ขอให้เข้าใจที่ต้องทนฝืนอยู่ตอนนี้เพราะมันไม่มีทางเลือกเอากระเป๋าเงินมาคืนฉันสิฉันจะรีบกลับกรุงเทพฯทันที
” ยิ่งหญิงสาวพูดยิ่งเหมือนไปตอกย้ำทำให้ธมกานต์อารมณ์ลุกโพลงด้วยความโกรธ “ แล้วนี่จะไปทานข้าวข้างนอกกันไหมเนี่ย เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ฉันตามอารมณ์คุณไม่ทันแล้วนะ” “ ไม่ไปแล้ว ไม่มีอารมณ์” “ แล้วใครบอกคุณว่าฉันผ่านสงครามมาแล้วหลายครั้งบ้าจริง” “ แฟนผู้หมวดคุณไง หึ เค้าว่าเค้าเป็นมากกว่าแฟนเป็นผัวคุณแล้วงั้นสิไม่นึกเลยว่าหน้าตาซื่อๆ จะตีหน้าหลอกคนได้หน้าตาเฉย ทำเป็นเรียบร้อยต่อหน้าคุณแม่ นี่ถ้าแม่ผมรู้คงตกใจ” “ ไม่จริง พี่โตเค้าไม่ใช่คนแบบนั้นคุณใส่ร้ายเค้านะสิ” “ ใช่สิ ผมมันเป็นผู้ร้ายในสายตาคุณอยู่แล้วนี่ อยากคิดอะไรก็เชิญ” ธมกานต์ก้าวเข้ามาใกล้หญิงสาวทำให้ตรีรินทร์ขยับหนีจนร่างชนเข้ากับกำแพงหนา “ คุณจะทำอะไร บ้าไปแล้วเหรอ ไหนบอกว่าจะไม่ทำอะไรฉันไง” “ ก็ผมนึกว่าคุณเป็นสาวบริสุทธิ์ ตอนนี้รู้แล้วว่าผ่านอะไรๆ มาเยอะ อีกสักครั้งคงไม่สึกหรอ ผมให้คุณแสนหนึ่งเป็นไงนอนกับผมคืนเดียวดีกว่าทำงานตั้งเกือบครึ่งปีนะคุณ” ตรีรินทร์ตวัดมือกระทบใบหน้าชายหนุ่มอย่างแรงจนหน้าที่มีผิวสองสีแดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด ตรีรินทร์น้ำตาคลอเบ้าด้วยความโกรธ “ นี่สำหรับที่คุณดูถูกฉันบอกไว้ก่อนนะคุณธมกานต์ต่อให้เหลือผู้ชายคนเดียวในโลกคือคุณ ฉันก็ไม่เอา ฉันไม่ชอบคุณ เกลียดคุณเข้าใจไหม ไม่รู้สึกหรือไงทำไมฉันถึงไม่เข้าใกล้คุณก็เพราะฉันไม่ชอบคุณ ถ้าไม่ต้องทำงานกับคุณอยากจะอยู่ให้ไกลที่สุด” “กล้ามากนะตรีรินทร์ นี่คุณตบหน้าผมไม่เคยมีใครทำกับผมแบบนี้พูดดีๆ ไม่ชอบใช่ไหม บอกไว้ก่อน คุณท้าทายผมเองและจำไว้ต่อจากนี้ยิ่งคุณอยากหนีคุณก็ยิ่งจะได้ใกล้ชิดผมจะตามคุณทุกฝีก้าวดูสิจะเกลียดกันได้ ตลอดไปจะได้รู้กัน” ธมกานต์ก้าวเข้ามาชิดจนใบหน้าแทบจะติดกันมือของชายหนุ่มจับที่ไหล่ของหญิงสาวที่แผ่นหลังติดกำแพง ต่างคนต่างได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน“ ปล่อยฉันนะคนบ้า” ตรีรินทร์เริ่มข่วน เริ่มหยิกจนทำให้ธมกานต์จับมือไปไพล่ไว้ที่หลัง“ ทำเป็นดีดดิ้นเพื่อเพิ่มราคาหรือไงคุณ คุณนี่ยอมรับจริงๆว่าแสดงละครเก่งมากผมตบมือให้สิบครั้งเลย”“ พูดบ้าอะไรของคุณ ปล่อยฉันนะ ไม่ปล่อยใช่ไหม” ตรีรินทร์กระทืบเท้า“ โอ๊ย