“ กริ๊งกริ๊งกริ๊ง”
ธมกานต์ก้มมองเบอร์เรียกเข้าแล้วอมยิ้มก่อนจะทำงานต่อปล่อยให้สายตัดไป “ อีตาบ้าทำไมไม่รับสายสักทีกวนประสาทไม่มีใครเกิน” ตรีรินทร์บ่นกับตัวเองในใจ “ กริ๊งๆ ๆ ๆ ” โทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มดังแล้วตัดสาย ไปเองสองครั้ง “ คนบ้าฉันรู้ว่าคุณแกล้งฉัน” ตรีรินทร์เริ่มหงุดหงิดและโมโหก่อนจะกดส่งข้อความว่า “ ถ้าคุณไม่รับสายฉันจะไม่โทรอีก” ธมกานต์ก้มลงอ่านข้อความแล้วอมยิ้มก่อนจะพูดว่า “ ขู่เสียด้วย” “ กริ๊ง..” “ ฮัลโหลธมกานต์พูด” “ กวนประสาท นี่คุณแกล้งไม่รับสายหรือไง คนบ้า” ตรีรินทร์ตะเบ็งเสียง “จุ๊ เบาๆ หน่อยคุณ แก้วหูผมจะแตก” “ บ้า คนบ้านี่คุณแกล้งไม่รับสายฉัน ปล่อยให้ฉันกดตั้งหลายครั้ง” “ รู้แล้วใช่ไหมเวลาโทรไปแล้วเค้าไม่รับสายมันหงุดหงิดยังไงผมก็รู้สึกแบบเดียวนี้กับคุณแหละแต่มากกว่า ผมโทรหาคุณเป็นร้อยหนคุณยังไม่รับเลยทีตัวเองโดนบ้างทำเป็นบ่น” ตรีรินทร์ถอนหายใจเฮือกก่อนจะพูดว่า” คุณจะเอาไง” “ เรื่องอะไรล่ะ” “ จะให้ฉันไปจบงาน คุณได้เมื่อไหร่” “ เดี๋ยวก่อนผมยังโกรธอยู่นะที่คุณให้คนอื่นมาทำงานของผมแต่เดี๋ยวเจอกันค่อยคุยกันดีกว่า” “ ถ้าไม่ให้ไปทำงานวันนี้ฉันก็ไม่ไปเอาวันที่คุณสะดวกดีกว่า” “ ผมยังโกรธบริษัทคุณอยู่ยังไม่หายโกรธนะคุณ คุณต้องมาพบผมที่คอนโดเย็นนี้ ไม่งั้นผมฟ้องบริษัทคุณแน่ที่ผิดสัญญา” ตรีรินทร์กัดฟันพูดด้วยความโมโห “ ให้ไปกี่โมง” “ ผมจะให้รถไปรับประมาณห้าหกโมงเย็น แล้วคราวนี้ห้ามงอแงถ้าไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วยเข้าใจไหม” “ เข้าใจไหม ตรีรินทร์” ธมกานต์กล่าวเสียงเข้ม “ ค่ะ” ตรีรินทร์กระแทกเสียงตอบ ตรีรินทร์เดินไปมาอย่างหงุดหงิดพลางบ่นพึมพำ “ อีตาบ้าให้คนมารับแล้วเมื่อไหร่จะมาเนี่ยให้ฉันมารอเป็นชั่วโมงแล้วนะ เดี๋ยวเถอะจะซัดให้น่วมเชียว” ตรีรินทร์กดโทรศัพท์หาชายหนุ่มพร้อมกับกัดฟันพูด “ นี่คุณเมื่อไหร่จะมาสักทีฉันจะกลับบ้านแล้วนะ” ธมกานต์อมยิ้มก่อนจะจอดรถใต้คอนโด “ แหม คุณรอแค่นี้ทำบ่นผมรอคุณมาสองสามวันยังไม่บ่นสักคำ” ตรีรินทร์ค้อนใส่โทรศัพท์พร้อมกับกล่าวว่า “ นี่คุณแกล้งฉันหรือไงจะเอาไงก็ว่ามา” ธมกานต์สอดคีย์การ์ดพร้อมกับเปิดประตูออกเห็นหญิงสาวหันหลังให้ประตู ผมยาวสลวยหญิงสาวในชุดทำงานแบบเก๋ทำเอาชายหนุ่มมองด้วยแววตาชื่นชมก่อนจะพูดว่า “ ผมมาแล้ว” ตรีรินทร์ตกใจพร้อมกันหันมาทำหน้ายุ่ง “ นี่คุณจะบ้าหรือไงให้ฉันมานั่งรอร่วมชั่วโมง ไม่ว่างก็ไม่ต้องนัดสิคุณเป็นนักธุรกิจอะไรนัดไม่เป็นนัด” หญิงสาวต่อว่าเป็นชุด “ ปกติผมก็ตรงเวลานะคุณแต่นี่เห็นเป็น เมีย ก็เลยไม่ต้องมารยาทมากก็ได้” ตรีรินทร์เหมือนถูกจี้ด้วยของร้อนพร้อมกับพูดว่า “ ใครเป็นเมียคุณเสียใจ ฉันไม่เคยยอมรับและจะไม่มีวันยอมรับ” ธมกานต์เหมือนถูกตบหน้าทำให้โทสะลุกโพลง “ ไอ้ที่เราทำกันที่หัวหินนั่นแหละ ผมต้องรับผิดชอบ” “ ไม่ต้อง ฉันไม่ต้องการ” ตรีรินทร์พูดเสียงแข็ง “ ทำไม” ธมกานต์จ้องมองตรีรินทร์ตาแทบทะลุ “ บอกแล้วไง ฉันนึกว่าหมาเยี่ยวใส่ ไม่ใส่ใจอยู่แล้ว” ธมกานต์ก้าวแค่ก้าวเดียวก็ถึงตัวตรีรินทร์พร้อมกับกระชากหญิงสาวเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับผลักให้ยืนตรงอ่างตรีรินทร์ตกใจใจเต้นแรงอย่างรู้สึกกลัว “ ด่าผัวตัวเองเป็นหมา ต้องโดนแบบนี้” ธมกานต์กดสบู่ล้างมือพร้อมกับล้างที่ริมฝีปากบางตรีรินทร์ดิ้น สบู่ทำให้หญิงสาวรู้สึกขมและคลื่นเหียน พร้อมกับตะลึงกับการกระทำของชายหนุ่ม ธมกานต์วักน้ำเข้าล้างปาก ตรีรินทร์ดิ้นรนแต่โดนเขาล็อคด้านหลัง หญิงสาวก็ถูกล็อคด้วยอ้อมกอดของชายหนุ่มเสื้อสีขาวเปียกชุ่มเพราะน้ำที่ชายหนุ่มวักใส่หญิงสาวต้องกอดอกเพราะความบางของเสื้อทำให้เห็นหน้าอกสาวอยู่เลือนลาง “ คราวหน้าจะโดนหนักกว่านี้ถ้าคิดจะด่าผัว” “ ปล่อยนะ อีตาบ้าผัวบ้าผัวบออะไรล่ะ เรียกฉันให้มาคุยเรื่องงานทำไมไม่คุย” ตรีรินทร์เริ่มปากสั่นด้วยความหนาวธมกานต์เอื้อมไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำพร้อมกับโยนใส่หญิงสาว “ ผมให้เวลาเปลี่ยนเสื้อออก เสื้อคุณเปียกหมดแล้วเดี๋ยวจะไม่สบายแล้ว อย่าทำเหมือนเมื่อกี้อีก ไม่งั้นจะโดนหนักกว่านี้” ธมกานต์เดินออกจากห้องน้ำไปด้วยใจที่เต้นระทึก ยิ่งได้เห็น ยิ่งอยากเข้าใกล้แต่อดใจไว้เพื่ออยากจะคุยกับธุระกับหญิงสาวให้เสร็จก่อน ธมกานต์ถอดเสื้อนอกเหลือแต่เชิ้ตสีขาวถอดเน็คไทพร้อมกับนั่งลงบนโซฟาในห้องโถง ตรีรินทร์เปิดประตูออกมาในมือถือเสื้อพร้อมกับยืนอึดอัดกับสายตาของชายหนุ่มที่มองมาอย่างมีความหมาย “ ขอยืมเตารีดหน่อยสิคุณ” “ ไม่มีหรอกเอามาสิผมเอาไปอบให้” ตรีรินทร์ยื่นเสื้อสีขาวที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำให้ชายหนุ่มและกำลังจะเบี่ยงหนี ชายหนุ่มเดินไปอีกทางแต่ก็ต้องตกใจเมื่อโดนชายหนุ่มโน้มมาหอมแก้มฟอดใหญ่ตรีรินทร์ตาโตตกใจ “ ค่าที่ผมจะช่วยคุณซักอบเสื้อ” “บ้า”ตรีรินทร์เช็ดแก้มเหมือนอยากลบรอยสัมผัสแต่ก็ต้องชะงัก เพราะได้ยินเสียงชายหนุ่มตะโกนมาว่า “ อย่าเสียเวลาเช็ดออกเลยคุณ เดี๋ยวจะต้องเช็ดทั้งคืน” ตรีรินทร์ชะงัก ใจเต้นแรงอย่างว้าวุ่น ตกใจ แล้วกังวลจะจัดการให้ชายหนุ่มออกไปจากชีวิตได้อย่างไร ธมกานต์กลับเข้ามาในห้องโถงพร้อมกับนั่งตรงข้ามกับหญิงสาว “ ถ้าคุณคิดว่าการที่คุณหลบหน้าผมแล้วโยนความรับผิดชอบให้คนอื่นทำแล้วผมจะยอม คุณคิดผิดนั่นแสดงว่าคุณยังไม่รู้จักสามีคุณ เดี๋ยวผมยังพูดไม่จบ ห้ามเถียง เรียนจนจบปริญญาตรีมาแล้วต้องมีความรับผิดชอบทำหน้าที่ของตนเองให้เสร็จไม่ใช่ทำตัวเป็นเด็กโกรธแล้ว หลบหน้าแล้วโยนความผิดชอบของตนเองให้คนอื่น ถ้าผมยอมผมคงไม่ใช่ ธมกานต์ พิพัฒนพงค์ ฉะนั้นผมจะบอกคุณว่าคุณหนีผมไม่พ้นหรอกอยากบอกคุณว่ากรุณาทำงานของตนเองให้เสร็จเข้าใจไหมตรีรินทร์” ตรีรินทร์เงียบจริงๆ ที่เค้าพูดมาก็มีส่วนถูกเราไม่น่าทำตัวเป็นเด็กเลยหญิงสาวนิ่งคิดก่อนจะตอบว่า “ ขอโทษค่ะที่แสดงให้คุณเห็นว่าเป็นเด็ก โอเคค่ะฉันจะไปทำงานให้เสร็จแต่ขอร้องอย่างหนึ่งระหว่างการทำงานคุณอย่ามายุ่งวุ่นวายฉันอยากทำงานเงียบๆ” ธมกานต์ ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะตอบว่า “ โอเค ตามใจคุณ” “ เสร็จธุระฉันแล้ว เมื่อไหร่เสื้อฉันจะอบเสร็จ ฉันจะกลับบ้าน” “ ใครบอกจะให้คุณกลับ ผมยังไม่ให้คุณกลับ” ตรีรินทร์ตาโตพร้อมกับละล่ำละลักว่า “ ไม่ได้หรอก กลับบ้านดึกแม่จะเป็นห่วง” “ อย่าทำเป็นอินโนเซ้นต์เลยคุณ ถ้าห่วงเรื่องแม่คุณเดี๋ยวผมจะโทรไปขออนุญาตเอง” “ ไม่ต้อง!! คุณจะให้ฉันทำอะไรอีกว่ามา” ธมกานต์ก้าวแค่ก้าวเดียวก็ถึงตัวหญิงสาวพร้อมกับคว้าเอวจนทำให้ร่างบอบบางแนบชิดร่างชายหนุ่มแทบจะไม่มีช่องลมลอดผ่าน “ ผมคิดถึงคุณมากนะรินทร์ต่อไปอย่าพยศกับผมแบบนี้อีกรู้ไหม” ตรีรินทร์ใจเต้นแรง..กับคำบอกความรู้สึกของชายหนุ่มก่อนจะดิ้นเพื่อที่จะให้หลุดจากอ้อมแขนของชายหนุ่ม ยิ่งดิ้นธมกานต์ยิ่งรัดแน่นจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นของกันและกัน ตาจ้องตาระยะใกล้ก่อนที่ธมกานต์จะก้มลงจูบที่ริมฝีปากบางอย่างหนักหน่วงอ่อนหวาน มือน้อยๆที่ทั้งผลักทั้งทุบจนชายหนุ่มต้องจับมือน้อยทั้งสองด้วยมือ มือเดียวริมฝีปากหนายังบดจูบอย่างดูดดื่มมือลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง มือสอดเข้าสัมผัสแผ่นหลังขาวนวล ก่อนจะอ้อมมาด้านหน้า ริมฝีปากจูบเคล้นริมฝีปากบางอย่างดูดดื่มเรียกร้องอ่อนหวาน มือของชายหนุ่มราวกับปลาหมึก ทั้งบีบเคล้นและลูบไล้หน้าอกสาว อย่างนุ่มนวล ส่วนริมฝีปากจูบไซร้ซอกคอขาวอย่างเรียกร้อง “ ไม่นะคุณกานต์ ไม่เอาพอแล้ว ไม่นะ” “ ขอผมเถอะนะรินทร์ คุณน่ารักไปทั้งตัวแบบนี้ ใครจะอดใจไหว สองวันนี้คิดถึงคุณแทบบ้า มาถึงป่านนี้ผมหยุดตัวเองไม่ได้หรอก” ริมฝีปากจูบระที่ซอกคอขาว ตรีรินทร์สยิวไปทั่วเรือนร่าง เมื่อชายหนุ่มจูบไซ้ถึงติ่งหูขาวสวย จนเผลอครางออกมาเบาๆ แล้วรู้สึกตัวว่ามีเสียงโทรศัพท์ดังรบกวน ตรีรินทร์ได้สติพร้อมกับผลักทั้งดิ้น “ แม่ โทรศัพท์แม่ค่ะ เดี๋ยวนะให้รินทร์พูดกับแม่ก่อน” ธมกานต์หยุดอย่างเสียดายพร้อมกับคว้ากระเป๋าหญิงสาวพร้อมกับล้วงหาโทรศัพท์พร้อมกับส่งให้หญิงสาว “ แม่คะ เป็นไงบ้าง” “ แม่ยังอยู่อยุธยานะลูก คงไม่กลับบ้านนะ หมอจะมาบอกผลเช็คพรุ่งนี้เช้า รินทร์อยู่บ้านคนเดียวได้ใช่ไหมลูก” “ ค่ะแม่รินทร์อยู่ได้ค่ะ สบายมาก รินทร์รักแม่นะ” “ แม่ก็รักรินทร์” แม่แก้วพูด ธมกานต์ได้ยินบทสนทนาคร่าวๆระหว่างแม่ลูก พอจับได้ว่าหญิงสาวคงอยู่บ้านคนเดียว ธมกานต์สวมกอดหญิงสาวทางด้านหลังพร้อมกับจูบที่ไหล่ขาว