อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามา
พร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด “ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้าย เฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักที แม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า” คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล “ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่ หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า “ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ คุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจ หอพักเด่นชัย อลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย “ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว” “ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่น เลขาหนุ่มขมวดคิ้วแล้วกอดตอบ “ ทะเลาะอะไรกับแม่คุณมาหรือเปล่า” “ ก็ไม่เชิงหรอก ผมอยากได้อะไรร้อน ๆ สักถ้วย” “ ได้สิ เดี๋ยวอาร์มจัดการให้” อลงกรณ์มองเลขาหนุ่มคู่รักด้วยจิตใจว้าวุ่น ระหว่างหน้าที่ และความรัก ถ้าต้องเดินบนเส้นทางนี้เขาควรจัดการเช่นไร คนหนึ่งก็ผู้ให้กำเนิดอีกคนคือคนที่อยากมีชีวิตร่วมด้วยจนชั่วชีวิตแม้จะดูผิดธรรมชาติแต่ใครล่ะเป็นผู้ชี้ว่าถูกผิด อลงกรณ์กุมศีรษะก้มหน้า รู้สึกเครียดกับสิ่งที่ตนเองเผชิญ หนทางข้างหน้า ล้วนมีขวากหนาม ตนเองยังนึกไม่ออกว่าจะจัดการเรื่องดังกล่าวให้ลงตัวได้อย่างไร “ เครียดเรื่องงานหรือเปล่า นอนไม่หลับเหรอ” อาร์มเข้ามานั่งวางแก้วชาร้อน ก่อนจะเข้ามากอดชายหนุ่มเหมือนส่งถ่ายความรักความอบอุ่น อลงกรณ์หันหน้าไปเผชิญหน้ากับคนรัก ประคองใบหน้าเลขาหนุ่ม “ อาร์มผมถามอะไรคุณสักอย่าง ถ้าผมมีปัญหาที่ลำบากมากๆ ต้องเผชิญ คุณจะร่วมเผชิญกับผมด้วยหรือเปล่า” “ แน่นอนสิจ๊ะที่รัก อาร์มจะอยู่เคียงข้างคุณตลอด” พูดจบสองหนุ่มก็กอดถ่ายความรักซึ่งกันและกันแต่ความรู้สึกต่างกัน โรงแรม “ก๊อก ๆ” “ เชิญค่ะ” เสียงตรีรินทร์เอ่ยอนุญาตเสียงหวาน “ อ้าวคุณกรณ์ รินทร์นึกว่า เป็นคุณรสเสียอีก เอ คุณกรณ์มีอะไรให้รินทร์ทำหรือเปล่าคะ ทีหลังให้พี่อาร์มโทรมาตามก็ได้นะคะ รินทร์ขึ้นไปหาจะเหมาะกว่า คุณกรณ์ตำแหน่งสูงกว่า” “ ผมไม่ได้มาเรื่องงาน” “ อ้าว งั้นเชิญนั่งสิคะ” “ จำที่ผมพูดกับคุณรินทร์คราวก่อนได้ไหม” “ อ๋อ จำได้ค่ะ มีอะไรให้รินทร์ช่วยคะ” “ ผมว่าผมอยากซื้อคอนโดให้อาร์ม เออ คือผมกับเค้า ..