สองวันผ่านไป
ธมกานต์ได้เดินทางไปทำงานด่วนที่สิงค์โปร์ได้สองวันแล้วตลอดเวลาที่ชายหนุ่มไปสิงค์โปร์ได้ส่งคนขับรถที่บ้านมาคอยรับส่งคู่หมั้นสาวแรกๆตรีรินทร์ขัดขืนแต่ก็ต้องยอมในที่สุด ทุกๆสามชั่วโมงชายหนุ่มต้องโทรศัพท์มาคุยจนตรีรินทร์รู้สึกหงุดหงิดเหมือนต้องกลับไปเป็นนักเรียนประถมที่ต้องมีผู้ปกครองติดตามทุกย่างก้าวบางครั้งตรีรินทร์จึงแกล้ง ปิดเครื่องบ้าง เมื่อตนต้องใช้สมาธิในการทำงาน ตรีรินทร์รู้สึกตื่นเต้นที่ต้องไปงานเลี้ยงแสดงความยินดี สำหรับนายร้อยที่ได้ทำการติดยศใหม่หญิงสาวหมุนตัวไปมาที่หน้ากระจกเมื่อแต่งตัวเสร็จชุดนี้เป็นชุดสีครีมงาช้างที่ เปลือยไหล่ข้างซ้ายทำให้เห็นบ่าหญิงสาวที่สวยงามลำคองามระหง ตรีรินทร์รวบผมมวยเกล้าอย่างปราณีตแต่งหน้าเล็กน้อยและทาริมฝีปากสีชมพู ตรีรินทร์นัดให้โตมรมารับที่บ้านทุ่มครึ่ง แหวนช่วยตรีรินทร์แต่งตัวพร้อมกับกล่าวอย่างชื่นชมว่า “ คุณรินทร์สวยจังค่ะ” “ขอบคุณค่ะพี่แหวน” “ พี่แหวนเหงาไหมที่ต้องมาอยู่กับรินทร์ที่บ้านนี้บ้านรินทร์เล็กไม่เหมือนบ้านคุณกานต์” “ โถคุณรินทร์ไม่ต้องห่วงพี่แหวนนะคะก็อีกไม่กี่วันพี่แหวนก็จะได้กลับบ้านแล้วหลังคุณรินทร์แต่งงาน คุณรินทร์ก็ต้องย้ายไปอยู่กับคุณกานต์พี่ก็ได้ย้ายกลับตอนนี้ก็ถือว่ามาเปลี่ยนบรรยากาศ สนุกดีออก” “ แล้วนี่คุณรินทร์ไปไหนค่ะแต่งตัวสวยจัง” “ รินทร์ไปงานรับตำแหน่งของเพื่อนค่ะรินทร์คงไม่กลับดึกมากพี่แหวนนอนเลยนะคะ” “ ได้ค่ะ” สนามบินสุวรรณภูมิ ธมกานต์เดินลงมาจากเครื่องใบหน้ายิ้มแย้มเนื่องจากเสร็จงานก่อนกำหนด ชายหนุ่มแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้เจอคู่หมั้นสาวสองวันที่ต่างแดนทำเอาชายหนุ่มรู้สึกแทบตายด้วยความคิดถึง ธมกานต์ล้วงโทรศัพท์พร้อมกับโทรหาคู่หมั้นสาว กริ๊งๆ “ รินทร์พูดค่ะ” ตรีรินทร์รับโทรศัพท์ขณะที่นั่งรอนายตำรวจหนุ่มที่เก้าอี้ม้าหิน “ ทำอะไรอยู่รินทร์” เสียงชายหนุ่มทำเอาตรีรินทร์ใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น “เออกำลังจะไปงานเลี้ยง” “ อ้าวคุณไม่ได้อยู่บ้านหรอกเหรอ” “ อยู่ค่ะแต่กำลังรอเพื่อนมารับ” “ อ้าวงั้นเหรอ” ธมกานต์บอกไม่ถูกว่าผิดหวังมากเพียงไรอุตส่าห์วางแผนจะไปเซอร์ไพรสคู่หมั้นสาวที่บ้านแล้วชวนไปทานอาหารนอกบ้านให้หายคิดถึง “งั้นผมไม่กวนแล้วคืนนี้ผมจะโทรหาอีก” ธมกานต์ขับรถกลับด้วยท่าทางที่เซ็งเบื่อหน่ายก่อนจะกดโทรศัพท์หานายแพทย์หนุ่มเพื่อนสนิท “ เฮ๊ย หมอไปหาอะไรดื่มดีกว่าเซ็งว่ะ อุตส่าห์รีบทำงานแทบตายอยากมีเวลาให้แฟนแต่เค้ากลับไม่ว่างมาดื่มกันหน่อยที่ร้านเดิม” “ ไม่ได้เว้ยฉันกำลังจะเข้าไปดูหนังรอบสองทุ่มกับอร” “ อะไรนะกับใครนะ” “ กับแฟนข้าสิอรวิสาเพื่อนรักคุณรินทร์ไง” “ เป็นไปไม่ได้” “ อะไรของแกที่เป็นไปไม่ได้อรเค้ากำลังรอซื้อป๊อปคอร์นอยู่นี่เดี๋ยวจะถ่ายรูปให้ดู” นายแพทย์หนุ่มถ่ายรูปแฟนสาวที่กำลังถือป๊อปคอร์นแล้วส่งให้เพื่อนหนุ่มดู ธมกานต์ตาลุกวาว “ นี่มันอะไรทำไมเธอต้องโกหกฉันตรีรินทร์” ธมกานต์พยายามจะโทรหาคู่หมั้นสาวแต่เป็นช่วงเวลาที่ตรีรินทร์เดินเข้าห้องน้ำขณะที่โทรศัพท์วางอยู่บนโต๊ะม้าหินอ่อน “ทำไมไม่รับโทรศัพท์นี่มันบ้าอะไรเนี่ย” ในใจของธมกานต์พุ่งเดือดไปด้วยความโกรธ ธมกานต์จอดรถหน้าบ้านก่อนจะกดกริ่งบ้านอย่างบ้าระห่ำ แหวนออกมาเปิดบ้านพร้อมกับต้องตกใจตาโตเมื่อพบว่าเป็นนายจ้างหนุ่ม “ คุณกานต์มาหาคุณรินทร์เหรอค่ะ ออกไปแล้วค่ะดึกๆถึงจะกลับ” ธมกานต์กัดฟันจนเห็นกรามเป็นเส้นหนา “ ไปนานหรือยัง” “ ประมาณห้านาทีค่ะ” ธมกานต์ถามสถานที่ก่อนจะขับรถออกไปด้วยความเร็ว “ รินทร์ พี่ขอบคุณรินทร์มากนะที่รินทร์มาแสดงความยินดีในความสำเร็จของพี่” โตมรขับรถพร้อมกับหันมามองหญิงสาวที่ตนรักมามากกว่ายี่สิบปี” “ แหมรินทร์ต้องมาสิคะ วันสำคัญของพี่โตรินทร์ต้องมาให้กำลังใจอยู่แล้ว” ธมกานต์มองเห็นสัญญาณจีพีเอสของคู่หมั้นสาวก็รีบเหยียบคันเร่งเพื่อจะตามหญิงสาวให้พบธมกานต์เพ่งมองรถที่อยู่ด้านหน้าสองคันก่อนที่ธมกานต์จะบีบแตรขอทางแล้วขับตามไปอย่างรวดเร็วก่อนจะแซงคันข้างหน้าไปได้หลังผ่านเสาไฟฟ้าสองต้น ธมกานต์พยายามขับตามพร้อมกับบีบแตรลั่นถนนจนรถที่อยู่บริเวณใกล้เคียงหันมามอง ตรีรินทร์หันไปมองก่อนจะตกใจเมื่อจำได้ว่าเป็นรถของคู่หมั้นหนุ่ม “ตายล่ะเค้ากลับมาแล้วเค้าคงรู้แล้วว่าเราโกหกทำไงดีเนี่ย สงสัยโมโหเป็นหมาบ้าแน่ๆดูสิบีบแตรลั่นเลย” “ ไอ้บ้านี่บีบแตรอยู่ได้ใครว่ะ” ร้อยตำรวจตรีโตมรบ่น “ พี่โตขับเร็วๆสิค่ะขับไปเลย” โตมรหันมามองหญิงสาวด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะขับเร็วอย่างที่หญิงสาวต้องการ ธมกานต์กัดฟันจนปวดกรามเมื่อพยายามระงับความโกรธ “รินทร์จอดรถ” ธมกานต์ตะโกนลั่นรถ “ พี่โตขับไปเร็วๆสิค่ะ” ตรีรินทร์เร่งนายตำรวจหนุ่มก่อนจะหันไปมองพร้อมกับตะโกนกลับไปว่า “ ฉันไม่จอดคนบ้าขับตามมาทำไม” “ ไม่จอดฉันชนนะ” “ บ้าอย่านะ” โครมเสียงรถชนดังสนั่น ตรีรินทร์หัวคะมำไปข้างหน้าจนหัวโขกที่กระจกด้านหน้าเล็กน้อย ธมกานต์เปิดประตูพร้อมกระชากเปิดก่อนจะลากหญิงสาวให้ลงจากรถนายตำรวจหนุ่มตกใจก่อนจะลงจากรถมาด้วยเวลาใกล้เคียงกัน “ นี่คุณจะบ้าเหรอชนรถเค้าทำไมเนี่ย” “ ก็ผมบอกให้จอด ทำไมไม่จอดผมก็ต้องชนเพื่อจะให้แฟนคุณจอดนะสิแล้วจะไปไหนกัน” “ ไปงานเลี้ยงไงฉันบอกคุณไปแล้ว” “ คุณโกหกผม” ตรีรินทร์นิ่งอึ้งก่อนจะตอบว่า” ฉันไม่ได้ตั้งใจอยากโกหกคุณถ้าบอกความจริงคุณก็ต้องโกรธ” ตรีรินทร์แก้ตัวเสียงอ่อย นายตำรวจหนุ่มเปิดประตูก่อนจะพูดว่า “ นี่คุณมาชนรถผมทำไมเนี่ย” “ ผมบอกให้คุณจอดคุณไม่จอด ผมต้องการคู่หมั้นผมคืน” นายตำรวจหนุ่มนิ่งอึ้ง ก่อนจะพูดว่า” ผมเรียกประกันแล้วแล้วคุณล่ะ” “ผมเรียกเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน” “ต่อไปนี้อย่ามาวอแวกับคู่หมั้นผมอีกผมไม่ชอบ” “ ถ้าคุณไม่สบายใจที่เห็นผมมากับรินทร์ผมขอโทษแต่ผมสาบานได้เราไม่มีอะไรเกินกว่าเป็นพี่เป็นน้องกัน” “ ขอโทษนะผู้หมวดผมขอตัวก่อนนี่นามบัตรของช่างที่จะลากรถคุณไปซ่อม” โตมรรับนามบัตรมาหน้าตาเรียบเฉยก่อนที่จะเรียกแท็กซี่พร้อมกับผลักหญิงสาวให้เข้าไปนั่งแล้วตัวเองก็ขยับไปนั่งเคียงข้าง “คนบ้านี่คุณจะพาฉันไปไหนเนี่ย” ธมกานต์นั่งเงียบแต่บีบที่ข้อมือหญิงสาวทำให้ตรีรินทร์นิ่วหน้าด้วยความ เจ็บปวดพร้อมพยายามขยับเพื่อให้ข้อมือเป็นอิสระแต่ปรากฏยิ่งขยับก็ ยิ่งเหมือนถูกมัดแน่น “ฉันจะกลับบ้านฉันไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้น” “ คุณไม่มีสิทธิ์เลือกช่วยไม่ได้คุณบังคับผมเอง” ธมกานต์หันมาจ้องมองหญิงสาวด้วยแววตาดุดันและเคียดแค้น “คุณวางแผนตลอดเวลาที่จะไปงานปาร์ตี้กับไอ้แฟนเก่าคุณคุณเลือกที่จะมางานปาร์ตี้ของมันมากกว่าแต่งงานกับผมในวันนี้ทั้งที่ท่านเจ้าพระคุณท่านแนะนำว่าเป็นฤกษ์ดี ผมยังมองในแง่ดีว่าคุณอาจมีธุระสำคัญที่จะทำในวันนี้แต่ไม่เลยคุณเห็นงานไอ้หมอนั่นสำคัญกว่าแล้วยังมีหน้ามาโกหกผมอีก” ธมกานต์ตะคอกด้วยความโกรธมือก็บีบไหล่ตรีรินทร์ด้วยความแค้น “ ฉันไม่ได้โกหกคุณฉันบอกว่าไปงานเลี้ยงเพื่อนก็ฉันถือว่าเค้าเป็นเพื่อนเป็นพี่ชายถ้าคุณจะคิดแล้วมีใจเป็นธรรมสักนิดในวันสำคัญที่สุดในชีวิตเค้า