มีเรื่องสำคัญจะบอก” โตมรจ้องมองหญิงสาวเหมือนรอคำตอบหัวใจเต้นรัวเร็ว “ รินทร์กำลังจะไปจากที่นี่ รินทร์ขอโทษที่ลากให้พี่โตมาเกี่ยวข้องกับรินทร์ซ้ำแล้วซ้ำอีก ขอโทษที่ไม่สามารถตอบแทนความรักที่พี่มีต่อรินทร์ได้ รินทร์กำลังจะมีลูกของเค้า รินทร์ไม่สามารถกลับไปเหมือนเดิมได้ แต่ชีวิตรินทร์ต้องเดินต่อไป รินทร์ฝากให้พี่โตช่วยจัดการเรื่องรถ ช่วยเอากุญแจไปคืนเค้าให้รินทร์ด้วย รินทร์ขอบคุณพี่โตมากๆ สำหรับ ทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่างที่พี่ทำให้รินทร์ รินทร์จะไม่มีวันลืมพี่ชายที่แสนดีของรินทร์ แล้วรินทร์ได้ที่อยู่แน่นอนรินทร์จะติดต่อกลับมา” ตรีรินทร์ก้มลงไหว้นายตำรวจหนุ่มด้วยความเคารพ โตมร ดื่มอีกติดๆ กันอีกหลายแก้ว ก่อนจะเรียกแท็กซี่ให้มาจอดหน้าอพาร์ตเม้นต์เล็กๆ เสียงเคาะประตูทำให้รสสุคนธ์ที่อยู่ในชุดนอนขมวดคิ้ว “ใครกัน มาดึกป่านนี้” เลขาสาวเปิดประตูออกมา ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นนายตำรวจหนุ่มที่ตนแอบหลงรักในใจปรากฎกายอยู่ตรงหน้า “ ผมมาทวงเสื้อคืน” โตมรพูดเสียงอ้อแอ้เหมือนคนลิ้นไก่สั้น “ มาอะไรป่านนี้คุณ มันผ่านมากี่เดือนแล้ว” เลขาสาวแอบตัดพ้อ “ ผมล้อเล่น ผมเมาแต่ไม่อยากกลับแฟลต ไม่อยากเป็นตัวอย่างไม่ดีของลูกน้อง ขอผมนอนที่นี่ได้ไหม ผมกำลังอกหักรอบสอง คราวนี้ของจริงนะคุณ ทำไมมันเจ็บแบบนี้” โตมรทุบหน้าอกแรงๆ รสสุคนธ์มองนายตำรวจหนุ่มที่ตนแอบหลงรักด้วยความสงสาร ก่อนจะจูงมือให้มานั่งที่โซฟา “ คุณกำลังทำอะไรอยู่” นายตำรวจหนุ่มถาม “ กำลังดูบอล ศึกแดงเดือด” “ คุณชอบทีมไหน ผมก็ชอบแมนยูเหมือนกัน” “ ใครบอกว่าฉันชอบแมนยู ฉันชอบหงส์ต่างหาก” แล้วทั้งสองก็ดูบอลด้วยความเพลิดเพลิน ก่อนจะเถียงกันไปมาเกี่ยวกับผู้เล่น รสสุคนธ์หยิบเบียร์ในตู้เย็นมาดื่มเมื่อบรรยากาศการดูบอลเริ่มคึกครื้นต่างคนต่างดื่ม ต่างคนต่างเมา โตมรมองเลขาสาวด้วยความประหลาดใจ “ คุณไม่เหมือนกับที่ผมคิดไว้” “ ฉันเป็นยังไง” น้ำเสียงฉุนเฉียว “ ก็ดูเรียบร้อย จืดๆ เหมือนเลขาทั่วๆไป” ตาจ้องตาก่อนที่นายตำรวจหนุ่มจะขยับเข้าไปใกล้ ๆ ก่อนจะก้มลงจูบที่ริมฝีปาก ของเลขาสาว รสสุคนธ์ไม่ขัดขืนด้วยความมึนประกอบกับตนแอบหลงรัก แอบปลื้ม นายตำรวจหนุ่มเป็นทุนเดิม ร่างสองร่างต่างขยับเข้ามากัน รุ่งเช้า รสสุคนธ์นั่งทานข้าวต้มด้วยใบหน้าเรียบเฉยๆ ก่อนจะเงยหน้าเมื่อเห็นนายตำรวจหนุ่มเดินออกมาด้วยผ้าขนหนูผืนเดียว “ เออ ผมขอโทษเรื่องเมื่อคืน” “ ไม่เป็นไร ฉันเต็มใจ เราก็สนุกด้วยกันไม่เป็นไรนี่” “ ผมรู้ คุณไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบสนุก ๆ แบบนี้ คุณรสมองหน้าผม ผมมันไม่ใช่คนดีมากหรอกนะคุณ แต่ผมก็ไม่โง่จนดูไม่ออกว่าคุณเป็นคนแบบไหน” “ คุณไม่ต้องมารับผิดชอบในสิ่งที่คุณไม่ตั้งใจ” เลขาสาวกล่าวเสียงเรียบ “ ใครบอกว่าผมไม่ตั้งใจ ถึงผมจะเมาก็ไม่เมาจนไม่ได้สติ” เลขาสาวจ้องมองอย่างงุนงง นายตำรวจหนุ่มเดินเข้ามาใกล้จนประชิดตัว “ คุณรส ผมมันเป็นข้าราชการ เงินเดือนก็น้อย คุณจะรังเกียจไหมถ้าเราจะเริ่มต้นมาคบกันแบบแฟน ผมบอกคุณตามตรงว่า ผมยังไม่ลืมน้องรินทร์หรอกนะ ผมรักเค้ามาตั้งแต่เค้าเรียนอนุบาล มันเป็นความผูกพันอันยาวนาน ซึ่งในชีวิตนี้คงลืมเค้ายาก แต่ผมกับเค้าเราจบกันแล้วเลิกกันแน่นอนแล้วในฐานะแฟน แต่ในฐานะพี่ชายผมยังมีกับเค้าเสมอ แต่ ณ ตอนนี้ผมอยากมีใครสักคน ผมขอให้คุณเป็นคน ๆนั้น ผมชอบคุณมากนะ และอาจรักคุณได้ในไม่ช้า ขอโอกาสนั้นให้ผมได้ไหม” รสสุคนธ์ตะลึงไม่นึกว่าชายที่ตนแอบปลื้มแอบชอบจะมาขอตนเป็นแฟน หลังจากมีอะไรกันเมื่อคืน “ ได้ค่ะ ฉันก็ชอบคุณอยู่แล้วคุณไม่รู้เหรอ เปิดโอกาสให้คุณตั้งแต่คราวก่อน ไม่เห็นคุณติดต่อมา ฉันนึกว่าฉันคงอกหักไปแล้ว” เลขาสาวกล่าวตรงๆ แล้วต่างคนต่างหัวเราะ ก่อนที่นายตำรวจหนุ่มจะก้มลงหอมแก้ม ปลายจมูก ดวงตาหวาน หน้าผากนูนสวย ก่อนที่นายตำรวจหนุ่มจะกอดกระชับ เลขาสาวหน้าแดงเมื่อสัมผัสถึงปฏิกิริยาทางร่างกายของชายหนุ่ม “ อืม เดี๋ยวไปทำงานสายนะ” “ ลางานวันหนึ่งนะ นะรสนะ ผมอยากอยู่กับคุณทั้งวันเลยวันนี้” เสียงนายตำรวจหนุ่มออดอ้อนพร้อมกับจูบที่ลำคอขาวและติ่งหู ทำเอาเลขาสาวสติกระเจิดกระเจิง เลขาสาวพยักหน้าก่อนจะโทรไปลางานอย่างรวดเร็วในอ้อมกอดของนายตำรวจหนุ่ม โรงพยาบาล คุณหญิงมณีจันทร์จ้องมองนางแบบสาวที่คลอเคลียลูกชายด้วยสายตางุนงง ไม่เข้าใจ แล้วลูกสะใภ้คนดีล่ะหายไปไหน สามสี่วันมานี้ไม่เห็นมาเยี่ยม “ กานต์ แม่อยากพักผ่อน ลูกให้เพื่อนลูกกลับไปก่อนได้ไหม แม่มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย” คุณหญิงกล่าวเสียงเย็น นางแบบสาวจ้องมองมารดาของหนุ่มคนรักด้วยสายตารำคาญก่อนจะนึกในใจว่า ‘ อีแก่ ทำไมไม่รีบตายๆ ไปซะนะ ฉันจะได้ไม่มีก้าง ขอให้ตายเร็วๆเลยนะแก’ แต่ริมฝีปากก็จีบปาก พูดว่า “ งั้น จี้กลับก่อนนะคะคุณแม่ พักผ่อนเยอะๆนะคะจะได้หายเร็วๆ” “ ขอบใจ” คุณหญิงมณีจันทร์กล่าวอย่างเสียมิได้ คุณหญิงมณีจันทร์มองร่างนางแบบสาวที่เข้ามาจูบลา ลูกชายด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะถามว่า “ นี่มันอะไรกันกานต์ ทำไมกลับมาคบกันใหม่หรือไง แล้วหนูรินทร์ล่ะ ทำไมสามสี่วันนี้แม่ไม่เห็นหน้าเลย” ธมกานต์ถอนใจยาว ก่อนจะไปยืนข้างหน้าต่างของโรงพยาบาล ก่อนจะตอบว่า “ เราเลิกกันแล้วครับแม่ เค้าไปแล้วเราคงไม่เจอเค้าอีกแล้ว” “ อะไรนะ” เสียงคุณหญิงแหลมสูง “ เรามีเรื่องไม่เข้าใจกันหลายอย่าง เราก็เลยตัดสินใจเลิกกันครับ” “ โถ หนูรินทร์ แก้วเพื่อนรัก” คุณหญิงมณีจันทร์ เอ่ยเสียงอ่อนแรง “ มีเรื่องอะไร ไหนเล่าให้แม่ฟังตั้งแต่ต้นสิ” คุณหญิงมณีจันทร์ซักละเอียด “ เราทะเลาะกันตั้งแต่ผมกลับมาจากเมืองนอก” เรื่องต่างๆ ถูกถ่ายทอดเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นใหม่ๆ “ กานต์ช่วยไปหยิบสมุดบันทึกเล่มสีม่วงในลิ้นชักตรงโน้นให้แม่หน่อยสิ” คุณหญิงมณีจันทร์ชี้นิ้ว สั่ง “ นี่ครับแม่” “ เคยเห็นสมุดเล่มนี้ หรือเปล่า” “ เหมือนเคยเห็นครับ” “ ของหนูรินทร์เค้าทำหล่นไว้วันที่มาเฝ้าแม่ ตอนแม่เข้าห้องผ่าตัด คืนวันที่เค้าหายออกมาจากบ้าน เค้ากับแก้วเฝ้าแม่จนถึงเช้าและอยู่จนถึงบ่ายๆ ก่อนที่หนูรินทร์จะไปส่ง แม่ของเค้าที่บ้าน แล้วไปเกิดรถชนกับแท็กซี่ เอ แล้วหนูรินทร์ไม่ได้เล่าให้กานต์ฟังหรือไง” ธมกานต์หน้าซีดแทบจะล้มทั้งยืน ตลอดมาเข้าใจหญิงสาวผิดมาตลอดหรือนี่ “ แต่แฟนเก่าเค้าไปส่งที่บ้านนะครับ เป็นใครก็ต้องหึงเป็นธรรมดา” ธมกานต์ยังแก้ตัว “ อ๋อ เห็นแก้วเล่าให้ฟังว่าพ่อโตเค้าผ่านมาพอดี ก็เลยพาไปส่งที่บ้านแล้วก็เอารถไปซ่อมให้เห็นว่าเสียหายมากเหมือนกัน” “ จริงสินะ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ก็ไม่ได้เห็นหญิงสาวขับรถคันนั้นอีกเลย” ธมกานต์คิดในใจก่อนรู้สึกผิดอย่างรุนแรง “ไอ้บ้าเอ๊ย ทำไมมันต้องเป็นอย่างงี้ด้วยวะ” “ แม่พอจะติดต่อแม่แก้วได้ไหมครับ” “ ติดต่อไม่ได้เลย เค้ายกเลิกเบอร์โทรไปหมดแล้ว เราคงได้แต่รอให้เค้าติดต่อมา” ธมกานต์ผิดหวังก่อนจะเดินคอตกออกไปจากห้อง สามวันต่อมา ธมกานต์ขังตัวเองอยู่ในห้องทำงานสามวันสามคืนแทบไม่กินแล้วก็ไม่นอน เฝ้าคิดถึงแต่อดีตภรรยา ก่อนจะถอดใจเมื่อพยายามติดต่อเพื่อนสนิทของอดีตภรรยาทุกคน เหมือนทุกคนจะตอบเหมือนกันว่าไม่รู้ ไม่เห็น ธมกานต์หมดหนทาง ก็เลยตัดสินใจ มอบหมายงานให้รองประธานดำเนินงานต่อ เพื่อจะนำตัวคุณหญิงมณีจันทร์เดินทางไปรักษาที่อเมริกาเร็วกว่ากำหนด โรงแรม ธมกานต์กำลังเคลียร์งานที่อยู่บนโต๊ะอย่างวุ่นวาย ได้ยินเสียงเคาะประตูก็เงยหน้าพร้อมกับเอ่ยอนุญาตให้เข้ามา รสสุคนธ์เลขาสาวเดินเข้ามาพร้อมกับร้อยตำรวจตรี โตมร “ เจ้านายค่ะ มีแขกมาขอพบค่ะ” “ คุณรส เชิญออกไปก่อน” “ ผมเอาของมาคืน น้องรินทร์ฝากให้ผมจัดการให้” นายตำรวจหนุ่มส่งกุญแจรถคืนให้ ธมกานต์รับกุญแจใจหายวาบ เมื่อเห็นซองสีชมพูที่นายตำรวจหนุ่มนำมาพร้อมกันด้วย “ ผมขอแสดงความยินดีด้วยอย่างจริงใจ แต่ผมคงไม่ได้ไปร่วมงานเพราะผมจะบินไปเมืองนอกพรุ่งนี้เช้า” “ อ๋อ ไม่เป็นไรครับ ผมจัดงานเล็กๆ ไม่กี่สิบคน” “ ขอให้คุณกับคุณแม่คุณโชคดี “ นายตำรวจหนุ่มยื่นมือไปจับมือของชายหนุ่มอย่างจริงใจ ธมกานต์มองซองสีชมพูอย่างปวดร้าว ต่อจากนี้ไปคงจากกันจริงๆ แล้วเธอก็เลือกที่จะกลับไปแต่งงานกับแฟนเก่า ธมกานต์เข้าใจผิดโดยไม่คิดจะเปิดซองจดหมายออกมาดู แต่กลับขยำลงถังขยะเหมือนเป็นของน่ารังเกียจ รสสุคนธ์เดินหน้าตายิ้มแย้มเข้ามา พร้อมกับถามว่า “ เจ้านาย จะไปงานนี้ไหมค่ะ” “ ผมคงไม่ได้ไปคุณช่วยไปเป็นตัวแทนผมที ผมกับแม่จะเดินทางพรุ่งนี้แล้ว คุณรส ฝากงานทางนี้ด้วยแล้วผมจะติดต่อมาเรื่อย ๆ” รสสุคนธ์คิดในใจอย่างวุ่นวาย “ ตกลงเจ้านายเข้าใจว่ายังไงกันเราจะไปเป็นตัวแทนได้ยังไงในเมื่อเราเป็นเจ้าสาว คิดไปคิดมาสงสัยเจ้านายจะคิดมากเรื่องคุณแม่ก็เลยเบลอๆ” รสสุคนธ์เดินจากไปอย่างงงๆ จังหวัดลำพูน ตรีรินทร์นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ตาพร่าด้วยน้ำตาคลอเบ้าเมื่ออ่านเจอข่าวซุบซิบกรอบเล็กๆ เกี่ยวกับอดีตสามีที่แม้ผ่านมาเป็นเดือนสภาพจิตใจของเธอก็ยังบอบช้ำ ตรีรินทร์ลูบท้องก่อนจะพูดกับลูกในท้องของตัวเองว่า “ พ่อเค้าไปแล้วจ๊ะลูก เค้าไปจากเราแล้ว ไปอยู่อีกฟากฟ้าหนึ่งแล้วจ๊ะ ต่อไปนี้เราสองคนต้องเข้มแข็งแต่ทำไมหัวใจแม่ ถึงเจ็บแบบนี้” ตรีรินทร์ก้มหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น แม่แก้วเดินออกมาเจอลูกสาวร้องไห้ก็เดินเข้ามาลูบหลังพร้อมกับหยิบหนังสือพิมพ์ก่อนจะไล่ตาไปตามตัวอักษร“คุณแม่เลือดกรุ๊ปเอ” พยาบาลกล่าว “แล้วคุณตำรวจล่ะกรุ๊ปอะไร” ธมกานต์ถาม“ทำไมคุณทั้งสองถึงปล่อยให้เด็กโคม่าเกือบตายทำไมไม่รีบบริจาคเลือดเด็กช็อคไปแล้ว ทำไม” ธมกานต์ตะเบ็งถาม“ผมเลือดกรุ๊ปเอ คงบริจาคให้เด็กไม่ได้หรอกครับ”ธมกานต์หน้าซีดปากสั่นพร้อมกับพูดว่า “ คุณว่าอะไรนะคุณตำรวจ เลือดคุณกรุ๊ปอะไรนะ”“ผมเลือดกรุ๊ปเอ”“พ่อกรุ๊ปเอ แม่กรุ๊ป เอ แล้วลูกจะเลือดบีได้ยังไง หมายความว่าไง หมายความว่าตลอดเวลาคุณโกหกผมตลอดเวลาตกลงเด็กคนนี้ลูกผมใช่ไหมใช่ไหมตรีรินทร์คุณโกหกผมว่าเด็กในท้องเป็นลูกของไอ้บ้านี่ แล้วปล่อยให้ผมเข้าใจผิดตลอดเวลาเลยใช่ไหม ใช่ไหม” ธมกานต์กระชากสายน้ำเกลือทำให้เลือดไหลพร้อมกับกระชากไหล่ หญิงสาวพร้อมกับเขย่าอย่างแรง“เด็กคนนี้เป็นลูกผมใช่ไหมใช่ไหม”“เค้าเป็นลูกฉันลูกฉันคนเดียว”“ หมอ ผมต้องการตรวจดีเอ็นเอของผมกับเด็กคนนี้ผมสงสัยว่าเค้าเป็นลูกผม”“ไม่ได้!! ตรวจไม่ได้ ฉันไม่ให้ตรวจ ฉันไม่อนุญาต การที่คุณบริจาคเลือดให้ลูกฉันมันไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นเจ้าชีวิตของเรา ลืมแล้วเหรอว่าเราหย่ากันแล้วคุณเป็นคนขอหย่าฉันเองลืมไปแล้วหรือไง”“ผมไม่ลืมหรอกอะไรที่คุณทำไว้กับผม ผมไม่เคยลื
“คุณแม่เลือดกรุ๊ปเอ” พยาบาลกล่าว “แล้วคุณตำรวจล่ะกรุ๊ปอะไร” ธมกานต์ถาม“ทำไมคุณทั้งสองถึงปล่อยให้เด็กโคม่าเกือบตายทำไมไม่รีบบริจาคเลือดเด็กช็อคไปแล้ว ทำไม” ธมกานต์ตะเบ็งถาม“ผมเลือดกรุ๊ปเอ คงบริจาคให้เด็กไม่ได้หรอกครับ”ธมกานต์หน้าซีดปากสั่นพร้อมกับพูดว่า “ คุณว่าอะไรนะคุณตำรวจ เลือดคุณกรุ๊ปอะไรนะ”“ผมเลือดกรุ๊ปเอ”“พ่อกรุ๊ปเอ แม่กรุ๊ป เอ แล้วลูกจะเลือดบีได้ยังไง หมายความว่าไง หมายความว่าตลอดเวลาคุณโกหกผมตลอดเวลาตกลงเด็กคนนี้ลูกผมใช่ไหมใช่ไหมตรีรินทร์คุณโกหกผมว่าเด็กในท้องเป็นลูกของไอ้บ้านี่ แล้วปล่อยให้ผมเข้าใจผิดตลอดเวลาเลยใช่ไหม ใช่ไหม” ธมกานต์กระชากสายน้ำเกลือทำให้เลือดไหลพร้อมกับกระชากไหล่ หญิงสาวพร้อมกับเขย่าอย่างแรง“เด็กคนนี้เป็นลูกผมใช่ไหมใช่ไหม”“เค้าเป็นลูกฉันลูกฉันคนเดียว”“ หมอ ผมต้องการตรวจดีเอ็นเอของผมกับเด็กคนนี้ผมสงสัยว่าเค้าเป็นลูกผม”“ไม่ได้!! ตรวจไม่ได้ ฉันไม่ให้ตรวจ ฉันไม่อนุญาต การที่คุณบริจาคเลือดให้ลูกฉันมันไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นเจ้าชีวิตของเรา ลืมแล้วเหรอว่าเราหย่ากันแล้วคุณเป็นคนขอหย่าฉันเองลืมไปแล้วหรือไง”“ผมไม่ลืมหรอกอะไรที่คุณทำไว้กับผม ผมไม่เคยลื
เสียงโทรศัพท์มือถือดัง ทำให้ตรีรินทร์ได้สติก่อนจะสะกิดชายหนุ่ม“ นี่พอก่อนคุณกานต์ โทรศัพท์ค่ะ รับสิคะ ““ ไม่ ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าคุณ อีกแล้ว “ ธมกานต์บ่นงึมงำพร้อมกับจูบที่ร่องอกขาวตรีรินทร์สยิวซ่านไปทั้งร่าง แต่ก็พยายามออกเสียงพูด“ เผื่อเป็นธุระสำคัญ นะคะ รับสิคะ “ธมกานต์ถอนใจยาว ก่อนจะพูดว่า “ ช่างมัน อยู่ในกางเกงข้างนอกไม่มีอะไรสำคัญไปกว่ารินทร์หรอก”ตริรินทร์หน้าแดง แต่ก็ลุกขึ้นพร้อมผ้าห่มเดินไปหยิบมือถือที่อยู่ในกางเกงที่ถูกถอดทิ้งข้างนอกหญิงสาวเดินกลับมาในขณะที่ชายหนุ่ม นั่งพิงพนักเตียงนอน ตรีรินทร์ตัวชา ไปทั้งร่างกายเมื่อเห็นเป็นรูปนางแบบสาวที่เรียกสายเข้ามา ตรีรินทร์ใบหน้าร้อนผ่าวเหมือนรู้สึกอับอายกับการกระทำที่ผ่านมาทั้งคืน“ ฮัลโหล ดาร์ลิ่ง ไปอยู่ไหนมาทั้งคืน จี้เป็นห่วงโทรไปก็ไม่รับ “ นางแบบสาวออดอ้อนมาตามสาย“ ผมขอโทษที่ไม่ได้ไปตามนัด มีธุระที่ต้องจัดการแค่นี้แล้วผมจะติดต่อไป “ธมกานต์พูดเสียงมีอำนาจก่อนจะกดปิดโทรศัพท์นางแบบสาวงง แล้วก็ร้องกริ๊ดด้วยความขัดใจ เมื่อกดโทรศัพท์เข้าไปอีกที แต่ไม่มีสัญญาณสัญชาติญาณ ความเป็นผู้หญิงบอกให้รู้ว่า ไม่ใช่เรื่องธรรมดา แน
ธมกานต์เดินออกจากห้องด้วยความหงุดหงิด นึกว่าเมื่อคืนจะทำให้หญิงสาวใจอ่อนแต่กลับพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา ธมกานต์รู้สึกเหมือนถูกชกหน้าด้วยหมัดหนักๆก่อนจะคิดหาหนทางที่จะดึงเอาทั้งหญิงสาวและลูกชายกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งตรีรินทร์ยืนกอดอกเหม่อมองต้นไม้ผ่านกระจกที่ห้องในโรงพยาบาลอย่างล่องลอยภาพระหว่างตนเองและชายหนุ่มตั้งแต่พบกัน แต่งงานกัน หย่ากันพลัดพรากกันและจนกระทั่งได้กลับมาพบกันอีกครั้งตัดสลับไปมา ตกลงมันคืออะไรแน่ความรักความผูกพันหรือแค่ความต้องการเอาชนะ เมื่อคนที่วางอำนาจชอบเอาแต่ใจแต่มาเจอกับคนที่แสนจะพยศ ภาพนางแบบสาวประกาศหมั้นจนเป็นข่าวครึกโครมตามหน้าจอทีวีเป็นภาพติดตาภาพสุดท้ายที่ตรีรินทร์นึกถึงก็ตัดสินใจกดโทรศัพท์หาเพื่อนสาว“ อรเย็นนี้เราจะกลับเชียงใหม่แล้วนะหมอว่าน้องกริชไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วเดี๋ยวเราว่าจะไปเช็คเอ้าท์ที่โรงแรม แล้วจะมารับน้องกริชกลับบ้านเลยคงไม่ได้เจอกันสักพักนะอร เรายังไม่ค่อยอยากกลับมากรุงเทพฯสักเท่าไหร่มีอะไรแกไปหาเราที่เชียงใหม่ก็แล้วกัน”อรวิสาครุ่นคิดก่อนจะตอบว่า “ อ้าว แล้วคุณกานต์ล่ะเห็นหายไปด้วยกันทั้งคืนก็นึกว่าตกลงกันได้แล้ว”ตรีริ
