“เข้มบอกแล้วไงว่าอยากอยู่คนเดียวแล้วนี่พรวดพราดเข้ามามีอะไรฮะวอนโดนเตะแล้วไหมล่ะบอกแล้วไงว่าฉัน
ไม่อยากเจอใคร” ธมกานต์กล่าวอย่างหงุดหงิดคนขับรถหนุ่มเริ่มติดอ่างเมื่อเห็นอารมณ์ของนายจ้างหนุ่ม” เออ คุณนมบอกให้ผมมาเรียนเชิญคุณกานต์ที่ตึกใหญ่บอกว่าคุณรินทร์มีธุระสำคัญจะคุยด้วยด่วนครับ” ธมกานต์ผงกศีรษะก่อนจะออกเดิน” แล้วก็ไม่บอก อมพะนำอยู่ได้” ธมกานต์รู้สึกดีใจในวูบแรกแต่ก็ทำหน้าเคร่งเมื่อเดินเข้าสู่บริเวณตึกก่อนจะได้กลิ่นเหมือนขนมอบธมกานต์สูดกลิ่นเข้าเต็มปอดก่อนท้องเจ้ากรรมก็ส่งเสียงประท้วงเพราะตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ชายหนุ่มไม่ได้รับประทานจริงๆจังๆเลยสักมื้อ นมอิ่มเดินมาหาก่อนจะยื่นจานคุกกี้ให้ชายหนุ่ม “ ชิมสิคะคุณกานต์อร่อยคะ” ธมกานต์หยิบขึ้นชิมก่อนจะหยิบทานอีกหลายชิ้นก่อนพูดชื่นชมว่า “อร่อยรสช็อคโกแล็ตชิบของโปรดแต่มีเหมือนกลิ่นใบเตยผสมหอมดี” “ฝีมือคุณรินทร์ค่ะ” ธมกานต์สำลักก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม “ ใครทำนะ” “คุณหนูรินทร์ค่ะ อร่อยใช่ไหมคะ” “ก็งั้นแหละพอทานได้” ธม กานต์พูดสิ่งตรงข้ามกับใจเมื่อเหลือบเห็นภรรยาสาวในชุดเอี๊ยมในครัวเดินออกมาธมกานต์จ้องมองร่างภรรยาสาวที่ทำให้ตนกระวนกระวายตลอด หลายชมที่ผ่านมาหนึ่งวันกว่าๆที่ไม่ได้เจอหน้ากันธมกานต์ยอมรับว่าตนคงขาดหญิงสาวที่ตรงหน้าไม่ได้ใจหนึ่ง อยากลากหญิงสาวมากอดแล้วทำอะไรอย่างที่อยากทำอีกใจก็ถือทิฐิพลางคิดในใจเรื่องอะไรเราไม่ผิด “นมออกไปก่อนนะคะคุยกันตามสบายนมจะไปดูเด็กๆที่หลังสวนคุณกานต์คุณรินทร์คุยกันไปก่อนนะคะเดี๋ยวนมมา” นมอิ่มรีบปลีกตัวออก “คุณมีธุระอะไร ให้เข้มไปตาม” ธมกานต์เอ่ยถาม “เปล่านี่คะรินทร์ไม่ได้ให้คนไปตาม” หญิงสาวปฏิเสธเสียงหลง ธมกานต์นิ่งก่อนจะตอบว่า”งั้นผมไปล่ะถ้าไม่มีธุระผมมีงานต้องทำต่อ” ตรีรินทร์รีบเดินมาขวางก่อนจะพูดว่า “เดี๋ยวค่ะอย่าพึ่งไปรินทร์คิดว่านมอิ่มคงอยากช่วยเห็นเราโกรธกันเลยอยากให้คุยกันคุณกานต์ รู้ไหมว่าเราโกรธกันเนี่ยมันทำให้บรรยากาศในบ้านอึมครึมเด็กในบ้านไม่กล้าเข้าหน้าคุณเพราะคุณหน้าบึ้งอารมณ์เสียจนทำให้เด็กๆ ตัวลีบไปหมดไม่เว้นแม้แต่เข้มรินทร์ว่าเราคงต้องทำอะไรสักอย่างไม่งั้นทุกคนก็พลอยมาเป็นโรคประสาทกันหมด” “ อ๋อทั้งหมดคุณว่าผมผิดว่างั้น” ธมกานต์ตีรวน “เปล่านะคะรินทร์ไม่ได้พูดสักคำแค่อยากให้คุณกลับมาเป็นปกติแล้วไอ้ที่ขว้างปาข้าวของนี่ก็เลิกซะสงสารคนอื่นบ้างต้องมานั่งเก็บกับสิ่งที่คุณทำเพื่อระบาย อารมณ์” “แล้วจะให้ทำยังไงก็ว่ามาไม่ต้องโยกโย้รำคาญ” ธมกานต์กล่าวหงุดหงิด “รินทร์แค่อยากให้คุณทำตัวเหมือนเดิมต่อหน้านมอิ่มและเด็กๆในบ้านรินทร์ไม่อยากให้นมอิ่มกลุ้มใจค่ะ แล้วไม่อยากให้บรรยากาศในบ้านทำให้ทุกคนอึดอัดกับปัญหาแค่เราไม่เข้าใจกัน”ตรีรินทร์จ้องหน้าธมกานต์อย่างขอร้อง “แสดงละครต่อหน้าคนอื่นว่างั้น” ธมกานต์พูดเสียงสะบัด “นะคะคุณกานต์ รินทร์สงสารนมอิ่มท่านแก่แล้วต้องมากลุ้มใจเรื่องของเรา”ตรีรินทร์กล่าวเสียงอ่อน “ก็ได้ งั้นคุณก็กลับเรือนเล็กได้แล้ว” “ไม่ รินทร์ไม่กลับอีกเป็นอันขาด คุณมาทานอาหารเย็นกับรินทร์ที่เรือนหลังใหญ่ แค่นี้ก็คงทำให้อะไรๆ ดีขึ้น” “โอเคผมขึ้นมานอนเรือนหลังใหญ่ก็ได้ ว่าแต่คุณนอนห้องไหน”น้ำเสียงธมกานต์คาดคั้น “ฉันนอนห้องพักแขกทำไมเหรอคะ” “ย้ายไปนอนห้องใหญ่กับผม ไม่งั้นก็เลิกล้มไปเสีย ไอ้แสดงละครตบตาคนเนี่ยผมไม่ถนัด”ธมกานต์กล่าวเสียงเข้ม พร้อมกับมีน้ำเสียงประชดประชันจนทำให้หญิงสาวแอบส่งค้อนให้ชายหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว “ก็ได้ค่ะตามใจคุณ”ตรีรินทร์กล่าวเสียงอ่อน พร้อมกับนึกในใจว่า ‘ใจคอเค้าจะให้เรากลับไปนอนในที่ที่เค้ามีความสุขกับแฟนเก่าได้ลงคอใจร้ายจริงๆ คนบ้า’ ธมกานต์เหลือบตามองหญิงสาวที่ทำหน้ายุ่งแล้วนึกขำในใจ แต่ก็แอบดีใจลึกๆ พร้อมกับกระชากหญิงสาวเข้ามาในอ้อมแขน ตรีรินทร์ตาโตพร้อมกับใช้มือยันหน้าอกกว้าง “คุณกานต์ทำบ้าอะไรเนี่ย” ตรีรินทร์ร้องโวยวาย “ นิ่งๆสิ นมอิ่มมองอยู่ ไหนคุณว่าเราต้องทำให้นมอิ่มสบายใจไง ชู้ว์นมอิ่มเดินเข้ามาใกล้แล้วแบบนี้ผมต้องทำให้นมอิ่มสบายใจซะแล้ว” ธมกานต์ก้มลงจูบตรีรินทร์ท่ามกลางความตกใจของหญิงสาว ธมกานต์จับท้ายทอยหญิงสาวบังคับให้รับจุมพิต ในขณะที่หญิงสาวพยายามดิ้น “เอ อย่าดิ้นสิ เดี๋ยวนมอิ่มไม่เชื่อนะว่าเราดีกัน”ตรีรินทร์หยุดดิ้น ในขณะที่หญิงสาวหยุดดิ้นทำให้ธมกานต์ก้มลงมาจูบนุ่มนวลเรียกร้อง หญิงสาวจิกปลายเล็บกับต้นแขนเมื่อชายหนุ่มจุมพิตอย่างอ่อนหวานเรียกร้อง “หวานจังเลยเมียผม” ธมกานต์แอบแซวเมื่อหยุดจุมพิต ตรีรินทร์หน้าแดง แต่เมื่อมองหานมอิ่มกลับพบความว่างเปล่า “ไหนคุณว่านมอิ่มมองอยู่ ฉันไม่เห็นใครเลยคุณโกหกใช่ไหมคนบ้า”ตรีรินทร์ทุบที่แขน ชายหนุ่มจับมือหญิงสาวไว้ ก่อนจะพูดว่า “เมื่อกี้เห็นจริงๆ แต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้วไม่รู้ไปไหนคุณไม่เชื่อก็ช่วยไม่ได้ ได้จูบคุณอีกทีเหมือนได้ขึ้นสวรรค์”ธมกานต์ปล่อยมือ แล้วเดินจากไปท่ามกลางสายตาของหญิงสาวที่มองตามอย่างสับสน กริ๊ง เสียงโทรศัพท์มือถือดัง หญิงสาวหันไปรับสายพร้อมกับเดินออกจากห้องครัว หลังจากมาช่วยนมอิ่มเตรียมอาหารในวันหยุด “รินทร์พูดค่ะ” ตรีรินทร์พูดเสียงเบาๆ หลังจากออกมาพูดที่สวนหน้าบ้าน “แหม หายไปเลยนะรินทร์ไม่ติดต่อกันบ้าง อรงอนแล้วนะเนี่ย” พยาบาลสาวต่อว่ามาตามสาย “ขอโทษจ๊ะเพื่อน ช่วงนี้งานยุ่งนิดหน่อย” ตรีรินทร์แก้ตัวเสียงอ่อย “พูดเล่นจ๊ะ เออรินทร์เห็นข้อความอ้อมใจในเฟสบุ๊คหรือเปล่า” ตรีรินทร์ใจหายวาบ โทรศัพท์มือถือแทบร่วงออกจากมือ “ใครนะ” “ก็ยัยอ้อมใจรูมเมทรินทร์ คนที่รินทร์เล่าว่าเคยอกหักจากสามีรินทร์ไง เค้าจะมาเมืองไทยวันมะรืน” “อรแกช่วยอะไรหน่อยได้ไหม ช่วยนัดอ้อมให้หน่อย รินทร์อยากเจอเค้าอยากพูดกับเค้า” ตรีรินทร์เอ่ยขอร้อง “ได้สิ ได้เรื่องยังไงจะแมสเสจบอกนะ ไว้เจอกันบ้างนะรินทร์ น้ำเสียงรินทร์ไม่ค่อยแจ่มใสเลย เอาไว้เจอกันคราวหน้าเล่าให้ฟังบ้างนะ” เสียงถอนหายใจของเพื่อนสาวทำให้พยาบาลสาวเข้าใจแต่ไม่อยากเซ้าซี้เพื่อนเพราะความที่คบกันมานานก็เลยค่อนข้างจะรู้ใจ ตรีรินทร์กลับเข้าไปทำอาหารด้วยอาการเหม่อลอยธมกานต์มองหน้าภรรยาสาวอย่างหงุดหงิดเมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร หญิงสาวเงียบไม่เหมือนที่เคยปฏิบัติกันมาแถมยังมีอาหารเหม่อลอย ธมกานต์พยายามกระแอมแต่หญิงสาวหาได้สนใจไม่ ตรีรินทร์คิดอย่างหนักเกี่ยวกับการจะมาของอ้อมใจว่าเพื่อนจะรู้สึกอย่างไรถ้ารู้ว่าตนได้แต่งงานกับผู้ชายคนที่ทำให้เพื่อนรักเกือบฆ่าตัวตาย เพื่อนจะโกรธมากไหมตรีรินทร์คิดวนไปวนมาจนไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของชายหนุ่มผู้เป็นสามี “ถ้าการทานข้าวกับผมมันฝืนใจคุณมากก็บอกมา คราวหลังผมจะได้หาจากข้างนอกทาน”น้ำเสียงกระแทกกระทั้นทำให้ตรีรินทร์ตื่นจากภวังค์ “เปล่านี่คะ ไม่ได้ฝืนใจนี่คะ”ตรีรินทร์พูดเสียงอ่อน “แล้วทำไมทำท่าทางแบบนั้น กินข้าวก็ไม่พูดไม่จา แล้วไม่มองหน้าผมแม้แต่สักนิด แล้วคุณจะให้ผมคิดยังไง”ธมกานต์ตีรวน “โถคุณกานต์ ฉันก็ต้องมีเรื่องให้คิดบ้างสิ” ตรีรินทร์พูดอย่างรู้สึกอ่อนใจ “มีเรื่องอะไรให้คิดมากมาย” ธมกานต์กล่าวเสียงอ่อนลง “เรื่องงาน เรื่องเพื่อน หลายเรื่อง” “มีอะไรให้ผมช่วยบอกผมได้นะผมยินดี” น้ำเสียงธมกานต์อ่อนโยน “ไม่ต้องหรอกค่ะ รินทร์จัดการเองได้ไม่ต้องรบกวนคุณ” เสียงช้อนกระทบจานค่อนข้างแรงทำให้ตรีรินทร์ตกใจมองชายหนุ่มซึ่งกำลังทำหน้าบึ้ง พร้อมกับพูดเสียงเข้มว่า“ใช่สิผมมันก็แค่ใครไม่รู้ในชีวิตคุณที่คุณพร้อมจะผลักไสตลอดเวลา ผมคิดว่าคุณคือคนสำคัญในชีวิตผม คือภรรยา เพื่อน น้อง ที่พร้อมจะปรึกษาในทุกๆเรื่องช่วยกันแก้ปัญหาและก้าวไปด้วยกัน ในขณะที่คุณมองผมเป็นคนอื่นตลอดเวลาผมไม่เคยมีความสำคัญในชีวิตคุณ คุณพร้อมจะสร้างกำแพงมาขวางกั้นเราทั้งคู่บอกตรงๆผมชักจะเหนื่อยในการวิ่งไล่ตามคุณแล้ว ขณะที่คุณสำคัญกับผมมากเหลือเกินแต่ผมเป็นอะไรไม่รู้ในชีวิตคุณบอกตรงๆตรีรินทร์ผมเหนื่อยและกำลังเซ็ง”พูดจบธมกานต์ลุกขึ้นพร้อมกับกระแทกเท้าเดินจากไปใน ขณะที่ตรีรินทร์อึ้งและชาไปทั่วร่างกาย ตรีรินทร์ยืนกอดอกมองพระจันทร์ในห้องนอนใหญ่ที่เธอและสามีได้ใช้นอนร่วมกันสองวันแล้วแต่เหมือนสอง วันแห่งความทรมาน เพราะต่างคนต่างนอนคนละฟากของเตียง คืนนี้ก็เช่นกันหลังจากที่ชายหนุ่มระเบิดอารมณ์ ก็ขับรถอย่างเร็วออกจากบ้านไปท่ามกลางความเป็นห่วงของนมอิ่มและหญิงสาว “เราจะเป็นแบบนี้อีกนานไหมค่ะคุณกานต์เมื่อไหร่เราจะเข้าใจกันสักที หรือว่าชีวิตคู่เราใกล้จะจบแล้ว คุณป้าขาเมื่อไหร่คุณป้าจะกลับบ้านรินทร์คิดถึงคุณป้ามาก”ตรีรินทร์คำพึงถึงคุณหญิงมณีจันทร์ในตอนท้ายก่อน น้ำตาจะไหลอึดอัดกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่“ รินทร์ ตรีรินทร์ เปิดประตูหน่อยสิ เมียจ๋าผัวกลับมาแล้ว” เสียงเคาะประตูดังขึ้น “ เดี๋ยวค่ะ กำลังจะเปิดแล้ว” เสียงตรีรินทร์ตะโกนตอบหญิงสาวเปิดประตูแต่ก็ต้องตกใจเพราะร่างของชายหนุ่มเซมาปะทะจนแทบจะตั้งรับไม่ทัน“คุณกานต์นี่คุณเมาเหรอค่ะ เหม็นเหล้าจัง” ตรีรินทร์เบนใบหน้าหนี เพราะทนกลิ่นเหล้าแทบไม่ไหว“รังเกียจหรือไง เนี่ยผัวนะไม่ใช่คนอื่น” ธมกานต์โวยวายเสียงอ้อแอ้“คุณเมาแล้ว เดี๋ยวรินทร์พาไปนอน” ตรีรินทร์พูดอย่างอ่อนใจ“ใครว่าผมเมา ผมไม่เมาสักหน่อย” ธมกานต์เถียงแต่ยังเดินเซ หญิงสาวประคองมาที่เตียงพยายามจะผลักให้ชายหนุ่มนอนที่เตียงแต่กลับล้มไปด้วยกันที่เตียง“ว้าย” ตรีรินทร์ร้องตกใจหญิงสาวพยายามตะเกียกตะกายเพื่อจะลุกขึ้นจากร่างของชายหนุ่มแต่กลับถูกชายหนุ่มผลักให้นอนแนบอกก่อนที่ชายหนุ่มจะพลิกตัว