“ค่ะ ไม่ต้องห่วง นมจะดูแลให้อย่างดีค่ะ”
ธมกานต์หันขึ้นไปมอง ก่อนมองที่นาฬิกา แล้วรีบก้าวเดินออกไปอย่างรีบร้อน “เข้ม ไปส่งฉันที่สนามบิน” ธมกานต์นั่งนึกถึงใบหน้าของภรรยาสาวแล้วหงุดหงิดที่ไม่สามารถเคลียร์ปัญหากับภรรยาสาวก่อนออกเดินทาง ได้ ธมกานต์กดโทรศัพท์หาหญิงสาว เสียงสัญญาณว่างแต่ไม่มีคนรับสายทำให้ชายหนุ่มยิ่งหงุดหงิด ก่อนจะกระหน่ำโทรอย่างโมโห ตรีรินทร์มองโทรศัพท์ดังไม่ขาดสายพร้อมกับกัดริมฝีปากด้วยความเจ็บปวดยิ่งถอดเสื้อคลุมแล้วเห็น ร่องรอย ต่างๆบนเนื้อตัว ทำให้ตรีรินทร์ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจหญิงสาวขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดทั้งวันจนกระทั่ งแม่นมคนสนิทของชายหนุ่มมาเรียกให้ไปรับประทานอาหาร จริงๆแล้วตรีรินทร์ไม่หิวเพราะยังนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน แต่ไม่อยากให้หญิงชราไม่สบายใจ หญิงสาวจึงฝืนใจออกจากห้องไปรับประทานอาหารอย่างเสียมิได้ นมอิ่มตัดสินใจพูดเมื่อมองเห็นหญิงสาว เหม่อลอยพร้อมกับตักข้าวต้มกินช้าๆ “ทะเลาะกับคุณกานต์เหรอคะคุณรินทร์” นมอิ่มตัดสินใจถามเมื่อเห็นหญิงสาวตาบวมซึ่งคงผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักแล้วมีท่าทางเหม่อลอย ตรีรินทร์เงียบ ก่อนวางช้อนข้าวต้มลง “นิดหน่อยค่ะนมก็รู้ว่าคู่ของเรามันไม่ค่อยปกติเหมือนคู่อื่นเค้า” “ไม่น่า คุณกานต์ถึงดูฉุนเฉียวหงุดหงิดก่อนจะเดินทาง เฮ้อ นมก็นึกว่าดีกันแล้วเห็นคุณกานต์ขึ้นมานอนเรือนใหญ่” ตรีรินทร์เห็นผู้สูงวัยดูท่าทางมีกังวล ก็เลยเข้าไปกอดก่อนจะลูบที่ต้นแขนเบาๆ “ เดี๋ยวเราก็ดีกันค่ะนม อย่าคิดมากสิค่ะ ลิ้นกับฟันก็ต้องกระทบกันเป็นธรรมดาเชื่อรินทร์เถอะค่ะนม” นมอิ่มหันมากอดตอบหญิงสาวพร้อมกับพูดว่า “จริงๆนะคะนมจะได้สบายใจ นี่นมก็กลุ้มใจอีกเรื่อง นี่คุณผู้หญิงก็ไม่กลับบ้านนานแล้วนะคะ ปกติคุณผู้หญิงไปปฏิบัติธรรมสองสามอาทิตย์ก็กลับ นี่ก็เดือนกว่าแล้วนะคะค่าใช้จ่ายที่ให้ไว้ก็จะหมดแล้ว นมยังไม่ได้จ่ายเงินเดือนเด็กในบ้านเพราะบอกให้รอคุณผู้หญิงกลับมาก่อนนมโทรเข้ามือถือของคุณผู้หญิงก็ติด ต่อไม่ได้ นมกลุ้มใจจัง” ตรีรินทร์มีแววกังวลก่อนจะตัดสินใจพูดว่า “เดี๋ยวคุณป้าคงกลับมาเองค่ะนมอิ่มไม่ต้องเป็นห่วงท่านสบายดี ว่าแต่นมอิ่มจะใช้เงินเท่าไหร่คะค่าใช้จ่ายในบ้านรินทร์จะไปเบิกมาให้ค่ะ คุณป้าฝากรินทร์ไว้ค่ะ” “อ้าวเหรอค่ะคุณรินทร์ติดต่อกับคุณผู้หญิงได้เหรอค่ะ งั้นนมก็สบายใจ นมอยากได้สักหกหมื่นค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยขอตัวออกไปทำงาน ท่ามกลางแววตาห่วงใยของนมอิ่ม ธมกานต์รู้สึกหงุดหงิดเมื่อไม่สามารถติดต่อภรรยาสาวได้ตลอดทั้งวันเพราะหญิงสาวปิดเครื่องแล้วตนเองก็ยุ่งกั บการประชุมและพบปะนักธุรกิจการโรงแรมจากชาติต่างๆจนดึก กว่าจะได้กลับที่พัก อย่างแรกที่ทำก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าคือหยิบโทรศัพท์แล้วกดหาหญิงสาว ตรีรินทร์ตกใจตื่นเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ แต่เมื่อยกขึ้นดูหมายเลขที่โทรหาก็รีบวางลงที่เดิมพร้อมกับกอดอกมองโทรศัพท์ที่ดังอีกไม่กี่ครั้ง แล้วเงียบไปก่อนจะดังอีกสองสามครั้งแล้วเงียบไป “นี่คุณจะลองดีกับผมใช่ไหมรินทร์” ธมกานต์กดส่งข้อความพร้อมกับนั่งลงที่ปลายเตียงอย่างมาดมั่น ตรีรินทร์หันไปมองโทรศัพท์ที่เงียบไปพร้อมกับเตรียมล้มตัวลงนอนแต่แอบย่นจมูกให้กับ โทรศัพท์ เสียงแมสเสจเข้ามาตรีรินทร์ยกขึ้นอ่าน ก่อนจะทำหน้างอ “รับโทรศัพท์ผมแล้วเลิกทำตัวเป็นเด็ก ไม่งั้นผมจะให้ทนายสุนัยให้คนไปรับตัวคุณมาคุยกับผมที่นี่วันพรุ่งนี้ เลือกเอาจะรับโทรศัพท์ดีๆ หรืออยากมาคุยกับผมที่นี่” ตรีรินทร์เม้มปากเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็กดรับอย่างกระแทกกระทั้น “มีอะไรคะ รินทร์ง่วงนอน” “คนง่วงนอนเค้าไม่พูดเสียงใสแบบนี้หรอก ทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์ผมทั้งวันโทรศัพท์ไปแล้วปิดเครื่องตลอด ตกลงคุณจะเล่นตัวเป็นเด็กๆให้ผมตามง้อใช่ไหมเนี่ย”น้ำเสียงต่อว่าทำให้ ตรีรินทร์ถอนหายใจเฮือก “เปล่านะคะ รินทร์เข้าไซด์งาน มันเป็นตึกใหญ่ไม่ค่อยมีสัญญาณค่ะ”ตรีรินทร์พูดตามความจริง “โอเค เอาล่ะเข้าเรื่องของเราสักที ผมเบื่อที่จะรอให้เวลาช่วยทำให้ทุกอย่างดีขึ้นสักที ผมให้เวลาคุณเผื่อคุณจะเข้าใจอะไรๆ ได้ด้วยตัวเอง แต่ผมคิดผิด ทีนี้ผมไม่อยากรอแล้วผมจะพูดครั้งเดียวและจะไม่พูดอีก ผมพูดให้คุณฟังแล้วเอาไปคิดกลับบ้านไปคราวนี้ผมจะไปฟังคำตอบเข้าใจไหม” ตรีรินทร์นิ่งอึ้งก่อนจะตอบว่า “ค่ะ” ธมกานต์ถอนหายใจก่อนจะพูดว่า “ผมกับจีจี้ เราไม่เคยมีอะไรกันตั้งแต่ผมพบคุณครั้งแรก เราเป็นแค่เพื่อนกัน วันนั้นเค้าขอพาเพื่อนมาดูบ้าน ระหว่างรอเพื่อนเค้าเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยทำให้เสื้อผ้าเค้าเปียกผมก็ให้เค้ายืมเสื้อคลุมของคุณ แล้วผมก็ไม่ได้เป็นคนส่งข้อความให้กับคุณ นี่คุณคิดว่าผมปัญญาอ่อนหรือไงถ้าผมจะมีอะไรกับเค้าจริงๆ คงไม่นัดเค้ามาที่บ้าน นัดไปที่อื่นไม่ดีกว่าเหรอ จริงไหม ผมให้คุณเอาไปคิดไตร่ตรองดู แล้วผมจะไปฟังคำตอบ” ตรีรินทร์นิ่งคิดตามก่อนจะตอบว่า “ค่ะ” ธมกานต์ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ได้เปิดอกพูดกับภรรยาสาวหลังจากต่างคนต่างทิฐิ อาจเป็นเพราะความรักต่อหญิงสาวที่มากล้น จนยอมลดทิฐิ เป็นฝ่ายขอเคลียร์ก่อนแล้วรู้สึกเบื่อที่ต้องมานั่งปั้นหน้า “รินทร์ ฟังอยู่ไหม” “ค่ะ ฟังอยู่” “ ผมขอโทษเรื่องเมื่อคืน ผมเมาไปหน่อยแต่ผมทำไปเพราะ เพราะ ....” ธมกานต์ติดอ่าง ก่อนจะตัดสินใจพูด ว่า “เพราะรักคุณ” แล้วจอเครื่องชายหนุ่มก็ดับวูบ แบตเตอรี่หมด