ตรีรินทร์สะดุ้งเผลออุทานออกมาจนทำให้แม่แก้วตกใจ “ เป็นอะไรยัยรินทร์” “ เออ ไม่เป็นไรค่ะแม่มดมันกัด” พร้อมกับจ้องมองชายหนุ่มด้วยสายตาต่อว่า “ แม่คะ แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ รินทร์มีงานทำต่อค่ะ” “ จ๊ะ ลูกแล้วเจอกัน” ตรีรินทร์วางสายพร้อมกับถอนหายใจโล่งอก “ คืนนี้ค้างกับผมที่นี่นะครับรินทร์” “ ไม่นะฉันจะกลับบ้าน” ตรีรินทร์ปฏิเสธเสียงหลง “ คุณต้องค้างกับผมที่คอนโด คืนนี้ไม่งั้น ผมเอาเรื่องบริษัทคุณแน่ๆ” “ นี่คุณขู่ฉันหรือไงฉันค้างที่นี่ไม่ได้หรอกเดี๋ยวแม่เป็นห่วง” “ แม่คุณอยู่ต่างจังหวัด จะรู้อะไร” “ บ้า นี่คุณแอบฟังฉันคุยกับแม่เหรอ คนไม่มีมารยาท” “ ผมยืนยันคืนนี้ต้องค้างที่นี่แม่คุณกลับจากต่างจังหวัดผมจะให้แม่ไปสู่ขอคุณ เราจะแต่งงานกัน” “ บ้า ไม่นะ ฉันไม่แต่งงานกับคุณ” “ จนขนาดนี้แล้วจะเล่นตัวไปถึงไหนเราเป็นอะไรกันคุณรู้อยู่แก่ใจผมรู้ว่าคุณไม่เคยมาก่อน ผมอยากรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ” “ ไม่ต้องฉันไม่ต้องการขอร้องเถอะนะคุณธมกานต์ขอให้เราจบกันแค่ตรงนี้ ทำงานเสร็จต่างคนต่างอยู่ไม่ได้เหรอคะ ฉันไม่เรียกร้องกับสิ่งที่มันเสียไปถือว่าทำทาน” เหมือนจะจุดไฟให้ลุกโพลง ธมกานต์จับต้นแขนแรงก่อนจะพูดว่า “ เราต้องแต่งงานกัน ล่วงเลยมาขนาดนี้แล้ว ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่เราต้องแต่งงานกัน คุณเป็นของผมคนเดียว คนเดียวเท่านั้น” “ สิบล้าน ยอมแต่งงานกับผม ผมให้สิบล้าน” ตรีรินทร์ตะลึงก่อนจะสะบัดมือเข้าที่ใบหน้าชายหนุ่มอย่างแรง “ ไม่ว่า เท่าไหร่ ฉันก็ไม่แต่งงานกับคุณบอกไว้เสียด้วย” “ แล้วเรามาดูกันผมต้องทำให้คุณแต่งงานกับผมให้ได้คอยดูกันไปตรีรินทร์” ตรีรินทร์น้ำตาไหลความรู้สึกตอนนี้เจ็บใจ เคียดแค้น อึดอัดใจแต่ในส่วนลึกกลับรู้สึกสุขใจที่ได้อยู่ใกล้ๆ ชายหนุ่ม “ จะร้องไห้ทำไม คุณรู้ไหมผู้หญิงอีกเป็นร้อยอยากได้ผมเป็นคู่ควงเป็นแฟนแต่คุณนี่ร้องไห้หาพระแสงอะไรเนี่ย” “สิ่งที่ผมทำมันไม่เคยทำให้คุณรู้สึกดีใช่ไหม” ตรีรินทร์อึ้งที่โดนตัดพ้อไม่มีคำพูดธมกานต์ปล่อยต้นแขนก่อนจะสะบัดตัวไปยืนอยู่ที่ระเบียระงับสติอารมณ์พลางคิดในใจ “ เราจะทำยังไงดีหลงรักเค้าเข้าเต็มเปาแล้ว ดูสิเค้าไม่แคร์เราสักนิดแถมยังจะผลักไส ให้ไปไกลๆ อีกจะทำยังไงดี” ธมกานต์คิดไปมาอย่างวุ่นวายใจ ตรีรินทร์ยืนงงกับท่าทางของชายหนุ่มก่อนจะนั่งลงที่โซฟา “ เป็นบ้าอะไรของเค้าแล้วมางอนอะไรเราเนี่ย ทำยังไงจะได้กลับบ้านนะถ้าขืนไปโวยวายคงไม่ได้กลับบ้านแน่คนแบบนี้ใช้ไม้แข็งไม่ได้โอ๊ย ทำไงดีเริ่มจะหิวแล้วสิไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่บ่าย” ตรีรินทร์เดินตามหาชายหนุ่มเห็นมานอนที่ระเบียงที่เก้าอี้ยาวที่วางไว้สองตัว “ คุณธมกานต์คะฉันอยากกลับบ้านแล้วก็หิวข้าวมากด้วยไว้เราค่อยทะเลาะกันต่อวันหลังนะคะ” เสียงอ่อนหวานข้างๆทำให้ธมกานต์ซึ่งหลับตาด้วยความอ่อนล้าลืมตาตื่น จริงสินะเค้าและเธอยังไม่ได้รับประทานอาหารเย็นชักหิวเหมือนกัน “ คุณไม่ได้กลับบ้านหรอกคืนนี้เราจะนอนกันที่นี่ ส่วนเรื่องทานข้าวเดี๋ยวออกไปทานข้างนอกกัน” ตรีรินทร์ค้านจะหาเรื่องเถียงกับชายหนุ่ม คืนนี้คงต้องยอมไปก่อน “ เสื้อฉันแห้งหรือยังฉันจะไปยังไงคุณคงไม่ให้ฉันสวมเสื้อคลุมไปทานข้าวกับคุณหรอกนะ” “ ผมซื้อเสื้อผ้าไว้ที่คอนโดให้คุณ เลือกสักชุดสิผมจะพาไปทานข้าวเร็วๆ นะไม่งั้นผมจะเปลี่ยนใจกินคุณแทนข้าว” ตรีรินทร์หันมาค้อนก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องนอนพร้อมกับเปิดตู้หาเสื้อผ้าใส่ต้องตะลึงกับเสื้อผ้าผู้หญิงที่อัดแน่นยี่สิบสามสิบชุดแต่ละชุดดูดีมีราคาทั้งนั้น ตรีรินทร์เลือกมาชุดหนึ่ง ก่อนจะหายไปแต่งตัวในห้องน้ำ ร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อดัง ธมกานต์จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาที่อ่อนหวานทำเอาตรีรินทร์สะท้านไปกับแววตาคมเข้มที่เหมือนจะสะกดจิต “ เลิกทะเลาะกันสักประเดี๋ยวไม่งั้นทานข้าวไม่อร่อยแน่ๆสมมุติว่าคุณมาทานข้าวกับแฟนที่คุณรักมากได้ไหมตรีรินทร์” เงียบ ตรีรินทร์เงียบแต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นในตอนนี้ได้แต่พยักหน้า ตรีรินทร์ยืนขึ้นก่อนจะคว้ากระเป๋า แต่ถูกอีกมือหนึ่งดึงกระเป๋าเอาไว้ “ จะไปไหน”“ กริ๊งกริ๊งกริ๊ง” ธมกานต์ก้มมองเบอร์เรียกเข้าแล้วอมยิ้มก่อนจะทำงานต่อปล่อยให้สายตัดไป “ อีตาบ้าทำไมไม่รับสายสักทีกวนประสาทไม่มีใครเกิน” ตรีรินทร์บ่นกับตัวเองในใจ “ กริ๊งๆ ๆ ๆ ” โทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มดังแล้วตัดสาย ไปเองสองครั้ง “ คนบ้าฉันรู้ว่าคุณแกล้งฉัน” ตรีรินทร์เริ่มหงุดหงิดและโมโหก่อนจะกดส่งข้อความว่า “ ถ้าคุณไม่รับสายฉันจะไม่โทรอีก” ธมกานต์ก้มลงอ่านข้อความแล้วอมยิ้มก่อนจะพูดว่า “ ขู่เสียด้วย” “ กริ๊ง..” “ ฮัลโหลธมกานต์พูด” “ กวนประสาท นี่คุณแกล้งไม่รับสายหรือไง คนบ้า” ตรีรินทร์ตะเบ็งเสียง “จุ๊ เบาๆ หน่อยคุณ แก้วหูผมจะแตก” “ บ้า คนบ้านี่คุณแกล้งไม่รับสายฉัน ปล่อยให้ฉันกดตั้งหลายครั้ง” “ รู้แล้วใช่ไหมเวลาโทรไปแล้วเค้าไม่รับสายมันหงุดหงิดยังไงผมก็รู้สึกแบบเดียวนี้กับคุณแหละแต่มากกว่า ผมโทรหาคุณเป็นร้อยหนคุณยังไม่รับเลยทีตัวเองโดนบ้างทำเป็นบ่น” ตรีรินทร์ถอนหายใจเฮือกก่อนจะพูดว่า” คุณจะเอาไง” “ เรื่องอะไรล่ะ” “ จะให้ฉันไปจบงาน คุณได้เมื่อไหร่” “ เดี๋ยวก่อนผมยังโกรธอยู่นะที่คุณให้คนอื่นมาทำงานของผมแต่เดี๋ยวเจอกันค่อยคุยกันดีกว่า” “ ถ้าไม่ให้