เด็กบ้า”ธมกานต์ปล่อยมือที่จับหญิงสาวเพราะแรงกระแทกบนเท้าที่แรงเต็มกำลังทำให้ชายหนุ่มแทบทรุด“ ฤทธิ์มากนักใช่ไหม” เมื่อตรีรินทร์ออกวิ่ง ธมกานต์ที่ไปทรุดนั่งก็คว้าข้อเท้าพร้อมกับลากหญิงสาวให้นอนไปกับพื้นพรมของห้องไปด้วยกัน“ มันส์จริงๆ ผมชอบ คืนนี้เท่าไหร่ผมก็สู้ เรียกมาได้เลยสาวน้อย”“ ไอ้บ้า ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะฉันจะไปแจ้งตำรวจคอยดู”“ ตามสบายข้อหาอะไรดี กักขัง หน่วงเหนี่ยวแม่คุณคงเป็นพยานให้ผมได้ว่าอนุญาตให้พาคุณมาเที่ยว”เสียงหัวเราะของธมกานต์ดังลั่นห้องตรีรินทร์ทั้งทุบ ทั้งข่วนชายหนุ่มจนธมกานต์รู้สึกเจ็บร้อนไปทั่วหน้าอกจนต้องจับมือหญิงสาวไปไขว้ไว้ก่อนจะกดริมฝีปากเพื่อปิดปากที่ขยันต่อปากต่อคำไม่ได้หยุดหญิงสาวพยายามหันหน้าหนีแต่ชายหนุ่มก็ไม่ลดละตามจูบด้วยประสบการณ์อันน้อยนิดของหญิงสาวเมื่อโดนจูบแรกในชีวิตก็ถึงกับตัวสั่นธมกานต์ไม
“ ยิ่งคุณขยะแขยงคุณก็จะได้เข้าใกล้แล้วมองหน้าผมไว้ดีๆคนนี้แหละคือสามีคุณในอนาคต”“ ไม่จริง ไม่ใช่ ได้โปรดเถอะนะคะคุณธมกานต์ ปล่อยฉันไปเถอะฉันไม่ใช่อย่างที่คุณชอบหรอก”“ รู้ได้ไงคุณมารู้ใจผมได้ไงผมไม่ชอบ ไม่งั้นผมไม่พาคุณมาไกลถึงหัวหินหรอก ตรีรินทร์”“นี่แหน่ะไม่ปล่อยใช่ไหม” ตรีรินทร์เริ่มจิกเริ่มกัดที่ต้นแขน“ โอ๊ยเด็กบ้านี่ ดีๆไม่ชอบ ชอบให้ใช้กำลังใช่ไหม”ธมกานต์มองหาสิ่งของตาไปเห็นเน็คไทที่วางไว้บนหัวเตียงเอื้อมไปหยิบแล้วเอามามัดมือหญิงสาวก่อนที่จะถอดเสื้อผ้าตัวเองอย่างรวดเร็ว“ คนบ้ามาผูกมือฉันไว้ทำไมปล่อยนะไอ้บ้า”“ พูดไม่เพราะต้องโดนจูบเรียกผัวในอนาคตเพราะๆหน่อยสิเรียกสิเรียกพี่กานต์ผมเป็นพี่คุณตั้งหลายปี”“ แล้วดูนี่หน้าอกผมแดงไปหมด ผมไม่อยากทำร้ายคุณหรอกนะตรีรินทร์แต่คุณเป็นคนทำให้ผมไม่มีทางเลือก”“ ฉันเกลียดคุณไอ้บ้า เกลียด เกลียด เกลียด” หญิงสาวตะเบ็งร้องออกมา“ แต่ผมชอบคุณชอบมากอย่างที่ไม่เคยชอบผู้หญิงคนไหนมาก่อนในชีวิต”ธมกานต์สัมผัสใบหน้าหญิงสาวก่อนจะฟิวส์ขาดเมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวตะโกนด่า“ ไอ้บ้ากาม ไอ้บ้าไอ้โรคจิตไอ้....เสียงขาดหายเพราะธมกานต์กดริมฝีปากจูบไซร์เข้าไป
