หัวหิน
หลังจากต่างคนต่างหลบมุมไปนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ตรีรินทร์ก็เดินเข้าไปที่ห้องครัวเล็ก ๆ เพื่อมองหาของที่จะทำอาหาร ธมกานต์เดินมานั่งที่โต๊ะในครัว ตรีรินทร์มองชายหนุ่มแล้วเลิกคิ้ว “ เราอย่าทะเลาะกันเลยนะรินทร์ นานๆ ผมจะว่างพาคุณมาเที่ยว” ธมกานต์เอ่ยขึ้นก่อน “ ฉันไม่ได้คนชวนทะเลาะนะคะ” “ อ้าว ไหงมาโทษผมล่ะ” “ ก็จริงนี่ แต่เอาเถอะค่ะสงบศึกกันชั่วคราวก็ได้ กลับกรุงเทพฯแล้วค่อยคุยกัน” “ ไม่ยอมเลยนะรินทร์” ธมกานต์พูดยั่ว “ แน่นอน” ตรีรินทร์เสียงแหลมแต่ในใจแอบรู้สึกถึงความอบอุ่น หกโมงเย็น โรงแรม Eifelstar อลงกรณ์เปิดประตูออกมา หลังจากครึ่งบ่ายลุยงานหลายชิ้น เมื่อมองเห็นชายรุ่นน้อง กำลัง คีย์งานที่คอมฯ ก็เผลอมองก่อนจะพูดว่า “ นี่คุณเลิกงานตั้งนานแล้ว ทำไมยังไม่กลับบ้านไปอีก” “ ก็บอสยังไม่กลับ ฉันมันก็แค่เลขา จะกลับก่อนเจ้านายได้ยังไง” อาร์มค้อนเบาๆ “ ไป คุณกลับบ้านได้แล้ว เย็นมากแล้วผมไปส่ง” “ เออ ไม่ต้องครับ หอพักผมอยู่ถัดไปสองป้ายรถเมล์ ตอนเย็นผมเดินกลับ ถือโอกาสเดินออกกำลังกายไปในตัว” “ อวดดี ผมบอกไงว่าจะไปส่ง ทางผ่านอยู่แล้ว” อลงกรณ์ทำหน้าหงิกเมื่อถูกขัดใจ “ เร็วสิ เก็บของเร็ว ๆ” อลงกรณ์เร่งเร้าเสียงหงุดหงิด “ ค่ะ” อาร์มรับคำ เสียงเบาหวิว อลงกรณ์แอบลอบยิ้ม ก่อนจะนึกแผนต่อไปเพื่อจะได้ใกล้ชิดหนุ่มรุ่นน้องแต่เพียงลำพัง อลงกรณ์คิดไปมาระหว่างขับรถอย่างนึกครึ้มในใจ ระหว่างที่นั่งมาในรถอิทธิพลหรืออาร์มขยับตัวหลายครั้งจนทำให้อลงกรณ์ที่ทำหน้าที่คนขับเลิกคิ้วหันมามอง ก่อนจะถาม “ เป็นอะไรของคุณอีก” “ เออคือว่า ฉันเออผมว่าคุณส่งฉันลงข้างทางดีกว่านะครับ หอพักผมอยู่ไม่ไกล ปกติถ้าไม่เหนื่อยมากผมเดินกลับหอทุกวัน” “ เดินกลับ” น้ำเสียงอลงกรณ์เสียงสูงด้วยความแปลกใจ “ ก็สองป้ายรถเมล์ แล้วผมก็ไม่ได้รีบกลับ ก็เดินไปเรื่อย ๆ ออกกำลังกายด้วย ครึ่งช.มก็ถึงแล้ว” “ ผมว่าคุณประหยัดไม่เข้าท่า แล้วผมบอกว่าจะไปส่งก็จะไปส่ง ผมไม่ชอบคนขัดใจ” น้ำเสียงอลงกรณ์เข้ม อาร์มหันหน้าไปมองข้างหน้ากัดริมฝีปาก “ นี่ฉันต้องทนอึดอัด อีกนานไหมเนี่ย” อาร์มคิดในใจ สภาพการจราจรที่ติดขัด รถค่อยๆขยับ ยิ่งทำให้คนขับและคนนั่งข้างๆเริ่มจะหงุดหงิด “ บ้าจัง รถทำไมติดแบบนี้เนี่ย ปกติเวลานี้ผมยังไม่กลับบ้านหรอกคุณผมทำงานต่อที่ทำงานจนกว่าคิดว่ารถไม่ติดแล้วถึงกลับบ้าน พึ่งเคยมาทำงานแถวนี้ รถติด แม่ง ....” อลงกรณ์สบถคำหยาบ หันไปมองอาร์มที่ทำใบหน้าเรียบเฉย ปกติเคยนั่งมากับเพื่อนผู้หญิงก็จะบ่นตลอดทางหรือไม่ก็พูดมากจนตนเองรู้สึกเหนื่อยแทน แต่กับชายหนุ่มข้างๆ ที่มีท่าทางเหมือนสตรีกลับนิ่ง เงียบ อลงกรณ์เอื้อมมือไปเปิดเพลง ของ Jason marzอาร์มขยับตัวพร้อมกับตั้งใจฟังเพลง “ คุณชอบไหม เพลงแนวนี้” “ ฉัน เออ ผมชอบมาก เค้ามีน้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์ เพลงก็ฟังได้สบาย ๆ” “ ถ้าผมทำให้คุณอึดอัดใจ คุณจะใช้สรรถนาม แทนตัวเองว่า ฉัน ก็ตามสะดวกนะ ผมก็แค่ล้อคุณเล่น อย่ามาซีเรียสอะไรกับผมมาก เอาที่คุณสบายใจดีกว่า” “ ไม่เป็นไรถ้าคุณไม่ชอบหรือขัดหู ผมก็พร้อมจะเปลี่ยนแปลงผมไม่ชอบมีปัญหาที่ทำงาน” อลงกรณ์หันมามองเสี้ยวหน้าหนุ่มรุ่นน้อง รถค่อยๆ ขยับไปอีกเล็กน้อย “ อีกไกลไหม หอคุณเนี่ย” “ เห็นข้างหน้า ลิบๆ แล้วครับ นั่นไงที่อยู่ข้าง ๆ เซเว่น ตึกสีขาวนั่นไงครับ ผมลงตรงนี้ดีกว่าคุณจะได้ตรงกลับบ้านไปเลย” อาร์มขยับตัวจะเปิดประตูลง อลงกรณ์เอามือไปคว้าตาจ้องตาก่อนที่อลงกรณ์รีบปล่อยมือก่อนพูดว่า “ นี่คุณ ไหนๆก็ไหน ๆ แล้ว ผมบอกว่าจะส่งก็ต้องส่งให้ถึงที่อีกอย่าง ผมขี้เกียจจะขับต่อไปไม่งั้นผมประสาทเสียกับไอ้รถติดนี่แน่ขอผมไปนั่งรอที่ห้องคุณสักสองชั่วโมง สามทุ่มค่อยกลับบ้านดีกว่าถึงตอนนั้นรถคงไม่ติดมากแล้วเพราะคนรีบกลับบ้านไปดูละครกันหมด” อลงกรณ์พูดติดตลก “ คุณว่าอะไรนะครับ ไปรอที่ห้องผม เออ เออ” “ ทำไม คุณมีอะไรซ่อนไว้ที่ห้องคุณหรือไงหรือ รังเกียจผม” น้ำเสียงเริ่มมีอารมณ์หงุดหงิด อาร์มใจเต้นแรง ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งเคลิบเคลิ้ม ‘ แล้ว นี่เค้าจะขึ้นไปบนห้องอีก โอ๊ย แล้วอาร์มจะทำยังไงเนี่ย’ อาร์มหันไปมอง หนุ่มรูปหล่อ ข้างๆ แล้วใจหวั่นไหว แม้เค้าจะปากจัดไปบ้าง เผด็จการไปบ้าง แต่ในทางกลับกันเค้าก็ดูเท่ห์ สมาร์ท แต่งตัวดี หน้าตาดีดูจะเพียบพร้อมไปทุกอย่าง “ ผมไม่ได้รังเกียจอะไรคุณ แต่ห้องผมมันเล็ก ๆ กลัวว่าจะไม่เหมาะสมกับฐานะและตำแหน่งของคุณ” อาร์มพูดอย่างระมัดระวัง “ ไม่เป็นไรผมไม่ถือ อีกอย่างผมแค่อยากได้เก้าอี้สักตัว นั่งรอเวลาแก้เมื่อยแค่นั้น ห้องคุณมีไหม ผมไม่เรื่องมากหรอกคุณ ชีวิตส่วนตัวผมไม่เรื่องมากแต่เรื่องงานผมต้องการเพอร์เฟ็คที่สุด ดีที่สุด เข้าใจไหม” อาร์มใจเต้นแรง เมื่อรถเลี้ยวเข้าไปจอดใต้หอพัก อาร์มเดินนำหน้าขึ้นไปชั้นสี่ “ ที่นี่ไม่มีลิฟท์ เหรอคุณ เดินขึ้น เดินลง เหนื่อยตายเลย “ อลงกรณ์บ่น อาร์มนึกขำคนตัวโตข้างๆ เกิดมาคงสบายจนเกินตัว ลำบากเข้าหน่อยบ่นเป็นหมีกินผึ้งเลย ใบหน้ามีรอยเหงื่อ เพราะเดินขึ้นบันไดมาหลายชั้นอาร์มเปิดห้อง อลงกรณ์หันไปมองรอบๆ อย่างทึ่งจัด ทุกอย่างจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่จัดแต่งอย่างมีสไตล์ เก๋ ห้องรับแขก ห้องทานข้าวครัว อยู่ในห้องเดียว แต่ถูกแบ่งเป็นมุมเล็กๆสามมุม อลงกรณ์เดินออกไปข้างๆ ระเบียง มีต้นไม้เรียงรายนานาชนิด “ ห้องคุณเล็กจังแต่น่าอยู่ จัดได้สวย” อลงกรณ์นึกชมและประทับใจตนเองเป็นคนเนี๊ยบ สะอาด เมื่อมองห้องหนุ่มรุ่นน้องที่ตนเองแอบสนใจก็เกิดความประทับใจ อลงกรณ์ก้าวเข้าไปนั่งที่เก้าอี้รับแขกพร้อมกับทอดตัวนอน “ เชิญคุณตามสบายผมขอนอนสักงีบ เหนื่อยจังเผชิญกับรถติด มันหนักยิ่งกว่าทำงานหลายร้อยเท่า นี่เป็นสาเหตุที่ผมไม่กลับบ้านในช่วงเวลานี้ ช่วงวิกฤต” อลงกรณ์นอนขดตัวเพราะเก้าอี้ตัวไม่ใหญ่มาก พร้อมกับหลับตา อาร์มถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดอยู่บ้านธรรมดา เสื้อยืดสีเหลืองอ่อนกับกางเกงขาสั้น ทำให้อาร์มดูสดใส อาร์มเข้าครัวเตรียมอาหารเย็นง่ายๆ น้ำพริกปลาทูที่เหลือเมื่อวาน ผัดผักกาดขาว ใส่เต้าเจี้ยว ต้มจืดใบตำลึงข้างๆ หอที่ตนเองไปเก็บมาเมื่อสองวันก่อนแค่นี้ก็อร่อยแล้ว กลิ่นอาหารปลุกให้อลงกรณ์ที่เผลอหลับไปตื่นขึ้นมา พร้อมกับเดินไปที่ห้องครัวเล็กๆ อลงกรณ์มองร่างหนุ่มน้อยที่ใส่ผ้ากันเปื้อนลายการ์ตูนน่ารัก กำลังทำอาหารอลงกรณ์มองเพลิน แบบนี้ไม่ใช่เหรอชีวิตที่ตนเองฝันไว้ ใครสักคนที่คอยทำอาหารรออยู่บ้าน ไม่ต้องเว่อร์ ง่ายๆสบายๆ “ หอมจังทำอะไรทาน ผมหิวขอทานด้วย” “ จะทานได้เหรอ อาหารพื้นๆ “ “ ทานได้สิ ผมชอบผมไม่ค่อยเรื่องมากเรื่องกินหรอก ผมไปล้างมือก่อนนะ” เข้ามาในห้องน้ำอลงกรณ์ก็กวาดตาไปรอบๆ ไม่น่าเชื่อหนุ่มรุ่นน้องคนนี้ดูสะอาดไปทุกซอกมุม แม้แต่ในห้องน้ำมีของไม่กี่ชิ้น แต่กลิ่นสะอาดมองไปมุมไหน ไม่มีคราบ ไม่มีฝุ่นจับเลย อลงกรณ์มานั่งที่เก้าอี้ในห้องครัวเล็กๆ นั่งตรงข้าม มีจานข้าว ที่ตักข้าวที่ร้อนๆ จากหม้อ อาหารสามอย่าง หน้าตาธรรมดา ๆ น้ำพริก ผักต้มและผักสดจัดเรียงอย่างสวยงาม ผัดผัก และต้มจืด “ ผมทานละนะ หิว” อลงกรณ์พับแขนเสื้อก่อนจะลงมือรับประทานชิมน้ำพริกคำแรก ก่อนจะสำลัก “ โห เผ็ดจัง” อลงกรณ์ดื่มน้ำตาม “ แต่ก็อร่อยจัง” ริมฝีปากแดง ทำให้อาร์มนึกขำกับภาพตรงหน้า ‘ใครจะนึกว่านักธุรกิจที่ติดหนึ่งในห้าของนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงของสังคมไทย กำลังมานั่งทานข้าวในหอพักเล็กๆ ของตนเอง’ หัวหิน ธมกานต์นั่งรับประทานอาหารเคียงคู่กับภรรยาสาวที่ตลอดทั้งวันแทบจะไม่ได้คุยอะไรกันมาก ชายหนุ่มมองภรรยาสาวจัดเตรียมอาหารด้วยสายตาหมกมุ่น “ คืนนี้คุณทำอะไรให้ผมทานเนี่ย ไม่ได้ทานฝีมือคุณตั้งนานจะท้องเสียไหมเนี่ย” ธมกานต์พูดยั่วเย้า “ บ้า” ตรีรินทร์ส่งค้อนให้ชายหนุ่ม “ รินทร์ทำอาหารง่าย ๆ ข้าวผัดปู กุ้งชุปแป้งทอด ผักคะน้าน้ำมันหอยกับต้มจืดฟักใส่ปลาหมึกยัดไส้ คุณกานต์ทานได้ไหมคะ” “ สบายมากอาหารโปรดทั้งนั้น โชคดีจังมีเมียที่รู้ใจ” ธมกานต์ส่งสายตาหวานกับภรรยาสาว ตรีรินทร์ย่นจมูกให้อย่างน่ารัก ก่อนจะรู้สึกสยิวเมื่อชายหนุ่มเอามือเอื้อมมาที่ใบหน้าลูบไล้จนถึงริมฝีปากบาง ตาจ้องตาเหมือนส่งสัญญาณบางอย่าง หญิงสาวรีบกลบเกลื่อนด้วยการชวนกันรับประทานอาหาร “ ทานข้าวดีกว่าอาหารจะเย็นหมดแล้ว” ตรีรินทร์รีบหลบสายตาเข้มที่ส่งมาอย่างมีความหมาย ห้างสรรพสินค้าพารากอน ที่ห้องแต่งตัวของนางแบบที่จะเตรียมขึ้นเวที ในอีกไม่ถึงชั่วโมงข้างหน้าทุกคนกำลังวุ่นวาย ในการแต่งตัวแต่งหน้าทำผม “ ยัยจี้นักข่าวมารอแกตรึมเลย วันนี้แกโดนจิกไม่ปล่อยแน่” จามิกาที่กำลังแต่งหน้าถึงกับหันขวับทำให้ช่างแต่งหน้าตกใจเพราะมาสคาร่าที่กำลังปัดเลอะโดนใบหน้าที่แต่งไ ว้เรียบร้อย จามิกาอารมณ์เดือดพร้อมตะคอก “บ้าจริง หน้าฉันเลอะหมดแล้ว นี่แกกำลังแต่งหน้าให้นางแบบอันดับหนึ่งอยู่นะ ไม่ใช่ นางแบบโนเนม ระวังหน่อยสิยะ” ช่างแต่งหน้ารีบยกมือไหว้ขอโทษเสียงสั่น จามิกาส่ายศีรษะพร้อมกับเดินกรีดกรายไปหาเพื่อนสาว “ แกรู้ไหมพวกนักข่าวตามหาฉันเรื่องอะไร ยัยวีวี้” จามิกาถามพร้อมกับขมวดคิ้ว “ฉันพึ่งกลับจากสิงคโปร์เมื่อเช้า ไม่ได้ติดตามข่าวอะไรเลย” วิเวียน หรือ วีวี้ ถอนหายใจพร้อมกับอธิบายอย่างหนักใจแทนเพื่อนว่า “ ก็ไอ้ข่าวที่พาดหัวที่หนังสือกอสซิบดาราคอลัมภ์ฆ้องปากแตกไง อ่านยังไงก็ใช่แกว่ะยัยจี้ ตกลงแกติดต่อพี่กานต์ของแกได้หรือยัง” จามิกากดมือถือพร้อมกับไล่สายตาไปกับตัวอักษร พร้อมกับร้องกริ๊ดจนใครต่อใครมองจ้อง มาจุดเดียว “ มองทำไมย่ะ อยากมีเรื่องหรือไง” “ ฉันไม่ยอม ต้องไปถามอีนักข่าวที่มันบังอาจนั่งเทียนเขียนเรื่องนี้ให้ได้” จามิกาจ้ำเท้าเดินออกจากห้องไป จามิกาเดินออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มด้วยจริตมารยา “สวัสดีค่ะพี่นักข่าว ได้ยินว่ามีธุระกับจี้เหรอค่ะ มีอะไรหรือเปล่า” นักข่าวร่วมสิบคนกรูเข้ามาพร้อมกับจ่อไมค์สัมภาษณ์ “ ตัวอักษรในคอลัมภ์อ่านยังไงก็เป็นน้องจี้ น้องจะแก้ข่าวว่าไงบ้างคะ” “ คงไม่แก้ข่าวหรอกนะคะ เพราะจี้ไม่เชื่อว่าเป็นพี่กานต์ พี่กานต์อยู่กรุงเทพฯ คงคนหน้าเหมือนหรือเปล่า” “ ไม่น่าจะใช้นะคะ เพราะทางเรามีรูปมายืนยันด้วย เดี๋ยวจะให้น้องที่บริษัทส่งมาให้” จามิกานางแบบสาวใบหน้าถอดสีแต่ก็กลบเกลื่อนว่า “ อาจเป็นเลขาหรือคนรู้จักมั้งคะ พี่กานต์ไม่เคยมีใคร ไม่งั้นเค้าคงไม่ซื้อแหวนหมั้นให้จี้หรอกค่ะยังไงจี้ก็ยังเชื่อใจพี่กานต์ค่ะ” จามิกา พูดเสียงหนักแน่นแต่ในใจหวั่นไหว‘จริงสินะ หลายวันมานี้ ติดต่อชายหนุ่มไม่ได้เลย ปิดเครื่องตลอดโทรไปที่บ้าน คนเฝ้าบ้านก็บอกว่าไม่อยู่’ “ยังไงจี้ขอตัวก่อนนะคะ ต้องไปเตรียมตัวแล้วค่ะ” จามิกาไหว้พร้อมกับฝืนยิ้ม โพสท่าให้ถ่ายรูปหัวหินธมกานต์กับตรีรินทร์รับประทานอาหารท่ามกลางแสงเทียนในบรรยากาศแสนโรแมนติคธมกานต์ตักอาหารให้ภรรยาสาว ตรีรินทร์เงยหน้ามองชายหนุ่มแสดงความขอบคุณด้วยสายตา“ อาหารมื้อนี้อร่อยมาก อิ่มที่สุดในโลก ขอบคุณครับรินทร์ รู้ไหมตลอดสามปีกว่าที่เราพลัดพรากกันผมไม่เคยลืมคุณได้สักวินาทีเดียว