ธมกานต์ขับรถต่อก่อนจะอมยิ้ม เมื่อสามารถทำให้หญิงสาวหงุดหงิดได้
ปกติหญิงสาวจะเป็นคนที่ไม่โวยวาย ไม่แสดงอารมณ์มากนัก จะเงียบเฉยเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อตนเองสามารถทำให้หญิงสาวที่เป็นคนเรียบเฉย ไม่แสดงอารมณ์ แต่กลับกลายเป็นคนโมโห ขี้โวยวาย มันก็ทำให้หญิงสาวมีความน่ารักเหมือนเด็กดื้อถูกขัดใจ ธมกานต์ยิ้มก่อนขับรถต่ออย่างอารมณ์ดี ผิดกับหญิงสาวยิ่งเห็นชายหนุ่มยิ้มอย่างอารมณ์ดียิ่งหงุดหงิด หญิงสาวขยับนั่งหันหลังให้กับชายหนุ่ม มองไปกระจกข้างๆ อย่างปลดปล่อยใจ ‘ชีวิตเธอข้างหน้า จะเป็นอย่างไงนะ จะมีอุปสรรคอะไรรออยู่ข้างหน้าแล้วชายที่นั่งข้างๆ เค้าคงจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอกับลูกอีกเป็นแน่แท้’ ตรีรินทร์คิดไปมาอย่างว้าวุ่นใจ ตรีรินทร์แอบลอบมองเสี้ยวใบหน้าของชายหนุ่มที่ตลอดสี่ปีที่จากกันไปไม่มีสักวันที่เธอจะไม่คิดถึงเขาคนนี้ ต่อจากนี้ไปอนาคตของเธอและลูกคงต้องมีเค้าเดินเคียงคู่กันไปสินะ แม้ส่วนหนึ่งในใจแอบโกรธที่ชายหนุ่มดูถูกเธอไว้แต่ตรีรินทร์ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความรักความห่วงใย ความคิดถึงก็มีให้เขาคนนี้ไม่น้อยเลย คิดถึงอนาคตของเธอและลูกกับเขาคนนี้จนทำให้ตรีรินทร์เผลอหลับไป ธมกานต์หันมามองร่างของภรรยาสาวที่สัปหงกข้างๆ หน้าต่างก็เอื้อมไปจับไหล่ให้มานอนซบอกจนได้กลิ่นหอมอบอวลของกลิ่นร่างกายเส้นผมยาวที่ธมกานต์มิอาจลื ม กลิ่นหอมที่แอบนอนสูดกลิ่นอยู่ทุกคืน มือลูบเส้นผมที่ยาวสลวย ก่อนจะก้มลงมาหอมที่เส้นผม ผู้หญิงคนนี้สินะที่อยู่ในจิตใจ ร่างกาย และความคิดคำนึงตลอดเวลาที่ผ่านมา คิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีก แต่พรหมลิขิตก็บันดาลให้กลับมาพบกัน ธมกานต์รู้สึกขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ทำให้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ชีวิตของตนที่วันนี้รู้สึกมันมีความหมายขึ้นมาทันที รู้สึกถึงแสงสว่างเข้ามาในชีวิตหลังจากที่แทบไม่อยากอยู่บนโลกนี้เมื่อปราศจากเธอคนนี้ ต่อไปข้างหน้าจะเป็นอย่างไรธมกานต์ก็พร้อมจะฟันฝ่าถ้ามีเธอและลูกน้อยอยู่เคียงข้าง ธมกานต์ยอมรับว่าคงจะยากถ้าจะทำให้เธอคนนี้เลิกพยศ แต่ตนก็พร้อมจะต่อสู้จะลองฮึดสู้อีกครั้งเพียงแค่ได้หัวใจของเธอคนนี้คืนมา ธมกานต์แอบหอมที่หน้าผากนูนตอนที่รถติดไฟแดง รู้สึกกลิ่นกายของหญิงสาวก็ยังติดอยู่ที่ปลายจมูก ธมกานต์หอมแก้มนวล เสียงหญิงสาวครางอื้อเหมือนถูกขัดความสำราญในการหลับทำให้ธมกานต์อมยิ้ม เหมือนลูกแมวตัวน้อยๆที่ถูกขัดใจ ธมกานต์ก้มลงจูบริมฝีปากบางเบา เนื่องจากกลัวหญิงสาวจะรู้สึกตัว