ธมกานต์เดินออกจากห้องด้วยความหงุดหงิด นึกว่าเมื่อคืนจะทำให้หญิงสาวใจอ่อน
แต่กลับพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา ธมกานต์รู้สึกเหมือนถูกชกหน้าด้วยหมัดหนักๆ ก่อนจะคิดหาหนทางที่จะดึงเอาทั้งหญิงสาวและลูกชายกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ตรีรินทร์ยืนกอดอกเหม่อมองต้นไม้ผ่านกระจกที่ห้องในโรงพยาบาลอย่างล่องลอย ภาพระหว่างตนเองและชายหนุ่มตั้งแต่พบกัน แต่งงานกัน หย่ากันพลัดพรากกัน และจนกระทั่งได้กลับมาพบกันอีกครั้งตัดสลับไปมา ตกลงมันคืออะไรแน่ ความรักความผูกพันหรือแค่ความต้องการเอาชนะ เมื่อคนที่วางอำนาจชอบเอาแต่ใจ แต่มาเจอกับคนที่แสนจะพยศ ภาพนางแบบสาวประกาศหมั้นจนเป็นข่าวครึกโครมตามหน้าจอทีวี เป็นภาพติดตาภาพสุดท้ายที่ตรีรินทร์นึกถึงก็ตัดสินใจกดโทรศัพท์หาเพื่อนสาว “ อรเย็นนี้เราจะกลับเชียงใหม่แล้วนะ หมอว่าน้องกริชไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วเดี๋ยวเราว่าจะไปเช็คเอ้าท์ที่โรงแรม แล้วจะมารับน้องกริชกลับบ้านเลย คงไม่ได้เจอกันสักพักนะอร เรายังไม่ค่อยอยากกลับมากรุงเทพฯสักเท่าไหร่ มีอะไรแกไปหาเราที่เชียงใหม่ก็แล้วกัน” อรวิสาครุ่นคิดก่อนจะตอบว่า “ อ้าว แล้วคุณกานต์ล่ะ เห็นหายไปด้วยกันทั้งคืนก็นึกว่าตกลงกันได้แล้ว” ตรีรินทร์หน้าร้อนด้วยความอาย ก่อนจะละล่ำละลักตอบว่า “ ตกลงอะไรกันบังคับขู่เข็ญล่ะไม่ว่า ดูท่าจะไม่ค่อยดีแล้ว อรก็เห็น เค้ามีคู่หมั้นแล้ว เราไม่อยากไปเป็นอุปสรรคเส้นทางรักของใคร แล้วเราก็ไม่อยากให้ใครคิดว่าเราใช้น้องกริชเป็นเครื่องมือแย่งเค้ามาจากแฟนเค้าด้วย เพราะฉะนั้นเราจะเป็นคนไปเอง” อรวิสาถอนหายใจยาว “ ตามใจรินทร์แล้วกัน กลับถึงเชียงใหม่แล้วโทรบอกด้วยนะ” ธมกานต์กดโทรศัพท์ไปยังโรงแรมที่หญิงสาวพัก ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ “ คุณอาร์ม เข้ามาพบผมหน่อย” ธมกานต์กดโทรศัพท์ภายในเรียกเลขาคู่ใจ คนใหม่ เสียงเคาะประตูพร้อมร่างหนุ่มประเภทสองที่เป็นผู้ช่วยคุณหญิงมณีจันทร์มาหลายปี ตั้งแต่กลับจากอเมริกาคุณหญิงมณีจันทร์วางมือจากธุรกิจถาวร หันหน้าพึ่งธรรมะ โอนมอบหมายงานให้ลูกชายเพียงคนเดียว ธมกานต์เลื่อนจากรองประธานเป็นประธานกรรมการ ธมกานต์ได้ยินคุณหญิงมณีจันทร์เอ่ยชมชายหนุ่มประเภทสองคนนี้บ่อยๆ นี่เพิ่งเป็นครั้งที่สองที่ทำงานร่วมกันอย่างจริงๆ จังๆ เมื่อก่อนก็เห็นผ่านไป ผ่านมาเคยได้ยินมารดาเอ่ยชมถึงความขยัน