“ รินทร์จ๊ะ ทางนี้จ๊ะ” นายตำรวจหนุ่มโบกมือให้สัญญาณ
“ ขอโทษนะคะ มาสาย รถติดจังเลย” หลังจากรับประทานอาหารเสร็จนายตำรวจหนุ่มชวนให้ตรีรินทร์มานั่งเล่นที่สวนหน้า ร้านอาหาร “ รินทร์จ๊ะพี่มีของจะให้” แหวนเพชรวงกำลังน่ารักถูกยื่น มาข้างหน้าท่ามกลางความตกใจของตรีรินทร์ “ พี่โต” “พี่รู้ว่าอาจเป็นการจู่โจมแต่รินทร์น่าจะรู้ว่าพี่รักรินทร์มานานแล้ว อายุพี่ก็พอสมควรแล้วหน้าที่การงานพี่ก็พร้อม พี่สอบเทียบได้ยศนายร้อยตามที่ปฏิญาณไว้แล้ว พี่ฝันมาตลอดตั้งแต่พี่สอบติดนายสิบตำรวจ พี่ฝันมาตลอดว่าถ้าพี่สอบเทียบได้ยศนายร้อยพี่จะให้แม่มาขอรินทร์ ผ่านมาหลายปีรินทร์ก็รู้พี่พยายามเพื่อรินทร์มาตลอด อยากให้รินทร์ภูมิใจในตัวพี่แม้จะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ตอนนี้พี่ทำสำเร็จแล้วนะรินทร์ พี่ก็เลยอยากขอให้รินทร์มาร่วมสร้างครอบครัวกับพี่ได้ไหมรินทร์” โตมรใช้สายตาจ้องมองตรีรินทร์อย่างอ่อนหวาน ตรีรินทร์รู้สึกอึดอัดจะบอกตรงๆไปได้ไหมว่าเธอไม่ได้คิดกับเค้ามากไปกว่าพี่ชายคนสนิท แต่เมื่อนึกถึงที่ความพยายามตลอดมาของชายหนุ่ม ทำให้ตรีรินทร์ไม่อาจจะทำร้ายความรู้สึกของชายหนุ่มได้ “ขอเวลารินทร์หน่อยนะคะพี่โต รินทร์ยังไม่พร้อม รินทร์เพิ่งเริ่มทำงานยังไม่ได้บรรจุด้วยซ้ำ รออีกหน่อยนะคะ” ตรีรินทร์พยายามหาทางออก ตรีรินทร์ยื่นแหวนคืนให้นายตำรวจหนุ่ม “ถ้างั้นพี่ฝากแหวนไว้ที่รินทร์ก่อน ถ้าวันไหนตัดสินใจได้แล้วค่อยมาบอกพี่พี่จะได้ให้แม่ไปขอ” “เอาอย่างงั้นเหรอคะ” “ครับผม” นายตำรวจหนุ่มหัวเราะประสานเสียงกับตรีรินทร์ ตรีรินทร์สอดแหวนไว้ที่กระเป๋าเสื้อแจ็คแก็ตตัวเก่งพร้อมกับก้มมองนาฬิกา “รินทร์รีบไปไหนหรือเปล่า” “รินทร์มีนัดไปเจ้าของบ้านไปเก็บงานอีกสามสี่จุด ไม่นานหรอกค่ะประมาณชั่วโมงครึ่งก็เสร็จ” “งั้นพี่ไปส่งนะ แล้วเลิกงานไปดูหนังตอนเย็น แล้วพี่จะได้กลับเข้าเวรตอนดึก นะรินทร์นะ คราวก่อนก็ไม่ได้ดูจนจบทีหนึ่งแล้ว พี่รออยู่ในรถนะจ๊ะรินทร์ ตั้งแต่รินทร์ทำงานไม่ค่อยมีเวลาให้พี่เลย” “โอเคค่ะ ตามใจพี่โต” รถเลี้ยว เข้าบริเวณ เรือนหลังเล็กพิพัฒนพงค์ ธมกานต์ตั้งใจมาดักรอพบหญิงสาว เมื่อทราบจากเลขาตนเองว่าตรีรินทร์จะมาเก็บภาพ แต่เมื่อมองเห็นคนที่มาส่งหญิงสาวอย่างใกล้ชิดก็ทำให้ธมกานต์กัดฟันมือกำแน่นด้วยความไม่พอใจ ยิ่งภาพที่มองเห็นทำให้ธมกานต์เตะเก้าอี้ข้างตัวจนล้มไม่เป็นท่า โตมรยื่นมือมาจับมือของตรีรินทร์ “รินทร์จ๊ะ พี่รักรินทร์มากนะ” ตรีรินทร์ดึงมือกลับ พร้อมกับพูดว่า ”ค่ะ พี่โตบอกรินทร์หลายหนแล้ว” ตรีรินทร์เดินเข้าบ้านอย่างเหม่อลอยพยายามถามหัวใจตนเองว่ารู้สึกอย่างไรกับนายตำรวจหนุ่ม คำตอบที่ได้มาก็ยังเหมือนเดิมกับที่หลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ต้องยอมรับว่านายตำรวจหนุ่มมีความพยายามมากจนเธอไม่อาจจะทำร้ายจิตใจได้ ตรีรินทร์คิดไปมาอย่างว้าวุ่นหัวใจ เธอมีอยู่สองทางเลือก..หนึ่ง ตัดสินใจบอกไปเลยว่าเราคิดกับพี่โตแค่พี่ชายแล้วขอให้พี่โตคิดกับเราเป็นน้องสาว กับอีกข้อหนึ่งยอมแต่งงานเพื่อความดีเห็นแก่ความรักที่เค้ามีต่อเรา สักวันเราคงรักเค้าได้เอง ตรีรินทร์คิดไปมาอย่างสับสน จนกระทั่งเดินมาถึงกลางห้องมองไปรอบๆ เห็นความเปลี่ยนแปลงของบ้านไปมากกว่าเจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์แล้วเหลืออีกนิดหน่อย งานกับลูกค้าจอมเบ่งก็จะจบลง ตรีรินทร์รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูกว่าทำไม ตรีรินทร์เริ่มเก็บภาพไปเรื่อยๆจนรู้สึกถึงความอึดอัด จึงถอดเสื้อแจ็คเก็ตพาดวางไว้ที่โซฟาก่อนจะเก็บภาพต่อไปอีกเรื่อยๆ พอได้ยินเสียงฝีเท้าก็รู้สึกตกใจหันไปมอง “อุ๊ย คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันนึกว่าผีหลอกตอนกลางวัน” ตรีรินทร์โวยวาย “ ประสาท ผีที่ไหนมี” “ คุณมาทำไรที่นี่ค่ะ คุณรสไม่บอกคุณเหรอว่าฉันจะขอแค่มาเก็บภาพ” “บอกถึงได้มานี่ไง แล้วนี่คุณอายุเท่าไหร่แล้ว” “บ้า มาถามเรื่องอายุทำไม” “ทำเป็นอินโนเซ้นท์ต้องให้แฟนมาส่ง จะอ้วก ไปบอกเค้ากลับไป ผมไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามาจอดรถในบ้านผม” เสียงธมกานต์ดังกึกก้อง “คนบ้าไม่มีเหตุผล ฉันแค่มาทำงานแป๊บเดียว เดี๋ยวเรามีนัดกินข้าวกันเค้าก็ต้องรอ ถ้าคุณไม่สะดวกให้เค้ารอในบ้าน ฉันจะให้เค้าไปรอนอกบ้านก็ได้” “นอกบ้านก็ไม่ได้” “เอ๊ะ คุณจะหาเรื่องหรือไง” “บอกให้เค้ากลับไป แล้วบอกเลิกนัดด้วย ผมมีธุระจะคุยเรื่องงานกับคุณ” “ไม่ได้หรอก ฉันผิดนัดเค้าไม่ได้” “ คุณเห็นเรื่องส่วนตัวสำคัญกว่างานหรือยังไง ต้องให้ผมรายงานคุณพงค์ด้วยไหม” “ไม่ต้องมาขู่” “ผมไม่ขู่ แต่ผมเอาจริง” “ทีหลังมาทำงานบ้านผม อย่าให้แฟนมาส่งอีกผมไม่ชอบ คุณโตแล้วนะตรีรินทร์ ก็แค่มาทำงานบ้านผมเนี่ย ต้องดัดจริตให้แฟนมาส่ง ผมจะอ้วก” ตรีรินทร์รู้สึกถึงแรงกดดันในใจ กลั้นความโกรธจนรู้สึกตนเองหน้าร้อนไปหมด “บ้า ประสาท คุณนี่ขวางโลกจริงๆ คนเค้ารักกันจะช่วยดูแลซึ่งกันและกันบ้างผิดอะไรด้วยเหรอ” “ไม่ผิดหรอกถ้าไม่ใช่ต่อหน้าต่อตาผม ผมไม่ชอบถ้าคุณไม่สะดวกมาเอง ผมจะให้คนขับรถไปรับพอใจไหม” ตรีรินทร์หน้างอปากยื่นจมูกเชิด “ว่าไงจะไปบอกเค้าหรือให้ผมโทรหาคุณพงค์ว่าคุณไม่ว่าง” “ตกลงฉันไปบอกก็ได้แล้วรีบๆ คุยงานมาล่ะ” ตรีรินทร์เดินออกไปบริเวณใต้ต้นไม้ที่ตำรวจหนุ่มจอดรถอยู่ “เสร็จแล้วเหรอรินทร์ ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลย” “พี่โตคะ รินทร์ขอเลื่อนนัดไปก่อนนะคะ รินทร์มีงานต้องคุยกับลูกค้าอีกหลายชั่วโมงค่ะ ขอโทษนะคะแล้วรินทร์จะโทรไป” นายตำรวจหนุ่มกระฟัดกระเฟียด “ อีกแล้วนะรินทร์ รินทร์ผิดนัดพี่อีกแล้ว งาน งาน งาน รินทร์เห็นงานสำคัญกว่าพี่ใช่ไหม เบื่อจริงๆใครจะเหมือนพี่ไหมเนี่ย โธ่เว้ย” นายตำรวจหนุ่มออกรถไปด้วยความโกรธ ตรีรินทร์ยืนงงกับพฤติกรรมของนายตำรวจหนุ่มก่อนจะหันหลังกลับเข้าบริเวณบ้าน ธมกานต์ยืนรอด้วยรอยยิ้มเยาะที่สามารถจัดการกับศัตรูหัวใจไปได้ “เราจะคุยเรื่องอะไรกันคุณ” ธมกานต์พยายามหาหัวข้อที่จะคุยเดินไปเดินมา ก่อนจะจะนั่งลงที่โซฟาตัวที่ตรีรินทร์พาดเสื้อแจ็คเก็ตไว้ธมกานต์รู้สึกเหมือนนั่งทับอะไรก็เลยฉวยขึ้นมาดู ‘เสื้อแจ็คเก็ตทำไมแข็งอย่างงี้วะ’ เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อข้างหน้าหยิบออกมาดู ท่ามกลางความตกตะลึงของตรีรินทร์ “ไม่มีมารยาทนะคุณ เรื่องอะไรมาค้นกระเป๋าฉัน” “ช่วยไม่ได้วางไว้ไม่เป็นทางเอง” ธมกานต์เปิดกล่องดู ดวงตาลุกวาวด้วยความโกรธ “ แหวนอะไร” “เรื่องของฉันเอามานี่” ธมกานต์เอามือหลบพร้อมกับเปิดดู “กระจอก เม็ดนิดเดียว” “นิดเดียวแต่มันมีคุณค่าทางใจรู้ไหม คุณไม่รู้หรอกเพราะไม่เคยรู้ถึงคุณค่าสิ่งใดที่ได้มา” “ ขอคืนค่ะ” ตรีรินทร์แบมือแต่ธมกานต์ทำสิ่งไม่คาดฝันกว่าด้วยขว้างออกทางหน้าต่าง “ ว้าย คนบ้า ทำแบบนี้ได้ไง” “ มานี่ออกไปข้างนอกกับผม” “ ไปไหน ฉันไม่ไป” “นี่คุณจะพาฉันไปไหนบ้าไปแล้วหรือไงไหนจะคุยกันเรื่องงาน ถ้าไม่คุยเรื่องงานฉันจะกลับบ้านแล้วล่ะ” “ หุบปาก หนวกหู” เสียงธมกานต์ตะโกน “ ไม่งั้นผมมีวิธีปิดปากคุณ” ตรีรินทร์ใจเต้นตึกตักทั้งโกรธและกลัวในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกค้าหนุ่ม “แหวนหมั้นหรือแหวนแต่งงาน” เงียบ ตรีรินทร์กอดอกมองไปทางหน้าต่างนอกรถ “ ผมถามไม่ได้ยินหรือไง จะกวนอารมณ์ผมไปถึงไหนเนี่ย” “ ก็คุณบอกให้ฉันหุบปาก ฉันก็ทำแล้วไงจะเอาอะไรอีก” ตรีรินทร์กระแทกเสียงตอบ “ แหวนหมั้นหรือแต่งงาน” “ แหวนแต่งงาน” ตรีรินทร์กระชากเสียงตอบ ธมกานต์ใจหายวาบบอกกับตัวเองว่า ‘ฝันไปเถอะว่าคุณจะได้แต่งกับแฟน ผมจะทำทุกวิถีทางให้ได้คุณมาตรีรินทร์’ ธมกานต์บอกกับตัวเองอย่างหนักแน่นหัวหินธมกานต์จอดรถหน้าบ้านพักตากอากาศหันมามองหญิงสาวที่นอนซบไหล่ด้วยแววตาหวงแหนใครจะว่าเค้าเป็นคนเห็นแก่ตัวก็คงไม่แคร์ เขาได้แต่บอกตัวเองว่าคงไม่ยอมให้หญิงสาวหลุดลอยไปได้ธมกานต์หันไปจูบที่หน้าผากของคนที่นอนหลับตรีรินทร์รู้สึกตัวเงยหน้ามองสบตาชายหนุ่มระยะห่างกันแค่หนึ่งคืบดวงตาคมเข้มส่งสายตาบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ตรีรินทร์ตัวอ่อนจนต้องรีบเรียกสติคืนมา‘ตรีรินทร์ตื่นสิอย่าไปหลงใหลได้ปลื้มกับรูปลักษณ์ของเค้า จำไม่ได้หรือไงอ้อมเกือบตายเพราะเค้าเราจะชอบเค้าไม่ได้ ตื่น ตื่น ตื่น’ ตรีรินทร์พูดกับตัวเองในใจพร้อมกับมองไปรอบๆ ตัว“นี่คุณ ที่นี่ที่ไหนแล้วคุณพาฉันมาที่นี่ทำไม จะคุยเรื่องงานทำไมมาซะไกลนี่จะค่ำแล้วนะคุณแม่ฉันรออยู่”“ได้ยินไหมที่ฉันถามเนี่ย” ตรีรินทร์ตะเบ็งเสียงถาม“ได้ยินอยู่ใกล้กันแค่นี้ ไม่ต้องตะโกนหรอก ผมพาคุณมาบ้านพักตากอากาศ ที่หัวหินแล้วไม่ต้องห่วงเรื่องแม่คุณ ผมโทรไปขออนุญาตแล้วอีกอย่างพรุ่งนี้แม่ผมกับแม่คุณจะไปนั่งวิปัสสนากันที่อยุธยาสามวันผมก็เลยขออนุญาตแม่คุณพาคุณมาเที่ยวสองสาววันไม่เห็นแม่คุณจะว่าอะไร ยังฝากผมดูแลคุณซะดิบดี”“ คนบ้า ใครบอกว่าฉันอยากมาเที่ยวกับ
