หกโมงเย็นฝกตกพรำ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเทลงมาเหมือนฟ้ากำลังพิโรธอะไรสักอย่างธมกานต์เดินอยู่เรือนหลังเล็กด้วยความกังวลเพราะด้านนอกฝนตกหนักติดต่อหญิงสาวไม่ได้ ในใจร้อนรุ่ม
ตรีรินทร์ยังนั่งร้องไห้ท่ามกลางสายฝนก่อนจะตัดสินใจเดินขึ้นรถแล้วขับกลับบ้านด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว ฝนตกหนักเป็นระยะๆธมกานต์แทบจะกระโดดจากที่นั่งเมื่อได้ยินเสียงรถเลี้ยวเข้ามาในบริเวณบ้านตรีรินทร์จอดรถก่อนจะเดินลงจากรถอย่างใจลอยก่อนจะรู้สึกสะดุ้งเมื่อรู้สึกมีแมลงบินเข้าที่ดวงตาตรีรินทร์พยายามนั่งลงก่อนจะกระพริบตา ธมกานต์มองเห็นหญิงสาวนั่งยองๆลงนั่งแล้วรู้สึกโมโหแม่ตัวดีที่ทำให้ตนเองเป็นห่วง อยู่ครึ่งค่อนวัน ธมกานต์วิ่งออกไปท่ามกลางสายฝนก่อนจะเข้าไปกระชากไหล่ของหญิงสาวพร้อมกับตะโกนแข่งกับเสียงฟ้าร้อง “กลับมาถึงบ้านแล้วทำไมไม่เข้าบ้านมานั่งทำมิวสิคอยู่หรือไงบ้าจริงเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”ธมกานต์ตะเบ็งต่อว่าหญิงสาว “ใครเค้าบอกคุณว่าฉันมานั่งทำมิวสิค”ตรีรินทร์ตอบเสียงขึ้นจมูก “แล้วทำไมไม่เข้าบ้านไม่เห็นหรือไงว่าฝนมันตกแล้วตกหนักด้วย” ธมกานต์ยังตะโกนแข่งกับเสียงฟ้าร้อง “เห็นค่ะแต่แมลงเข้าตาแสบไปหมด”ตรีรินทร์ตอบเสียงเรียบ “อ้าวแล้วก็ไม่บอกมานี่สิเดี๋ยวจะดูให้”ธมกานต์จูงมือภรรยาสาวเข้าบ้าน เมื่อเดินเข้าไปสู่ตัวบ้านชายหนุ่มก็จูงให้หญิงสาวนั่งที่โซฟานั่งเล่นส่วนตัวก็ไปหยิบผ้าขนหนูมาสองผืนผืนหนึ่งเอาพาดไหล่ตัวเองส่วนอีกผืนยื่นให้ ภรรยาสาวที่รับมาอย่างว่าง่ายก่อนจะลงมือเช็ดผม ธมกานต์เดินเข้ามาพร้อมเครื่องดื่มอุ่นเมื่อเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นก็ตกตะลึงเมื่อเห็นภรรยาสาวกำลังเช็ดผมมันเป็นภาพ ที่พอมองแล้วชายหนุ่มจินตนาการไปเสียไกลก่อนจะสลัดภาพในหัวเมื่อหญิงสาวหันมามองธมกานต์พยายามตีสีหน้าเคร่งขรึมชายหนุ่มส่งเครื่องดื่มอุ่นๆ ให้หญิงสาว ตรีรินทร์รับแก้วน้ำมาจากชายหนุ่มก่อนจะยกขึ้นจิบเล็กน้อย “คุณรสบอกว่าคุณไปหาผมที่บริษัทมีธุระอะไรไหม”ธมกานต์ตั้งคำถามพร้อมมองใบหน้าหญิงสาว “ค่ะ”ตรีรินทร์ตอบสั้นๆ “มีธุระอะไรสำคัญหรือเปล่า”ธมกานต์ถามรุก ตรีรินทร์ นิ่งเงียบไปอึดใจหนึ่งก่อนจะตอบว่า “ ตอนนี้ไม่มีแล้ว” “หมายความว่าไงอย่าบอกว่าคุณไปหาผมที่บริษัทไม่มีจุดมุ่งหมายผมไม่เชื่อ”ธมกานต์พูดพร้อมกับจ้องใบหน้าหญิงสาวเขม็งเหมือนจับผิด “ไม่มีแล้ว จริงๆค่ะลืมไปแล้วว่าจะพูดเรื่องอะไรกับคุณ”ตรีรินทร์พูดเสียงเรียบเย็นเมื่อนึกถึงภาพสามีหนุ่มยืนกอดกับแม่นางแบบสาว ธมกานต์หันหลังกลับทันทีพร้อมกับเดินกระแทกส้นเกือบจะออกไปอีกห้องหนึ่งแต่แล้วก็หยุดเดินพร้อมกับหันมาต่อว่าพร้อมกับเม้มปาก “นี่คุณง้อผมหน่อยสิตลอดอาทิตย์เนี่ยผมโกรธคุณอยู่นะที่เห็นงานสำคัญกว่า ผมงอนคุณอยู่นะง้อผมหน่อยสิ แล้วที่คุณไปหาผมที่บริษัทคุณจะไปง้อผมใช่ไหมใช่ไหมรินทร์” ตรีรินทร์หลุดหัวเราะก่อนจะเดินเข้าไปหา “เวลาเด็กงอนมันน่ารักนะคุณแต่ถ้าโตแล้วงอนมันน่าตีรู้ไหม” ธมกานต์หันมายิ้มก่อนจะโอบหญิงสาวเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน “รู้ไหมว่าผมโกรธคุณแทบบ้ากำลังว่าจะทำยังไงกับคุณดีดื้อก็เท่านั้นอวดดีก็เท่านั้นแล้วทำไมผมต้องมาแคร์เด็กดื้อแบบคุณด้วยนะเนี่ย”ธมกานต์กอดหญิงสาวแน่นก่อนจะจูบลงที่เรือนผมหอมสลวยที่ตอนนี้เปียกชื้นจากสายฝน “ตอนนี้หายโกรธแล้วหรือยังล่ะคะ”ตรีรินทร์เอ่ยเสียงนุ่มก่อนจะกอดตอบพร้อมลูบไล้แผ่นหลังไปมา “แล้วเมื่อกลางวันไปหาผมที่บริษัทแล้วหนีกลับก่อนทำไม”ธมกานต์จูบที่หน้าผากก่อนจ้องมองตาภรรยาสาวอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “ก็ไม่อยากเป็นก้างขวางคอใครนี่คะ”ตรีรินทร์นึกถึงภาพก็คลายอ้อมแขนจะผละออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่มแต่โดนสามีหนุ่มดึงเอาไว้ “เอ นี่คิดฟุ้งซ่านอะไรหรือเปล่าถ้าคุณเห็นผมกับ จีจี้ห้ามคิดเป็นอื่นเด็ดขาดผมกับเค้าเราเป็นเพื่อนกันถ้าจะกอดก็กอดอย่างกติกาสากลเพราะผมกับเค้าเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เมืองนอกไม่มีอะไรมากมายไปกว่านั้น”ธมกานต์กล่าวหนักแน่น ตรีรินทร์ทำปากยื่นหน้างอเมื่อนึกถึงภาพบาดตาที่ทำให้เธอเจ็บแปล๊บไปทั่วทั้งหัวใจ “ผมไม่มีใจไปสนใจกับใครอีกแล้วเพราะรักและแคร์แค่เมียของผมคนนี้คนเดียว”ธมกานต์เอ่ยคำว่ารักเป็นครั้งแรกด้วยความกระดาก ตรีรินทร์ใจเต้นแรงเมื่อได้ยินคำบอกรักของสามีหนุ่ม”เค้าบอกรักเราเรื่องจริงเหรอเนี่ยหรือเราฝันไป” “ เอ เชื่อได้ไหมเนี่ย”ตรีรินทร์ยังยั่วเย้าพร้อมกับซบที่ไหล่กว้างอย่างออดอ้อน “ เชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่งั้นจะวิ่งไล่จับคุณเป็นไอ้บ้าไหมเนี่ย”ธมกานต์กล่าวเสียงเข้ม “ แล้วหายงอนหรือยังล่ะคะ”ตรีรินทร์ ช้อนสายตาอ่อนหวานถาม “หายก็ได้นิดหนึ่งขอร้องได้ไหมรินทร์อย่าหักโหมงานมากเราไม่ได้ขัดสนขนาดนั้นถ้าอยากทำงานที่เดิมต่อคุณต้องบริหารเวลาให้ดีกว่านี้ถ้ายังทำงานจนไม่เห็นความสำคัญกันล่ะก็ผมจะเข้าไปพูดกับคุณพงษ์จริงๆนะแล้วน่าว่าผมใจร้าย”ธมกานต์พูดเสียงจริงจัง “โห พอง้อเข้าหน่อยเอาใหญ่เลย ดีกันแล้วนะคะ”หญิงสาวยกนิ้วก้อยทำสัญญาณง้องอน ธมกานต์ยกนิ้วก้อยขึ้นจูบก่อนนะจูบที่มือระมาที่แขนต้นแขนซอกคอปลายคางและริมฝีปากบอบบางอย่างนุ่มนวลก่อนจะทวีความรุนแรงจากการเรียกร้องของหัวใจและร่างกายที่ห่างหายรสสวาทกว่าร่วมอาทิตย์ซึ่งต่างก็โหยหาซึ่งกันและกันฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามสะโพกโค้งมนอย่างนุ่มนวล ชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวขึ้นไปนอนบนเตียงกว้างชายหนุ่มถอดเสื้อผ้าภรรยาสาวและตัวเองอย่างรวดเร็ว