“ ขอร้องนะรินทร์อย่าดื้อสักวันได้ไหมว่าง่าย ๆ แล้วถ้าว่าง่ายจะพากลับบ้าน”
“ จริงๆ นะคะ” ตรีรินทร์ตะโกนถามด้วยความดีใจ “ จริง ไม่ต้องดีใจขนาดนั้น คุณนี่ทำให้ผมเสียอารมณ์เลยนะเนี่ย อยู่กับผมมันเป็นยังไงแย่มากนักเหรอคุณถึงร่ำร้องแต่จะกลับบ้าน” “ ก็บ้านคุณไม่ใช่บ้านฉัน ฉันอยากไปอยู่ในที่ของฉัน” “ ทำตัวให้ชิน อีกไม่นานก็เป็นบ้านคุณ” ตรีรินทร์หน้าง้ำ เถียงในใจว่า “ ไม่มีทางฉันไม่มีวันแต่งงานกับคนที่ทำให้เพื่อน ฉันเกือบตายแล้วฉันจะมีหน้าไปพบเพื่อนฉันได้ไง” ธมกานต์เปิดประตูคอนโดพร้อมกับจูงหญิงสาวพาไปนั่งโซฟา “ เหนื่อยจัง สงสัยผมยังไม่ค่อยหายไข้” “ คุณกินยาหรือยังคะ” “ เป็นห่วงผมด้วยเหรอผมนึกว่าคุณอยากให้ผมตายไวๆ” “บ้าฉันไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น” ตรีรินทร์พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ แหม ล้อเล่นนิดเดียว หน้างอเชียวยิ้มหน่อยสิ คุณยิ้มแล้วโลกสดใสจังเลย” “ ยิ้มหน่อย ไม่ยิ้มเดี๋ยวผมจูบนะ” ตรีรินทร์กลัวชายหนุ่มจะรังแกเลยยิ้มอ่อนหวานให้ชายหนุ่ม ธมกานต์ตะลึงในความสวย น่ารักของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะยกร่างหญิงสาวขึ้นมานั่งตักท่ามกลางความตกใจของ ตรีรินทร์ “ บ้าไหนว่าจะไม่รังแก” “ช่วยไม่ได้ อยากน่ารักทำไม” ธมกานต์ก้มลงจูบที่ริมฝีปากบางอย่างดูดดื่ม มือก็ไม่หยุดนิ่งลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังพร้อมกับปลดตะขอบรา ตรีรินทร์ยึดมือชายหนุ่มไว้ “ อื้อ” “อย่าห้ามได้ไหมรินทร์ ผมจะคลั่งตายอยู่แล้ว” ธมกานต์ปลดมือหญิงสาวก่อนจะเลื่อนมือไปที่จุดอื่นเสียงโทรศัพท์ส่วนตัวของชายหนุ่มก็ดังขึ้น “ กริ๊ง กริ๊ง” “ ไปรับโทรศัพท์สิคะ” “ช่างหัวมันใครโทรมาก็ไม่สน” “ อาจเป็นเรื่องสำคัญนะคะ” ตรีรินทร์เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่ชายหนุ่มวางบนโต๊ะข้างๆ โซฟาที่นั่งพร้อมกับกดรับแล้วยื่นให้ชายหนุ่ม “ ว่าไงเข้มโทรมาทำไมวะ” น้ำเสียงเริ่มเขียวด้วยความหงุดหงิด “เจ้านายครับคุณ จีจี้บอกว่าจะคุยกับคุณกานต์ให้ได้ครับไม่งั้นเธอไม่ยอมกลับครับ” ธมกานต์มองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะถอนใจพร้อมกับพูดว่า “ อืม นายเอาโทรศัพท์นายไปให้เค้าพูดแล้วกัน” ผ่านไปสองสามนาทีตรีรินทร์ขยับไปนั่งข้างๆธมกานต์ ยังจับมือหญิงสาวไว้แต่ยอมปล่อยให้เลื่อนไปนั่งข้างๆมือยังจับมือหญิงสาวแน่นเหมือนเป็นสัญญาณบอกไม่ให้ไ ปไหน ตรีรินทร์ใจเต้นแรง “ นี่เค้าจะพูดกับแฟนเค้าแล้วทำไมเราต้องใจเต้นแรงแล้วเจ็บจี๊ดด้วย นะ เราต้องไม่รู้สึกอะไรสิเค้าไม่มีความสำคัญอะไรกับเราทั้งนั้น จำไว้สิตรีรินทร์เค้าเกือบจะฆ่าเพื่อนเธอ อย่าไปหลงไหลกับเค้าเป็นอันขาด” นายเข้มส่งโทรศัพท์ให้จามิกานางแบบสาวพร้อมกับพูดว่า “เจ้านาย อยู่ในสายครับ” จามิการับโทรศัพท์อย่างดีใจก่อนจะพูดว่า “กานต์คะจี้มารออยู่ที่บ้านค่ะ จี้คิดถึงกานต์มากนะคะ” จามิกาพูดเร็ว “ผมไม่กลับบ้านแล้ว คุณลืมข้อตกลงเราไปแล้วเหรอ ผมเคยบอกใช่ไหมผมไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายที่บ้านถ้าผมไม่อนุญาต” “จี้ขอโทษก็กานต์ไม่โทรหาจี้เลย จี้โทรหากานต์ก็ไม่รับ จี้ก็ต้องบุกมาหาที่บ้านแบบนี้ ดาร์ลิ่งยกโทษให้จี้นะคะ” จามิกาออดอ้อน “ ผมว่างจะติดต่อไปคราวหน้า อย่าทำแบบนี้อีกผมไม่ชอบ” “ กานต์สัญญากับจี้ก่อนว่ากานต์จะโทรมาแล้วจี้จะกลับบ้าน” ธมกานต์ถอนหายใจเฮือกก่อนพูดว่า “ อืม” ธมกานต์หันมามองหน้าหญิงสาวข้างๆตัวที่ตอนนี้หน้างอปากเชิด “เป็นอะไรอีกล่ะหน้างออีกแล้วคุณหน้างอแล้วไม่สวยเลย” “ ช่างฉันปล่อยมือฉันได้แล้ว หึคุณทำแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนหรือเปล่า” “ ทำอะไร” ธมกานต์งง “ทำเหมือนทำกับฉันเวลาอยากได้ก็ทำทุกวิถีทางพอเบื่อก็ทำเหมือนคุณทำกับเธอคนเมื่อกี้” “ คุณกับเค้าเปรียบกันไม่ได้หรอกตรีรินทร์” “ การแสดงกับคำพูดของคุณขัดกันค่ะคุณธมกานต์ยิ่งเห็นแบบนี้ฉันยิ่งต้องถอยหายให้ไกลๆจากคนแบบคุณ” คำพูดของตรีรินทร์ เหมือนไปจี้ให้ไฟลุกโชนธมกานต์มองหญิงสาวด้วยแววตาขุ่นมัวพร้อมกับบอกว่า “ผมไม่เคยรู้สึกกับใครเหมือนคุณแล้วไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับใครนอกจากคุณคนเดียวเข้าใจไว้ด้วย” “ เชื่อยากค่ะคุณธมกานต์” “ ทำไมคุณถึงดื้อแบบนี้นะ ตรีรินทร์” “ ช่างฉัน” “ เอาล่ะผมไม่อยากทะเลาะกับคุณแม่ผมกลับมาจากปฏิบัติธรรมเราจะไปขอฤกษ์แต่งงานด้วยกัน”“ ไม่เด็ดขาดฉันไม่แต่งงานกับคุณเด็ดขาด” ตรีรินทร์พยายามดึงข้อมือจากชายหนุ่มแต่ยิ่งดิ้นเหมือนชายหนุ่มบีบมือให้แน่นจนหญิงสาวกัดฟันด้วยความเจ็บ “ทำไมผมมันเป็นยังไงคุณถึงไม่อยากแต่งงานแล้วใครล่ะที่คุณจะแต่งด้วยไอ้ตำรวจหน้าจืดนั่นใช่ไหมไม่มีทางคุณเป็นของผมแล้วไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามผมไม่ได้เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด”ตรีรินทร์จ้องมองตาของชายหนุ่มด้วยแววตากระด้างพร้อมกับกัดฟันพูดว่า “ เชิญคุณแต่งของคุณไปคนเดียวฉันไม่เอาด้วยคนบอกแล้วไงที่เสียแล้วก็เสียไปถือว่าทำทานให้คุณ” “ ทำทานงั้นเหรอมานี่ ดูสิท้องขึ้นมาแล้วคุณจะทำไง” ธมกานต์อุ้มหญิงสาวพร้อมกับพาดบ่า “ไอ้บ้าจะทำอะไรฉัน”ธมกานต์อุ้มหญิงสาวด้วยความโกรธแล้วอาการอ่อนเพลียที่รู้สึกเมื่อสักครู่หายไปเกือบหมดสิ้นเมื่อได้ยินคำปฏิเสธไร้เยื่อใยจากสาวน้อยตรงหน้าทำไมเธอไม่เคยแคร์กับเค้าสักนิดความรู้สึกเหมือนกลัวจะเสียเธอไปต้องฉุดรั้งไว้แต่อีกด้านก็รู้สึกมืดมนจะทำยังไงให้เธอตกลงอย่างเต็มใจ ตรีรินทร์ใช้มือทุบไหล่และหลังชายหนุ่ม “คนบ้าปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะฉันเกลียดคุณ” คำว่าเกลียดของหญิงสาวยิ่งปะทุแรงโทสะให้ชายหนุ่มรีบก้าวเข้ามาในห้องนอนพร้อ
เช้าวันรุ่งขึ้นธมกานต์ตื่นขึ้นมาควานหาร่างของหญิงสาวกลับพบความว่างเปล่าลืมตามองหาร่างของหญิงสาวพบความว่างเปล่าและเงียบสงบ “รินทร์ รินทร์ครับคุณอยู่ไหน” ธมกานต์ตะโกนพร้อมเดินออกตามหาร่างของหญิงสาวอย่างร้อนใจ “ บ้าจริงหนีกลับบ้านไปแล้วมั๊ง” ธมกานต์โทรกลับไปที่พิพัฒนพงค์ “ อืม เข้มเหรอ คุณรินทร์กลับไปที่บ้านไหม” ถามเสียงเข้ม “ อ้าว แล้วคุณรินทร์ไม่ได้อยู่กับเจ้านายเหรอครับ” “ ฉันถามนาย ไม่ได้ให้นายมาย้อนถาม” “ เออ ขอโทษครับเจ้านาย คุณรินทร์เธอไม่ได้กลับมานี่ครับ” “งั้นนายช่วยขับรถไปดูให้หน่อยว่าเธออยู่บ้านหรือเปล่าเดี๋ยวฉันจะตามไป”“งั้นนายช่วยขับรถไปดูให้หน่อยว่าเธออยู่บ้านหรือเปล่าเดี๋ยวฉันจะตามไป”ธมกานต์พยายามติดต่อหญิงสาวทุกๆ ห้านาทีแต่ดูเหมือนหญิงสาวจะปิดเครื่องโรงพยาบาล วิชัยยุทธ ตรีรินทร์นั่งจับมือแม่แก้ว “ ยัยหนูไม่ได้นอนหรือไงลูกขอบตาช้ำเชียวแม่ขอโทษที่โทรไปปลุกหนูมาตั้งแต่เช้ามืด” “เออ รินทร์นอนไม่หลับค่ะแม่” “ ภาวนาให้ป้าเค้าดีขึ้นเร็วๆ” นายแพทย์ออกจากห้องตรวจพร้อมกับพูดกับแม่แก้วด้วยน้ำเสียงสุภาพว่า“ หมออยากให้พักที่นี่อีกสองสามวันค่อยกลับบ้านนะครับ หมออยากดู