เรียบร้อย สะอาดของชายหนุ่มผู้นี้บ่อยครั้ง “ บอสมีอะไรให้อาร์มรับใช้คะ” ธมกานต์นึกขำที่อีกฝ่ายพูดเสมือนเป็นหญิงค่อนข้างคล่องปาก แต่เดี๋ยวนี้สังคมยอมรับกลุ่มคนพวกนี้กว้างขึ้นและโดยส่วนตัวธมกานต์ค่อนข้างชื่นชมการทำงานมากกว่าเรื่องส่ วนตัว “ ผมอยากให้คุณช่วยอะไรผมหน่อย เป็นธุระส่วนตัวผมมีเวลาแค่ชั่วโมงครึ่ง อยากให้คุณไปโรงพยาบาลกับผม เสร็จธุระที่โรงพยาบาลผมมีประชุมต่อที่สาธรกว่าจะกลับคงบ่าย ๆ ผมมีธุระให้คุณช่วยจัดการต่อ” ธมกานต์วางแผนทุกอย่างเป็นขั้นตอน “ บอสสั่งมาได้เลยค่ะ อาร์มจะทำสุดความสามารถ” ธมกานต์ยิ้ม พร้อมกับพยักหน้า บ่ายสองโมง ตรีรินทร์ทั้งเดินและวิ่งมาที่ห้องประธานกรรมการด้วยอารมณ์คุกรุ่น หลังจากไปทำธุระที่โรงแรม แต่ต้องแปลกใจเมื่อห้องถูกเช็คเอ้าท์ไปแต่สายๆพร้อมข้าวของเครื่องใช้ของเธอและลูกหายไปจนหมด เมื่อกลับมาถึงโรงพยาบาลก็ตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อพยาบาลแจ้งว่าชายหนุ่มได้มารับน้องกริชออกจากโรงพยาบาลเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา ตรีรินทร์อยากฆ่าชายหนุ่มทันทีที่ได้ยิน จริงๆ แล้วเธอก็ประมาทเกินไปสินะ ประมาทเค้าจนเกินไป คนอย่างธมกานต์ พิพัฒนพงศ์เค้าคงกัดไม่ปล่อยเป็นแน่แท้ ตรีรินทร์เปิดประตูห้องทำงานออกโดยไม่เคาะประตู เพราะความโมโหและร้อนใจสุดๆ เสียงเปิดประตูทำให้ อาร์มเลขาหนุ่มพร้อมกับธมกานต์หันหน้ามาพร้อมกัน แต่ด้วยอารมณ์ที่ต่างกัน อาร์มหันไปมองหญิงสาวสวยที่เข้ามาใหม่ด้วยความงุนงง ส่วนธมกานต์ก้มหน้าอมยิ้ม เมื่อแผนทุกอย่างเดินไปตามเกมที่ตนเองวางไว้ “ ขอโทษนะคะ ขอคุยธุระส่วนตัวกับคุณกานต์สักครู่ คุณ เออ” ตรีรินทร์ พยายามข่มเสียงพูด “ อาร์มค่ะ เป็นเลขาคุณกานต์ เออ ว่าแต่คุณคือ” “ เมียผม รู้จักกันไว้สิ ตรีรินทร์ พิพัฒนพงค์” “สวัสดีค่ะ” อาร์มยกมือไหว้อย่างนอบน้อม “ สวัสดีค่ะ ดิฉันหย่าแล้วเปลี่ยนไปใช้นามสกุลเดิมแล้วค่ะ ดิฉันตรีรินทร์ มนัสสุกานต์ ยินดีที่ได้รู้จัก” ธมกานต์หน้าบึ้งพร้อมกับพูดเสียงเข้มว่า “ คุณออกไปก่อนคุณอาร์มช่วยเคลียร์งานให้ผมด้วยมีอะไรติดต่อที่มือถือผม” “ ค่ะเจ้านาย” เมื่อลับร่างเลขาของชายหนุ่ม ตรีรินทร์ก็หันมาจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง “ เอาลูกฉันไปไว้ที่ไหน เอาลูกฉันคืนมาเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่มีเวลาเล่นเกมส์อะไรกับคุณนะ คุณกานต์” “ จุ๊ ๆ ๆ ๆ” “ เบาๆ หน่อย ที่นี่ที่ทำงานนะคุณ” ธมกานต์ยิ้มยั่ว ตรีรินทร์ถอนหายใจพร้อมกับพูดเน้นทีละคำ “ เอาลูกฉันคืนมา” “ ลูกเราก็อยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว อยากได้ลูกคืนก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน” “ ข้อแลกเปลี่ยน บ้าบออะไรของคุณฮะ” ตรีรินทร์ตะเบ็งเสียงดัง “ จดทะเบียนกับผม” “ บ้า คุณต้องเป็นบ้าไปแล้ว แน่ๆ” ตรีรินทร์พูดพร้อมกับส่ายหน้าไปมา “ ผมปกติดี ไม่ได้บ้า ก็แค่คนปกติใครๆ เค้าก็ต้องทำแบบผมทั้งนั้น” ธมกานต์ลุกขึ้นยืนกอดอก “ ไม่นะ ฉันขอร้องล่ะคุณธมกานต์ อย่ามาข้องเกี่ยวกันอีกเลย ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะ คุณก็กำลังจะเริ่มต้นชีวิตของคุณ อย่าเอาฉันกับน้องกริชไปเป็นอุปสรรคเลย” “ เสียใจผมคงทำแบบนั้นไม่ได้ ผมตัดสินใจแล้ว แล้วก็ไม่มีใครจะมาเปลี่ยนใจผมได้” “ ถ้าฉันไม่ตกลง” ตรีรินทร์ถามพร้อมใจระทึกกับคำตอบ “ คุณก็จะไม่ได้เจอลูกอีกก็แค่นั้น” ตรีรินทร์น้ำตาไหลพร้อมกับทรุดนั่งเก้าอี้ พร้อมกับปิดหน้า “ ทำไม ทำไมคุณทำแบบนี้ทำไม เรื่องของเรามันจบไปแล้ว จะทำให้เรื่องยุ่งยากอีกทำไม” ธมกานต์มองหญิงสาวด้วยความปวดใจ “ การที่คุณจะมาแต่งงานใหม่กับผม ทำให้คุณเสียใจมากขนาดนี้เลยเหรอ ผมมันเลวร้ายมากนักหรือไง” ตรีรินทร์นิ่งเงียบ ‘จะบอกเค้าว่ายังไง บอกว่าตั้งแต่เมื่อสี่ปีที่แล้วจนถึงบัดนี้ ความรักที่เธอมีให้กับเค้ายังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แล้วนี่ต้องกลับมาผูกพันกันอีกทำให้เธอกลัว กลัวว่าจะผูกพันกันมากกว่านี้ รักมากกว่านี้ เธอจะทำอย่างไงดี’ “ ฉันไม่เข้าใจ คุณก็กำลังจะมีครอบครัวใหม่ชีวิตใหม่ คุณจะมีลูกอีกสักกี่คนก็ได้ ฉันขอบคุณที่คุณช่วยลูก แต่ฉันกับลูกไม่อยากเป็นอุปสรรคในชีวิตคุณกับแฟน” “ ใครบอกคุณว่าผมจะมีครอบครัวใหม่ สู่รู้ไม่เข้าเรื่อง” ธมกานต์จ้องตาอย่างเอาเรื่อง “ ก็ ก็ช่างเถอะ คุณจะเอายังไงก็ว่ามา ฉันมันไม่มีทางเลือกแล้วนี่ จะให้ทำอะไรก็บงการมาได้เลย คุณถนัดอยู่แล้วนี่การบงการชีวิตคนเนี่ย” “ หึ ไม่ต้องมาประชด แล้วจะบอกให้รู้ไว้ผมบงการชีวิตคุณคนเดียวคนอื่นผมก็ไม่ทำ สะใจดีเวลาเห็นคุณพยศฟาดหัวฟาดหางแบบนี้ ชีวิตผมตลอดสามปีที่ผ่านมามันจืดชืด ต่อไปมีคุณกับลูกเข้ามาชีวิตผมคงมีรสชาติขึ้นอีกเยอะ” “ เมื่อไหร่ ฉันจะได้เจอลูก” “ หลังจากจดทะเบียนเสร็จ ผมจะพาคุณไปเจอลูก” ธมกานต์พูดเสียงเรียบเฉย “ อื้อ” เสียงตรีรินทร์ครางเหมือนอยากสะกดอารมณ์ “ ฉันเกลียดคุณคนบ้า” ตรีรินทร์พูดเน้นคำและจ้องตาชายหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัว “ ผมชอบความเกลียดของคุณ” ธมกานต์พูดยั่ว “ คนบ้า ชอบให้คนเกลียด” ตรีรินทร์ต่อว่าอย่างระอา ตรีรินทร์นั่งเงียบมาตลอดทาง หลังจากจดทะเบียนสมรสกันใหม่อีกครั้งพร้อมเปลี่ยนนามสกุลของเธอและลูก ซึ่งทุกอย่างเสร็จอย่างรวดเร็วเพราะธมกานต์จัดการเรื่องเอกสารทุกอย่างเกือบจะเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวนิ่งเงียบมาตลอดทาง จนกระทั่งรถออกนอกเมือง ตรีรินทร์หันไปมองป้ายข้างทาง “ นี่เราจะไปไหนกัน ไหนคุณว่าจะพาฉันมาเจอลูกไง” “ ก็กำลังจะไปเจอแล้วเงียบๆ เถอะนะ เดี๋ยวก็ถึงแล้ว” “ นี่คุณทำอะไรของคุณ ฉันงงไปหมดแล้ว”ธมกานต์ขับรถต่อก่อนจะอมยิ้ม เมื่อสามารถทำให้หญิงสาวหงุดหงิดได้ปกติหญิงสาวจะเป็นคนที่ไม่โวยวาย ไม่แสดงอารมณ์มากนัก จะเงียบเฉยเป็นส่วนใหญ่แต่เมื่อตนเองสามารถทำให้หญิงสาวที่เป็นคนเรียบเฉย ไม่แสดงอารมณ์ แต่กลับกลายเป็นคนโมโห ขี้โวยวายมันก็ทำให้หญิงสาวมีความน่ารักเหมือนเด็กดื้อถูกขัดใจ ธมกานต์ยิ้มก่อนขับรถต่ออย่างอารมณ์ดีผิดกับหญิงสาวยิ่งเห็นชายหนุ่มยิ้มอย่างอารมณ์ดียิ่งหงุดหงิด หญิงสาวขยับนั่งหันหลังให้กับชายหนุ่มมองไปกระจกข้างๆ อย่างปลดปล่อยใจ‘ชีวิตเธอข้างหน้า จะเป็นอย่างไงนะ จะมีอุปสรรคอะไรรออยู่ข้างหน้าแล้วชายที่นั่งข้างๆเค้าคงจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอกับลูกอีกเป็นแน่แท้’ ตรีรินทร์คิดไปมาอย่างว้าวุ่นใจตรีรินทร์แอบลอบมองเสี้ยวใบหน้าของชายหนุ่มที่ตลอดสี่ปีที่จากกันไปไม่มีสักวันที่เธอจะไม่คิดถึงเขาคนนี้ต่อจากนี้ไปอนาคตของเธอและลูกคงต้องมีเค้าเดินเคียงคู่กันไปสินะแม้ส่วนหนึ่งในใจแอบโกรธที่ชายหนุ่มดูถูกเธอไว้แต่ตรีรินทร์ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความรักความห่วงใยความคิดถึงก็มีให้เขาคนนี้ไม่น้อยเลย คิดถึงอนาคตของเธอและลูกกับเขาคนนี้จนทำให้ตรีรินทร์เผลอหลับไปธมกานต์หันมามองร่างของภรรยาส