ธมกานต์จูบไล้หญิงสาวไปทั่ว ร่างกาย ตรีรินทร์บิดร่างกายด้วยความเสียวซ่านก่อนจะหยุดหายใจเมื่อชายหนุ่มจูบที่ลำขาเรียวงามอย่างหิวกระหาย เร่าร้อนรุนแรงจนตรีรินทร์เผลอครางออกมาเสียงดัง "กานต์ขา"เสียงตรีรินทร์ร้องคราง มือของหญิงสาวจิกที่ผ้าปูที่นอน ชายหนุ่มก้มหน้าลงหานวลเนื้อสาว ปลายลิ้นร้อนจัดสัมผัสแตะไล้นวลเนื้อสาวอย่างแผ่วเบา ซุกไซ้ซอกซอนอย่างร้อนแรงขึ้นเป็นลำดับ ธมกานต์ขบเม้มดูดดึงจนร่างบางของตรีรินทร์สั่นสะท้านด้วยแรงปรารถนา ปลายนิ้วของหญิงสาวจิกรั้งให้ชายหนุ่มขึ้นมาหา แต่ธมกานต์กลับกดปลายลิ้นล้ำลึกซอกซอนตวัดไปมา จนนวลเนื้อสาวสั่นไหวเสียงกรีดร้องของหญิงสาวทำให้ธมกานต์เร่งเร้ารุนแรง ชายหนุ่มเลื่อนตัวก่อนจะปลดปล่อยความแข็งขึงอันร้อนผ่าวเข้ารุกล้ำนวลเนื้อสาวร้อนแรงรวดเร็วร่างงามแอ่นโค้งด้วยความเสียวซ่านธมกานต์กดเน้นย้ำแทรกลึกไปจนสุดทางร่างสองร่างประสานกันเป็นหนึ่งเดียวต่างช่วยกันทั้งสอดส่ายตอบรับเร่าร้อนรุนแรงเสียงกรีดร้องเมื่อพากันไปจนสุดทางแห่งความสุขในเพศรส ธมกานต์ก้มลงจูบที่ริมฝีปากภรรยาสาว ก่อนจะพลิกร่างเข้าสวมกอดหญิงสาวให้มานอนในอ้อมกอด "ผมรักคุณรินทร์" ธมกานต์ก้มลงจูบที่ไหล่บอบบางอย่างหลงใหล "ค่ะ รินทร์ก็รักคุณมากค่ะ หายน้อยใจแล้วนะ" "หายแล้ว หายหมดเลย" ธมกานต์ละเมอก่อนจะผลอยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย..... รุ่งเช้า ธมกานต์สวมกอดภรรยาสาวทางด้านหลังก่อนจะจูบที่ไหล่ และซอกคอ ก่อนจะจูบระไปที่ริมติ่งหูตรีรินทร์จั๊กกะจี้ก่อนที่ธมกานต์จะลูบไล้หน้าท้องและหน้าอกสาวที่เบ่งบานรับสัมผัสของชายหนุ่ม “ยังไม่พออีกหรือไง รินทร์จะไม่ไหวแล้วนะเพลียจังเลย”ตรีรินทร์บ่นอุบอิบ “ไม่เบื่อ ไม่มีวันเบื่อจะรักคุณแบบนี้แบบนี้จนไม่มีแรงลุกขึ้นไปทำงานเลยดีไหม” “ไม่ดีหรอกค่ะรู้ไหมคุณเป็นสามีที่เรียกร้องจากภรรยามากเกินปกติแบบนี้ต้องไปหาหมอหรือเปล่าคนลามก”ตรีรินทร์ต่อว่าไม่จริงจัง “ผมนี่ปกตินะก็ข้าวใหม่ปลามันก็แบบนี้แหละ ทนๆ เอาหน่อยนะที่ผมเรียกร้องคุณมากไว้ผมรักคุณน้อยกว่านี้แล้วเราค่อยคุยกัน”ธมกานต์กล่าวเสียงกระเส่าเพราะมือที่ลูบไล้ไปทั่วตัวเริ่มได้รับการตอบสนองอย่างเร่าร้อนและรุนแรงพอกัน บ่ายวันอาทิตย์ “ คุณกานต์ค่ะตื่นได้แล้วรินทร์หิวข้าว”ตรีรินทร์ส่งเสียงออดอ้อน “ แต่ผมหิวคุณ”ธมกานต์คว้าร่างภรรยาสาวมากอด “บ้าลามกไม่รู้จักพอตื่นเถอะค่ะเราไปหาอะไรอร่อยกินข้างนอกได้ไหมรินทร์อยากไปทานสุกี้ไม่ได้ทานตั้งนานแล้วนะคะนะคะคุณกานต์คนดี้คนดี”ตรีรินทร์จูบที่หน้าอกของสามีพร้อมออดอ้อนอย่างน่ารัก “ว๊าทำตัวน่ารักแบบนี้ไม่ตามใจได้ไงงั้นคุณไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวผมตามไป” ตรีรินทร์รีบเดินเข้าห้องน้ำอย่างว่าง่าย ร้านสุกี้ชื่อดัง “อร่อยมากเหรอรินทร์ดูคุณทานแล้วน่ากินจัง”ธมกานต์กล่าวพร้อมมองภรรยาสาวอย่างน่าเอ็นดู “อร่อยมากมีประโยชน์ด้วยคุณชอบทานอะไรเดี๋ยวรินทร์จัดใส่หม้อให้ เต้าหู้ไหมคะหรือลูกชิ้นปิงปอง” “ คุณทานเถอะผมทานเป็ดย่างอิ่มแล้วอีกอย่าง ผมอยากกินคุณมากกว่า” ธมกานต์พูดพร้อมกับส่งสายตามีความหมายก่อนจะชะโงกหน้ามาหอมแก้มอย่างไม่อายสายตาใครก่อนจะตกใจเมื่อสายตาปะทะแสงแฟลชสองสามครั้งก่อนที่สองชายหญิงเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดีครับคุณธมกานต์ผมมาจากหนังสือพิมพ์ ไม่ทราบคุณธมกานต์ควงภรรยามาสงบข่าวรักร้าวหรือเปล่าครับ” ธมกานต์หน้าบึ้งก่อนจะตอบว่า“ทำไมผมต้องควงมาสยบข่าวในเมื่อผมกับภรรยารักกันดีขอโทษผมไม่ใช่ดาราที่ให้พวกคุณมาสัมภาษณ์เรื่องส่วนตัวถ้าคุณไม่ว่าอะไรผมขอตัวทานข้าวกับภรรยา”ธมกานต์กล่าวเสียงเข้มทำเอาหญิงชายนักข่าวรีบเดินเผ่นหนีด้วยความกลัว ตรีรินทร์หันมามองใบหน้า สามีที่วางหน้าเฉยๆ “โกรธเค้าหรือยังไงที่แอบถ่ายรูป” “อืมไม่ได้โกรธแต่ไม่ชอบผมไม่อยากเป็นขี้ปากชาวบ้านรู้ไหม”ธมกานต์จับมือหญิงสาวขี้นมาลูบ “ว๊าอย่าพึ่งอารมณ์เสียอาหารกำลังอร่อยรินทร์ป้อนให้” ตรีรินทร์คีบกุ้งจิ้มน้ำจิ้มก่อนจะป้อนให้ชายหนุ่มธมกานต์อ้าปากก่อนจะเคี้ยวอย่างอร่อยและพูดว่า “ทำไมคุณถึงน่ารักขนาดนี้ น่ารักน้อยกว่านี้ได้ไหมรู้ไหมผมสังหรณ์ใจว่าความรักของเราจะต้องมีอุปสรรคไม่ราบรื่น”ธมกานต์กล่าวเสียงอ่อนๆ “คิดมากจังเลยรินทร์ว่าเราทำทุกวันให้ดีที่สุดดีกว่าอนาคตข้างหน้าเป็นสิ่งที่เราไม่เห็นทำชีวิตให้มีความสุขนะคะคุณกานต์” “ก็ได้ตามใจคุณแล้วเดี๋ยวเราไปไหนกันต่อดีผมตามใจคุณทุกอย่าง” “รินทร์อยากดูหนังคอมเมดี้เรื่องนึงคุณกานต์ไปนั่งดูเป็นเพื่อนรินทร์หน่อยได้ไหมคะ” “ผมตามใจคุณทุกอย่างวันนี้อยากกินอะไรไปไหนบอกมาได้ครับคุณผู้หญิง”ธมกานต์ล้อเลียนก่อนที่ทั้งสองจะหัวเราะประสานเสียงเสียงดัง กรี๊ด..เสียงนางแบบสาวกรีดร้องเมื่ออ่านเห็นภาพในนิตยสารกอสซิปชื่อดัง“เห็นภาพแบบนี้ข่าวที่ว่าขาเตียงนักธุรกิจหนุ่มกับภรรยาสาวกำลังสั่นคลอนคงเป็นแค่ข่าวลือเห็นภาพแล้วคงต้องบอกว่ารักนี้ยังหวานเพราะภาพมันฟ้อง”ภาพที่จามิกาเห็นเป็นภาพที่หญิงสาวกำลังป้อนอาหารให้ชายหนุ่มด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มจามิกาทั้งกรีดร้องทั้งฉีกนิตยสารทำเอาเพื่อนนางแบบหันมามองด้วยความอยากรู้อยากเห็น “แกจะมัวแต่ร้องกรี๊ดๆแล้วมันจะได้อะไรนังจี้”วีวี้ เพื่อนสนิทพูดก่อนครุ่นคิด “ฉันจะไม่ยอมให้มันเสวยสุขนานหรอกของๆฉันฉันรักอยู่กับกานต์มาตั้งหลายปีแกก็เห็นว่ากานต์เค้าเครซี่ฉันแค่ไหน”จามิกากล่าวน้ำเสียงเคียดแค้น “แกก็ทำอะไรสักทีสิ”วีวี้ยุส่ง “ช่วยกันคิดหน่อยสินังวีวี้ถ้างานสำเร็จฉันให้แกเลยสองแสน”จามิกาพูดอย่างใจป้ำ วีวี้พอได้ยินว่าจะได้ค่าตอบแทนก็มองด้วยความสนใจ สองอาทิตย์ที่ผ่านมาทั้งตรีรินทร์และธมกานต์เข้าใจถึงชีวิตครอบครัวที่มีความสุข กว่าสองอาทิตย์ที่ทั้งคู่แทบจะไม่ทะเลาะกันเลยเพราะต่างถ้อยทีถ้อยอาศัยกันได้มีเวลาไปทานอาหารนอกบ้านไปเที่ยวบ้านเพื่อน ทานข้าวกับแม่ทั้งสองทำเอาตรีรินทร์แทบจะสำลักความสุขที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจนกลัวว่าความสุขนั้นจะอยู่ไม่นาน “เป็นอะไรครับรินทร์คุณเหม่ออยู่นานแล้วคิดอะไรอยู่”ธมกานต์ลูบศีรษะภรรยาสาวก่อนจะสวมกอดด้วยความรู้สึกรักและหวงแหน “ไม่รู้สิคะสังหรณ์แปลกๆรู้สึกเสียวๆวูบๆ ยังไงชอบกล”ตรีรินทร์ซบศีรษะกับซอกคอชายหนุ่ม “อืมคิดมากผมรักคุณที่สุดคุณก็รู้แล้วต้องกลัวอะไรอีกว่าแต่คุณเถอะยังไม่เคยบอกรักผมสักครั้ง”ธมกานต์ตีสีหน้าบึ้ง “ทำไมต้องบอกเป็นคำพูดคะเท่าที่เป็นอยู่คุณกานต์ไม่รู้หรือไง”ตรีรินทร์กล่าวอย่างเขินอาย “ผมอยากได้ยินชัดๆจากปากคุณยามปกติไม่ใช่ละเมอ” “อะไรรินทร์เคยละเมอบอกรักคุณด้วยเหรอไม่จริงหรอก” “จริงสิผมเคยได้ยินชัดด้วย”ธมกานต์กล่าวล้อเลียนภรรยาสาว “บ้า ไม่จริงหรอกคุณกานต์แกล้งรินทร์”ตรีรินทร์ตัดพ้อ“จริงๆนะอาทิตย์หน้าวัดเกิดผมคุณต้องบอกรักผมให้ผมได้ยินชัดๆในวันเกิดได้ไหม”ธมกานต์ขอร้อง “อืมคิดดูก่อนดูพฤติกรรมก่อน”ตรีรินทร์ต่อรอง “ดูพฤติกรรมงั้นเหรอ งั้นมานี่เลยมาให้จูบซะดีๆ” ก่อนที่ตรีรินทร์จะหลบออกจากอ้อมกอดแต่ก้าวได้เพียงสองก้าวก็ถูกชายหนุ่มดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้งก่อนจะระดมจูบทั้งริมฝีปากบางอย่างดูดดื่มก่อนจะจบลงอย่างสวยงาม ตรีรินทร์จูบที่อกกว้างก่อนที่จะใจหายอย่างไม่ทราบสาเหตุ“คุณกานต์รินทร์สังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูกแต่ถ้าสักวันถ้าเราจะไม่ได้อยู่ร่วมกันรินทร์จะเก็บช่วงเวลานี้อยู่ในความทรงจำของรินทร์ตลอดไป”ตรีรินทร์คิดเงียบๆในใจ ในขณะที่ธมกานต์หลับสนิทแต่แขนก็ยังสวมกอดภรรยาสาว สองนางแบบสาวนั่งดื่มกันที่ริมระเบียงพร้อมกับปรึกษาแผนการร้ายที่จะแย่งชายหนุ่มกลับคืนมา “วีวี้แกคิดว่าแผนการนี้จะได้ผลหรือไง”จามิกาครุ่นคิดแบบไม่ค่อยแน่ใจ “รับรองร้อยทั้งร้อยถึงไม่เลิกกันแต่ก็โกรธกันและไม่เข้าใจกันเราก็ต้องค่อยๆ หยอดเชื่อสิว่าต้องได้ผลเห็นมาหลายรายแล้ว”วีวี้กล่าวอย่างมั่นใจ “งั้นพรุ่งนี้เราก็ลุยเลยเดี๋ยวฉันจะโทรนัดกานต์เลยส่วนแกก็ไปหาชุดที่ว่ามา แค่คิดก็สนุกแล้วฉันอยากจะดูน
“เข้มบอกแล้วไงว่าอยากอยู่คนเดียวแล้วนี่พรวดพราดเข้ามามีอะไรฮะวอนโดนเตะแล้วไหมล่ะบอกแล้วไงว่าฉันไม่อยากเจอใคร” ธมกานต์กล่าวอย่างหงุดหงิดคนขับรถหนุ่มเริ่มติดอ่างเมื่อเห็นอารมณ์ของนายจ้างหนุ่ม” เออคุณนมบอกให้ผมมาเรียนเชิญคุณกานต์ที่ตึกใหญ่บอกว่าคุณรินทร์มีธุระสำคัญจะคุยด้วยด่วนครับ”ธมกานต์ผงกศีรษะก่อนจะออกเดิน” แล้วก็ไม่บอก