ขึ้นมาใบหน้าห่างกันแค่คืบจนได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน“รังเกียจผมมากหรือไงลืมไปแล้วเหรอว่าเราเป็นอะไรกัน” ธมกานต์กล่าวเสียงเข้ม ภายในรู้สึกเจ็บร้าวกับกิริยาท่าทางที่ดูเหมือนจะรังเกียจของหญิงสาว“เปล่าค่ะ รินทร์อยากให้คุณพัก คุณเมาแล้ว นอนพักเถอะค่ะรินทร์จะไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้” ตร
“ค่ะ ไม่ต้องห่วง นมจะดูแลให้อย่างดีค่ะ”ธมกานต์หันขึ้นไปมอง ก่อนมองที่นาฬิกา แล้วรีบก้าวเดินออกไปอย่างรีบร้อน“เข้ม ไปส่งฉันที่สนามบิน”ธมกานต์นั่งนึกถึงใบหน้าของภรรยาสาวแล้วหงุดหงิดที่ไม่สามารถเคลียร์ปัญหากับภรรยาสาวก่อนออกเดินทางได้ธมกานต์กดโทรศัพท์หาหญิงสาว เสียงสัญญาณว่างแต่ไม่มีคนรับสายทำให้ชายหนุ่มยิ่งหงุดหงิดก่อนจะกระหน่ำโทรอย่างโมโหตรีรินทร์มองโทรศัพท์ดังไม่ขาดสายพร้อมกับกัดริมฝีปากด้วยความเจ็บปวดยิ่งถอดเสื้อคลุมแล้วเห็นร่องรอยต่างๆบนเนื้อตัว ทำให้ตรีรินทร์ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจหญิงสาวขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดทั้งวันจนกระทั่งแม่นมคนสนิทของชายหนุ่มมาเรียกให้ไปรับประทานอาหารจริงๆแล้วตรีรินทร์ไม่หิวเพราะยังนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน แต่ไม่อยากให้หญิงชราไม่สบายใจหญิงสาวจึงฝืนใจออกจากห้องไปรับประทานอาหารอย่างเสียมิได้นมอิ่มตัดสินใจพูดเมื่อมองเห็นหญิงสาว เหม่อลอยพร้อมกับตักข้าวต้มกินช้าๆ“ทะเลาะกับคุณกานต์เหรอคะคุณรินทร์”นมอิ่มตัดสินใจถามเมื่อเห็นหญิงสาวตาบวมซึ่งคงผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักแล้วมีท่าทางเหม่อลอยตรีรินทร์เงียบ ก่อนวางช้อนข้าวต้มลง “นิดหน่อยค่ะนมก็รู้ว่าคู่ของ
“รินทร์ดูใจลอยจังมีเรื่องอะไรไม่สบายใจพูดกับเราได้เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอเราพร้อมรับฟังนะ”พยาบาลสาวเหลือบมองอากัปกิริยาก่อนพูดตรีรินทร์ถอนใจแล้วพูดว่า “จริงๆก่อนคุณกานต์ไปเมืองนอกเรามีเรื่องทะเลาะกันก็ไม่คุยกันตั้งหลายวัน รินทร์ยังหนักใจว่าเจอเค้าอีกครั้งแล้วรินทร์จะต้องทำตัวยังไง”“เรื่องอะไรล่ะที่ทะเลาะกัน เรื่องร้ายแรงหรือเปล่า”“ก็ไม่เชิงหรอก อืม รินทร์จะเล่าให้ฟัง”ตรีรินทร์ถ่ายทอดเหตุการณ์ที่ผ่านมาพร้อมกับเล่าที่ชายหนุ่มโทรมาจากต่างประเทศ“โถรินทร์ เราว่าไม่มีอะไรหรอก มันคงเป็นเหตุการณ์บังเอิญ รินทร์ลองคิดกลับกันดูนะถ้ารินทร์เป็นคุณกานต์ รินทร์จะเอากิ๊กมาทำอะไรที่บ้านแล้วโทรไปเรียกเมียมาดูไหมคนโง่มากเท่านั้นที่ทำจริงไหม ถ้าเราตัดอารมณ์ออกแล้วใช้ความคิดนะเราจะรู้ว่านี่อาจเป็นแผนของใครบางคนที่อยากให้รินทร์กับคุณกานต์ผิดใจกัน”ตรีรินทร์กลับมาถึงบ้านก็ครุ่นคิดกับสิ่งที่เพื่อนสาวพูดกลับไปกลับมาก่อนจะตกใจเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู“เข้ามาเถอะจ๊ะ ห้องไม่ได้ล็อค”“คุณรินทร์ หนูกลับมาแล้วค่ะแล้วทำไมคุณรินทร์ถึงมาอยู่เรือนใหญ่ค่ะแล้วเรือนหลังเล็กแหวนไปหาตั้งนานไม่มีใครอยู่เลย”ต
“ รินทร์ ตรีรินทร์ เปิดประตูหน่อยสิ เมียจ๋าผัวกลับมาแล้ว” เสียงเคาะประตูดังขึ้น “ เดี๋ยวค่ะ กำลังจะเปิดแล้ว” เสียงตรีรินทร์ตะโกนตอบหญิงสาวเปิดประตูแต่ก็ต้องตกใจเพราะร่างของชายหนุ่มเซมาปะทะจนแทบจะตั้งรับไม่ทัน“คุณกานต์นี่คุณเมาเหรอค่ะ เหม็นเหล้าจัง” ตรีรินทร์เบนใบหน้าหนี เพราะทนกลิ่นเหล้าแทบไม่ไหว“รังเกียจหรือไง เนี่ยผัวนะไม่ใช่คนอื่น” ธมกานต์โวยวายเสียงอ้อแอ้“คุณเมาแล้ว เดี๋ยวรินทร์พาไปนอน” ตรีรินทร์พูดอย่างอ่อนใจ“ใครว่าผมเมา ผมไม่เมาสักหน่อย” ธมกานต์เถียงแต่ยังเดินเซ หญิงสาวประคองมาที่เตียงพยายามจะผลักให้ชายหนุ่มนอนที่เตียงแต่กลับล้มไปด้วยกันที่เตียง“ว้าย” ตรีรินทร์ร้องตกใจหญิงสาวพยายามตะเกียกตะกายเพื่อจะลุกขึ้นจากร่างของชายหนุ่มแต่กลับถูกชายหนุ่มผลักให้นอนแนบอกก่อนที่ชายหนุ่มจะพลิกตัว ขึ้นมาใบหน้าห่างกันแค่คืบจนได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน“รังเกียจผมมากหรือไงลืมไปแล้วเหรอว่าเราเป็นอะไรกัน” ธมกานต์กล่าวเสียงเข้ม ภายในรู้สึกเจ็บร้าวกับกิริยาท่าทางที่ดูเหมือนจะรังเกียจของหญิงสาว“เปล่าค่ะ รินทร์อยากให้คุณพัก คุณเมาแล้ว นอนพักเถอะค่ะรินทร์จะไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้” ตร
“ค่ะ ไม่ต้องห่วง นมจะดูแลให้อย่างดีค่ะ”ธมกานต์หันขึ้นไปมอง ก่อนมองที่นาฬิกา แล้วรีบก้าวเดินออกไปอย่างรีบร้อน“เข้ม ไปส่งฉันที่สนามบิน”ธมกานต์นั่งนึกถึงใบหน้าของภรรยาสาวแล้วหงุดหงิดที่ไม่สามารถเคลียร์ปัญหากับภรรยาสาวก่อนออกเดินทางได้ธมกานต์กดโทรศัพท์หาหญิงสาว เสียงสัญญาณว่างแต่ไม่มีคนรับสายทำให้ชายหนุ่มยิ่งหงุดหงิดก่อนจะกระหน่ำโทรอย่างโมโหตรีรินทร์มองโทรศัพท์ดังไม่ขาดสายพร้อมกับกัดริมฝีปากด้วยความเจ็บปวดยิ่งถอดเสื้อคลุมแล้วเห็นร่องรอยต่างๆบนเนื้อตัว