เออ” “ ค่ะ รินทร์เข้าใจ คุณกรณ์ไม่ต้องดีเทลมากก็ได้ค่ะ ถ้าไม่สะดวกใจ” “ ขอบคุณครับ” อลงกรณ์ท่าทางกระดากจนไม่รู้จะเอามือไว้ที่ไหน ตรีรินทร์ยิ้มขำ “ จริงๆ โครงการของบริษัทของคุณกรณ์ ก็แทบจะทั่วเมืองนี่คะ” “ ครับแต่ผมไม่อยากได้ของโครงการบริษัท เหตุผลเพราะอะไรคุณรินทร์คงเข้าใจ แต่ผมไม่ค่อยจะทราบรสนิยมของอาร์ม ผมอยากเซอร์ไพรสเขา คุณพอจะมีเวลาไปเป็นเพื่อนผมเซอร์เวย์คอนโดแถวนี้ได้ไหมเผื่อจะได้ช่วยกันเลือก ผมอยากให้ถูกใจอาร์มแต่ไม่อยากให้เขาเห็นก่อนอยากเซอร์ไพรสเขา คุณรินทร์เห็นว่าไง” “ ก็ดีค่ะ งั้นรินทร์ช่วย เมื่อไหร่ดีคะ” “ เย็นพรุ่งนี้ได้ไหมครับ” “ ได้ค่ะ” เสียงเปิดประตูทำให้อลงกรณ์ ตรีรินทร์หันไปมอง ธมกานต์ขมวดคิ้ว เมื่อเห็นเพื่อนสนิทอยู่ในห้องทำงานภรรยาสองต่อสอง “ แกมาทำอะไรห้องเมียฉันฮะเจ้ากรณ์” “ เออ คือ” “ คุณกรณ์มาปรึกษาเรื่องงาน ทำไมคุณถึงถามแบบนี้” ตรีรินทร์เริ่มชักสีหน้า เมื่อรู้สึกไม่ชอบใจในคำถาม “ ผมแค่ล้อเล่นกับเพื่อน ทำไมคุณต้องจริงจังด้วย หรือมีอะไรมากกว่านั้น” “ ไม่มี ไอ้บ้ากานต์” อลงกรณ์เข้ามาตบบ่าธมกานต์ “ ว่าจะขอโทษเรื่องไม่ได้ไปภูเก็ต” ธมกานต์เอ่ยขึ้น “ ไม่เป็นไรนี่ แกก็ส่งผู้ช่วยมาให้แล้ว ค่อยประชุมกันอีกทีวันอาทิตย์ตอนไปตีกอล์ฟกับพวกไอ้หมอแล้วกันนะ” “ เออคุณรินทร์ครับ ผมขอบคุณมาก” อลงกรณ์มองตรีรินทร์อย่างซาบซึ้ง “ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ยินดีช่วยเต็มที่เลยค่ะ” ตรีรินทร์ยิ้มหวาน เมื่อลับร่างเพื่อนชายคนสนิท ธมกานต์หันมามองภรรยาที่มองตามด้วยสายตาครุ่นคิด “ มองอะไรเจ้ากรณ์มันนักหนา ผมชักหึงแล้วนะ บอกแล้วไงห้ามมองผู้ชายคนอื่นเกินสามนาที” “ บ้าจังคุณเนี่ย แล้วทีหลังอย่าถามฉันแบบนี้อีกน่าเกลียด” “ ผมล้อคุณเล่นไม่ได้หรือไง” “ ไม่ได้ ไม่ชอบล้อเล่นเรื่องแบบนี้” “ ก็ไอ้กรณ์มันหล่อ สาวๆ กริ๊ดมันจะตายตอนสมัยเรียน ผมกลัวคุณจะหลงรักมันอีกคนนะสิ” “ บ้าจังคุณเนี่ย ฉันล่ะเหนื่อยใจกับคุณจริงๆ” “ คุณต้องเหนื่อยแบบนี้อีกชั่วชีวิต” ธมกานต์บีบจมูกภรรยาเป็นการหยอกล้อ ตรีรินทร์ทำปากยื่นก่อนจะถูกดึงเข้าไปจูบที่ปาก “ อืม คุณน่ารักขึ้นทุกวัน