“ ผมไม่ชอบคนขัดใจ ไปนั่งตรงโน้นถ้าจะรอ ผมมีงานด่วนต้องเซ็น”
น้ำเสียงเข้ม ทำให้จามิกาหงอ ระยะเวลาหลายปีที่คบกับชายหนุ่มผู้นี้มาทำให้รู้ดีว่าไม่ควรขัดใจ อาจโดนเขี่ยทิ้งง่ายๆ เพราะสมญานามความเจ้าชู้และใช้ผู้หญิงเปลืองของชายหนุ่มตรงหน้า “ โอเค งั้นจี้รอกานต์นะคะ” ธมกานต์พยักหน้าด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะใช้สมาธิไปกับงานตรงหน้า ตรีรินทร์ขึ้นลิฟท์ของโรงแรม ห้าดาวชื่อดัง Eifelstar Hotelไม่อยากเชื่อว่าตนเองจะต้องมาทำงานให้กับผู้ชายที่เกือบคร่าชีวิตเพื่อนสาวคนสนิทไปชั่วชีวิต ไม่อยากเชื่อว่าต้องมาทำงานแรกให้กับผู้ชายที่เธอเกลียดมาตลอดสองสามปีที่ผ่านมา ระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาเธอได้อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ถึงข่าวคราวของชายหนุ่มที่มีทั้งด้านดีและไม่ดี ด้านไม่ดีก็เรื่องใช้ผู้หญิงเปลือง เปลี่ยนตุ๊กตาหน้ารถแทบทุกสองสามเดือน รายล่าสุดเป็นนางแบบเซ็กซี่ชื่อดัง จริงๆเธอไม่ใคร่จะติดตามข่าวสารพวกสังคมไฮโซ แต่บรรดาเพื่อนๆ ในกลุ่ม ที่กรี๊ดกร๊าดไปกับข่าวสารของชายหนุ่มเนื้อหอม ตรีรินทร์บอกกับตัวเองว่า ‘เราต้องรีบทำงานให้เสร็จเร็วที่สุดเพื่อที่จะได้เจอหน้าชายหนุ่มน้อยที่สุด งานก็คืองาน ไม่อยากเชื่อเลยคนไม่ดีแบบนี้จะเป็นลูกชายของคุณหญิงมณีจันทร์’ “ขอโทษนะคะ ดิฉันมาจากบริษัท P.D Builders คุณพงษ์ให้ดิฉันมาพบกับคุณธมกานต์ค่ะ ท่านโทรมานัดไว้แล้ว” ตรีรินทร์พูดกับหญิงสาวหน้าห้อง เอ็มดี “อ๋อ ค่ะ นั่งรอสักครูนะคะ ท่านยังมีแขกอยู่ในห้องค่ะ” ตรีรินทร์ เข้าไปนั่งรอที่เก้าอี้รับแขกที่จัดไว้ที่มุมห้อง ตรีรินทร์หยิบนิตยสารบนโต๊ะมาพลิกอ่าน จนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงก็ชักจะหงุดหงิด “บ้าจริง จะให้รออีกนานไหมเนี่ย” “คุณคะ อีกนานไหมคะ ฉันมารอชั่วโมงกว่าแล้วนะคะเนี่ย” ตรีรินทร์เอ่ยถามหญิงสาวที่คาดว่าจะเป็นเลขาของชายหนุ่ม “แขกของท่านยังไม่ออกมาเลยคะ ฉันเกรงว่าคุณต้องรออีกสักครู่ ถ้าแขกท่านออกมาดิฉันจะแจ้งให้ทราบนะคะ” “ดิฉันจะลองโทรไปถามท่านให้นะคะ” เลขาสาวตอบ “บอสคะ บริษัท พีดี ส่งคนมาพบค่ะ อ๋อมารออยู่สักครู่แล้วค่ะ ให้รออีกสักครู่เหรอคะโอเคค่ะ เดี๋ยวจอยจะบอกให้เธอททราบค่ะ” ธมกานต์ยิ้ม “คนโปรดของคุณแม่แกล้งให้รอสักหน่อย ดูสิจะออกฤทธิ์ยังไง หรือจะเรียบเหมือนผ้าพับไว้” สองชั่วโมงผ่านไปอย่างเชื่องช้า