อมพะนำอยู่ได้”ธมกานต์รู้สึกดีใจในวูบแรกแต่ก็ทำหน้าเคร่งเมื่อเดินเข้าสู่บริเวณตึกก่อนจะได้กลิ่นเหมือนขนมอบธมกานต์สูดกลิ่นเข้าเต็มปอดก่อนท้องเจ้ากรรมก็ส่งเสียงประท้วงเพราะตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ชายหนุ่มไม่ได้รับประทานจริงๆจังๆเลยสักมื้อนมอิ่มเดินมาหาก่อนจะยื่นจานคุกกี้ให้ชายหนุ่ม “ ชิมสิคะคุณกานต์อร่อยคะ”ธมกานต์หยิบขึ้นชิมก่อนจะหยิบทานอีกหลายชิ้นก่อนพูดชื่นชมว่า“อร่อยรสช็อคโกแล็ตชิบของโปรดแต่มีเหมือนกลิ่นใบเตยผสมหอมดี”“ฝีมือคุณรินทร์ค่ะ”ธมกานต์สำลักก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม “ ใครทำนะ”“คุณหนูรินทร์ค่ะ อร่อยใช่ไหมคะ”“ก็งั้นแหละพอทานได้” ธมกานต์พูดสิ่งตรงข้ามกับใจเมื่อเหลือบเห็นภรรยาสาวในชุดเอี๊ยมในครัวเดินออกมาธมกานต์จ้องมองร่างภรรยาสาวที่ทำให้ตนกระวนกระวายตลอดห
“ รินทร์ ตรีรินทร์ เปิดประตูหน่อยสิ เมียจ๋าผัวกลับมาแล้ว” เสียงเคาะประตูดังขึ้น “ เดี๋ยวค่ะ กำลังจะเปิดแล้ว” เสียงตรีรินทร์ตะโกนตอบหญิงสาวเปิดประตูแต่ก็ต้องตกใจเพราะร่างของชายหนุ่มเซมาปะทะจนแทบจะตั้งรับไม่ทัน“คุณกานต์นี่คุณเมาเหรอค่ะ เหม็นเหล้าจัง” ตรีรินทร์เบนใบหน้าหนี เพราะทนกลิ่นเหล้าแทบไม่ไหว“รังเกียจหรือไง เนี่ยผัวนะไม่ใช่คนอื่น” ธมกานต์โวยวายเสียงอ้อแอ้“คุณเมาแล้ว เดี๋ยวรินทร์พาไปนอน” ตรีรินทร์พูดอย่างอ่อนใจ“ใครว่าผมเมา ผมไม่เมาสักหน่อย” ธมกานต์เถียงแต่ยังเดินเซ หญิงสาวประคองมาที่เตียงพยายามจะผลักให้ชายหนุ่มนอนที่เตียงแต่กลับล้มไปด้วยกันที่เตียง“ว้าย” ตรีรินทร์ร้องตกใจหญิงสาวพยายามตะเกียกตะกายเพื่อจะลุกขึ้นจากร่างของชายหนุ่มแต่กลับถูกชายหนุ่มผลักให้นอนแนบอกก่อนที่ชายหนุ่มจะพลิกตัว ขึ้นมาใบหน้าห่างกันแค่คืบจนได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน“รังเกียจผมมากหรือไงลืมไปแล้วเหรอว่าเราเป็นอะไรกัน” ธมกานต์กล่าวเสียงเข้ม ภายในรู้สึกเจ็บร้าวกับกิริยาท่าทางที่ดูเหมือนจะรังเกียจของหญิงสาว“เปล่าค่ะ รินทร์อยากให้คุณพัก คุณเมาแล้ว นอนพักเถอะค่ะรินทร์จะไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้” ตร
“ค่ะ ไม่ต้องห่วง นมจะดูแลให้อย่างดีค่ะ”ธมกานต์หันขึ้นไปมอง ก่อนมองที่นาฬิกา แล้วรีบก้าวเดินออกไปอย่างรีบร้อน“เข้ม ไปส่งฉันที่สนามบิน”ธมกานต์นั่งนึกถึงใบหน้าของภรรยาสาวแล้วหงุดหงิดที่ไม่สามารถเคลียร์ปัญหากับภรรยาสาวก่อนออกเดินทางได้ธมกานต์กดโทรศัพท์หาหญิงสาว เสียงสัญญาณว่างแต่ไม่มีคนรับสายทำให้ชายหนุ่มยิ่งหงุดหงิดก่อนจะกระหน่ำโทรอย่างโมโหตรีรินทร์มองโทรศัพท์ดังไม่ขาดสายพร้อมกับกัดริมฝีปากด้วยความเจ็บปวดยิ่งถอดเสื้อคลุมแล้วเห็นร่องรอยต่างๆบนเนื้อตัว ทำให้ตรีรินทร์ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจหญิงสาวขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดทั้งวันจนกระทั่งแม่นมคนสนิทของชายหนุ่มมาเรียกให้ไปรับประทานอาหารจริงๆแล้วตรีรินทร์ไม่หิวเพราะยังนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน แต่ไม่อยากให้หญิงชราไม่สบายใจหญิงสาวจึงฝืนใจออกจากห้องไปรับประทานอาหารอย่างเสียมิได้นมอิ่มตัดสินใจพูดเมื่อมองเห็นหญิงสาว เหม่อลอยพร้อมกับตักข้าวต้มกินช้าๆ“ทะเลาะกับคุณกานต์เหรอคะคุณรินทร์”นมอิ่มตัดสินใจถามเมื่อเห็นหญิงสาวตาบวมซึ่งคงผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักแล้วมีท่าทางเหม่อลอยตรีรินทร์เงียบ ก่อนวางช้อนข้าวต้มลง “นิดหน่อยค่ะนมก็รู้ว่าคู่ของ
“รินทร์ดูใจลอยจังมีเรื่องอะไรไม่สบายใจพูดกับเราได้เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอเราพร้อมรับฟังนะ”พยาบาลสาวเหลือบมองอากัปกิริยาก่อนพูดตรีรินทร์ถอนใจแล้วพูดว่า “จริงๆก่อนคุณกานต์ไปเมืองนอกเรามีเรื่องทะเลาะกันก็ไม่คุยกันตั้งหลายวัน รินทร์ยังหนักใจว่าเจอเค้าอีกครั้งแล้วรินทร์จะต้องทำตัวยังไง”“เรื่องอะไรล่ะที่ทะเลาะกัน เรื่องร้ายแรงหรือเปล่า”“ก็ไม่เชิงหรอก อืม รินทร์จะเล่าให้ฟัง”ตรีรินทร์ถ่ายทอดเหตุการณ์ที่ผ่านมาพร้อมกับเล่าที่ชายหนุ่มโทรมาจากต่างประเทศ“โถรินทร์ เราว่าไม่มีอะไรหรอก มันคงเป็นเหตุการณ์บังเอิญ รินทร์ลองคิดกลับกันดูนะถ้ารินทร์เป็นคุณกานต์ รินทร์จะเอากิ๊กมาทำอะไรที่บ้านแล้วโทรไปเรียกเมียมาดูไหมคนโง่มากเท่านั้นที่ทำจริงไหม ถ้าเราตัดอารมณ์ออกแล้วใช้ความคิดนะเราจะรู้ว่านี่อาจเป็นแผนของใครบางคนที่อยากให้รินทร์กับคุณกานต์ผิดใจกัน”ตรีรินทร์กลับมาถึงบ้านก็ครุ่นคิดกับสิ่งที่เพื่อนสาวพูดกลับไปกลับมาก่อนจะตกใจเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู“เข้ามาเถอะจ๊ะ ห้องไม่ได้ล็อค”“คุณรินทร์ หนูกลับมาแล้วค่ะแล้วทำไมคุณรินทร์ถึงมาอยู่เรือนใหญ่ค่ะแล้วเรือนหลังเล็กแหวนไปหาตั้งนานไม่มีใครอยู่เลย”ต
“ รินทร์ ตรีรินทร์ เปิดประตูหน่อยสิ เมียจ๋าผัวกลับมาแล้ว” เสียงเคาะประตูดังขึ้น “ เดี๋ยวค่ะ กำลังจะเปิดแล้ว” เสียงตรีรินทร์ตะโกนตอบหญิงสาวเปิดประตูแต่ก็ต้องตกใจเพราะร่างของชายหนุ่มเซมาปะทะจนแทบจะตั้งรับไม่ทัน“คุณกานต์นี่คุณเมาเหรอค่ะ เหม็นเหล้าจัง” ตรีรินทร์เบนใบหน้าหนี เพราะทนกลิ่นเหล้าแทบไม่ไหว“รังเกียจหรือไง เนี่ยผัวนะไม่ใช่คนอื่น” ธมกานต์โวยวายเสียงอ้อแอ้“คุณเมาแล้ว เดี๋ยวรินทร์พาไปนอน” ตรีรินทร์พูดอย่างอ่อนใจ“ใครว่าผมเมา ผมไม่เมาสักหน่อย” ธมกานต์เถียงแต่ยังเดินเซ หญิงสาวประคองมาที่เตียงพยายามจะผลักให้ชายหนุ่มนอนที่เตียงแต่กลับล้มไปด้วยกันที่เตียง“ว้าย” ตรีรินทร์ร้องตกใจหญิงสาวพยายามตะเกียกตะกายเพื่อจะลุกขึ้นจากร่างของชายหนุ่มแต่กลับถูกชายหนุ่มผลักให้นอนแนบอกก่อนที่ชายหนุ่มจะพลิกตัว ขึ้นมาใบหน้าห่างกันแค่คืบจนได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน“รังเกียจผมมากหรือไงลืมไปแล้วเหรอว่าเราเป็นอะไรกัน” ธมกานต์กล่าวเสียงเข้ม ภายในรู้สึกเจ็บร้าวกับกิริยาท่าทางที่ดูเหมือนจะรังเกียจของหญิงสาว“เปล่าค่ะ รินทร์อยากให้คุณพัก คุณเมาแล้ว นอนพักเถอะค่ะรินทร์จะไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้” ตร