ตรีรินทร์ยิ้มขำกับท่าทางของชายหนุ่มพร้อมกับยักไหล่ สักพักบริกรก็เริ่มนำอาหารมาเสิร์ฟธมกานต์ตักอาหารให้หญิงสาวอย่างเอาใจ ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวรับประทานอาหารกันอย่างชื่นมื่นตรีรินทร์ยิ้มหวาน ก่อนจะยิ้มตอบให้กับชายหนุ่มต่างชาติที่นั่งถัดไปด้านข้างอีกสองโต๊ะที่ส่งยิ้มมาให้ตรีรินทร์พยักหน้าพร้อมกับยิ้มตอบอย่างมีไมตรีธมกานต์เหลียวหลังไปมองแล้วก็วางช้อนเสียงดังพร้อมกับหยุดทานอาหาร“ คุณยิ้มให้ใคร รู้จักมันหรือไงถึงไปยิ้มให้มันเนี่ยไม่อ่อยใครสักวันคุณคงจะดิ้นตาย”ธมกานต์หึงจนหน้ามืด“ บ้าคุณนี่ พูดกันดีๆ ได้ไม่นานใครไปอ่อยใครคนเค้ายิ้มให้คุณจะให้ฉันแยกเขี้ยวให้เค้าหรือไงไร้มารยาทสิ้นดี ฉันเบื่อจะคุยกับคุณแล้ว”“ ใช่สิ ผมมันไม่ได้หน้าใสหล่อล่ำเหมือนมันนี่ “ ธมกานต์ประชดพร้อมกับกอดอกเลิกทานอาหารทั้งที่ตักอาหารไว้เกือบเต็มจานตรีรินทร์ถอนหายใจจำได้ว่าชายหนุ่มเป็นคนขี้หึง เมื่อก่อนเค้าไม่ชอบให้เธอไปคุยกับ ผู้ชายคนไหนเดี๋ยวนี้ก็ยังเหมือนเดิมเหมือนเด็กดื้อที่ถูกขัดใจ ตอนนี้กอดอกหน้างอแล้วไม่ยอมทานข้าวต่อตรีรินทร์สูดลมหายใจก่อนถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน“ คุณค่ะ ไม่ทานอีกสักนิดเหรอค่ะ สั่งมาตั้ง
Eifelstar Hotelห้องประธานกรรมการอลงกรณ์เดินเข้ามาเพราะไม่มีใครนั่งหน้าห้องยืนอยู่สามนาทีเมื่อไม่มีใครก็เปิดเข้ามาจำได้ว่าเคยเข้ามากับเพื่อนสองคนตอนมาลากธมกานต์ไปไดร์ฟกอล์ฟกัน“ นี่คุณเป็นใครคะ จะมาหาท่านประธานเชิญข้างนอก ที่นี่ไม่ใช่ที่ให้คนมาเดินเล่น” เสียงเลขาหนุ่มแต่จิตใจเป็นผู้หญิงกล่าวเสียงเข้มอลงกรณ์หันมามองต้นเสียงแล้วเลิกคิ้วเข้ม จำได้ว่าเจ้าเพื่อนรักมีเลขาเป็นผู้หญิง แล้วนี่ ผู้ชายตรงหน้าอลงกรณ์ถึงกับตะลึงเมื่อตาสบตา ก่อนจะปัดความคิดออกแล้วพูดเสียงเข้มว่า“ แล้วคุณคิดว่าผมเป็นใครถึงกล้าเข้ามายืนในนี้ ตกลงเราจะทำงานกันได้หรือยัง ถ้าคุณคือเลขาเจ้ากานต์ ผมมาแล้วไหนงานที่ผมสั่งไว้”อาร์มอ้าปากก่อนจะยกมือไหว้ “ สวัสดีค่ะคุณอลงกรณ์ ขอโทษที่ฉันไม่รู้จักคุณ งานคุณอยู่ห้องข้างๆค่ะ เชิญตามฉันมาได้เลย”อลงกรณ์นึกขำสรรพนามที่ชายหนุ่มร่างบางตรงหน้ากล่าวลงท้าย“ ตกลง คุณเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงคำว่าค่ะกับฉันเนี่ยน่าจะเป็นผู้หญิงใช้ส่วนคุณถ้าทำงานกับผมกรุณาแทนตัวเองเป็นผู้ชายผมไม่ชอบพวกสับสนเพศ” อลงกรณ์กล่าวเสียงเข้ม“ ครับ” อาร์มตอบเสียงเย็น “ อีตาบ้านี่มาถึงก็เหยียดเพศเลยนะ นึกว่าต
