“ ไอ้บ้ากานต์อย่าฟุ้งซ่านสิเค้ายังเจ็บอยู่อย่าคิดบ้าไม่เลือกสถานการณ์แบบนี้เดี๋ยวเธอจะคิดว่าแกเป็นไอ้บ้ากาม” ธมกานต์บ่นด่าตนเองในใจ
ตรีรินทร์อาบน้ำก่อนจะใส่เสื้อผ้าชุดนอนอย่างรัดกุมก่อนจะออกห้องน้ำมาแบบเขยกๆ ธมกานต์ผลอยนอนหลับไปอย่างไม่รู้ตัวตรีรินทร์นอนลงที่ด้านตรงข้ามชายหนุ่มพร้อมกับเอาหมอนข้างมาวางตรงกลางก่อนจะมองชายหนุ่มอย่างไม่ค่อยไว้ใจแต่เสียงหายใจสม่ำเสมอทำให้รู้ว่าชายหนุ่มหลับสนิทไปแล้ว ตรีรินทร์ถอนหายใจแบบโล่งอกก่อนจะล้มตัวลงนอนพร้อมกับดึงผ้าห่มมาห่ม กลางดึกตรีรินทร์รู้สึกมีมือมากอดตนเองพร้อมกับจูบที่ซอกคอ “ ไม่ต้องกลัวผมแค่อยากนอนกอดคุณวันนี้หมดแรงจริงๆอีกอย่างผมไม่อยากรังแกคนป่วยคนขาเดี้ยง เดี๋ยวคุณจะมาตะโกนด่าว่าผมว่าใจร้าย วันนี้ผมยกให้คุณหนึ่งวัน พรุ่งนี้คุณต้องให้รางวัลผมทั้งต้นและดอก” ธมกานต์กระซิบที่ข้างหู ขณะที่ตรีรินทร์ยิ้มขำก่อนจะผลอยหลับไปในอ้อมกอดของชายหนุ่ม ตรีรินทร์ตื่นขึ้นมาตอนเช้าชายหนุ่มยังหลับสนิทตรีรินทร์พยายามแกะมือชายหนุ่มออกก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอนอย่างระมัดระวังไม่ให้รบกวนชายหนุ่ม ตรีรินทร์อาบน้ำเสร็จแต่งตัวและลงไปข้างล่างข้อเท้าของเธอยังรู้สึกเสียวๆแต่ไม่เจ็บเหมือนเมื่อวานตรีรินทร์มองไปทั่วบริเวณบ้านหลังเล็ก ก่อนจะเดินเข้าห้องครัวเพื่อมองหาสิ่งที่จะเตรียมทำให้ชายหนุ่มทานใน ตอนเช้าเตรียมอาหารเสร็จตรีรินทร์ก็เดินสำรวจเรือนหลังเล็กบ้านที่หญิงสาวตกแต่งให้ชายหนุ่มผลงานชิ้นแรกของตนเองรู้สึกภาคภูมิใจเป็นพิเศษเดินไปลูบคลำ ไปจนกระทั่งมาถึงห้องนั่งเล่นที่ตอนนี้มีของขวัญมากมายมากองไว้ แทบจะเต็มห้องตรีรินทร์มองไปรอบๆพร้อมกับนึกเล่นๆว่า ‘ถ้าเราแต่งงานกับคนฐานะธรรมดาจะได้ของขวัญมากมายแบบนี้ไหมหนอ’ ตรีรินทร์จับกล่องนั้นแกะกล่องนี้เมื่อหลายชิ้นเข้าก็เริ่มสนุกแกะไปจดไปว่าผู้ใดให้ของอะไรทำเป็นบัญชีเพื่อที่จะให้ชายหนุ่มได้ดูด้วย แล้วพลันนึกถึงกล่องกำมะหยี่สีแดงของพี่โตมร ตรีรินทร์มองหาจนกระทั่งเจอกับกล่องกำมะหยี่หญิงสาวเปิดออกพร้อมกับหยิบสิ่งๆนั้นขึ้นมาเป็นสร้อยทองคำรูปหัวใจที่เรียงร้อยอย่างงดงามตรีรินทร์พบกับแผ่นกระดาษเล็กๆใบหนึ่งที่เขียนว่า สำหรับรินทร์ด้วยหัวใจรักของพี่นี่คือของขวัญที่พี่เตรียมไว้ให้รินทร์ในคืนส่งตัวของเราแต่เมื่อพี่มันไม่มีวาสนาได้เป็นเจ้าบ่าวของรินทร์พี่จึงมอบสร้อยเส้นนี้ในฐานะพี่ชายที่ให้เป็นของขวัญแด่น้องสาวสุดที่รักพี่คงรักใครไม่ได้มากเท่ารักรินทร์แต่พี่จะจดจำช่วงเวลาดีๆที่เรามีร่วมกันชาติหน้ามีจริงขอให้พี่มีวาสนาได้เป็นเจ้าของรินทร์อย่างแท้จริงอย่าได้มีอุปสรรคใดพลัดพรากเราไปเหมือนชาตินี้ รักและหวังดีกับรินทร์เสมอ โตมร ตรีรินทร์อ่านข้อความในกล่องกำมะหยี่แล้วร้องไห้ด้วยความสงสารอดีตชายคนรักอย่างสุดซึ้งตรีรินทร์สวมสร้อยรูปหัวใจแต่ต้องตกใจเมื่อประตูห้องนั่งเล่นเปิด “มาทำอะไรที่นี่แต่เช้าจ๊ะเจ้าสาวของผม” ธมกานต์ในชุดลำลองเดินเข้ามาหาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแต่แล้วก็ต้องทำหน้าตางงเมื่อเห็นหญิงสาวตาแดงก่ำ “ เป็นอะไรรินทร์ผมถามว่ามาทำอะไรห้องนี้” “ มาแกะของขวัญ” ตรีรินทร์กล่าวตอบเสียงเครือ “ แล้วนั่นอะไรที่คุณซ่อนไว้ข้างหลัง” ตรีรินทร์พยายามซ่อนข้อมือที่สวมสร้อยรูปหัวใจ “ ไม่มีอะไร” หญิงสาวปฏิเสธก่อนทำท่าทางมีพิรุธ ธมกานต์คว้าข้อมือหญิงสาวพร้อมกับบิดออกมาด้านหน้าเมื่อเห็นสร้อยรูปหัวใจก็ตาลุกโพลงด้วยความโกรธ “ สร้อยรูปหัวใจของใคร” ธมกานต์ถามเสียงดัง ตรีรินทร์เงียบพร้อมกับบิดข้อมือเหมือนร้องขออิสรภาพ “ ผมถามว่าของใครรินทร์ตอบผมมาตามตรงห้ามโกหกผมเกลียดคนโกหกคุณก็รู้” “ คุณแน่ใจเหรอที่จะให้ฉันบอกความจริง” ตรีรินทร์ถาม “ แน่นอนที่สุด” “ ของพี่โตเค้าให้ฉันเป็นของขวัญแต่งงานพอใจหรือยัง” ธมกานต์ปล่อยมือหญิงสาวพร้อมกับมองหญิงสาวด้วยแววตาที่ผิดหวังอย่างสุดซึ้ง “ จนกระทั่งเราแต่งงานกันแล้วคุณก็ยังคิดถึงแฟนเก่าคุณตลอดเวลาตื่นขึ้นมาก็ต้องรีบมาหาของที่มันให้คุณเป็นสิ่งแรก ผมไม่สามารถเข้าถึงตัวคุณได้เพราะคุณสร้างกำแพงมา กั้นขวางคุณรักมันและแคร์มันตลอดเวลาตั้งแต่เลือกจะไปงานเลี้ยงรับตำแหน่งมันมากกว่า แต่งงานตามฤกษ์ที่ดีสำหรับเราพอแต่งงานกันแล้วคุณก็ยัง รักข้าวของที่มันให้ผมเหนื่อย ผมเซ็ง ผมยอมแพ้ เชิญคุณอยู่กับสิ่งที่คุณแคร์ที่คุณรักผมไปทำงานดีกว่าเชิญคุณทุ่มเทเวลาของคุณให้กับสิ่งที่คุณชอบที่คุณรักตามสบายผมจะไม่เป็นมารขัดขวางคุณอีกต่อไป”ธมกานต์กระแทกเท้าออกจากห้องไปพร้อมกับปิดประตูดังลั่นบ้าน ตรีรินทร์ตะลึงก่อนจะทรุดนั่งที่ห้องนั่งเล่น เสียงรถที่ขับด้วยความเร็วแล่นออกไปพร้อมๆกับตรีรินทร์ร้องไห้โฮ ด้วยความอัดอั้นในใจ “ คุณไม่คิดจะถามหาเหตุผล พูดเองเออเองเสร็จสรรพแล้วนี่เราจะอยู่กับเค้าไปได้นานสักแค่ไหน” ตรีรินทร์คิดเองอย่างท้อแท้ คอนโดเล็กๆใจกลางกรุงเทพฯโตมรลืมตาขึ้นมามองเพดานและมองไปรอบๆห้องก็ผลุดขึ้นนั่งด้วยความตกใจ พลางคิดในใจ “เฮ๊ย ที่ไหนเนี่ย” “ อ้าวตื่นแล้วเหรอคะผู้หมวด” รสสุคนธ์ เปิดประตูห้องนอนเข้ามาอย่างคุ้นเคย โตมรนั่งพิงหัวเตียงหัวยุ่งเปลือยกายครึ่งท่อนทำให้รสสุคนธ์ยิ้มหน้าแดงก่อนจะพูดว่า “เมื่อคืนคุณเมามากฉันถามว่าบ้านคุณอยู่ที่ไหนคุณก็ไม่ตอบสักที มันดึกมากฉันเลยต้องลากคุณมานอนที่นี่อ๋อแล้วไม่ต้องตกใจฉันไม่ได้ทำอะไรคุณมากไปกว่าถอดเสื้อที่เปื้อนอ้วกของคุณเสื้อคุณตากที่ระเบียง มันยังไม่แห้งเลยบ้านฉันก็ไม่มีตู้อบเสื้อซะด้วยถ้าคุณอยากกลับบ้านฉันให้ยืมเสื้อยืดก็ได้นะแต่มันอาจฟิตกับตัวคุณมากเพราะคุณตัวใหญ่กว่าฉันมาก” รสสุคนธ์อธิบายยาว “ ขอบคุณคุณมากนะคุณรสแล้วขอโทษที่ต้องมารบกวนคุณ” โตมรกล่าวอย่างสำนึกผิด “ ไม่เป็นไรธรรมดาของคนอกหักฉันผ่านมาแล้วเข้าใจ” รสสุคนธิ์พูดแบบสบายๆโตมรมองหญิงสาวตรงหน้าแล้วนึกชื่นชมว่าเธอดูธรรมชาติไปซะทุกอิริยาบถไม่มากไม่น้อย ดูสบายๆมองแล้วสบายตาสบายใจไม่ค่อยเหมือนผู้หญิงยุคใหม่ที่ดูเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด ทำเอาคนหัวโบราณอย่างตนเองรับไม่ค่อยจะได้ “ ฉันต้องไปทำงานแล้วคุณอยากทำอะไรก็ทำนะออกจากห้องไปปิดประตูให้ฉันด้วยแล้วฉันจดเบอร์โทรมือถือไว้ที่โต๊ะทานข้าวถ้าคุณจะมาเอาเสื้อเมื่อไหร่ก็โทรบอกก็ได้นะผู้หมวดแล้วข้าวต้มฉันทำไว้ให้คุณนะเมื่อคืนคุณอ้วกเยอะ ตื่นขึ้นมาคงจะหิวทานได้เลยไม่ต้องเกรงใจฉันไปล่ะ” รสสุคนธ์โบกมือลาแล้วเดินจากไป โตมรมองหญิงสาวร่างเล็กอย่างนึกขอบคุณในความใจดีของเจ้าหล่อน บ้านพิพัฒนพงค์ ตรีรินทร์นั่งร้องไห้อยู่ที่ห้องนั่งเล่นอยู่ร่วมชั่วโมงพลางนึกทบทวนสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น อีกด้านหนึ่งธมกานต์ขับรถ ออกมาชานเมืองด้วยใจที่ทั้งโกรธและเสียใจเมื่อนึกถึงสิ่งที่หญิงสาวกระทำก็นึกเจ็บใจมือทุบพวงมาลัยเหมือนระบายความแค้นเจ็บมือจนชา จอดรถแล้วเดินลงจากรถไปนั่งที่ ข้างทางเพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะขับรถไปที่โรงแรมเพื่อทำงาน ธมกานต์พอจะนึกออกว่าพนักงานคงแปลกใจ ที่เห็นเจ้านายมาทำงานในวันแรกหลังจากแต่งงานทั้งที่ ได้ทำการลางานไว้แล้วสองอาทิตย์แต่ก็ทำเป็นเฉยแล้วเดินเข้าห้องทำงานแล้วขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดทั้งวัน “พี่รสเจ้านายเป็นไรไหนพี่รสบอกว่าเจ้านายลางานสองอาทิตย์ไง” จิ๋วผู้ช่วยเลขาถามคนสนิทของเจ้านาย รสสุคนธ์ยักไหล่เป็นคำตอบว่า “ไม่รู้” ก่อนจะนำเอกสารไปถ่าย แล้วพูดว่า “ รีบๆไปทำงานเลยจิ๋วเดี๋ยวเกิดเจ้านายอารมณ์เสียจะโดนเล่นงานกันทั้งแผนก” จิ๋วรีบวิ่งไปนั่งประจำที่แล้วก้มหน้าทำงานสมญานามของเจ้านายเป็นที่เลื่องลือถึงความเอาจริงเอาจังแล้วเนี๊ยบกับงานในทุกส่วนพนักงานเคยโดนไล่ออกยกแผนกถ้าทำงานไม่เข้าตาดังนั้นพนักงานรุ่นต่อๆมาถึงไม่ค่อยกล้าอู้งาน “คุณรสผมไม่รับแขกถ้าผมไม่เรียกไม่ต้องเข้ามาถ้าใครโทรหาบอกว่าผมไม่สะดวกคุย ถ้าเย็นแล้วคุณกลับบ้านไปได้เลยไม่ต้องบอกผม” ธมกานต์สั่งเสียงเข้มพร้อมกับวางหูเสียงดัง รสสุคนธ์ย่นคอพร้อมกับวางมือทาบอก” พายุสลาตันก่อขึ้นแล้ว”รสสุคนธ์รำพึงเบาๆ ตรีรินทร์เข้าครัวพลางทำอาหาร เตรียมไว้สำหรับอาหารมื้อเย็นสำหรับตนเองและชายหนุ่ม หกโมงเย็น หนึ่งทุ่ม สองทุ่ม สามทุ่มตรีรินทร์นั่งรอชายหนุ่มพร้อมเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวายตามองโทรศัพท์ก่อนนึกในใจ “ โทรหาเค้าก่อนดีไหมถามก็ได้นี่ว่าจะกลับมาทานข้าวไหมคนบ้าออกบ้านไปไม่คิดจะโทรมาบอกหรือไงจะกลับกี่โมงคนเค้าจะได้ไม่ห่วง” ตรีรินทร์รำพึงอย่างหงุดหงิด “ เรื่องอะไรที่เราต้องง้อ เดี๋ยวจะได้ใจ” ตรีรินทร์คิดได้ดังนั้นก็เลิกที่จะนั่งรอแม้ว่าจะอดห่วงชายหนุ่มไม่ได้ สองวันผ่านไปก็ยังไม่มีวี่แววว่าชายหนุ่มจะกลับบ้านตรีรินทร์มองเห็นความยุ่งยากที่เกิดขึ้นกับตัวเองแต่เมื่อมิอาจทำอะไรได้ก็ได้แต่ปลงแล้วทำใจ วันนี้ตอนที่เธอเข้าไปที่ทำงานเพื่อนที่ทำงานแม้แต่เจ้านายก็มองเธอด้วยสายตาที่มีแต่คำถาม ตรีรินทร์ก้มหน้าก้มตาทำงานผ่านไปสักพักทุกคนก็เลิกที่จะสนใจในตัวเธอเพราะต่างคนต่างเร่งทำงานที่ได้รับมอบหมาย ตอนเย็นตรีรินทร์ได้ยินเสียงรถเลี้ยวเข้ามาบริเวณเรือนหลังเล็กก็ลุกขึ้นยืนด้วยความดีใจ แต่ร่างที่ปรากฏกายกลับเป็นเข้มคนขับรถคู่ใจของชายหนุ่ม “ มีอะไรจ๊ะพี่เข้ม” ตรีรินทร์ทักด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ คุณกานต์ให้ผมมาเอาเสื้อผ้าครับบอกว่าจะนอนที่โรงแรมอีกสักวันสองวันแต่ไม่มีเสื้อผ้า” คนขับรถกล่าวอย่างอ่อนน้อม ตรีรินทร์รู้สึกเจ็บจี๊ดในใจ แต่ฝืนยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า “เดี๋ยวรินทร์จัดให้เองจ๊ะ พี่เข้มนั่งรอสักครู่” หญิงสาวหายไปสักพักกลับมาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบเล็ก คนขับรถหนุ่มเห็นก็รีบวิ่งไปรับกระเป๋ามาถือ “ ขอบคุณนะจ๊ะพี่เข้ม รินทร์จัดให้สำหรับใช้สิบวันเลยนะจ๊ะฝากบอกคุณกานต์ว่าอยากให้จัดเพิ่มอีกเป็นเดือนก็ทำได้รินทร์เห็นมีกระเป๋าเดินทางหลายใบ” เข้มอ้าปากค้างแล้วเดินจากไป ธมกานต์ผุดลุกผุดนั่งกระวนกระวายเมื่อส่งคนขับรถไปเอาเสื้อผ้าเพื่อดูปฏิกิริยาของภรรยาสาว “ ว่าไง เข้ม คุณรินทร์ถามถึงฉันว่าไงเธอว่ายังไงบ้าง” น้ำเสียงเจ้านายหนุ่มร้อนรน “ไม่ว่าอะไรนี่ครับยังจัดเสื้อผ้าให้เจ้านายมาสิบวันแถมเธอยังฝากมาบอกคุณกานต์ว่า จะให้จัดอีกเดือนสองเดือนเธอก็จัดให้ได้ครับ” ธมกานต์กัดฟันด้วยความโกรธก่อนจะออกปากไล่คนขับรถหนุ่มก่อนจะปัดข้าวของที่อยู่บนโต๊ะจนหมดเป็นการระบายอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ข้างใน เข้มเข้ามาทานอาหารในห้องครัวเรือนใหญ่ “ ฉันว่าคุณกานต์กับคุณรินทร์ต้องทะเลาะกันแน่ๆนี่คุ ณกานต์ให้ฉันไปเอาเสื้อผ้าแค่สองชุด แต่ป้ารู้ไหมคุณรินทร์จัดเสื้อผ้าให้คุณกานต์สิบวันแต่พอเอาไปให้เจ้านาย เจ้านายกลับโมโห” นมอิ่มมีสีหน้ากังวลแต่ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงคุณหญิงมณีพูดว่า “ไปตามคุณรินทร์มาพบฉันแล้วโทรไปตามเจ้ากานต์ให้กลับบ้านบอกว่าฉันมีเรื่องสำคัญจะพูดด้วย” “เข้ามานี่สิพ่อตัวดีถ้าแม่ไม่ให้คนไปตามแกจะกลับบ้านไหม” น้ำเสียงคุณหญิงมณี เข้ม มองลูกชายคนดีลอดแว่น ธมกานต์ถอนหายใจ เฮือกก่อนจะนั่งลงข้างๆ คุณหญิงมณีมือก็รูดเนคไท “ ใครเอาอะไรมาฟ้องแม่ล่ะ “ น้ำเสียงธมกานต์เบื่อหน่าย “ ไม่มีใครเอาอะไรมาฟ้องแม่รู้ แม่เห็นเองแม่ไม่ได้ตาบอด หนูหนวก นี่คือคำสั่งกลับบ้านซะแล้วพาหนูรินทร์ไปฮันนีมูนได้แล้ว อย่าทำแบบนี้เองให้แม่ไปขอลูกสาวเค้ามาแล้วเอาเค้ามาทิ้งขว้าง แบบนี้ใช้ไม่ได้ไม่รัก ไม่ชอบเค้าแล้วให้แม่ไปขอเค้ามาทำไมคนเขามีพ่อ มีแม่นะตากานต์” คุณหญิงมณีกล่าวเสียงเข้ม “ แม่ก็รู้ว่าตอนนี้เป็นช่วงไฮน์ซีซั่นงานผมยุ่ง” “ นี่แกไม่ต้องโกหกแม่งานยุ่งแค่ไหนถ้าแกไม่มีปัญหากับหนูรินทร์แม่ก็คิดว่าแกเอาอยู่คุณวิชัยกับคุณวิเชียรก็แสตนบายแทนแกได้ไม่ต้องมาแก้ตัวแม่ขี้เกียจฟัง เดี๋ยวไปอาบน้ำอาบท่าแล้วมาทานข้าวตอนนี้เมียแกกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว อาบน้ำเสร็จก็โทรไปลางานให้หนูรินทร์ด้วยลาสักอาทิตย์ก็น่าจะพอไปพักผ่อนต่างสถานที่เผื่อจะได้หลานเล็กๆ มาวิ่งเล่น แม่แก่แล้วนะกานต์แม่อยากมีหลาน” คุณหญิงมณีกล่าวเสียงอ่อนล้า “ผมยังไงก็ได้แล้วแต่ลูกสะใภ้แม่แม่ถามเขาแล้วเหรอว่าจะไปไหมเดี๋ยวผมก็เก้ออยู่คนเดียว” ธมกานต์พูดเสียงขึ้นจมูก “ กานต์แม่อยากให้แกมีเหตุผลมากกว่านี้ทำอะไรคิดถึงใจเขาด้วยถ้าแกจะเอาแต่ใจฝ่ายเดียวมันไม่ไหวนะลูกส่วนเรื่องแฟนเก่าของเขาแกก็ต้องเห็นใจเขาด้วยเขารักกันมานาน เกือบยี่สิบปีแกไปแย่งเค้ามาความผูกพันย่อมแน่นแฟ้นกว่าคนที่รู้จักกันแค่เดือนสองเดือน ถ้าหนูรินทร์เค้าลืมแฟนเก่าได้เพียงชั่วข้ามวันแกต้องพิจารณาเค้าใหม่แล้วล่ะ แกต้องให้เวลาเค้าบ้างและคิดถึงใจเค้าให้มาก แม่ยังไม่ได้จัดการแกอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้หญิงของแกใส่ชุดดำมางานแต่ง แม่ไม่เห็นหนูรินทร์เค้าโวยวายแกสักคำเป็นคนอื่นคงบ้านแตกไปแล้วขอให้เป็นครั้งสุดท้ายที่คนของแกมาทำแบบนี้จัดที่ให้เค้าอยู่ในที่ที่เหมาะสมคราวหน้าเกิดเรื่องอีกแม่จะตีแก อย่านึกว่าแม่ไม่กล้าคิดว่าแกโตแล้วลูกไม่โตสำหรับแม่ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่” คุณหญิงมณีจันทร์สั่งสอนยาว บรรยากาศในห้องรับประทานอาหารเงียบกริบ ธมกานต์ลอบมองใบหน้าภรรยาสาวที่คิดถึงมาตลอดสองวัน ในขณะที่ตรีรินทร์ก้มหน้ารับประทานอาหารโดยไม่มองหน้าและไม่สบตาสามีเลยทำเอาชายหนุ่มนึกหมั่นไส้ “ กานต์ตักผัดคะน้าให้น้องด้วยสิลูกน้องเอื้อมไม่ถึงเห็นไหม” “ ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณป้า” ตรีรินทร์กล่าวอย่างเกรงใจ “ หนูรินทร์ตักไข้พะโล้ให้ตากานต์หน่อยนั่นนะ ของโปรดของเค้าเลย” ตรีรินทร์ตักไข้พะโล้ที่อยู่ใกล้กับตนให้อย่างว่าง่ายตาสบตาแล้วหญิงสาวก็เป็นฝ่ายหลบสายตา “ วันพรุ่งนี้พาหนูรินทร์ไปฮันนีมูนที่กระบี่แม่ให้เค้าจองที่พักและตั๋วไว้ให้ แล้วหยุดทำงานทุกอย่างพาน้องไปพักผ่อน ส่วนหนูรินทร์แม่ให้พี่เค้าลางานให้แล้วไปพักผ่อนกันซะอะไรแต่งงานกันแล้วยังทำงานกันอยู่ได้เรา ไม่ได้ยากจน ขนาดนั้นหาความสุขให้ตัวเองบ้างอีกอย่างแม่ก็แก่แล้วตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้แม่อยากอุ้มหลาน” คุณหญิงมณีกล่าวยิ้มๆตรีรินทร์หน้าชาด้วยความเขินอายในขณะที่ธมกานต์ก็จ้องมองภรรยาสาวด้วยสายตามีความหมายแต่ก็ยังเก็กหน้าเวลาสบตากัน ตรีรินทร์รู้สึกถึงความอึดอัดเหมือนระเบิดเวลาที่รอเวลาระเบิดตั้งแต่ทานอาหารเย็นเสร็จธมกานต์ก็แยกเข้าไปทำงานเหมือนเขาพยายามแยกตัวออกไป คุณหญิงมณีจันทร์พยายามคลี่คลาย สถานการณ์ที่ตึงเครียด “ ง้อเค้าหน่อยก็หายงอนแล้วนิสัยเสียตั้งแต่เด็กชอบเอาแต่ใจตัวเอง แต่พอเราง้อหน่อยแม่รับรองว่าเขาจะกลับมาน่ารักเหมือนเดิม ถ้าหนูรินทร์จะรอให้พ่อคนนี้มาง้อ สงสัยต้องรอนานพ่อคนนี้ใจแข็งเหมือนพ่อเขาไงแม่ไม่อยากให้หนูรินทร์ใจแข็งแล้วทิฐิเดี๋ยวจะเหมือนแม่นึกเสียใจเมื่อเหตุการณ์มันผ่านไป แล้วแล้วเลิกเรียกแม่ว่า “ ป้า”สักทีเรียกแม่เหมือนพ่อกานต์ตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว” คุณหญิงมณีจันทร์กล่าวแนะนำ ตรีรินทร์เอ่ยตอบเบาๆ ว่า “ ค่ะ คุณแม่ แต่รินทร์ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนนะคะ” คุณหญิงมณีจันทร์คิดในใจ “ หรือจะเจออีกคู่คู่รักใจแข็งขอภาวนาอย่าให้เป็นเหมือนตนกับท่านนายพลเลย” ตรีรินทร์เดินกลับไปเรือนหลังเล็กแต่เพียงลำพังระหว่างที่ขึ้นเตียงนอน ตรีรินทร์พยายามคิดว่าถ้าชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องเธอคว
