ไปห้องน้ำฉันปวดฉี่ได้ไหม ไปได้ไหม” ตรีรินทร์กระแทกเสียงด้วยความหงุดหงิด
“ ไม่ต้องเอากระเป๋าไปไว้ใจคุณไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำก็ไปแต่ตัว ผมไม่ไว้ใจคุณ” ‘ อีตาบ้านี่รู้ทันไปหมดทุกเรื่อง’ จริงๆแล้วตรีรินทร์มีความตั้งใจว่าทำธุระเสร็จจะหนีออกทางหลังครัวเหมือนกัน ‘วันนี้คงต้องยอมเค้าไปก่อนละมั้ง’ ตรีรินทร์คิดอย่างวุ่นวายใจ พร้อมกับเดินไปที่ห้องน้ำของร้านอาหาร ตรีรินทร์ยืนครุ่นคิดอยู่ มุมเสาหน้าห้องน้ำอย่างว้าวุ่น ‘ถ้าหนีกลับไปตอนนี้เงินก็ไม่มีสักบาทกุญแจบ้านก็ไม่มีแถมแม่ก็ไม่อยู่บ้านอีก เฮ้อ ทำไงดีหรือจะขอไปนอนบ้านยัยอรเพื่อนรักดี แต่ถ้าไปอีตานี่ ต้องไปอาละวาดคุณพงค์อีกแน่ๆทำไงดีล่ะ เราจะทำยังไงดี’ ตรีรินทร์คิดในใจอย่างวุ่นวายใจก่อนจะสะดุ้ง เมื่อมีมือมาจับที่ต้นแขน “ มายืนอะไรตรงนี้คุณ ผมเกือบจะเข้าไปตามในห้องน้ำแล้วนะคิดหนีผมหรือไงบอกแล้วไม่มีทาง” ตรีรินทร์ค้อนชายหนุ่มก่อนจะพูดว่า “ใครบอกว่าฉันจะหนีคุณหาเรื่อง” แต่ในใจพูดว่า “ อีตาบ้านี่รู้ทันไปซะทุกเรื่องฉันจะทำยังไงกับคุณดีเนี่ย” “ กลับกันเถอะดึกมากแล้ว วันนี้ผมเพลียจังเครียดเรื่องคุณมาหลายวันตั้งแต่กลับจากหัวหินผมนอนไม่หลับสักกะคืนคิดถึงแต่คุณ” ธมกานต์กระซิบข้างหูตรีรินทร์หญิงสาวหันไปหยิกชายหนุ่มจนธมกานต์ร้อง “ โอ๊ยทำร้ายร่างกาย” พลางถูแขนไปมาเพื่อลดความแสบร้อน ระหว่างเดินออกจากร้านก็เดินสวนกับสาวสวยผมสีทองเปรี้ยวก่อนที่ตรีรินทร์จะตะลึงเมื่อสาวผมทองนุ่งกระโปรงสั้นแค่คืบ ร้องกริ๊ดๆๆ “ พี่กานต์พี่กานต์จริงๆด้วย จำวีวี้ ได้ไหมคะเพื่อนยัย จีจี้ไงคะ” ธมกานต์ขมวดคิ้วก่อนจะตอบว่า “ ขอโทษครับผมจำคุณไม่ได้จริงๆ” ธมกานต์ตอบพร้อมกับจับมือหญิงสาวข้างตัวไว้แน่น “ แหม วีวี้ น้อยใจนะเนี่ยวีวี้ยังเคยไปบ้านพิพัฒนพงค์ ตอนงานวัดเกิดพี่กานต์เลย” “ขอโทษครับผมแก่แล้วมั้งจำไม่ได้จริงๆ อีกอย่างงานเลี้ยงคนมันเยอะ” “ยัยจีจี้ไม่มาด้วยเหรอคะ” ธมกานต์ขมวดคิ้วก่อนจะตอบว่า “ไม่มาหรอกครับ” “ เอ ว่าแต่พี่กานต์จะไม่แนะนำเพื่อนสาวหน่อยหรือคะ” “ ขอโทษครับ ลืมไปคนนี้ ตรีรินทร์ มนัสสุกานต์ เป็น..” ตรีรินทร์รีบตอบแทนก่อนที่ธมกานต์จะบอกสถานะของเธอว่า “ดิฉันเป็นมัณฑนากรของบ้านคุณธมกานต์ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก” พูดจบตรีรินทร์ใจเต้นรัวหันมาสบตาเห็นแววตาตัดพ้อแกมต่อว่าแต่เมินหลบก่อนจะตกใจเมื่อธมกานต์รวบเอวเข้ามาชิดก่อนจะพูดว่า “ยังไง ผมขอตัวก่อนนะครับมีเรื่องจัดการกับว่าที่คู่หมั้นครับ” วีเวียน หว่างหรือ วีวี้นางแบบเซ็กซี่เพื่อนสาวคนสนิทของจามิกา ตาโตก่อนจะมองร่างชายหนุ่ม หญิงสาวที่มองดูเหมือนชายหนุ่มทั้งลาก ทั้งจูงหญิงสาว “ นี่คุณเป็นบ้าหรือเปล่าใครให้คุณไปแนะนำฉันว่าเป็นคู่หมั้นดื่มไวน์ไปแก้วเดียวถึงกับประสาทไปเลยหรือไง ห๊า” เสียงตะโกนโวยวายของตรีรินทร์ทำให้ธมกานต์อมยิ้มบอกไม่ถูกว่าทำไมต้องเจ็บจิ๊ดเมื่อตรีรินทร์แนะนำตัวเองว่า เป็นมัณฑนากร “ ไวน์แก้วเดียวทำอะไรผมไม่ได้อยู่แล้ว ก็ผมบอกความจริงคุณต่างหากที่โกหกไอ้สองสามวันที่หัวหินนะ มันไม่ทำให้คุณคิดอะไรออกหรือไง” “ มันคือความผิดพลาดเข้าใจไหมและฉันก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก” ธมกานต์รู้สึกเหมือนมีดมาทิ่มกลางใจ เจ็บจี๊ดในท่าทางที่ไม่แคร์กับสิ่งที่เกิดขึ้นโทสะปะทุเดือดก่อนจะผลักหญิงสาวขึ้นไปนั่งที่รถพร้อมกับไปนั่งที่ประจำคนขับปิดประตูดังเหมือนจะระบายอารมณ์ก่อนจะกระชากรถออกไป “มันอาจเป็นความผิดพลาดในความคิดคุณ สำหรับผมมันคือความตั้งใจ” ตรีรินทร์กัดปากด้วยความโกรธแค้นน้ำตาคลอ “เตรียมตัวไว้เลยตรีรินทร์ ผมไม่จบแค่นี้แน่เตรียมตัวมาเป็นตรีรินทร์ พิพัฒนพงค์ได้เลย” “ ฝันไปเถอะตอนนี้คุณอาจบังคับฉันได้แต่ฉันยอมแค่งานนี้ บังคับมากๆฉันก็ลาออกไปหางานใหม่ก็แค่นั้น ไม่มีวันที่ฉันจะแต่งงานกับคุณ” “ ก็คอยดูกันไปผมไม่หยุดแค่นี้แน่” ธมกานต์ตะคอกกลับ วิเวียน หว่างหรือวีวี้ ในวงการนางแบบเซ็กซี่รีบกดโทรศัพท์ถึงเพื่อนรัก “ ฮัลโหล จีจี้พูด” แล้ววิเวียนก็บรรยายภาพที่เห็นเป็นฉากๆก่อนจะอุดหูเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดของเพื่อน “ขอบใจแกมากที่โทรมาบอก ฉันจะโทรไปจัดการเดี๋ยวนี้ล่ะ” จามิกาตาลุกโพลงด้วยความหึงหวงก่อนจะกดโทรศัพท์หาชายหนุ่มที่ตนหมายปองมาหลายปี กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง กริ๊งเสียงโทรศัพท์ดังแล้วตัดอยู่หลายครั้ง จนตรีรินทร์หันไปมองหน้าคนขับที่ยังหน้าบึ้ง “ รับโทรศัพท์สิคะทำไมไม่รับ” ธมกานต์รู้ตั้งแต่กริ๊งแรกว่าเป็นจามิกาคู่ควงสาวสงสัยเพื่อนสาวตัวดีคงรายงานจึงรีบโทรมาจิกธมกานต์เบื่อที่จะรับ “รับสิคะ คนปลายสายเค้ารอ” ตรีรินทร์กดรับพร้อมส่งโทรศัพท์ให้ชายหนุ่ม.ธมกานต์รับมาด้วยใบหน้าหงุดหงิดก่อนจะพูดว่า “ว่าไงจีจี้ คุณมีธุระอะไร”น้ำเสียงเหนื่อยหน่ายทำเอาจามิกาเจ็บจี๊ด ก่อนจะพูดว่า “กานต์อยู่ไหนคะจี้จะไปหา มีธุระสำคัญจะพูดด้วย” “ผมไม่ว่างไว้คุยกันวันหลัง” จามิกาแทบกรี๊ดแสดงว่าที่ยัยวิเวียนพูดคือเรื่องจริง ก่อนจะสะกดใจแล้วพูดว่า “ จี้ไปคุยด้วยเดี๋ยวเดียวนะคะ กานต์” “ พูดไม่รู้เรื่องหรือไงผมไม่ว่าง แค่นี้นะ” ธมกานต์กดปิดโทรศัพท์จามิการ้องกรี๊ด กรี๊ดลั่นคอนโด “ คอยดูนะใครมาแย่งฉัน ฉันเฝ้าของฉันมาตั้งหลายปีฉันต้องรู้ให้ได้นังนั่นเป็นใคร” จามิกาตาลุกวาวด้วยความหึงหวง ตรีรินทร์แอบได้ยินคำสนทนานึกไปถึงอ้อมใจเพื่อนสาวคงโดนแบบนี้มาเหมือนกันถึงตรอมใจจนกินยาตายนึกถึงตอนนี้ยิ่งเกลียดและกลัวชายหนุ่มเป็นทวีคูณ ตรีรินทร์กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดก็ต้องตกใจเมื่อมือถือของตัวเองดัง ธมกานต์หันมามองอย่างไม่ชอบใจหงุดหงิด “ รินทร์พูดค่ะ” “ พี่เองนะจ๊ะ รินทร์เป็นไงบ้างพี่คิดถึงรินทร์มากนะเค้าทำอะไรรินทร์ไหม พี่มีเรื่องจะขอโทษรินทร์ รินทร์มาเจอพี่ได้ไหม” “ ได้ค่ะพี่โตว่างเมื่อไหร่ แมสเสจมาบอกแล้วกันนะคะ” “ตอนนี้พี่มาปัตตานีมาราชการจ๊ะคงกลับวันเสาร์ วันอาทิตย์เราเจอกัน นะรินทร์นะเดี๋ยวพี่ไปรับที่บ้าน” “ พี่โตระวังตัวด้วยนะรินทร์เป็นห่วง” ตรีรินทร์เป็นห่วงโตมรในฐานะคนที่เคยใกล้ชิดกันมาหลายปีแต่หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าทำให้ชาย หนุ่มข้างตัวเจ็บปวดกับถ้อยคำของตัวเองแค่ไหน ธมกานต์ทนไม่ไหวกระชากโทรศัพท์พร้อมกับกดตัดสายพร้อมกับโยนไปเบาะหลังอย่างไม่แยแส “ผมไม่ชอบให้ผู้หญิงของผมพูดกับใครต่อหน้าผม ทีหลังอย่าทำอีก”น้ำเสียงเข้ม “ นี่คุณไม่มีมารยาทสิทธิส่วนบุคคลไม่รู้จักหรือไง” “รู้แต่ไม่อยากทำ ผมไม่ชอบให้คุณคุยกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าผม อย่าทำอีกผมไม่ชอบ” “ช่างหัวคุณประไร คราวหน้าฉันจะทำอีกยิ่งคุณห้ามฉันจะทำ”ตรีรินทร์หน้างอ ธมกานต์จอดรถใต้คอนโดหรูก่อนจะเปิดประตูพร้อมกับลงมาเปิดประตูให้หญิงสาว “ ลงมาสิหรือเดินไม่ได้ต้องให้อุ้ม” “ ไม่ต้อง” เสียงตะคอกกลับทำเอาธมกานต์ ยิ้ม พร้อมกับนึกในใจ ‘ จะพยศไปถึงไหนเนี่ย’ ธมกานต์รู้สึกหงุดหงิดกับท่าทางหวาดระแวง ของหญิงสาวจึงพูดว่า “ คุณเข้าไปอาบน้ำก่อนได้ ชุดนอนผมให้คนเตรียมไว้ให้ในตู้เลือกใช้ได้ตามสบาย” ธมกานต์พูดเสร็จก็เดินไปนั่งโซฟาพร้อมกับเปิดกีฬาดู ตรีรินทร์เดินเข้าห้องน้ำพร้อมกับครุ่นคิดอย่างว้าวุ่น “ นี่เราจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วเราจะทำยังไงกับชีวิตเรานี่ถ้าแม่รู้คงเสียใจมาก” คิดไปถึงตรงนี้ตรีรินทร์ก็ร้องไห้อย่างอัดอั้นตันใจ หลังจากตรีรินทร์อาบน้ำเสร็จ ก็เดินเลี่ยงไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง “ นี่คุณไม่ต้องกลัวผมขนาดนั้นก็ได้ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกนะคืนนี้ผมเหนื่อยและเพลียมากไม่มีแรงจะทำอะไรคุณหรอก พรุ่งนี้เช้าผมมีประชุมผู้ถือหุ้นสำคัญแต่เช้า” ธมกานต์เดินเข้าห้องน้ำหลังจากพูดเสร็จตรีรินทร์แอบลอบถอนใจ ตรีรินทร์นอนเอนอยู่ที่ระเบียงก่อนจะเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ธมกานต์อาบน้ำเสร็จก็เดินมาสมทบหญิงสาว เมื่อเห็นหญิงสาวนอนหลับตาพริ้มก็ ยิ้มพร้อมกับก้าวเข้าไปนั่งข้างๆ เขี่ยไรผมหญิงสาวพร้อมกับโน้มตัวลงไปหอมที่หน้าผากปลายจมูกโด่งรั้นและริมฝีปากบางเบา ตรีรินทร์เอามือปัดพร้อมกับครางด้วยความรำคาญ “ อืม” ธมกานต์อุ้มตรีรินทร์มาวางไว้บนเตียงด้วยความทะนุถนอมพร้อมกับนอนข้างๆและตะแคงกอดหญิงสาวให้อยู่ในอ้อมกอด เช้ามืดตรีรินทร์รู้สึกเหมือนมีมือมาลูบไล้ทั้งแผ่นหลัง และบั้นท้ายสวย เบาๆ หญิงสาวรู้สึกตัว ก็ดิ้นเล็กน้อย แต่ยิ่งดิ้นก็เหมือนมีมือมาฉุดรั้งให้เข้าไปใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น จนรู้สึกแผ่นหลังของตนเองแนบชิดกับหน้าอกของชายหนุ่มแบบเนื้อแนบเนื้อ “ อย่านะไหนบอกว่าจะไม่ยุ่งไงค่ะเหนื่อยเพลียไม่ใช่เหรอ” ธมกานต์ ความต้องการพลุ่งพล่านชายหนุ่มทั้งจูบที่แก้ม ลูบไล้ไปมาอย่างต้องการปลุกเร้าอารมณ์ก่อนจะพูดว่า “ เมื่อคืนต่างหากที่เหนื่อยตอนนี้อยากทำแบบนี้” ธมกานต์พลิกหญิงสาวพร้อมกับดึงชุดนอนออกท่ามกลางเสียงหวีดร้องของหญิงสาว ธมกานต์กดริมฝีปากพร้อมกับบดจูบอย่างดูดดื่มตรีรินทร์รู้สึกหน้าร้อนเมื่อสัมผัสว่า.ชายหนุ่มไม่ได้สวมเสื้อผ้าสักชิ้นมือเรียวหนาเริ่มนวดเฟ้นหน้าอกสวยอย่างต้องการปลุกเร้าอารมณ์ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนริมฝีปาก สัมผัสกับเม็ดทับทิมสวย ริมฝีปากหนาปลุกเร้าด้วยการดูดกลืนเม็ดทับทิมสวย อย่างหนักหน่วง จนตรีรินทร์ครางออกมา พร้อมบิดร่างกายด้วยความเสียวสะท้าน ริมฝีปากของชายหนุ่มจูบ ไล้ไปทั่วเรือนร่าง ก่อนจะมาหยุดที่นวลเนื้อสาว ตรีรินทร์แทบหยุดหายใจเมื่อชายหนุ่มเริ่มใช้ริมฝีปากซุกไซ้ซอกซอน หญิงสาวจิกเล็บที่หลังของชายหนุ่มด้วยความเสียวซ่าน แล้วเมื่ออาวุธแปลกปลอมประสานกับนวลเนื้อสาว ยิ่งทำให้เหมือนโลกทั้งโลกแทบหยุดหมุน ก่อนที่ชายหนุ่มจะทั้งสอดใส่ประสานกันเป็นหนึ่งเดียวกัน เสียงกรีดร้องครวญครางของตรีรินทร์ทำให้ธมกานต์แอบยิ้มภูมิใจที่ทำให้ หญิงสาวมีความสุขได้ ชายหนุ่มกอดกระชับร่างบอบเบาเข้ามาในอ้อมกอดแน่น พายุรักโหมกระหน่ำจบลงตรีรินทร์ได้ยินเสียงกรนเล็กๆเมื่อชายหนุ่มหลับไปอีกครั้งหลังเสร็จภารกิจรัก ตรีรินทร์เข้าไปนอนอาบน้ำแช่ในอ่างพร้อมกับทั้งถูทั้งขัดจนต้นแขนขาวแดงจนเห็นได้ชัดตรีรินทร์ร้องไห้ที่ตนพ่ายแพ้กับความต้องการทางธรรมชาติ ก่อนจะหลับตานอนแช่น้ำอุ่นแต่ก็ตกใจเมื่อได้ยินเหมือนเสียงน้ำกระเพื่อมก่อนจะถูกคว้าตัวเข้าไปหา “ หนีผมมาทำไม ปล่อยให้ผมนอนหนาวอยู่คนเดียว” “ ฉันก็แค่อยากอาบน้ำล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย” ตรีรินทร์กล่าวย้ำคำว่า “สกปรก” ทำให้ธมกานต์นึกฉุน “ ถ้าคุณจะล้างสิ่งสกปรกและไอ้สิ่งสกปรกที่คุณว่าเนี่ยคงต้องล้างบ่อยๆแล้วล่ะ” “ บ้านี่คุณจะหื่นไปถึงไหนเนี่ย” ตริรินทร์กล่าวพร้อมกับผลักไส มือชายหนุ่มที่พัวพันกับร่างกายของตนยิ่งกว่าปลาหมึกยักษ์ “ คุณนี่มันเป็นแม่มดร้ายจริงๆ” พร้อมกับอุ้มหญิงสาวให้มานอนพิงกับบ่ากว้าง ธมกานต์รู้สึกถึงความต้องการของตนเองที่รุนแรงทุกครั้งที่อยู่ใกล้หญิงสาวก่อนที่จะปล่อยมือที่กดมือหญิงสาวไว้พร้อมกับอุ้มหญิงสาวให้มาเผชิญหน้าตรีรินทร์ตัวร้อนผ่าว “ รินทร์คุณสวยไปทั้งตัวน่ารักที่สุดให้ผมรักคุณนะที่นี่นะ” ธมกานต์ซบหน้ากับซอกคอขาวอย่างสั่นพร่าชายหนุ่มจูบระที่ไหล่สวย ริมฝีปากของชายหนุ่มจูบไซร์ข้างแก้มอย่างลุ่มหลง ธมกานต์ทั้งจูบที่ติ่งหูสะอาด ทำให้กอหญ้ารู้สึกเสียวสะท้าน หญิงสาวกัดริมฝีปากเมื่อความรู้สึกทางเพศถูกปลุกให้ลุกโชนก่อนที่ สงครามรักย่อมๆ จะเกิดขึ้นในห้องน้ำอย่างเร่าร้อนรุนแรง กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็ปาไปร่วมชั่วโมงกว่า ... ธมกานต์อุ้มหญิงสาวมานอนราบที่พรมพร้อมกับเช็ดตัวก่อนจะอุ้มหญิงสาวให้นอนบนเตียงก่อนจะเข้าไปสวมกอดแนบแน่นอย่างแสนหวง ธมกานต์เงยหน้ามองนาฬิกาก่อนจะแต่งตัวเพื่อจะไปประชุมสำคัญมองร่างหญิงสาวที่นอนเปลือยเปล่าอย่างแสนรัก ชายหนุ่มจูบไหล่ขาวและหน้าผากหญิงสาวก่อนจะเขียนโน้ตไว้ที่หัวเตียง “ อรุณสวัสดิ์จ๊ะรินทร์ผมรีบไปประชุมด่วนอย่าพึ่งรีบกลับนะครับ เดี๋ยวประชุมเสร็จผมจะมารับไปทานข้าวเที่ยงคิดถึงคุณตลอดเวลา ธมกานต์ พิพัฒนพงค์” ธมกานต์ มองหญิงสาวที่ตนเองตกหลุมรักเข้าอย่างเต็มเปาอย่างเสียดาย “ถ้าไม่ใช่ประชุมสำคัญคงได้เบี้ยวงานกันล่ะคราวนี้” ธมกานต์คิดอย่างขำๆที่รู้สึกไม่อยากจากหญิงสาวแม้เสี้ยวนาที ธมกานต์ประชุมอย่างเคร่งเครียดแต่อีกใจก็อดห่วงหญิงสาวไม่ได้ แต่พยายามสลัดภาพหญิงสาวที่นอนเปลือย อยู่ที่คอนโดของตนก่อนจะพยายามเรียกสมาธิกลับมาทำงานต่อ ตรีรินทร์ขยับตัวที่ดูเมื่อยล้าอ่อนเพลีย ก่อนจะลุกขึ้นนั่งหันไปเห็นโน้ตที่ชายหนุ่มเขียนเอาไว้ “ ฝันไปเถอะที่ฉันจะรอคุณ ลาก่อนคุณธมกานต์” ตรีรินทร์พยายามสลัดความอ่อนเพลียเมื่อยล้าก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำอีกหน แต่งตัวไปทำงานทันที “ยัยรินทร์เป็นอะไรหน้าซีดเป็นกระดาษเชียว” สุดาทักเมื่อเห็นหญิงสาวรุ่นน้องนั่งทำงานพร้อมกับดมยาดม “ปวดหัวนิดหน่อยค่ะสักพักคงดีขึ้น” ตรีรินทร์ดมยาดมพร้อมกับหลับตา. “ นี่ พี่มียาเอายาไปกินแล้วไปนอนพักห้องพยาบาลสักชั่วโมง ตื่นมาจะได้ดีขึ้นเดี๋ยวก็เป็นลมหรอก” “ขอบคุณค่ะ” ตรีรินทร์รับยามากินพร้อมกับเดินตามรุ่นพี่ไปห้องพยาบาลอย่างว่าง่าย” อยุธยา “ คุณมณีจันทร์คุณแน่ใจหรือครับว่าจะเข้มแข็งพอจะรับฟังผลการตรวจได้จริงๆหมออยากคุยกับคนใกล้ชิดมากกว่า แต่หมออ่านประวัติคุณเคยเป็นพยาบาลมาก่อน หมอเลยอยากถามความสมัครใจของคุณก่อน” นายแพทย์ใหญ่กล่าว “ ดิฉันเข้มแข็งพอค่ะบอกความจริงมาเถอะค่ะดิฉันรับได้” นายแพทย์ใหญ่มองคนไข้พร้อมกับเพื่อนสนิทอย่างแน่วแน่ก่อนจะบอกว่า “คุณสองคนเคยเป็นพยาบาลมาก่อนคงทราบดีว่าโรคบางโรคถ้ามีกำลังใจจะสามารถรักษาได้ดีกว่ายาชนิดใดในโลก ดังนั้นหมออยากให้คุณตั้งรับมีสติและฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ ผลการตรวจชิ้นเนื้อ ปรากฏว่าคุณเป็นมะเร็งลำไส้ปลายระยะสองเข้าระยะสามค่อนข้างเสี่ยง เร็วๆนี้ เราจะต้องผ่าตัดส่วนที่ลุกลามทิ้งแต่ไม่เป็นอันตรายเราจะรักษาเป็นระยะๆระยะต่อไปอาจต้องทำเคมีบำบัดต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมผมเชื่อว่าพยาบาลแบบคุณต้องรู้ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร” นายแพทย์ใหญ่บีบไหล่ อย่างให้กำลังใจ แม่แก้วโผเข้ากอดคุณหญิงมณีจันทร์ร้องไห้ “ โถ จันทร์ทำไมถึงโชคร้ายแบบนี้จันทร์แน่ใจเหรอจะไม่บอกตากานต์น่าจะบอกให้ลูกรู้นะ” “ ไม่ได้ ไม่ได้บอกไม่ได้เด็ดขาดกานต์รู้ไม่ได้ถ้ารู้ลูกจะกังวลไปกับเรา แค่อยู่อย่างไม่มีพ่อมาสิบกว่าปี แค่นี้กานต์ก็รวดร้าวพอแล้วเชื่อไหม แก้วตั้งแต่ท่านนายพลไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยจนไม่ค่อยกลับบ้าน ตั้งแต่เก้าขวบฉันแทบจะไม่เห็นรอยยิ้มของกานต์อีกเลยฉันรู้ว่าลูกเสียใจอับอาย ฉันทนเห็นตากานต์เสียใจอีกไม่ได้แม้แค่เสี้ยววินาที ฉันสัญญานะแก้วฉันจะกินยาฉันจะรักษาตัวฉันต้องเห็นหลานก่อนตายให้ได้เชื่อฉันสิ” แม่แก้วพยักหน้าพร้อมกับร้องไห้ไปด้วยกัน โรงแรม ธมกานต์เดินไปมาเมื่อไม่สามารถติดต่อหญิงสาวได้โทรเข้าคอนโดไม่มีคนรับโทรเข้ามือถือหญิงสาวหญิงสาวก็ปิด “ ก๊อก ๆ” “ เข้ามา” “ กานต์ขาจี้มารับไปทานข้าวค่ะเอาของมาฝากคุณด้วย” “ ผมไม่ว่างเดี๋ยวมีประชุมต่อตอนบ่าย คุณกลับไปก่อนผมมีงานสำคัญต้องทำ” ธมกานต์พูดเสียงเข้มอย่างหงุดหงิด จามิกาหน้างอด้วยความขัดใจก่อนจะพูดว่า “ จี้กลับก่อนก็ได้แต่แค่วันนี้นะคะ แล้วกานต์อย่าลืมหาเวลามาทานข้าวกับจี้นะคะ” ธมกานต์พยักหน้าก่อนจะเดินไปที่โต๊ะเตรียมเอกสารประชุมต่อภาคบ่าย ธมกานต์ทำงานอย่างรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่สามารถติดต่อหญิงสาวได้ ‘คอยดูนะเจอเมื่อไหร่จะทำโทษให้เข็ดที่ทำให้ผมว้าวุ่นใจเด็กบ้า’ ธมกานต์แอบบ่นถึงหญิงสาวในใจ ตรีรินทร์นั่งแท็กซี่กลับบ้านรู้สึกมึนหัวอย่างบอกไม่ถูกแต่ฝืนตัวเองอย่างสุดความสามารถ ตรีรินทร์ลงจากแท็กซี่ยังรู้สึกมึนหัวไม่หาย หญิงสาวเดินเซเล็กน้อย ล้วงหากุญแจกำลังสอดที่ประตูก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเข้ม “ผมบอกให้รอผมทำไมไม่รอ ทำไมดื้ออย่างงี้” น้ำเสียงเข้มพร้อมจะอาละวาดเต็มที่ตรีรินทร์หันหน้ามาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มก่อนจะพูดน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายว่า “ นี่คุณหยุดรังควานฉันสักทีได้ไหม ขอฉันอยู่อย่างสงบตามลำพังสักพักได้ไหมวันนี้ไม่มีอารมณ์มาทะเลาะกับคุณนะขอบอก” ธมกานต์พึ่งสังเกตุว่าหญิงสาวหน้าซีด “ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าหน้าซีดๆ” “ ฉันไม่เป็นไร แต่วันนี้ขอตัวนะคุณไม่อยากทะเลาะด้วย ฉันขอตัวเข้าบ้านก่อน” ตรีรินทร์หมุนตัวจะกลับเข้าไปในบ้าน “ยังไปไหนไม่ได้ เรายังคุยกันไม่จบ” ธมกานต์กระชากไหล่บางแต่ต้องตกใจเมื่อสัมผัสกับความร้อนผ่าวของร่างกาย “ คุณเป็นอะไรเนี่ยตัวร้อนจัง” ธมกานต์จับเนื้อตัวมือแตะหน้าผากพร้อมกับสบถเบาๆ “ ไม่สบายแล้วยังทำเป็นเก่งอีก ไป ไปกับผม” ธมกานต์จับมือลากแต่หญิงสาวขืนตัวไว้ด้วยแรงที่เหลือน้อยนิด “ ไม่ไป ฉันจะเข้าบ้าน นี่คุณฉันไม่มีแรงจะทะเลาะด้วยหรอกนะวันนี้ฉันเหนื่อย” “ใครจะทะเลาะกับคุณ ไป ไปที่บ้านจะพาไปรักษา” “ ไม่ต้องเดี๋ยวกินยาอีกสักชุดก็หาย ขอร้องล่ะคุณกลับไปก่อนนะแล้ววันหลังเราค่อยทะเลาะกันใหม่” “ดื้อจริง มานี่” ธมกานต์อุ้มหญิงสาวขึ้นพร้อมกับตะโกนเรียก “เข้ม เปิดประตู” “ครับ” นายเข้มคนสนิทเมื่อเห็นเจ
ก๊อก ๆ “ หมอคงมาแล้วผมให้หมอมาตรวจคุณอีกรอบเมื่อคืนเค้าฉีดยาให้คุณแล้วหนึ่งเข็ม” ธมกานต์เล่าให้หญิงสาวฟัง “ ว่าไงครับคนป่วยหน้าตาสดใสขึ้นนี่” “สวัสดีค่ะคุณ หมอ” ตรีรินทร์ทัก พร้อมกับขมวดคิ้วจ้องมองหมอหนุ่มก่อนครุ่นคิดว่าเคยเจอหมอเอกชัยที่ไหนมาก่อนแน่ๆ ระหว่างที่หมอกำลังตรวจตรีรินทร์ก็จ้องมองหมอหนุ่มจนหมอหนุ่มหน้าร้อนผ่าวที่สาวสวยตรงหน้าจ้องมองแบบเอาจริงเอาจัง “ เอ เคยเห็นแน่ๆ ใครนะ เคยเห็นที่ไหนนะ” ตรีรินทร์คิดหนัก ธมกานต์มองอากัปกิริยาของหญิงสาวแล้วกัดฟันกรอดหน้างอ ตาพร้อมจะเอาเรื่อง “ รินทร์คุ้นหน้าหมอจังค่ะเราเคยรู้จักกันหรือเปล่าคะหมอ รินทร์เหมือนรู้จักหมอมาก่อน นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน” ตรีรินทร์ยิ้มหวานตาเป็นประกาย “ นั่นสิครับมองหน้าคุณรินทร์ชัดๆ หมอก็คุ้นหน้าคุณเหมือนกัน” ธมกานต์อดรนทนไม่ไหวขยับขึ้นไปนั่งบนเตียงก่อนจะกระซิบข้างๆ หูหญิงสาวพร้อมกับกัดฟันพูดว่า “ มุขน้ำเน่าคุ้นหน้าจัง เคยเจอกันมาหรือเปล่า เสียเวลาอ่อยเหยื่อเปล่าๆ เจ้าเอกมันมีแฟนแล้วกำลังจะหมั้นและแต่ง เร็วๆนี้ เสียเวลาเปล่าตรีรินทร์” ตรีรินทร์หันมาจ้องหน้าชายหนุ่มพร้อมก
“ นมเคยเห็นคุณแก้วแค่สองสามหนเองค่ะ ไม่แปลกหรอกที่คุณรินทร์จะจำป้าไม่ได้” เสียงรถยนต์เลี้ยวเข้ามาสู่บริเวณบ้าน “ คุณกานต์กลับบ้านเร็วจังสงสัยเป็นห่วงคุณรินทร์” ตรีรินทร์หัวใจเต้นแรงแต่พยายามทำหน้าเฉยพร้อมกับนั่งลงที่โซฟา ธมกานต์เดินเข้ามาในบริเวณห้องรับแขกเห็นนมอิ่มยืนอยู่ข้างๆมีหญิงสาวที่รบกวนจิตใจตนเองมาตลอดทั้งวันแหวนเข้ามารับกระเป๋าและเสื้อสูทเพื่อเอาไปเก็บ “ ผมกลับมาแล้วครับนมอิ่ม ขอเบียร์เย็นๆ สักแก้วนะครับร้อนจัง” “ได้ค่ะ คุณกานต์”ธมกานต์เดินเข้ามาใกล้ตรีรินทร์ขยับหนีจนชิดพนักเก้าอี้ก่อนจะตกใจเมื่อชายหนุ่มโน้มเข้ามาหอมแก้มและหน้าผากนูนสวย “ เป็นไงคุณดีขึ้นไหมผมคิดถึงคุณตลอดทั้งวัน” นมอิ่มหันมายิ้มกับภาพที่เห็น หญิงชราปลื้มใจที่เห็นนายน้อยที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กดูจะมีความสุขเพราะแววตาสดใสตรีรินทร์หน้าร้อนเขินที่ชายหนุ่มแสดงออกอย่างเปิดเผย “ ฉันดีขึ้นมากแล้วอยากกลับบ้านแล้วค่ะ” “ อย่าพึ่งเลยพักอีกสักวันสองวันเถอะนะ บ้านคุณไม่หนีไปไหนหรอกอีกอย่างแม่คุณก็ฝากให้ผมดูแลคุณด้วย” “ แต่ว่า ฉัน...” “ ไม่ต้องแต่ ผมหิวข้าวจังเดี๋ยวทานข้าวกันเถอะผมขอตัวไปอาบน้ำก่อน “ธมก
