เช้าวันอาทิตย์
เสียงกริ่งโทรศัพท์รบกวนจนตรีรินทร์ต้องเอาหมอนปิดหูแต่เสียงกริ่งโทรศัพท์ยังรบกวนเป็นระยะๆ ตรีรินทร์พึ่งกลับมาตอนตีห้าเธอและเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัยนัดเลี้ยงรุ่น เฉกเช่นทุกปี ไม่ต้องพูดว่าสนุกแค่ไหนจากร้านโน้นออกร้านนี้จนต้องไปจบร้านข้าวต้มแถวๆ เยาวราช กลับเข้าบ้านมาเจอแม่กรองแก้วกำลังเตรียมตัวตักบาตร ตรีรินทร์ตักบาตรกับแม่กว่าจะได้เข้านอนก็เจ็ดโมงเช้าจึงรู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ตอนเก้าโมง “รินทร์ค่ะ” เสียงงัวเงีย “กี่โมงแล้วยังไม่ตื่นนอนอีกเหรอคุณ” เสียงทุ้มคุ้นหูทำให้ตรีรินทร์รู้สึกหงุดหงิดแต่เช้า “นี่คุณธมกานต์ วันนี้เป็นวันหยุดของฉัน ขอฉันอยู่สงบๆไม่ได้ยินเสียงคุณสักวันจะขอบคุณมาก ” ตรีรินทร์พูดจบก็กดปิดโทรศัพท์ ธมกานต์ฉุนกึกที่โดนหญิงสาววางหูใส่ โทรกลับหาหญิงสาวก็ไม่ยอมรับ รู้สึกโกรธหญิงสาวอย่างบอกไม่ถูก ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาธมกานต์พยายามหาวิธีได้พูดได้เจอกับหญิงสาวทุกวัน แต่กว่าจะได้เจอธมกานต์ก็ต้องพยายามเอาเรื่องงานมาบังหน้าจนบางครั้งรู้สึกสมเพศตนเองไม่น้อย เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังอยู่เกือบสามสิบครั้ง จนตรีรินทร์ชักโมโหจนไม่อาจนอนฟังเสียงโทรศัพท์อีกได้ “นี่คุณธมกานต์หัดเกรงใจคนอื่นเค้าบางสิ นี่มันวันหยุดของฉันนะ วันนี้ฉันไม่คุยเรื่องงาน สวัสดีค่ะ” “ใครบอกว่าผมจะคุยกับคุณเรื่องงาน” “งั้นมีอะไรพูดมาเร็ว ๆ ฉันง่วงนอน” “ไปทำอะไรมาถึงง่วงนอน” “ไปเที่ยว พึ่งกลับมาเมื่อเช้า” “คงไประเริงกับแฟนมาสิท่า นี่คุณเป็นผู้หญิงรักนวลสงวนตัวบ้างก็คงจะดีนะ” น้ำเสียงต่อว่าทำให้ตรีรินทร์เลือดขึ้นหน้า ก่อนจะตอบไปว่า “เรื่องของฉันคนอื่นไม่เกี่ยว แค่นี้ใช่ไหมธุระของคุณ” “ไม่ใช่ ผมอยากจ้างให้คุณไปงานเลี้ยงเป็นเพื่อนผมเย็นนี้หน่อยคิดเป็นชั่วโมงได้เลย” “เสียใจ ฉันเป็นมัณฑนากรนะคุณ ไม่ใช่พริตตี้ ไปหาข้างหน้าละกัน อีกอย่างเงินของคุณซื้อฉันไม่ได้” ตรีรินทร์กระแทกเสียงก่อนจะวางหู ตรีรินทร์กดปิดเครื่องก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อ ในใจนึกด่าชายหนุ่ม ‘อีตาบ้านี่คิดว่าจะใช้เงินมาฟาดหัวฉันได้หรือไง ฝันไปเถอะ’ ธมกานต์เดินไปเดินมาอยู่หลายนาทีก่อนจะนึกออก แบบนี้มันต้องมีผู้ช่วย “แม่ครับ แม่ครับ แม่อยู่ไหน” คุณหญิงมณีจันทร์ซึ่งง่วนอยู่กับต้นไม้หน้าบ้านหันไปตามเสียงเรียกของลูกชาย “แม่อยู่ข้างนอกนี่จ๊ะกานต์” ธมกานต์เดินมาจูงมือมารดาให้เดินเข้าบ้านก่อนจะพูดว่า “แม่ครับกานต์มีเรื่องให้ช่วย” “โถทำไมไม่คุยกับน้องเองล่ะลูก เดี๋ยวนี้คาสโนว่าต้องพึ่งแม่แล้วเหรอเนี่ย” เสียงคุณหญิงมณีจันทร์หัวเราะร่วน หลังจากได้ฟังเรื่องราวจากบุตรชาย “โถ แม่ครับ ก็คนดีของแม่เค้าดื้อรั้นออกแบบนั้น ขนาดกานต์เสนอจะให้เงินเค้าตั้งหลายหมื่นเค้ายังไม่เอา เด็กบ้า” “ตายแล้วกานต์ ทำไมไปทำแบบนั้นกับน้องล่ะลูก ผู้หญิงดีๆ เค้าไม่บ้าเงินเหมือนผู้หญิงของกานต์หรอก” “แม่ไปเป็นเพื่อนกานต์ นะครับแม่ ไปบ้านรินทร์นะครับแม่” น้ำเสียงประจบทำเอาคุณหญิงมณีจันทร์ส่ายหัวด้วยความเอ็นดู ธมกานต์นึกถึงคำพูดของมารดาแล้วก็คล้อยตาม ที่เมื่อคราวก่อนที่ตนปล่อยให้จามิการอเก้อในโรงภาพยนตร์ จำได้ว่ารุ่งขึ้นอีกวันนางแบบสาวมาโวยวายซะใหญ่โตที่โรงแรมแต่พอเค้าเซ็นต์เช็คให้ห้าหมื่นเป็นสิ่งปลอบขวัญ นางแบบสาวก็เงียบ ธมกานต์คิดเสมอว่าเงินซื้อได้ทุกอย่างแต่ตอนนี้ทฤษฎีนี้คงใช้กับหญิงสาวที่ชื่อ “ ตรีรินทร์” ไม่ได้สินะ เกือบเที่ยงวันตรีรินทร์เดินออกจากห้องแต่ต้องตกตะลึงเมื่อสบสายตากับชายหนุ่มที่นั่งในเก้าอี้ไม้หวายตรงข้ามกับห้องนอนของเธอ “คุณเข้ามาในนี้ได้ไง แล้วแม่แก้วไปไหนใครอนุญาตให้คุณเข้ามา” “มาเป็นชุดเชียว นอนอิ่มแล้วเหรอคุณ แม่คุณสิเปิดประตูให้ผมเข้ามา” ตรีรินทร์หน้างอ ก่อนจะพูดว่า “นี่คุณจะตามรังควานฉันไปถึงไหนเนี่ย แล้วมีธุระอะไร” “ธุระเดียวกับที่คุยกับคุณเมื่อเช้า” “ฉันบอกว่าไม่ ก็ไม่สิคุณ” “แต่ผมจะทำให้คุณไปงานกับผมเย็นนี้ให้ได้ คอยดู” “เอาช้างมาลากฉันก็ไม่ไป” ตรีรินทร์พูดน้ำเสียงสะบัด “พนันกันไหมว่าคุณต้องไปกับผม” น้ำเสียงเป็นต่อทำให้ตรีรินทร์หมั่นไส้ชายหนุ่มอย่างบอกไม่ถูก “อ้าว ยัยรินทร์ตื่นแล้วเหรอลูก” เสียงแม่แก้วทักมาทางประตูบ้านเมื่อเห็นลูกสาวในชุดนอน ตรีรินทร์หันไปทางประตูก็ต้องตกใจที่เจอแม่ของชายหนุ่มเดินมากับแม่แก้ว “สวัสดีค่ะ คุณป้า” “เป็นไงจ๊ะ หนูรินทร์เห็นแม่เค้าว่าไปงานเลี้ยงรุ่นมา สนุกไหม” “สนุกค่ะ” ชายหนุ่มหันไปยักคิ้วล้อเลียนกับหญิงสาวที่เขารู้ความจริงจนได้ “ยัยรินทร์ คุณป้าเค้ามาขออนุญาตแม่ให้ลูกไปเป็นเพื่อนพี่เค้าหน่อย ป้ากับแม่มีนัดไปปฏิบัติธรรมกันและว่าจะค้างที่อยุธยาเลย” “แต่แม่คะ รินทร์ไม่มีเสื้อผ้า” “เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงจ๊ะ เดี๋ยวป้าจัดการให้” “ไปเป็นเพื่อนพี่เค้าหน่อยนะจ๊ะหนูรินทร์ งานเลี้ยงกลางคืนแบบนี้ ป้าไม่ค่อยชอบ อยากไปปฏิบัติธรรมกับแม่ของหนูมากกว่าจ๊ะ ถือว่าป้าขอร้องเถอะนะจ๊ะ” คุณหญิงมณีจันทร์เอ่ยปาก