ก็ผมบอกแล้วไงว่าเราต้องนอนด้วยกันผมสัญญาแล้วกันจะไม่ทำอะไรคุณถ้าคุณไม่ยินยอมโอเคไหมแต่ถ้าคุณยังพูดท่านั้นท่านี่ผมจะถือว่าคุณยั่วผม อ่อยผม”“ บ้า ประสาท ฉันเบื่อจะคุยกับคุณแล้วจะให้ฉันทำอะไร ทำยังไงก็บอกมาเลย”“ไปทานข้าวกันเถอะคุณทำใจให้สบายๆนึกว่ามาพักผ่อนแล้วเห็นผมเป็นเพื่อนคุณคนหนึ่งว่าไงตกลงไหม”“ ฉันมีทางเลือกทางอื่นไหมล่ะอยากให้ทำอะไรก็สั่งมาเลยดีกว่าฉันเบื่อจะทะเลาะกับคุณแล้วเพราะถึงเถียงยังไงก็ไม่เคยชนะคุณสักทีเพราะคุณมันใหญ่เหลือเกินนี่”ถ้อยคำจิกกัดของหญิงสาวยิ่งทำให้ธมกานต์คึกครื้นมากที่สุดในชีวิต“บอกตรงๆนะ ตรีรินทร์ผมไม่เคยนึกสนุกมากยังงี้มาก่อนในชีวิต ขอบคุณมาก”ตรีรินทร์มองหน้าชายหนุ่มอย่างคาดไม่ถึง เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มธมกานต์อุ่นอาหารที่ให้คนไปซื้อมาพร้อมกับจัดโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว“ คุณคบกับแฟนมากี่ปีแล้วเนี่ยธมกานต์เอ่ยถาม แต่ตรีรินทร์กลับนั่งเฉย สีหน้าเรียบ“ว่าไง ได้ยินที่ผมถามหรือเปล่า”“ เจ็ดแปดปี แล้วมั้งฉันไม่แน่ใจ”“ คบกันนานไปไหมคุณ”“ พี่เค้าสอบนายสิบตำรวจ ฉันยังอยู่ประถมอยู่เลย”“ อืม รักกันยาวนานมากกกกกกกกกกกกกกก” ลากเสียงล้อเลียน“ ผมอยากให้กลับไ
ก็ผมบอกแล้วไงว่าเราต้องนอนด้วยกันผมสัญญาแล้วกันจะไม่ทำอะไรคุณถ้าคุณไม่ยินยอมโอเคไหมแต่ถ้าคุณยังพูดท่านั้นท่านี่ผมจะถือว่าคุณยั่วผม อ่อยผม”“ บ้า ประสาท ฉันเบื่อจะคุยกับคุณแล้วจะให้ฉันทำอะไร ทำยังไงก็บอกมาเลย”“ไปทานข้าวกันเถอะคุณทำใจให้สบายๆนึกว่ามาพักผ่อนแล้วเห็นผมเป็นเพื่อนคุณคนหนึ่งว่าไงตกลงไหม”“ ฉันมีทางเลือกทางอื่นไหมล่ะอยากให้ทำอะไรก็สั่งมาเลยดีกว่าฉันเบื่อจะทะเลาะกับคุณแล้วเพราะถึงเถียงยังไงก็ไม่เคยชนะคุณสักทีเพราะคุณมันใหญ่เหลือเกินนี่”ถ้อยคำจิกกัดของหญิงสาวยิ่งทำให้ธมกานต์คึกครื้นมากที่สุดในชีวิต“บอกตรงๆนะ ตรีรินทร์ผมไม่เคยนึกสนุกมากยังงี้มาก่อนในชีวิต ขอบคุณมาก”ตรีรินทร์มองหน้าชายหนุ่มอย่างคาดไม่ถึง เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มธมกานต์อุ่นอาหารที่ให้คนไปซื้อมาพร้อมกับจัดโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว“ คุณคบกับแฟนมากี่ปีแล้วเนี่ยธมกานต์เอ่ยถาม แต่ตรีรินทร์กลับนั่งเฉย สีหน้าเรียบ“ว่าไง ได้ยินที่ผมถามหรือเปล่า”“ เจ็ดแปดปี แล้วมั้งฉันไม่แน่ใจ”“ คบกันนานไปไหมคุณ”“ พี่เค้าสอบนายสิบตำรวจ ฉันยังอยู่ประถมอยู่เลย”“ อืม รักกันยาวนานมากกกกกกกกกกกกกกก” ลากเสียงล้อเลียน“ ผมอยากให้กลับไ
