ไปทานข้าวกันก่อนดีกว่าไหมตรีรินทร์ ผมหิวแล้ว” ธมกานต์ลุกขึ้น พร้อมกับเดินมาที่ หญิงสาวนั่งทำงาน
ตรีรินทร์ก้มมองนาฬิกาเกือบเที่ยงวันแล้ว ไม่น่าท้องเริ่มปั่นป่วนเนื่องจากเมื่อคืนนอนดึกเธอตื่นสาย เลยไม่ได้ทานอาหารเช้าตอนนี้ท้องไส้เริ่มปั่นป่วน “เชิญ คุณธมกานต์ตามสบายดีกว่าค่ะ ดิฉันขออนุญาตออกไปทานที่ห้องพักพนักงานสักสิบห้านาทีก็พอค่ะ พอดีดิฉันเตรียมของว่างง่ายๆ มาทาน” ว่าแล้วตรีรินทร์ลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกจากนอกห้อง “ว่าไงนะ คุณเตรียมของว่างมาทาน ไหน ของว่างอะไร” ธมกานต์ถามอย่างงุนงง “นี่ค่ะ” ตรีรินทร์เปิดกระเป๋าหยิบกล่องแซนวิชที่แม่แก้วทำให้แทบทุกวัน แซนวิชพร้อมกับกล่องผลไม้และกล่องของหวานเล็กๆ ทำเอาธมกานต์เลิกคิ้วด้วยความทึ่งจัด “นั่งทานที่นี่แหละ เดี๋ยวผมนั่งทานด้วยผมจะสั่งขึ้นมาทานที่นี่” ธมกานต์โทรไปสั่ง ที่ห้องอาหารก่อนจะนั่งตรงข้ามหญิงสาว “เชิญคุณทานก่อนตามสบาย อีกสักครู่แม่บ้านคงเอาอาหารมาส่งให้ผม ไหน คุณเขียนไปถึงไหนแล้ว” ธมกานต์ยอมรับว่าหญิงสาวทำงานค่อนข้างเร็ว นี่ขนาดแกล้งให้แก้งานยังทำได้เร็วอย่างนี้ ธมกานต์รู้สึกใจหายเมื่อนึกถึงว่าถ้างานเสร็จคงจะเจอหญิงสาวคนนี้ยากขึ้น ยังนึกขำตนเองตอนแรกที่ผู้เป็นแม่พยายามคะยั้นคะยอให้รู้จักเขากลับวิ่งหนี ตอนนี้ได้รู้จักแล้วก็ชักอยากวิ่งเข้าใส่ แต่ดูเหมือนหญิงสาวตรงหน้ากลับทำในสิ่งตรงข้ามคือวิ่งหนี ขนาดชวนไปทานข้าวยังปฏิเสธ ถ้าเป็นสาวๆ คนอื่นคงดีใจจนเนื้อเต้น ก๊อก ๆ ๆ แม่บ้าน นำอาหารขึ้นมาเสริฟ พร้อมกับยืนรอเหมือนรอรับคำสั่ง “คุณจะดื่มอะไรไหม” “ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันมีน้ำในกระเป๋า” “นี่คุณตรีรินทร์ ผมน่ะไม่คิดเงินหรอกนะ ดื่มอะไรสักหน่อยเถอะ มิฉะนั้นผมคงรู้สึกแปลกๆ ไงชอบกล” “งั้น หนูขอชาร้อนสักแก้วนะคะป้า” ตรีรินทร์หันมาค้อนชายหนุ่มพร้อมกับขมุบขมิบปากว่า “พอใจหรือยัง” ธมกานต์ยิ้มอย่างนึกขัน “ ทานข้าวเถอะคุณ ผมหิวแล้ว” ตรีรินทร์หยิบแซนวิชทูน่าขึ้นมาทานก่อนที่จะก้มดูรายละเอียดไปโดยแทบไม่สนใจมองชายหนุ่มตรงหน้าแม้แต่นิดเดียวผิดกับชายหนุ่มที่มองหญิงสาวกัดแซนวิชอย่างน่าเอร็ดอร่อยอย่างตะลึง ผู้หญิงคนนี้ขนาดกินข้าวแล้วยังดูดีน่ารัก ธมกานต์มองหญิงสาวกัดแซนวิชพร้อมกับใช้ลิ้นเลียซอสขาวข้างริมฝีปากด้วยความเผลอตัวอย่างตะลึง แต่เมื่อหญิงสาวหันมามองเพราะรู้สึกเหมือนมีคนจ้องดู ชายหนุ่มก็เฉไปมองเพดาน ตรีรินทร์ดื่มน้ำก่อนเช็ดริมฝีปากด้วยทิชชูสีขาวที่ชายหนุ่มส่งให้ “ขอบคุณค่ะ” “ขอตัวเข้าไปล้างมือสักครู่ แล้วเดี๋ยวเรามาดูงานกันเลยนะคะจะได้กลับไปทำงานต่อที่บริษัท ” “เชิญตามสบาย” ตรีรินทร์เดินเข้าไปในห้องน้ำ ธมกานต์รวบช้อนก่อนจะดื่มน้ำตาม เสียงโทรศัพท์มือถือของหญิงสาวดังขึ้น ธมกานต์หันไปมองก่อนเอื้อมไปหยิบขึ้นมาเห็นเหมือนซองจดหมาย ก็เอื้อมไปกดด้วยความอยากรู้ “คิดถึงรินทร์ใจจะขาด คืนนี้ พี่ออกเวรตอนสามทุ่มจะโทรไปคุยด้วยนะจ๊ะ ลงชื่อ โตมร” ธมกานต์วางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเดินไปที่ริมหน้าต่างเพื่อระงับอารมณ์ “เริ่มงานกันเลยดีกว่า” ธมกานต์สั่งเสียงห้วน ตรีรินทร์งงเป็นไก่ตาแตกกับอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า “ได้ค่ะ” เวลาผ่านไปกว่าชั่วโมง กว่าจะพูดตกลงกันสำเร็จทำเอาตรีรินทร์ถอนหายใจอย่างโล่งอก “วันมะรืนเจอกัน เวลา สถานที่จะโทรไปแจ้งให้ทราบ” “จริง ๆ ฉันว่าคุณไม่น่าจะจ้างฉันให้เปลืองเงินเปลืองทอง” “หมายความว่าไง” น้ำเสียงชายหนุ่มเหมือนพร้อมจะเอาเรื่องถ้าตอบไม่ถูกใจ “ก็แบบที่ฉันเขียนมาใช้เวลาตั้งนาน คุณก็มาปรับแก้ เกือบจะแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เก่งอย่างนี้ไม่น่าจะจ้างมัณฑนากรให้เปลืองเงินเปลืองทอง”น้ำเสียงแดกดันของหญิงสาวทำเอาธมกานต์นึกขำในใจ ‘ร้ายไม่ใช่เล่น คนโปรดของคุณแม่’ ธมกานต์คิดในใจ “ผมมีเงินจ้างคุณก็แล้วกันอีกอย่างแม่ผมเค้าชอบคุณมาก เค้าอยากให้คุณทำ ผมไม่อยากขัดใจแม่ เอาล่ะ ผมเสียเวลามามากแล้ว คุณกลับไปได้ผมจะได้ทำงานต่อ” ตรีรินทร์ฉุนกึก ‘อีตาบ้า ใครเค้าอยากอยู่ยะ ไม่ต้องมาไล่ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่นานนักหรอก’ “จริงๆ คุณไม่ต้องให้ฉันมาหาเป็นการส่วนตัวก็ได้นะคะ ให้ฉันส่งงานให้คุณทางอีเมล์ก็ได้นะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำงานของคุณ” ตรีรินทร์แอบกัดชายหนุ่มเบาๆ “แล้วคุณจะรู้ได้ยังไง ผมจะชอบไม่ชอบตรงไหน ผมสั่งยังไงต้องเป็นยังงั้น วันมะรืนเจอกันอย่าโยกโย้” ตรีรินทร์เม้มปากด้วยความขัดใจก่อนจะพนมมือไหว้ลาชายหนุ่มด้วยใบหน้างอง้ำ ตรีรินทร์เดินออกไปจากห้องด้วยความรวดเร็ว.. ‘อีตาบ้า ฉันเกลียดคุณบ้าอำนาจเอาแต่ใจตนเองทำไมฉันต้องโชคร้ายมาทำงานกับคุณด้วยนะ’ตรีรินทร์บ่นกับตนเอง “คุณธมกานต์คะ เย็นนี้จะให้ดิฉันเข้าไปพบกี่โมงคะ” ตรีรินทร์เอ่ยถามชายหนุ่มทางโทรศัพท์ “หกโมงเย็นก็แล้วกัน” “นี่คุณเวลานั้นฉันเลิกงานแล้วนะคะ ก่อนหน้านั้นสักสองสามชั่วโมงได้ไหมถ้าเริ่มดูงานกันหกโมงเย็นแล้วมันจะเสร็จกี่โมงล่ะคุณ” น้ำเสียงตรีรินทร์เริ่มหงุดหงิด “คุณไม่มีสิทธิ์เลือก ผมเป็นลูกค้าคุณต้องตามใจผมสิครับ อีกอย่างผมจะให้คุณเข้าพบได้ไงในเมื่อผมมีประชุมถึงห้าโมงเศษๆประชุมสำคัญด้วย” “งั้นฉันเลื่อนนัดเป็นพรุ่งนี้แล้วกันนะคะ ฉันมีธุระสำคัญต้องไปทำเย็นนี้” ธมกานต์รู้สึกผิดหวังและหงุดหงิดเล็กน้อยที่เย็นนี้จะไม่ได้เจอหญิงสาวนี่เค้ากะจะได้ไปทานข้าวเย็นด้วยกัน กับหญิงสาวที่นับวันตนเองจะรู้สึก ดีๆด้วย จริงๆแล้วเขาสามารถจะให้หญิงสาวมาพบช่วงเช้าก็ได้แต่ธมกานต์ตั้งใจจะให้หญิงสาวมาพบตอนเย็นจะได้หาเรื่องชวน หญิงสาวไปทานข้าวเย็น อย่างที่หญิงสาวปฏิเสธไม่ได้เวลาผ่านไปกว่าสองอาทิตย์ที่ทั้งสองได้มีนัดดูงานกันทุกสองวันแล้วจากที่ต้องคุยงานกันเกือบทุกวัน ธมกานต์รู้สึกเหมือนเสพยาเสพติด รู้สึกอยากอยู่ใกล้ อยากทำอะไรๆ ด้วย วันนี้เลยรู้สึกเซ็งๆ อย่างบอกไม่ถูกเมื่อถูกเลื่อนนัด ธุระสำคัญอะไรนักหนานะ ตรีรินทร์ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ชายหนุ่มยอมรับแต่โดยดีที่จะให้เธอเลื่อนนัดจริงๆ จะว่าสำคัญมากก็ไม่สำคัญตรีรินทร์ยังจำได้ว่ารับปากจะพาพี่โตมรไปเลี้ยงในวันเกิดเพราะชายหนุ่มทวงมาหลายรอบจนเธอรู้สึกเกรงใจ วันนี้เลยกะจะพาพี่ชายสนิทไปเลี้ยงอาหาร ดูหนัง อย่างที่ปฏิบัติมาทุกปี ตรีรินทร์รู้ดีว่าโตมรรู้สึกยังไงกับตนแต่ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกัน แม้จะสนิทสนมกันมาหลายปีความสัมพันธ์มันเหมือนยืนอยู่ที่จุดเดิมเมื่อหลายปีก่อน ความรู้สึกไม่เหมือนคนรักแต่เหมือนพี่ชายคนสนิทมากกว่า แต่ตรีรินทร์ทราบดีว่าโตมรคิดมากไปมากกว่านั้น สักวันเธอคงมีโอกาสจะเคลียร์ความรู้สึกตรงนี้ ตรีรินทร์รีบพิมพ์ข้อความหาโตมรทางโทรศัพท์มีข้อความว่า ‘พี่โต เจอกันที่เดิมนะจ๊ะ หกโมงเย็น มาคอนเฟิร์มค่ะ ลงชื่อ รินทร์’ ก่อนที่ตรีรินทร์จะหันกลับไปทำงานเหมือนเดิม โรงแรม Eifelstar ธมกานต์นั่งอ่านเอกสารใจลอยจนไม่ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาในห้อง จนกระทั่งได้ยินเสียงคนเข้ามาใกล้ตัว “ กานต์ขาจี้มารับไปทานอาหารค่ะ กานต์ไม่มีเวลาให้จี้เลยนะคะช่วงนี้ลืมจี้แล้วเหรอ” จีจี้เข้ามาสวมกอด “ ไว้วันอื่นดีกว่าวันนี้ ไม่มีอารมณ์” น้ำเสียงเซ็งๆ ของธมกานต์ทำให้จีจี้ถอนใจ “วันนี้แหละนะคะ วันนี้มีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่ที่พารากอนนะคะกานต์นะคะ..” น้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกับมือที่บีบนวดไปทั่วตัวทำให้ธมกานต์ใจอ่อน “ ไปก็ได้ แต่ทานข้าวแล้วกลับบ้านเลยนะ ผมยังมีงานต้องเอาไปทำต่อที่บ้าน” “ จี้สัญญาค่ะ” จีจี้ดีใจที่สามารถโน้มน้าวชายหนุ่มได้ ร้านเย็นตาโฟทรงเครื่อง “ พี่โต ทางนี้ค่ะ..” ตรีรินทร์โบกมือเมื่อเห็นนายตำรวจหนุ่มชะเง้อหา.. “ ขอโทษทีจ๊ะมาช้า ร้านญี่ปุ่นข้างๆ เค้ามาเปิดใหม่คนเยอะมาก กว่าจะฝ่ามาได้” โตมรพูดจบและลงนั่ง “สุขสันต์วันเกิดค่ะพี่โต” ตรีรินทร์ยื่นกล่องของขวัญให้ชายหนุ่ม “ ไม่น่าจะต้องเสียเงิน แค่รินทร์มาทานข้าวดูหนังเป็นเพื่อนพี่สำหรับพี่ก็เป็นของขวัญวันเกิดสุดเยี่ยมยอดแล้ว” โตมรกล่าว “ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ วันเกิดพี่ชายทั้งที” คำตอบของหญิงสาวทำให้โตมรใจห่อเหี่ยว ทั้งที่ทำใจมาก่อนหน้านี้แต่เวลาได้ฟังจริงๆ ก็ห่อเหี่ยวอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่า เขาจะดูอากัปกิริยาหญิงสาวไม่ออกแต่คิดเข้าข้างตนเองว่าน้ำหยดลงหิน สักวันหินมันยังกร่อนนับประสาอะไรกับใจคน โตมรยังมีความหวังเสมอ ตราบใดที่หญิงสาวยังไม่แต่งงาน “ ไม่อยากเป็นพี่ชายแล้วล่ะ อยากเป็นอย่างอื่น” โตมรพูดเชิงล้อเล่น ตรีรินทร์ขยับตัวอย่างอึดอัด นายตำรวจหนุ่มพอจะมองออกว่าหญิงสาวที่ตนแอบรักมาหลายปีดู จะอึดอัด โตมรถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดว่า “ พี่เข้าใจ พี่อาจเร่งรัดรินทร์ พี่ใจร้อนไปหน่อยเอาเป็นว่าพี่จะคอยรินทร์อยู่ตรงนี้เสมอ สั่งก๋วยเตี๋ยวกันเถอะเดี๋ยวไปดูหนังไม่ทัน” ตรีรินทร์แอบถอนใจอย่างโล่งอก จริงๆ ผู้ชายตรงหน้าถือว่าเป็นผู้ชายที่เรียกว่าสมบูรณ์ในสายตาคนภายนอก ตรีรินทร์ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมถึงไม่รักโตมรเหมือนคนรัก อาจเป็นเพราะตั้งแต่ต้นเธอคิดกับเค้าแค่พี่ชาย สักวันเธอคงได้มีโอกาสบอกความในใจของตน ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดหรู ธมกานต์รู้สึกเบื่อกับบรรยากาศรอบข้าง จามิกาสั่งอาหารมาหลายอย่าง ซึ่งก็เป็นอาหารจานโปรดที่ธมกานต์ชอบทั้งนั้น แต่วันนี้ชายหนุ่มไม่รู้สึกหิว “ ทานสิคะ กานต์เนี่ยของโปรดคุณทั้งนั้น” จามิกา หรือ จีจี้คีบข้าวปั้น ของโปรดของชายหนุ่มมาวางตรงจาน “ จี้ ทานก่อนเถอะ ผมยังไม่ค่อยหิว” ธมกานต์นั่งมองบรรยากาศรอบๆตัว “ กานต์คะ ทานเสร็จเราไปดูหนังด้วยกันสักเรื่องไหมคะ จี้อยากดูเรื่องนี้จังเห็นเค้าว่าทำเงินที่อเมริกาน่าจะสนุก” “ ผมไม่ชอบดูหนังในโรงหนัง ถ้าอยากดูก็ดูที่บ้านก็ได้ เบื่อคนเยอะ” “ ว้า งั้นก็ตามใจกานต์แล้วกันนะคะ” จามิกาไม่อยากขัดใจชายหนุ่ม ด้านชายหนุ่มเองก็รู้จักเบื่อกับบรรยากาศรอบตัวไปหมด “ ป่านนี้ยัยตัวดีที่ผิดนัดเราจะทำอะไรอยู่นะ?” ธมกานต์คิดเพลินๆ ในใจ ก่อนจะหันไปมองรอบๆ ร้าน ก่อนจะตาลุกโพลงเมื่อมองเห็นหนุ่มสาวร้านตรงข้ามหยอกล้อกัน สนุกสนาน ชายหนุ่มส่ายสายตาเนื่องจากมีผู้คนเดินผ่านหน้าร้านไปมาทำให้ไม่สามารถมองภาพร้านตรงข้ามได้ถนัด ธมกานต์กัดกรามแน่นด้วยความโกรธมือกำเข้าหาตัว ‘ยัยเด็กบ้าผิดนัดเรามาเที่ยวกับแฟนงั้นเหรอ เธอรู้จักฉันน้อยไป’ ธมกานต์ด่าหญิงสาวในใจก่อนจะผลุดลุกจากที่นั่งอย่างคนใจร้อน “ กานต์จะไปไหนคะ” จีจี้ถามเพราะตกใจในท่าทางของชายหนุ่ม ตรีรินทร์และโตมรเดินออกจากร้านเพื่อจะเดินไปชั้นบนสุดที่เป็นส่วนของโรงภาพยนตร์ระหว่างเดินเคียงข้างกัน โตมรก็เล่าเรื่องตลกๆทำให้ตรีรินทร์หัวเราะอย่างสนุกสนานธมกานต์มองภาพหญิงสาวชายหนุ่มด้วยแววตาแข็งกระด้าง ชายหนุ่มกัดกรามแน่นก่อนเรียกพนักงาน ให้เก็บเงิน “ กานต์จะรีบไปไหนคะ จี้ยังไม่อิ่มเลย” “ เชิญตามสบายผมมีธุระไปล่ะ” ธมกานต์จ่ายเงินเสร็จก็รีบร้อนเดินออกไป ทำให้ จามิกาต้องอิ่มกลางคันพร้อมกับวิ่งตามชายหนุ่ม “ กานต์คะคุณเป็นอะไรของคุณเนี่ยจี้เหนื่อยแล้วนะ” จามิกาโอดครวญ ธมกานต์ตามมาจนถึงชั้นโรงภาพยนตร์“ เรามาทำอะไรกันที่นี่คะ กานต์” “ ก็อยากดูหนังไม่ใช่เหรอ” ธมกานต์ถามเสียงห้วน“ ก็ไหนกานต์ว่าเบื่อคนเยอะไงคะ” “ แล้วจะดูไหม” ธมกานต์ถามเสียงเข้ม “ ดู ค่ะดู..” จามิกาละล่ำละลักตอบ ธมกานต์เลือกที่นั่งข้างบนของตรีรินทร์และชายหนุ่มที่มาด้วยกันจามิกามองท่าทาง ชายหนุ่มข้างตัวอย่างสงสัยแต่ก็ไม่กล้าจะถาม ธมกานต์มองภาพหญิงสาวและชายหนุ่มที่ศีรษะแทบจะชนกันด้วยแววตาแข็งกระด้าง ธมกานต์ต้องระงับความโกรธด้วยการกำมือแน่น “รินทร์ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะพี่โต เดี๋ยวรินทร์มา” “ให้พี่ไปส่งไหม?” “ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวหาที่นั่งไม่เจอรินทร์ไปแป๊ปเดียว” ตรีรินทร์ลุกจากที่นั่ง เพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ ธมกานต์มองหญิงสาวที่เดินออกไปข้างนอกก็ลุกขึ้นจะตามออกไป “ไป
เช้าวันอาทิตย์ เสียงกริ่งโทรศัพท์รบกวนจนตรีรินทร์ต้องเอาหมอนปิดหูแต่เสียงกริ่งโทรศัพท์ยังรบกวนเป็นระยะๆ ตรีรินทร์พึ่งกลับมาตอนตีห้าเธอและเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัยนัดเลี้ยงรุ่น เฉกเช่นทุกปี ไม่ต้องพูดว่าสนุกแค่ไหนจากร้านโน้นออกร้านนี้จนต้องไปจบร้านข้าวต้มแถวๆ เยาวราช กลับเข้าบ้านมาเจอแม่กรองแก้วกำลังเตรียมตัวตักบาตร ตรีรินทร์ตักบาตรกับแม่กว่าจะได้เข้านอนก็เจ็ดโมงเช้าจึงรู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ตอนเก้าโมง “รินทร์ค่ะ” เสียงงัวเงีย “กี่โมงแล้วยังไม่ตื่นนอนอีกเหรอคุณ” เสียงทุ้มคุ้นหูทำให้ตรีรินทร์รู้สึกหงุดหงิดแต่เช้า“นี่คุณธมกานต์ วันนี้เป็นวันหยุดของฉัน ขอฉันอยู่สงบๆไม่ได้ยินเสียงคุณสักวันจะขอบคุณมาก ” ตรีรินทร์พูดจบก็กดปิดโทรศัพท์ ธมกานต์ฉุนกึกที่โดนหญิงสาววางหูใส่ โทรกลับหาหญิงสาวก็ไม่ยอมรับ รู้สึกโกรธหญิงสาวอย่างบอกไม่ถูก ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาธมกานต์พยายามหาวิธีได้พูดได้เจอกับหญิงสาวทุกวัน แต่กว่าจะได้เจอธมกานต์ก็ต้องพยายามเอาเรื่องงานมาบังหน้าจนบางครั้งรู้สึกสมเพศตนเองไม่น้อย เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังอยู่เกือบสามสิบครั้ง จนตรีรินทร์ชักโมโหจนไม่อาจนอนฟังเสียงโทรศัพท์อีกได้