พร้อมกับจ้องมองหญิงสาวอย่างรักใคร่เอ็นดู “เออ คือว่า” ธมกานต์ยิ้มอย่างเป็นต่อ “หนูรินทร์ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวป้าจะส่งรถมารับแล้วจะให้จัดชุดให้หนูรินทร์นะจ๊ะ ตรีรินทร์อึดอัดแต่ด้วยสายตาของผู้เป็นแม่ ทำให้จำยอมตอบออกไปว่า “ ค่ะคุณป้า” ธมกานต์ยิ้มยั่ว ตรีรินทร์หันไปค้อนด้วยความหมั่นไส้ บ่ายสามโมงตรง ธมกานต์ ส่งรถมารับหญิงสาวเพราะตนเองต้องไปเตรียมงานที่โรงแรม ได้แต่ส่งข้อความมาว่าส่งรถมารับแล้ว เจอกันที่โรงแรมเวลาหกโมงครึ่ง ตรีรินทร์จำต้องนั่งมากับคนขับรถอย่างหงุดหงิดที่แพ้ชายหนุ่ม ทั้งๆที่ตั้งใจว่าเป็นตายยังไงก็จะไม่มางานนี้แต่ก็ไม่สามารถขัดคำสั่งมารดาและคำขอร้องมารดาของชายหนุ่มได้จึงนึกหงุดหงิดในใจ “น้องค่ะ อยากได้ประมาณไหนค่ะ” สาวประเภทสองเอ่ยถามขณะที่ตรีรินทร์กำลังเหม่อลอย “ คุณธมกานต์บอกคอนเซปต์เรียบ หรู แล้วคุณน้องจะว่าไงคะ” ตรีรินทร์เหลือบไปเห็นแมกกาซีนแฟชั่นเปรี้ยว จี๊ดที่นางแบบทำทรงผม ฟูหยิก แต่งหน้าจัดก็เกิดไอเดียพร้อมกับหยิบแมกกาซีน “หนูอยากได้แบบนี้ค่ะพี่” “จะดีหรือคะคุณน้อง แบบนี้พี่ว่าน่าจะไปเดินแฟชั่นโชว์มากกว่านะคะ” “เชื่อหนูเถอะค่ะพี่ รับรองคุณธมกานต์ต้องถูกใจแน่” ตรีรินทร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ ธมกานต์เดินวนไปวนมาจนรสสุคนธ์แอบมองอย่างสงสัย พฤติกรรมของบอสหนุ่ม “เจ้ากานต์รอสาวที่ไหนว่ะท่าทางงุ่นง่าน” ศักดิ์ชัยเพื่อนร่วมรุ่นเอ่ยทัก “ยุ่ง เข้าไปข้างในก่อน เดี๋ยวข้าตามไป” ธมกานต์เอ่ยไล่เพื่อนสนิท ตรีรินทร์เห็นภาพในกระจกแทบไม่เชื่อสายตาว่าเป็นตนเองนึกว่านางแบบเดินลงมาจากเวที การแต่งกายที่เปรี้ยวเข้ากับทรงผมมันดูไม่ใช่เธอสักนิด ถ้าไม่คิดจะแกล้งชายหนุ่มให้ขายหน้าเธอคงไม่กล้าที่จะแต่งกายแบบนี้ “รูปร่างคุณน้อง นี่สวย น่าจะมาเป็นนางแบบ สนใจไหมคะ พี่จะติดต่อให้” “สนใจค่ะตอนอยู่มหาลัยก็ได้ฝึกอยู่บ้าง นี่ค่ะเบอร์โทรหนู นอกเวลางานหนูรับได้ค่ะ” ตรีรินทร์ไหว้ขอบคุณก่อนจะเดินออกจากร้านอย่างเบิกบาน โชคดีเป็นบ้า นอกจากได้แกล้งชายหนุ่มแล้วยังจะได้งานพิเศษอีก ตรีรินทร์ยิ้มกับตัวเองอย่างดีใจ ชายหนุ่มแทบจะไม่เชื่อสายตาของตนเองเมื่อมองเห็นหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ผมที่ปกติยาวเหยียดตรงสลวย บัดนี้กลับกลายฟูฟ่อเหมือนฝอยขัดหม้อที่ไปอยู่กลางศีรษะ ริมฝีปากแดง เสื้อผ้าก็ผ่าโน่นแหวกนี่ ธมกานต์แทบจะอดกลั้นความโกรธเอาไว้แทบไม่อยู่แต่เมื่อมานึกว่าถ้าแสดงความโกรธออกไปหญิงสาวต้องได้ใจว่าแกล้งสำเร็จจึงตีหน้าเรียบสนิท “คุณแน่มากที่แต่งตัวได้ขนาดนี้ แม่ผมคงภูมิใจในตัวคุณมากที่มาเป็นตัวแทนท่านได้ดีเยี่ยม” ตรีรินทร์สะอึกก่อนนึกเสียใจที่ทำไปด้วยความคึกคะนองแต่ไม่ได้นึกถึงผลที่จะตามมา ช่างภาพบางคนที่ผ่านมาก็เริ่มเก็บภาพไปเรื่อยๆ “ฉันแต่งตัวไม่เหมาะสมใช่ไหมงั้นฉันกลับล่ะ” ตรีรินทร์ก้าวเท้า เตรียมตัวจะกลับ “ใครบอกจะให้คุณกลับ ละครยังเพิ่งจะเริ่มเล่นต่อให้จบสิคนสวย มานี่ มากับผม ไหนๆ คุณก็กล้าที่จะแต่งแล้ว กล้าให้ตลอดสิตรีรินทร์” ธมกานต์กระซิบข้างๆ เพราะคนที่ผ่านไปผ่านมาเริ่มมองที่เห็นหญิงสาวแต่งตัวแปลกประหลาดกว่าผู้หญิงที่มาในงาน ผู้หญิงคนอื่นล้วนแล้วแต่งกายดูเรียบหรูทั้งนั้น ตรีรินทร์รู้สึกประหม่าและเขินอายกับสายตาคนรอบข้างที่มองเธอเหมือนกับตัวประหลาด “ไปกันเถอะ สายมากแล้ว” ธมกานต์รุนหลังให้หญิงสาวเดินไปข้างหน้า “ฉันอยากกลับบ้าน” หญิงสาวกล่าวเสียงอ่อย “กลับไม่ได้ จนกว่าจะเสร็จงานของคุณ” ธมกานต์ทั้งจูง ทั้งลากให้หญิงสาวเดินตามเข้าไปบริเวณงาน เมื่อชายหนุ่มจูงมือหญิงสาวเข้างาน ทั้งช่างภาพและนักข่าวก็วิ่งกรูเข้ามาตรีรินทร์อยากจะเป็นลมแทนที่ชายหนุ่มข้างตัวจะอาย กลับเป็นเธอเองที่อายจนรู้สึกเหมือนไม่มีพื้นที่จะเดิน ในระหว่างที่หญิงสาวกำลังอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีแต่กลับมีมือมาสอดรอบเอวพร้อมกับเสียงกระซิบว่า “ยิ้มหวานๆเชิดหน้าไว้กล้าให้เหมือนกลับที่คุณกล้าจะแกล้งผมแค่แป๊บเดียวเดี๋ยวก็เสร็จ” ตรีรินทร์รู้สึกอุ่นใจแล้วมีกำลังใจขึ้นมากพร้อมกับยิ้มหวานสู้กล้อง “ทีหลังอย่าใช้วิธีนี้มาแกล้งผมอีกเพราะคุณนั่นแหละที่เสีย ไม่ใช่ผม” ตรีรินทร์เงียบอย่างสำนึกถึงความคึกคะนองของตน “พรุ่งนี้เจอกันที่บริษัทสิบโมงเช้า อย่าสาย” “ค่ะ เจ้านาย” ตรีรินทร์กระแทกเสียงตอบรับคำสั่ง บ้านสมุทรพงษ์ คุณนายสมรมารดาของนางแบบสาวโยนหนังสือพิมพ์เข้าที่กลางตัวของบุตรสาว “ยัยจี้ดูสิมัวแต่ไปช้อปปิ้งฮ่องกง ดูแฟนแกสิควงสาวใหม่ไปเปิดตัวงานใหญ่ของบริษัทเลย ดูสิกอดกันกลม” “ไหนแม่” จามิกาหายง่วงทันที มองเห็นภาพพร้อมกับกรี๊ดเต็มเสียงอย่างโหยหวน “กานต์หนอกานต์ มีคนใหม่นี่เอง ชวนไปฮ่องกงถึงไม่ไปด้วย” จามิกาหรือจี จี้ต่อว่าอย่างสุดแค้นมือขยำหนังสือพิมพ์ แววตาวาวระยับเหมือนแม่เสือที่พร้อมจะตะครุบเหยื่อ “ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าแกเป็นใครนังหน้าด้าน กล้ามาฉกของรักของฉันเหรอรู้จักจีจี้น้อยไป” “จะทำอะไรก็รีบๆ ทำ แบงค์ยื่นโนติสมาแล้ว อีกไม่นานเราก็จะไม่มีแม้แต่บ้านจะคุ้มกะลาหัว” คุณนายสมรกล่าว “รู้แล้วน่าแม่บ่นอยู่ได้ เบื่อจะตายอยู่แล้ว” จามิกาลุกขึ้นจากที่นอนพร้อมกับเดินเข้าห้องน้ำอย่างหัวเสียเช้าวันอาทิตย์ เสียงกริ่งโทรศัพท์รบกวนจนตรีรินทร์ต้องเอาหมอนปิดหูแต่เสียงกริ่งโทรศัพท์ยังรบกวนเป็นระยะๆ ตรีรินทร์พึ่งกลับมาตอนตีห้าเธอและเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัยนัดเลี้ยงรุ่น เฉกเช่นทุกปี ไม่ต้องพูดว่าสนุกแค่ไหนจากร้านโน้นออกร้านนี้จนต้องไปจบร้านข้าวต้มแถวๆ เยาวราช กลับเข้าบ้านมาเจอแม่กรองแก้วกำลังเตรียมตัวตักบาตร ตรีรินทร์ตักบาตรกับแม่กว่าจะได้เข้านอนก็เจ็ดโมงเช้าจึงรู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ตอนเก้าโมง “รินทร์ค่ะ” เสียงงัวเงีย “กี่โมงแล้วยังไม่ตื่นนอนอีกเหรอคุณ” เสียงทุ้มคุ้นหูทำให้ตรีรินทร์รู้สึกหงุดหงิดแต่เช้า“นี่คุณธมกานต์ วันนี้เป็นวันหยุดของฉัน ขอฉันอยู่สงบๆไม่ได้ยินเสียงคุณสักวันจะขอบคุณมาก ” ตรีรินทร์พูดจบก็กดปิดโทรศัพท์ ธมกานต์ฉุนกึกที่โดนหญิงสาววางหูใส่ โทรกลับหาหญิงสาวก็ไม่ยอมรับ รู้สึกโกรธหญิงสาวอย่างบอกไม่ถูก ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาธมกานต์พยายามหาวิธีได้พูดได้เจอกับหญิงสาวทุกวัน แต่กว่าจะได้เจอธมกานต์ก็ต้องพยายามเอาเรื่องงานมาบังหน้าจนบางครั้งรู้สึกสมเพศตนเองไม่น้อย เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังอยู่เกือบสามสิบครั้ง จนตรีรินทร์ชักโมโหจนไม่อาจนอนฟังเสียงโทรศัพท์อีกได้
“ รินทร์จ๊ะ ทางนี้จ๊ะ” นายตำรวจหนุ่มโบกมือให้สัญญาณ“ ขอโทษนะคะ มาสาย รถติดจังเลย”หลังจากรับประทานอาหารเสร็จนายตำรวจหนุ่มชวนให้ตรีรินทร์มานั่งเล่นที่สวนหน้า ร้านอาหาร“ รินทร์จ๊ะพี่มีของจะให้” แหวนเพชรวงกำลังน่ารักถูกยื่น มาข้างหน้าท่ามกลางความตกใจของตรีรินทร์“ พี่โต”“พี่รู้ว่าอาจเป็นการจู่โจมแต่รินทร์น่าจะรู้ว่าพี่รักรินทร์มานานแล้วอายุพี่ก็พอสมควรแล้วหน้าที่การงานพี่ก็พร้อม พี่สอบเทียบได้ยศนายร้อยตามที่ปฏิญาณไว้แล้วพี่ฝันมาตลอดตั้งแต่พี่สอบติดนายสิบตำรวจพี่ฝันมาตลอดว่าถ้าพี่สอบเทียบได้ยศนายร้อยพี่จะให้แม่มาขอรินทร์ผ่านมาหลายปีรินทร์ก็รู้พี่พยายามเพื่อรินทร์มาตลอดอยากให้รินทร์ภูมิใจในตัวพี่แม้จะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ตอนนี้พี่ทำสำเร็จแล้วนะรินทร์พี่ก็เลยอยากขอให้รินทร์มาร่วมสร้างครอบครัวกับพี่ได้ไหมรินทร์”โตมรใช้สายตาจ้องมองตรีรินทร์อย่างอ่อนหวานตรีรินทร์รู้สึกอึดอัดจะบอกตรงๆไปได้ไหมว่าเธอไม่ได้คิดกับเค้ามากไปกว่าพี่ชายคนสนิทแต่เมื่อนึกถึงที่ความพยายามตลอดมาของชายหนุ่ม ทำให้ตรีรินทร์ไม่อาจจะทำร้ายความรู้สึกของชายหนุ่มได้“ขอเวลารินทร์หน่อยนะคะพี่โต รินทร์ยังไม่พร้อม รินทร