ฉันก็แค่มาแสดงความยินดีในฐานะน้องสาวหรือเพื่อนที่สนิทกันมานาน ถ้าไม่เพราะคุณรังแกฉันทำให้ฉันต้องตกกระไดพลอยโจนต้องมาแต่งงานกับคุณ ป่านนี้ฉันกับเค้าคงวางแผนแต่งงานกันแล้วฉันกับเค้าเป็นแฟนกันมาเกือบจะเท่าอายุฉัน ถ้าคุณมีใจเป็นธรรมสักนิดฉันทำแค่นี้ยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำ” ตรีรินทร์อธิบายเสียงหอบ “ แล้วทำไมคุณไม่บอกผมตรงๆว่ามากับมันบางทีผมจะรู้สึกดีกว่านี้ที่ไม่รู้สึกเหมือนควายที่ถูกคุณจูงจมูก” ธมกานต์ตะเบ็งเสียงดังลั่นรถจนตรีรินทร์นึกอายคนขับแท็กซี่ที่จ้องมองด้วยความเห็นใจ “ แล้วถ้าฉันบอกคุณตามตรงคุณจะให้ฉันมาไหมล่ะ ฉันเดาว่าคนไม่มีเหตุผลแบบคุณคงไม่ให้หรอกฉันรู้จักคนอย่างคุณดีจริงไหม” “ ใช่ผมคงไม่ให้คุณมาคุณรู้ไหมไอ้งานแบบนี้มีแต่คนเป็นแฟนกันเท่า นั้นที่ไปแล้วคุณนึกถึงหน้าผมไหมคุณเป็นคู่หมั้นผมสังคมรับรู้ว่า อีกไม่กี่วันเราจะแต่งงานกันแต่คุณแร่มางานนี้นึกถึงหน้าผมหน้าวงศ์ตระกูลผมบ้างหรือเปล่าหรือคิดจะทำอะไรก็ทำคนอื่นไม่เกี่ยวใช่ไหม” เมื่อรถมาจอดที่คอนโดแท็กซี่จอดในขณะที่ สองหนุ่มสาวยังทะเลาะกันไม่เสร็จ ธมกานต์ควักแบงก์พันมายื่นให้คนขับพร้อมกับพูดว่า “ ไม่ต้องทอนพี่” ชายหนุ่มฉุดกระชากหญิงสาวให้เดินตาม “ นี่คุณจะบ้าไปถึงไหนเนี่ย”“ เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันผมยังพูดกับคุณไม่จบ” ธมกานต์ผลักตรีรินทร์เข้าไปในห้องหญิงสาวเดินถอยหนีจนร่างไปกระทบกับโซฟาแววตาของตรีรินทร์บอกความรู้สึกหวาดกลัว ‘ อีตาบ้านี่จะทำอะไรเรานะ’ ตรีรินทร์คิดในใจ “ คุณทรยศความเชื่อใจของผมคุณทำลายความรู้สึกดีๆ ที่ผมมีต่อคุณต่อไปนี้ผมจะควบคุมคุณทุกฝีก้าวไม่เชื่อก็คอยดู” “ ไม่นะคุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น” “ ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ผมเป็นผัวคุณหรือคุณจะปฏิเสธว่าไม่ใช่” ธมกานต์ตะคอกพร้อมกับบีบไหล่ด้วยความโกรธที่ปะทุในใจอย่างรุนแรง “ หยาบคายฉันเกลียดคุณ” “ ผมก็เกลียดตัวเองทำไมต้องไปแคร์คนอย่างคุณเป็นไปได้หางตาผมก็ไม่อยากแล” “ งั้นก็ยกเลิกงานแต่งงานซะฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับคุณรู้ไว้ซะด้วย คนที่เอาแต่ใจไร้ซึ่งเหตุผลไม่รู้จักเห็นใจคนอื่นไม่เคยอยู่ในสายตาฉัน” “ ไม่มีทางผมเดินหน้ามาเกินร้อยแล้วผมย้อนกลับไปไม่ได้ เมื่อพูดกันดีๆไม่รู้เรื่องผมก็ต้องทำโทษคุณ” ธมกานต์กระชากเสื้อเสียงดังแคว๊กตรีรินทร์ร้องกรี๊ดพร้อมกับระดมทุบไปที่ไหล่ธมกานต์ก้มลงระดมจูบอย่างรักใคร่ปนเคียดแค้นเมื่อเหมือนถูกหักหลัง ตรีรินทร์พยายามช่วยเหลือตัวเองด้วยการจิกเล็บที่เรียวยาวไปที่ไหล
“ ไอ้บ้ากานต์อย่าฟุ้งซ่านสิเค้ายังเจ็บอยู่อย่าคิดบ้าไม่เลือกสถานการณ์แบบนี้เดี๋ยวเธอจะคิดว่าแกเป็นไอ้บ้ากาม” ธมกานต์บ่นด่าตนเองในใจ ตรีรินทร์อาบน้ำก่อนจะใส่เสื้อผ้าชุดนอนอย่างรัดกุมก่อนจะออกห้องน้ำมาแบบเขยกๆ ธมกานต์ผลอยนอนหลับไปอย่างไม่รู้ตัวตรีรินทร์นอนลงที่ด้านตรงข้ามชายหนุ่มพร้อมกับเอาหมอนข้างมาวางตรงกลางก่อนจะมองชายหนุ่มอย่างไม่ค่อยไว้ใจแต่เสียงหายใจสม่ำเสมอทำให้รู้ว่าชายหนุ่มหลับสนิทไปแล้ว ตรีรินทร์ถอนหายใจแบบโล่งอกก่อนจะล้มตัวลงนอนพร้อมกับดึงผ้าห่มมาห่ม กลางดึกตรีรินทร์รู้สึกมีมือมากอดตนเองพร้อมกับจูบที่ซอกคอ “ ไม่ต้องกลัวผมแค่อยากนอนกอดคุณวันนี้หมดแรงจริงๆอีกอย่างผมไม่อยากรังแกคนป่วยคนขาเดี้ยง เดี๋ยวคุณจะมาตะโกนด่าว่าผมว่าใจร้าย วันนี้ผมยกให้คุณหนึ่งวัน พรุ่งนี้คุณต้องให้รางวัลผมทั้งต้นและดอก” ธมกานต์กระซิบที่ข้างหู ขณะที่ตรีรินทร์ยิ้มขำก่อนจะผลอยหลับไปในอ้อมกอดของชายหนุ่ม ตรีรินทร์ตื่นขึ้นมาตอนเช้าชายหนุ่มยังหลับสนิทตรีรินทร์พยายามแกะมือชายหนุ่มออกก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอนอย่างระมัดระวังไม่ให้รบกวนชายหนุ่ม ตรีรินทร์อาบน้ำเสร็จแต่งตัวและลงไปข้างล่างข้อเท้าของเธอยั
ตรีรินทร์หน้าชาด้วยความเขินอายในขณะที่ธมกานต์ก็จ้องมองภรรยาสาวด้วยสายตามีความหมายแต่ก็ยังเก็กหน้าเวลาสบตากัน ตรีรินทร์รู้สึกถึงความอึดอัดเหมือนระเบิดเวลาที่รอเวลาระเบิดตั้งแต่ทานอาหารเย็นเสร็จธมกานต์ก็แยกเข้าไปทำงานเหมือนเขาพยายามแยกตัวออกไป คุณหญิงมณีจันทร์พยายามคลี่คลาย สถานการณ์ที่ตึงเครียด “ ง้อเค้าหน่อยก็หายงอนแล้วนิสัยเสียตั้งแต่เด็กชอบเอาแต่ใจตัวเอง แต่พอเราง้อหน่อยแม่รับรองว่าเขาจะกลับมาน่ารักเหมือนเดิม ถ้าหนูรินทร์จะรอให้พ่อคนนี้มาง้อ สงสัยต้องรอนานพ่อคนนี้ใจแข็งเหมือนพ่อเขาไงแม่ไม่อยากให้หนูรินทร์ใจแข็งแล้วทิฐิเดี๋ยวจะเหมือนแม่นึกเสียใจเมื่อเหตุการณ์มันผ่านไป แล้วแล้วเลิกเรียกแม่ว่า “ ป้า”สักทีเรียกแม่เหมือนพ่อกานต์ตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว” คุณหญิงมณีจันทร์กล่าวแนะนำ ตรีรินทร์เอ่ยตอบเบาๆ ว่า “ ค่ะ คุณแม่ แต่รินทร์ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนนะคะ” คุณหญิงมณีจันทร์คิดในใจ “ หรือจะเจออีกคู่คู่รักใจแข็งขอภาวนาอย่าให้เป็นเหมือนตนกับท่านนายพลเลย” ตรีรินทร์เดินกลับไปเรือนหลังเล็กแต่เพียงลำพังระหว่างที่ขึ้นเตียงนอน ตรีรินทร์พยายามคิดว่าถ้าชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องเธอคว
“ รินทร์อาบเองก็ได้คุณกานต์ออกไปก่อน” ตรีรินทร์พยายามผลักชายหนุ่มออกไป ธมกานต์ขืนตัวพร้อมกับจับหญิงสาวไปที่อาบน้ำแล้วเปิดฝักบัว สาย น้ำจากฝักบัวรดมาที่ตัวเสื้อผ้าของหญิงสาวทำให้เห็นรูปร่างที่สวยงามของหญิงสาวอย่างชัดเจน ตรีรินทร์หน้าร้อนธมกานต์ถอดเสื้อผ้าหญิงสาวพยายามอ้าปากจะพูดแต่ถูกปิดด้วยริมฝีปากหนา ธมกานต์ดูดที่ริมฝีปากตรีรินทร์รู้สึกถึงการเรียกร้องของชายหนุ่มเมื่อร่างของชายหนุ่มแนบมาที่ร่างของตนความตื่นตัวของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวหน้าร้อน ธมกานต์เริ่มปลดเสื้อเชิ๊ตยกทรงสีชมพูหวานแหวว ธมกานต์หายใจแรงเมื่อมองเห็นดอกบัวสีขาวชมพูชูชันรอรับสัมผัสอันอ่อนหวาน เขาก้มลงไซ้ซอกคอแล้วขบกัดอย่างวาบหวามตรีรินทร์ครางก่อนจะใช้เล็บมือจิกที่กลางหลังของชายหนุ่มเมื่อธมกานต์ใช้มือไล้ครีมอาบน้ำไปทั่วอกอวบงามเขาไล้วนเบาๆ แล้วคลึงหนักหน่วงก่อนจะก้มลงดูดกลืน ตรีรินทร์หอบหายใจก่อนจะครางโหยหวนสองมือเอื้อมไปขยุ้มเรือนผมด้วยความร้อนรุ่ม “กานต์ อืมอื้อ” เสียงตรีรินทร์ครางเบาๆ ธมกานต์ดูดกลืนยอดอกอีกข้างอย่างไม่ให้น้อยหน้า บีบเคล้นจนตรีรินทร์ครางโหยหวนด้วยความเสียวซ่าน ร่างงามผวาเฮือกเมื่อเขากอบกุมเนื้
คุณหญิงมณีจันทร์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นลูกชายนอนอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่นขณะที่สวมเสื้อผ้าในชุดทำงาน “ตากานต์มานอนทำไมตรงนี้ไม่กลับบ้านตายแล้วเหม็นเหล้าตายแล้วลูกทะเลาะกับเมียสิท่าถึงได้มานอนกองอยู่ตรงนี้” ธมกานต์หรี่ตามองก่อนจะพูดเสียงอ้อแอ้ว่า “อ้าวแม่พูดอะไรกานต์ปวดหัวหมดแล้ว” คุณหญิงมณีจันทร์ลูบศีรษะลูกชายก่อนจะถามว่า “ทะเลาะอะไรกันมาถึงได้เมาแบบนี้” “ทะเลาะอะไร