เช้าวันอาทิตย์ เสียงกริ่งโทรศัพท์รบกวนจนตรีรินทร์ต้องเอาหมอนปิดหูแต่เสียงกริ่งโทรศัพท์ยังรบกวนเป็นระยะๆ ตรีรินทร์พึ่งกลับมาตอนตีห้าเธอและเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัยนัดเลี้ยงรุ่น เฉกเช่นทุกปี ไม่ต้องพูดว่าสนุกแค่ไหนจากร้านโน้นออกร้านนี้จนต้องไปจบร้านข้าวต้มแถวๆ เยาวราช กลับเข้าบ้านมาเจอแม่กรองแก้วกำลังเตรียมตัวตักบาตร ตรีรินทร์ตักบาตรกับแม่กว่าจะได้เข้านอนก็เจ็ดโมงเช้าจึงรู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ตอนเก้าโมง “รินทร์ค่ะ” เสียงงัวเงีย “กี่โมงแล้วยังไม่ตื่นนอนอีกเหรอคุณ” เสียงทุ้มคุ้นหูทำให้ตรีรินทร์รู้สึกหงุดหงิดแต่เช้า“นี่คุณธมกานต์ วันนี้เป็นวันหยุดของฉัน ขอฉันอยู่สงบๆไม่ได้ยินเสียงคุณสักวันจะขอบคุณมาก ” ตรีรินทร์พูดจบก็กดปิดโทรศัพท์ ธมกานต์ฉุนกึกที่โดนหญิงสาววางหูใส่ โทรกลับหาหญิงสาวก็ไม่ยอมรับ รู้สึกโกรธหญิงสาวอย่างบอกไม่ถูก ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาธมกานต์พยายามหาวิธีได้พูดได้เจอกับหญิงสาวทุกวัน แต่กว่าจะได้เจอธมกานต์ก็ต้องพยายามเอาเรื่องงานมาบังหน้าจนบางครั้งรู้สึกสมเพศตนเองไม่น้อย เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังอยู่เกือบสามสิบครั้ง จนตรีรินทร์ชักโมโหจนไม่อาจนอนฟังเสียงโทรศัพท์อีกได้
“ รินทร์จ๊ะ ทางนี้จ๊ะ” นายตำรวจหนุ่มโบกมือให้สัญญาณ“ ขอโทษนะคะ มาสาย รถติดจังเลย”หลังจากรับประทานอาหารเสร็จนายตำรวจหนุ่มชวนให้ตรีรินทร์มานั่งเล่นที่สวนหน้า ร้านอาหาร“ รินทร์จ๊ะพี่มีของจะให้” แหวนเพชรวงกำลังน่ารักถูกยื่น มาข้างหน้าท่ามกลางความตกใจของตรีรินทร์“ พี่โต”“พี่รู้ว่าอาจเป็นการจู่โจมแต่รินทร์น่าจะรู้ว่าพี่รักรินทร์มานานแล้วอายุพี่ก็พอสมควรแล้วหน้าที่การงานพี่ก็พร้อม พี่สอบเทียบได้ยศนายร้อยตามที่ปฏิญาณไว้แล้วพี่ฝันมาตลอดตั้งแต่พี่สอบติดนายสิบตำรวจพี่ฝันมาตลอดว่าถ้าพี่สอบเทียบได้ยศนายร้อยพี่จะให้แม่มาขอรินทร์ผ่านมาหลายปีรินทร์ก็รู้พี่พยายามเพื่อรินทร์มาตลอดอยากให้รินทร์ภูมิใจในตัวพี่แม้จะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ตอนนี้พี่ทำสำเร็จแล้วนะรินทร์พี่ก็เลยอยากขอให้รินทร์มาร่วมสร้างครอบครัวกับพี่ได้ไหมรินทร์”โตมรใช้สายตาจ้องมองตรีรินทร์อย่างอ่อนหวานตรีรินทร์รู้สึกอึดอัดจะบอกตรงๆไปได้ไหมว่าเธอไม่ได้คิดกับเค้ามากไปกว่าพี่ชายคนสนิทแต่เมื่อนึกถึงที่ความพยายามตลอดมาของชายหนุ่ม ทำให้ตรีรินทร์ไม่อาจจะทำร้ายความรู้สึกของชายหนุ่มได้“ขอเวลารินทร์หน่อยนะคะพี่โต รินทร์ยังไม่พร้อม รินทร