ก่อนที่สัญญาณไฟจะเปลี่ยนทำให้ธมกานต์ถอนใจก่อนจะขับรถออกไปอย่างเสียดาย หัวหิน ธมกานต์มาจอดรถที่หน้าบ้านพักตากอากาศที่เคยมากับหญิงสาวเมื่อหลายปีก่อน จิตและเข้มวิ่งมาพร้อมยกข้าวของที่หลังรถธมกานต์เปิดประตูรถด้านข้างคนขับพร้อมกับขยับตัวจะอุ้มหญิงสาวเ ป็นช่วงขณะที่ตรีรินทร์ลืมตาขึ้นพอดี ตรีรินทร์หันไปมองรอบตัว นี่มันบ้านพักตากอากาศที่ เขาและเธอเคยมาด้วยกัน “ เรามาทำอะไรกันที่นี่คะ ไหนคุณบอกจะพารินทร์มาเจอลูกไง” ตรีรินทร์ถามเสียงงุนงง “ ลูกอยู่ข้างๆ บ้านนี่แหละ สงสัยนมอิ่มจะพาเดินเล่นแถวนี้” ธมกานต์พูดเสียงอบอุ่น ตรีรินทร์เดินซอยเท้าเร็วเพื่อมองหาลูกชายตัวน้อย แล้วตาเบิกกว้างเมื่อมองเห็นร่างลูกชายอยู่บนตักของคุณหญิงมณีจันทร์ ข้างๆ มีนมอิ่มและแหวนคอยดูแลอยู่ข้างๆ ตรีรินทร์ยกมือไหว้คุณหญิงมณีจันทร์ นมอิ่ม และแหวน ก่อนที่จะถลาเข้าไปหาลูกชายตัวน้อย ลูกชายเธอพอหันมาเจอแม่ก็ร้องหาด้วยความดีใจ “ แม่ แม่ หาแม่” เด็กชายกริชชัยโผเข้าหา ตรีรินทร์น้ำตาไหลก่อนจะกอดลูกชายแนบอกพร้อมกับหอมแก้มซ้ายขวาด้วยความคิดถึง แม้จะห่างกันไม่กี่ชั่วโมง แต่มานึกถึงว่าถ้าเด็กชายต้องหายไปจากชีวิตก็ทำให้ตรีรินทร์ใจหาย เด็กชายกริชชัยกอดหญิงสาวแน่นพร้อมกับมองหน้าชายอีกคนอย่างสงสัย สัญชาตญาณของสายสัมพันธ์พ่อลูกทำให้น้องกริชยิ้มหวาน ธมกานต์ตัวแข็ง ขณะที่คุณหญิงมณีจันทร์พูดว่า “ มาแล้วเหรอหนูรินทร์ น่าตีจริงๆ เชียว มีหลานให้แม่แล้วไม่บอก น่ารักจริง ๆ หลานย่า” “ กานต์มาอุ้มลูกสิจ๊ะ ลูกยังไม่ได้รู้จักกานต์เลย” คุณหญิงมณีจันทร์แนะ ตรีรินทร์ส่งลูกชายให้ชายหนุ่มพร้อมกับบอกลูกชายเสียงเบาหวิวว่า “ น้องกริชไหว้คุณพ่อสิจ๊ะ นั่นคุณพ่อน้องกริชจ้ะ” พูดจบน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้ง ธมกานต์อุ้มลูกชายกอดแนบอกพร้อมกับพูดเบาๆ ว่า “ลูกพ่อ กริชลูกพ่อ”น้ำตาลูกผู้ชายไหลก่อนที่ธมกานต์จะพาน้องกริชเดินห่างออกไป เด็กชายกริชชัยกอดธมกานต์แน่นพร้อมกับพูดเสียงดัง ว่า “ พ่อ พ่อ” ตรีรินทร์ นมอิ่ม จิต แหวนและคุณหญิงมณีจันทร์น้ำตาซึมด้วยความซาบซึ้งในความรักของพ่อลูก “ เออ เป็นครอบครัวกันสักทีนะจ๊ะหนูรินทร์ อย่าทิฐิมากนักเดี๋ยวจะเหมือนแม่กับคุณพ่อของกานต์ เริ่มต้นใหม่ลูก เริ่มต้นให้ดียังไม่สายเพื่อเห็นแก่น้องกริช” “ ค่ะรินทร์จะพยายาม แต่ก็ต้องแล้วแต่คุณกานต์ด้วยเหมือนกันค่ะ” ตรีรินทร์ยืนเกาะขอบหน้าต่างมองพ่อลูกนั่งก่อกองทราย แล้วยิ้มก่อนจะเดินออกไปสมทบ “ เล่นอะไรกันจ๊ะ พ่อลูก” ตรีรินทร์นั่งข้างๆ น้องกริชก่อนจะหอมแก้มด้วยความเอ็นดู “ นี่คุณ หอมลูกคนเดียวได้ไง หอมพ่อด้วย” ธมกานต์แซวเล่น “ เร็วสิ เห็นไหมน้องกริชมองอยู่” ธมกานต์เร่ง