ๆ จนผมอดใจไม่ไหวแล้วนะ” ตรีรินทร์ยิ้มหัวเราะในคารมของสามี ธมกานต์ทำใบหน้าเคร่งเมื่อเห็นภรรยาหัวเราะไม่หยุด “ หัวเราะอะไรนักหนาเนี่ย” “ ก็ปกติ ไม่ค่อยได้ยินคุณพูดหวานๆ ฉันไม่ชิน ถ้าคุณตวาดแว๊ดๆจะคุ้นกว่า” ธมกานต์อมยิ้มก่อนจะกอดร่างภรรยาแนบแน่น “ ผมก็หวานกับคุณคนเดียวนั่นแหละ เอาล่ะก่อนจะเกินเลยไปกว่านี้ผมกลับไปทำงานดีกว่า จริงๆ แค่อยากมาเห็นหน้าคุณจะได้มีกำลังใจไปทำงาน” “ขอบคุณค่ะ หวานซะแบบนี้ รินทร์จะไปไหนรอด” ตรีรินทร์ซบที่ไหล่กว้าง ก่อนที่ธมกานต์จะจูบที่หน้าผากภรรยาอย่างแสนรัก “วันนี้คุณกลับบ้านก่อนนะคะ รินทร์มีธุระต่อกับเพื่อนแล้วหัวค่ำถึงจะกลับ” ธมกานต์เงยหน้าขึ้นจากเอกสารพร้อมกับถอนหายใจ “ ผมรอทานข้าวนะ” “ อืม ไม่แน่ใจ แต่ว่าไม่ต้องรอดีกว่าเกรงใจ” “ ผมจะรอ” ธมกานต์มองหญิงสาวด้วยสายตาค้นคว้า “ โอเค งั้นรินทร์จะรีบไปรีบมา” ตรีรินทร์โน้มหน้าไปหอมแก้มก่อนโบกมือ ธมกานต์อมยิ้มแล้วก้มลงทำงานต่อ คอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา “ รินทร์ว่ายูนิตนี้ดีกว่านะคะ ด้านโน้นติดแม่น้ำเจ้าพระยาเห็นวัดโพธิ์ด้วยโรแมนติคจัง แบบนี้ไม่แพงแย่เหรอค่ะ” “ เจ็ดหลักครับคุณรินทร์ แต่ผมว่าซื้อให้ดีไปเลยดีกว่า แต่ผมยังติดใจอีกที่ เสียดายผู้จัดการฝ่ายขายเค้าว่างวันอาทิตย์เช้าคุณรินทร์จะว่างหรือครับผมไม่อยากรบกวนเวลาครอบครัว” “ ไม่เป็นไรค่ะเราไม่ได้มาดูทั้งวัน แต่ห้องครัวที่นี่แคบจัง พี่อาร์มเขายิ่งชอบทานอาหาร” “ อีกที่ที่ผมติดใจเพราะมันเป็นโครงการที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งตอนนี้น้อยคนจะนึกถึง แบบก็ใช้ได้นะครับเรียบ หรู มีอินทีเรียจัดตกแต่งให้เสร็จว่าไงครับอยากไปดูไหม แต่จริงๆ ผมไลน์ไปให้ดูก็ได้นะครับ แล้วช่วยผมตัดสินใจ” “ ไม่เอาค่ะ รินทร์มาช่วยดูเองดีกว่าแค่แป๊บเดียว วันอาทิตย์ปกติก็ไม่ได้ไปไหนกันอยู่แล้วค่ะ แว๊บมาแป๊บเดียวรับรองไม่มีปัญหา” ตรีรินทร์ยิ้ม “ กานต์โชคดีจังที่ได้ภรรยาที่ดีแบบคุณ” “ แหมคุณกรณ์ อย่าชมสิคะเขินจัง คุณก็โชคดีได้คนดีๆ แบบพี่อาร์มเป็นเพื่อนคู่ใจ” “ ครับ ผมถึงอยากทำอะไรเพื่อเขาบ้าง เผื่อบางที ...