ขอให้เข้าใจที่ต้องทนฝืนอยู่ตอนนี้เพราะมันไม่มีทางเลือกเอากระเป๋าเงินมาคืนฉันสิฉันจะรีบกลับกรุงเทพฯทันที”ยิ่งหญิงสาวพูดยิ่งเหมือนไปตอกย้ำทำให้ธมกานต์อารมณ์ลุกโพลงด้วยความโกรธ“ แล้วนี่จะไปทานข้าวข้างนอกกันไหมเนี่ย เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ฉันตามอารมณ์คุณไม่ทันแล้วนะ”“ ไม่ไปแล้ว ไม่มีอารมณ์”“ แล้วใครบอกคุณว่าฉันผ่านสงครามมาแล้วหลายครั้งบ้าจริง”“ แฟนผู้หมวดคุณไง หึ เค้าว่าเค้าเป็นมากกว่าแฟนเป็นผัวคุณแล้วงั้นสิไม่นึกเลยว่าหน้าตาซื่อๆจะตีหน้าหลอกคนได้หน้าตาเฉย ทำเป็นเรียบร้อยต่อหน้าคุณแม่ นี่ถ้าแม่ผมรู้คงตกใจ”“ ไม่จริง พี่โตเค้าไม่ใช่คนแบบนั้นคุณใส่ร้ายเค้านะสิ”“ ใช่สิ ผมมันเป็นผู้ร้ายในสายตาคุณอยู่แล้วนี่ อยากคิดอะไรก็เชิญ”ธมกานต์ก้าวเข้ามาใกล้หญิงสาวทำให้ตรีรินทร์ขยับหนีจนร่างชนเข้ากับกำแพงหนา“ คุณจะทำอะไร บ้าไปแล้วเหรอ ไหนบอกว่าจะไม่ทำอะไรฉันไง”“ ก็ผมนึกว่าคุณเป็นสาวบริสุทธิ์ ตอนนี้รู้แล้วว่าผ่านอะไรๆ มาเยอะ อีกสักครั้งคงไม่สึกหรอผมให้คุณแสนหนึ่งเป็นไงนอนกับผมคืนเดียวดีกว่าทำงานตั้งเกือบครึ่งปีนะคุณ”ตรีรินทร์ตวัดมือกระทบใบหน้าชายหนุ่มอย่างแรงจนหน้าที่มีผิวสองสีแดงออกมาอย่างเห็นไ
“ ปล่อยฉันนะคนบ้า” ตรีรินทร์เริ่มข่วน เริ่มหยิกจนทำให้ธมกานต์จับมือไปไพล่ไว้ที่หลัง“ ทำเป็นดีดดิ้นเพื่อเพิ่มราคาหรือไงคุณ คุณนี่ยอมรับจริงๆว่าแสดงละครเก่งมากผมตบมือให้สิบครั้งเลย”“ พูดบ้าอะไรของคุณ ปล่อยฉันนะ ไม่ปล่อยใช่ไหม” ตรีรินทร์กระทืบเท้า“ โอ๊ย เด็กบ้า”ธมกานต์ปล่อยมือที่จับหญิงสาวเพราะแรงกระแทกบนเท้าที่แรงเต็มกำลังทำให้ชายหนุ่มแทบทรุด“ ฤทธิ์มากนักใช่ไหม” เมื่อตรีรินทร์ออกวิ่ง ธมกานต์ที่ไปทรุดนั่งก็คว้าข้อเท้าพร้อมกับลากหญิงสาวให้นอนไปกับพื้นพรมของห้องไปด้วยกัน“ มันส์จริงๆ ผมชอบ คืนนี้เท่าไหร่ผมก็สู้ เรียกมาได้เลยสาวน้อย”“ ไอ้บ้า ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะฉันจะไปแจ้งตำรวจคอยดู”“ ตามสบายข้อหาอะไรดี กักขัง หน่วงเหนี่ยวแม่คุณคงเป็นพยานให้ผมได้ว่าอนุญาตให้พาคุณมาเที่ยว”เสียงหัวเราะของธมกานต์ดังลั่นห้องตรีรินทร์ทั้งทุบ ทั้งข่วนชายหนุ่มจนธมกานต์รู้สึกเจ็บร้อนไปทั่วหน้าอกจนต้องจับมือหญิงสาวไปไขว้ไว้ก่อนจะกดริมฝีปากเพื่อปิดปากที่ขยันต่อปากต่อคำไม่ได้หยุดหญิงสาวพยายามหันหน้าหนีแต่ชายหนุ่มก็ไม่ลดละตามจูบด้วยประสบการณ์อันน้อยนิดของหญิงสาวเมื่อโดนจูบแรกในชีวิตก็ถึงกับตัวสั่นธมกานต์ไม
“ ยิ่งคุณขยะแขยงคุณก็จะได้เข้าใกล้แล้วมองหน้าผมไว้ดีๆคนนี้แหละคือสามีคุณในอนาคต”“ ไม่จริง ไม่ใช่ ได้โปรดเถอะนะคะคุณธมกานต์ ปล่อยฉันไปเถอะฉันไม่ใช่อย่างที่คุณชอบหรอก”“ รู้ได้ไงคุณมารู้ใจผมได้ไงผมไม่ชอบ ไม่งั้นผมไม่พาคุณมาไกลถึงหัวหินหรอก ตรีรินทร์”“นี่แหน่ะไม่ปล่อยใช่ไหม” ตรีรินทร์เริ่มจิกเริ่มกัดที่ต้นแขน“ โอ๊ยเด็กบ้านี่ ดีๆไม่ชอบ ชอบให้ใช้กำลังใช่ไหม”ธมกานต์มองหาสิ่งของตาไปเห็นเน็คไทที่วางไว้บนหัวเตียงเอื้อมไปหยิบแล้วเอามามัดมือหญิงสาวก่อนที่จะถอดเสื้อผ้าตัวเองอย่างรวดเร็ว“ คนบ้ามาผูกมือฉันไว้ทำไมปล่อยนะไอ้บ้า”“ พูดไม่เพราะต้องโดนจูบเรียกผัวในอนาคตเพราะๆหน่อยสิเรียกสิเรียกพี่กานต์ผมเป็นพี่คุณตั้งหลายปี”“ แล้วดูนี่หน้าอกผมแดงไปหมด ผมไม่อยากทำร้ายคุณหรอกนะตรีรินทร์แต่คุณเป็นคนทำให้ผมไม่มีทางเลือก”“ ฉันเกลียดคุณไอ้บ้า เกลียด เกลียด เกลียด” หญิงสาวตะเบ็งร้องออกมา“ แต่ผมชอบคุณชอบมากอย่างที่ไม่เคยชอบผู้หญิงคนไหนมาก่อนในชีวิต”ธมกานต์สัมผัสใบหน้าหญิงสาวก่อนจะฟิวส์ขาดเมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวตะโกนด่า“ ไอ้บ้ากาม ไอ้บ้าไอ้โรคจิตไอ้....เสียงขาดหายเพราะธมกานต์กดริมฝีปากจูบไซร์เข้าไป
รุ่งเช้ามืดวันต่อมา ตรีรินทร์มานั่งเหม่อมองท้องฟ้ายามรุ่งสางอยู่ร่วมชั่วโมงแล้วน้ำตาไหลพราก เสียดายความสาวที่พยายามรักษาเพื่อมอบให้กับคนที่รักในคืนแต่งงานตามที่ตั้งใจไว้แต่กลับมาโดนคนใจร้ายมาย่ำยีเพียงเพื่อความสะใจของตนเอง คิดได้ดังนั้นตรีรินทร์ก็ยิ่งเสียใจ คับแค้นใจจะหนีก็ไปไหนไม่ได้ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน เงินก็ไม่มี มือถือก็ถูกยึด