ตรีรินทร์ขยับไปหอมแก้มชายหนุ่มอย่างเสียไม่ได้ เล่นทะเลผ่านไปหลายชั่วโมง ตรีรินทร์รู้สึกถึงความสุขที่มันเปี่ยมล้น ถ้าตัดทุกๆ อย่างออกไปก็ดูเหมือนจะมีความสุขกันดี แต่ตรีรินทร์แอบสังหรณ์ถึงความยุ่งยากต่างๆที่จะตามมาอีกไม่น้อยเลย “ เราอย่าพึ่งพูดเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจเลยนะ ขอผมอยู่กับน้องกริชกับคุณสงบๆ สักพัก ผมยังไม่อยากทะเลาะกับคุณ เพราะฉะนั้นเราวางทุกอย่างไว้ก่อนแล้วค่อยมาคุยกันตอนกลับกรุงเทพฯ นะรินทร์นะ” ธมกานต์ออดอ้อน ตรีรินทร์ยิ้มรับก่อนจะพยักหน้า เธอก็อยากตักตวงความสุขให้กับน้องกริช ให้กับตัวเองเหมือนกัน สองวันผ่านไปตรีรินทร์ใช้เวลาทั้งสองวันกับชายหนุ่มและลูกน้อยอย่างมีความสุข เวลาอยู่กับลูก เธอและชายหนุ่มแทบจะไม่ทะเลาะกันเพราะมีเด็กชายน้อยมาดึงความสนใจของทุกๆอย่างรอบตัวทำให้มีความสุ ขกันทั้งสามคนพ่อแม่ลูก และคนรอบข้าง คุณหญิงมณีจันทร์ตัดสินใจ ก่อนที่จะพูดว่า “ เดี๋ยวบ่ายนี้แม่จะพากันกลับก่อนนะจ๊ะคิดถึงบ้าน แม่จะเอาเจ้ากริชไปด้วย แต่กานต์กับหนูรินทร์อยู่ต่ออีกสักสองสามวันเถอะนะปรับความเข้าใจกันให้เรียบร้อย กลับกรุงเทพฯ จะได้เริ่มต้นกันใหม่ลูก” ตรีรินทร์รู้สึกถึงความอึดอัดแต่มิอาจขัดความประสงค์ของแม่สามีธมกานต์ยืนยิ้มอย่างถูกใจตลอดสองวันมานี่เข าแทบจะไม่ได้แตะต้องเธอเพราะผู้คนมากมายในบ้าน บาร์เล็กๆ ที่แถวทองหล่อ กรุงเทพมหานคร สามหนุ่มนั่งดื่มเหล้ากันอย่างเป็นกันเอง บรรยากาศสบายๆ “ ไอ้หมอเมื่อกี้แกเล่าว่าใครมีลูกนะได้ยินไม่ถนัด” อัครเดชนักธุรกิจการเงิน เอ่ยถามอย่างสงสัย “ ไอ้กานต์ไง มีลูกสามขวบกว่า ลูกคุณรินทร์ไง เค้าเพิ่งเจอกัน ข้างี้เกือบโดนเจ้ากานต์เตะ โทษฐานปิดมันมาซะหลายปี แหมก็อรเค้าขู่จะไม่ให้นอนด้วยนี่หว่า” หมอเอกชัยเล่าอย่างสยอง “ เฮ้ยกรณ์เงียบเลยนะแก” อลงกรณ์นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่หันมามองก่อนจะยกเหล้าดื่ม “ มีอะไรก็เล่าให้ฟังบ้างนะอย่าเก็บไว้คนเดียวเราเป็นเพื่อนกัน” อัครเดชเอ่ยอย่างจริงจัง “ พวกแกช่วยอะไรไม่ได้ ไม่มีใครช่วยข้าได้ ข้าเลิกกับปรางแล้วว่ะไปจดทะเบียนหย่าเมื่อเช้านี้” สองหนุ่มอ้าปากค้าง คาดไม่ถึงเพราะพึ่งไปงานแต่งกันมาเมื่อต้นเดือน ถือเป็นงานแต่งระดับช้างระหว่างนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์สองบริษัทชื่อดังของกรุงเทพฯ “ เฮ๊ยแต่งไม่ถึงเดือนหย่าแล้ว อะไรกันวะ คนนี้แม่แกเลือกให้นี่หว่าไอ้กรณ์ อะไรของแกว่ะเนี่ย” “ นี่ไงที่ข้าบอกว่าไม่มีใครช่วยข้าได้ ปัญหาส่วนตัว” อลงกรณ์นั่งดื่มเหล้าเหมือนย้อมใจ จะเล่าให้ใครฟังได้ว่าตนเองมีรสนิยมไม่เหมือนผู้ชายคนอื่น แม้จะฝืนตัวเองเพื่อเห็นแก่ตำแหน่งหน้าที่การงานที่ใหญ่โตหรือชาติตระกูลแต่ก็ไม่อาจจะฝืนตัวเองได้นาน จะบอกใครได้ว่ารู้สึกขยะแขยงเวลาที่ต้องจับเนื้อต้องตัวผู้หญิง สำหรับผู้หญิงอาจเป็นเพื่อนได้ แต่มากกว่านั้นตนเองจะรู้สึกขยะแขยงทุกครั้งและแน่นอน หญิงสาวที่เป็นภรรยาแม้เธอจะดีแสนดีแค่ไหน แม้จะพยายามเปลี่ยนตัวเองแค่ไหน อลงกรณ์ก็ไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้เลย และเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นภรรยานั่งร้องไห้เพราะไปไม่ถึงครึ่งทางก็ต้องตกเหวไม่เอาอ่าว ดังนั้นอลงกรณ์ก็เลยเปิดใจบอกความจริงกับภรรยาสาวแล้วจบลงด้วยการหย่าร้าง คุณหญิงแพรววิภาก็บ่นตามประสาแม่ที่คาดหวังในตัวลูกมาก และแน่นอนแม้แต่เพื่อนสนิททั้งสอง แม้จะคบกันมาหลายสิบปีตั้งแต่เตรียมอุดม แต่ก็ไม่มีใครรู้ตื้นลึกหนาบางในรสนิยมส่วนตัวของตนเองเลย อลงกรณ์หลับตาแล้วรู้สึกเจ็บปวด ทำไมพระเจ้าถึงลงโทษให้ตนเองไม่ปกติเหมือนคนอื่นเขา กริ๊ง กริ๊ง เสียงโทรศัพท์มือถืออลงกรณ์ดัง ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาดูพร้อมขมวดคิ้ว “ ว่าไง เจ้ากานต์มีอะไร” “ กรณ์ ช่วงนี้แกว่างหรือเปล่า ได้ข่าวจากไอ้หมอว่าแกพักร้อนเดือนครึ่งใช่ไหมวะ” “ เออ แล้วจะทำไม แกอยู่ไหนทำไมไม่มาดื่มด้วยกันเนี่ย ได้ยินเรื่องคุณรินทร์แล้วดีใจด้วยเพื่อน” “ นี่แหละเหตุผล ข้าอยากฮันนีมูนกับรินทร์อีกสักสองวัน ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย สงสัยจะต้องพยศอีกตามเคย ยังไม่ได้คุยเรื่องให้ย้ายกลับมากรุงเทพฯ แต่ข้ามีลูกค้าจากสวิสต้องรับรอง แกช่วยไปรับรองแล้วพาเที่ยวหน่อยสิ รายละเอียดข้าจะสั่งเลขาไว้ พรุ่งนี้แกเข้าไปที่โรงแรมหน่อย เค้าจะมาเมืองไทยประมาณอาทิตย์หนึ่ง แต่อีกสามวันข้าจะเข้าไป ช่วยหน่อยเพื่อนได้ไหม ข้าเห็นแกเก่งภาษาเยอรมัน” “ ได้สิสบายมาก พรุ่งนี้ข้าจะเข้าไปประมาณเก้าโมง บอกเลขาแกให้เตรียมรายละเอียดสองสามีภรรยานี้ไว้ก็แล้วกัน” อลงกรณ์วางสาย พลางคิดในใจว่า “มีอะไรทำก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน” “ไอ้กานต์โทรมาเหรอ” อัครเดชถาม “ อืมเรียกไปทำงานที่โรงแรม” อลงกรณ์ตอบพร้อมกับหมุนแก้วเล่น ธมกานต์โทรหาเลขาคู่ใจ ทันทีที่วางหูจากเพื่อนสนิท “ คุณอาร์มพรุ่งนี้ผมให้เพื่อนไปทำงานที่นั่นชั่วคราวช่วยจัดห้องข้างๆไว้ให้เพื่อนผมด้วย เค้าจะรับรองลูกค้าจากสวิสให้ผม คุณช่วยบริการเขาหน่อยแล้วกัน ระวังตัวด้วยเพราะไอ้กรณ์มันดุมาก” ตรีรินทร์เดินไปมาในห้องน้ำด้วยความตื่นเต้น คุณหญิงมณีจันทร์ นมอิ่ม เข้ม จิต และ แหวนกลับไปหมดแล้วพร้อมลูกชายตัวน้อย ตอนนี้ก็เหลือแต่ตนเองและชายหนุ่ม ตรีรินทร์หัวใจเต้นแรงจนจะระเบิด