หัวหินตรีรินทร์ออกมาเดินเล่นตั้งแต่เช้าไปนั่งเล่นชายหาดคนเดียวโดยไม่ได้สนใจชายหนุ่มผู้เป็นสามีกว่าจะเดินกลับบ้าน เห็นชายหนุ่มยืนกอดอกหน้าบูดตรีรินทร์ถอนหายใจ ก่อนจะเดินเข้าไป“ ไปไหนมา ไปไหนไม่คิดจะบอกกันหรือไง ตกลงคุณอยู่ที่นี่คนเดียวหรือไง ไม่ต้องสนใจใครหน้าไหนเลยใช่ไหม”“ ฉันเห็นคุณยังไม่ ตื่น ขอโทษค่ะที่ทำให้คุณรอ”ธมกานต์ถอนใจยาว ก่อนจะคว้ามือหญิงสาว ให้หันมาคุยกันแบบประจันหน้า“ สำหรับผมไม่มีใครสำคัญเท่ากับคุณและลูก ขอให้รู้ไว้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ผมมั่นใจในตัวเองและผมอยากให้คุณมั่นใจในตัวผม เข้าใจไหม อย่าโบกไปปลิวมาตามกระแสคนรอบข้างผมรู้ว่าคุณอยากกลับกรุงเทพฯ แต่เสียใจผมคงต้องขัดใจคุณ เราต้องอยู่ที่นี่ต่อด้วยกันแม้ว่าคุณจะไม่ชอบก็ตาม”ตรีรินทร์น้ำตาไหล เมื่อธมกานต์เดินออกจากห้องไปร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่น้อยครั้งที่ อาร์ม หรืออิทธิพลจะมาเดินเล่นเพราะสำหรับตนเองที่มีฐานะยากจน ถึงแม้จะทำงานตำแหน่งเลขาของประธาน เงินเดือนสองหมื่นห้าแต่อิทธิพลหรืออาร์มต้องดูแลครอบครัวอีกหกคนที่บ้านนอกดังนั้นห้างสรรพสินค้าดังจึงค่อนข้างห่างไกลกับชีวิตของตนทุกเดือนอาร์มจะส่งเงินกลับบ
หัวหินหลังจากต่างคนต่างหลบมุมไปนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ตรีรินทร์ก็เดินเข้าไปที่ห้องครัวเล็ก ๆเพื่อมองหาของที่จะทำอาหาร ธมกานต์เดินมานั่งที่โต๊ะในครัว ตรีรินทร์มองชายหนุ่มแล้วเลิกคิ้ว“ เราอย่าทะเลาะกันเลยนะรินทร์ นานๆ ผมจะว่างพาคุณมาเที่ยว” ธมกานต์เอ่ยขึ้นก่อน“ ฉันไม่ได้คนชวนทะเลาะนะคะ”“ อ้าว ไหงมาโทษผมล่ะ”“ ก็จริงนี่ แต่เอาเถอะค่ะสงบศึกกันชั่วคราวก็ได้ กลับกรุงเทพฯแล้วค่อยคุยกัน”“ ไม่ยอมเลยนะรินทร์” ธมกานต์พูดยั่ว“ แน่นอน” ตรีรินทร์เสียงแหลมแต่ในใจแอบรู้สึกถึงความอบอุ่นหกโมงเย็น โรงแรม Eifelstarอลงกรณ์เปิดประตูออกมา หลังจากครึ่งบ่ายลุยงานหลายชิ้น เมื่อมองเห็นชายรุ่นน้อง กำลังคีย์งานที่คอมฯ ก็เผลอมองก่อนจะพูดว่า“ นี่คุณเลิกงานตั้งนานแล้ว ทำไมยังไม่กลับบ้านไปอีก”“ ก็บอสยังไม่กลับ ฉันมันก็แค่เลขา จะกลับก่อนเจ้านายได้ยังไง” อาร์มค้อนเบาๆ“ ไป คุณกลับบ้านได้แล้ว เย็นมากแล้วผมไปส่ง”“ เออ ไม่ต้องครับ หอพักผมอยู่ถัดไปสองป้ายรถเมล์ ตอนเย็นผมเดินกลับถือโอกาสเดินออกกำลังกายไปในตัว”“ อวดดี ผมบอกไงว่าจะไปส่ง ทางผ่านอยู่แล้ว” อลงกรณ์ทำหน้าหงิกเมื่อถูกขัดใจ“ เร็วสิ เก็บของเร็ว ๆ” อล