เพราะใช้งานอย่างหนักมาทั้งวัน ธมกานต์ฉุนเฉียวด้วยความขัดใจ ส่วนตรีรินทร์ก็สะดุดเมื่อสายถูกตัดไปในช่วงเวลาที่หญิงสาวลุ้นอยู่ว่าชายหนุ่มจะพูดต่อว่าอะไร “อีตาบ้านี่ พูดไม่จบแล้ววางหูไปทำไมเนี่ย พิลึกจัง”ก่อนจะล้มตัวลงนอนพร้อมกับคิดถึงเรื่องราวที่ชายหนุ่มพูดให้ฟัง อย่างไตร่ตรอง ตรีรินทร์ครุ่นคิดเรื่องที่ชายหนุ่มพูดกลับไปกลับมา “เอ หรือเราใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลจริงๆ ถ้าเค้าจะมีอะไรกับแฟนทำไมต้องเป็นที่บ้านให้ประเจิดประเจ้อแล้วเรียกเรามาดูโง่หรือบ้ากันแน่ แต่คิดอีกทีหรือเค้าตั้งใจจะให้เห็นเราจะได้ถอย โอ๊ยปวดหัวตกลงฉันจะเชื่อใจคุณได้ใช่ไหมคะคุณกานต์ บางทีคุณก็เหมือนจะแคร์ฉันมากจนฉันแอบคิดเข้าข้างตัวเอง แต่บางทีคุณก็ทำเหมือนไม่แคร์ฉันเลย ฉันปวดหัวไปหมดแล้ว”ตรีรินทร์คิดอย่างหนัก เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังในความมืดเพราะตรีรินทร์ปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอนอยู่นานแล้ว เสียงกริ่งโทรศัพท์ปลุกให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์ หันไปคว้าโทรศัพท์พร้อมกับลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง “ นี่คุณ กี่โมงกี่ยามแล้ว จะพูดอะไรก็รีบพูดมาฉันง่วง พรุ่งนี้ฉันต้องทำงานนะคุณ”เสียง ตรีรินทร์เข้มทำให้พยาบาลสาวรีบพูดว่า “เราเองนะจ๊ะรินทร์ โทษทีนะที่โทรมาดึกมาก เราพึ่งออกเวรอีกอย่างมันเป็นเรื่องสำคัญจริง”พยาบาลสาวกล่าวเสียงอ่อยๆ “อ้าว อรเองเหรอ เรานึกว่าคุณกานต์ ก็เมื่อกี้คุยกับเค้าแล้วสายมันหลุดไป” ตรีรินทร์แก้ตัวพัลวัน “มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะอร ปกติอรไม่เคยโทรหาเราดึกแบบนี้นี่นา” “เรื่องสำคัญมาก รินทร์เรานัดอ้อมให้ตัวเองแล้วนะ เค้าจะมากรุงเทพฯพรุ่งนี้ แต่เค้ามาแวะแค่วันเดียวแล้วก็ไม่กี่ชั่วโมงเพราะเค้าต้องบินต่อไปญี่ปุ่น อ้อมเค้าก็อยากเจอรินทร์เหมือนกัน” “รินทร์ รินทร์ ได้ยินหรือเปล่า” ตรีรินทร์เหม่อตกอยู่ในภวังค์ความคิด “ในที่สุด มันก็มาถึงวันที่เธอต้องเผชิญกับความเป็นจริง อ้อมจะว่าอะไรบ้างถ้ารู้ว่าเพื่อนที่คบกันมาเจ็ดปีมาแต่งงานกับผู้ชายที่เกือบจะพรากชีวิตตนเองไป จะโกรธมากไหม”ตรีรินทร์คิดไปมาอย่างสับสน จนต้องตื่นจากภวังค์เมื่อเสียงเรียกของอรวิสาดังขึ้นอีก “ไม่เป็นไรตกใจนิดหน่อย เร็วจังเลยเกือบตั้งตัวไม่ติด ตกลงพรุ่งนี้ใช่ไหม เราจะได้ลางาน อ้าวไม่ต้องลางั้นเหรอ งั้นหลังเลิกงานนะจ๊ะ โอเค พรุ่งนี้เจอกัน” ตรีรินทร์วางสายจากเพื่อนรักไปตั้งนานแต่ก็ยังเหม่อลอย ครุ่นคิดไปมาอย่างว้าวุ่นจนเผลอหลับไป อรวิสาไปรับตรีรินทร์ถึงที่ทำงาน พยาบาลสาวแอบสังเกตเพื่อนรักแล้วรู้สึกห่วง ท่าทางตรีรินทร์ดูวุ่นวายและมีแววกังวล อรวิสาจับมือเพื่อนสาวก่อนจะตกใจ “ โห มือรินทร์เย็นเฉียบเลย ตื่นเต้นเหรอ” ตรีรินทร์พยักหน้าหัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อใกล้ถึงสถานที่นัดพบยิ่งขับใกล้เข้าไป หัวใจเต้นแรงจนตรีรินทร์รู้สึกเหมือนมันจะปะทุออกมาข้างนอก “ทำไงดีอรเราตื่นเต้นจังเลย หัวใจเราเต้นแรงมากไม่เคยเต้นแรงแบบนี้มาก่อน” “ใจเย็นๆสิจ๊ะ หายใจลึกๆ “พยาบาลสาวแนะนำตรีรินทร์สูบลมหายใจเข้าออกตามคำแนะนำก่อนจะเดินเข้าห้องอาหารในโรงแรมที่นัดหม าย เมื่อเดินเข้าไปในห้องอาหารตรีรินทร์และอรวิสาต่างก็ตื่นเต้นแต่คนละความรู้สึก พยาบาลสาวโบกมือทักทายเมื่อหญิงสาวที่ใส่ชุดแดงโบกมือให้ ตรีรินทร์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นหญิงสาวชุดแดงดัดผมหยิกเป็นลอนสวย ใบหน้าแต่งอย่างสวยงามนั่งอยู่กับชายต่างชาติวัยกลางคน “ อร รินทร์ ทางนี้จ๊ะ” อ้อมใจโบกมือเรียก “ หวัดดีจ๊ะอ้อม ไม่ได้เจอกันนานมากเลย “ตรีรินทร์และอ้อมใจจับมือพร้อมกับสวมกอดกัน สามสาวกับหนึ่งชายหนุ่ม ต่างนั่งคุยและรับประทานอาหารอย่างสนุกสนาน พอทานข้าวเสร็จอ้อมใจก็หันไปคุยกับสามีชาวต่างชาติ ก่อนที่จะจูงมือตรีรินทร์เดินออกจากโต๊ะมา “รินทร์เราดีใจด้วยที่ได้แต่งงานกับคุณกานต์ เราดีใจกับเธอด้วยจริงๆนะจากใจเลย เห็นอรเล่าว่ารินทร์คิดมากเรื่องเรา อย่าคิดมากเลยเรื่องมันผ่านไปนานมากแล้ว อ้อมก็ลืมไปหมดแล้ว เหลือแต่ความทรงจำดีๆ อีกอย่างมีอยู่เรื่องหนึ่งที่ทำให้อ้อมต้องแวะมาคุยกับรินทร์ และอยากสารภาพกับรินทร์ก็คือคือ” อ้อมใจอ้ำอึ้ง อ้อมใจสูดลมหายใจก่อนจะพูดว่า “จริงๆแล้วคุณกานต์เค้าไม่ได้หักอกอ้อมหรอก อ้อมโกหกรินทร์และทุกคนเพราะอ้อมอาย จริงๆแล้วอ้อมแอบไปรักคุณกานต์เพียงข้างเดียว เค้าไม่เคยสนใจอะไรกับอ้อมเลย เค้าสุภาพกับพนักงานทุกคน ตอนนั้นคุณกานต์เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่แค่ไม่กี่ปี อ้อมไปเป็นผู้ช่วยเลขาของคุณกานต์ พอเค้าพูดดีด้วยอ้อมก็เข้าใจว่าเค้าชอบทำให้อ้อมยิ่งหลงเค้า รักเค้า จนคิดว่าเค้ารักอ้อมตอบ แต่พออ้อมชวนเค้าไปทานอาหารข้างนอกคุณกานต์เค้าปฏิเสธและพอเค้ามีแฟนทำให้อ้อมคิดสั้น อ้อมอายที่จะบอกว่าอ้อมแอบรักเค้าเพียงข้างเดียว อ้อมเลยโกหกรินทร์ว่าเค้าหักอก ขอโทษนะรินทร์ที่อ้อมทำเรื่องงี่เง่าแบบนั้น อ้อมไม่ได้ตั้งใจ พอมาคิดตอนนี้รู้สึกว่า เราโง่จัง” ตรีรินทร์อึ้งไปกับสิ่งที่เพื่อนเก่าเล่ามาและคิดในใจว่า ‘โถ ตลอดเวลา เราโทษเค้าตลอดเวลาทั้งที่เค้าไม่ผิด แล้วจะทำไงเนี่ยคิดโกรธเคียดแค้นเค้ามาตั้งหลายปีถ้าเจอกันจะทำหน้ายังไงดี’ แต่พูดปลอบใจเพื่อนไปว่า “อย่าคิดมากเลยจ๊ะเรื่องมันผ่านไปแล้ว ขอบใจอ้อมมากที่แวะมาคุยให้เราฟัง แต่เรื่องของเรากับคุณกานต์มันคงไม่ง่ายอย่างที่ใครๆคิด เรายังไม่รู้ว่าเรากับคุณกานต์จะเดินไปถึงจุดไหน ขอบใจอ้อมอีกครั้ง” “ขอบคุณมากที่เข้าใจและไม่โกรธเราที่เราโกหกตัวเองมาตลอด เรากลับไปที่โต๊ะกันเถอะ เดี๋ยวปีเตอร์รอนาน อีกไม่กี่ชั่วโมงเราก็ต้องบินต่อไปญี่ปุ่น” หลังจากแยกจากอ้อมใจ พยาบาลสาวก็ขับรถออกมาจากโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่นัดพบ “รินทร์ แกเป็นอะไรเงียบมาตั้งนานแล้วนะ อรอึดอัดแทนตกลงจะเล่าไหมเนี่ย” “ตกใจ เล่าสิ” ตรีรินทร์เล่าบทสนทนาระหว่างเธอและอ้อมใจให้พยาบาลสาวฟังอย่างละเอียด “ว้าย ตายแล้ว ตกลงรินทร์โกรธคนผิดมาตลอด รินทร์เข้าใจเค้าผิดมาตลอด ตายแล้วจะทำไงเนี่ย” “นั่นสิทำยังไงดี อายจัง นึกโกรธเค้ามาตั้งหลายปี แล้วที่ทำทิฐิกับเค้าส่วนหนึ่งก็เป็นเหตุผลตรงนี้แล้วรินทร์จะทำไงดี” สองสาวนิ่งอย่างใช้ความคิด ก่อนที่ตรีรินทร์ถอนใจ แล้วพูดว่า “คงจะต้องไปขอโทษเค้ามั้ง เฮ้อ เสียฟอร์มชะมัดเลย ไม่รู้เค้าจะหัวเราะเยาะไหม แต่เค้าหัวเราะยังไงก็คงต้องทำก็เราผิดจริงๆอ่ะ งานนี้”ตรีรินทร์พูดอย่างอ่อนใจ “เสียฟอร์มก็ต้องยอม ก็เราเข้าใจเค้าผิดนี่นา”พยาบาลสาว พูดต่อ “งานนี้รินทร์คงต้องยอมเค้าทุกอย่าง เสร็จแน่ๆยัยรินทร์” พยาบาลสาวพยายามพูดเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ “เฮ้อแค่คิดก็พูดไม่ออกแล้ว กลุ้มจัง”ตรีรินทร์ บ่นเสียงอ่อย“เป็นของใครครับคุณทนาย” ธมกานต์เงยหน้าก่อนจะจ้องมองทนายเหมือนจะบังคับให้พูด“ของคุณตรีรินทร์ แล้วเพื่อนผมที่เป็นผู้จัดการ ยังบอกว่าเธอเป็นผู้มาเบิกเงินเองทุกครั้ง”“เงินหายจากบัญชีไปเท่าไหร่ครับ”“สามล้านเศษๆ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาครับ”“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อน ยังไงคุณกานต์คงจะสอบถามคุณรินทร์ได้ว่าผมจะติดต่อคุณหญิงได้ที่ไหน ผมพยายามโทรเข้ามือถือก็ติดต่อไม่ได้เมื่อวานโทรมาหานมอิ่มก็บอกว่ายังไม่กลับบ้านแต่ที่น่าแปลกก็คือเงินเดือนพนักงานในบ้านปกติคุณหญิงจะเป็นผู้จัดการเองทุกครั้งผมถามนมอิ่มนมอิ่มบอกว่าคุณตรีรินทร์เป็นผู้นำเงินมาจ่าย” ทนายสมชายรายงานธมกานต์รู้สึกมึนกับข้อมูลที่ได้รับก่อนจะขังตัวเองในห้องทำงานพร้อมกับเอกสารที่ระบุข้อมูลการจ่ายเงินออกจากบัญชีมารดา ธมกานต์หยิบขึ้นมาดูทีละใบ ทีละใบ อย่างละเอียดห้องผ่าตัดเปิดออกตรีรินทร์ขยับตัวก่อนจะก้าวไปหาอาจารย์หมอด้วยความร้อนใจ“คุณป้าเป็นอย่างไรบ้างคะ”“ปลอดภัยแล้ว ตอนนี้คนไข้ต้องพักผ่อนอย่างน้อยสามสิบหกชั่วโมง หมอว่าคุณกลับไปพักผ่อนก่อนคนไข้ฟื้นผมจะให้พยาบาลโทรไปบอก ผมอยากให้คนไข้พักนานหน่อยเพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่ ““ขอบคุ