เช้าวันรุ่งขึ้น ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูกระหน่ำ “ คุณรินทร์ขา ตื่นหรือยังคะ” เสียงแหวนตะโกนอยู่หน้าห้องตรีรินทร์ตกใจพร้อมกับหันไปมองที่นอนข้างๆ ที่ยังเรียบสนิท “ เอ อีตาบ้านั่นไปนอนที่ไหน สงสัยจะโกรธ ช่างประไรใครเค้าสนใจด้วยล่ะ” ตรีรินทร์บ่นกับตัวเองพร้อมกับตะโกนตอบแหวน “ เปิดเข้ามาได้เลยจ๊ะรินทร์ตื่นแล้ว” แหวนเปิดประตูพร้อมกับละล่ำละลักพูด “ คุณรินทร์ขาลงไปหานมอิ่มด้วยค่ะ นมให้หนูมาตามคุณไปพบด่วนค่ะ” “แหวนลงไปก่อนนะจ๊ะ บอกอีกห้านาทีเดี๋ยวรินทร์ตามไปขอเวลาล้างหน้าแปรงฟันห้านาทีจ๊ะ” “ ค่ะ เร็วๆ นะคะ” ตรีรินทร์งุนงงกับท่าทางร้อนใจของแหวน “ทานยาหน่อยสิคะทูนหัวของนมไม่งั้นตัวร้อนมากๆ จะชักเอาได้นะคะเหมือนตอนเด็กๆ ไงคะ” “ ไม่ ผมไม่กิน นมออกไปก่อน ผมอยากอยู่คนเดียว ” “ โถ คุณกานต์ไม่สบายแบบนี้ไม่ดื้อนะคะ คุณแม่ก็ไม่อยู่เกิดคุณกานต์เป็นอะไรไปนมแย่แน่ๆ เลยเชื่อนมนะคะ คนดี้ คนดีทานยาสักหน่อย โธ่ ตัวร้อนจี๋เลย” “ ผมบอกว่าไม่ก็ไม่” ตรีรินทร์เคาะประตูพร้อมกับเปิดเข้าไปนมอิ่มยิ้มกว้าง “คุณรินทร์มาพอดีช่วยนมด้วย ดูคุณกานต์สิคะตัวร้อนจี๋แบบนี้ยังไม่ยอมทานย
ธมกานต์ขับรถเร็ว ตาก็มองหาหญิงสาวด้วยใจว้าวุ่นด้านตรีรินทร์มองสองข้างทางที่มืดสนิทใจเต้นแรงด้วยความกลัวน้ำตายังไหลไม่ขาดสายสองเท้าก็ย่ำเดินไปข้างหน้าอย่างไม่รู้ทิศทาง ธมกานต์ยิ้มออกเมื่อมองเห็นด้านหลังของหญิงสาวเค้ามั่นใจว่าใช่แน่แค่มองข้างหลังก็จำได้ธมกานต์เร่งเครื่องพร้อมกับไปจอดเทียบข้างๆหญิงสาว ตรีรินทร์ได้ยินเครื่องยนต์ตอนแรกนึกดีใจว่าอาจเป็นชาวบ้านแถวนี้จะได้ขอติดรถไปปากซอยแต่เมื่อมองชัดว่าเป็นรถของชายหนุ่มที่เป็นต้นเหตุให้เธอเดินออกจากบ้านมาตรีรินทร์รีบเร่งฝีเท้าแทบจะเป็นวิ่งแต่ก็ต้องตกใจเมื่อรถมาจอดข้างๆ หน้าต่างรถด้านข้างคนขับเลื่อนลงพร้อมกับเสียงตะโกนของชายหนุ่ม “ นี่คุณบ้าหรือเปล่าเดินออกมาทั้งสภาพแบบนี้รู้ไหมตัวเองมีสารรูปแบบไหนไม่กลัวใครฉุดไปหรือไง” ตรีรินทร์เงียบพร้อมกับเดินต่อเสมือนไม่ได้ยินเสียงชายหนุ่ม “ นี่คุณ หูหนวกหรือเปล่าเนี่ย ผมพูดกับคุณอยู่นะ ขึ้นรถมาเดี๋ยวนี้เลยตรีรินทร์อย่าให้ผมโมโหยิ่งไปกว่านี้นะ” น้ำเสียงชายหนุ่มยังฉุนเฉียว “ ไม่ จะไปตายที่ไหนก็ไปอย่ามายุ่งกับฉัน” ตรีรินทร์หันมาตะโกนใส่หน้าชาย
“ เข้ม คุณกานต์อยู่ไหม” นาย เข้มคนสนิทของธมกานต์วิ่งออกมารับหน้าอาคันตุกะสาวแอบมองเครื่องแต่งตัวของหญิงสาวพร้อมกับลอบกลืนน้ำลายจามิกาใส่เสื้อรัดรูปสีดำกางเกงขาสั้นสีแดงเสื้อรัดรูปคว้านกว้างจนเห็นร่องนมอวบอิ่ม “ ได้ยินไหม ฉันถามว่าคุณกานต์อยู่ไหม” “ ไม่อยู่ครับ” “ ไปไหนรู้ไหม” “ ไม่รู้ครับ” “ โง่จริงคนบ้านนี้เจ้านายไปไหนสักคนไม่มีคนรู้เลย บ้า บ้า บ้า” จามิกากระทืบเท้าด้วยความเจ็บใจ “ ฉันจะไปรอที่ห้องนั่งเล่นไปเอาไวน์แดงมาให้ฉันดื่มด้วยเร็วๆ ” “ ครับ” ธมกานต์ชะลอรถเมื่อใกล้ถึงบ้านหญิงสาวตรีรินทร์รู้สึกดีใจที่จะได้กลับบ้านเมื่อรถแล่นใกล้ตรีรินทร์แทบจะหยุดหายใจภาวนาให้ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่นแล้วรถของชายหนุ่มก็แล่นผ่านหน้าบ้านไป ตรีรินทร์เหลียวหลังไปมองบ้านพร้อมกับตะโกนลั่น “ คุณจอดสิบ้านฉันหลังโน้นคุณแกล้งขับผ่านใช่ไหมเนี่ยจะแกล้งให้ฉันเดินย้อนกลับไปหรือไงคนบ้า” “ ใครบอกคุณว่าผมจะจอด ผมก็แค่พาคุณมาส่งดูบ้านซึ่งคุณก็เห็นแล้วไงทีนี้ก็กลับบ้านเราได้แล้วดึกมากแล้วอีกอย่างผมเริ่มหิวแล้วด้วย” “ บ้า นี่คุณแกล้งโง่หรือไง ฉันอยากกลับบ้าน ไม่ใช่แค่มองแต่อยากกลับมาอยู่ เข้าใจไหม
“ ขอร้องนะรินทร์อย่าดื้อสักวันได้ไหมว่าง่าย ๆ แล้วถ้าว่าง่ายจะพากลับบ้าน” “ จริงๆ นะคะ” ตรีรินทร์ตะโกนถามด้วยความดีใจ “ จริง ไม่ต้องดีใจขนาดนั้น คุณนี่ทำให้ผมเสียอารมณ์เลยนะเนี่ยอยู่กับผมมันเป็นยังไงแย่มากนักเหรอคุณถึงร่ำร้องแต่จะกลับบ้าน” “ ก็บ้านคุณไม่ใช่บ้านฉัน ฉันอยากไปอยู่ในที่ของฉัน” “ ทำตัวให้ชิน อีกไม่นานก็เป็นบ้านคุณ” ตรีรินทร์หน้าง้ำ เถียงในใจว่า “ ไม่มีทางฉันไม่มีวันแต่งงานกับคนที่ทำให้เพื่อนฉันเกือบตายแล้วฉันจะมีหน้าไปพบเพื่อนฉันได้ไง” ธมกานต์เปิดประตูคอนโดพร้อมกับจูงหญิงสาวพาไปนั่งโซฟา “ เหนื่อยจัง สงสัยผมยังไม่ค่อยหายไข้” “ คุณกินยาหรือยังคะ” “ เป็นห่วงผมด้วยเหรอผมนึกว่าคุณอยากให้ผมตายไวๆ” “บ้าฉันไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น” ตรีรินทร์พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ แหม ล้อเล่นนิดเดียว หน้างอเชียวยิ้มหน่อยสิ คุณยิ้มแล้วโลกสดใสจังเลย” “ ยิ้มหน่อย ไม่ยิ้มเดี๋ยวผมจูบนะ” ตรีรินทร์กลัวชายหนุ่มจะรังแกเลยยิ้มอ่อนหวานให้ชายหนุ่ม ธมกานต์ตะลึงในความสวยน่ารักของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะยกร่างหญิงสาวขึ้นมานั่งตักท่ามกลางความตกใจของ ตรีรินทร์ “ บ้าไหนว่าจะไม่รังแก” “ช่วยไม่ได้
“ ไม่เด็ดขาดฉันไม่แต่งงานกับคุณเด็ดขาด” ตรีรินทร์พยายามดึงข้อมือจากชายหนุ่มแต่ยิ่งดิ้นเหมือนชายหนุ่มบีบมือให้แน่นจนหญิงสาวกัดฟันด้วยความเจ็บ “ทำไมผมมันเป็นยังไงคุณถึงไม่อยากแต่งงานแล้วใครล่ะที่คุณจะแต่งด้วยไอ้ตำรวจหน้าจืดนั่นใช่ไหมไม่มีทางคุณเป็นของผมแล้วไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามผมไม่ได้เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด”ตรีรินทร์จ้องมองตาของชายหนุ่มด้วยแววตากระด้างพร้อมกับกัดฟันพูดว่า “ เชิญคุณแต่งของคุณไปคนเดียวฉันไม่เอาด้วยคนบอกแล้วไงที่เสียแล้วก็เสียไปถือว่าทำทานให้คุณ” “ ทำทานงั้นเหรอมานี่ ดูสิท้องขึ้นมาแล้วคุณจะทำไง” ธมกานต์อุ้มหญิงสาวพร้อมกับพาดบ่า “ไอ้บ้าจะทำอะไรฉัน”ธมกานต์อุ้มหญิงสาวด้วยความโกรธแล้วอาการอ่อนเพลียที่รู้สึกเมื่อสักครู่หายไปเกือบหมดสิ้นเมื่อได้ยินคำปฏิเสธไร้เยื่อใยจากสาวน้อยตรงหน้าทำไมเธอไม่เคยแคร์กับเค้าสักนิดความรู้สึกเหมือนกลัวจะเสียเธอไปต้องฉุดรั้งไว้แต่อีกด้านก็รู้สึกมืดมนจะทำยังไงให้เธอตกลงอย่างเต็มใจ ตรีรินทร์ใช้มือทุบไหล่และหลังชายหนุ่ม “คนบ้าปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะฉันเกลียดคุณ” คำว่าเกลียดของหญิงสาวยิ่งปะทุแรงโทสะให้ชายหนุ่มรีบก้าวเข้ามาในห้องนอนพร้อ
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้