ธมกานต์ขับรถต่อก่อนจะอมยิ้ม เมื่อสามารถทำให้หญิงสาวหงุดหงิดได้ปกติหญิงสาวจะเป็นคนที่ไม่โวยวาย ไม่แสดงอารมณ์มากนัก จะเงียบเฉยเป็นส่วนใหญ่แต่เมื่อตนเองสามารถทำให้หญิงสาวที่เป็นคนเรียบเฉย ไม่แสดงอารมณ์ แต่กลับกลายเป็นคนโมโห ขี้โวยวายมันก็ทำให้หญิงสาวมีความน่ารักเหมือนเด็กดื้อถูกขัดใจ ธมกานต์ยิ้มก่อนขับรถต่ออย่างอารมณ์ดีผิดกับหญิงสาวยิ่งเห็นชายหนุ่มยิ้มอย่างอารมณ์ดียิ่งหงุดหงิด หญิงสาวขยับนั่งหันหลังให้กับชายหนุ่มมองไปกระจกข้างๆ อย่างปลดปล่อยใจ‘ชีวิตเธอข้างหน้า จะเป็นอย่างไงนะ จะมีอุปสรรคอะไรรออยู่ข้างหน้าแล้วชายที่นั่งข้างๆเค้าคงจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอกับลูกอีกเป็นแน่แท้’ ตรีรินทร์คิดไปมาอย่างว้าวุ่นใจตรีรินทร์แอบลอบมองเสี้ยวใบหน้าของชายหนุ่มที่ตลอดสี่ปีที่จากกันไปไม่มีสักวันที่เธอจะไม่คิดถึงเขาคนนี้ต่อจากนี้ไปอนาคตของเธอและลูกคงต้องมีเค้าเดินเคียงคู่กันไปสินะแม้ส่วนหนึ่งในใจแอบโกรธที่ชายหนุ่มดูถูกเธอไว้แต่ตรีรินทร์ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความรักความห่วงใยความคิดถึงก็มีให้เขาคนนี้ไม่น้อยเลย คิดถึงอนาคตของเธอและลูกกับเขาคนนี้จนทำให้ตรีรินทร์เผลอหลับไปธมกานต์หันมามองร่างของภรรยาส
ตรีรินทร์ยิ้มขำกับท่าทางของชายหนุ่มพร้อมกับยักไหล่ สักพักบริกรก็เริ่มนำอาหารมาเสิร์ฟธมกานต์ตักอาหารให้หญิงสาวอย่างเอาใจ ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวรับประทานอาหารกันอย่างชื่นมื่นตรีรินทร์ยิ้มหวาน ก่อนจะยิ้มตอบให้กับชายหนุ่มต่างชาติที่นั่งถัดไปด้านข้างอีกสองโต๊ะที่ส่งยิ้มมาให้ตรีรินทร์พยักหน้าพร้อมกับยิ้มตอบอย่างมีไมตรีธมกานต์เหลียวหลังไปมองแล้วก็วางช้อนเสียงดังพร้อมกับหยุดทานอาหาร“ คุณยิ้มให้ใคร รู้จักมันหรือไงถึงไปยิ้มให้มันเนี่ยไม่อ่อยใครสักวันคุณคงจะดิ้นตาย”ธมกานต์หึงจนหน้ามืด“ บ้าคุณนี่ พูดกันดีๆ ได้ไม่นานใครไปอ่อยใครคนเค้ายิ้มให้คุณจะให้ฉันแยกเขี้ยวให้เค้าหรือไงไร้มารยาทสิ้นดี ฉันเบื่อจะคุยกับคุณแล้ว”“ ใช่สิ ผมมันไม่ได้หน้าใสหล่อล่ำเหมือนมันนี่ “ ธมกานต์ประชดพร้อมกับกอดอกเลิกทานอาหารทั้งที่ตักอาหารไว้เกือบเต็มจานตรีรินทร์ถอนหายใจจำได้ว่าชายหนุ่มเป็นคนขี้หึง เมื่อก่อนเค้าไม่ชอบให้เธอไปคุยกับ ผู้ชายคนไหนเดี๋ยวนี้ก็ยังเหมือนเดิมเหมือนเด็กดื้อที่ถูกขัดใจ ตอนนี้กอดอกหน้างอแล้วไม่ยอมทานข้าวต่อตรีรินทร์สูดลมหายใจก่อนถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน“ คุณค่ะ ไม่ทานอีกสักนิดเหรอค่ะ สั่งมาตั้ง
