ตรีรินทร์ยิ้มขำกับท่าทางของชายหนุ่มพร้อมกับยักไหล่ สักพักบริกรก็เริ่มนำอาหารมาเสิร์ฟ
ธมกานต์ตักอาหารให้หญิงสาวอย่างเอาใจ ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวรับประทานอาหารกันอย่างชื่นมื่น ตรีรินทร์ยิ้มหวาน ก่อนจะยิ้มตอบให้กับชายหนุ่มต่างชาติที่นั่งถัดไปด้านข้างอีกสองโต๊ะที่ส่งยิ้มมาให้ ตรีรินทร์พยักหน้าพร้อมกับยิ้มตอบอย่างมีไมตรี ธมกานต์เหลียวหลังไปมองแล้วก็วางช้อนเสียงดังพร้อมกับหยุดทานอาหาร “ คุณยิ้มให้ใคร รู้จักมันหรือไงถึงไปยิ้มให้มันเนี่ย ไม่อ่อยใครสักวันคุณคงจะดิ้นตาย”ธมกานต์หึงจนหน้ามืด “ บ้าคุณนี่ พูดกันดีๆ ได้ไม่นาน ใครไปอ่อยใครคนเค้ายิ้มให้คุณจะให้ฉันแยกเขี้ยวให้เค้าหรือไงไร้มารยาทสิ้นดี ฉันเบื่อจะคุยกับคุณแล้ว” “ ใช่สิ ผมมันไม่ได้หน้าใสหล่อล่ำเหมือนมันนี่ “ ธมกานต์ประชดพร้อมกับกอดอก เลิกทานอาหารทั้งที่ตักอาหารไว้เกือบเต็มจาน ตรีรินทร์ถอนหายใจจำได้ว่าชายหนุ่มเป็นคนขี้หึง เมื่อก่อนเค้าไม่ชอบให้เธอไปคุยกับ ผู้ชายคนไหน เดี๋ยวนี้ก็ยังเหมือนเดิมเหมือนเด็กดื้อที่ถูกขัดใจ ตอนนี้กอดอกหน้างอแล้วไม่ยอมทานข้าวต่อ ตรีรินทร์สูดลมหายใจก่อนถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน “ คุณค่ะ ไม่ทานอีกสักนิดเหรอค่ะ สั่งมาตั้งเยอะแยะเสียดายจัง” ตรีรินทร์ปรับเสียงหวาน “ ไม่ กินไม่ลง” ธมกานต์พูดเสียงเข้ม “ ว้า อาหารเหลือเยอะเลย ดูนี่ สิคะ กุ้งส้ด สด รินทร์แกะให้นะคะ” ตรีรินทร์จิ้มเนื้อกุ้ง ป้อนให้ถึงปากพร้อมกับส่งสายตาวิงวอนอ่อนหวาน “ อย่าโกรธนักเลย โอเคค่ะคืนนี้รินทร์จะมีตาไว้มองคุณคนเดียวยิ้มให้คุณคนเดียว พอใจหรือยังค่ะทานหน่อยเร็ว นะคะ นะ คนดี้คนดี” ธมกานต์ก้มลงทานพร้อมกับมองใบหน้าภรรยาสาวอย่างนึกเอ็นดูยามหญิงสาวออดอ้อน แสนน่ารัก ธมกานต์เอื้อมมือมาลูบแก้มขาวนวลใช้ปลายนิ้วลูบไล้ริมฝีปากบางอย่างหลงใหล “ คุณน่ารักจัง คืนนี้” ตรีรินทร์ใบหน้าแดงซ่าน อยากย้อนถามไปว่า “ น่ารัก แล้วรักไหมค่ะ”แต่ไม่กล้าเพราะกลัวคำตอบได้แต่ยิ้ม เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ธมกานต์ก็ย้ายมานั่งเก้าอี้ข้างๆ ภรรยา “เดี๋ยวเราออกไปเต้นรำ สักเพลงไหม ผมอยากเต้นรำกับคุณอีก” ตรีรินทร์ผงกศีรษะพร้อมกับยิ้มหวาน