ธมกานต์ควันออกหูพูดกัดฟันว่า “ ไม่มีวันหรอก รินทร์เค้าเป็นของข้าคนเดียวเท่านั้น”
“เฮ๊ยใจเย็นก่อนเพื่อน เอ้านี่ดื่มเบียร์แก้เครียด” ธมกานต์รับขวดเบียร์มาจากเพื่อน พร้อมกับดื่มรวดเดียวหมดขวดท่ามกลางสายตาของเพื่อนหนุ่มทั้งสองที่ตกตะลึง กริ๊ง ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของธมกานต์ดังชายหนุ่มหยิบขึ้นมาดูเมื่อเห็นชื่อของนางแบบสาว ธมกานต์กดตัดสายแล้วปัดเครื่องไปทางด้านซ้าย “เฮ๊ย ทำไมไม่รับสายว่ะหนวกหู” นายแพทย์หนุ่มโวยวาย “เบื่อ” ธมกานต์ถอนหายใจ “ใครวะ” “ จีจี้ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะคุยกับใคร คนที่อยากให้โทรกลับไม่โทร คนที่ไม่อยากทำไมโทรจิกจังว่ะ แกว่าน่าเบื่อไหมล่ะ” “ แต่ข้าว่ารับ รับ ไปเหอะ หนีเท่าไหร่ก็หนีไม่พ้นหรอกว่ะ แกไปเคลียร์กับจีจี้ให้จบไปเลยดีกว่า ทีนี้แกจะได้จีบคุณรินทร์แบบไม่ต้องพะวงข้างหลัง” “ใช่ข้าว่าไอ้หมอมันพูดถูก” “ รีบไปเคลียร์กับเค้าซะ แล้วแกจะได้สบายใจด้วย” ธมกานต์ครุ่นคิด ก่อนจะกดรับสาย “ว่าไงจีจี้ มีธุระอะไรกับผม” จามิกาตาลุกวาวเมื่อได้ยินเสียงปลายสาย “โอ้ย กว่าจะรับสายได้นะคะกานต์ จีจี้คิดถึงกานต์นะสิคะเราทานข้าวกันได้ไหมค่ะค่ำนี้ จี้ไม่ได้เจอกานต์นานแล้วนะคะ นะคะดาร์ลิ่ง” จามิกาตาลุกวาวเมื่อได้ยินเสียงปลายสาย “โอ้ย กว่าจะรับสายได้นะคะกานต์ จีจี้คิดถึงกานต์นะสิคะเราทานข้าวกันได้ไหมค่ะค่ำนี้ จี้ไม่ได้เจอกานต์นานแล้วนะคะ นะคะดาร์ลิ่ง” “ โอเคที่ไหน ไปเจอกันที่นั่นก็แล้วกันผมมีเวลาสองชั่วโมงพอไหม ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณด้วยเหมือนกัน” “ ได้สิคะดาร์ลิ่ง เจอกันค่ะจุ๊บ” นางแบบสาวส่งจูบมาทางสาย ธมกานต์ถอนใจเฮือกก่อนจะหมุนแก้วเล่นไปมาลองกดหาหญิงสาวที่อยู่ในห้วงความคิดเกือบจะตลอดเช้า “ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก” ธมกานต์สบถพร้อมกับเหวี่ยงโทรศัพท์ทิ้งไปข้างๆตัวเหมือนจะระบายอารมณ์ “ไรว่ะเค้าไม่รับสายหรือไงพ่อพระเอกหน้างี้หงิกเชียว” “กลับก่อนนะเดี๋ยวมีนัดทานข้าวกับ จีจี้ไว้นัดเจอกัน” “ ทำตัวให้ว่างหน่อยเพื่อน ไม่ได้ตีกอล์ฟกันนานเท่าไหร่แล้ววะ” อลงกรณ์บ่น “ อืมแล้วจะโทรหาขอสะสางเรื่องนี้เสร็จคงมีข่าวดีบอกกับพวกนายเร็วๆนี้” ธมกานต์เดินจากไปเพื่อนสองคนก็มองตามด้วยความเป็นห่วง Central world ตรีรินทร์เดินตามโตมรมาด้วยอาการงุนงง ปกติเธอและนายตำรวจข้างๆตัวมักจะนัดเจอกันตามร้านอาหารตามห้างแต่มักเป็นร้านเล็กๆเงียบๆ แต่นี่เดินมาในโซนของโรงแรมตรีรินทร์เดินตามพร้อมกับมองไปรอบๆอย่าง สงสัย “นี่เราจะไปไหนคะ” “พี่จะพารินทร์มาเลี้ยงฉลองที่พี่สอบนายร้อยได้ตามที่สัญญากับรินทร์ไว้ไงจ๊ะ” “ทำไมต้องขึ้นลิฟท์ไปด้วยทำไมไม่หาร้านในห้างคะ ร้านในโรงแรมแพงจะตายเสียดายตังค์รินทร์เกรงใจพี่โต” “ กรณีพิเศษครับรินทร์ เอาน่านานๆที” ตรีรินทร์ถอนใจก่อนจะเดินตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ ชั้นที่ห้าสิบห้าตรีรินทร์มองบรรยากาศแล้วตาวาว “สวยจังเคยเห็นแต่ในนิตยสาร ของจริงสวยจังค่ะพี่โต” “พี่เคยขึ้นมาตอนมาคุ้มกันเจ้านาย พี่สัญญากับตัวเองว่าต้องพารินทร์มาสักครั้งให้ได้พี่ได้ทำตามฝันแล้ว” บริกรมาต้อนรับพร้อมกับพาไปนั่งโต๊ะที่จองตรีรินทร์มองบรรยากาศไปรอบๆด้วย ความตื่นเต้น เสียงเปียโนเบาๆทำให้บรรกาศรอบตัวอบอวลไปด้วยความอ่อนหวาน “รินทร์พี่อยากบอกรินทร์ว่าขอบคุณสำหรับกำลังใจตลอดเก้าปีที่เราคบกันมา ตั้งแต่พี่สอบติดสิบตำรวจจนเดี๋ยวนี้พี่สอบติดนายร้อย รินทร์คือหนึ่งกำลังใจของพี่ พี่ขอบคุณสำหรับทุกๆอย่างที่รินทร์ทำเพื่อพี่” “พี่โตอย่าพูดแบบนี้เลยที่พี่โตทำได้ทุกวันนี้เพราะพี่โตมีความมุ่งมั่น ขยัน ไม่ใช่เพราะรินทร์” “รินทร์จำสัญญาที่เราให้กันไว้ได้ไหม ติดยศแล้วพี่อยากให้แม่พี่ไปคุยกับแม่รินทร์” “เออ พี่โต รินทร์ รินทร์ รินทร์คิดว่ารินทร์ไม่ดีพอสำหรับพี่อีกต่อไปแล้ว” นายตำรวจงงกับกิริยาของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ามาก แทนที่จะดีใจกลับมาร้องไห้ “หมายความว่าไงรินทร์มีคนอื่นเหรอ” “รินทร์ไม่ได้ดีเหมือนที่พี่คิด รินทร์แปดเปื้อนรินทร์ไม่คู่ควรสำหรับพี่” ตรีรินทร์ร้องไห้ด้วยความสงสารทั้งตัวเองและชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า เธอรู้ดีว่าเค้าพยายามมากเพียงใดกว่าจะสอบติดนายร้อย “รินทร์พี่ว่า เราเลิกคุยเรื่องนี้ก่อนดีกว่าเห็นรินทร์ร้องไห้แบบนี้พี่ใจไม่ดีเลย วันนี้เรามาเลี้ยงฉลองก็ต้องทำจิตใจให้สดใสและมีความสุขเรื่องอื่นเราค่อยคุยกันเถอะนะมาพี่สั่งอาหารให้” ตรีรินทร์พยักหน้าพร้อมกับเช็ดน้ำตาก่อนจะเหม่อมองไปด้านระเบียงที่สามารถ มองเห็นกรุงเทพฯทั่วทั้งเมือง ถัด ไปอีกสองโต๊ะนางแบบสาวผุดนั่งผุดลุกอย่างกระวนกระวายใจก่อนจะยิ้มออกเมื่อเห็นร่างของชายหนุ่มที่หมายมั่ นจะจับมาเป็นสามีในอนาคตเดินเข้ามา “โหกานต์ ยูเลตตั้งชั่วโมงกว่า