ธมกานต์ควันออกหูพูดกัดฟันว่า “ ไม่มีวันหรอก รินทร์เค้าเป็นของข้าคนเดียวเท่านั้น” “เฮ๊ยใจเย็นก่อนเพื่อน เอ้านี่ดื่มเบียร์แก้เครียด”ธมกานต์รับขวดเบียร์มาจากเพื่อนพร้อมกับดื่มรวดเดียวหมดขวดท่ามกลางสายตาของเพื่อนหนุ่มทั้งสองที่ตกตะลึง กริ๊ง ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของธมกานต์ดังชายหนุ่มหยิบขึ้นมาดูเมื่อเห็นชื่อของนางแบบสาวธมกานต์กดตัดสายแล้วปัดเครื่องไปทางด้านซ้าย “เฮ๊ย ทำไมไม่รับสายว่ะหนวกหู” นายแพทย์หนุ่มโวยวาย“เบื่อ” ธมกานต์ถอนหายใจ“ใครวะ”“ จีจี้ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะคุยกับใคร คนที่อยากให้โทรกลับไม่โทร คนที่ไม่อยากทำไมโทรจิกจังว่ะแกว่าน่าเบื่อไหมล่ะ”“ แต่ข้าว่ารับ รับ ไปเหอะ หนีเท่าไหร่ก็หนีไม่พ้นหรอกว่ะ แกไปเคลียร์กับจีจี้ให้จบไปเลยดีกว่าทีนี้แกจะได้จีบคุณรินทร์แบบไม่ต้องพะวงข้างหลัง”“ใช่ข้าว่าไอ้หมอมันพูดถูก”“ รีบไปเคลียร์กับเค้าซะ แล้วแกจะได้สบายใจด้วย”ธมกานต์ครุ่นคิด ก่อนจะกดรับสาย “ว่าไงจีจี้ มีธุระอะไรกับผม”จามิกาตาลุกวาวเมื่อได้ยินเสียงปลายสาย “โอ้ย กว่าจะรับสายได้นะคะกานต์จีจี้คิดถึงกานต์นะสิคะเราทานข้าวกันได้ไหมค่ะค่ำนี้ จี้ไม่ได้เจอกานต์นานแล้วนะคะ นะคะดาร์ลิ่ง”จา
“ เออ ขอแนะนำเป็นทางการนะคะนี่คุณธมกานต์ พิพัฒนพงค์ เจ้าของบ้านที่รินทร์ไปตกแต่งให้นี่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีโตมร”ธมกานต์ แสยะยิ้มก่อนจะพูดว่า “ยินดีที่ได้รู้จักดูเหมือนเราจะเคยเจอกันแล้ขอผมนั่งตรงนี้สักพักพอดีมีธุระกับรินทร์เค้านิดหน่อยเมื่อวานก็คุยกันไม่จบเค้าหนีกลับบ้านไป ก่อน” ธมกานต์พูดแฝงความหมายทำเอาตรีรินทร์รีบแก้ตัวเป็นพัลวัน “พี่โตคะทานต่อเถอะค่ะ อาหารเย็นหมดแล้ว”พร้อมกับหันไปจ้องตาดุใส่ชายหนุ่มเหมือนจะพูดว่า “ หยุดรังควานสักที” ธมกานต์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่ทราบความหมายก่อนจะพูดว่า“บรรยากาศโต๊ะนี้น่าสบายจัง ขอผมย้ายมานั่งร่วมด้วยคนคุณโตมรคงไม่รังเกียจใช่ไหมครับ” นายตำรวจหนุ่มทำสีหน้าอึดอัดแต่ก็ตอบไปเพื่อมารยาทว่า “ ตามสบายผมกับรินทร์ไม่มีปัญหา” ตรีรินทร์ทำหน้าไม่พอใจเพราะทราบดีว่าชายหนุ่มกลั่นแกล้งแต่แสดงออกอะไรได้ไม่มากนัก “น้องๆ” ธมกานต์เรียกบริกร“ช่วยไปย้ายอาหารโต๊ะโน้นมารวมที่นี่แล้วเชิญผู้หญิงโต๊ะโน้นมาที่นี่ด้วยบอกว่าพี่เจอเพื่อนสนิทเลยอยากมานั่งคุยกัน”ธมกานต์วาดมือไปพาดที่เก้าอี้หญิงสาวมองดูเหมือนโอบกอดนายตำรวจหนุ่มมองท่าทางเจ้าของบ้านที่แฟนสาวไปตกแต่งอ
