“จริงๆนะอาทิตย์หน้าวัดเกิดผมคุณต้องบอกรักผมให้ผมได้ยินชัดๆในวันเกิดได้ไหม”ธมกานต์ขอร้อง
“อืมคิดดูก่อนดูพฤติกรรมก่อน”ตรีรินทร์ต่อรอง “ดูพฤติกรรมงั้นเหรอ งั้นมานี่เลยมาให้จูบซะดีๆ” ก่อนที่ตรีรินทร์จะหลบออกจากอ้อมกอดแต่ก้าวได้เพียงสองก้าวก็ถูกชายหนุ่มดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้งก่อนจะระดมจูบทั้งริมฝีปากบางอย่างดูดดื่มก่อนจะจบลงอย่างสวยงาม ตรีรินทร์จูบที่อกกว้างก่อนที่จะใจหายอย่างไม่ทราบสาเหตุ“คุณกานต์รินทร์สังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูกแต่ถ้าสักวันถ้าเราจะไม่ได้อยู่ร่วมกันรินทร์จะเก็บช่วงเวลานี้อยู่ในความทรงจำของรินทร์ตลอดไป”ตรีรินทร์คิดเงียบๆในใจ ในขณะที่ธมกานต์หลับสนิทแต่แขนก็ยังสวมกอดภรรยาสาว สองนางแบบสาวนั่งดื่มกันที่ริมระเบียงพร้อมกับปรึกษาแผนการร้ายที่จะแย่งชายหนุ่มกลับคืนมา “วีวี้แกคิดว่าแผนการนี้จะได้ผลหรือไง”จามิกาครุ่นคิดแบบไม่ค่อยแน่ใจ “รับรองร้อยทั้งร้อยถึงไม่เลิกกันแต่ก็โกรธกันและไม่เข้าใจกันเราก็ต้องค่อยๆ หยอดเชื่อสิว่าต้องได้ผลเห็นมาหลายรายแล้ว”วีวี้กล่าวอย่างมั่นใจ “งั้นพรุ่งนี้เราก็ลุยเลยเดี๋ยวฉันจะโทรนัดกานต์เลยส่วนแกก็ไปหาชุดที่ว่ามา แค่คิดก็สนุกแล้วฉันอยากจะดูนักถ้าโดนขนาดนี้จะยังรักหวานอีกไหม”จามิกาเหยียดยิ้มอย่างมาดร้าย ตรีรินทร์ขับรถมาส่งคุณหญิงมณีจันทร์ที่โรงพยาบาลเหมือนปกติที่ทำมาตลอดสองเดือน “หนูรินทร์นี่สมุดเช็คของแม่ แม่เซ็นลายเซ็นไว้แล้วทั้งเล่มแม่คงต้องรบกวนหนูรินทร์สำหรับไว้ใช้จ่ายในการรักษาแม่ แม่ไม่ไว้ใจใครแม่กลัวรั่วไหลให้ตากานต์รู้ตอนนี้แม่ต้องทำคีโมบ่อยขึ้นแม่รู้สึกอ่อนล้าและมันมีผลข้างเคียงแม่คงต้องพักรักษาตัวให้ดีขึ้นอีกนิด แม่ของหนูเขาก็ดีอุตส่าห์มาอยู่เป็นเพื่อนแม่ฝากตากานต์และที่บ้านด้วยแล้วแม่จะติดต่อมาหนูรินทร์ห้ามบอกพี่เค้าเป็นอันขาดแม่กลัวเค้าเสียใจอีกไม่นาน แม่ก็กลับช่วงนี้ผมของแม่ร่วงเยอะมันเป็นระยะของมัน”คุณหญิงมณีจันทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ไม่มีวี่แววท้อแท้ “คุณแม่”ตรีรินทร์น้ำตาไหล “แม่ไม่เป็นไรแม่ต้องสู้แม่ต้องกลับมาปกติอีกครั้ง แม่รออุ้มหลานอยู่นะหนูรินทร์อยากมีหลานย่าสักคน ฝากบ้านฝากตากานต์ด้วยนะจ๊ะหนูแล้วแม่จะติดต่อมา”คุณหญิงมณีจันทร์ลงจากรถแล้วเดินหายไปในตึก ตรีรินทร์ร้องไห้ด้วยความสงสารแม่ของสามี โรงแรม Eifelstar ธมกานต์ได้รับโทรศัพท์จากนางแบบสาวเพื่อขอพาเพื่อนชาวต่างชาติเข้าชมบริเวณเรือนหลังเล็กที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ซึ่งชายหนุ่มไม่ขัดข้องนางแบบสาวยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อสามารถเดินตามแผนที่วางไว้ “วีวี่ตกลงกานต์เค้าอนุญาตแล้วแล้วทำยังไงอีก” จามิกาโทรศัพท์ปรึกษาเพื่อนสนิท บ้านพิพัฒนพงค์ “เจ้าเข้มไปตามแหวนมาพบฉันหน่อย” เสียงมีอำนาจของธมกานต์สั่งคนขับรถคนสนิท “อ้าวเข้ามาพอดี แหวนเดี๋ยวฉันจะมีแขกมาสองคนช่วยเตรียมน้ำดื่มของว่างสองสามอย่าง โอเคไปได้” ธมกานต์สั่งงานแม่บ้านสาว จามิกาแต่งกายด้วยชุดรัดรูปสีขาวชีฟองที่ทั้งบางแล้วก็รัดร่างกายแทบทุกส่วน “กานต์ค่ะจี้ขอบคุณมากนะคะที่กรุณาให้เพื่อนจี้เข้ามาชมบ้านเรือนหลังเล็กไม่ทราบกานต์ใช้มัณฑนากรบริษัทไหนคะจี้ เคยถ่ายรูปให้เพื่อนดูเพื่อนเค้าชอบมากเลยขอตามมาดู” จามิกาพยายามชวนสนทนา “ไม่เป็นไรตอนนี้ผมว่างส่วนมัณฑนากรก็รินทร์ภรรยาผมไงที่ตกแต่งเองทั้งหลัง บริษัทของเค้ากำลังมีชื่อเสียงมาก” ธมกานต์กล่าวถึงภรรยาสาวอย่างชื่นชม จามิกาแอบค้อนแต่ก็พยายามพูดว่า “ เก่งจังเลยนะคะ ภรรยาของกานต์เนี่ยกานต์โชคดีจัง” สามชั่วโมงผ่านไป “นี่ จี้ตกลงปีเตอร์เพื่อนคุณจะมาไหมเนี่ยผมรออยู่นานมากแล้วนะที่โรงแรมยังมีงานอีกชิ้นที่ผมต้องกลับไปดูแล” “เห็นเค้าแมสเสจมาบอกว่าอีกยี่สิบนาทีก็ถึงแล้วค่ะ” ธมกานต์ถอนหายใจจามิกาก้มอ่านแมสเสจแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนเรียกหาแม่บ้านสาว “แหวนมานี่หน่อยสิจ๊ะ ช่วยไปเอาน้ำมะเขือเทศมาให้ฉันดื่มหน่อยฉันชอบสดๆนะจ๊ะน้ำตาลไม่ต้องด่วนนะจ๊ะ” จามิกาสั่งงานแม่บ้านสาวอย่างคุ้นเคย แม่บ้านสาวคั้นน้ำมะเขือเทศสดผสมเกลือเล็กน้อยแล้วนำไปปั่นก่อนจะเทใส่แก้วน้ำก่อนจะนำไปให้นางแบบสาวแขกของเจ้านายหนุ่ม “ว้ายจามิกาแสร้งร้องโวยวายพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มก่อนที่อีกมือก็ทั้งปัดทั้งเช็ดคราบน้ำมะเขือเทศ” ธมกานต์ตกตะลึงกับภาพที่เจอเมื่อนางแบบสาวถูกน้ำมะเขือเทศของแม่บ้านสาวหกราดไปที่เสื้อผ้าสีขาวทำให้ สกปรกแล้วเป็นคราบ “จี้ครับเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อยไหมผมไปหยิบชุดของรินทร์ให้แล้วคุณอยากอาบน้ำล้างตัวสักหน่อยไหม” “ก็ดีสิคะจี้เหนียวไปทั้งตัว” จามิกายิ้มที่มุมปากเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างเดินไปตามแผนที่วางไว้ บริษัท พีดี ปิ๊ปๆเสียงแมสเสจเรียกเข้าตรีรินทร์กดอ่านก่อนจะหน้าตาตกตะลึงเมื่อเห็นข้อความว่า “กลับบ้านด่วนผมไม่สบายมากช่วยผมด้วย” ลงชื่อธมกานต์ตรีรินทร์รีบคว้ากุญแจแล้ววิ่งไปที่ลานจอดรถอย่างรีบร้อน “แหวนช่วยพาคุณจี้ไปอาบน้ำล้างตัวแล้วช่วยเอาเสื้อผ้าของรินทร์ให้เค้ายืมใส่” แม่บ้านสาวรับคำก่อนจะนำนางแบบสาวไปที่ห้องน้ำตามคำสั่งระหว่างที่รอจะเอาเสื้อผ้าให้นางแบบสาวอบเชยคนรับใช้อีกคนจากตึกใหญ่วิ่งมาหาพร้อมกับแจ้งข่าวร้ายว่าแม่ของเธอล้มในห้องน้ำให้กลับบ้านที่เชียงรายด่วนดังนั้นแม่บ้านสาวรีบวิ่งไปที่ตึกใหญ่เพื่อขอนุญาตินมอิ่มกลับบ้านด่วนโดยที่ไม่ได้บอกให้นายจ้างหนุ่มได้รับทราบด้วยความรีบ ร้อนแต่มิอาจคิดว่าตนจะเป็นเหมือนส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องเลวร้ายไปอีก นางแบบสาวเดินออกจากห้องน้ำมาพร้อมกับชุดคลุมอาบน้ำสีม่วงอ่อนซึ่งเป็นของเจ้าของบ้านสาวก่อนจะก้มลงพูดกับเสื้อคลุมอาบน้ำว่า “วันนี้แหละเป็นวันของฉันบ้างนังตรีรินทร์ ฉันต้องแย่งกานต์กลับมาเป็นของฉันให้ได้” นางแบบสาวคิดมาดร้ายในใจ “แหวนไปไหนนะ “ ธมกานต์พูดในใจแล้วเดินขึ้นไปบนห้องเพื่อดูว่าจามิกาเป็นอย่างไรบ้างในฐานะเจ้าของบ้านโดยไม่นึกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า “จี้เป็นยังไงบ้าง เรียบร้อยไหม” เสียงธมกานต์ตะโกนเข้ามาจากนอกห้อง จามิการีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องน้ำทันทีเสียงฝีเท้าชายหนุ่มเข้ามาในบริเวณห้องนอนจามิกาใจเต้นแรงภาวนาให้แผนการดำเนินไปอย่างราบลื่นนางแบบสาว ค่อยๆ ก้าวออกมาจากห้องน้ำ “ขอบคุณนะคะกานต์เสื้อของจี้เลอะหมดเลยคงต้องรอให้เค้าซักแห้ง รบกวนกานต์จังเลย” นางแบบสาวกล่าวอย่างเกรงใจ “ไม่เป็นไรรออีกสักปะเดี๋ยวแหวนคงเอาเสื้อมาให้ผมว่าเราลงไปรอข้างล่างดีกว่าไหม” ธมกานต์เอ๋ยชวน “ว้ายแบบสาวแสร้งลื่นล้มธมกานต์เห็นเพื่อนสาวจะล้มก็คว้าหญิงสาวเอาไว้แต่เสียหลักล้มไปด้วยกันทันใดนั้นประตูห้องนอนก็ถูกเปิดตรีรินทร์เห็นภาพดังกล่าวเหมือนฟ้าฝ่ากลางใจเมื่อเห็นสามีหนุ่มนอนอยู่บนพื้นในขณะที่นางแบบสาวใส่ชุดคลุมอาบน้ำของเธอนอนทับอยู่ข้างบนธมกานต์หันไปมองเพราะนึกว่าแม่บ้านสาวเอาชุดมาให้นางแบบสาวแต่ผู้ที่ปรากฏตัวคือภรรยาสาวตรีรินทร์น้ำตาอาบใบหน้ากับภาพที่เห็นธมกานต์ตกใจกับภาพที่เห็นรีบผลักนางแบบสาวตรีรินทร์ออกวิ่งลงบันไดเพื่อไปที่โรงรถธมกานต์วิ่งตาม “รินทร์เดี๋ยวมันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดฟังก่อนสิพูดกันก่อนนี่รินทร์ผมไม่ชอบให้ใครวิ่งหนีผมนะมาคุยกันก่อน” ธมกานต์ตะโกนในขณะที่ตรีรินทร์ร้องไห้พร้อมกับเอามือปิดหู “เข้มเข้มจับคุณผู้หญิงไว้เร็วสิ” คนขับรถหมุนซ้ายหมุนขวาใจหนึ่งก็กลัวเจ้านายหนุ่มแต่อีกใจก็เกรงใจเจ้านายผู้หญิงก็ละล้าละลัง ตรีรินทร์วิ่งไปที่รถน้ำตายังอาบใบหน้า “ทุเรศเรียกเรามาดูว่าตัวเองสวีทกับแฟนเก่าคนใจร้ายฉันเกลียดคุณ” ตรีรินทร์สะอื้นก่อนจะสตาร์ท รถออกธมกานต์วิ่งมาขวางตรีรินทร์เบรครถพร้อมกับเปิดไฟสูงไล่ “ผมไม่ให้คุณไปลงมาคุยกันให้รู้เรื่องคุณกำลังเข้าใจผมผิดเร็วๆผมไม่ชอบง้อใครนะคุณ” ธมกานต์ตะโกน ตรีรินทร์นิ่งก่อนจะเร่งเครื่องถอยหลังก่อนจะหักเลี้ยวธมกานต์วิ่งตามอย่างหัวเสียพร้อมกับตะโกน “เข้มเข้มบอกยามปิดประตูถ้าใครเปิดให้คุณผู้หญิงฉันจะไล่ออกให้ หมด” คนขับรถหนุ่มรีบโทรออกไปที่ยามหน้าบ้าน ตรีรินทร์หงุดหงิดเมื่อยามหน้าบ้านไม่ยอมเปิดประตูให้บอกแต่ว่าเจ้านายสั่งตรีรินทร์เปิดประตูออกมาตอนแรกคิดเพียงแต่ว่าถ้าไม่เปิดก็จะปีนออกไปแต่เธอตัดสินใจช้าเมื่อธมกานต์มาถึงก็กระชากเธอพร้อมกับลากเธอไปที่ที่ห่างไกล “เป็นบ้าอะไรฮะ” ธมกานต์ตะคอก ตรีรินทร์นิ่งเงียบกอดอกพร้อมกับเชิดหน้าแต่คราบน้ำตายังหลงเหลือให้เห็น “รินทร์เราต้องคุยกันผมไม่ชอบให้คุณเข้าใจผมผิด” “ฉันเข้าใจถูกคุณเรียกฉันมาดูคุณสวีทกับแฟนเก่าคุณในห้องของเราคุณทำได้เจ็บแสบมากคุณธมกานต์ฉันตบมือให้”ตรีรินทร์ยิ้มก่อนจะตบมือ “บ้าใครเรียกคุณแล้วที่ จีจี้ มาเค้ามาเรื่องงานแล้วเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย คุณไม่เชื่อก็ถามแหวนได้แหวนก็เห็น” “หึคุณนี่เพ้อเจ้อจัง แหวนอยู่ที่ไหนเค้ากลับบ้านไปตั้งนานแล้วจะโกหกอะไรก็ให้มีข้อมูลหน่อยจริงๆคุณจะทำอะไรกับใคร มันเรื่องของคุณแต่นี่ มันที่บ้านและที่ห้องนอนของเราไม่อายคนที่บ้านบ้างหรือไง”ตรีรินทร์กล่าวเสียงเข้ม “ไม่จริงเมื่อบ่ายแหวนยังเอาของว่างมาให้พวกผมอยู่เลย” ธมกานต์เถียง “แล้วอีกอย่างถ้าผมจะทำอะไรกับ จามิกาจริงๆผมไม่ต้องทำที่บ้านก็ได้ที่โรงแรมหรือที่ไหนก็ได้ทำไมต้องมาทำที่บ้านให้ ประเจิดประเจ้อ” จามิการีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องน้ำทันทีเสียงฝีเท้าชายหนุ่มเข้ามาในบริเวณห้องนอนจามิกาใจเต้นแรงภาวนาให้แ ผนการดำเนินไปอย่างราบลื่นนางแบบสาว ค่อยๆ ก้าวออกมาจากห้องน้ำ “ขอบคุณนะคะกานต์เสื้อของจี้เลอะหมดเลยคงต้องรอให้เค้าซักแห้ง รบกวนกานต์จังเลย” นางแบบสาวกล่าวอย่างเกรงใจ “ไม่เป็นไรรออีกสักปะเดี๋ยวแหวนคงเอาเสื้อมาให้ผมว่าเราลงไปรอข้างล่างดีกว่าไหม” ธมกานต์เอ๋ยชวน “ว้าย นางแบบสาวแสร้งลื่นล้มธมกานต์เห็นเพื่อนสาวจะล้มก็คว้าหญิงสาวเอาไว้แต่เสียหลักล้มไปด้วยกันทันใดนั้นประตูห้องนอนก็ถูกเปิดตรีรินทร์เห็นภาพดังกล่าวเหมือนฟ้าฝ่ากลางใจเมื่อเห็นสามีหนุ่มนอนอยู่บนพื้นในขณะที่นางแบบสาวใส่ชุดคลุมอาบน้ำของเธอนอนทับอยู่ข้างบนธมกานต์หันไปมองเพราะนึกว่าแม่บ้านสาวเอาชุดมาให้นางแบบสาวแต่ผู้ที่ปรากฏตัวคือภรรยาสาวตรีรินทร์น้ำตาอาบใบหน้ากับภาพที่เห็นธมกานต์ตกใจกับภาพที่เห็นรีบผลักนางแบบสาว ตรีรินทร์ออกวิ่งลงบันไดเพื่อไปที่โรงรถธมกานต์วิ่งตาม “รินทร์เดี๋ยวมันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดฟังก่อนสิพูดกันก่อนนี่รินทร์ผมไม่ชอบให้ใครวิ่งหนีผมนะมาคุยกันก่อน” ธมกานต์ตะโกนในขณะที่ตรีรินทร์ร้องไห้พร้อมกับเอามือปิดหู “เข้มเข้มจับคุณผู้หญิงไว้เร็วสิ” คนขับรถหมุนซ้ายหมุนขวาใจหนึ่งก็กลัวเจ้านายหนุ่มแต่อีกใจก็เกรงใจเจ้านายผู้หญิงก็ละล้าละลัง ตรีรินทร์วิ่งไปที่รถน้ำตายังอาบใบหน้า “ทุเรศเรียกเรามาดูว่าตัวเองสวีทกับแฟนเก่าคนใจร้ายฉันเกลียดคุณ” ตรีรินทร์สะอื้นก่อนจะสตาร์ทรถออกธมกานต์วิ่งมาขวางตรีรินทร์เบรครถพร้อมกับเปิดไฟสูงไล่ “ผมไม่ให้คุณไปลงมาคุยกันให้รู้เรื่องคุณกำลังเข้าใจผมผิดเร็วๆผมไม่ชอบง้อใครนะคุณ” ธมกานต์ตะโกน