ไม่ได้ทะเลาะโถแม่เขาจะทำอะไรจะเอาอะไรผมก็ต้องตามใจเขาอยู่แล้วก็ผมรักเค้านี่แต่เค้าสิไม่เคยเห็นความสำคัญวันๆก็ทำแต่งานแม่เชื่อไหมอาทิตย์นี้เราเจอหน้ากันนับครั้งได้ แล้วจะทะเลาะกันได้ยังไง บอกให้ลาออก ก็ไม่เอาบอกให้มาทำงานด้วยกันก็ไม่เอาผมมันไม่สำคัญสำหรับเขาหรอกแม่”ธมกานต์พร่ำเพ้อก่อนจะเผลอหลับไป คุณหญิงมณีจันทร์ลูบไล้เส้นผมลูกชายสุดที่รักก่อนจะพูดอย่างเอ็นดูว่า “โถ ลูกรักเค้าแล้วหมดใจแล้วทำไมไม่บอกพอเค้าไม่ตามใจก็โวยวาย เมื่อไหร่จะโตสักทีทะเลาะกับเมียก็วิ่งออกจากบ้าน เฮ้อ ลูกหนอลูก” ตรีรินทร์ขึ้นมาบนตึกใหญ่ตามคำสั่งของคุณหญิงมณีจันทร์ “อ้าวเข้ามาสิจ๊ะ หนูรินทร์” “เมื่อคืนตากานต์ นอนที่นี่หนูคงรู้แล้วอย่าถือสาพี่เค้าเ
หกโมงเย็นฝกตกพรำ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเทลงมาเหมือนฟ้ากำลังพิโรธอะไรสักอย่างธมกานต์เดินอยู่เรือนหลังเล็กด้วยความกังวลเพราะด้านนอกฝนตกหนักติดต่อหญิงสาวไม่ได้ ในใจร้อนรุ่ม ตรีรินทร์ยังนั่งร้องไห้ท่ามกลางสายฝนก่อนจะตัดสินใจเดินขึ้นรถแล้วขับกลับบ้านด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว ฝนตกหนักเป็นระยะๆธมกานต์แทบจะกระโดดจากที่นั่งเมื่อได้ยินเสียงรถเลี้ยวเข้ามาในบริเวณบ้านตรีรินทร์จอดรถก่อนจะเดินลงจากรถอย่างใจลอยก่อนจะรู้สึกสะดุ้งเมื่อรู้สึกมีแมลงบินเข้าที่ดวงตาตรีรินทร์พยายามนั่งลงก่อนจะกระพริบตา ธมกานต์มองเห็นหญิงสาวนั่งยองๆลงนั่งแล้วรู้สึกโมโหแม่ตัวดีที่ทำให้ตนเองเป็นห่วง อยู่ครึ่งค่อนวัน ธมกานต์วิ่งออกไปท่ามกลางสายฝนก่อนจะเข้าไปกระชากไหล่ของหญิงสาวพร้อมกับตะโกนแข่งกับเสียงฟ้าร้อง “กลับมาถึงบ้านแล้วทำไมไม่เข้าบ้านมานั่งทำมิวสิคอยู่หรือไงบ้าจริงเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”ธมกานต์ตะเบ็งต่อว่าหญิงสาว “ใครเค้าบอกคุณว่าฉันมานั่งทำมิวสิค”ตรีรินทร์ตอบเสียงขึ้นจมูก “แล้วทำไมไม่เข้าบ้านไม่เห็นหรือไงว่าฝนมันตกแล้วตกหนักด้วย”ธมกานต์ยังตะโกนแข่งกับเสียงฟ้าร้อง “เห็นค่ะแต่แมลงเข้าตาแสบไปหมด”ตรีรินทร์ตอบเสียงเรียบ “อ้