จี้นึกว่ากานต์จะเบี้ยวเสียแล้ว” “รถมันติด” “คุณสั่งอะไรหรือยัง” “สั่งแล้วค่ะรอแต่กานต์มา ก็เสิร์ฟได้เลย จี้รู้ค่ะว่ากานต์ชอบทานอะไร” ธมกานต์พยักหน้าก่อนจะมองไปรอบๆร้านอาหารที่เต็มไปด้วยผู้คน บรรยากาศก็สวยดีแต่คงจะดีถ้าได้มากับคนที่ถูกใจ “ตอนนี้คุณทำอะไรอยู่นะรินทร์จะคิดถึงผมบ้างไหม” ธมกานต์คิดในใจ “ทำไมทานนิดเดียวเอง ไม่อร่อยเหรอคะ” นางแบบสาวถามเมื่อเห็นชายหนุ่มกินอย่างช้าๆแล้วก็เหม่อลอยแทบไม่สนใจในสิ่งที่ตนพูด “ ไม่ค่อยหิว” ก่อนจะตะลึงเมื่อมองเห็นหญิงสาวที่ตนเองคิดถึงตลอดทั้งวัน ปรากฏกายอยู่ ร้านอาหารเดียวกัน ธมกานต์ลุกขึ้นยืนเพื่อมองก็เห็นร่างหญิงสาวเข้าไปนั่งโต๊ะที่ถัดจากตนเองสองโต๊ะ ธมกานต์ตัวชาวาบก่อนมองตามร่างหญิงสาวเพื่อมองว่าหญิงสาวมากับใคร “ แม่ตัวดีมากับไอ้หน้าจืดนี่เองเดี๋ยวเถอะ เจอดีแน่” ธมกานต์ตาดุ “ผมเจอคนรู้จัก เดี๋ยวผมมา” “จี้ไปด้วยสิค่ะ” “อร่อยไหมจ๊ะรินทร์” นายตำรวจหนุ่มเอ่ยถามเมื่อหญิงสาวกลับมานั่งหลังจากหญิงสาวบอกว่าจะไปห้องน้ำ “อร่อยสิคะแต่คงจะแพง เกรงใจพี่โตจังค่ะ” โตมรเอื้อมมากุมมือหญิงสาวพร้อมกับส่งสายตาซึ้งพร้อมกับพูดว่า “ สำหรับรินทร์ไม่มีอะไรแพง สำหรับพี่ถ้ารินทร์ชอบพี่พร้อมจะหามาให้เพื่อนให้ รินทร์มีความสุข” ตรีรินทร์สะดุ้งเมื่อนายตำรวจหนุ่มจู่โจมจับมือพร้อมขยับจะดึงมือกลับมาแต่ก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงกร ะแอมข้างๆตัว “อะแอม” เสียงกระแอม ตรีรินทร์หันไปมองแล้วช้อนก็หลุดจากมือขวา มือซ้ายยังอยู่ในอุ้งมือของนายตำรวจหนุ่ม ธมกานต์จ้องมอง ด้วยแววตาไม่พอใจในใจแทบจะคว่ำโต๊ะนี้ ไปเลย แต่ทำได้ตอนนี้แค่กัดฟันพร้อมกับพูดว่า “ว่าไงตรีรินทร์ ไม่นึกว่าจะเจอคุณที่นี่โลกกลมเป็นบ้า” ตรี รินทร์มองชายหนุ่มด้วยความหวาดระแวงว่าชายหนุ่มจะเกิดบ้าทำอะไรอีก แม้จะอยู่กันไม่กี่วันหญิงสาวได้เรียนรู้ว่าชายหนุ่มเป็นคนอารมณ์ร้อนเอาแต่ใจ “ สวัสดีค่ะมาทานที่นี่เหมือนกันเหรอคะ” ทักทายแบบไม่เต็มใจนัก นายตำรวจหนุ่มจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าแล้วแอบนึกอิจฉาในความเพียบพร้อมของชายหนุ่มตรงหน้า “ ผมมีธุระจะคุยด้วย ขอผมนั่งด้วยคน” ธมกานต์นั่งข้างๆ ตรีรินทร์พร้อมส่งสายตาท้าทายให้ชายหนุ่มตรงข้าม ตรีรินทร์ตกใจเขยิบไปนั่งจนชิดข้างฝา“ เออ ขอแนะนำเป็นทางการนะคะนี่คุณธมกานต์ พิพัฒนพงค์ เจ้าของบ้านที่รินทร์ไปตกแต่งให้นี่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีโตมร”ธมกานต์ แสยะยิ้มก่อนจะพูดว่า “ยินดีที่ได้รู้จักดูเหมือนเราจะเคยเจอกันแล้ขอผมนั่งตรงนี้สักพักพอดีมีธุระกับรินทร์เค้านิดหน่อยเมื่อวานก็คุยกันไม่จบเค้าหนีกลับบ้านไป ก่อน” ธมกานต์พูดแฝงความหมายทำเอาตรีรินทร์รีบแก้ตัวเป็นพัลวัน “พี่โตคะทานต่อเถอะค่ะ อาหารเย็นหมดแล้ว”พร้อมกับหันไปจ้องตาดุใส่ชายหนุ่มเหมือนจะพูดว่า “ หยุดรังควานสักที” ธมกานต์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่ทราบความหมายก่อนจะพูดว่า“บรรยากาศโต๊ะนี้น่าสบายจัง ขอผมย้ายมานั่งร่วมด้วยคนคุณโตมรคงไม่รังเกียจใช่ไหมครับ” นายตำรวจหนุ่มทำสีหน้าอึดอัดแต่ก็ตอบไปเพื่อมารยาทว่า “ ตามสบายผมกับรินทร์ไม่มีปัญหา” ตรีรินทร์ทำหน้าไม่พอใจเพราะทราบดีว่าชายหนุ่มกลั่นแกล้งแต่แสดงออกอะไรได้ไม่มากนัก “น้องๆ” ธมกานต์เรียกบริกร“ช่วยไปย้ายอาหารโต๊ะโน้นมารวมที่นี่แล้วเชิญผู้หญิงโต๊ะโน้นมาที่นี่ด้วยบอกว่าพี่เจอเพื่อนสนิทเลยอยากมานั่งคุยกัน”ธมกานต์วาดมือไปพาดที่เก้าอี้หญิงสาวมองดูเหมือนโอบกอดนายตำรวจหนุ่มมองท่าทางเจ้าของบ้านที่แฟนสาวไปตกแต่งอ
“ว๊าย” เสียงหวีดร้องของจีจี้และนายตำรวจหนุ่มก็ตกใจที่ทั้งน้ำและไวน์หกมาโดนฝั่งที่ตนนั่งทำให้กางเกงสีครีมเป็นรอยไวน์แดงที่ล้มกระจัดกระจาย “ขอโทษผมไม่ตั้งใจ คุณตำรวจเป็นไงบ้างครับ” แต่ธมกานต์หัวเราะอยู่ในใจ “กานต์คะเล่นอะไรของคุณเนี่ยจีจี้เลอะหมดแล้ว ชุดนี้เป็นหมื่นเลยนะคะจี้พึ่งไปถอยออกมาเพื่อมาดินเนอร์กับกานต์นะเนี่ย”นางแบบสาวปัดทั้งน้ำและไวน์ที่เลอะไปทั่วบริเวณต้นขาและหน้าอกเสื้อใบหน้าหงิกงอ “เลิกบ่นได้แล้วผมไม่ได้ตั้งใจสักนิดเดี๋ยวซื้อคืนให้ อย่าโวยวายให้มากความรำคาญ” ธมกานต์กล่าวอย่างหงุดหงิดพอกัน ก่อนจะหันไปมองนายตำรวจหนุ่มที่วุ่นวาย กับการเช็ดน้ำที่เลอะบริเวณขากางเกงเช่นกันก่อนจะอมยิ้มด้วยความสะใจ “สมน้ำหน้าอยากมาทำหวานกับเมียชาวบ้านต้องเจอแบบนี้แหละ”ธมกานต์นึกเยาะในใจ ตรีรินทร์หันมามองชายหนุ่ม สายตาเหมือนจะบ่งบอกว่า ‘คุณแกล้งเค้า ฉันดูออก’ ธมกานต์อมยิ้มแล้วก้มลงทานอาหารเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ “รินทร์จ๊ะ พี่ขอตัวไปเช็ดน้ำออกก่อนเหนียวไปหมด” “ให้รินทร์ไปช่วยไหมคะ” “ไม่ต้องหรอกจ๊ะ พี่จัดการเองสะดวกกว่า รินทร์อยู่คุยไปกับคุณธมกานต์ดีกว่า” “ฉันไปด้วย” นางแบบสาวเดิ