“ รินทร์อาบเองก็ได้คุณกานต์ออกไปก่อน” ตรีรินทร์พยายามผลักชายหนุ่มออกไป ธมกานต์ขืนตัวพร้อมกับจับหญิงสาวไปที่อาบน้ำแล้วเปิดฝักบัว สาย น้ำจากฝักบัวรดมาที่ตัวเสื้อผ้าของหญิงสาวทำให้เห็นรูปร่างที่สวยงามของหญิงสาวอย่างชัดเจน ตรีรินทร์หน้าร้อนธมกานต์ถอดเสื้อผ้าหญิงสาวพยายามอ้าปากจะพูดแต่ถูกปิดด้วยริมฝีปากหนา ธมกานต์ดูดที่ริมฝีปากตรีรินทร์รู้สึกถึงการเรียกร้องของชายหนุ่มเมื่อร่างของชายหนุ่มแนบมาที่ร่างของตนความตื่นตัวของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวหน้าร้อน ธมกานต์เริ่มปลดเสื้อเชิ๊ตยกทรงสีชมพูหวานแหวว ธมกานต์หายใจแรงเมื่อมองเห็นดอกบัวสีขาวชมพูชูชันรอรับสัมผัสอันอ่อนหวาน เขาก้มลงไซ้ซอกคอแล้วขบกัดอย่างวาบหวามตรีรินทร์ครางก่อนจะใช้เล็บมือจิกที่กลางหลังของชายหนุ่มเมื่อธมกานต์ใช้มือไล้ครีมอาบน้ำไปทั่วอกอวบงามเขาไล้วนเบาๆ แล้วคลึงหนักหน่วงก่อนจะก้มลงดูดกลืน ตรีรินทร์หอบหายใจก่อนจะครางโหยหวนสองมือเอื้อมไปขยุ้มเรือนผมด้วยความร้อนรุ่ม “กานต์ อืมอื้อ” เสียงตรีรินทร์ครางเบาๆ ธมกานต์ดูดกลืนยอดอกอีกข้างอย่างไม่ให้น้อยหน้า บีบเคล้นจนตรีรินทร์ครางโหยหวนด้วยความเสียวซ่าน ร่างงามผวาเฮือกเมื่อเขากอบกุมเนื้
คุณหญิงมณีจันทร์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นลูกชายนอนอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่นขณะที่สวมเสื้อผ้าในชุดทำงาน “ตากานต์มานอนทำไมตรงนี้ไม่กลับบ้านตายแล้วเหม็นเหล้าตายแล้วลูกทะเลาะกับเมียสิท่าถึงได้มานอนกองอยู่ตรงนี้” ธมกานต์หรี่ตามองก่อนจะพูดเสียงอ้อแอ้ว่า “อ้าวแม่พูดอะไรกานต์ปวดหัวหมดแล้ว” คุณหญิงมณีจันทร์ลูบศีรษะลูกชายก่อนจะถามว่า “ทะเลาะอะไรกันมาถึงได้เมาแบบนี้” “ทะเลาะอะไร ไม่ได้ทะเลาะโถแม่เขาจะทำอะไรจะเอาอะไรผมก็ต้องตามใจเขาอยู่แล้วก็ผมรักเค้านี่แต่เค้าสิไม่เคยเห็นความสำคัญวันๆก็ทำแต่งานแม่เชื่อไหมอาทิตย์นี้เราเจอหน้ากันนับครั้งได้ แล้วจะทะเลาะกันได้ยังไง บอกให้ลาออก ก็ไม่เอาบอกให้มาทำงานด้วยกันก็ไม่เอาผมมันไม่สำคัญสำหรับเขาหรอกแม่”ธมกานต์พร่ำเพ้อก่อนจะเผลอหลับไป คุณหญิงมณีจันทร์ลูบไล้เส้นผมลูกชายสุดที่รักก่อนจะพูดอย่างเอ็นดูว่า “โถ ลูกรักเค้าแล้วหมดใจแล้วทำไมไม่บอกพอเค้าไม่ตามใจก็โวยวาย เมื่อไหร่จะโตสักทีทะเลาะกับเมียก็วิ่งออกจากบ้าน เฮ้อ ลูกหนอลูก” ตรีรินทร์ขึ้นมาบนตึกใหญ่ตามคำสั่งของคุณหญิงมณีจันทร์ “อ้าวเข้ามาสิจ๊ะ หนูรินทร์” “เมื่อคืนตากานต์ นอนที่นี่หนูคงรู้แล้วอย่าถือสาพี่เค้าเ