หัวหินธมกานต์จอดรถหน้าบ้านพักตากอากาศหันมามองหญิงสาวที่นอนซบไหล่ด้วยแววตาหวงแหนใครจะว่าเค้าเป็นคนเห็นแก่ตัวก็คงไม่แคร์ เขาได้แต่บอกตัวเองว่าคงไม่ยอมให้หญิงสาวหลุดลอยไปได้ธมกานต์หันไปจูบที่หน้าผากของคนที่นอนหลับตรีรินทร์รู้สึกตัวเงยหน้ามองสบตาชายหนุ่มระยะห่างกันแค่หนึ่งคืบดวงตาคมเข้มส่งสายตาบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ตรีรินทร์ตัวอ่อนจนต้องรีบเรียกสติคืนมา‘ตรีรินทร์ตื่นสิอย่าไปหลงใหลได้ปลื้มกับรูปลักษณ์ของเค้า จำไม่ได้หรือไงอ้อมเกือบตายเพราะเค้าเราจะชอบเค้าไม่ได้ ตื่น ตื่น ตื่น’ ตรีรินทร์พูดกับตัวเองในใจพร้อมกับมองไปรอบๆ ตัว“นี่คุณ ที่นี่ที่ไหนแล้วคุณพาฉันมาที่นี่ทำไม จะคุยเรื่องงานทำไมมาซะไกลนี่จะค่ำแล้วนะคุณแม่ฉันรออยู่”“ได้ยินไหมที่ฉันถามเนี่ย” ตรีรินทร์ตะเบ็งเสียงถาม“ได้ยินอยู่ใกล้กันแค่นี้ ไม่ต้องตะโกนหรอก ผมพาคุณมาบ้านพักตากอากาศ ที่หัวหินแล้วไม่ต้องห่วงเรื่องแม่คุณ ผมโทรไปขออนุญาตแล้วอีกอย่างพรุ่งนี้แม่ผมกับแม่คุณจะไปนั่งวิปัสสนากันที่อยุธยาสามวันผมก็เลยขออนุญาตแม่คุณพาคุณมาเที่ยวสองสาววันไม่เห็นแม่คุณจะว่าอะไร ยังฝากผมดูแลคุณซะดิบดี”“ คนบ้า ใครบอกว่าฉันอยากมาเที่ยวกับ
ก็ผมบอกแล้วไงว่าเราต้องนอนด้วยกันผมสัญญาแล้วกันจะไม่ทำอะไรคุณถ้าคุณไม่ยินยอมโอเคไหมแต่ถ้าคุณยังพูดท่านั้นท่านี่ผมจะถือว่าคุณยั่วผม อ่อยผม”“ บ้า ประสาท ฉันเบื่อจะคุยกับคุณแล้วจะให้ฉันทำอะไร ทำยังไงก็บอกมาเลย”“ไปทานข้าวกันเถอะคุณทำใจให้สบายๆนึกว่ามาพักผ่อนแล้วเห็นผมเป็นเพื่อนคุณคนหนึ่งว่าไงตกลงไหม”“ ฉันมีทางเลือกทางอื่นไหมล่ะอยากให้ทำอะไรก็สั่งมาเลยดีกว่าฉันเบื่อจะทะเลาะกับคุณแล้วเพราะถึงเถียงยังไงก็ไม่เคยชนะคุณสักทีเพราะคุณมันใหญ่เหลือเกินนี่”ถ้อยคำจิกกัดของหญิงสาวยิ่งทำให้ธมกานต์คึกครื้นมากที่สุดในชีวิต“บอกตรงๆนะ ตรีรินทร์ผมไม่เคยนึกสนุกมากยังงี้มาก่อนในชีวิต ขอบคุณมาก”ตรีรินทร์มองหน้าชายหนุ่มอย่างคาดไม่ถึง เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มธมกานต์อุ่นอาหารที่ให้คนไปซื้อมาพร้อมกับจัดโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว“ คุณคบกับแฟนมากี่ปีแล้วเนี่ยธมกานต์เอ่ยถาม แต่ตรีรินทร์กลับนั่งเฉย สีหน้าเรียบ“ว่าไง ได้ยินที่ผมถามหรือเปล่า”“ เจ็ดแปดปี แล้วมั้งฉันไม่แน่ใจ”“ คบกันนานไปไหมคุณ”“ พี่เค้าสอบนายสิบตำรวจ ฉันยังอยู่ประถมอยู่เลย”“ อืม รักกันยาวนานมากกกกกกกกกกกกกกก” ลากเสียงล้อเลียน“ ผมอยากให้กลับไ