บางที ช่างเถอะครับปัญหายังมาไม่ถึงผมยังไม่อยากเอามาเครียด” “ โอเคค่ะ รินทร์เดินไปดูห้องโน้นก่อนนะคะ” จามิกาเพ่งมองชายหนุ่มหญิงสาวที่เดินลงมาจากลิฟท์ของคอนโดเธอแวะมาหาเพื่อนที่คอนโดแห่งนี้ จำได้ว่าชายหนุ่มคนนั้นคืออลงกรณ์กรณ์วิภาค นักธุรกิจหนุ่มชื่อดัง เพื่อนของธมกานต์ “คุณกรณ์กับยัยหน้าจืด ดีแล้วในเมื่อฉันไม่ได้ พวกแกก็ไม่ต้องมีความสุข”จามิกาพึมพำพร้อมกับถ่ายรูป กดส่งให้เบอร์ชายหนุ่มคนรักเก่าก่อนจะยิ้มสายตาเจ้าเล่ห์ “ ฮัลโหลพี่กานต์ จี้ส่งรูปบางอย่างให้พี่กานต์ดู พี่กานต์ใจเย็น ๆนะคะ” “ รูปอะไรของเธอ” “ เดี๋ยวก็รู้คะ จี้เห็นเขาสองคนกระหนุงกระหนิงดูคอนโด เออยังไงพี่กานต์ค่อย ๆ พูดกันนะคะ” ธมกานต์เพ่งมองรูปเห็นอลงกรณ์ยืนเคียงข้างกับภรรยาสาวหน้าลิฟท์ ในรูปอลงกรณ์กำลังชี้ให้หญิงสาวมองอะไรสักอย่าง ธมกานต์ตัวสั่นภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่ตัวเองจินตนาการ ก่อนจะกดลบรูปภาพพร้อมกับนั่งรอการกลับมาของภรรยาสาวใจจดจ่อ เสียงรถแล่นเข้ามาในบริเวณบ้าน ตรีรินทร์เดินลงมาจากรถพร้อมกับส่งของในรถให้แหวน “ ตากริชล่ะ” “ ไปนอนกับคุณหญิงท่านค่ะ” “ แหวนไปนอนเถอะ แล้วคุณกานต์ทานข้าวหรือยัง” “ เห็นว่ารอคุณผู้หญิงค่ะ” “ งั้นเหรอ เดี๋ยวรินทร์ไปดูคุณกานต์ก่อนดีกว่า ไง แหวนไปนอนเถอะนะดึกแล้ว ทางนี้รินทร์จะช่วยดูแลให้” “ ขอบคุณค่ะ” ตรีรินทร์เปิดประตูห้องนอนพร้อมกับวางกระเป๋าถือไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้ง “ ขอรินทร์อาบน้ำก่อนนะคะ เหนียวตัวจัง แล้วเราลงไปทานข้าวกัน” ธมกานต์อ้าปากจะถามแต่ก็เปลี่ยนใจ ลับร่างภรรยาเข้าไปในห้องน้ำธมกานต์มาเปิดกระเป๋าก็ต้องช็อคชาไปทั้งร่างกายเมื่อเห็นโบชัวร์โฆษณาคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาสุดหรูธมกานต์นั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งอย่างหมดแรง “ เย็นนี้ คุณบอกไปธุระกับเพื่อน ธุระอะไรบอกได้ไหม” “ ไม่ใช่อะไรสำคัญหรอกค่ะ”“ เพื่อนคนนี้ของคุณ ผมรู้จักหรือเปล่า” “ เอ คุณกานต์ วันนี้คุณเป็นอะไรซักจังเลย ทานข้าวเถอะค่ะ รินทร์หิวแล้ว” ตรีรินทร์ตัดบทเอาตัวรอด “ รินทร์ คุณว่าเจ้ากรณ์กับผม ใครหล่อกว่ากัน” ตรีรินทร์ขมวดคิ้วพร้อมกับตอบว่า “ แหมก็คุณกรณ์อยู่แล้ว ทั้งสุภาพทั้งหล่อ เรียบ หรูตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า” ธมกานต์สะอึกก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าไม่ทันเมื่อภรรยาสาวตอบว่า “ แต่รินทร์ชอบแบบคุณ ห่ามๆ ดี เปรี้ยวๆ ขมๆ” “ ผมไม่ใช่ผลไม้” แล้วทั้งสองก็หัวเราะกัน ธมกานต์ข่มใจลืมเรื่องขุ่นใจตั้งแต่หัวค่ำเสียสนิทบ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
ธมกานต์ พิพัฒนพงศ์อายุ 31 ปีน้ำหนัก 75 กิโลกรัม สูง 180 เซนติเมตรการศึกษา ปริญญาเอก ด้านบริหารธุรกิจการโรงแรม สวิสเซอร์แลนด์ปริญญาโท ด้าน บริหารธุรกิจ สหรัฐอเมริกาหล่อ รวย หยิ่ง เชื่อมั่นในตัวเอง เจ้าชู้ เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น คิดอยู่เสมอว่าผู้หญิงซื้อได้ด้วยเงินตรีรินทร์ มนัสสุกานต์อายุ 22 ปีการศึกษา ปริญญาตรี สถาปัตย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสวย ตาโต ผิวขาวอมชมพู ผมยาวสลวย เกลียดคนเจ้าชู้เข้าไส้ เรื่องย่อธมกานต์ มหาเศรษฐีหนุ่มรูปงาม ไร้หัวใจ ใช้ชีวิตอย่างเสเพลเปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่นจนกระทั่ง ถูกแม่จับให้แต่งงานอย่างมีแผนการกับมัณฑนากรสาวที่เป็นลูกสาวของเพื่อนรัก ธมกานต์ผู้ใช้เงินซื้อผู้หญิงมาตลอดจึงใช้วาจาดูถูกตรีรินทร์ซึ่งตัวเองคิดเสมอว่าแม่คงใช้เงินเพื่อมาแต่งงานกับตนต่างคนต่างพยศ ต่างๆนานาตรีรินทร์ สาวสวย พึ่งจบ ไฟแรง ได้ทำงานบริษัทออกแบบที่มีชื่อเสียงของกรุงเทพฯแต่งานแรกที่ได้ทำคือการไปตกแต่งบ้านให้ชายหนุ่มที่เธอเกลียดเข้าไส้ตั้งแต่ยังไม่ได้เห็นหน้า เหตุเป็นเพราะเค้าเคยหักอกเพื่อนรักของเธอ จึงเป็นเรื่องฝังใจมาตั้งแต่นั้น การร่วมงานที่ต่างฝ่ายต่างไม่ชอบหน้ากันจะลง
“ ผมไม่ชอบคนขัดใจ ไปนั่งตรงโน้นถ้าจะรอ ผมมีงานด่วนต้องเซ็น” น้ำเสียงเข้ม ทำให้จามิกาหงอ ระยะเวลาหลายปีที่คบกับชายหนุ่มผู้นี้มาทำให้รู้ดีว่าไม่ควรขัดใจ อาจโดนเขี่ยทิ้งง่ายๆ เพราะสมญานามความเจ้าชู้และใช้ผู้หญิงเปลืองของชายหนุ่มตรงหน้า“ โอเค งั้นจี้รอกานต์นะคะ”ธมกานต์พยักหน้าด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะใช้สมาธิไปกับงานตรงหน้าตรีรินทร์ขึ้นลิฟท์ของโรงแรม ห้าดาวชื่อดัง Eifelstar Hotelไม่อยากเชื่อว่าตนเองจะต้องมาทำงานให้กับผู้ชายที่เกือบคร่าชีวิตเพื่อนสาวคนสนิทไปชั่วชีวิต ไม่อยากเชื่อว่าต้องมาทำงานแรกให้กับผู้ชายที่เธอเกลียดมาตลอดสองสามปีที่ผ่านมา ระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาเธอได้อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ถึงข่าวคราวของชายหนุ่มที่มีทั้งด้านดีและไม่ดีด้านไม่ดีก็เรื่องใช้ผู้หญิงเปลือง เปลี่ยนตุ๊กตาหน้ารถแทบทุกสองสามเดือน รายล่าสุดเป็นนางแบบเซ็กซี่ชื่อดัง จริงๆเธอไม่ใคร่จะติดตามข่าวสารพวกสังคมไฮโซ แต่บรรดาเพื่อนๆ ในกลุ่ม ที่กรี๊ดกร๊าดไปกับข่าวสารของชายหนุ่มเนื้อหอม ตรีรินทร์บอกกับตัวเองว่า ‘เราต้องรีบทำงานให้เสร็จเร็วที่สุดเพื่อที่จะได้เจอหน้าชายหนุ่มน้อยที่สุด งานก็คืองาน ไม่อยากเชื่อเลยคนไม่ดีแบบนี้จ
“ผู้หญิงคนนี้สวย” ธมกานต์คิดในใจ ผมยาวสลวยดำสนิทตามธรรมชาติ ใบหน้ารูปไข่ขนตายาว จมูกโด่งเรียวได้รูปริมฝีปากสีชมพูทาลิปสติก สีอ่อนเข้ากับริมฝีปาก ฟันขาวเรียงเป็นระเบียบ รูปร่างสมส่วนทำเอาธมกานต์มองเหมือนตกอยู่ในภวังค์“อยากได้ฉันแต่งบ้านสไตล์ไหนคะ” ตรีรินทร์ถามเสียงใส อย่างตั้งใจทำงานทำให้ธมกานต์ที่ตกอยู่ในภวังค์รู้สึกตัว ก่อนจะพูดเสียงมีอำนาจว่า“ผมอยากได้เฟอร์นิเจอร์ดำ ขาว ผมไม่อยากได้อะไรที่เยอะเกินไปผมอยากได้เฟอร์นิเจอร์ฝีมือคนไทย ผมไม่นิยมของนอก อยากได้ต้นไม้แถวเทอร์เรส เยอะๆหน่อย ส่วนห้องนอนผมไม่อยากได้อะไรมาก เพราะส่วนใหญ่ผมจะนอนกับแม่ที่ตึกใหญ่ บ้านนี้ผมมีไว้รับรองเพื่อนและแขกที่มาพัก คุณช่วยดูให้หน่อยแล้วกัน ผมไม่มีหัวทางนี้ เอาแบบเรียบง่ายแต่ดูมีสไตล์” ธมกานต์พูดจบหมุนเก้าอี้ก่อนจะก้าวเดินไปยืนที่ข้างหน้าต่าง“มีอะไรเพิ่มเติมอีกไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยถามขณะที่กำลังก้มลงจดรายละเอียดโดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มลอบมองตนเอง อย่างมีความหมาย“เอาไว้คิดอะไรออกผมจะบอก” ธมกานต์พยายามปรับเสียงให้เรียบเฉย“ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวกลับก่อน”“เอามือถือมาหรือเปล่า”“เอามาสิคะ มีอะไรเหรอ”ธมกานต์เหลื
“ผู้หญิงคนนี้สวย” ธมกานต์คิดในใจ ผมยาวสลวยดำสนิทตามธรรมชาติ ใบหน้ารูปไข่ขนตายาว จมูกโด่งเรียวได้รูปริมฝีปากสีชมพูทาลิปสติก สีอ่อนเข้ากับริมฝีปาก ฟันขาวเรียงเป็นระเบียบ รูปร่างสมส่วนทำเอาธมกานต์มองเหมือนตกอยู่ในภวังค์“อยากได้ฉันแต่งบ้านสไตล์ไหนคะ” ตรีรินทร์ถามเสียงใส อย่างตั้งใจทำงานทำให้ธมกานต์ที่ตกอยู่ในภวังค์รู้สึกตัว ก่อนจะพูดเสียงมีอำนาจว่า“ผมอยากได้เฟอร์นิเจอร์ดำ ขาว