“พี่โต รินทร์อยากกลับบ้านแล้วแม่รอ” “ น้องๆ เก็บเงิน” นายตำรวจหนุ่มเรียกบริกร “ โต๊ะนี้จ่ายหมดแล้วครับพี่ผู้ชายเมื่อกี้จ่ายหมดแล้วครับ” “อ้าว ได้ไงน้องแยกบิลมา” นายตำรวจหนุ่มยังงงไม่หาย “ ไม่ได้หรอกครับพี่ อ้อพี่ผู้ชายคนนั้นฝากมาบอกให้พี่ผู้หญิงว่าพี่เค้ารออยู่ที่ลานจอดรถแล้ว” บริกรหันมาทางจามิกา นางแบบสาวอ้าปากหวอแปลกใจในพฤติกรรมของแฟนหนุ่มก่อนจะเดินสะบัดก้นออกจากร้านไป “บ้า จริงกานต์เนี่ยจะกลับก็ไม่บอกปล่อยให้เรานั่งรออยู่ได้ตั้งนานนี่ ถ้าไม่รวยแล้วชาติตระกูลไม่ดีฉันไม่ง้อหรอกนะเนี่ย” นางแบบสาวบ่นพร้อมกับก้าวเดินไปลานจอดรถ “ แล้วเราจะทำยังไงพี่เกรงใจคุณธมกานต์จังที่ต้องมาออกค่าอาหารให้พวกเรา” “เดี๋ยวรินทร์ถามให้ค่ะว่าเท่าไหร่ รินทร์ไม่อยากติดหนี้บุญคุณเค้าค่ะ” “งั้นรินทร์มาบอกพี่นะพี่จะจ่ายคืนให้” “ได้สิคะกลับบ้านกันเถอะแม่รอนานแล้ว” “รินทร์ฝันดีนะ” นายตำรวจหนุ่มขับรถมาส่งพร้อมกับกล่าวลา “ขอบคุณค่ะ” “งานเลี้ยงฉลองยศรินทร์ไปกับพี่นะ นะรินทร์นะ” “ได้สิคะพี่โตบอกมาก่อนนะรินทร์จะได้ขออนุญาตแม่” “ โอเค” “ นอนหลับฝันดี คนสวยฝันถึงพี่บ้างนะ” ตรีรินทร์ยิ้มแต่ไม่
“แล้วเลิกดื่มได้แล้วไปนอนพรุ่งนี้มีประชุมผู้ถือหุ้นใช่ไหม แม่ไม่ไปนะบอกที่ประชุมว่าแม่ป่วยแล้วกันแม่เพลียอยากพักผ่อน” “ แม่สบายดีไหมทำไมหน้าซีดจัง” ธมกานต์มองสำรวจผู้เป็นแม่ “ แม่สบายดี แต่เพลียอาจเพราะการเดินทางแม่ไปนอนก่อนกานต์ก็เหมือนกันไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวเรื่องน้องแม่จะช่วยพูดให้อีกแรง” “ กู๊ดไนท์ครับแม่” “ นอนหลับฝันดีลูก” ธมกานต์มองร่างมารดา ขึ้นไปชั้นบนก่อนจะดื่มเหล้าให้หมดแก้วแล้วเดินขึ้นไปบนบ้านเช่นกันหกโมงเช้าตรีรินทร์ต้องขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงแมสเสจจากโทรศัพท์ของตนเอง “ เย็นนี้มาทำงานที่บ้านผมด้วย ผมจะเตรียมไว้เป็นเรือนหอของเรา แล้วรอทานข้าวกับผมที่บ้านใหญ่ด้วยคิดถึง ลงชื่อธมกานต์” “ บ้าเอาแต่สั่งสั่งสั่ง ใครเค้าจะไปทำตามคุณ” ตรีรินทร์แลบลิ้นใส่โทรศัพท์มือถือเสมือนเป็นตัวแทนของชายหนุ่มแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ธมกานต์นั่งมองโทรศัพท์เฝ้ารอว่าหญิงสาวจะตอบมาว่าอย่างไรเวลาผ่านไปหลายนาทีก็หงุดหงิด “เด็กบ้าเย็นนี้ฉันต้องจัดการกับเธอแน่ๆไม่ตอบแมสเสจ” ธมกานต์นั่งประชุมด้วยจิตใจไม่ปกติแต่ก็ สลัดความคิดทั้งหมดและตั้งใจทำงานก้มมองนาฬิกาทุกระยะกว่าจะผ่านการประชุม