สองวันนี้มีลูกมานอนคั่นกลางแล้วคืนนี้ล่ะจะเกิดอะไรขึ้น มีแต่เค้าและเราแค่สองคน ตรีรินทร์มือสั่นใจสั่น คิดไปมาอย่างว้าวุ่นใจ ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูเสียงดัง “ รินทร์ รินทร์ คุณทำอะไรอยู่ อยู่ในนั้นหรือเปล่า” “ ค่ะ กำลัง กำลังเออกำลังปวดฉี่ค่ะ “ ตรีรินทร์กดน้ำ กลบเกลื่อนทั้งๆ ที่ยืนอยู่หน้ากระจกอย่างตื่นเต้น “ ตรีรินทร์ เธอเป็นอะไรของเธอ อย่าตื่นเต้นสิ เค้าก็แค่คนธรรมดา เค้าก็แค่พ่อของลูกเราไม่มีอะไรจะมากไปกว่านี้ ห้ามตื่นเต้นสูดลมหายใจ ลึกๆ” ตรีรินทร์ทำท่าสูดลมหายใจเข้าออก หลังจากผ่านไปสิบนาที ตรีรินทร์เดินออกจากห้องน้ำมาขาสั่นเล็กๆแต่ก็ฝืนเดินออกมา “ วันนี้เหลือแค่เราสองคน อย่าทำอะไรกินกันเลย ออกจากไปทานข้างนอกดีกว่า ดีไหม” ธมกานต์เอ่ยถาม “ เออ ก็ดีเหมือนกันค่ะ” “ เดี๋ยวผมเลือกร้านเอง” ธมกานต์ออกตัว ธมกานต์ยิ้มพลางยกมือปัดผมให้พ้นหน้าผากนูนด้วยสายตาบ่งบอกความรัก “ วันนี้เราไม่ทะเลาะกันสักวันนะ ว่าง่าย ๆ กลับกรุงเทพฯ จะมีรางวัลให้” ธมกานต์พูดยิ้มๆ “ ฉันไม่ใช่เด็ก ที่คุณจะเอาของขวัญมาล่อ” “ อ้าว ไม่ใช่เด็กงั้นเหรอ นึกว่าเด็ก เห็นมีปัญหากันทีไรผมเห็นคุณวิ่งหนีตลอด” “ใครบอกว่าฉันเอาแต่วิ่งหนี” น้ำเสียงแววตาของหญิงสาวทำให้ธมกานต์ยิ้มขำเมื่อคนถูกยั่ว เกิดโมโหขึ้นมาจริงๆ “ โอเค โอเค ผมยอมแพ้ เราอย่าทะเลาะกันเลยเสียบรรยากาศ คุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ ผมไปรอข้างนอก” ร้านอาหารริมทะเลสุดหรู ธมกานต์จูงมือภรรยาสาวเข้ามาข้างในริมกระจกใสที่สามารถมองบรรยากาศด้านนอกได้ชัดเจน ตรีรินทร์ตื่นตากับบรรยากาศแสนโรแมนติค บรรยากาศภายในร้านสลัว มีเวทีสำหรับเต้นรำมีวงดนตรีร้องเพลงหวานแสนโรแมนติค ทำให้ตรีรินทร์รู้สึกสดชื่นอย่างไม่เคยมีมาก่อน “ ทานอะไรดีครับรินทร์”ธมกานต์ก้มดูเมนู แล้วเงยหน้ามาถามตรีรินทร์มองบรรยากาศรอบๆ ด้านอย่างทึ่งพร้อมกับตอบว่า “ คุณเลือกเถอะค่ะ ฉันขออะไรง่าย ๆ สองอย่างก็พอ” ธมกานต์ก้มสั่งอาหารพร้อมกับเอื้อมมือมาจับมือหญิงสาว ตรีรินทร์เตรียมจะดึงมือออกจากอุ้งมือ ชายหนุ่มด้วยความเขินอายแต่กลับถูกดึงไปจับ ตรีรินทร์ส่งสายตาดุแต่เมื่อไม่อาจทำอะไรได้ ก็ปล่อยให้ชายหนุ่มจับมืออย่างสบายใจ “ ร้านอาหารร้านนี้บรรยากาศดีจัง ดูอบอุ่น แล้วทำไมเค้าตั้งโต๊ะห่างจังค่ะ แล้วยังงี้เค้าจะได้ลูกค้าเหรอ” “ ร้านพิเศษสำหรับคนพิเศษ เค้าไม่มีที่นั่งเยอะหรอก เป็นส่วนตัวดีผมชอบ” “ คุณจำได้ไหมเรามีโอกาสได้ทานข้าวกันสองต่อสองบรรยากาศแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ผมแทบจำไม่ได้เลย นานแล้วสินะที่เราไม่มีช่วงเวลาแบบนี้ คุณจำได้ไหมเรามาหัวหินครั้งแรกเมื่อไหร่” “ จำได้สิคะ ที่คุณพาฉันมาข่มขืนไง” ตรีรินทร์พูดหน้าตาเฉยแต่ธมกานต์สำลักน้ำที่กำลังยกขึ้นดื่ม ตรีรินทร์ยื่นผ้าเช็ดปากให้พร้อมกับยิ้มขำ “ พูดความจริงถึงกลับสำลักน้ำเลยหรือคะ” ตรีรินทร์ยิ้มยั่ว ธมกานต์ส่งสายตาเข้มเหมือนส่งสัญญาณบอกว่า “ ฝากไว้ก่อน” “ รินทร์อย่าพึ่งรวนกันได้ไหม ผมอยากทานข้าวกับคุณแบบมีความสุขเหมือนสามีภรรยาคนอื่นเค้าบ้างได้ไหมครับคุณผู้หญิง”ตรีรินทร์ยิ้มขำกับท่าทางของชายหนุ่มพร้อมกับยักไหล่ สักพักบริกรก็เริ่มนำอาหารมาเสิร์ฟธมกานต์ตักอาหารให้หญิงสาวอย่างเอาใจ ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวรับประทานอาหารกันอย่างชื่นมื่นตรีรินทร์ยิ้มหวาน ก่อนจะยิ้มตอบให้กับชายหนุ่มต่างชาติที่นั่งถัดไปด้านข้างอีกสองโต๊ะที่ส่งยิ้มมาให้ตรีรินทร์พยักหน้าพร้อมกับยิ้มตอบอย่างมีไมตรีธมกานต์เหลียวหลังไปมองแล้วก็วางช้อนเสียงดังพร้อมกับหยุดทานอาหาร“ คุณยิ้มให้ใคร รู้จักมันหรือไงถึงไปยิ้มให้มันเนี่ยไม่อ่อยใครสักวันคุณคงจะดิ้นตาย”ธมกานต์หึงจนหน้ามืด“ บ้าคุณนี่ พูดกันดีๆ ได้ไม่นานใครไปอ่อยใครคนเค้ายิ้มให้คุณจะให้ฉันแยกเขี้ยวให้เค้าหรือไงไร้มารยาทสิ้นดี ฉันเบื่อจะคุยกับคุณแล้ว”“ ใช่สิ ผมมันไม่ได้หน้าใสหล่อล่ำเหมือนมันนี่ “ ธมกานต์ประชดพร้อมกับกอดอกเลิกทานอาหารทั้งที่ตักอาหารไว้เกือบเต็มจานตรีรินทร์ถอนหายใจจำได้ว่าชายหนุ่มเป็นคนขี้หึง เมื่อก่อนเค้าไม่ชอบให้เธอไปคุยกับ ผู้ชายคนไหนเดี๋ยวนี้ก็ยังเหมือนเดิมเหมือนเด็กดื้อที่ถูกขัดใจ ตอนนี้กอดอกหน้างอแล้วไม่ยอมทานข้าวต่อตรีรินทร์สูดลมหายใจก่อนถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน“ คุณค่ะ ไม่ทานอีกสักนิดเหรอค่ะ สั่งมาตั้ง
Eifelstar Hotelห้องประธานกรรมการอลงกรณ์เดินเข้ามาเพราะไม่มีใครนั่งหน้าห้องยืนอยู่สามนาทีเมื่อไม่มีใครก็เปิดเข้ามาจำได้ว่าเคยเข้ามากับเพื่อนสองคนตอนมาลากธมกานต์ไปไดร์ฟกอล์ฟกัน“ นี่คุณเป็นใครคะ จะมาหาท่านประธานเชิญข้างนอก ที่นี่ไม่ใช่ที่ให้คนมาเดินเล่น” เสียงเลขาหนุ่มแต่จิตใจเป็นผู้หญิงกล่าวเสียงเข้มอลงกรณ์หันมามองต้นเสียงแล้วเลิกคิ้วเข้ม จำได้ว่าเจ้าเพื่อนรักมีเลขาเป็นผู้หญิง แล้วนี่ ผู้ชายตรงหน้าอลงกรณ์ถึงกับตะลึงเมื่อตาสบตา ก่อนจะปัดความคิดออกแล้วพูดเสียงเข้มว่า“ แล้วคุณคิดว่าผมเป็นใครถึงกล้าเข้ามายืนในนี้ ตกลงเราจะทำงานกันได้หรือยัง ถ้าคุณคือเลขาเจ้ากานต์ ผมมาแล้วไหนงานที่ผมสั่งไว้”อาร์มอ้าปากก่อนจะยกมือไหว้ “ สวัสดีค่ะคุณอลงกรณ์ ขอโทษที่ฉันไม่รู้จักคุณ งานคุณอยู่ห้องข้างๆค่ะ เชิญตามฉันมาได้เลย”อลงกรณ์นึกขำสรรพนามที่ชายหนุ่มร่างบางตรงหน้ากล่าวลงท้าย“ ตกลง คุณเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงคำว่าค่ะกับฉันเนี่ยน่าจะเป็นผู้หญิงใช้ส่วนคุณถ้าทำงานกับผมกรุณาแทนตัวเองเป็นผู้ชายผมไม่ชอบพวกสับสนเพศ” อลงกรณ์กล่าวเสียงเข้ม“ ครับ” อาร์มตอบเสียงเย็น “ อีตาบ้านี่มาถึงก็เหยียดเพศเลยนะ นึกว่าต