ตรีรินทร์ทนไม่ไหว เป็นไงเป็นกันวันนี้ เธอต้องทำให้เค้ารู้บ้างว่าจะทำอย่างนี้กับคนอื่นไม่ได้ จามิกานั่งรอจนเผลอหลับไป พอตื่นขึ้นมาก็ยังเห็นชายหนุ่มเซ็นเอกสาร ชักเบื่อก็เลยเดินเข้าไปใกล้พร้อมกับบีบนวดที่ไหล่และต้นคอ พร้อมกับจูบไซ้ต้นคอใบหูอย่างออดอ้อน “กานต์ขา จี้มารอนานจนหลับไปแล้วนะคะ ไม่สงสารจี้หรือไงใจคอจะให้รอไปจนถึงไหนคะนี่” ธมกานต์ชักสยิวไปกับสัมผัสหญิงสาว ก็หันมาตอบสนองอย่างคนคุ้นเคย จนไม่ได้ยินเสียงเคาะประตู “ว้าย!! เข้ามาได้ไงเนี่ย” จามิกาหวีดร้องเมื่อเห็นหญิงสาวแปลกหน้าพรวดเข้ามา ธมกานต์ยิ้ม เป็นไปตามที่คาดไว้ว่า แม่ตัวดีของคุณแม่ต้องทำแบบนี้ดูสิเจ้าหล่อนจะว่ายังไง “อ๋อ ที่ปล่อยให้ฉันรอตั้งหลายชั่วโมงก็เพราะอย่างนี้นี่เอง” ตรีรินทร์มองธมกานต์ด้วยแววตาดูแคลน ธมกานต์รู้สึกขุ่นใจเมื่อเห็นแววตาแบบนี้จากหญิงสาวตรงหน้า ยอมรับกับตนเองว่าหญิงสาวตรงหน้านี่เป็นคนสวยอย่างหาคนจับตัวยากผมยาวสยาย ขนตางอน จมูกโด่ง ริมฝีปากอิ่มเป็นสีชมพูอ่อน เสื้อเชิ้ตขาวกับกางเกงเข้ารูปสีดำ ทำให้ร่างสูงระหงดูสง่างาม “ไม่เคยเรียนมารยาทมาหรือไง เข้าห้องคนอื่นต้องเคาะประตูเสียก่อน แล้วคุณเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่” น้ำเสียงดังตวาดแบบเอาเรื่อง “เรียนค่ะ แล้วคุณล่ะเรียนมาหรือเปล่าหรือไปเรียนเมืองนอกจนลืมเรียนมารยาทของคนไทย ฉันเคาะอยู่ตั้งหลายนาที ถ้าคุณไม่มัวยุ่งกับเออ แฟนของคุณ คุณคงได้ยินหรอก ฉันมาจากพีดีบิวเดอร์ส คุณพงษ์ให้ฉันมาคุยกับคุณเรื่องบ้านแต่ฉันว่าวันนี้คุณไม่ว่างจะคุยแล้วมั้ง ทีหลังถ้ารู้ว่าตัวเองไม่ว่างก็ไม่ควรจะนัดให้คนอื่นมานั่งรอให้เสียเวลา คนอื่นเค้าก็มีงานทำนะคุณ ไม่ได้ว่างมากเหมือนพวกคุณถ้าอยากทำอย่างอื่น ก็ควรจะโทรไปยกเลิกนัด คนอื่นเค้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลา” ตรีรินทร์พูดด้วยความโกรธจนไม่เว้นระยะหายใจ “ฉันลาล่ะค่ะ” ตรีรินทร์กล่าวลาพร้อมหันหลังกลับ “เดี๋ยวอย่าพึ่งไป คุณอยู่ตรงนี้ก่อน” “จี้คุณกลับไปก่อน ผมมีงานต้องทำต่อ คงไปกินข้าวกับคุณไม่ได้แล้ว เอาไว้คืนนี้ผมไปหา” “โถ กานต์ จี้มารออยู่ก่อนตั้งนาน” “ผมไม่ชอบคนขัดใจ จำไม่ได้หรือไง”น้ำเสียงเข้มทำให้จามิกาต้องถอนใจอย่างยอมแพ้ “โอเคค่ะ งั้นจี้ไปนอนรอที่คอนโดนะคะ”จามิกาเข้าไปจูบลาที่ข้างแก้ม ก่อนตวัดตาจิกที่หญิงสาวสวยตรงหน้าอย่างเคืองแค้น