ทำให้ตรีรินทร์ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจหญิงสาวขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดทั้งวันจนกระทั่งแม่นมคนสนิทของชายหนุ่มมาเรียกให้ไปรับประทานอาหารจริงๆแล้วตรีรินทร์ไม่หิวเพราะยังนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน แต่ไม่อยากให้หญิงชราไม่สบายใจหญิงสาวจึงฝืนใจออกจากห้องไปรับประทานอาหารอย่างเสียมิได้นมอิ่มตัดสินใจพูดเมื่อมองเห็นหญิงสาว เหม่อลอยพร้อมกับตักข้าวต้มกินช้าๆ“ทะเลาะกับคุณกานต์เหรอคะคุณรินทร์”นมอิ่มตัดสินใจถามเมื่อเห็นหญิงสาวตาบวมซึ่งคงผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักแล้วมีท่าทางเหม่อลอยตรีรินทร์เงียบ ก่อนวางช้อนข้าวต้มลง “นิดหน่อยค่ะนมก็รู้ว่าคู่ของ
“เป็นของใครครับคุณทนาย” ธมกานต์เงยหน้าก่อนจะจ้องมองทนายเหมือนจะบังคับให้พูด“ของคุณตรีรินทร์ แล้วเพื่อนผมที่เป็นผู้จัดการ ยังบอกว่าเธอเป็นผู้มาเบิกเงินเองทุกครั้ง”“เงินหายจากบัญชีไปเท่าไหร่ครับ”“สามล้านเศษๆ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาครับ”“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อน ยังไงคุณกานต์คงจะสอบถามคุณรินทร์ได้ว่าผมจะติดต่อคุณหญิงได้ที่ไหน ผมพยายามโทรเข้ามือถือก็ติดต่อไม่ได้เมื่อวานโทรมาหานมอิ่มก็บอกว่ายังไม่กลับบ้านแต่ที่น่าแปลกก็คือเงินเดือนพนักงานในบ้านปกติคุณหญิงจะเป็นผู้จัดการเองทุกครั้งผมถามนมอิ่มนมอิ่มบอกว่าคุณตรีรินทร์เป็นผู้นำเงินมาจ่าย” ทนายสมชายรายงานธมกานต์รู้สึกมึนกับข้อมูลที่ได้รับก่อนจะขังตัวเองในห้องทำงานพร้อมกับเอกสารที่ระบุข้อมูลการจ่ายเงินออกจากบัญชีมารดา ธมกานต์หยิบขึ้นมาดูทีละใบ ทีละใบ อย่างละเอียดห้องผ่าตัดเปิดออกตรีรินทร์ขยับตัวก่อนจะก้าวไปหาอาจารย์หมอด้วยความร้อนใจ“คุณป้าเป็นอย่างไรบ้างคะ”“ปลอดภัยแล้ว ตอนนี้คนไข้ต้องพักผ่อนอย่างน้อยสามสิบหกชั่วโมง หมอว่าคุณกลับไปพักผ่อนก่อนคนไข้ฟื้นผมจะให้พยาบาลโทรไปบอก ผมอยากให้คนไข้พักนานหน่อยเพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่ ““ขอบคุ