บ้านมนัสสุกานต์ “ตายแล้วยัยรินทร์ทำไมใส่พริกเยอะขนาดนั้นใครจะกินจ๊ะลูก” “อ๋อถ้วยนี้พิเศษสำหรับแขกคืนนี้ค่ะเดี๋ยวของรินทร์กับแม่รินทร์ตำต่างหาก” “ ใครจะมาเหรอ เย็นนี้” “ เดี๋ยวแม่ก็รู้ค่ะ” ตรีรินทร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะตำน้ำพริกต่อ แม่แก้วมองลูกสาวด้วยสายตาไม่เข้าใจ “ ตายล่ะอาหารแต่ละอย่างเผ็ดๆทั้งนั้นวันนี้จะทานกันได้ไหมเนี่ย” “ อร่อยจะตายรินทร์ขอสามชามวันนี้” “ งั้นรินทร์ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” ธมกานต์จอดรถหน้าบ้านหญิงสาวก่อนจะกดกริ่งด้วยหัวใจที่เต้นรัว ตรีรินทร์ในชุดอยู่บ้านสบายๆมาเปิดประตูก่อนจะส่ายหน้า“ จัดเต็มอีกแล้วแต่งมาซะเต็มขนาดนี้ทำเอาเราจืดไปเลย” “ นี่คุณมาทานข้าวบ้านฉันไม่ต้องใส่เต็มขนาดนี้ก็ได้มีไหมเสื้อผ้าอยู่บ้านสบายๆ คุณทำให้ฉันอึดอัดนะเนี่ย” “ ขอโทษ เดี๋ยวผมถอดสูทไว้ที่รถรองเท้าผมมีอีกคู่หลังรถกางเกงขาสั้นก็มีอยู่หลังรถเตรียมไว้ไปเล่นกีฬา” “ ค่อยยังชั่ว”“ รอแป๊ปหนึ่งเดี๋ยวเปลี่ยนที่ห้องคุณได้ไหม” “ อืม” แม่แก้วมองชายหนุ่มที่เดินตามลูกสาวมาก็ตาโตนี่มัน ลูกชายเพื่อนสนิทของเธอเองสองคนนี้ยังไงๆ เสียแล้วแม่แก้วมองมาด้วยสายตาค้นคว้า “ แม่คะคุณกานต์จะมาทา
โรงแรม Eifelstar เสียงรองเท้าส้นสูงดังมาใกล้ตัวทำให้รสสุคนธ์หันมามองตามเสียง ก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้า “คุณรินทร์ไปทำอะไรมาค่ะนี่เปรี้ยวเชียว” “รินทร์มาขอพบคุณกานต์ค่ะอยู่ไหมค่ะ” “กำลังรออยู่เลยค่ะท่านสั่งไว้แล้ว” “ งั้นเดี๋ยวรินทร์มาคุยด้วยนะคะ คุณรส” ตรีรินทร์เดินเข้าไปเคาะห้องซีอีโอชายหนุ่มเจ้าปัญหาที่ทำให้เธอต้องแวะมาหาก่อนไปงานเลี้ยง “ ก๊อกๆ” “เข้ามา” ตรีรินทร์ยืนอยู่ตรงข้ามชายหนุ่มที่กำลังก้มหน้าเซ็นเอกสารมากมายที่กองไว้บนโต๊ะ ตรีรินทร์ยืนอึดอัดเมื่อชายหนุ่มยังไม่มีทีท่าจะเงยหน้าขึ้นมาคุยด้วย “นั่งก่อนสิ คุณไม่เมื่อยหรือไง” “ เมื่อยแต่ฉันรีบ ฉันกลัวเดี๋ยวรถติด” ธมกานต์ผลักเอกสารพร้อมกับเงยหน้ามองหญิงสาวที่รบกวนจิตใจตนเองมาตลอดอาทิตย์ ธมกานต์ตะลึงกับภาพที่เห็นเมื่อหญิงสาวอ่อนหวานสดใสมาแต่งตัวเปิดหน้าเปิดหลังกระโปรงสั้นแถมแต่งหน้าจัดจ้าน ทรงผมเปรี้ยวดัดรอนสลวย “ไปทำไรมานี่” “ ก็เค้ามีธีมงานแบบนี้ ก็ต้องแต่งแบบนี้แหละ” “ ผมไม่ชอบให้คุณแต่งปาดหน้าปาดหลังแล้วดูสิกระโปรงก็สั้นแล้วนี่จะนั่งยังไง” “ โถ คุณธมกานต์ฉันไม่ได้มานั่งให้อาจารย์ฝ่ายปกครองตรวจนะ ฉั