ก่อนที่ธมกานต์จะโอบเอวภรรยาให้หญิงสาวนอนซบมาที่ไหล่กว้าง ก่อนจะก้มลงหอมที่หน้าผากอย่างรักใคร่ ธมกานต์เต้นรำกับภรรยาสาว บรรยากาศอ่อนหวานทำให้จิตใจของหนุ่มสาวรู้สึกแช่มชื่น ธมกานต์เต็มตื้นไปด้วยความสุข ตรีรินทร์ซบใบหน้าที่ไหล่กว้าง เพลงเพราะ บรรยากาศเป็นใจ แล้วรสไวน์อีกสองแก้วที่ดื่มเข้าไปตอนรับประทานอาหาร ทำให้หญิงสาวมึนนิดๆ ตรีรินทร์จูบเบาๆ ที่ไหล่กว้างอย่างใจกล้า แต่ทำให้ธมกานต์เสียวซ่านไปทั่วตัวพร้อมกับหอมที่ขมับหญิงสาว “ รินทร์รู้ไหม ผมมีความสุขมาก มากที่สุดในชีวิตที่ผมมีคุณ You meant to be ผมมีเรื่องสำคัญอยากจะบอก มันเป็นความในใจที่อยากบอกคุณมานานแต่ผมไม่กล้า แต่วันนี้ผมอยากบอกคุณว่า ว่า ..” ธมกานต์ติดอ่าง ตรีรินทร์ลุ้นแทบจะขาดใจ เพียงเค้าบอกแค่คำเดียวเหมือนที่เธอรู้สึกเธอก็จะบอกเค้าเหมือนกันว่ารู้สึกกับเขาอย่างไร หญิงสาวกระพริบตาพร้อมกับจ้องตาลุ้นแทบขาดใจ แต่แล้วก็ต้องถอนใจเฮือก เมื่อมีคนมาขัดจังหวะพร้อมกับแสงแฟลชดังติดๆ กันสองสามครั้ง ตรีรินทร์ตกใจ ธมกานต์คว้าร่างภรรยาสาวไปแอบไว้ด้านหลังพร้อมกับตีหน้ายักษ์ ใส่สองชายหนุ่มที่เสียมารยาทเข้ามาถ่ายภาพโดยไม่ขออนุญาต “ พวกคุณเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาถ่ายภาพผมไม่ทราบ” ธมกานต์อาละวาดเสียงดัง นักข่าวสองหนุ่มสาวหน้าเสียพร้อมกับยกมือขอโทษ “ เออ ขอโทษครับ ขอโทษค่ะคุณธมกานต์ พวกเราเห็นว่าคุณเป็นคนมีชื่อเสียงในสังคมก็จะเขียนข่าวเล็กๆน้อยๆ ค่ะ” “ ผมไม่ชอบออกสื่อ ถ้าจะคุยเรื่องงานให้ไปทำข่าวที่โรงแรมนะคุณผมไม่ใช่ดาราพวกคุณ อย่ามาตามถ่ายรูปผมไม่เป็นเวล่ำเวลาแบบนี้ผมไม่ชอบ” ธมกานต์พูดเสียงเข้ม “ คุณธมกานต์มากับเออ เออ เพื่อนสาวหรือครับ เอ ไหนน้องจี้บอกว่าคุณสองคนหมั้นหมายกันแล้วแล้วจะแถลงข่าวเรื่องแต่งงานเร็วๆนี้นะครับ” ธมกานต์ขมวดคิ้วตรีรินทร์ปล่อยมือที่ชายหนุ่มกุมเอาไว้ กำลังจะหันหลังกลับ ถ้อยคำที่นักข่าวคนนั้นถามทำให้ตรีรินทร์น้ำตาแทบร่วง ‘ตื่นได้แล้วตรีรินทร์ อย่าหลงใหลได้ปลื้มกับภาพลวงตาที่เค้าสร้างหลอก’ ธมกานต์หันรีหันขวางเมื่อตรีรินทร์สะบัดมือพร้อมกับเดินออกไป “ ผมไม่รู้พวกคุณเอาข่าวงี่เง่ามาจากไหน ผมไม่มีคู่หมั้นหมายอะไรทั้งนั้นแล้วผู้หญิงที่คุณเห็นเมื่อกี้ นั่นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผม ตรีรินทร์ข่าวนี้แน่ชัดที่สุดและพวกคุณกำลังจะทำให้ผมกับภรรยาเข้าใจผิดกัน แย่มาก ทีหลังทำข่าวก็หัดทำการบ้านหน่อยสิคุณไม่ใช่นั่งเทียนเขียนเองมั่วที่สุด” ธมกานต์เดินแกมวิ่งตามภรรยาสาวพร้อมกับล้วงเงินมาปึกหนึ่งก่อนจะเอาวางที่โต๊ะแล้วเดินแกมวิ่งตามหญิงสาว ออกไป “ รินทร์เดี๋ยวก่อนสิรอผมก่อน อะไรเนี่ยจะวิ่งไปไล่ควายที่ไหนผมพึ่งทานข้าวอิ่มนะ จุกจะแย่” ธมกานต์เดินไปบ่นไป ตรีรินทร์หมั่นไส้ รีบจ้ำเท้าแต่ถูกชายหนุ่มดักหน้าพร้อมกับจับไหล่ก่อนจะหยุดหอบหายใจ “ เป็นบ้าอะไร เดินออกมากลางวงแบบนั้นเสียมารยาท” ตรีรินทร์หน้างอพร้อมกับเงียบ แต่น้ำตาจวนเจียนจะร่วง หญิงสาวพยายามกระพริบตาไล่ “ ฉันเป็นของฉันแบบนี้แหละ คุณไม่ต้องมายุ่ง” “ อ้าวไม่ยุ่งได้ไง เมียทั้งคน” “ ฉันไม่ใช่เมียคุณ ฉันเป็นแค่แม่ของลูกคุณ เราก็สัมพันธ์กันแค่นั้น”ธมกานต์เจ็บจี๊ด ถ้อยคำของหญิงสาวทำให้โทสะ ประทุแรงและเร็ว “ อ้าว แล้วไอ้วันนั้นที่เรามีอะไรกันที่คอนโด ตกลงเราไม่ใช่สามีภรรยากัน แล้วไอ้ที่เรามีอะไรกันเค้าเรียกว่าอะไร ผมว่าวันนี้ผมจะพยายามใจเย็นกับคุณ ให้โอกาสเราได้มีโอกาสเริ่มต้นกันใหม่ แล้วคุณก็ทำเสียเรื่องตลอดผมชักทนไม่ไหวแล้วนะ จะดื้อจะพยศไปถึงไหน จนมีลูกด้วยกันแล้วเมื่อไหร่คุณจะเข้าใจสักทีว่าผมคิดยังไงกับคุณ” ตรีรินทร์เงียบ กัดริมฝีปากแน่น “ คุณไปเคลียร์กับคนของคุณก่อน แล้วเราค่อยมาคุยกัน หมั้นกับเค้าแล้วมาแต่งงานกับฉันทำไม หรือคุณเป็นพวกชอบแบ่งตัวแบ่งใจ รักพี่เสียดายน้อง” “ บ้า ผมว่าคุณอย่าบ้าไปกับนักข่าวกอสซิบหน่อยเลย มันไม่ใช่ความจริงทั้งนั้น” “ ไม่มีมูลหมามันไม่ขี้หรอกนะคุณ ฉันไม่เชื่อคุณ ฉันเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็นและสัมผัส วันนี้เหนื่อยมามากแล้ว กลับกันเถอะค่ะฉันเพลีย อยากนอนคิดอะไรๆ คนเดียว” ธมกานต์ถอนหายใจกับความดื้อของหญิงสาว “ ตามใจ ถ้าอยากเป็นเด็กไม่รู้จักโตก็ตามใจ ผมไม่ชอบง้อคนไม่มีเหตุผล จนป่านนี้ยังดูไม่ออก ก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว เบื่อเว้ย” ธมกานต์พูดอย่างหัวเสีย ระหว่างทางขับรถกลับบ้านต่างคนต่างเงียบ พอรถจอดตรีรินทร์ก็วิ่งขึ้นบ้านพร้อมกับเดินตรงไปห้องรับแขกที่ติดกับห้องใหญ่ ล็อคห้องพร้อมกับวิ่งเข้าห้องน้ำไปนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจ ธมกานต์เดินขึ้นบ้านพร้อมกับเดินเข้าห้องนอนใหญ่ ก่อนจะนั่งลงที่เตียงกว้าง ก่อนจะเอื้อมมือไปปัดของที่หัวเตียงกระจุยกระจาย “ โธ่เว้ย ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ แล้วเมื่อไหร่จะเข้าใจกันสักที”Eifelstar Hotelห้องประธานกรรมการอลงกรณ์เดินเข้ามาเพราะไม่มีใครนั่งหน้าห้องยืนอยู่สามนาทีเมื่อไม่มีใครก็เปิดเข้ามาจำได้ว่าเคยเข้ามากับเพื่อนสองคนตอนมาลากธมกานต์ไปไดร์ฟกอล์ฟกัน“ นี่คุณเป็นใครคะ จะมาหาท่านประธานเชิญข้างนอก ที่นี่ไม่ใช่ที่ให้คนมาเดินเล่น” เสียงเลขาหนุ่มแต่จิตใจเป็นผู้หญิงกล่าวเสียงเข้มอลงกรณ์หันมามองต้นเสียงแล้วเลิกคิ้วเข้ม จำได้ว่าเจ้าเพื่อนรักมีเลขาเป็นผู้หญิง แล้วนี่ ผู้ชายตรงหน้าอลงกรณ์ถึงกับตะลึงเมื่อตาสบตา ก่อนจะปัดความคิดออกแล้วพูดเสียงเข้มว่า“ แล้วคุณคิดว่าผมเป็นใครถึงกล้าเข้ามายืนในนี้ ตกลงเราจะทำงานกันได้หรือยัง ถ้าคุณคือเลขาเจ้ากานต์ ผมมาแล้วไหนงานที่ผมสั่งไว้”อาร์มอ้าปากก่อนจะยกมือไหว้ “ สวัสดีค่ะคุณอลงกรณ์ ขอโทษที่ฉันไม่รู้จักคุณ งานคุณอยู่ห้องข้างๆค่ะ เชิญตามฉันมาได้เลย”อลงกรณ์นึกขำสรรพนามที่ชายหนุ่มร่างบางตรงหน้ากล่าวลงท้าย“ ตกลง คุณเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงคำว่าค่ะกับฉันเนี่ยน่าจะเป็นผู้หญิงใช้ส่วนคุณถ้าทำงานกับผมกรุณาแทนตัวเองเป็นผู้ชายผมไม่ชอบพวกสับสนเพศ” อลงกรณ์กล่าวเสียงเข้ม“ ครับ” อาร์มตอบเสียงเย็น “ อีตาบ้านี่มาถึงก็เหยียดเพศเลยนะ นึกว่าต
หัวหินตรีรินทร์ออกมาเดินเล่นตั้งแต่เช้าไปนั่งเล่นชายหาดคนเดียวโดยไม่ได้สนใจชายหนุ่มผู้เป็นสามีกว่าจะเดินกลับบ้าน เห็นชายหนุ่มยืนกอดอกหน้าบูดตรีรินทร์ถอนหายใจ ก่อนจะเดินเข้าไป“ ไปไหนมา ไปไหนไม่คิดจะบอกกันหรือไง ตกลงคุณอยู่ที่นี่คนเดียวหรือไง ไม่ต้องสนใจใครหน้าไหนเลยใช่ไหม”“ ฉันเห็นคุณยังไม่ ตื่น ขอโทษค่ะที่ทำให้คุณรอ”ธมกานต์ถอนใจยาว ก่อนจะคว้ามือหญิงสาว ให้หันมาคุยกันแบบประจันหน้า“ สำหรับผมไม่มีใครสำคัญเท่ากับคุณและลูก