หัวหินธมกานต์กับตรีรินทร์รับประทานอาหารท่ามกลางแสงเทียนในบรรยากาศแสนโรแมนติคธมกานต์ตักอาหารให้ภรรยาสาว ตรีรินทร์เงยหน้ามองชายหนุ่มแสดงความขอบคุณด้วยสายตา“ อาหารมื้อนี้อร่อยมาก อิ่มที่สุดในโลก ขอบคุณครับรินทร์ รู้ไหมตลอดสามปีกว่าที่เราพลัดพรากกันผมไม่เคยลืมคุณได้สักวินาทีเดียว ไม่คิดว่าจะได้มาเจอคุณอีกเหมือนปฏิหารย์แต่เราก็ได้พบกันแถมมีลูกเป็นของขวัญอีกขอบคุณคุณพระคุณเจ้าที่ไม่ทำให้เราพลัดพรากกันนานกว่านี้เมื่อก่อนผมมีชีวิตอยู่ไปอย่างไร้ค่าแต่เมื่อมาเจอคุณกับลูก ทำให้ผมมีเป้าหมายชีวิต ชีวิตผมมีความหมายมากขึ้น you change my life”ธมกานต์พูดภาษาอังกฤษตอนท้าย ตรีรินทร์รู้สึกตื้นตันน้ำตาคลอ ธมกานต์เอื้อมมือมาจับมือภรรยาสาวตั้งใจจะสารภาพรัก หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น ยิ่งหญิงสาวจ้องหน้าแบบจ้องเขม็ง ทำให้ธมกานต์พูดไม่ออกตรีรินทร์รู้สึกแทบหัวใจจะหยุดเต้นด้วยความตื่นเต้น ‘นี่เค้าจะบอกรักเราหรือเปล่า บอกสิคะแล้วรินทร์ก็จะบอกคุณบ้างว่ารินทร์รักคุณสุดหัวใจ ไม่เคยมีใครตลอดสามปีกว่าที่ผ่านมา เพราะรอคุณอยู่บอกสิคะ พลีส’ ตรีรินทร์พึมพำในใจพร้อมกับมองชายหนุ่มแบบส่งกำลังใจให้ธมกานต์ไม่รู้
“ เออ ยังงี้ก็จบข่าว งั้นแค่นี้แหละ จะบอกว่าข้าขอตัวคุณอาร์มมาช่วยงาน อืมมาทำงานโรงแรมก็ชักสนุกได้รื้อฟื้นสิ่งที่เรียนมาบ้าง ขอบใจเพื่อน แล้วเจอกันตอนที่แกกลับกรุงเทพฯนัดทานข้าวกันสักมื้อหนึ่ง”“ โอเคได้เลย ขอบใจเพื่อน”ธมกานต์วางโทรศัพท์ พร้อมกับล้มตัวลงนอนที่โขดหินตรีรินทร์นอนร้องไห้จนผลอยหลับไป รุ่งเช้าต่างคนก็ต่างยุ่งเก็บของกลับกรุงเทพฯระหว่างทางต่างคนต่างเงียบเหมือนไว้เชิง สุดท้ายตรีรินทร์ทนไม่ไหวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน“ พรุ่งนี้รินทร์จะกลับเชียงใหม่แล้วนะคะ เป็นห่วงที่สวนลำไยแล้วไหนที่ร้านอีกทิ้งมาหลายวันแล้วเป็นห่วงค่ะ”ธมกานต์หันขวับมาอย่างโมโห “ตกลง เราคุยกันไม่รู้เรื่องหรือไงผมแต่งงานกับคุณก็เพื่ออยากให้เราเป็นครอบครัว แล้วผมก็ไม่ยอมให้คุณไปไหนทั้งนั้นเดี๋ยวผมจะส่งเข้มกับแหวนไปขนของคุณขึ้นมากรุงเทพฯ แล้วคุณก็ถามแม่คุณว่าท่านจะย้ายมาอยู่กับเราไหมผมอยากให้ท่านย้ายมาอยู่กับเรา”“ นี่คุณจะมาบังคับฉันไม่ได้หรอกนะฉันไม่ยอม ร้านอาหารฉันสร้างมากับมือแล้วสวนลำไยที่ลำพูนอีกยังไงฉันไม่มีวันทิ้งเด็ดขาด นะคะคุณธมกานต์ เราไม่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาก็ได้แล้วฉันจะพาลูกขึ้นมากรุงเทพฯ บ่
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้