หัวหินธมกานต์จอดรถหน้าบ้านพักตากอากาศหันมามองหญิงสาวที่นอนซบไหล่ด้วยแววตาหวงแหนใครจะว่าเค้าเป็นคนเห็นแก่ตัวก็คงไม่แคร์ เขาได้แต่บอกตัวเองว่าคงไม่ยอมให้หญิงสาวหลุดลอยไปได้ธมกานต์หันไปจูบที่หน้าผากของคนที่นอนหลับตรีรินทร์รู้สึกตัวเงยหน้ามองสบตาชายหนุ่มระยะห่างกันแค่หนึ่งคืบดวงตาคมเข้มส่งสายตาบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ตรีรินทร์ตัวอ่อนจนต้องรีบเรียกสติคืนมา‘ตรีรินทร์ตื่นสิอย่าไปหลงใหลได้ปลื้มกับรูปลักษณ์ของเค้า จำไม่ได้หรือไงอ้อมเกือบตายเพราะเค้าเราจะชอบเค้าไม่ได้ ตื่น ตื่น ตื่น’ ตรีรินทร์พูดกับตัวเองในใจพร้อมกับมองไปรอบๆ ตัว“นี่คุณ ที่นี่ที่ไหนแล้วคุณพาฉันมาที่นี่ทำไม จะคุยเรื่องงานทำไมมาซะไกลนี่จะค่ำแล้วนะคุณแม่ฉันรออยู่”“ได้ยินไหมที่ฉันถามเนี่ย” ตรีรินทร์ตะเบ็งเสียงถาม“ได้ยินอยู่ใกล้กันแค่นี้ ไม่ต้องตะโกนหรอก ผมพาคุณมาบ้านพักตากอากาศ ที่หัวหินแล้วไม่ต้องห่วงเรื่องแม่คุณ ผมโทรไปขออนุญาตแล้วอีกอย่างพรุ่งนี้แม่ผมกับแม่คุณจะไปนั่งวิปัสสนากันที่อยุธยาสามวันผมก็เลยขออนุญาตแม่คุณพาคุณมาเที่ยวสองสาววันไม่เห็นแม่คุณจะว่าอะไร ยังฝากผมดูแลคุณซะดิบดี”“ คนบ้า ใครบอกว่าฉันอยากมาเที่ยวกับ
ก็ผมบอกแล้วไงว่าเราต้องนอนด้วยกันผมสัญญาแล้วกันจะไม่ทำอะไรคุณถ้าคุณไม่ยินยอมโอเคไหมแต่ถ้าคุณยังพูดท่านั้นท่านี่ผมจะถือว่าคุณยั่วผม อ่อยผม”“ บ้า ประสาท ฉันเบื่อจะคุยกับคุณแล้วจะให้ฉันทำอะไร ทำยังไงก็บอกมาเลย”“ไปทานข้าวกันเถอะคุณทำใจให้สบายๆนึกว่ามาพักผ่อนแล้วเห็นผมเป็นเพื่อนคุณคนหนึ่งว่าไงตกลงไหม”“ ฉันมีทางเลือกทางอื่นไหมล่ะอยากให้ทำอะไรก็สั่งมาเลยดีกว่าฉันเบื่อจะทะเลาะกับคุณแล้วเพราะถึงเถียงยังไงก็ไม่เคยชนะคุณสักทีเพราะคุณมันใหญ่เหลือเกินนี่”ถ้อยคำจิกกัดของหญิงสาวยิ่งทำให้ธมกานต์คึกครื้นมากที่สุดในชีวิต“บอกตรงๆนะ ตรีรินทร์ผมไม่เคยนึกสนุกมากยังงี้มาก่อนในชีวิต ขอบคุณมาก”ตรีรินทร์มองหน้าชายหนุ่มอย่างคาดไม่ถึง เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มธมกานต์อุ่นอาหารที่ให้คนไปซื้อมาพร้อมกับจัดโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว“ คุณคบกับแฟนมากี่ปีแล้วเนี่ยธมกานต์เอ่ยถาม แต่ตรีรินทร์กลับนั่งเฉย สีหน้าเรียบ“ว่าไง ได้ยินที่ผมถามหรือเปล่า”“ เจ็ดแปดปี แล้วมั้งฉันไม่แน่ใจ”“ คบกันนานไปไหมคุณ”“ พี่เค้าสอบนายสิบตำรวจ ฉันยังอยู่ประถมอยู่เลย”“ อืม รักกันยาวนานมากกกกกกกกกกกกกกก” ลากเสียงล้อเลียน“ ผมอยากให้กลับไ