Eifelstar Hotelห้องประธานกรรมการอลงกรณ์เดินเข้ามาเพราะไม่มีใครนั่งหน้าห้องยืนอยู่สามนาทีเมื่อไม่มีใครก็เปิดเข้ามาจำได้ว่าเคยเข้ามากับเพื่อนสองคนตอนมาลากธมกานต์ไปไดร์ฟกอล์ฟกัน“ นี่คุณเป็นใครคะ จะมาหาท่านประธานเชิญข้างนอก ที่นี่ไม่ใช่ที่ให้คนมาเดินเล่น” เสียงเลขาหนุ่มแต่จิตใจเป็นผู้หญิงกล่าวเสียงเข้มอลงกรณ์หันมามองต้นเสียงแล้วเลิกคิ้วเข้ม จำได้ว่าเจ้าเพื่อนรักมีเลขาเป็นผู้หญิง แล้วนี่ ผู้ชายตรงหน้าอลงกรณ์ถึงกับตะลึงเมื่อตาสบตา ก่อนจะปัดความคิดออกแล้วพูดเสียงเข้มว่า“ แล้วคุณคิดว่าผมเป็นใครถึงกล้าเข้ามายืนในนี้ ตกลงเราจะทำงานกันได้หรือยัง ถ้าคุณคือเลขาเจ้ากานต์ ผมมาแล้วไหนงานที่ผมสั่งไว้”อาร์มอ้าปากก่อนจะยกมือไหว้ “ สวัสดีค่ะคุณอลงกรณ์ ขอโทษที่ฉันไม่รู้จักคุณ งานคุณอยู่ห้องข้างๆค่ะ เชิญตามฉันมาได้เลย”อลงกรณ์นึกขำสรรพนามที่ชายหนุ่มร่างบางตรงหน้ากล่าวลงท้าย“ ตกลง คุณเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงคำว่าค่ะกับฉันเนี่ยน่าจะเป็นผู้หญิงใช้ส่วนคุณถ้าทำงานกับผมกรุณาแทนตัวเองเป็นผู้ชายผมไม่ชอบพวกสับสนเพศ” อลงกรณ์กล่าวเสียงเข้ม“ ครับ” อาร์มตอบเสียงเย็น “ อีตาบ้านี่มาถึงก็เหยียดเพศเลยนะ นึกว่าต
หัวหินตรีรินทร์ออกมาเดินเล่นตั้งแต่เช้าไปนั่งเล่นชายหาดคนเดียวโดยไม่ได้สนใจชายหนุ่มผู้เป็นสามีกว่าจะเดินกลับบ้าน เห็นชายหนุ่มยืนกอดอกหน้าบูดตรีรินทร์ถอนหายใจ ก่อนจะเดินเข้าไป“ ไปไหนมา ไปไหนไม่คิดจะบอกกันหรือไง ตกลงคุณอยู่ที่นี่คนเดียวหรือไง ไม่ต้องสนใจใครหน้าไหนเลยใช่ไหม”“ ฉันเห็นคุณยังไม่ ตื่น ขอโทษค่ะที่ทำให้คุณรอ”ธมกานต์ถอนใจยาว ก่อนจะคว้ามือหญิงสาว ให้หันมาคุยกันแบบประจันหน้า“ สำหรับผมไม่มีใครสำคัญเท่ากับคุณและลูก ขอให้รู้ไว้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ผมมั่นใจในตัวเองและผมอยากให้คุณมั่นใจในตัวผม เข้าใจไหม อย่าโบกไปปลิวมาตามกระแสคนรอบข้างผมรู้ว่าคุณอยากกลับกรุงเทพฯ แต่เสียใจผมคงต้องขัดใจคุณ เราต้องอยู่ที่นี่ต่อด้วยกันแม้ว่าคุณจะไม่ชอบก็ตาม”ตรีรินทร์น้ำตาไหล เมื่อธมกานต์เดินออกจากห้องไปร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่น้อยครั้งที่ อาร์ม หรืออิทธิพลจะมาเดินเล่นเพราะสำหรับตนเองที่มีฐานะยากจน ถึงแม้จะทำงานตำแหน่งเลขาของประธาน เงินเดือนสองหมื่นห้าแต่อิทธิพลหรืออาร์มต้องดูแลครอบครัวอีกหกคนที่บ้านนอกดังนั้นห้างสรรพสินค้าดังจึงค่อนข้างห่างไกลกับชีวิตของตนทุกเดือนอาร์มจะส่งเงินกลับบ
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้