หกโมงเย็นฝกตกพรำ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเทลงมาเหมือนฟ้ากำลังพิโรธอะไรสักอย่างธมกานต์เดินอยู่เรือนหลังเล็กด้วยความกังวลเพราะด้านนอกฝนตกหนักติดต่อหญิงสาวไม่ได้ ในใจร้อนรุ่ม ตรีรินทร์ยังนั่งร้องไห้ท่ามกลางสายฝนก่อนจะตัดสินใจเดินขึ้นรถแล้วขับกลับบ้านด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว ฝนตกหนักเป็นระยะๆธมกานต์แทบจะกระโดดจากที่นั่งเมื่อได้ยินเสียงรถเลี้ยวเข้ามาในบริเวณบ้านตรีรินทร์จอดรถก่อนจะเดินลงจากรถอย่างใจลอยก่อนจะรู้สึกสะดุ้งเมื่อรู้สึกมีแมลงบินเข้าที่ดวงตาตรีรินทร์พยายามนั่งลงก่อนจะกระพริบตา ธมกานต์มองเห็นหญิงสาวนั่งยองๆลงนั่งแล้วรู้สึกโมโหแม่ตัวดีที่ทำให้ตนเองเป็นห่วง อยู่ครึ่งค่อนวัน ธมกานต์วิ่งออกไปท่ามกลางสายฝนก่อนจะเข้าไปกระชากไหล่ของหญิงสาวพร้อมกับตะโกนแข่งกับเสียงฟ้าร้อง “กลับมาถึงบ้านแล้วทำไมไม่เข้าบ้านมานั่งทำมิวสิคอยู่หรือไงบ้าจริงเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”ธมกานต์ตะเบ็งต่อว่าหญิงสาว “ใครเค้าบอกคุณว่าฉันมานั่งทำมิวสิค”ตรีรินทร์ตอบเสียงขึ้นจมูก “แล้วทำไมไม่เข้าบ้านไม่เห็นหรือไงว่าฝนมันตกแล้วตกหนักด้วย”ธมกานต์ยังตะโกนแข่งกับเสียงฟ้าร้อง “เห็นค่ะแต่แมลงเข้าตาแสบไปหมด”ตรีรินทร์ตอบเสียงเรียบ “อ้
“จริงๆนะอาทิตย์หน้าวัดเกิดผมคุณต้องบอกรักผมให้ผมได้ยินชัดๆในวันเกิดได้ไหม”ธมกานต์ขอร้อง “อืมคิดดูก่อนดูพฤติกรรมก่อน”ตรีรินทร์ต่อรอง “ดูพฤติกรรมงั้นเหรอ งั้นมานี่เลยมาให้จูบซะดีๆ” ก่อนที่ตรีรินทร์จะหลบออกจากอ้อมกอดแต่ก้าวได้เพียงสองก้าวก็ถูกชายหนุ่มดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้งก่อนจะระดมจูบทั้งริมฝีปากบางอย่างดูดดื่มก่อนจะจบลงอย่างสวยงาม ตรีรินทร์จูบที่อกกว้างก่อนที่จะใจหายอย่างไม่ทราบสาเหตุ“คุณกานต์รินทร์สังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูกแต่ถ้าสักวันถ้าเราจะไม่ได้อยู่ร่วมกันรินทร์จะเก็บช่วงเวลานี้อยู่ในความทรงจำของรินทร์ตลอดไป”ตรีรินทร์คิดเงียบๆในใจ ในขณะที่ธมกานต์หลับสนิทแต่แขนก็ยังสวมกอดภรรยาสาว สองนางแบบสาวนั่งดื่มกันที่ริมระเบียงพร้อมกับปรึกษาแผนการร้ายที่จะแย่งชายหนุ่มกลับคืนมา “วีวี้แกคิดว่าแผนการนี้จะได้ผลหรือไง”จามิกาครุ่นคิดแบบไม่ค่อยแน่ใจ “รับรองร้อยทั้งร้อยถึงไม่เลิกกันแต่ก็โกรธกันและไม่เข้าใจกันเราก็ต้องค่อยๆ หยอดเชื่อสิว่าต้องได้ผลเห็นมาหลายรายแล้ว”วีวี้กล่าวอย่างมั่นใจ “งั้นพรุ่งนี้เราก็ลุยเลยเดี๋ยวฉันจะโทรนัดกานต์เลยส่วนแกก็ไปหาชุดที่ว่ามา แค่คิดก็สนุกแล้วฉันอยากจะดูน
“เข้มบอกแล้วไงว่าอยากอยู่คนเดียวแล้วนี่พรวดพราดเข้ามามีอะไรฮะวอนโดนเตะแล้วไหมล่ะบอกแล้วไงว่าฉันไม่อยากเจอใคร” ธมกานต์กล่าวอย่างหงุดหงิดคนขับรถหนุ่มเริ่มติดอ่างเมื่อเห็นอารมณ์ของนายจ้างหนุ่ม” เออคุณนมบอกให้ผมมาเรียนเชิญคุณกานต์ที่ตึกใหญ่บอกว่าคุณรินทร์มีธุระสำคัญจะคุยด้วยด่วนครับ”ธมกานต์ผงกศีรษะก่อนจะออกเดิน” แล้วก็ไม่บอก อมพะนำอยู่ได้”ธมกานต์รู้สึกดีใจในวูบแรกแต่ก็ทำหน้าเคร่งเมื่อเดินเข้าสู่บริเวณตึกก่อนจะได้กลิ่นเหมือนขนมอบธมกานต์สูดกลิ่นเข้าเต็มปอดก่อนท้องเจ้ากรรมก็ส่งเสียงประท้วงเพราะตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ชายหนุ่มไม่ได้รับประทานจริงๆจังๆเลยสักมื้อนมอิ่มเดินมาหาก่อนจะยื่นจานคุกกี้ให้ชายหนุ่ม “ ชิมสิคะคุณกานต์อร่อยคะ”ธมกานต์หยิบขึ้นชิมก่อนจะหยิบทานอีกหลายชิ้นก่อนพูดชื่นชมว่า“อร่อยรสช็อคโกแล็ตชิบของโปรดแต่มีเหมือนกลิ่นใบเตยผสมหอมดี”“ฝีมือคุณรินทร์ค่ะ”ธมกานต์สำลักก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม “ ใครทำนะ”“คุณหนูรินทร์ค่ะ อร่อยใช่ไหมคะ”“ก็งั้นแหละพอทานได้” ธมกานต์พูดสิ่งตรงข้ามกับใจเมื่อเหลือบเห็นภรรยาสาวในชุดเอี๊ยมในครัวเดินออกมาธมกานต์จ้องมองร่างภรรยาสาวที่ทำให้ตนกระวนกระวายตลอดห