น้ำตาไหลพรากด้วยความคับแค้นใจ ธมกานต์รู้สึกตัวตื่นก็พยายามจะคว้าร่างบางมากอดเหมือนที่กอดมาตลอดทั้งคืนแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่าชายหนุ่มพยายามมองหาร่างของหญิงสาวจนกระทั่งโล่งอกเมื่อเห็นร่างบางนั่งหันหลังหญิงสาวใส่เสื้อยืดสีขาวตัวเดิม ผมยาวสยายถึงบั้นเอวทำให้ความรู้สึกในตอนเช้าอ่อนหวานอย่างที่ชายหนุ่มไม่อาจบรรยายได้ ธมกานต์ ทำเสียงกระแอมก่อนพูดว่า “ ตื่นแต่เช้าเชียว หิวไหมคุณนอนหลับสบายหรือเปล่า” ตรีรินทร์รีบเช็ดน้ำตาไม่อยากให้ชายหนุ่มเห็นความอ่อนแอของตนเอง เงียบ ไม่มีเสียงตอบของหญิงสาว “ ผมไปหาอะไรมาให้คุณทานนะรอผมแป๊บเดียว” ธมกานต์ผลุนผลันออกไปเพื่อจะไปเตรียมอาหารมาเอาใจผู้ซึ่งเป็นภรรยาทางพฤตินัย ตรีรินทร์ร้องไห้โฮเมื่อลับร่างชายหนุ่มออก
ธมกานต์ผลักหญิงสาวเข้าห้องนอนตรีรินทร์พยายามสะบัดข้อมือแต่ไม่พ้นจึงทั้งเตะ ทั้งถีบธมกานต์หลบอย่างรู้ทันก่อนจะอุ้มหญิงสาวโยนลงบนเตียงก่อนที่จะเข้ามาทับร่างหญิงสาวเอาไว้ “ ออกไปนะไอ้บ้า แกจะทำอะไรฉัน” “ เรียกผัวให้ดีๆหน่อย ปากดีนักใช่ไหม” ธมกานต์กระแทกริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากบางอย่างรุนแรง ตรีรินทร์ดิ้นหนีขีดข่วนไปตามร่างกายของชายหนุ่ม “ ปล่อยนะปล่อย” “ ไม่ปล่อย คุณจะได้เลิกตะโกนใส่ผมว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน” “ ถึงคุณจะทำอะไรกับฉันอีกกี่ครั้งฉันก็ยืนยันคำเดิมว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน” ตรีรินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ธมกานต์ถอนหายใจพร้อมกับพูดว่า “ เมื่อไหร่จะเลิกดื้อนะผมมันน่ารังเกียจหรือไงคุณไม่รู้เหรอผมติดท๊อปหนุ่มที่สาวๆ อยากแต่งงานด้วยนะ” “ บอกแล้วไงไม่ใช่ฉัน” ร่างกายของหนุ่มสาวที่เสียดสีกันทำให้เกิดกระแสปรารถนาวูบวาบ เป็นสิ่งที่ตรีรินทร์เพิ่งเรียนรู้และรู้สึก ส่วนธมกานต์ความชอบหญิงสาวตรงหน้ากับความต้องการมันเอ่อล้นจนชายหนุ่มเองไม่อยากจะหยุดมัน “ผมจะคอยดูวันที่คุณบอกว่าชอบผม” น้ำเสียงหัวเราะอย่างมีชัยทำให้ตรีรินทร์ทั้งผลักไสหยิก ขีดข่วนจนธมกานต์จับมือไว้แนบข้
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้