“ว๊าย” เสียงหวีดร้องของจีจี้และนายตำรวจหนุ่มก็ตกใจที่ทั้งน้ำและไวน์หกมาโดนฝั่งที่ตนนั่งทำให้กางเกงสีครีมเป็นรอยไวน์แดงที่ล้มกระจัดกระจาย “ขอโทษผมไม่ตั้งใจ คุณตำรวจเป็นไงบ้างครับ” แต่ธมกานต์หัวเราะอยู่ในใจ “กานต์คะเล่นอะไรของคุณเนี่ยจีจี้เลอะหมดแล้ว ชุดนี้เป็นหมื่นเลยนะคะจี้พึ่งไปถอยออกมาเพื่อมาดินเนอร์กับกานต์นะเนี่ย”นางแบบสาวปัดทั้งน้ำและไวน์ที่เลอะไปทั่วบริเวณต้นขาและหน้าอกเสื้อใบหน้าหงิกงอ “เลิกบ่นได้แล้วผมไม่ได้ตั้งใจสักนิดเดี๋ยวซื้อคืนให้ อย่าโวยวายให้มากความรำคาญ” ธมกานต์กล่าวอย่างหงุดหงิดพอกัน ก่อนจะหันไปมองนายตำรวจหนุ่มที่วุ่นวาย กับการเช็ดน้ำที่เลอะบริเวณขากางเกงเช่นกันก่อนจะอมยิ้มด้วยความสะใจ “สมน้ำหน้าอยากมาทำหวานกับเมียชาวบ้านต้องเจอแบบนี้แหละ”ธมกานต์นึกเยาะในใจ ตรีรินทร์หันมามองชายหนุ่ม สายตาเหมือนจะบ่งบอกว่า ‘คุณแกล้งเค้า ฉันดูออก’ ธมกานต์อมยิ้มแล้วก้มลงทานอาหารเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ “รินทร์จ๊ะ พี่ขอตัวไปเช็ดน้ำออกก่อนเหนียวไปหมด” “ให้รินทร์ไปช่วยไหมคะ” “ไม่ต้องหรอกจ๊ะ พี่จัดการเองสะดวกกว่า รินทร์อยู่คุยไปกับคุณธมกานต์ดีกว่า” “ฉันไปด้วย” นางแบบสาวเดิ
“พี่โต รินทร์อยากกลับบ้านแล้วแม่รอ” “ น้องๆ เก็บเงิน” นายตำรวจหนุ่มเรียกบริกร “ โต๊ะนี้จ่ายหมดแล้วครับพี่ผู้ชายเมื่อกี้จ่ายหมดแล้วครับ” “อ้าว ได้ไงน้องแยกบิลมา” นายตำรวจหนุ่มยังงงไม่หาย “ ไม่ได้หรอกครับพี่ อ้อพี่ผู้ชายคนนั้นฝากมาบอกให้พี่ผู้หญิงว่าพี่เค้ารออยู่ที่ลานจอดรถแล้ว” บริกรหันมาทางจามิกา นางแบบสาวอ้าปากหวอแปลกใจในพฤติกรรมของแฟนหนุ่มก่อนจะเดินสะบัดก้นออกจากร้านไป “บ้า จริงกานต์เนี่ยจะกลับก็ไม่บอกปล่อยให้เรานั่งรออยู่ได้ตั้งนานนี่ ถ้าไม่รวยแล้วชาติตระกูลไม่ดีฉันไม่ง้อหรอกนะเนี่ย” นางแบบสาวบ่นพร้อมกับก้าวเดินไปลานจอดรถ “ แล้วเราจะทำยังไงพี่เกรงใจคุณธมกานต์จังที่ต้องมาออกค่าอาหารให้พวกเรา” “เดี๋ยวรินทร์ถามให้ค่ะว่าเท่าไหร่ รินทร์ไม่อยากติดหนี้บุญคุณเค้าค่ะ” “งั้นรินทร์มาบอกพี่นะพี่จะจ่ายคืนให้” “ได้สิคะกลับบ้านกันเถอะแม่รอนานแล้ว” “รินทร์ฝันดีนะ” นายตำรวจหนุ่มขับรถมาส่งพร้อมกับกล่าวลา “ขอบคุณค่ะ” “งานเลี้ยงฉลองยศรินทร์ไปกับพี่นะ นะรินทร์นะ” “ได้สิคะพี่โตบอกมาก่อนนะรินทร์จะได้ขออนุญาตแม่” “ โอเค” “ นอนหลับฝันดี คนสวยฝันถึงพี่บ้างนะ” ตรีรินทร์ยิ้มแต่ไม่