ไปห้องน้ำฉันปวดฉี่ได้ไหม ไปได้ไหม” ตรีรินทร์กระแทกเสียงด้วยความหงุดหงิด “ ไม่ต้องเอากระเป๋าไปไว้ใจคุณไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำก็ไปแต่ตัว ผมไม่ไว้ใจคุณ” ‘ อีตาบ้านี่รู้ทันไปหมดทุกเรื่อง’ จริงๆแล้วตรีรินทร์มีความตั้งใจว่าทำธุระเสร็จจะหนีออกทางหลังครัวเหมือนกัน ‘วันนี้คงต้องยอมเค้าไปก่อนละมั้ง’ ตรีรินทร์คิดอย่างวุ่นวายใจ พร้อมกับเดินไปที่ห้องน้ำของร้านอาหาร ตรีรินทร์ยืนครุ่นคิดอยู่ มุมเสาหน้าห้องน้ำอย่างว้าวุ่น ‘ถ้าหนีกลับไปตอนนี้เงินก็ไม่มีสักบาทกุญแจบ้านก็ไม่มีแถมแม่ก็ไม่อยู่บ้านอีก เฮ้อ ทำไงดีหรือจะขอไปนอนบ้านยัยอรเพื่อนรักดี แต่ถ้าไปอีตานี่ ต้องไปอาละวาดคุณพงค์อีกแน่ๆทำไงดีล่ะ เราจะทำยังไงดี’ ตรีรินทร์คิดในใจอย่างวุ่นวายใจก่อนจะสะดุ้ง เมื่อมีมือมาจับที่ต้นแขน “ มายืนอะไรตรงนี้คุณ ผมเกือบจะเข้าไปตามในห้องน้ำแล้วนะคิดหนีผมหรือไงบอกแล้วไม่มีทาง” ตรีรินทร์ค้อนชายหนุ่มก่อนจะพูดว่า “ใครบอกว่าฉันจะหนีคุณหาเรื่อง”แต่ในใจพูดว่า “ อีตาบ้านี่รู้ทันไปซะทุกเรื่องฉันจะทำยังไงกับคุณดีเนี่ย” “ กลับกันเถอะดึกมากแล้ว วันนี้ผมเพลียจังเครียดเรื่องคุณมาหลายวันตั้งแต่กลับจากหัวหินผ
ตรีรินทร์หันหน้ามาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มก่อนจะพูดน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายว่า “ นี่คุณหยุดรังควานฉันสักทีได้ไหม ขอฉันอยู่อย่างสงบตามลำพังสักพักได้ไหมวันนี้ไม่มีอารมณ์มาทะเลาะกับคุณนะขอบอก” ธมกานต์พึ่งสังเกตุว่าหญิงสาวหน้าซีด “ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าหน้าซีดๆ” “ ฉันไม่เป็นไร แต่วันนี้ขอตัวนะคุณไม่อยากทะเลาะด้วย ฉันขอตัวเข้าบ้านก่อน” ตรีรินทร์หมุนตัวจะกลับเข้าไปในบ้าน “ยังไปไหนไม่ได้ เรายังคุยกันไม่จบ” ธมกานต์กระชากไหล่บางแต่ต้องตกใจเมื่อสัมผัสกับความร้อนผ่าวของร่างกาย “ คุณเป็นอะไรเนี่ยตัวร้อนจัง” ธมกานต์จับเนื้อตัวมือแตะหน้าผากพร้อมกับสบถเบาๆ “ ไม่สบายแล้วยังทำเป็นเก่งอีก ไป ไปกับผม” ธมกานต์จับมือลากแต่หญิงสาวขืนตัวไว้ด้วยแรงที่เหลือน้อยนิด “ ไม่ไป ฉันจะเข้าบ้าน นี่คุณฉันไม่มีแรงจะทะเลาะด้วยหรอกนะวันนี้ฉันเหนื่อย” “ใครจะทะเลาะกับคุณ ไป ไปที่บ้านจะพาไปรักษา” “ ไม่ต้องเดี๋ยวกินยาอีกสักชุดก็หาย ขอร้องล่ะคุณกลับไปก่อนนะแล้ววันหลังเราค่อยทะเลาะกันใหม่” “ดื้อจริง มานี่” ธมกานต์อุ้มหญิงสาวขึ้นพร้อมกับตะโกนเรียก “เข้ม เปิดประตู” “ครับ” นายเข้มคนสนิทเมื่อเห็นเจ