ก็ผมบอกแล้วไงว่าเราต้องนอนด้วยกันผมสัญญาแล้วกันจะไม่ทำอะไรคุณถ้าคุณไม่ยินยอมโอเคไหมแต่ถ้าคุณยังพูดท่านั้นท่านี่ผมจะถือว่าคุณยั่วผม อ่อยผม”“ บ้า ประสาท ฉันเบื่อจะคุยกับคุณแล้วจะให้ฉันทำอะไร ทำยังไงก็บอกมาเลย”“ไปทานข้าวกันเถอะคุณทำใจให้สบายๆนึกว่ามาพักผ่อนแล้วเห็นผมเป็นเพื่อนคุณคนหนึ่งว่าไงตกลงไหม”“ ฉันมีทางเลือกทางอื่นไหมล่ะอยากให้ทำอะไรก็สั่งมาเลยดีกว่าฉันเบื่อจะทะเลาะกับคุณแล้วเพราะถึงเถียงยังไงก็ไม่เคยชนะคุณสักทีเพราะคุณมันใหญ่เหลือเกินนี่”ถ้อยคำจิกกัดของหญิงสาวยิ่งทำให้ธมกานต์คึกครื้นมากที่สุดในชีวิต“บอกตรงๆนะ ตรีรินทร์ผมไม่เคยนึกสนุกมากยังงี้มาก่อนในชีวิต ขอบคุณมาก”ตรีรินทร์มองหน้าชายหนุ่มอย่างคาดไม่ถึง เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มธมกานต์อุ่นอาหารที่ให้คนไปซื้อมาพร้อมกับจัดโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว“ คุณคบกับแฟนมากี่ปีแล้วเนี่ยธมกานต์เอ่ยถาม แต่ตรีรินทร์กลับนั่งเฉย สีหน้าเรียบ“ว่าไง ได้ยินที่ผมถามหรือเปล่า”“ เจ็ดแปดปี แล้วมั้งฉันไม่แน่ใจ”“ คบกันนานไปไหมคุณ”“ พี่เค้าสอบนายสิบตำรวจ ฉันยังอยู่ประถมอยู่เลย”“ อืม รักกันยาวนานมากกกกกกกกกกกกกกก” ลากเสียงล้อเลียน“ ผมอยากให้กลับไ
ขอให้เข้าใจที่ต้องทนฝืนอยู่ตอนนี้เพราะมันไม่มีทางเลือกเอากระเป๋าเงินมาคืนฉันสิฉันจะรีบกลับกรุงเทพฯทันที”ยิ่งหญิงสาวพูดยิ่งเหมือนไปตอกย้ำทำให้ธมกานต์อารมณ์ลุกโพลงด้วยความโกรธ“ แล้วนี่จะไปทานข้าวข้างนอกกันไหมเนี่ย เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ฉันตามอารมณ์คุณไม่ทันแล้วนะ”“ ไม่ไปแล้ว ไม่มีอารมณ์”“ แล้วใครบอกคุณว่าฉันผ่านสงครามมาแล้วหลายครั้งบ้าจริง”“ แฟนผู้หมวดคุณไง หึ เค้าว่าเค้าเป็นมากกว่าแฟนเป็นผัวคุณแล้วงั้นสิไม่นึกเลยว่าหน้าตาซื่อๆจะตีหน้าหลอกคนได้หน้าตาเฉย ทำเป็นเรียบร้อยต่อหน้าคุณแม่ นี่ถ้าแม่ผมรู้คงตกใจ”“ ไม่จริง พี่โตเค้าไม่ใช่คนแบบนั้นคุณใส่ร้ายเค้านะสิ”“ ใช่สิ ผมมันเป็นผู้ร้ายในสายตาคุณอยู่แล้วนี่ อยากคิดอะไรก็เชิญ”ธมกานต์ก้าวเข้ามาใกล้หญิงสาวทำให้ตรีรินทร์ขยับหนีจนร่างชนเข้ากับกำแพงหนา“ คุณจะทำอะไร บ้าไปแล้วเหรอ ไหนบอกว่าจะไม่ทำอะไรฉันไง”“ ก็ผมนึกว่าคุณเป็นสาวบริสุทธิ์ ตอนนี้รู้แล้วว่าผ่านอะไรๆ มาเยอะ อีกสักครั้งคงไม่สึกหรอผมให้คุณแสนหนึ่งเป็นไงนอนกับผมคืนเดียวดีกว่าทำงานตั้งเกือบครึ่งปีนะคุณ”ตรีรินทร์ตวัดมือกระทบใบหน้าชายหนุ่มอย่างแรงจนหน้าที่มีผิวสองสีแดงออกมาอย่างเห็นไ
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้