ตรีรินทร์นิ่งก่อนจะเร่งเครื่องถอยหลังก่อนจะหักเลี้ยวธมกานต์วิ่งตามอย่างหัวเสียพร้อมกับตะโกน “เข้มเข้มบอกยามปิดประตูถ้าใครเปิดให้คุณผู้หญิงฉันจะไล่ออกให้ หมด” คนขับรถหนุ่มรีบโทรออกไปที่ยามหน้าบ้าน ตรีรินทร์หงุดหงิดเมื่อยามหน้าบ้านไม่ยอมเปิดประตูให้บอกแต่ว่าเจ้านายสั่งตรีรินทร์เปิดประตูออกมาตอนแรก คิดเพียงแต่ว่าถ้าไม่เปิดก็จะปีนออกไปแต่เธอตัดสินใจช้าเมื่อธมกานต์มาถึงก็กระชากเธอพร้อมกับลากเธอไปที่ที่ ห่างไกล “เป็นบ้าอะไรฮะ” ธมกานต์ตะคอก ตรีรินทร์นิ่งเงียบกอดอกพร้อมกับเชิดหน้าแต่คราบน้ำตายังหลงเหลือให้เห็น “รินทร์เราต้องคุยกันผมไม่ชอบให้คุณเข้าใจผมผิด” “ฉันเข้าใจถูกคุณเรียกฉันมาดูคุณสวีทกับแฟนเก่าคุณในห้องของเราคุณทำได้เจ็บแสบมากคุณธมกานต์ฉันตบมือให้”ตรีรินทร์ยิ้มก่อนจะตบมือ “บ้าใครเรียกคุณแล้วที่ จีจี้ มาเค้ามาเรื่องงานแล้วเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย คุณไม่เชื่อก็ถามแหวนได้แหวนก็เห็น” “หึคุณนี่เพ้อเจ้อจัง แหวนอยู่ที่ไหนเค้ากลับบ้านไปตั้งนานแล้วจะโกหกอะไรก็ให้มีข้อมูลหน่อยจริงๆคุณจะทำอะไรกับใคร มันเรื่องของคุณแต่นี่ มันที่บ้านและที่ห้องนอนของเราไม่อายคนที่บ้านบ้างหรือไง”ตรีรินทร์กล่าวเสียงเข้ม “ไม่จริงเมื่อบ่ายแหวนยังเอาของว่างมาให้พวกผมอยู่เลย” ธมกานต์เถียง “แล้วอีกอย่างถ้าผมจะทำอะไรกับจามิกาจริงๆผมไม่ต้องทำที่บ้านก็ได้ที่โรงแรมหรือที่ไหนก็ได้ทำไมต้องมาทำที่บ้านให้ ประเจิดประเจ้อ” ตรีรินทร์กัดริมฝีปาก “ ฉันอยากกลับบ้าน” “ผมไม่ให้คุณไป คุณนี่เมื่อไหร่จะโตสักทีมีปัญหาอะไรก็วิ่งไปหาแม่หลบหนีปัญหาคุยกันให้รู้เรื่องถ้าคุณกลับบ้านผมจะตามไปรังควานคุณเลือกเอาแม่คุณจะได้ร้อนใจไปกับคุณด้วย” ธมกานต์ขู่เสียงเข้ม ตรีรินทร์กัดริมฝีปากน้ำตาไหลพรากด้วยความอัดอั้นตันใจถึงแม้เธออยากจะหลบหนีสถานการณ์เช่นนี้มากแค่ไหนเธอก็ไม่อาจทำความร้อนใจไปให้บุพการีได้ตรีรินทร์ทราบดีว่าถ้าเธอกลับบ้านจริงๆผู้ชายตรงหน้าเธอจะต้องทำตามที่เค้าพูดอย่างแน่นอน ธมกานต์ถอนใจเฮือกเมื่อมองเห็นภรรยาสาวร้องไห้ธมกานต์ทั้งโมโหทั้งน้อยใจกับหญิงสาวผู้เป็นภรรยาอย่างบอกไม่ถูกก่อนจะตัดสินใจพูดว่า “ตกลงคุณไม่เชื่อใจผมจริงๆใช่ไหมคุณจะไม่ถามสักคำหรือไงว่าเกิดอะไรขึ้นมากกว่าการคิดไปเอง” ธมกานต์พูดอย่างอัดอั้น “ฉันเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็น” ตรีรินทร์กล่าวเสียงเย็น “ตามใจผมก็ไม่รู้จะมาตามง้อกับเด็กไม่รู้จักโตทำไมให้เสียเวลา”ธมกานต์พูดกระแทกเสียงอย่างหงุดหงิด “เชิญคุณไปดูแลแขกพิเศษของคุณเถอะฉันจะไปหานมอิ่ม”ตรีรินทร์หันหลังก่อนจะออกเดินก่อนจะชะงัก “จำไว้ให้ดีตรีรินทร์คุณจะต้องอยู่ที่นี่บ้านหลังนี้ไม่ว่าคุณจะรู้สึกยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้นคุณก็ไม่มีสิทธิ์จะหนีไปไหนเพราะคุณคือ พิพัฒนพงค์แล้วจำไว้ด้วยว่าแต่งงานแล้วไม่ใช่เด็กๆที่ไม่พอใจก็วิ่งไปหาแม่ผมขอเตือนเป็นครั้งสุดท้ายถ้าไม่อยากให้แม่คุณเดือดร้อน” “ค่ะไม่ต้องมาขู่จะไปไหนก็ไปฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณถ้าเป็นไปได้อยากหนีไปให้ไกลจากคุณสักพันโยชน์” ตรีรินทร์พูดเสียงแข็ง “แต่ในความเป็นจริงเราต้องอยู่ร่วมกันอยู่ด้วยกันไปแบบนี้ในเมื่อคุณอยากคิดเองตัดสินเองโดยไม่ฟังเหตุผลผมก็ ป่วยการจะพูดคนอยู่ด้วยกันถ้าไม่ไว้ใจกันก็ป่วยการอธิบายเชิญคุณคิดบ้าไปคนเดียวผมไปล่ะ” ธมกานต์เดินกระแทกส้นจากไป ตรีรินทร์ทรุดตัวลงนั่งเอามือปิดหน้าร้องไห้ด้วยความอัดอั้นตันใจ จามิกายิ้มสะใจที่สามารถทำให้สามีภรรยาไม่เข้าใจกันได้เมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาที่บ้านจามิกาในชุดเดิมก็เดินเข้า มาพร้อมกับตีหน้าเศร้า “จี้ขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้กานต์ทะเลาะกับภรรยา” จามิกาทำเสียงเศร้าอย่างเสแสร้ง “ไม่เป็นไรผมจัดการได้ ถ้าจี้ไม่ว่าอะไรผมขอโทษผมอยากอยู่คนเดียวคุณกลับไปก่อนเถอะนะตอนนี้ผมไม่สะดวกรับแขก”ธมกานต์กล่า วเสียงเซ็ง จามิกาสะอึกก่อนจะแสร้งยิ้มแล้วพูดว่า “โอเคอย่าคิดมากนะคะกานต์งั้นจี้กลับก่อนนะคะ” ธมกานต์พยักหน้าเซ็งๆก่อนจะเดินจากไปปล่อยให้จามิกาแทบร้องกรี๊ดด้วยความขัดใจ ธมกานต์ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาก่อนจะหลับตา เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาก็พาลหงุดหงิด ตรีรินทร์เดินเข้าตึกใหญ่พร้อมคราบน้ำตานมอิ่มเดินเข้ามาก่อนจะพูดว่า “อะไรกันค่ะทะเลาะกันเหรอค่ะมีอะไรพูดกับนมได้นะคะ”นมอิ่มพูดน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะไม่เข้าใจกันนิดหน่อยนมอย่าไปใส่ใจเลยคืนนี้ขอรินทร์นอนบนตึกนะคะยังไม่อยากกลั บเรือนเล็กนะคะนม”น้ำเสียงตรีรินทร์อ้อนวอน “โถ แม่คุณของนมจะนอนที่ไหนก็ได้ค่ะที่นี่ ก็บ้านคุณรินทร์เหมือนกันคุณรินทร์เป็นคุณผู้หญิงของที่นี่ ไงคะงั้นเดี๋ยวนมให้เด็กไปจัดห้องคุณกานต์เก่าให้นะคะ” นมอิ่มกล่าวน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่เอาค่ะ รินทร์นอนห้องพักแขกได้ไหมคะรินทร์ไม่อยากไปรบกวนห้องของเค้า” ตรีรินทร์กล่าวเสียงขึ้นจมูก แม่นมอิ่มส่ายศีรษะพร้อมกับนึกในใจ” เฮ้อขิงก็รา ข่าก็แรงคนแก่ตามไม่ทันจริงๆ” “ได้ค่ะเดี๋ยวนมจัดการให้นะคะ” “คุณกานต์ครับผมตั้งสำรับไว้ที่โต๊ะแล้วนะครับนมอิ่มให้ผมเอามาจัดให้คุณกานต์ครับ” “คุณรินทร์ล่ะ” ธมกานต์ลุกขึ้นนั่งพร้อมกับสะลัดศีรษะไปมาเพราะเผลอหลับไป “คุณรินทร์ทานบนตึกครับแล้วให้มาเรียนคุณกานต์ว่าคืนนี้เธอจะนอนบนตึกครับ” เข้มกล่าวอย่างนอบน้อม ธมกานต์กัดฟันนึกโมโหภรรยาสาวก่อนจะผลุดลุกขึ้นพร้อมกับเดินออกจากบ้านอย่างหัวเสีย “คุณกานต์ครับไม่ทานข้าวเหรอครับ” เข้มวิ่งตามเจ้านายหนุ่ม “ ไม่ล่ะจะไปข้างนอกเบื่อ” ธมกานต์ขับรถออกจากบ้านด้วยความเร็ว นมอิ่มเดินเข้ามาในห้องอาหาร พร้อมกับพูดว่า “ มืดค่ำป่านนี้คุณกานต์จะออกไปไหนดูสิขับรถซะเร็วนมล่ะเป็นห่วงจริง ๆ” ตรีรินทร์วางช้อนพร้อมกลั้นสะอื้นก่อนจะเอ่ยขอตัว “รินทร์ปวดหัวขอตัวขึ้นนอนก่อนนะคะ” ตรีรินทร์ก้าวเท้าเร็วขึ้นไปบนห้องก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ “หึคงจะไปหาแฟนล่ะสิคนบ้าฉันเกลียดคุณ” ร้านซาปรังก้าPub and restaurant สถานที่นัดพบของสามหนุ่มเพื่อนซี้ ธมกานต์ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มทำให้สองหนุ่มเพื่อนซี้หันหน้ามองกันก่อนที่หมอหนุ่มอดใจไม่ไหวต้องเอ่ยถาม “เฮ๊ยไรว่ะ เรียกออกมาเที่ยวทำไมเอาแต่ดื่มไม่พูดไม่จาว่ะเนี่ยมีปัญหาอะไรบอกได้นะเว้ยทะเลาะกับคุณรินทร์หรือไง” ธมกานต์หันไปมองหน้าหมอหนุ่มก่อนพูดว่า “ รู้ได้ไง” “อาการมันฟ้องเว้ย ถ้าเป็นเรื่องอื่นก็ไม่เคยเห็นแกซีเรียสเรื่องอะไรเลยสักอย่างไหนมีปัญหาอะไรเอาแต่ดื่มแล้วหน้าบูดยังงี้” เมื่อธมกานต์เล่าให้เพื่อนทั้งสองฟังสองหนุ่มก็เอาแต่หัวเราะก่อนที่หมอหนุ่มจะให้ความเห็นว่า “เป็นใครก็คงต้องโกรธเหมือนคุณรินทร์ว่ะช่วยไม่ได้นี่หว่าสถานการณ์มันฟ้องว่าแกผิดจนกว่าจะมีพยานทางแกก็คือ แหวนมาแก้ต่างให้ตอนนี้ก็รับกรรมไปก่อนเพื่อน” หมอหนุ่มให้ความเห็นก่อนจะยิ้ม “อืมตอนนี้เค้าไม่ยอมกลับบ้านแต่กลับไปนอนตึกใหญ่หมั่นไส้นักถ้าเป็นได้จะจับตัวมาเขย่าๆๆก่อนจะพูดว่าไม่เ ชื่อใจกันบ้างหรือไงเสียแรงข้าอุตส่าห์รักทุ่มเทให้เค้าขนาดนี้ยังไม่เห็นความดีอีก” ธมกานต์บ่นอยู่คนเดียวก่อนยกดื่มอีกหลายแก้ว นมอิ่มรู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในบ้านที่นายผู้หญิงกับนายผู้ชายต่างคนต่างถือทิฐิ ต่างคนต่างอยู่ทำให้สถานการณ์ที่บ้านอึมครึมเด็กรับใช้ในบ้านก็พากับตัวลีบเพราะบรรยากาศในบ้านที่เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “คุณคะเมื่อคืนคุณกานต์กลับบ้านซะดึกเลยเมามาด้วยนี่นมไม่เห็นคุณกานต์ดื่มหนักๆ แบบนี้มานานแล้วเชื่อสิว่าวันนี้ต้องไม่ทานข้าวเป็นยังงี้ประจำ” นมอิ่มบ่น ตรีรินทร์กัดริมฝีปาก เงียบ นมอิ่มส่ายศีรษะในความดื้อรั้นของชายหนุ่มหญิงสาว “นมว่าเรามาทำคุกกี้แก้เซ็งดีกว่านะคะ” นมอิ่มเอ่ยชักชวนก่อนที่สองหญิงสาวต่างวัยต่างช่วยกันทำคุ๊กกี้อย่างสนุกสนานการทำขนมทำให้ตรีรินทร์ผ่อนค ลายค่อนข้างมากใช่ว่าเธอจะไม่อึดอัดกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่แต่ จะให้เธอไปง้อก่อนรับรองว่าไม่มีทางแน่ แม่นมอิ่มเดินออกจากห้องครัวก่อนจะกระซิบ คนขับรถหนุ่ม“เข้มบอกแล้วไงว่าอยากอยู่คนเดียวแล้วนี่พรวดพราดเข้ามามีอะไรฮะวอนโดนเตะแล้วไหมล่ะบอกแล้วไงว่าฉันไม่อยากเจอใคร” ธมกานต์กล่าวอย่างหงุดหงิดคนขับรถหนุ่มเริ่มติดอ่างเมื่อเห็นอารมณ์ของนายจ้างหนุ่ม” เออคุณนมบอกให้ผมมาเรียนเชิญคุณกานต์ที่ตึกใหญ่บอกว่าคุณรินทร์มีธุระสำคัญจะคุยด้วยด่วนครับ”ธมกานต์ผงกศีรษะก่อนจะออกเดิน” แล้วก็ไม่บอก อมพะนำอยู่ได้”ธมกานต์รู้สึกดีใจในวูบแรกแต่ก็ทำหน้าเคร่งเมื่อเดินเข้าสู่บริเวณตึกก่อนจะได้กลิ่นเหมือนขนมอบธมกานต์สูดกลิ่นเข้าเต็มปอดก่อนท้องเจ้ากรรมก็ส่งเสียงประท้วงเพราะตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ชายหนุ่มไม่ได้รับประทานจริงๆจังๆเลยสักมื้อนมอิ่มเดินมาหาก่อนจะยื่นจานคุกกี้ให้ชายหนุ่ม “ ชิมสิคะคุณกานต์อร่อยคะ”ธมกานต์หยิบขึ้นชิมก่อนจะหยิบทานอีกหลายชิ้นก่อนพูดชื่นชมว่า“อร่อยรสช็อคโกแล็ตชิบของโปรดแต่มีเหมือนกลิ่นใบเตยผสมหอมดี”“ฝีมือคุณรินทร์ค่ะ”ธมกานต์สำลักก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม “ ใครทำนะ”“คุณหนูรินทร์ค่ะ อร่อยใช่ไหมคะ”“ก็งั้นแหละพอทานได้” ธมกานต์พูดสิ่งตรงข้ามกับใจเมื่อเหลือบเห็นภรรยาสาวในชุดเอี๊ยมในครัวเดินออกมาธมกานต์จ้องมองร่างภรรยาสาวที่ทำให้ตนกระวนกระวายตลอดห
“ รินทร์ ตรีรินทร์ เปิดประตูหน่อยสิ เมียจ๋าผัวกลับมาแล้ว” เสียงเคาะประตูดังขึ้น “ เดี๋ยวค่ะ กำลังจะเปิดแล้ว” เสียงตรีรินทร์ตะโกนตอบหญิงสาวเปิดประตูแต่ก็ต้องตกใจเพราะร่างของชายหนุ่มเซมาปะทะจนแทบจะตั้งรับไม่ทัน“คุณกานต์นี่คุณเมาเหรอค่ะ เหม็นเหล้าจัง” ตรีรินทร์เบนใบหน้าหนี เพราะทนกลิ่นเหล้าแทบไม่ไหว“รังเกียจหรือไง เนี่ยผัวนะไม่ใช่คนอื่น” ธมกานต์โวยวายเสียงอ้อแอ้“คุณเมาแล้ว เดี๋ยวรินทร์พาไปนอน” ตรีรินทร์พูดอย่างอ่อนใจ“ใครว่าผมเมา ผมไม่เมาสักหน่อย” ธมกานต์เถียงแต่ยังเดินเซ หญิงสาวประคองมาที่เตียงพยายามจะผลักให้ชายหนุ่มนอนที่เตียงแต่กลับล้มไปด้วยกันที่เตียง“ว้าย” ตรีรินทร์ร้องตกใจหญิงสาวพยายามตะเกียกตะกายเพื่อจะลุกขึ้นจากร่างของชายหนุ่มแต่กลับถูกชายหนุ่มผลักให้นอนแนบอกก่อนที่ชายหนุ่มจะพลิกตัว ขึ้นมาใบหน้าห่างกันแค่คืบจนได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน“รังเกียจผมมากหรือไงลืมไปแล้วเหรอว่าเราเป็นอะไรกัน” ธมกานต์กล่าวเสียงเข้ม ภายในรู้สึกเจ็บร้าวกับกิริยาท่าทางที่ดูเหมือนจะรังเกียจของหญิงสาว“เปล่าค่ะ รินทร์อยากให้คุณพัก คุณเมาแล้ว นอนพักเถอะค่ะรินทร์จะไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้” ตร