ที่ว่าการอำเภอตรีรินทร์สวมแว่นตาดำเพื่อปกปิดร่องรอยที่ชายหนุ่มสามารถจะเห็นดวงตาที่บวมแดงที่ผ่านการร้องไห้ตลอดคืนอย่างแสนสาหัส เป็นสิ่งที่ตรีรินทร์ปกปิด ไม่ต้องการให้ชายหนุ่มเห็นธมกานต์ก้าวลงจากรถแต่ต้องแปลกใจเมื่อเห็นหญิงสาวถือแฟ้มมายืนรออยู่แล้ว“ขอโทษที่มาช้า แต่เอ๊ะ ผมมาตรงเวลานะคุณ”“ฉันมารอแต่เช้าเอง อยากจัดการให้เสร็จเร็วๆ” ตรีรินทร์กล่าวเสียงเย็น“งั้นรีบเข้าไปเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันใจคุณ” ธมกานต์พูดประชดตรีรินทร์เชิดหน้าก้าวเดินอย่างไม่รู้สึกกับถ้อยคำที่จิกกัดของชายหนุ่มเซ็นเอกสารเรียบร้อยเจ้าหน้าที่มอบเอกสารให้คนละฉบับ ก่อนที่ชายหนุ่มที่มีทนายตามมาด้วยได้ยื่นซองเอกสารให้หญิงสาวอีกหนึ่งฉบับตรีรินทร์รับมาเปิดก่อนจะได้ยินเสียงชายหนุ่มพูดว่า“ค่าสึกหรอของคุณ ผมให้ด้วยความเต็มใจ เผื่อไว้เอาไปสร้างครอบครัวใหม่ของคุณ”ตรีรินทร์ฉีกเช็ดเงินสดจำนวนสามสิบล้าน ฉีกออกเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนจะขว้างใส่ชายหนุ่ม“ขอบคุณ แต่ไม่ต้อง ฉันมีปัญญาเลี้ยงตัวเองได้”“อวดดีแล้วผมจะให้ค่าเลี้ยงดูคุณ จนกว่าคุณจะแต่งงานใหม่”“ไม่ต้อง ฉันมาแต่ตัวก็จะไปแต่ตัวเท่านั้น”“นี่คุณ อย่ามาดัดจริตหน่อยเลย ผมเบื่อจะอ้
“ คุณทำให้ผมเสียสติควบคุมตัวเองไม่ได้”“ เอาล่ะ จะพูดอะไรก็รีบพูด ฉันมีธุระต้องไปต่อ ““ ผม ผม” ธมกานต์ติดอ่างตรีรินทร์ถอนหายใจ ก่อนจ้องมองธมกานต์ ทำให้ชายหนุ่มเริ่มอึดอัดใจก่อนจะถอนใจ“ คุณจะไปไหน ผมจะไปส่ง”“ ไม่ต้อง ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ จากคุณ”“ อวดดี”“ ลาก่อน คุณธมกานต์ หวังว่าจะเป็นการพบกันครั้งสุดท้าย”“ คุณเป็นผู้หญิงที่เลือดเย็นที่สุด คุณจะทำให้ผมรู้สึกผิดที่ไม่ได้ทำอะไรเพื่อคุณบ้างหรือไง”“ ฉันไม่ต้องการเท่าที่ได้มาจากคุณแค่นี้ก็เป็นของขวัญพิเศษสุดในชีวิตแล้ว”“ คุณพูดถึงอะไรของขวัญอะไรของคุณ นี่คุณจะทำให้ผมเป็นบ้าใช่ไหม”“ แล้วแต่คุณจะคิด ลาก่อน” ตรีรินทร์เร่งฝีเท้าเดินจากไป ธมกานต์ทรุดนั่งอย่างหมดแรงบ้านพิพัฒนพงค์“ เจ้าเข้ม คุณกานต์ออกจากห้องหรือยัง”“ ยังครับ นมอิ่ม”“ เป็นยังงี้มากี่วันแล้ว”“ สองวันครับ”“ เอาแต่ดื่มเหล้า คุณผู้หญิงก็ไม่กลับบ้านยังอยู่บ้านแม่ คุณหญิงก็ไม่อยู่โอ๊ย กลุ้ม จะทำยังไงดี”“ เข้ม แกมีเบอร์คุณผู้หญิงไหม เดี๋ยวต้องโทรไปขอร้องให้เธอกลับบ้านมาดูคุณหนูของข้าหน่อย”“ อะไรนะคะ”นมอิ่มตะโกนด้วยความตกใจเมื่อได้รับการบอกเล่าจากหญิงสาวว่าได้ห
ที่ว่าการอำเภอตรีรินทร์สวมแว่นตาดำเพื่อปกปิดร่องรอยที่ชายหนุ่มสามารถจะเห็นดวงตาที่บวมแดงที่ผ่านการร้องไห้ตลอดคืนอย่างแสนสาหัส เป็นสิ่งที่ตรีรินทร์ปกปิด ไม่ต้องการให้ชายหนุ่มเห็นธมกานต์ก้าวลงจากรถแต่ต้องแปลกใจเมื่อเห็นหญิงสาวถือแฟ้มมายืนรออยู่แล้ว“ขอโทษที่มาช้า แต่เอ๊ะ ผมมาตรงเวลานะคุณ”“ฉันมารอแต่เช้าเอง อยากจัดการให้เสร็จเร็วๆ” ตรีรินทร์กล่าวเสียงเย็น“งั้นรีบเข้าไปเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันใจคุณ” ธมกานต์พูดประชดตรีรินทร์เชิดหน้าก้าวเดินอย่างไม่รู้สึกกับถ้อยคำที่จิกกัดของชายหนุ่มเซ็นเอกสารเรียบร้อยเจ้าหน้าที่มอบเอกสารให้คนละฉบับ ก่อนที่ชายหนุ่มที่มีทนายตามมาด้วยได้ยื่นซองเอกสารให้หญิงสาวอีกหนึ่งฉบับตรีรินทร์รับมาเปิดก่อนจะได้ยินเสียงชายหนุ่มพูดว่า“ค่าสึกหรอของคุณ ผมให้ด้วยความเต็มใจ เผื่อไว้เอาไปสร้างครอบครัวใหม่ของคุณ”ตรีรินทร์ฉีกเช็ดเงินสดจำนวนสามสิบล้าน ฉีกออกเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนจะขว้างใส่ชายหนุ่ม“ขอบคุณ แต่ไม่ต้อง ฉันมีปัญญาเลี้ยงตัวเองได้”“อวดดีแล้วผมจะให้ค่าเลี้ยงดูคุณ จนกว่าคุณจะแต่งงานใหม่”“ไม่ต้อง ฉันมาแต่ตัวก็จะไปแต่ตัวเท่านั้น”“นี่คุณ อย่ามาดัดจริตหน่อยเลย ผมเบื่อจะอ้
คอนโดมีเนียมหรูนางแบบสาวนั่งดูทีวีได้ยินเสียงเคาะประตูก็เดินไปเปิดก่อนจะถอนหายใจยาวอย่างเบื่อหน่าย“มาทำไมยัยวีวี้แผนแกคราวก่อนทำเอากานต์โกรธฉันเอาเป็นเอาตาย โทรไปก็ไม่รับ ไปหาก็ไม่พูดด้วย”“ ฉันมีข่าวเด็ดมาเล่าให้แกฟัง เด็ดสุดๆ เพื่อนฉันที่เป็นพยาบาลเล่าให้ฟัง”“ เรื่องอะไรของแกอีก ฉันไม่เอาด้วยหรอก”“ เด็ดจริงๆ นะ”“ เท่าไหร่ไม่ต้องโยกโย้”“ ห้าพัน”“ ต้องเด็ดจริงๆ นะไม่งั้นไม่จ่าย” จามิกาต่อรอง“ ฉันแน่ใจสิ ไม่งั้นไม่มาด้วยตนเองหรอก”“ ข่าวอะไรของแก”“ เพื่อนฉันบอกว่าแม่คุณกานต์ไปนอนป่วยอยู่โรงพยาบาล ที่สำคัญคุณกานต์กับเมียเค้าหย่ากันแล้ว”“ อะไรนะ” แล้วเสียงกริ๊ดร้องด้วยความดีใจของสองสาวก็ดังลั่นห้องโรงพยาบาลตรีรินทร์เผลอหลับไปที่โซฟาพร้อมกับหนังสือนิตยสาร ธมกานต์เดินเข้ามาในห้องก่อนจะมาหยุดมองร่างอดีตภรรยาด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะนั่งลงข้างๆ ก่อนจะเผลอเอามือลูบแก้มเบาๆริมฝีปากบาง ก่อนจะก้มลงจูบริมฝีปากเบาๆตรีรินทร์ขยับตัวทำให้ธมกานต์ตกใจรีบเปลี่ยนอิริยาบถก่อนปรับสีหน้าให้เคร่งขรึม“ คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ได้ยินเสียง”“ ผมเห็นคุณนอน ก็เลยไม่อยากกวน”“ คุณกานต์ค่ะ เดี๋ยวฉันต้
“คุณแม่เลือดกรุ๊ปเอ” พยาบาลกล่าว “แล้วคุณตำรวจล่ะกรุ๊ปอะไร” ธมกานต์ถาม“ทำไมคุณทั้งสองถึงปล่อยให้เด็กโคม่าเกือบตายทำไมไม่รีบบริจาคเลือดเด็กช็อคไปแล้ว ทำไม” ธมกานต์ตะเบ็งถาม“ผมเลือดกรุ๊ปเอ คงบริจาคให้เด็กไม่ได้หรอกครับ”ธมกานต์หน้าซีดปากสั่นพร้อมกับพูดว่า “ คุณว่าอะไรนะคุณตำรวจ เลือดคุณกรุ๊ปอะไรนะ”“ผมเลือดกรุ๊ปเอ”“พ่อกรุ๊ปเอ แม่กรุ๊ป เอ แล้วลูกจะเลือดบีได้ยังไง หมายความว่าไง หมายความว่าตลอดเวลาคุณโกหกผมตลอดเวลาตกลงเด็กคนนี้ลูกผมใช่ไหมใช่ไหมตรีรินทร์คุณโกหกผมว่าเด็กในท้องเป็นลูกของไอ้บ้านี่ แล้วปล่อยให้ผมเข้าใจผิดตลอดเวลาเลยใช่ไหม ใช่ไหม” ธมกานต์กระชากสายน้ำเกลือทำให้เลือดไหลพร้อมกับกระชากไหล่ หญิงสาวพร้อมกับเขย่าอย่างแรง“เด็กคนนี้เป็นลูกผมใช่ไหมใช่ไหม”“เค้าเป็นลูกฉันลูกฉันคนเดียว”“ หมอ ผมต้องการตรวจดีเอ็นเอของผมกับเด็กคนนี้ผมสงสัยว่าเค้าเป็นลูกผม”“ไม่ได้!! ตรวจไม่ได้ ฉันไม่ให้ตรวจ ฉันไม่อนุญาต การที่คุณบริจาคเลือดให้ลูกฉันมันไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นเจ้าชีวิตของเรา ลืมแล้วเหรอว่าเราหย่ากันแล้วคุณเป็นคนขอหย่าฉันเองลืมไปแล้วหรือไง”“ผมไม่ลืมหรอกอะไรที่คุณทำไว้กับผม ผมไม่เคยลื