ขอให้รู้ไว้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ผมมั่นใจในตัวเองและผมอยากให้คุณมั่นใจในตัวผม เข้าใจไหม อย่าโบกไปปลิวมาตามกระแสคนรอบข้างผมรู้ว่าคุณอยากกลับกรุงเทพฯ แต่เสียใจผมคงต้องขัดใจคุณ เราต้องอยู่ที่นี่ต่อด้วยกันแม้ว่าคุณจะไม่ชอบก็ตาม”ตรีรินทร์น้ำตาไหล เมื่อธมกานต์เดินออกจากห้องไปร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่น้อยครั้งที่ อาร์ม หรืออิทธิพลจะมาเดินเล่นเพราะสำหรับตนเองที่มีฐานะยากจน ถึงแม้จะทำงานตำแหน่งเลขาของประธาน เงินเดือนสองหมื่นห้าแต่อิทธิพลหรืออาร์มต้องดูแลครอบครัวอีกหกคนที่บ้านนอกดังนั้นห้างสรรพสินค้าดังจึงค่อนข้างห่างไกลกับชีวิตของตนทุกเดือนอาร์มจะส่งเงินกลับบ
หัวหินหลังจากต่างคนต่างหลบมุมไปนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ตรีรินทร์ก็เดินเข้าไปที่ห้องครัวเล็ก ๆเพื่อมองหาของที่จะทำอาหาร ธมกานต์เดินมานั่งที่โต๊ะในครัว ตรีรินทร์มองชายหนุ่มแล้วเลิกคิ้ว“ เราอย่าทะเลาะกันเลยนะรินทร์ นานๆ ผมจะว่างพาคุณมาเที่ยว” ธมกานต์เอ่ยขึ้นก่อน“ ฉันไม่ได้คนชวนทะเลาะนะคะ”“ อ้าว ไหงมาโทษผมล่ะ”“ ก็จริงนี่ แต่เอาเถอะค่ะสงบศึกกันชั่วคราวก็ได้ กลับกรุงเทพฯแล้วค่อยคุยกัน”“ ไม่ยอมเลยนะรินทร์” ธมกานต์พูดยั่ว“ แน่นอน” ตรีรินทร์เสียงแหลมแต่ในใจแอบรู้สึกถึงความอบอุ่นหกโมงเย็น โรงแรม Eifelstarอลงกรณ์เปิดประตูออกมา หลังจากครึ่งบ่ายลุยงานหลายชิ้น เมื่อมองเห็นชายรุ่นน้อง กำลังคีย์งานที่คอมฯ ก็เผลอมองก่อนจะพูดว่า“ นี่คุณเลิกงานตั้งนานแล้ว ทำไมยังไม่กลับบ้านไปอีก”“ ก็บอสยังไม่กลับ ฉันมันก็แค่เลขา จะกลับก่อนเจ้านายได้ยังไง” อาร์มค้อนเบาๆ“ ไป คุณกลับบ้านได้แล้ว เย็นมากแล้วผมไปส่ง”“ เออ ไม่ต้องครับ หอพักผมอยู่ถัดไปสองป้ายรถเมล์ ตอนเย็นผมเดินกลับถือโอกาสเดินออกกำลังกายไปในตัว”“ อวดดี ผมบอกไงว่าจะไปส่ง ทางผ่านอยู่แล้ว” อลงกรณ์ทำหน้าหงิกเมื่อถูกขัดใจ“ เร็วสิ เก็บของเร็ว ๆ” อล