รุ่งเช้ามืดวันต่อมา ตรีรินทร์มานั่งเหม่อมองท้องฟ้ายามรุ่งสางอยู่ร่วมชั่วโมงแล้วน้ำตาไหลพราก เสียดายความสาวที่พยายามรักษาเพื่อมอบให้กับคนที่รักในคืนแต่งงานตามที่ตั้งใจไว้แต่กลับมาโดนคนใจร้ายมาย่ำยีเพียงเพื่อความสะใจของตนเอง คิดได้ดังนั้นตรีรินทร์ก็ยิ่งเสียใจ คับแค้นใจจะหนีก็ไปไหนไม่ได้ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน เงินก็ไม่มี มือถือก็ถูกยึด น้ำตาไหลพรากด้วยความคับแค้นใจ ธมกานต์รู้สึกตัวตื่นก็พยายามจะคว้าร่างบางมากอดเหมือนที่กอดมาตลอดทั้งคืนแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่าชายหนุ่มพยายามมองหาร่างของหญิงสาวจนกระทั่งโล่งอกเมื่อเห็นร่างบางนั่งหันหลังหญิงสาวใส่เสื้อยืดสีขาวตัวเดิม ผมยาวสยายถึงบั้นเอวทำให้ความรู้สึกในตอนเช้าอ่อนหวานอย่างที่ชายหนุ่มไม่อาจบรรยายได้ ธมกานต์ ทำเสียงกระแอมก่อนพูดว่า “ ตื่นแต่เช้าเชียว หิวไหมคุณนอนหลับสบายหรือเปล่า” ตรีรินทร์รีบเช็ดน้ำตาไม่อยากให้ชายหนุ่มเห็นความอ่อนแอของตนเอง เงียบ ไม่มีเสียงตอบของหญิงสาว “ ผมไปหาอะไรมาให้คุณทานนะรอผมแป๊บเดียว” ธมกานต์ผลุนผลันออกไปเพื่อจะไปเตรียมอาหารมาเอาใจผู้ซึ่งเป็นภรรยาทางพฤตินัย ตรีรินทร์ร้องไห้โฮเมื่อลับร่างชายหนุ่มออก
ธมกานต์ผลักหญิงสาวเข้าห้องนอนตรีรินทร์พยายามสะบัดข้อมือแต่ไม่พ้นจึงทั้งเตะ ทั้งถีบธมกานต์หลบอย่างรู้ทันก่อนจะอุ้มหญิงสาวโยนลงบนเตียงก่อนที่จะเข้ามาทับร่างหญิงสาวเอาไว้ “ ออกไปนะไอ้บ้า แกจะทำอะไรฉัน” “ เรียกผัวให้ดีๆหน่อย ปากดีนักใช่ไหม” ธมกานต์กระแทกริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากบางอย่างรุนแรง ตรีรินทร์ดิ้นหนีขีดข่วนไปตามร่างกายของชายหนุ่ม “ ปล่อยนะปล่อย” “ ไม่ปล่อย คุณจะได้เลิกตะโกนใส่ผมว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน” “ ถึงคุณจะทำอะไรกับฉันอีกกี่ครั้งฉันก็ยืนยันคำเดิมว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน” ตรีรินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ธมกานต์ถอนหายใจพร้อมกับพูดว่า “ เมื่อไหร่จะเลิกดื้อนะผมมันน่ารังเกียจหรือไงคุณไม่รู้เหรอผมติดท๊อปหนุ่มที่สาวๆ อยากแต่งงานด้วยนะ” “ บอกแล้วไงไม่ใช่ฉัน” ร่างกายของหนุ่มสาวที่เสียดสีกันทำให้เกิดกระแสปรารถนาวูบวาบ เป็นสิ่งที่ตรีรินทร์เพิ่งเรียนรู้และรู้สึก ส่วนธมกานต์ความชอบหญิงสาวตรงหน้ากับความต้องการมันเอ่อล้นจนชายหนุ่มเองไม่อยากจะหยุดมัน “ผมจะคอยดูวันที่คุณบอกว่าชอบผม” น้ำเสียงหัวเราะอย่างมีชัยทำให้ตรีรินทร์ทั้งผลักไสหยิก ขีดข่วนจนธมกานต์จับมือไว้แนบข้