ก็ผมบอกแล้วไงว่าเราต้องนอนด้วยกันผมสัญญาแล้วกันจะไม่ทำอะไรคุณถ้าคุณไม่ยินยอมโอเคไหมแต่ถ้าคุณยังพูดท่านั้นท่านี่ผมจะถือว่าคุณยั่วผม อ่อยผม”“ บ้า ประสาท ฉันเบื่อจะคุยกับคุณแล้วจะให้ฉันทำอะไร ทำยังไงก็บอกมาเลย”“ไปทานข้าวกันเถอะคุณทำใจให้สบายๆนึกว่ามาพักผ่อนแล้วเห็นผมเป็นเพื่อนคุณคนหนึ่งว่าไงตกลงไหม”“ ฉันมีทางเลือกทางอื่นไหมล่ะอยากให้ทำอะไรก็สั่งมาเลยดีกว่าฉันเบื่อจะทะเลาะกับคุณแล้วเพราะถึงเถียงยังไงก็ไม่เคยชนะคุณสักทีเพราะคุณมันใหญ่เหลือเกินนี่”ถ้อยคำจิกกัดของหญิงสาวยิ่งทำให้ธมกานต์คึกครื้นมากที่สุดในชีวิต“บอกตรงๆนะ ตรีรินทร์ผมไม่เคยนึกสนุกมากยังงี้มาก่อนในชีวิต ขอบคุณมาก”ตรีรินทร์มองหน้าชายหนุ่มอย่างคาดไม่ถึง เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มธมกานต์อุ่นอาหารที่ให้คนไปซื้อมาพร้อมกับจัดโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว“ คุณคบกับแฟนมากี่ปีแล้วเนี่ยธมกานต์เอ่ยถาม แต่ตรีรินทร์กลับนั่งเฉย สีหน้าเรียบ“ว่าไง ได้ยินที่ผมถามหรือเปล่า”“ เจ็ดแปดปี แล้วมั้งฉันไม่แน่ใจ”“ คบกันนานไปไหมคุณ”“ พี่เค้าสอบนายสิบตำรวจ ฉันยังอยู่ประถมอยู่เลย”“ อืม รักกันยาวนานมากกกกกกกกกกกกกกก” ลากเสียงล้อเลียน“ ผมอยากให้กลับไ
ขอให้เข้าใจที่ต้องทนฝืนอยู่ตอนนี้เพราะมันไม่มีทางเลือกเอากระเป๋าเงินมาคืนฉันสิฉันจะรีบกลับกรุงเทพฯทันที”ยิ่งหญิงสาวพูดยิ่งเหมือนไปตอกย้ำทำให้ธมกานต์อารมณ์ลุกโพลงด้วยความโกรธ“ แล้วนี่จะไปทานข้าวข้างนอกกันไหมเนี่ย เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ฉันตามอารมณ์คุณไม่ทันแล้วนะ”“ ไม่ไปแล้ว ไม่มีอารมณ์”“ แล้วใครบอกคุณว่าฉันผ่านสงครามมาแล้วหลายครั้งบ้าจริง”“ แฟนผู้หมวดคุณไง หึ เค้าว่าเค้าเป็นมากกว่าแฟนเป็นผัวคุณแล้วงั้นสิไม่นึกเลยว่าหน้าตาซื่อๆจะตีหน้าหลอกคนได้หน้าตาเฉย ทำเป็นเรียบร้อยต่อหน้าคุณแม่ นี่ถ้าแม่ผมรู้คงตกใจ”“ ไม่จริง พี่โตเค้าไม่ใช่คนแบบนั้นคุณใส่ร้ายเค้านะสิ”“ ใช่สิ ผมมันเป็นผู้ร้ายในสายตาคุณอยู่แล้วนี่ อยากคิดอะไรก็เชิญ”ธมกานต์ก้าวเข้ามาใกล้หญิงสาวทำให้ตรีรินทร์ขยับหนีจนร่างชนเข้ากับกำแพงหนา“ คุณจะทำอะไร บ้าไปแล้วเหรอ ไหนบอกว่าจะไม่ทำอะไรฉันไง”“ ก็ผมนึกว่าคุณเป็นสาวบริสุทธิ์ ตอนนี้รู้แล้วว่าผ่านอะไรๆ มาเยอะ อีกสักครั้งคงไม่สึกหรอผมให้คุณแสนหนึ่งเป็นไงนอนกับผมคืนเดียวดีกว่าทำงานตั้งเกือบครึ่งปีนะคุณ”ตรีรินทร์ตวัดมือกระทบใบหน้าชายหนุ่มอย่างแรงจนหน้าที่มีผิวสองสีแดงออกมาอย่างเห็นไ