หัวหินธมกานต์กับตรีรินทร์รับประทานอาหารท่ามกลางแสงเทียนในบรรยากาศแสนโรแมนติคธมกานต์ตักอาหารให้ภรรยาสาว ตรีรินทร์เงยหน้ามองชายหนุ่มแสดงความขอบคุณด้วยสายตา“ อาหารมื้อนี้อร่อยมาก อิ่มที่สุดในโลก ขอบคุณครับรินทร์ รู้ไหมตลอดสามปีกว่าที่เราพลัดพรากกันผมไม่เคยลืมคุณได้สักวินาทีเดียว ไม่คิดว่าจะได้มาเจอคุณอีกเหมือนปฏิหารย์แต่เราก็ได้พบกันแถมมีลูกเป็นของขวัญอีกขอบคุณคุณพระคุณเจ้าที่ไม่ทำให้เราพลัดพรากกันนานกว่านี้เมื่อก่อนผมมีชีวิตอยู่ไปอย่างไร้ค่าแต่เมื่อมาเจอคุณกับลูก ทำให้ผมมีเป้าหมายชีวิต ชีวิตผมมีความหมายมากขึ้น you change my life”ธมกานต์พูดภาษาอังกฤษตอนท้าย ตรีรินทร์รู้สึกตื้นตันน้ำตาคลอ ธมกานต์เอื้อมมือมาจับมือภรรยาสาวตั้งใจจะสารภาพรัก หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น ยิ่งหญิงสาวจ้องหน้าแบบจ้องเขม็ง ทำให้ธมกานต์พูดไม่ออกตรีรินทร์รู้สึกแทบหัวใจจะหยุดเต้นด้วยความตื่นเต้น ‘นี่เค้าจะบอกรักเราหรือเปล่า บอกสิคะแล้วรินทร์ก็จะบอกคุณบ้างว่ารินทร์รักคุณสุดหัวใจ ไม่เคยมีใครตลอดสามปีกว่าที่ผ่านมา เพราะรอคุณอยู่บอกสิคะ พลีส’ ตรีรินทร์พึมพำในใจพร้อมกับมองชายหนุ่มแบบส่งกำลังใจให้ธมกานต์ไม่รู้
“ เออ ยังงี้ก็จบข่าว งั้นแค่นี้แหละ จะบอกว่าข้าขอตัวคุณอาร์มมาช่วยงาน อืมมาทำงานโรงแรมก็ชักสนุกได้รื้อฟื้นสิ่งที่เรียนมาบ้าง ขอบใจเพื่อน แล้วเจอกันตอนที่แกกลับกรุงเทพฯนัดทานข้าวกันสักมื้อหนึ่ง”“ โอเคได้เลย ขอบใจเพื่อน”ธมกานต์วางโทรศัพท์ พร้อมกับล้มตัวลงนอนที่โขดหินตรีรินทร์นอนร้องไห้จนผลอยหลับไป รุ่งเช้าต่างคนก็ต่างยุ่งเก็บของกลับกรุงเทพฯระหว่างทางต่างคนต่างเงียบเหมือนไว้เชิง สุดท้ายตรีรินทร์ทนไม่ไหวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน“ พรุ่งนี้รินทร์จะกลับเชียงใหม่แล้วนะคะ เป็นห่วงที่สวนลำไยแล้วไหนที่ร้านอีกทิ้งมาหลายวันแล้วเป็นห่วงค่ะ”ธมกานต์หันขวับมาอย่างโมโห “ตกลง เราคุยกันไม่รู้เรื่องหรือไงผมแต่งงานกับคุณก็เพื่ออยากให้เราเป็นครอบครัว แล้วผมก็ไม่ยอมให้คุณไปไหนทั้งนั้นเดี๋ยวผมจะส่งเข้มกับแหวนไปขนของคุณขึ้นมากรุงเทพฯ แล้วคุณก็ถามแม่คุณว่าท่านจะย้ายมาอยู่กับเราไหมผมอยากให้ท่านย้ายมาอยู่กับเรา”“ นี่คุณจะมาบังคับฉันไม่ได้หรอกนะฉันไม่ยอม ร้านอาหารฉันสร้างมากับมือแล้วสวนลำไยที่ลำพูนอีกยังไงฉันไม่มีวันทิ้งเด็ดขาด นะคะคุณธมกานต์ เราไม่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาก็ได้แล้วฉันจะพาลูกขึ้นมากรุงเทพฯ บ่
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้