ที่ว่าการอำเภอตรีรินทร์สวมแว่นตาดำเพื่อปกปิดร่องรอยที่ชายหนุ่มสามารถจะเห็นดวงตาที่บวมแดงที่ผ่านการร้องไห้ตลอดคืนอย่างแสนสาหัส เป็นสิ่งที่ตรีรินทร์ปกปิด ไม่ต้องการให้ชายหนุ่มเห็นธมกานต์ก้าวลงจากรถแต่ต้องแปลกใจเมื่อเห็นหญิงสาวถือแฟ้มมายืนรออยู่แล้ว“ขอโทษที่มาช้า แต่เอ๊ะ ผมมาตรงเวลานะคุณ”“ฉันมารอแต่เช้าเอง อยากจัดการให้เสร็จเร็วๆ” ตรีรินทร์กล่าวเสียงเย็น“งั้นรีบเข้าไปเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันใจคุณ” ธมกานต์พูดประชดตรีรินทร์เชิดหน้าก้าวเดินอย่างไม่รู้สึกกับถ้อยคำที่จิกกัดของชายหนุ่มเซ็นเอกสารเรียบร้อยเจ้าหน้าที่มอบเอกสารให้คนละฉบับ ก่อนที่ชายหนุ่มที่มีทนายตามมาด้วยได้ยื่นซองเอกสารให้หญิงสาวอีกหนึ่งฉบับตรีรินทร์รับมาเปิดก่อนจะได้ยินเสียงชายหนุ่มพูดว่า“ค่าสึกหรอของคุณ ผมให้ด้วยความเต็มใจ เผื่อไว้เอาไปสร้างครอบครัวใหม่ของคุณ”ตรีรินทร์ฉีกเช็ดเงินสดจำนวนสามสิบล้าน ฉีกออกเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนจะขว้างใส่ชายหนุ่ม“ขอบคุณ แต่ไม่ต้อง ฉันมีปัญญาเลี้ยงตัวเองได้”“อวดดีแล้วผมจะให้ค่าเลี้ยงดูคุณ จนกว่าคุณจะแต่งงานใหม่”“ไม่ต้อง ฉันมาแต่ตัวก็จะไปแต่ตัวเท่านั้น”“นี่คุณ อย่ามาดัดจริตหน่อยเลย ผมเบื่อจะอ้
“ คุณทำให้ผมเสียสติควบคุมตัวเองไม่ได้”“ เอาล่ะ จะพูดอะไรก็รีบพูด ฉันมีธุระต้องไปต่อ ““ ผม ผม” ธมกานต์ติดอ่างตรีรินทร์ถอนหายใจ ก่อนจ้องมองธมกานต์ ทำให้ชายหนุ่มเริ่มอึดอัดใจก่อนจะถอนใจ“ คุณจะไปไหน ผมจะไปส่ง”“ ไม่ต้อง ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ จากคุณ”“ อวดดี”“ ลาก่อน คุณธมกานต์ หวังว่าจะเป็นการพบกันครั้งสุดท้าย”“ คุณเป็นผู้หญิงที่เลือดเย็นที่สุด คุณจะทำให้ผมรู้สึกผิดที่ไม่ได้ทำอะไรเพื่อคุณบ้างหรือไง”“ ฉันไม่ต้องการเท่าที่ได้มาจากคุณแค่นี้ก็เป็นของขวัญพิเศษสุดในชีวิตแล้ว”“ คุณพูดถึงอะไรของขวัญอะไรของคุณ นี่คุณจะทำให้ผมเป็นบ้าใช่ไหม”“ แล้วแต่คุณจะคิด ลาก่อน” ตรีรินทร์เร่งฝีเท้าเดินจากไป ธมกานต์ทรุดนั่งอย่างหมดแรงบ้านพิพัฒนพงค์“ เจ้าเข้ม คุณกานต์ออกจากห้องหรือยัง”“ ยังครับ นมอิ่ม”“ เป็นยังงี้มากี่วันแล้ว”“ สองวันครับ”“ เอาแต่ดื่มเหล้า คุณผู้หญิงก็ไม่กลับบ้านยังอยู่บ้านแม่ คุณหญิงก็ไม่อยู่โอ๊ย กลุ้ม จะทำยังไงดี”“ เข้ม แกมีเบอร์คุณผู้หญิงไหม เดี๋ยวต้องโทรไปขอร้องให้เธอกลับบ้านมาดูคุณหนูของข้าหน่อย”“ อะไรนะคะ”นมอิ่มตะโกนด้วยความตกใจเมื่อได้รับการบอกเล่าจากหญิงสาวว่าได้ห
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้