“แล้วเลิกดื่มได้แล้วไปนอนพรุ่งนี้มีประชุมผู้ถือหุ้นใช่ไหม แม่ไม่ไปนะบอกที่ประชุมว่าแม่ป่วยแล้วกันแม่เพลียอยากพักผ่อน” “ แม่สบายดีไหมทำไมหน้าซีดจัง” ธมกานต์มองสำรวจผู้เป็นแม่ “ แม่สบายดี แต่เพลียอาจเพราะการเดินทางแม่ไปนอนก่อนกานต์ก็เหมือนกันไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวเรื่องน้องแม่จะช่วยพูดให้อีกแรง” “ กู๊ดไนท์ครับแม่” “ นอนหลับฝันดีลูก” ธมกานต์มองร่างมารดา ขึ้นไปชั้นบนก่อนจะดื่มเหล้าให้หมดแก้วแล้วเดินขึ้นไปบนบ้านเช่นกันหกโมงเช้าตรีรินทร์ต้องขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงแมสเสจจากโทรศัพท์ของตนเอง “ เย็นนี้มาทำงานที่บ้านผมด้วย ผมจะเตรียมไว้เป็นเรือนหอของเรา แล้วรอทานข้าวกับผมที่บ้านใหญ่ด้วยคิดถึง ลงชื่อธมกานต์” “ บ้าเอาแต่สั่งสั่งสั่ง ใครเค้าจะไปทำตามคุณ” ตรีรินทร์แลบลิ้นใส่โทรศัพท์มือถือเสมือนเป็นตัวแทนของชายหนุ่มแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ธมกานต์นั่งมองโทรศัพท์เฝ้ารอว่าหญิงสาวจะตอบมาว่าอย่างไรเวลาผ่านไปหลายนาทีก็หงุดหงิด “เด็กบ้าเย็นนี้ฉันต้องจัดการกับเธอแน่ๆไม่ตอบแมสเสจ” ธมกานต์นั่งประชุมด้วยจิตใจไม่ปกติแต่ก็ สลัดความคิดทั้งหมดและตั้งใจทำงานก้มมองนาฬิกาทุกระยะกว่าจะผ่านการประชุม
บ้านมนัสสุกานต์ “ตายแล้วยัยรินทร์ทำไมใส่พริกเยอะขนาดนั้นใครจะกินจ๊ะลูก” “อ๋อถ้วยนี้พิเศษสำหรับแขกคืนนี้ค่ะเดี๋ยวของรินทร์กับแม่รินทร์ตำต่างหาก” “ ใครจะมาเหรอ เย็นนี้” “ เดี๋ยวแม่ก็รู้ค่ะ” ตรีรินทร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะตำน้ำพริกต่อ แม่แก้วมองลูกสาวด้วยสายตาไม่เข้าใจ “ ตายล่ะอาหารแต่ละอย่างเผ็ดๆทั้งนั้นวันนี้จะทานกันได้ไหมเนี่ย” “ อร่อยจะตายรินทร์ขอสามชามวันนี้” “ งั้นรินทร์ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” ธมกานต์จอดรถหน้าบ้านหญิงสาวก่อนจะกดกริ่งด้วยหัวใจที่เต้นรัว ตรีรินทร์ในชุดอยู่บ้านสบายๆมาเปิดประตูก่อนจะส่ายหน้า“ จัดเต็มอีกแล้วแต่งมาซะเต็มขนาดนี้ทำเอาเราจืดไปเลย” “ นี่คุณมาทานข้าวบ้านฉันไม่ต้องใส่เต็มขนาดนี้ก็ได้มีไหมเสื้อผ้าอยู่บ้านสบายๆ คุณทำให้ฉันอึดอัดนะเนี่ย” “ ขอโทษ เดี๋ยวผมถอดสูทไว้ที่รถรองเท้าผมมีอีกคู่หลังรถกางเกงขาสั้นก็มีอยู่หลังรถเตรียมไว้ไปเล่นกีฬา” “ ค่อยยังชั่ว”“ รอแป๊ปหนึ่งเดี๋ยวเปลี่ยนที่ห้องคุณได้ไหม” “ อืม” แม่แก้วมองชายหนุ่มที่เดินตามลูกสาวมาก็ตาโตนี่มัน ลูกชายเพื่อนสนิทของเธอเองสองคนนี้ยังไงๆ เสียแล้วแม่แก้วมองมาด้วยสายตาค้นคว้า “ แม่คะคุณกานต์จะมาทา
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้