ก่อนจะเดินกระแทกไหล่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตรีรินทร์เซเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังจะกลับออกไปเช่นกัน “เดี๋ยวก่อนคุณตรีรินทร์ ผมยังไม่อนุญาตให้คุณกลับ แล้วตกลงคุณจะยอมแพ้แค่นี้เหรออย่างว่าล่ะนะเด็กใหม่พึ่งจบ ความอดทนก็ไม่มี คงคิดล่ะสิว่าทุกอย่างต้องได้มาง่ายๆ” น้ำเสียงเยาะเย้ยทำให้ตรีรินทร์เลือดขึ้นหน้า “ใครว่าฉันยอมแพ้ ฉันก็เห็นอยู่ว่าคุณไม่ว่างฉันก็จะกลับไปก่อน อ้อ คุณธมกานต์ ทีหลังถ้าคุณไม่ว่างจะพบใคร แล้วจะทำอะไร อะไรกับแฟน ใครเค้าก็ไม่ว่าหรอกนะคุณแต่ควรแจ้งออกไปว่าวันนี้คุณไม่ว่าง เพราะติดแฟนอยู่จะได้ไม่เสียเวลาคนอื่น ตั้งครึ่งค่อนวัน ” “รอแค่นี้ทำบ่นแล้วจะไปทำอะไรเนี่ย ” น้ำเสียงชายหนุ่มเย้ยหยัน “รอแค่นี้บ้านคุณสิ ฉันมารอคุณ ตั้งสามชั่วโมงสิบนาที สิบสองวินาที” “แล้วตกลงคุณจะกลับมือเปล่าหรือไง..งานแรกไม่ใช่เหรอ คิดดีๆนะคุณอาจมีผลกับการรับเป็นพนักงานประจำนะคุณ ผมบอกไว้ก่อนอีกอย่าง แม่ผมเค้าอยากให้คุณเป็นคนทำด้วยสิงานนี้” ตรีรินทร์ใคร่ครวญอย่างรอบคอบก่อนจะสูดลมหายใจ ‘จริงของเค้าถ้าไปมือเปล่า มีหวังคุณพงษ์อาละวาดแน่ๆ มาตั้งนานไม่ได้อะไรติดมือไปสักอย่าง’ ตรีรินทร์คิดในใจ ‘คงต้องยอมอีตานี่ไปก่อนไม่งั้นมีหวังโดนไล่ออกแน่ๆ’ “ว่าไง จะทำงานหรือจะกลับ เอาให้แน่ ผมไม่ชอบเล่นขายของนะคุณ” ธมกานต์พูดเสียงเข้มก่อนจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า “ทำก็ได้ ถ้าคุณว่างแล้ว” “เชิญนั่งก่อนสิครับ” ตรีรินทร์นั่งลงพร้อมหยิบอุปกรณ์ออกมาจากกระเป๋าทั้งเครื่องอัดเทปสมุดโน๊ต ระหว่างที่หญิงสาวหยิบอุปกรณ์ ธมกานต์ลอบมองหญิงสาวอย่างสนใจ“ผู้หญิงคนนี้สวย” ธมกานต์คิดในใจ ผมยาวสลวยดำสนิทตามธรรมชาติ ใบหน้ารูปไข่ขนตายาว จมูกโด่งเรียวได้รูปริมฝีปากสีชมพูทาลิปสติก สีอ่อนเข้ากับริมฝีปาก ฟันขาวเรียงเป็นระเบียบ รูปร่างสมส่วนทำเอาธมกานต์มองเหมือนตกอยู่ในภวังค์“อยากได้ฉันแต่งบ้านสไตล์ไหนคะ” ตรีรินทร์ถามเสียงใส อย่างตั้งใจทำงานทำให้ธมกานต์ที่ตกอยู่ในภวังค์รู้สึกตัว ก่อนจะพูดเสียงมีอำนาจว่า“ผมอยากได้เฟอร์นิเจอร์ดำ ขาว ผมไม่อยากได้อะไรที่เยอะเกินไปผมอยากได้เฟอร์นิเจอร์ฝีมือคนไทย ผมไม่นิยมของนอก อยากได้ต้นไม้แถวเทอร์เรส เยอะๆหน่อย ส่วนห้องนอนผมไม่อยากได้อะไรมาก เพราะส่วนใหญ่ผมจะนอนกับแม่ที่ตึกใหญ่ บ้านนี้ผมมีไว้รับรองเพื่อนและแขกที่มาพัก คุณช่วยดูให้หน่อยแล้วกัน ผมไม่มีหัวทางนี้ เอาแบบเรียบง่ายแต่ดูมีสไตล์” ธมกานต์พูดจบหมุนเก้าอี้ก่อนจะก้าวเดินไปยืนที่ข้างหน้าต่าง“มีอะไรเพิ่มเติมอีกไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยถามขณะที่กำลังก้มลงจดรายละเอียดโดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มลอบมองตนเอง อย่างมีความหมาย“เอาไว้คิดอะไรออกผมจะบอก” ธมกานต์พยายามปรับเสียงให้เรียบเฉย“ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวกลับก่อน”“เอามือถือมาหรือเปล่า”“เอามาสิคะ มีอะไรเหรอ”ธมกานต์เหลื
“ผู้หญิงคนนี้สวย” ธมกานต์คิดในใจ ผมยาวสลวยดำสนิทตามธรรมชาติ ใบหน้ารูปไข่ขนตายาว จมูกโด่งเรียวได้รูปริมฝีปากสีชมพูทาลิปสติก สีอ่อนเข้ากับริมฝีปาก ฟันขาวเรียงเป็นระเบียบ รูปร่างสมส่วนทำเอาธมกานต์มองเหมือนตกอยู่ในภวังค์“อยากได้ฉันแต่งบ้านสไตล์ไหนคะ” ตรีรินทร์ถามเสียงใส อย่างตั้งใจทำงานทำให้ธมกานต์ที่ตกอยู่ในภวังค์รู้สึกตัว ก่อนจะพูดเสียงมีอำนาจว่า“ผมอยากได้เฟอร์นิเจอร์ดำ ขาว ผมไม่อยากได้อะไรที่เยอะเกินไปผมอยากได้เฟอร์นิเจอร์ฝีมือคนไทย ผมไม่นิยมของนอก อยากได้ต้นไม้แถวเทอร์เรส เยอะๆหน่อย ส่วนห้องนอนผมไม่อยากได้อะไรมาก เพราะส่วนใหญ่ผมจะนอนกับแม่ที่ตึกใหญ่ บ้านนี้ผมมีไว้รับรองเพื่อนและแขกที่มาพัก คุณช่วยดูให้หน่อยแล้วกัน ผมไม่มีหัวทางนี้ เอาแบบเรียบง่ายแต่ดูมีสไตล์” ธมกานต์พูดจบหมุนเก้าอี้ก่อนจะก้าวเดินไปยืนที่ข้างหน้าต่าง“มีอะไรเพิ่มเติมอีกไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยถามขณะที่กำลังก้มลงจดรายละเอียดโดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มลอบมองตนเอง อย่างมีความหมาย“เอาไว้คิดอะไรออกผมจะบอก” ธมกานต์พยายามปรับเสียงให้เรียบเฉย“ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวกลับก่อน”“เอามือถือมาหรือเปล่า”“เอามาสิคะ มีอะไรเหรอ”ธมกานต์เหลื
“พึ่งมาถึงผมเห็นคุณนอนเหมือนสบายเลยไม่อยากกวน”เสียงอบอุ่นของชายหนุ่มทำเอาตรีรินทร์เงยหน้ามองก่อนจะรีบปัดความรู้สึกที่บอกไม่ถูกออกไป “ขอบคุณนะคะ ที่มาส่ง” ตรีรินทร์พนมมือ ก่อนจะเดินเข้าบ้าน“นี่คุณจะไม่เลี้ยงน้ำผมสักแก้วหรืออย่างไรน้ำ หรือ กาแฟ ก็ได้”“ไม่ได้หรอกไปหากินแถวเซเว่นแล้วกันนะคุณ บ้านนี้มีแต่ผู้หญิงแล้วนี่ก็ดึกแล้วฉันไม่อยากเป็นขี้ปากชาวบ้าน ไปนะคะ” แล้วตรีรินทร์ก็รีบเดินผลุบเข้าบ้านไป ปล่อยให้ ธมกานต์ยืนยิ้มกับคำปฏิเสธของหญิงสาว ตรีรินทร์รีบเดินเข้าบ้านพร้อมกับปิดประตูก่อนที่จะแอบมองชายหนุ่ม ที่ยืนอยู่สักครู่ก่อนที่จะเดินขึ้นรถแล้วขับออกจากบริเวณบ้านไป หญิงสาวลอบถอนใจด้วยความโล่งอกนึกว่าชายหนุ่มจะดื้อดึงเข้ามาในบ้านกริ๊ง ๆ เสียงโทรศัพท์ ดังในห้องทำงานที่บริษัท P.D Builders “ฮัลโหล ต้องการพูดกับใครครับ? “ พี่อ๊อด รุ่นพี่สถาปนิกฝีมือระดับต้นๆ ของบริษัทรับโทรศัพท์เพราะอยู่ใกล้มากที่สุด “ดิฉันต้องการพูดกับคุณตรีรินทร์ค่ะ” “ สักครู่นะครับ รินทร์สายสอง” ตรีรินทร์ เอื้อมมือไปรับโทรศัพท์ “รินทร์พูดค่ะ” “ดิฉันรสสุคนธ์เป็นเลขาของคุณธมกานต์ ท่านให้ดิฉันเรียนให้คุณทราบว่าพรุ่ง
ไปทานข้าวกันก่อนดีกว่าไหมตรีรินทร์ ผมหิวแล้ว” ธมกานต์ลุกขึ้น พร้อมกับเดินมาที่ หญิงสาวนั่งทำงานตรีรินทร์ก้มมองนาฬิกาเกือบเที่ยงวันแล้ว ไม่น่าท้องเริ่มปั่นป่วนเนื่องจากเมื่อคืนนอนดึกเธอตื่นสาย เลยไม่ได้ทานอาหารเช้าตอนนี้ท้องไส้เริ่มปั่นป่วน“เชิญ คุณธมกานต์ตามสบายดีกว่าค่ะ ดิฉันขออนุญาตออกไปทานที่ห้องพักพนักงานสักสิบห้านาทีก็พอค่ะ พอดีดิฉันเตรียมของว่างง่ายๆ มาทาน” ว่าแล้วตรีรินทร์ลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกจากนอกห้อง “ว่าไงนะ คุณเตรียมของว่างมาทาน ไหน ของว่างอะไร” ธมกานต์ถามอย่างงุนงง “นี่ค่ะ” ตรีรินทร์เปิดกระเป๋าหยิบกล่องแซนวิชที่แม่แก้วทำให้แทบทุกวัน แซนวิชพร้อมกับกล่องผลไม้และกล่องของหวานเล็กๆ ทำเอาธมกานต์เลิกคิ้วด้วยความทึ่งจัด “นั่งทานที่นี่แหละ เดี๋ยวผมนั่งทานด้วยผมจะสั่งขึ้นมาทานที่นี่” ธมกานต์โทรไปสั่ง ที่ห้องอาหารก่อนจะนั่งตรงข้ามหญิงสาว “เชิญคุณทานก่อนตามสบาย อีกสักครู่แม่บ้านคงเอาอาหารมาส่งให้ผม ไหน คุณเขียนไปถึงไหนแล้ว” ธมกานต์ยอมรับว่าหญิงสาวทำงานค่อนข้างเร็ว นี่ขนาดแกล้งให้แก้งานยังทำได้เร็วอย่างนี้ ธมกานต์รู้สึกใจหายเมื่อนึกถึงว่าถ้างานเสร็จคงจะเจอหญิงสาวคนนี้ยากขึ้น ย
ธมกานต์มองภาพหญิงสาวชายหนุ่มด้วยแววตาแข็งกระด้าง ชายหนุ่มกัดกรามแน่นก่อนเรียกพนักงาน ให้เก็บเงิน “ กานต์จะรีบไปไหนคะ จี้ยังไม่อิ่มเลย” “ เชิญตามสบายผมมีธุระไปล่ะ” ธมกานต์จ่ายเงินเสร็จก็รีบร้อนเดินออกไป ทำให้ จามิกาต้องอิ่มกลางคันพร้อมกับวิ่งตามชายหนุ่ม “ กานต์คะคุณเป็นอะไรของคุณเนี่ยจี้เหนื่อยแล้วนะ” จามิกาโอดครวญ ธมกานต์ตามมาจนถึงชั้นโรงภาพยนตร์“ เรามาทำอะไรกันที่นี่คะ กานต์” “ ก็อยากดูหนังไม่ใช่เหรอ” ธมกานต์ถามเสียงห้วน“ ก็ไหนกานต์ว่าเบื่อคนเยอะไงคะ” “ แล้วจะดูไหม” ธมกานต์ถามเสียงเข้ม “ ดู ค่ะดู..” จามิกาละล่ำละลักตอบ ธมกานต์เลือกที่นั่งข้างบนของตรีรินทร์และชายหนุ่มที่มาด้วยกันจามิกามองท่าทาง ชายหนุ่มข้างตัวอย่างสงสัยแต่ก็ไม่กล้าจะถาม ธมกานต์มองภาพหญิงสาวและชายหนุ่มที่ศีรษะแทบจะชนกันด้วยแววตาแข็งกระด้าง ธมกานต์ต้องระงับความโกรธด้วยการกำมือแน่น “รินทร์ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะพี่โต เดี๋ยวรินทร์มา” “ให้พี่ไปส่งไหม?” “ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวหาที่นั่งไม่เจอรินทร์ไปแป๊ปเดียว” ตรีรินทร์ลุกจากที่นั่ง เพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ ธมกานต์มองหญิงสาวที่เดินออกไปข้างนอกก็ลุกขึ้นจะตามออกไป “ไป
เช้าวันอาทิตย์ เสียงกริ่งโทรศัพท์รบกวนจนตรีรินทร์ต้องเอาหมอนปิดหูแต่เสียงกริ่งโทรศัพท์ยังรบกวนเป็นระยะๆ ตรีรินทร์พึ่งกลับมาตอนตีห้าเธอและเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัยนัดเลี้ยงรุ่น เฉกเช่นทุกปี ไม่ต้องพูดว่าสนุกแค่ไหนจากร้านโน้นออกร้านนี้จนต้องไปจบร้านข้าวต้มแถวๆ เยาวราช กลับเข้าบ้านมาเจอแม่กรองแก้วกำลังเตรียมตัวตักบาตร ตรีรินทร์ตักบาตรกับแม่กว่าจะได้เข้านอนก็เจ็ดโมงเช้าจึงรู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ตอนเก้าโมง “รินทร์ค่ะ” เสียงงัวเงีย “กี่โมงแล้วยังไม่ตื่นนอนอีกเหรอคุณ” เสียงทุ้มคุ้นหูทำให้ตรีรินทร์รู้สึกหงุดหงิดแต่เช้า“นี่คุณธมกานต์ วันนี้เป็นวันหยุดของฉัน ขอฉันอยู่สงบๆไม่ได้ยินเสียงคุณสักวันจะขอบคุณมาก ” ตรีรินทร์พูดจบก็กดปิดโทรศัพท์ ธมกานต์ฉุนกึกที่โดนหญิงสาววางหูใส่ โทรกลับหาหญิงสาวก็ไม่ยอมรับ รู้สึกโกรธหญิงสาวอย่างบอกไม่ถูก ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาธมกานต์พยายามหาวิธีได้พูดได้เจอกับหญิงสาวทุกวัน แต่กว่าจะได้เจอธมกานต์ก็ต้องพยายามเอาเรื่องงานมาบังหน้าจนบางครั้งรู้สึกสมเพศตนเองไม่น้อย เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังอยู่เกือบสามสิบครั้ง จนตรีรินทร์ชักโมโหจนไม่อาจนอนฟังเสียงโทรศัพท์อีกได้