ก๊อก ๆ “ หมอคงมาแล้วผมให้หมอมาตรวจคุณอีกรอบเมื่อคืนเค้าฉีดยาให้คุณแล้วหนึ่งเข็ม” ธมกานต์เล่าให้หญิงสาวฟัง “ ว่าไงครับคนป่วยหน้าตาสดใสขึ้นนี่” “สวัสดีค่ะคุณ หมอ” ตรีรินทร์ทัก พร้อมกับขมวดคิ้วจ้องมองหมอหนุ่มก่อนครุ่นคิดว่าเคยเจอหมอเอกชัยที่ไหนมาก่อนแน่ๆ ระหว่างที่หมอกำลังตรวจตรีรินทร์ก็จ้องมองหมอหนุ่มจนหมอหนุ่มหน้าร้อนผ่าวที่สาวสวยตรงหน้าจ้องมองแบบเอาจริงเอาจัง “ เอ เคยเห็นแน่ๆ ใครนะ เคยเห็นที่ไหนนะ” ตรีรินทร์คิดหนัก ธมกานต์มองอากัปกิริยาของหญิงสาวแล้วกัดฟันกรอดหน้างอ ตาพร้อมจะเอาเรื่อง “ รินทร์คุ้นหน้าหมอจังค่ะเราเคยรู้จักกันหรือเปล่าคะหมอ รินทร์เหมือนรู้จักหมอมาก่อน นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน” ตรีรินทร์ยิ้มหวานตาเป็นประกาย “ นั่นสิครับมองหน้าคุณรินทร์ชัดๆ หมอก็คุ้นหน้าคุณเหมือนกัน” ธมกานต์อดรนทนไม่ไหวขยับขึ้นไปนั่งบนเตียงก่อนจะกระซิบข้างๆ หูหญิงสาวพร้อมกับกัดฟันพูดว่า “ มุขน้ำเน่าคุ้นหน้าจัง เคยเจอกันมาหรือเปล่า เสียเวลาอ่อยเหยื่อเปล่าๆ เจ้าเอกมันมีแฟนแล้วกำลังจะหมั้นและแต่ง เร็วๆนี้ เสียเวลาเปล่าตรีรินทร์” ตรีรินทร์หันมาจ้องหน้าชายหนุ่มพร้อมก
“ นมเคยเห็นคุณแก้วแค่สองสามหนเองค่ะ ไม่แปลกหรอกที่คุณรินทร์จะจำป้าไม่ได้” เสียงรถยนต์เลี้ยวเข้ามาสู่บริเวณบ้าน “ คุณกานต์กลับบ้านเร็วจังสงสัยเป็นห่วงคุณรินทร์” ตรีรินทร์หัวใจเต้นแรงแต่พยายามทำหน้าเฉยพร้อมกับนั่งลงที่โซฟา ธมกานต์เดินเข้ามาในบริเวณห้องรับแขกเห็นนมอิ่มยืนอยู่ข้างๆมีหญิงสาวที่รบกวนจิตใจตนเองมาตลอดทั้งวันแหวนเข้ามารับกระเป๋าและเสื้อสูทเพื่อเอาไปเก็บ “ ผมกลับมาแล้วครับนมอิ่ม ขอเบียร์เย็นๆ สักแก้วนะครับร้อนจัง” “ได้ค่ะ คุณกานต์”ธมกานต์เดินเข้ามาใกล้ตรีรินทร์ขยับหนีจนชิดพนักเก้าอี้ก่อนจะตกใจเมื่อชายหนุ่มโน้มเข้ามาหอมแก้มและหน้าผากนูนสวย “ เป็นไงคุณดีขึ้นไหมผมคิดถึงคุณตลอดทั้งวัน” นมอิ่มหันมายิ้มกับภาพที่เห็น หญิงชราปลื้มใจที่เห็นนายน้อยที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กดูจะมีความสุขเพราะแววตาสดใสตรีรินทร์หน้าร้อนเขินที่ชายหนุ่มแสดงออกอย่างเปิดเผย “ ฉันดีขึ้นมากแล้วอยากกลับบ้านแล้วค่ะ” “ อย่าพึ่งเลยพักอีกสักวันสองวันเถอะนะ บ้านคุณไม่หนีไปไหนหรอกอีกอย่างแม่คุณก็ฝากให้ผมดูแลคุณด้วย” “ แต่ว่า ฉัน...” “ ไม่ต้องแต่ ผมหิวข้าวจังเดี๋ยวทานข้าวกันเถอะผมขอตัวไปอาบน้ำก่อน “ธมก
เช้าวันรุ่งขึ้น ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูกระหน่ำ “ คุณรินทร์ขา ตื่นหรือยังคะ” เสียงแหวนตะโกนอยู่หน้าห้องตรีรินทร์ตกใจพร้อมกับหันไปมองที่นอนข้างๆ ที่ยังเรียบสนิท “ เอ อีตาบ้านั่นไปนอนที่ไหน สงสัยจะโกรธ ช่างประไรใครเค้าสนใจด้วยล่ะ” ตรีรินทร์บ่นกับตัวเองพร้อมกับตะโกนตอบแหวน “ เปิดเข้ามาได้เลยจ๊ะรินทร์ตื่นแล้ว” แหวนเปิดประตูพร้อมกับละล่ำละลักพูด “ คุณรินทร์ขาลงไปหานมอิ่มด้วยค่ะ นมให้หนูมาตามคุณไปพบด่วนค่ะ” “แหวนลงไปก่อนนะจ๊ะ บอกอีกห้านาทีเดี๋ยวรินทร์ตามไปขอเวลาล้างหน้าแปรงฟันห้านาทีจ๊ะ” “ ค่ะ เร็วๆ นะคะ” ตรีรินทร์งุนงงกับท่าทางร้อนใจของแหวน “ทานยาหน่อยสิคะทูนหัวของนมไม่งั้นตัวร้อนมากๆ จะชักเอาได้นะคะเหมือนตอนเด็กๆ ไงคะ” “ ไม่ ผมไม่กิน นมออกไปก่อน ผมอยากอยู่คนเดียว ” “ โถ คุณกานต์ไม่สบายแบบนี้ไม่ดื้อนะคะ คุณแม่ก็ไม่อยู่เกิดคุณกานต์เป็นอะไรไปนมแย่แน่ๆ เลยเชื่อนมนะคะ คนดี้ คนดีทานยาสักหน่อย โธ่ ตัวร้อนจี๋เลย” “ ผมบอกว่าไม่ก็ไม่” ตรีรินทร์เคาะประตูพร้อมกับเปิดเข้าไปนมอิ่มยิ้มกว้าง “คุณรินทร์มาพอดีช่วยนมด้วย ดูคุณกานต์สิคะตัวร้อนจี๋แบบนี้ยังไม่ยอมทานย