“ค่ะ ไม่ต้องห่วง นมจะดูแลให้อย่างดีค่ะ”ธมกานต์หันขึ้นไปมอง ก่อนมองที่นาฬิกา แล้วรีบก้าวเดินออกไปอย่างรีบร้อน“เข้ม ไปส่งฉันที่สนามบิน”ธมกานต์นั่งนึกถึงใบหน้าของภรรยาสาวแล้วหงุดหงิดที่ไม่สามารถเคลียร์ปัญหากับภรรยาสาวก่อนออกเดินทางได้ธมกานต์กดโทรศัพท์หาหญิงสาว เสียงสัญญาณว่างแต่ไม่มีคนรับสายทำให้ชายหนุ่มยิ่งหงุดหงิดก่อนจะกระหน่ำโทรอย่างโมโหตรีรินทร์มองโทรศัพท์ดังไม่ขาดสายพร้อมกับกัดริมฝีปากด้วยความเจ็บปวดยิ่งถอดเสื้อคลุมแล้วเห็นร่องรอยต่างๆบนเนื้อตัว ทำให้ตรีรินทร์ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจหญิงสาวขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดทั้งวันจนกระทั่งแม่นมคนสนิทของชายหนุ่มมาเรียกให้ไปรับประทานอาหารจริงๆแล้วตรีรินทร์ไม่หิวเพราะยังนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน แต่ไม่อยากให้หญิงชราไม่สบายใจหญิงสาวจึงฝืนใจออกจากห้องไปรับประทานอาหารอย่างเสียมิได้นมอิ่มตัดสินใจพูดเมื่อมองเห็นหญิงสาว เหม่อลอยพร้อมกับตักข้าวต้มกินช้าๆ“ทะเลาะกับคุณกานต์เหรอคะคุณรินทร์”นมอิ่มตัดสินใจถามเมื่อเห็นหญิงสาวตาบวมซึ่งคงผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักแล้วมีท่าทางเหม่อลอยตรีรินทร์เงียบ ก่อนวางช้อนข้าวต้มลง “นิดหน่อยค่ะนมก็รู้ว่าคู่ของ
“รินทร์ดูใจลอยจังมีเรื่องอะไรไม่สบายใจพูดกับเราได้เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอเราพร้อมรับฟังนะ”พยาบาลสาวเหลือบมองอากัปกิริยาก่อนพูดตรีรินทร์ถอนใจแล้วพูดว่า “จริงๆก่อนคุณกานต์ไปเมืองนอกเรามีเรื่องทะเลาะกันก็ไม่คุยกันตั้งหลายวัน รินทร์ยังหนักใจว่าเจอเค้าอีกครั้งแล้วรินทร์จะต้องทำตัวยังไง”“เรื่องอะไรล่ะที่ทะเลาะกัน เรื่องร้ายแรงหรือเปล่า”“ก็ไม่เชิงหรอก อืม รินทร์จะเล่าให้ฟัง”ตรีรินทร์ถ่ายทอดเหตุการณ์ที่ผ่านมาพร้อมกับเล่าที่ชายหนุ่มโทรมาจากต่างประเทศ“โถรินทร์ เราว่าไม่มีอะไรหรอก มันคงเป็นเหตุการณ์บังเอิญ รินทร์ลองคิดกลับกันดูนะถ้ารินทร์เป็นคุณกานต์ รินทร์จะเอากิ๊กมาทำอะไรที่บ้านแล้วโทรไปเรียกเมียมาดูไหมคนโง่มากเท่านั้นที่ทำจริงไหม ถ้าเราตัดอารมณ์ออกแล้วใช้ความคิดนะเราจะรู้ว่านี่อาจเป็นแผนของใครบางคนที่อยากให้รินทร์กับคุณกานต์ผิดใจกัน”ตรีรินทร์กลับมาถึงบ้านก็ครุ่นคิดกับสิ่งที่เพื่อนสาวพูดกลับไปกลับมาก่อนจะตกใจเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู“เข้ามาเถอะจ๊ะ ห้องไม่ได้ล็อค”“คุณรินทร์ หนูกลับมาแล้วค่ะแล้วทำไมคุณรินทร์ถึงมาอยู่เรือนใหญ่ค่ะแล้วเรือนหลังเล็กแหวนไปหาตั้งนานไม่มีใครอยู่เลย”ต
“ รินทร์ ตรีรินทร์ เปิดประตูหน่อยสิ เมียจ๋าผัวกลับมาแล้ว” เสียงเคาะประตูดังขึ้น “ เดี๋ยวค่ะ กำลังจะเปิดแล้ว” เสียงตรีรินทร์ตะโกนตอบหญิงสาวเปิดประตูแต่ก็ต้องตกใจเพราะร่างของชายหนุ่มเซมาปะทะจนแทบจะตั้งรับไม่ทัน“คุณกานต์นี่คุณเมาเหรอค่ะ เหม็นเหล้าจัง” ตรีรินทร์เบนใบหน้าหนี เพราะทนกลิ่นเหล้าแทบไม่ไหว“รังเกียจหรือไง เนี่ยผัวนะไม่ใช่คนอื่น” ธมกานต์โวยวายเสียงอ้อแอ้“คุณเมาแล้ว เดี๋ยวรินทร์พาไปนอน” ตรีรินทร์พูดอย่างอ่อนใจ“ใครว่าผมเมา ผมไม่เมาสักหน่อย” ธมกานต์เถียงแต่ยังเดินเซ หญิงสาวประคองมาที่เตียงพยายามจะผลักให้ชายหนุ่มนอนที่เตียงแต่กลับล้มไปด้วยกันที่เตียง“ว้าย” ตรีรินทร์ร้องตกใจหญิงสาวพยายามตะเกียกตะกายเพื่อจะลุกขึ้นจากร่างของชายหนุ่มแต่กลับถูกชายหนุ่มผลักให้นอนแนบอกก่อนที่ชายหนุ่มจะพลิกตัว ขึ้นมาใบหน้าห่างกันแค่คืบจนได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน“รังเกียจผมมากหรือไงลืมไปแล้วเหรอว่าเราเป็นอะไรกัน” ธมกานต์กล่าวเสียงเข้ม ภายในรู้สึกเจ็บร้าวกับกิริยาท่าทางที่ดูเหมือนจะรังเกียจของหญิงสาว“เปล่าค่ะ รินทร์อยากให้คุณพัก คุณเมาแล้ว นอนพักเถอะค่ะรินทร์จะไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้” ตร