บ้านพิพัฒนพงค์ “ เข้มไปเอาเหล้ามาอีก” เสียงตะโกนของเจ้านายหนุ่มทำเอาคนสนิทรีบวิ่งไปหยิบเหล้ามาอีกขวด “ นายครับนายเมาแล้วให้ผมพาขึ้นไปนอนนะครับ” “ ไม่ ใครว่าฉันเมาไม่เมา” ธมกานต์รู้สึกปวดใจไปกับคำพูดของหญิงสาวเมื่อตอนเย็นคำพูดแค่ไม่กี่ประโยคแต่มันทำเอาชายหนุ่ม รู้สึกน้อยใจเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหวและเป็นหนึ่งเหตุผลที่ตนเองต้องมานั่งเมาอยู่ตรงนี้ ตรีรินทร์กดส่งข้อความสั้นๆว่า ‘ ถึงบ้านแล้วไม่ต้องเป็นห่วง’ พร้อมกับบ่นพึมพำเบาๆ“ ปกติ อีตาบ้านี่ไม่เคยปิดเครื่องนี่นาเป็นอะไรของเค้าอีกนะ” ตรีรินทร์บอกความรู้สึกของตนเองไม่ถูกว่าทำไมต้องรู้สึกกังวลเมื่อไม่สามารถติดต่อชายหนุ่มได้ในตอนนี้อาจเป็นเพราะแววตาตัดพ้อที่คอยรบกวนอยู่ตลอดทั้งวันก็เป็นได้นึกไปนึกมาเค้าอาจจะลืมแล้วก็ได้ว่าสั่งอะไรเราไว้จะไปเครียดทำไมนอนดีกว่า วันรุ่งขึ้นตามเวลานัดสิบโมงเช้า ตรีรินทร์เดินเข้าบ้านแต่ปราศจากผู้คนมองสำรวจความเรียบร้อยซึ่งก็ครบร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มแล้วมองไปรอบๆด้วยความรู้สึกภูมิใจพร้อมกับถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกทั้งจากกล้องส่วนตัวและมือถือ “ อ้าวเข้มนั่นเอง ว่าไงจ๊ะคุณกานต์อยู่ไหมเค้านัดฉันมาส่งง
“ในฐานะที่เราเป็นครอบครัวเดียวกันนี้อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากที่ผมจะมาแจ้งให้ทุกคนทราบคือข่าวดีของผม” เสียงฮือฮาดังทั่วห้องนภาลัยแสงแฟลชดังติดๆกันนับสิบครั้งนักข่าวกรูเข้าไปหน้าเวที ในขณะนั้นหญิงสาวทั้งสี่นั่งทานก๋วยเตี๋ยวกันอย่างสนุกสนาน “ข่าวดีที่ว่านี้คือผมกำลังจะสละโสดผมกำลังจะแต่งงานเร็วๆนี้จึงอยากเรียนมาให้ทุกคนทราบและร่วมยินดีไปกับผม” แสงแฟลช ดังเป็นระยะๆ “ ขอบคุณครับขอให้ทุกท่านร่วมรับประทานอาหารก่อนตามอัธยาศัย” เมื่อธมกานต์ก้าวลงมาจากเวที นักข่าวที่แม้จะเป็นฝั่งเศรษฐกิจรีบกรูเข้าไปล้อมตัวนักธุรกิจหนุ่มฮอทในวงการไว้ “คุณกานต์ขาขอสัมภาษณ์หน่อยค่ะ” “ อ๋อครับ” “ กล้องพร้อมหรือยัง” เสียงตะโกนของนักข่าวดัง ธมกานต์ยิ้มเมื่อแผนทุกอย่างเดินไปตามเกมที่วางไว้ “ ตกลงคุณกานต์สละโสด นี่จริงๆ ใช่ไหมครับ” “ ก็ตามที่บอกนะครับ” “ กับจีจี้นางแบบแม็กซิมหรือครับ ที่เคยเป็นข่าวกัน” “ อ๋อ ไม่ใช่หรอกครับ จี้นี่เป็นเพื่อนตั้งแต่เมืองนอก คู่หมั้นผมนี่เป็นคนนอกวงการเธอทำงานด้านมัณฑนากรครับชื่อตรีรินทร์ มนัสสุกานต์ ครับเราเจอกันตอนเค้ามาตกแต่งบ้านผม แล้วแม่เค้ากับแม่ผมเป็นเพื่อน
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้