“จริงๆนะอาทิตย์หน้าวัดเกิดผมคุณต้องบอกรักผมให้ผมได้ยินชัดๆในวันเกิดได้ไหม”ธมกานต์ขอร้อง “อืมคิดดูก่อนดูพฤติกรรมก่อน”ตรีรินทร์ต่อรอง “ดูพฤติกรรมงั้นเหรอ งั้นมานี่เลยมาให้จูบซะดีๆ” ก่อนที่ตรีรินทร์จะหลบออกจากอ้อมกอดแต่ก้าวได้เพียงสองก้าวก็ถูกชายหนุ่มดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้งก่อนจะระดมจูบทั้งริมฝีปากบางอย่างดูดดื่มก่อนจะจบลงอย่างสวยงาม ตรีรินทร์จูบที่อกกว้างก่อนที่จะใจหายอย่างไม่ทราบสาเหตุ“คุณกานต์รินทร์สังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูกแต่ถ้าสักวันถ้าเราจะไม่ได้อยู่ร่วมกันรินทร์จะเก็บช่วงเวลานี้อยู่ในความทรงจำของรินทร์ตลอดไป”ตรีรินทร์คิดเงียบๆในใจ ในขณะที่ธมกานต์หลับสนิทแต่แขนก็ยังสวมกอดภรรยาสาว สองนางแบบสาวนั่งดื่มกันที่ริมระเบียงพร้อมกับปรึกษาแผนการร้ายที่จะแย่งชายหนุ่มกลับคืนมา “วีวี้แกคิดว่าแผนการนี้จะได้ผลหรือไง”จามิกาครุ่นคิดแบบไม่ค่อยแน่ใจ “รับรองร้อยทั้งร้อยถึงไม่เลิกกันแต่ก็โกรธกันและไม่เข้าใจกันเราก็ต้องค่อยๆ หยอดเชื่อสิว่าต้องได้ผลเห็นมาหลายรายแล้ว”วีวี้กล่าวอย่างมั่นใจ “งั้นพรุ่งนี้เราก็ลุยเลยเดี๋ยวฉันจะโทรนัดกานต์เลยส่วนแกก็ไปหาชุดที่ว่ามา แค่คิดก็สนุกแล้วฉันอยากจะดูน
“เข้มบอกแล้วไงว่าอยากอยู่คนเดียวแล้วนี่พรวดพราดเข้ามามีอะไรฮะวอนโดนเตะแล้วไหมล่ะบอกแล้วไงว่าฉันไม่อยากเจอใคร” ธมกานต์กล่าวอย่างหงุดหงิดคนขับรถหนุ่มเริ่มติดอ่างเมื่อเห็นอารมณ์ของนายจ้างหนุ่ม” เออคุณนมบอกให้ผมมาเรียนเชิญคุณกานต์ที่ตึกใหญ่บอกว่าคุณรินทร์มีธุระสำคัญจะคุยด้วยด่วนครับ”ธมกานต์ผงกศีรษะก่อนจะออกเดิน” แล้วก็ไม่บอก อมพะนำอยู่ได้”ธมกานต์รู้สึกดีใจในวูบแรกแต่ก็ทำหน้าเคร่งเมื่อเดินเข้าสู่บริเวณตึกก่อนจะได้กลิ่นเหมือนขนมอบธมกานต์สูดกลิ่นเข้าเต็มปอดก่อนท้องเจ้ากรรมก็ส่งเสียงประท้วงเพราะตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ชายหนุ่มไม่ได้รับประทานจริงๆจังๆเลยสักมื้อนมอิ่มเดินมาหาก่อนจะยื่นจานคุกกี้ให้ชายหนุ่ม “ ชิมสิคะคุณกานต์อร่อยคะ”ธมกานต์หยิบขึ้นชิมก่อนจะหยิบทานอีกหลายชิ้นก่อนพูดชื่นชมว่า“อร่อยรสช็อคโกแล็ตชิบของโปรดแต่มีเหมือนกลิ่นใบเตยผสมหอมดี”“ฝีมือคุณรินทร์ค่ะ”ธมกานต์สำลักก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม “ ใครทำนะ”“คุณหนูรินทร์ค่ะ อร่อยใช่ไหมคะ”“ก็งั้นแหละพอทานได้” ธมกานต์พูดสิ่งตรงข้ามกับใจเมื่อเหลือบเห็นภรรยาสาวในชุดเอี๊ยมในครัวเดินออกมาธมกานต์จ้องมองร่างภรรยาสาวที่ทำให้ตนกระวนกระวายตลอดห
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้