ผมไม่อยากได้อะไรที่เยอะเกินไปผมอยากได้เฟอร์นิเจอร์ฝีมือคนไทย ผมไม่นิยมของนอก อยากได้ต้นไม้แถวเทอร์เรส เยอะๆหน่อย ส่วนห้องนอนผมไม่อยากได้อะไรมาก เพราะส่วนใหญ่ผมจะนอนกับแม่ที่ตึกใหญ่ บ้านนี้ผมมีไว้รับรองเพื่อนและแขกที่มาพัก คุณช่วยดูให้หน่อยแล้วกัน ผมไม่มีหัวทางนี้ เอาแบบเรียบง่ายแต่ดูมีสไตล์” ธมกานต์พูดจบหมุนเก้าอี้ก่อนจะก้าวเดินไปยืนที่ข้างหน้าต่าง“มีอะไรเพิ่มเติมอีกไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยถามขณะที่กำลังก้มลงจดรายละเอียดโดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มลอบมองตนเอง อย่างมีความหมาย“เอาไว้คิดอะไรออกผมจะบอก” ธมกานต์พยายามปรับเสียงให้เรียบเฉย“ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวกลับก่อน”“เอามือถือมาหรือเปล่า”“เอามาสิคะ มีอะไรเหรอ”ธมกานต์เหลื
“พึ่งมาถึงผมเห็นคุณนอนเหมือนสบายเลยไม่อยากกวน”เสียงอบอุ่นของชายหนุ่มทำเอาตรีรินทร์เงยหน้ามองก่อนจะรีบปัดความรู้สึกที่บอกไม่ถูกออกไป “ขอบคุณนะคะ ที่มาส่ง” ตรีรินทร์พนมมือ ก่อนจะเดินเข้าบ้าน“นี่คุณจะไม่เลี้ยงน้ำผมสักแก้วหรืออย่างไรน้ำ หรือ กาแฟ ก็ได้”“ไม่ได้หรอกไปหากินแถวเซเว่นแล้วกันนะคุณ บ้านนี้มีแต่ผู้หญิงแล้วนี่ก็ดึกแล้วฉันไม่อยากเป็นขี้ปากชาวบ้าน ไปนะคะ” แล้วตรีรินทร์ก็รีบเดินผลุบเข้าบ้านไป ปล่อยให้ ธมกานต์ยืนยิ้มกับคำปฏิเสธของหญิงสาว ตรีรินทร์รีบเดินเข้าบ้านพร้อมกับปิดประตูก่อนที่จะแอบมองชายหนุ่ม ที่ยืนอยู่สักครู่ก่อนที่จะเดินขึ้นรถแล้วขับออกจากบริเวณบ้านไป หญิงสาวลอบถอนใจด้วยความโล่งอกนึกว่าชายหนุ่มจะดื้อดึงเข้ามาในบ้านกริ๊ง ๆ เสียงโทรศัพท์ ดังในห้องทำงานที่บริษัท P.D Builders “ฮัลโหล ต้องการพูดกับใครครับ? “ พี่อ๊อด รุ่นพี่สถาปนิกฝีมือระดับต้นๆ ของบริษัทรับโทรศัพท์เพราะอยู่ใกล้มากที่สุด “ดิฉันต้องการพูดกับคุณตรีรินทร์ค่ะ” “ สักครู่นะครับ รินทร์สายสอง” ตรีรินทร์ เอื้อมมือไปรับโทรศัพท์ “รินทร์พูดค่ะ” “ดิฉันรสสุคนธ์เป็นเลขาของคุณธมกานต์ ท่านให้ดิฉันเรียนให้คุณทราบว่าพรุ่ง