“คุณแม่เลือดกรุ๊ปเอ” พยาบาลกล่าว “แล้วคุณตำรวจล่ะกรุ๊ปอะไร” ธมกานต์ถาม“ทำไมคุณทั้งสองถึงปล่อยให้เด็กโคม่าเกือบตายทำไมไม่รีบบริจาคเลือดเด็กช็อคไปแล้ว ทำไม” ธมกานต์ตะเบ็งถาม“ผมเลือดกรุ๊ปเอ คงบริจาคให้เด็กไม่ได้หรอกครับ”ธมกานต์หน้าซีดปากสั่นพร้อมกับพูดว่า “ คุณว่าอะไรนะคุณตำรวจ เลือดคุณกรุ๊ปอะไรนะ”“ผมเลือดกรุ๊ปเอ”“พ่อกรุ๊ปเอ แม่กรุ๊ป เอ แล้วลูกจะเลือดบีได้ยังไง หมายความว่าไง หมายความว่าตลอดเวลาคุณโกหกผมตลอดเวลาตกลงเด็กคนนี้ลูกผมใช่ไหมใช่ไหมตรีรินทร์คุณโกหกผมว่าเด็กในท้องเป็นลูกของไอ้บ้านี่ แล้วปล่อยให้ผมเข้าใจผิดตลอดเวลาเลยใช่ไหม ใช่ไหม” ธมกานต์กระชากสายน้ำเกลือทำให้เลือดไหลพร้อมกับกระชากไหล่ หญิงสาวพร้อมกับเขย่าอย่างแรง“เด็กคนนี้เป็นลูกผมใช่ไหมใช่ไหม”“เค้าเป็นลูกฉันลูกฉันคนเดียว”“ หมอ ผมต้องการตรวจดีเอ็นเอของผมกับเด็กคนนี้ผมสงสัยว่าเค้าเป็นลูกผม”“ไม่ได้!! ตรวจไม่ได้ ฉันไม่ให้ตรวจ ฉันไม่อนุญาต การที่คุณบริจาคเลือดให้ลูกฉันมันไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นเจ้าชีวิตของเรา ลืมแล้วเหรอว่าเราหย่ากันแล้วคุณเป็นคนขอหย่าฉันเองลืมไปแล้วหรือไง”“ผมไม่ลืมหรอกอะไรที่คุณทำไว้กับผม ผมไม่เคยลื
เสียงโทรศัพท์มือถือดัง ทำให้ตรีรินทร์ได้สติก่อนจะสะกิดชายหนุ่ม“ นี่พอก่อนคุณกานต์ โทรศัพท์ค่ะ รับสิคะ ““ ไม่ ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าคุณ อีกแล้ว “ ธมกานต์บ่นงึมงำพร้อมกับจูบที่ร่องอกขาวตรีรินทร์สยิวซ่านไปทั้งร่าง แต่ก็พยายามออกเสียงพูด“ เผื่อเป็นธุระสำคัญ นะคะ รับสิคะ “ธมกานต์ถอนใจยาว ก่อนจะพูดว่า “ ช่างมัน อยู่ในกางเกงข้างนอกไม่มีอะไรสำคัญไปกว่ารินทร์หรอก”ตริรินทร์หน้าแดง แต่ก็ลุกขึ้นพร้อมผ้าห่มเดินไปหยิบมือถือที่อยู่ในกางเกงที่ถูกถอดทิ้งข้างนอกหญิงสาวเดินกลับมาในขณะที่ชายหนุ่ม นั่งพิงพนักเตียงนอน ตรีรินทร์ตัวชา ไปทั้งร่างกายเมื่อเห็นเป็นรูปนางแบบสาวที่เรียกสายเข้ามา ตรีรินทร์ใบหน้าร้อนผ่าวเหมือนรู้สึกอับอายกับการกระทำที่ผ่านมาทั้งคืน“ ฮัลโหล ดาร์ลิ่ง ไปอยู่ไหนมาทั้งคืน จี้เป็นห่วงโทรไปก็ไม่รับ “ นางแบบสาวออดอ้อนมาตามสาย“ ผมขอโทษที่ไม่ได้ไปตามนัด มีธุระที่ต้องจัดการแค่นี้แล้วผมจะติดต่อไป “ธมกานต์พูดเสียงมีอำนาจก่อนจะกดปิดโทรศัพท์นางแบบสาวงง แล้วก็ร้องกริ๊ดด้วยความขัดใจ เมื่อกดโทรศัพท์เข้าไปอีกที แต่ไม่มีสัญญาณสัญชาติญาณ ความเป็นผู้หญิงบอกให้รู้ว่า ไม่ใช่เรื่องธรรมดา แน
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้