“ค่ะ ไม่ต้องห่วง นมจะดูแลให้อย่างดีค่ะ”ธมกานต์หันขึ้นไปมอง ก่อนมองที่นาฬิกา แล้วรีบก้าวเดินออกไปอย่างรีบร้อน“เข้ม ไปส่งฉันที่สนามบิน”ธมกานต์นั่งนึกถึงใบหน้าของภรรยาสาวแล้วหงุดหงิดที่ไม่สามารถเคลียร์ปัญหากับภรรยาสาวก่อนออกเดินทางได้ธมกานต์กดโทรศัพท์หาหญิงสาว เสียงสัญญาณว่างแต่ไม่มีคนรับสายทำให้ชายหนุ่มยิ่งหงุดหงิดก่อนจะกระหน่ำโทรอย่างโมโหตรีรินทร์มองโทรศัพท์ดังไม่ขาดสายพร้อมกับกัดริมฝีปากด้วยความเจ็บปวดยิ่งถอดเสื้อคลุมแล้วเห็นร่องรอยต่างๆบนเนื้อตัว ทำให้ตรีรินทร์ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจหญิงสาวขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดทั้งวันจนกระทั่งแม่นมคนสนิทของชายหนุ่มมาเรียกให้ไปรับประทานอาหารจริงๆแล้วตรีรินทร์ไม่หิวเพราะยังนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน แต่ไม่อยากให้หญิงชราไม่สบายใจหญิงสาวจึงฝืนใจออกจากห้องไปรับประทานอาหารอย่างเสียมิได้นมอิ่มตัดสินใจพูดเมื่อมองเห็นหญิงสาว เหม่อลอยพร้อมกับตักข้าวต้มกินช้าๆ“ทะเลาะกับคุณกานต์เหรอคะคุณรินทร์”นมอิ่มตัดสินใจถามเมื่อเห็นหญิงสาวตาบวมซึ่งคงผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักแล้วมีท่าทางเหม่อลอยตรีรินทร์เงียบ ก่อนวางช้อนข้าวต้มลง “นิดหน่อยค่ะนมก็รู้ว่าคู่ของ
“เป็นของใครครับคุณทนาย” ธมกานต์เงยหน้าก่อนจะจ้องมองทนายเหมือนจะบังคับให้พูด“ของคุณตรีรินทร์ แล้วเพื่อนผมที่เป็นผู้จัดการ ยังบอกว่าเธอเป็นผู้มาเบิกเงินเองทุกครั้ง”“เงินหายจากบัญชีไปเท่าไหร่ครับ”“สามล้านเศษๆ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาครับ”“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อน ยังไงคุณกานต์คงจะสอบถามคุณรินทร์ได้ว่าผมจะติดต่อคุณหญิงได้ที่ไหน ผมพยายามโทรเข้ามือถือก็ติดต่อไม่ได้เมื่อวานโทรมาหานมอิ่มก็บอกว่ายังไม่กลับบ้านแต่ที่น่าแปลกก็คือเงินเดือนพนักงานในบ้านปกติคุณหญิงจะเป็นผู้จัดการเองทุกครั้งผมถามนมอิ่มนมอิ่มบอกว่าคุณตรีรินทร์เป็นผู้นำเงินมาจ่าย” ทนายสมชายรายงานธมกานต์รู้สึกมึนกับข้อมูลที่ได้รับก่อนจะขังตัวเองในห้องทำงานพร้อมกับเอกสารที่ระบุข้อมูลการจ่ายเงินออกจากบัญชีมารดา ธมกานต์หยิบขึ้นมาดูทีละใบ ทีละใบ อย่างละเอียดห้องผ่าตัดเปิดออกตรีรินทร์ขยับตัวก่อนจะก้าวไปหาอาจารย์หมอด้วยความร้อนใจ“คุณป้าเป็นอย่างไรบ้างคะ”“ปลอดภัยแล้ว ตอนนี้คนไข้ต้องพักผ่อนอย่างน้อยสามสิบหกชั่วโมง หมอว่าคุณกลับไปพักผ่อนก่อนคนไข้ฟื้นผมจะให้พยาบาลโทรไปบอก ผมอยากให้คนไข้พักนานหน่อยเพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่ ““ขอบคุ
ที่ว่าการอำเภอตรีรินทร์สวมแว่นตาดำเพื่อปกปิดร่องรอยที่ชายหนุ่มสามารถจะเห็นดวงตาที่บวมแดงที่ผ่านการร้องไห้ตลอดคืนอย่างแสนสาหัส เป็นสิ่งที่ตรีรินทร์ปกปิด ไม่ต้องการให้ชายหนุ่มเห็นธมกานต์ก้าวลงจากรถแต่ต้องแปลกใจเมื่อเห็นหญิงสาวถือแฟ้มมายืนรออยู่แล้ว“ขอโทษที่มาช้า แต่เอ๊ะ ผมมาตรงเวลานะคุณ”“ฉันมารอแต่เช้าเอง อยากจัดการให้เสร็จเร็วๆ” ตรีรินทร์กล่าวเสียงเย็น“งั้นรีบเข้าไปเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันใจคุณ” ธมกานต์พูดประชดตรีรินทร์เชิดหน้าก้าวเดินอย่างไม่รู้สึกกับถ้อยคำที่จิกกัดของชายหนุ่มเซ็นเอกสารเรียบร้อยเจ้าหน้าที่มอบเอกสารให้คนละฉบับ ก่อนที่ชายหนุ่มที่มีทนายตามมาด้วยได้ยื่นซองเอกสารให้หญิงสาวอีกหนึ่งฉบับตรีรินทร์รับมาเปิดก่อนจะได้ยินเสียงชายหนุ่มพูดว่า“ค่าสึกหรอของคุณ ผมให้ด้วยความเต็มใจ เผื่อไว้เอาไปสร้างครอบครัวใหม่ของคุณ”ตรีรินทร์ฉีกเช็ดเงินสดจำนวนสามสิบล้าน ฉีกออกเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนจะขว้างใส่ชายหนุ่ม“ขอบคุณ แต่ไม่ต้อง ฉันมีปัญญาเลี้ยงตัวเองได้”“อวดดีแล้วผมจะให้ค่าเลี้ยงดูคุณ จนกว่าคุณจะแต่งงานใหม่”“ไม่ต้อง ฉันมาแต่ตัวก็จะไปแต่ตัวเท่านั้น”“นี่คุณ อย่ามาดัดจริตหน่อยเลย ผมเบื่อจะอ้
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้