หัวหินตรีรินทร์ออกมาเดินเล่นตั้งแต่เช้าไปนั่งเล่นชายหาดคนเดียวโดยไม่ได้สนใจชายหนุ่มผู้เป็นสามีกว่าจะเดินกลับบ้าน เห็นชายหนุ่มยืนกอดอกหน้าบูดตรีรินทร์ถอนหายใจ ก่อนจะเดินเข้าไป“ ไปไหนมา ไปไหนไม่คิดจะบอกกันหรือไง ตกลงคุณอยู่ที่นี่คนเดียวหรือไง ไม่ต้องสนใจใครหน้าไหนเลยใช่ไหม”“ ฉันเห็นคุณยังไม่ ตื่น ขอโทษค่ะที่ทำให้คุณรอ”ธมกานต์ถอนใจยาว ก่อนจะคว้ามือหญิงสาว ให้หันมาคุยกันแบบประจันหน้า“ สำหรับผมไม่มีใครสำคัญเท่ากับคุณและลูก ขอให้รู้ไว้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ผมมั่นใจในตัวเองและผมอยากให้คุณมั่นใจในตัวผม เข้าใจไหม อย่าโบกไปปลิวมาตามกระแสคนรอบข้างผมรู้ว่าคุณอยากกลับกรุงเทพฯ แต่เสียใจผมคงต้องขัดใจคุณ เราต้องอยู่ที่นี่ต่อด้วยกันแม้ว่าคุณจะไม่ชอบก็ตาม”ตรีรินทร์น้ำตาไหล เมื่อธมกานต์เดินออกจากห้องไปร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่น้อยครั้งที่ อาร์ม หรืออิทธิพลจะมาเดินเล่นเพราะสำหรับตนเองที่มีฐานะยากจน ถึงแม้จะทำงานตำแหน่งเลขาของประธาน เงินเดือนสองหมื่นห้าแต่อิทธิพลหรืออาร์มต้องดูแลครอบครัวอีกหกคนที่บ้านนอกดังนั้นห้างสรรพสินค้าดังจึงค่อนข้างห่างไกลกับชีวิตของตนทุกเดือนอาร์มจะส่งเงินกลับบ
หัวหินหลังจากต่างคนต่างหลบมุมไปนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ตรีรินทร์ก็เดินเข้าไปที่ห้องครัวเล็ก ๆเพื่อมองหาของที่จะทำอาหาร ธมกานต์เดินมานั่งที่โต๊ะในครัว ตรีรินทร์มองชายหนุ่มแล้วเลิกคิ้ว“ เราอย่าทะเลาะกันเลยนะรินทร์ นานๆ ผมจะว่างพาคุณมาเที่ยว” ธมกานต์เอ่ยขึ้นก่อน“ ฉันไม่ได้คนชวนทะเลาะนะคะ”“ อ้าว ไหงมาโทษผมล่ะ”“ ก็จริงนี่ แต่เอาเถอะค่ะสงบศึกกันชั่วคราวก็ได้ กลับกรุงเทพฯแล้วค่อยคุยกัน”“ ไม่ยอมเลยนะรินทร์” ธมกานต์พูดยั่ว“ แน่นอน” ตรีรินทร์เสียงแหลมแต่ในใจแอบรู้สึกถึงความอบอุ่นหกโมงเย็น โรงแรม Eifelstarอลงกรณ์เปิดประตูออกมา หลังจากครึ่งบ่ายลุยงานหลายชิ้น เมื่อมองเห็นชายรุ่นน้อง กำลังคีย์งานที่คอมฯ ก็เผลอมองก่อนจะพูดว่า“ นี่คุณเลิกงานตั้งนานแล้ว ทำไมยังไม่กลับบ้านไปอีก”“ ก็บอสยังไม่กลับ ฉันมันก็แค่เลขา จะกลับก่อนเจ้านายได้ยังไง” อาร์มค้อนเบาๆ“ ไป คุณกลับบ้านได้แล้ว เย็นมากแล้วผมไปส่ง”“ เออ ไม่ต้องครับ หอพักผมอยู่ถัดไปสองป้ายรถเมล์ ตอนเย็นผมเดินกลับถือโอกาสเดินออกกำลังกายไปในตัว”“ อวดดี ผมบอกไงว่าจะไปส่ง ทางผ่านอยู่แล้ว” อลงกรณ์ทำหน้าหงิกเมื่อถูกขัดใจ“ เร็วสิ เก็บของเร็ว ๆ” อล