“ค่ะ ไม่ต้องห่วง นมจะดูแลให้อย่างดีค่ะ”ธมกานต์หันขึ้นไปมอง ก่อนมองที่นาฬิกา แล้วรีบก้าวเดินออกไปอย่างรีบร้อน“เข้ม ไปส่งฉันที่สนามบิน”ธมกานต์นั่งนึกถึงใบหน้าของภรรยาสาวแล้วหงุดหงิดที่ไม่สามารถเคลียร์ปัญหากับภรรยาสาวก่อนออกเดินทางได้ธมกานต์กดโทรศัพท์หาหญิงสาว เสียงสัญญาณว่างแต่ไม่มีคนรับสายทำให้ชายหนุ่มยิ่งหงุดหงิดก่อนจะกระหน่ำโทรอย่างโมโหตรีรินทร์มองโทรศัพท์ดังไม่ขาดสายพร้อมกับกัดริมฝีปากด้วยความเจ็บปวดยิ่งถอดเสื้อคลุมแล้วเห็นร่องรอยต่างๆบนเนื้อตัว ทำให้ตรีรินทร์ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจหญิงสาวขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดทั้งวันจนกระทั่งแม่นมคนสนิทของชายหนุ่มมาเรียกให้ไปรับประทานอาหารจริงๆแล้วตรีรินทร์ไม่หิวเพราะยังนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน แต่ไม่อยากให้หญิงชราไม่สบายใจหญิงสาวจึงฝืนใจออกจากห้องไปรับประทานอาหารอย่างเสียมิได้นมอิ่มตัดสินใจพูดเมื่อมองเห็นหญิงสาว เหม่อลอยพร้อมกับตักข้าวต้มกินช้าๆ“ทะเลาะกับคุณกานต์เหรอคะคุณรินทร์”นมอิ่มตัดสินใจถามเมื่อเห็นหญิงสาวตาบวมซึ่งคงผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักแล้วมีท่าทางเหม่อลอยตรีรินทร์เงียบ ก่อนวางช้อนข้าวต้มลง “นิดหน่อยค่ะนมก็รู้ว่าคู่ของ
“เป็นของใครครับคุณทนาย” ธมกานต์เงยหน้าก่อนจะจ้องมองทนายเหมือนจะบังคับให้พูด“ของคุณตรีรินทร์ แล้วเพื่อนผมที่เป็นผู้จัดการ ยังบอกว่าเธอเป็นผู้มาเบิกเงินเองทุกครั้ง”“เงินหายจากบัญชีไปเท่าไหร่ครับ”“สามล้านเศษๆ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาครับ”“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อน ยังไงคุณกานต์คงจะสอบถามคุณรินทร์ได้ว่าผมจะติดต่อคุณหญิงได้ที่ไหน ผมพยายามโทรเข้ามือถือก็ติดต่อไม่ได้เมื่อวานโทรมาหานมอิ่มก็บอกว่ายังไม่กลับบ้านแต่ที่น่าแปลกก็คือเงินเดือนพนักงานในบ้านปกติคุณหญิงจะเป็นผู้จัดการเองทุกครั้งผมถามนมอิ่มนมอิ่มบอกว่าคุณตรีรินทร์เป็นผู้นำเงินมาจ่าย” ทนายสมชายรายงานธมกานต์รู้สึกมึนกับข้อมูลที่ได้รับก่อนจะขังตัวเองในห้องทำงานพร้อมกับเอกสารที่ระบุข้อมูลการจ่ายเงินออกจากบัญชีมารดา ธมกานต์หยิบขึ้นมาดูทีละใบ ทีละใบ อย่างละเอียดห้องผ่าตัดเปิดออกตรีรินทร์ขยับตัวก่อนจะก้าวไปหาอาจารย์หมอด้วยความร้อนใจ“คุณป้าเป็นอย่างไรบ้างคะ”“ปลอดภัยแล้ว ตอนนี้คนไข้ต้องพักผ่อนอย่างน้อยสามสิบหกชั่วโมง หมอว่าคุณกลับไปพักผ่อนก่อนคนไข้ฟื้นผมจะให้พยาบาลโทรไปบอก ผมอยากให้คนไข้พักนานหน่อยเพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่ ““ขอบคุ
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้