“ กริ๊งกริ๊งกริ๊ง” ธมกานต์ก้มมองเบอร์เรียกเข้าแล้วอมยิ้มก่อนจะทำงานต่อปล่อยให้สายตัดไป “ อีตาบ้าทำไมไม่รับสายสักทีกวนประสาทไม่มีใครเกิน” ตรีรินทร์บ่นกับตัวเองในใจ “ กริ๊งๆ ๆ ๆ ” โทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มดังแล้วตัดสาย ไปเองสองครั้ง “ คนบ้าฉันรู้ว่าคุณแกล้งฉัน” ตรีรินทร์เริ่มหงุดหงิดและโมโหก่อนจะกดส่งข้อความว่า “ ถ้าคุณไม่รับสายฉันจะไม่โทรอีก” ธมกานต์ก้มลงอ่านข้อความแล้วอมยิ้มก่อนจะพูดว่า “ ขู่เสียด้วย” “ กริ๊ง..” “ ฮัลโหลธมกานต์พูด” “ กวนประสาท นี่คุณแกล้งไม่รับสายหรือไง คนบ้า” ตรีรินทร์ตะเบ็งเสียง “จุ๊ เบาๆ หน่อยคุณ แก้วหูผมจะแตก” “ บ้า คนบ้านี่คุณแกล้งไม่รับสายฉัน ปล่อยให้ฉันกดตั้งหลายครั้ง” “ รู้แล้วใช่ไหมเวลาโทรไปแล้วเค้าไม่รับสายมันหงุดหงิดยังไงผมก็รู้สึกแบบเดียวนี้กับคุณแหละแต่มากกว่า ผมโทรหาคุณเป็นร้อยหนคุณยังไม่รับเลยทีตัวเองโดนบ้างทำเป็นบ่น” ตรีรินทร์ถอนหายใจเฮือกก่อนจะพูดว่า” คุณจะเอาไง” “ เรื่องอะไรล่ะ” “ จะให้ฉันไปจบงาน คุณได้เมื่อไหร่” “ เดี๋ยวก่อนผมยังโกรธอยู่นะที่คุณให้คนอื่นมาทำงานของผมแต่เดี๋ยวเจอกันค่อยคุยกันดีกว่า” “ ถ้าไม่ให้
“ กริ๊งกริ๊งกริ๊ง” ธมกานต์ก้มมองเบอร์เรียกเข้าแล้วอมยิ้มก่อนจะทำงานต่อปล่อยให้สายตัดไป “ อีตาบ้าทำไมไม่รับสายสักทีกวนประสาทไม่มีใครเกิน” ตรีรินทร์บ่นกับตัวเองในใจ “ กริ๊งๆ ๆ ๆ ” โทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มดังแล้วตัดสาย ไปเองสองครั้ง “ คนบ้าฉันรู้ว่าคุณแกล้งฉัน” ตรีรินทร์เริ่มหงุดหงิดและโมโหก่อนจะกดส่งข้อความว่า “ ถ้าคุณไม่รับสายฉันจะไม่โทรอีก” ธมกานต์ก้มลงอ่านข้อความแล้วอมยิ้มก่อนจะพูดว่า “ ขู่เสียด้วย” “ กริ๊ง..” “ ฮัลโหลธมกานต์พูด” “ กวนประสาท นี่คุณแกล้งไม่รับสายหรือไง คนบ้า” ตรีรินทร์ตะเบ็งเสียง “จุ๊ เบาๆ หน่อยคุณ แก้วหูผมจะแตก” “ บ้า คนบ้านี่คุณแกล้งไม่รับสายฉัน ปล่อยให้ฉันกดตั้งหลายครั้ง” “ รู้แล้วใช่ไหมเวลาโทรไปแล้วเค้าไม่รับสายมันหงุดหงิดยังไงผมก็รู้สึกแบบเดียวนี้กับคุณแหละแต่มากกว่า ผมโทรหาคุณเป็นร้อยหนคุณยังไม่รับเลยทีตัวเองโดนบ้างทำเป็นบ่น” ตรีรินทร์ถอนหายใจเฮือกก่อนจะพูดว่า” คุณจะเอาไง” “ เรื่องอะไรล่ะ” “ จะให้ฉันไปจบงาน คุณได้เมื่อไหร่” “ เดี๋ยวก่อนผมยังโกรธอยู่นะที่คุณให้คนอื่นมาทำงานของผมแต่เดี๋ยวเจอกันค่อยคุยกันดีกว่า” “ ถ้าไม่ให้