ธมกานต์ขับรถเร็ว ตาก็มองหาหญิงสาวด้วยใจว้าวุ่นด้านตรีรินทร์มองสองข้างทางที่มืดสนิทใจเต้นแรงด้วยความกลัวน้ำตายังไหลไม่ขาดสายสองเท้าก็ย่ำเดินไปข้างหน้าอย่างไม่รู้ทิศทาง ธมกานต์ยิ้มออกเมื่อมองเห็นด้านหลังของหญิงสาวเค้ามั่นใจว่าใช่แน่แค่มองข้างหลังก็จำได้ธมกานต์เร่งเครื่องพร้อมกับไปจอดเทียบข้างๆหญิงสาว ตรีรินทร์ได้ยินเครื่องยนต์ตอนแรกนึกดีใจว่าอาจเป็นชาวบ้านแถวนี้จะได้ขอติดรถไปปากซอยแต่เมื่อมองชัดว่าเป็นรถของชายหนุ่มที่เป็นต้นเหตุให้เธอเดินออกจากบ้านมาตรีรินทร์รีบเร่งฝีเท้าแทบจะเป็นวิ่งแต่ก็ต้องตกใจเมื่อรถมาจอดข้างๆ หน้าต่างรถด้านข้างคนขับเลื่อนลงพร้อมกับเสียงตะโกนของชายหนุ่ม “ นี่คุณบ้าหรือเปล่าเดินออกมาทั้งสภาพแบบนี้รู้ไหมตัวเองมีสารรูปแบบไหนไม่กลัวใครฉุดไปหรือไง” ตรีรินทร์เงียบพร้อมกับเดินต่อเสมือนไม่ได้ยินเสียงชายหนุ่ม “ นี่คุณ หูหนวกหรือเปล่าเนี่ย ผมพูดกับคุณอยู่นะ ขึ้นรถมาเดี๋ยวนี้เลยตรีรินทร์อย่าให้ผมโมโหยิ่งไปกว่านี้นะ” น้ำเสียงชายหนุ่มยังฉุนเฉียว “ ไม่ จะไปตายที่ไหนก็ไปอย่ามายุ่งกับฉัน” ตรีรินทร์หันมาตะโกนใส่หน้าชาย
“ เข้ม คุณกานต์อยู่ไหม” นาย เข้มคนสนิทของธมกานต์วิ่งออกมารับหน้าอาคันตุกะสาวแอบมองเครื่องแต่งตัวของหญิงสาวพร้อมกับลอบกลืนน้ำลายจามิกาใส่เสื้อรัดรูปสีดำกางเกงขาสั้นสีแดงเสื้อรัดรูปคว้านกว้างจนเห็นร่องนมอวบอิ่ม “ ได้ยินไหม ฉันถามว่าคุณกานต์อยู่ไหม” “ ไม่อยู่ครับ” “ ไปไหนรู้ไหม” “ ไม่รู้ครับ” “ โง่จริงคนบ้านนี้เจ้านายไปไหนสักคนไม่มีคนรู้เลย บ้า บ้า บ้า” จามิกากระทืบเท้าด้วยความเจ็บใจ “ ฉันจะไปรอที่ห้องนั่งเล่นไปเอาไวน์แดงมาให้ฉันดื่มด้วยเร็วๆ ” “ ครับ” ธมกานต์ชะลอรถเมื่อใกล้ถึงบ้านหญิงสาวตรีรินทร์รู้สึกดีใจที่จะได้กลับบ้านเมื่อรถแล่นใกล้ตรีรินทร์แทบจะหยุดหายใจภาวนาให้ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่นแล้วรถของชายหนุ่มก็แล่นผ่านหน้าบ้านไป ตรีรินทร์เหลียวหลังไปมองบ้านพร้อมกับตะโกนลั่น “ คุณจอดสิบ้านฉันหลังโน้นคุณแกล้งขับผ่านใช่ไหมเนี่ยจะแกล้งให้ฉันเดินย้อนกลับไปหรือไงคนบ้า” “ ใครบอกคุณว่าผมจะจอด ผมก็แค่พาคุณมาส่งดูบ้านซึ่งคุณก็เห็นแล้วไงทีนี้ก็กลับบ้านเราได้แล้วดึกมากแล้วอีกอย่างผมเริ่มหิวแล้วด้วย” “ บ้า นี่คุณแกล้งโง่หรือไง ฉันอยากกลับบ้าน ไม่ใช่แค่มองแต่อยากกลับมาอยู่ เข้าใจไหม
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้