“ ปล่อยฉันนะคนบ้า” ตรีรินทร์เริ่มข่วน เริ่มหยิกจนทำให้ธมกานต์จับมือไปไพล่ไว้ที่หลัง“ ทำเป็นดีดดิ้นเพื่อเพิ่มราคาหรือไงคุณ คุณนี่ยอมรับจริงๆว่าแสดงละครเก่งมากผมตบมือให้สิบครั้งเลย”“ พูดบ้าอะไรของคุณ ปล่อยฉันนะ ไม่ปล่อยใช่ไหม” ตรีรินทร์กระทืบเท้า“ โอ๊ย เด็กบ้า”ธมกานต์ปล่อยมือที่จับหญิงสาวเพราะแรงกระแทกบนเท้าที่แรงเต็มกำลังทำให้ชายหนุ่มแทบทรุด“ ฤทธิ์มากนักใช่ไหม” เมื่อตรีรินทร์ออกวิ่ง ธมกานต์ที่ไปทรุดนั่งก็คว้าข้อเท้าพร้อมกับลากหญิงสาวให้นอนไปกับพื้นพรมของห้องไปด้วยกัน“ มันส์จริงๆ ผมชอบ คืนนี้เท่าไหร่ผมก็สู้ เรียกมาได้เลยสาวน้อย”“ ไอ้บ้า ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะฉันจะไปแจ้งตำรวจคอยดู”“ ตามสบายข้อหาอะไรดี กักขัง หน่วงเหนี่ยวแม่คุณคงเป็นพยานให้ผมได้ว่าอนุญาตให้พาคุณมาเที่ยว”เสียงหัวเราะของธมกานต์ดังลั่นห้องตรีรินทร์ทั้งทุบ ทั้งข่วนชายหนุ่มจนธมกานต์รู้สึกเจ็บร้อนไปทั่วหน้าอกจนต้องจับมือหญิงสาวไปไขว้ไว้ก่อนจะกดริมฝีปากเพื่อปิดปากที่ขยันต่อปากต่อคำไม่ได้หยุดหญิงสาวพยายามหันหน้าหนีแต่ชายหนุ่มก็ไม่ลดละตามจูบด้วยประสบการณ์อันน้อยนิดของหญิงสาวเมื่อโดนจูบแรกในชีวิตก็ถึงกับตัวสั่นธมกานต์ไม
“ ยิ่งคุณขยะแขยงคุณก็จะได้เข้าใกล้แล้วมองหน้าผมไว้ดีๆคนนี้แหละคือสามีคุณในอนาคต”“ ไม่จริง ไม่ใช่ ได้โปรดเถอะนะคะคุณธมกานต์ ปล่อยฉันไปเถอะฉันไม่ใช่อย่างที่คุณชอบหรอก”“ รู้ได้ไงคุณมารู้ใจผมได้ไงผมไม่ชอบ ไม่งั้นผมไม่พาคุณมาไกลถึงหัวหินหรอก ตรีรินทร์”“นี่แหน่ะไม่ปล่อยใช่ไหม” ตรีรินทร์เริ่มจิกเริ่มกัดที่ต้นแขน“ โอ๊ยเด็กบ้านี่ ดีๆไม่ชอบ ชอบให้ใช้กำลังใช่ไหม”ธมกานต์มองหาสิ่งของตาไปเห็นเน็คไทที่วางไว้บนหัวเตียงเอื้อมไปหยิบแล้วเอามามัดมือหญิงสาวก่อนที่จะถอดเสื้อผ้าตัวเองอย่างรวดเร็ว“ คนบ้ามาผูกมือฉันไว้ทำไมปล่อยนะไอ้บ้า”“ พูดไม่เพราะต้องโดนจูบเรียกผัวในอนาคตเพราะๆหน่อยสิเรียกสิเรียกพี่กานต์ผมเป็นพี่คุณตั้งหลายปี”“ แล้วดูนี่หน้าอกผมแดงไปหมด ผมไม่อยากทำร้ายคุณหรอกนะตรีรินทร์แต่คุณเป็นคนทำให้ผมไม่มีทางเลือก”“ ฉันเกลียดคุณไอ้บ้า เกลียด เกลียด เกลียด” หญิงสาวตะเบ็งร้องออกมา“ แต่ผมชอบคุณชอบมากอย่างที่ไม่เคยชอบผู้หญิงคนไหนมาก่อนในชีวิต”ธมกานต์สัมผัสใบหน้าหญิงสาวก่อนจะฟิวส์ขาดเมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวตะโกนด่า“ ไอ้บ้ากาม ไอ้บ้าไอ้โรคจิตไอ้....เสียงขาดหายเพราะธมกานต์กดริมฝีปากจูบไซร์เข้าไป
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้