ไปห้องน้ำฉันปวดฉี่ได้ไหม ไปได้ไหม” ตรีรินทร์กระแทกเสียงด้วยความหงุดหงิด “ ไม่ต้องเอากระเป๋าไปไว้ใจคุณไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำก็ไปแต่ตัว ผมไม่ไว้ใจคุณ” ‘ อีตาบ้านี่รู้ทันไปหมดทุกเรื่อง’ จริงๆแล้วตรีรินทร์มีความตั้งใจว่าทำธุระเสร็จจะหนีออกทางหลังครัวเหมือนกัน ‘วันนี้คงต้องยอมเค้าไปก่อนละมั้ง’ ตรีรินทร์คิดอย่างวุ่นวายใจ พร้อมกับเดินไปที่ห้องน้ำของร้านอาหาร ตรีรินทร์ยืนครุ่นคิดอยู่ มุมเสาหน้าห้องน้ำอย่างว้าวุ่น ‘ถ้าหนีกลับไปตอนนี้เงินก็ไม่มีสักบาทกุญแจบ้านก็ไม่มีแถมแม่ก็ไม่อยู่บ้านอีก เฮ้อ ทำไงดีหรือจะขอไปนอนบ้านยัยอรเพื่อนรักดี แต่ถ้าไปอีตานี่ ต้องไปอาละวาดคุณพงค์อีกแน่ๆทำไงดีล่ะ เราจะทำยังไงดี’ ตรีรินทร์คิดในใจอย่างวุ่นวายใจก่อนจะสะดุ้ง เมื่อมีมือมาจับที่ต้นแขน “ มายืนอะไรตรงนี้คุณ ผมเกือบจะเข้าไปตามในห้องน้ำแล้วนะคิดหนีผมหรือไงบอกแล้วไม่มีทาง” ตรีรินทร์ค้อนชายหนุ่มก่อนจะพูดว่า “ใครบอกว่าฉันจะหนีคุณหาเรื่อง”แต่ในใจพูดว่า “ อีตาบ้านี่รู้ทันไปซะทุกเรื่องฉันจะทำยังไงกับคุณดีเนี่ย” “ กลับกันเถอะดึกมากแล้ว วันนี้ผมเพลียจังเครียดเรื่องคุณมาหลายวันตั้งแต่กลับจากหัวหินผ
ตรีรินทร์หันหน้ามาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มก่อนจะพูดน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายว่า “ นี่คุณหยุดรังควานฉันสักทีได้ไหม ขอฉันอยู่อย่างสงบตามลำพังสักพักได้ไหมวันนี้ไม่มีอารมณ์มาทะเลาะกับคุณนะขอบอก” ธมกานต์พึ่งสังเกตุว่าหญิงสาวหน้าซีด “ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าหน้าซีดๆ” “ ฉันไม่เป็นไร แต่วันนี้ขอตัวนะคุณไม่อยากทะเลาะด้วย ฉันขอตัวเข้าบ้านก่อน” ตรีรินทร์หมุนตัวจะกลับเข้าไปในบ้าน “ยังไปไหนไม่ได้ เรายังคุยกันไม่จบ” ธมกานต์กระชากไหล่บางแต่ต้องตกใจเมื่อสัมผัสกับความร้อนผ่าวของร่างกาย “ คุณเป็นอะไรเนี่ยตัวร้อนจัง” ธมกานต์จับเนื้อตัวมือแตะหน้าผากพร้อมกับสบถเบาๆ “ ไม่สบายแล้วยังทำเป็นเก่งอีก ไป ไปกับผม” ธมกานต์จับมือลากแต่หญิงสาวขืนตัวไว้ด้วยแรงที่เหลือน้อยนิด “ ไม่ไป ฉันจะเข้าบ้าน นี่คุณฉันไม่มีแรงจะทะเลาะด้วยหรอกนะวันนี้ฉันเหนื่อย” “ใครจะทะเลาะกับคุณ ไป ไปที่บ้านจะพาไปรักษา” “ ไม่ต้องเดี๋ยวกินยาอีกสักชุดก็หาย ขอร้องล่ะคุณกลับไปก่อนนะแล้ววันหลังเราค่อยทะเลาะกันใหม่” “ดื้อจริง มานี่” ธมกานต์อุ้มหญิงสาวขึ้นพร้อมกับตะโกนเรียก “เข้ม เปิดประตู” “ครับ” นายเข้มคนสนิทเมื่อเห็นเจ
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้