หัวหินธมกานต์กับตรีรินทร์รับประทานอาหารท่ามกลางแสงเทียนในบรรยากาศแสนโรแมนติคธมกานต์ตักอาหารให้ภรรยาสาว ตรีรินทร์เงยหน้ามองชายหนุ่มแสดงความขอบคุณด้วยสายตา“ อาหารมื้อนี้อร่อยมาก อิ่มที่สุดในโลก ขอบคุณครับรินทร์ รู้ไหมตลอดสามปีกว่าที่เราพลัดพรากกันผมไม่เคยลืมคุณได้สักวินาทีเดียว ไม่คิดว่าจะได้มาเจอคุณอีกเหมือนปฏิหารย์แต่เราก็ได้พบกันแถมมีลูกเป็นของขวัญอีกขอบคุณคุณพระคุณเจ้าที่ไม่ทำให้เราพลัดพรากกันนานกว่านี้เมื่อก่อนผมมีชีวิตอยู่ไปอย่างไร้ค่าแต่เมื่อมาเจอคุณกับลูก ทำให้ผมมีเป้าหมายชีวิต ชีวิตผมมีความหมายมากขึ้น you change my life”ธมกานต์พูดภาษาอังกฤษตอนท้าย ตรีรินทร์รู้สึกตื้นตันน้ำตาคลอ ธมกานต์เอื้อมมือมาจับมือภรรยาสาวตั้งใจจะสารภาพรัก หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น ยิ่งหญิงสาวจ้องหน้าแบบจ้องเขม็ง ทำให้ธมกานต์พูดไม่ออกตรีรินทร์รู้สึกแทบหัวใจจะหยุดเต้นด้วยความตื่นเต้น ‘นี่เค้าจะบอกรักเราหรือเปล่า บอกสิคะแล้วรินทร์ก็จะบอกคุณบ้างว่ารินทร์รักคุณสุดหัวใจ ไม่เคยมีใครตลอดสามปีกว่าที่ผ่านมา เพราะรอคุณอยู่บอกสิคะ พลีส’ ตรีรินทร์พึมพำในใจพร้อมกับมองชายหนุ่มแบบส่งกำลังใจให้ธมกานต์ไม่รู้
“ เออ ยังงี้ก็จบข่าว งั้นแค่นี้แหละ จะบอกว่าข้าขอตัวคุณอาร์มมาช่วยงาน อืมมาทำงานโรงแรมก็ชักสนุกได้รื้อฟื้นสิ่งที่เรียนมาบ้าง ขอบใจเพื่อน แล้วเจอกันตอนที่แกกลับกรุงเทพฯนัดทานข้าวกันสักมื้อหนึ่ง”“ โอเคได้เลย ขอบใจเพื่อน”ธมกานต์วางโทรศัพท์ พร้อมกับล้มตัวลงนอนที่โขดหินตรีรินทร์นอนร้องไห้จนผลอยหลับไป รุ่งเช้าต่างคนก็ต่างยุ่งเก็บของกลับกรุงเทพฯระหว่างทางต่างคนต่างเงียบเหมือนไว้เชิง สุดท้ายตรีรินทร์ทนไม่ไหวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน“ พรุ่งนี้รินทร์จะกลับเชียงใหม่แล้วนะคะ เป็นห่วงที่สวนลำไยแล้วไหนที่ร้านอีกทิ้งมาหลายวันแล้วเป็นห่วงค่ะ”ธมกานต์หันขวับมาอย่างโมโห “ตกลง เราคุยกันไม่รู้เรื่องหรือไงผมแต่งงานกับคุณก็เพื่ออยากให้เราเป็นครอบครัว แล้วผมก็ไม่ยอมให้คุณไปไหนทั้งนั้นเดี๋ยวผมจะส่งเข้มกับแหวนไปขนของคุณขึ้นมากรุงเทพฯ แล้วคุณก็ถามแม่คุณว่าท่านจะย้ายมาอยู่กับเราไหมผมอยากให้ท่านย้ายมาอยู่กับเรา”“ นี่คุณจะมาบังคับฉันไม่ได้หรอกนะฉันไม่ยอม ร้านอาหารฉันสร้างมากับมือแล้วสวนลำไยที่ลำพูนอีกยังไงฉันไม่มีวันทิ้งเด็ดขาด นะคะคุณธมกานต์ เราไม่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาก็ได้แล้วฉันจะพาลูกขึ้นมากรุงเทพฯ บ่
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้