ไปทานข้าวกันก่อนดีกว่าไหมตรีรินทร์ ผมหิวแล้ว” ธมกานต์ลุกขึ้น พร้อมกับเดินมาที่ หญิงสาวนั่งทำงานตรีรินทร์ก้มมองนาฬิกาเกือบเที่ยงวันแล้ว ไม่น่าท้องเริ่มปั่นป่วนเนื่องจากเมื่อคืนนอนดึกเธอตื่นสาย เลยไม่ได้ทานอาหารเช้าตอนนี้ท้องไส้เริ่มปั่นป่วน“เชิญ คุณธมกานต์ตามสบายดีกว่าค่ะ ดิฉันขออนุญาตออกไปทานที่ห้องพักพนักงานสักสิบห้านาทีก็พอค่ะ พอดีดิฉันเตรียมของว่างง่ายๆ มาทาน” ว่าแล้วตรีรินทร์ลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกจากนอกห้อง “ว่าไงนะ คุณเตรียมของว่างมาทาน ไหน ของว่างอะไร” ธมกานต์ถามอย่างงุนงง “นี่ค่ะ” ตรีรินทร์เปิดกระเป๋าหยิบกล่องแซนวิชที่แม่แก้วทำให้แทบทุกวัน แซนวิชพร้อมกับกล่องผลไม้และกล่องของหวานเล็กๆ ทำเอาธมกานต์เลิกคิ้วด้วยความทึ่งจัด “นั่งทานที่นี่แหละ เดี๋ยวผมนั่งทานด้วยผมจะสั่งขึ้นมาทานที่นี่” ธมกานต์โทรไปสั่ง ที่ห้องอาหารก่อนจะนั่งตรงข้ามหญิงสาว “เชิญคุณทานก่อนตามสบาย อีกสักครู่แม่บ้านคงเอาอาหารมาส่งให้ผม ไหน คุณเขียนไปถึงไหนแล้ว” ธมกานต์ยอมรับว่าหญิงสาวทำงานค่อนข้างเร็ว นี่ขนาดแกล้งให้แก้งานยังทำได้เร็วอย่างนี้ ธมกานต์รู้สึกใจหายเมื่อนึกถึงว่าถ้างานเสร็จคงจะเจอหญิงสาวคนนี้ยากขึ้น ย
ธมกานต์มองภาพหญิงสาวชายหนุ่มด้วยแววตาแข็งกระด้าง ชายหนุ่มกัดกรามแน่นก่อนเรียกพนักงาน ให้เก็บเงิน “ กานต์จะรีบไปไหนคะ จี้ยังไม่อิ่มเลย” “ เชิญตามสบายผมมีธุระไปล่ะ” ธมกานต์จ่ายเงินเสร็จก็รีบร้อนเดินออกไป ทำให้ จามิกาต้องอิ่มกลางคันพร้อมกับวิ่งตามชายหนุ่ม “ กานต์คะคุณเป็นอะไรของคุณเนี่ยจี้เหนื่อยแล้วนะ” จามิกาโอดครวญ ธมกานต์ตามมาจนถึงชั้นโรงภาพยนตร์“ เรามาทำอะไรกันที่นี่คะ กานต์” “ ก็อยากดูหนังไม่ใช่เหรอ” ธมกานต์ถามเสียงห้วน“ ก็ไหนกานต์ว่าเบื่อคนเยอะไงคะ” “ แล้วจะดูไหม” ธมกานต์ถามเสียงเข้ม “ ดู ค่ะดู..” จามิกาละล่ำละลักตอบ ธมกานต์เลือกที่นั่งข้างบนของตรีรินทร์และชายหนุ่มที่มาด้วยกันจามิกามองท่าทาง ชายหนุ่มข้างตัวอย่างสงสัยแต่ก็ไม่กล้าจะถาม ธมกานต์มองภาพหญิงสาวและชายหนุ่มที่ศีรษะแทบจะชนกันด้วยแววตาแข็งกระด้าง ธมกานต์ต้องระงับความโกรธด้วยการกำมือแน่น “รินทร์ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะพี่โต เดี๋ยวรินทร์มา” “ให้พี่ไปส่งไหม?” “ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวหาที่นั่งไม่เจอรินทร์ไปแป๊ปเดียว” ตรีรินทร์ลุกจากที่นั่ง เพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ ธมกานต์มองหญิงสาวที่เดินออกไปข้างนอกก็ลุกขึ้นจะตามออกไป “ไป
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้