ไม่คิดว่าจะได้มาเจอคุณอีกเหมือนปฏิหารย์แต่เราก็ได้พบกันแถมมีลูกเป็นของขวัญอีกขอบคุณคุณพระคุณเจ้าที่ไม่ทำให้เราพลัดพรากกันนานกว่านี้เมื่อก่อนผมมีชีวิตอยู่ไปอย่างไร้ค่าแต่เมื่อมาเจอคุณกับลูก ทำให้ผมมีเป้าหมายชีวิต ชีวิตผมมีความหมายมากขึ้น you change my life”ธมกานต์พูดภาษาอังกฤษตอนท้าย ตรีรินทร์รู้สึกตื้นตันน้ำตาคลอ ธมกานต์เอื้อมมือมาจับมือภรรยาสาวตั้งใจจะสารภาพรัก หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น ยิ่งหญิงสาวจ้องหน้าแบบจ้องเขม็ง ทำให้ธมกานต์พูดไม่ออกตรีรินทร์รู้สึกแทบหัวใจจะหยุดเต้นด้วยความตื่นเต้น ‘นี่เค้าจะบอกรักเราหรือเปล่า บอกสิคะแล้วรินทร์ก็จะบอกคุณบ้างว่ารินทร์รักคุณสุดหัวใจ ไม่เคยมีใครตลอดสามปีกว่าที่ผ่านมา เพราะรอคุณอยู่บอกสิคะ พลีส’ ตรีรินทร์พึมพำในใจพร้อมกับมองชายหนุ่มแบบส่งกำลังใจให้ธมกานต์ไม่รู้
“ เออ ยังงี้ก็จบข่าว งั้นแค่นี้แหละ จะบอกว่าข้าขอตัวคุณอาร์มมาช่วยงาน อืมมาทำงานโรงแรมก็ชักสนุกได้รื้อฟื้นสิ่งที่เรียนมาบ้าง ขอบใจเพื่อน แล้วเจอกันตอนที่แกกลับกรุงเทพฯนัดทานข้าวกันสักมื้อหนึ่ง”“ โอเคได้เลย ขอบใจเพื่อน”ธมกานต์วางโทรศัพท์ พร้อมกับล้มตัวลงนอนที่โขดหินตรีรินทร์นอนร้องไห้จนผลอยหลับไป รุ่งเช้าต่างคนก็ต่างยุ่งเก็บของกลับกรุงเทพฯระหว่างทางต่างคนต่างเงียบเหมือนไว้เชิง สุดท้ายตรีรินทร์ทนไม่ไหวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน“ พรุ่งนี้รินทร์จะกลับเชียงใหม่แล้วนะคะ เป็นห่วงที่สวนลำไยแล้วไหนที่ร้านอีกทิ้งมาหลายวันแล้วเป็นห่วงค่ะ”ธมกานต์หันขวับมาอย่างโมโห “ตกลง เราคุยกันไม่รู้เรื่องหรือไงผมแต่งงานกับคุณก็เพื่ออยากให้เราเป็นครอบครัว แล้วผมก็ไม่ยอมให้คุณไปไหนทั้งนั้นเดี๋ยวผมจะส่งเข้มกับแหวนไปขนของคุณขึ้นมากรุงเทพฯ แล้วคุณก็ถามแม่คุณว่าท่านจะย้ายมาอยู่กับเราไหมผมอยากให้ท่านย้ายมาอยู่กับเรา”“ นี่คุณจะมาบังคับฉันไม่ได้หรอกนะฉันไม่ยอม ร้านอาหารฉันสร้างมากับมือแล้วสวนลำไยที่ลำพูนอีกยังไงฉันไม่มีวันทิ้งเด็ดขาด นะคะคุณธมกานต์ เราไม่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาก็ได้แล้วฉันจะพาลูกขึ้นมากรุงเทพฯ บ่
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้