เช้าวันอาทิตย์ เสียงกริ่งโทรศัพท์รบกวนจนตรีรินทร์ต้องเอาหมอนปิดหูแต่เสียงกริ่งโทรศัพท์ยังรบกวนเป็นระยะๆ ตรีรินทร์พึ่งกลับมาตอนตีห้าเธอและเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัยนัดเลี้ยงรุ่น เฉกเช่นทุกปี ไม่ต้องพูดว่าสนุกแค่ไหนจากร้านโน้นออกร้านนี้จนต้องไปจบร้านข้าวต้มแถวๆ เยาวราช กลับเข้าบ้านมาเจอแม่กรองแก้วกำลังเตรียมตัวตักบาตร ตรีรินทร์ตักบาตรกับแม่กว่าจะได้เข้านอนก็เจ็ดโมงเช้าจึงรู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ตอนเก้าโมง “รินทร์ค่ะ” เสียงงัวเงีย “กี่โมงแล้วยังไม่ตื่นนอนอีกเหรอคุณ” เสียงทุ้มคุ้นหูทำให้ตรีรินทร์รู้สึกหงุดหงิดแต่เช้า“นี่คุณธมกานต์ วันนี้เป็นวันหยุดของฉัน ขอฉันอยู่สงบๆไม่ได้ยินเสียงคุณสักวันจะขอบคุณมาก ” ตรีรินทร์พูดจบก็กดปิดโทรศัพท์ ธมกานต์ฉุนกึกที่โดนหญิงสาววางหูใส่ โทรกลับหาหญิงสาวก็ไม่ยอมรับ รู้สึกโกรธหญิงสาวอย่างบอกไม่ถูก ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาธมกานต์พยายามหาวิธีได้พูดได้เจอกับหญิงสาวทุกวัน แต่กว่าจะได้เจอธมกานต์ก็ต้องพยายามเอาเรื่องงานมาบังหน้าจนบางครั้งรู้สึกสมเพศตนเองไม่น้อย เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังอยู่เกือบสามสิบครั้ง จนตรีรินทร์ชักโมโหจนไม่อาจนอนฟังเสียงโทรศัพท์อีกได้
“ รินทร์จ๊ะ ทางนี้จ๊ะ” นายตำรวจหนุ่มโบกมือให้สัญญาณ“ ขอโทษนะคะ มาสาย รถติดจังเลย”หลังจากรับประทานอาหารเสร็จนายตำรวจหนุ่มชวนให้ตรีรินทร์มานั่งเล่นที่สวนหน้า ร้านอาหาร“ รินทร์จ๊ะพี่มีของจะให้” แหวนเพชรวงกำลังน่ารักถูกยื่น มาข้างหน้าท่ามกลางความตกใจของตรีรินทร์“ พี่โต”“พี่รู้ว่าอาจเป็นการจู่โจมแต่รินทร์น่าจะรู้ว่าพี่รักรินทร์มานานแล้วอายุพี่ก็พอสมควรแล้วหน้าที่การงานพี่ก็พร้อม พี่สอบเทียบได้ยศนายร้อยตามที่ปฏิญาณไว้แล้วพี่ฝันมาตลอดตั้งแต่พี่สอบติดนายสิบตำรวจพี่ฝันมาตลอดว่าถ้าพี่สอบเทียบได้ยศนายร้อยพี่จะให้แม่มาขอรินทร์ผ่านมาหลายปีรินทร์ก็รู้พี่พยายามเพื่อรินทร์มาตลอดอยากให้รินทร์ภูมิใจในตัวพี่แม้จะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ตอนนี้พี่ทำสำเร็จแล้วนะรินทร์พี่ก็เลยอยากขอให้รินทร์มาร่วมสร้างครอบครัวกับพี่ได้ไหมรินทร์”โตมรใช้สายตาจ้องมองตรีรินทร์อย่างอ่อนหวานตรีรินทร์รู้สึกอึดอัดจะบอกตรงๆไปได้ไหมว่าเธอไม่ได้คิดกับเค้ามากไปกว่าพี่ชายคนสนิทแต่เมื่อนึกถึงที่ความพยายามตลอดมาของชายหนุ่ม ทำให้ตรีรินทร์ไม่อาจจะทำร้ายความรู้สึกของชายหนุ่มได้“ขอเวลารินทร์หน่อยนะคะพี่โต รินทร์ยังไม่พร้อม รินทร
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้