“ รินทร์ ตรีรินทร์ เปิดประตูหน่อยสิ เมียจ๋าผัวกลับมาแล้ว” เสียงเคาะประตูดังขึ้น “ เดี๋ยวค่ะ กำลังจะเปิดแล้ว” เสียงตรีรินทร์ตะโกนตอบหญิงสาวเปิดประตูแต่ก็ต้องตกใจเพราะร่างของชายหนุ่มเซมาปะทะจนแทบจะตั้งรับไม่ทัน“คุณกานต์นี่คุณเมาเหรอค่ะ เหม็นเหล้าจัง” ตรีรินทร์เบนใบหน้าหนี เพราะทนกลิ่นเหล้าแทบไม่ไหว“รังเกียจหรือไง เนี่ยผัวนะไม่ใช่คนอื่น” ธมกานต์โวยวายเสียงอ้อแอ้“คุณเมาแล้ว เดี๋ยวรินทร์พาไปนอน” ตรีรินทร์พูดอย่างอ่อนใจ“ใครว่าผมเมา ผมไม่เมาสักหน่อย” ธมกานต์เถียงแต่ยังเดินเซ หญิงสาวประคองมาที่เตียงพยายามจะผลักให้ชายหนุ่มนอนที่เตียงแต่กลับล้มไปด้วยกันที่เตียง“ว้าย” ตรีรินทร์ร้องตกใจหญิงสาวพยายามตะเกียกตะกายเพื่อจะลุกขึ้นจากร่างของชายหนุ่มแต่กลับถูกชายหนุ่มผลักให้นอนแนบอกก่อนที่ชายหนุ่มจะพลิกตัว ขึ้นมาใบหน้าห่างกันแค่คืบจนได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน“รังเกียจผมมากหรือไงลืมไปแล้วเหรอว่าเราเป็นอะไรกัน” ธมกานต์กล่าวเสียงเข้ม ภายในรู้สึกเจ็บร้าวกับกิริยาท่าทางที่ดูเหมือนจะรังเกียจของหญิงสาว“เปล่าค่ะ รินทร์อยากให้คุณพัก คุณเมาแล้ว นอนพักเถอะค่ะรินทร์จะไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้” ตร
“ค่ะ ไม่ต้องห่วง นมจะดูแลให้อย่างดีค่ะ”ธมกานต์หันขึ้นไปมอง ก่อนมองที่นาฬิกา แล้วรีบก้าวเดินออกไปอย่างรีบร้อน“เข้ม ไปส่งฉันที่สนามบิน”ธมกานต์นั่งนึกถึงใบหน้าของภรรยาสาวแล้วหงุดหงิดที่ไม่สามารถเคลียร์ปัญหากับภรรยาสาวก่อนออกเดินทางได้ธมกานต์กดโทรศัพท์หาหญิงสาว เสียงสัญญาณว่างแต่ไม่มีคนรับสายทำให้ชายหนุ่มยิ่งหงุดหงิดก่อนจะกระหน่ำโทรอย่างโมโหตรีรินทร์มองโทรศัพท์ดังไม่ขาดสายพร้อมกับกัดริมฝีปากด้วยความเจ็บปวดยิ่งถอดเสื้อคลุมแล้วเห็นร่องรอยต่างๆบนเนื้อตัว ทำให้ตรีรินทร์ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจหญิงสาวขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดทั้งวันจนกระทั่งแม่นมคนสนิทของชายหนุ่มมาเรียกให้ไปรับประทานอาหารจริงๆแล้วตรีรินทร์ไม่หิวเพราะยังนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน แต่ไม่อยากให้หญิงชราไม่สบายใจหญิงสาวจึงฝืนใจออกจากห้องไปรับประทานอาหารอย่างเสียมิได้นมอิ่มตัดสินใจพูดเมื่อมองเห็นหญิงสาว เหม่อลอยพร้อมกับตักข้าวต้มกินช้าๆ“ทะเลาะกับคุณกานต์เหรอคะคุณรินทร์”นมอิ่มตัดสินใจถามเมื่อเห็นหญิงสาวตาบวมซึ่งคงผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักแล้วมีท่าทางเหม่อลอยตรีรินทร์เงียบ ก่อนวางช้อนข้าวต้มลง “นิดหน่อยค่ะนมก็รู้ว่าคู่ของ
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้