“ อืม แต่แกยังไม่เคยถามคุณกานต์ถึงเรื่องนี้ใช่ไหม”
ตรีรินทร์สั่นศีรษะไปมาเป็นการปฏิเสธ “ เฮ้อแต่เรื่องมันมาไกลป่านนี้แล้วแกอย่าไปคิดมากเลยเดินหน้าเพื่อนแล้วค่อยไปเคลียร์กับยัยอ้อมทีหลัง ได้ข่าวว่าเค้าแต่งงานกับคนสิงค์โปร์ใช่ไหม” อรวิสาพูดให้กำลังใจ ตรีรินทร์ถอนหายใจเฮือก “ ฉันไม่สบายใจอยู่ดียิ่งใกล้วันแต่งงานมากขึ้นเท่าไหร่ฉันยิ่งใจคอไม่ค่อยจะดี อรแกมีอีเมล์ของอ้อมไหมฉันจะสบายใจมากถ้าได้เคลียร์กับอ้อมแล้วอย่างน้อยฉันก็อยากคุยกับเค้าไง” อรวิสาพยาบาลสาวมองเพื่อนอย่างเข้าใจ “ อืมเดี๋ยวไปค้นให้นะ ฉันจำได้ว่าเคยจดจากเพื่อนยัยอ้อมที่เจอเค้าที่สิงค์โปร์ได้เมื่อไหร่จะแมสเสจไปบอกแล้วกัน เอางี้กินดีกว่าแกอย่ามากลุ้มใจเลยในเมื่อพรหมลิขิตให้เดินก็เดินต่อไปแล้วกันเดี๋ยวฉันไปซื้อเย็นตาโฟ มาเลี้ยงแกกินซะจะได้หายกลุ้มจะได้สามี หล่อๆ รวยๆ โชคดีจะตายแก” อรวิสาหัวเราะร่วน “ โชคร้ายล่ะไม่ว่า ขี้วีนก็แค่นั้นเอาแต่ใจตัวเองโมโหร้ายทุกอย่างรวมเป็นออลอินวันเคยเห็นไหมอร ฉันยังกลุ้มถ้าต้องมาอยู่ด้วยกันยี่สิบสี่ชั่วโมงฉันคงอึดอัดใจตาย” อรวิสาหัวเราะ กริ๊ง กริ๊ง เสียงโทรศัพท์มือถือ ของหญิงสาวดังขึ้นเมื่อเห็นชื่อปรากฏหน้าจอ ตรีรินทร์ถึงกับถอนหายใจ “ เห็นไหมตายยากโทรมาแล้ว” ตรีรินทร์กดรับสาย “ รินทร์ค่ะ” “ คุณอยู่ที่ไหนผมจะไปรับไปลองชุดที่ร้านคุณน้ำคุณแม่โทรมาสั่งตั้งแต่บ่ายแต่ผมเข้าประชุม” “ รินทร์ อยู่ที่ห้างกับอรค่ะ ขอผลัดเป็นวันพรุ่งนี้นะคะ” ธมกานต์ถอนหายใจก่อนจะพูดเสียงเย็นว่า “ อีกสิบกว่าวันแค่นั้นนะรินทร์ผมยังไม่เห็นคุณจะกระตือรือร้นทำอะไรสักอย่าง มีแต่ผมมั๊งที่เต้นไปคนเดียวในขณะที่คุณไม่สนใจสักนิด” “ ก็คุณบอกฉันเองว่ามีเวดดิ้งแพลนเนอร์ทำให้ทุกอย่างฉันก็เชื่อคุณ” “ คุณไม่ต้องย้อนผมด้วยการเอาทุกอย่างที่ผมพูดยัดปากผมทุกคำพูดหรอกนะรินทร์เชิญคุณตามสบายเอาเป็นว่าอยากทำเมื่อไหร่ก็ติดต่อมาแล้วกันหรือจะไปลองเอาวันแต่งก็แล้วแต่คุณ” ธมกานต์วางโทรศัพท์ ทำเอาตรีรินทร์อึ้ง “ ใครโทรมายัยรินทร์” “ คุณกานต์โทรมาให้ไปลองชุด” “ อีกสิบวัน แกยังไม่ลองชุดอีกใจเย็นมาก” อรวิสา ลากเสียงยาว “ กินกันเถอะเดี๋ยวเย็นตาโฟเย็นหมด” อรวิสานั่งรับประทานเย็นตาโฟสายตาเหลือบไปเห็นผู้ชายในชุดเครื่องแบบเดินมากับหญิงสาววัยรุ่นในชุดนักเรียนก็ตาโต “ เห้ยนั่นพี่โตมากับใครกิ๊กใหม่เหรอ” อรวิสาทำหน้าอยากเห็น “ อ๋อ นั่นยัยตาลน้องพี่โตไง” “ ต๊าย ตายโตเป็นสาวแล้วเมื่อก่อนยังเห็นมัดผมแกะอยู่เลยแล้วพวกเราไม่แก่ยังไงไหวจริงไหมยัยรินทร์” อรวิสาโบกมือพร้อมกับตะโกน “ พี่โต พี่โตทางนี้” นายตำรวจหนุ่มได้ยินเสียงก็หันมองหาต้นเสียงแล้วก็ยิ้มเมื่อเห็นพยาบาลสาวก่อนจะยิ้มเจื่อนเมื่อมองเห็นตรีรินทร์แต่นายตำรวจหนุ่มก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับน้องสาว “ รินทร์ อร ไปไงมาไงเนี่ยโลกกลมจริงๆไม่นึกว่าจะเจอกัน” “ แหมพี่โตห้างใกล้บ้านรินทร์ก็มีอยู่สองสามห้างมันก็ต้องมีเจอกันบ้างแหละ ว่าแต่พี่โตมาทำอะไรที่ห้าง” “พี่มาส่งตาลซื้อของทำการฝีมือว่าแต่รินทร์ และ อรล่ะมาทำอะไร” “ รินทร์ กับอร ก็มาทานข้าวสิคะผู้หมวดว่าแต่ พี่โตจะติดยศเมื่อไหร่” “ ปลายเดือนนี้” “ รินทร์ เราขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะเดี๋ยวมาคุยด้วยต่อ”อรวิสาพยาบาลสาวเดินหลีกออกไป “ ตาลไปด้วยพี่อร ตาลก็ปวดเหมือนกัน” นายตำรวจหนุ่มนั่งตรงข้ามกับหญิงสาว ตรีรินทร์มองเห็นแววตาของนายตำรวจหนุ่มใบหน้าที่ซูบขอบตาดำก็เจ็บแปล๊บในใจก่อนจะพูดเสียงสั่นว่า “ พี่โตเป็นยังไงบ้าง” “ สบายดีพี่สบายมากชายชาติตำรวจต้องเข้มแข็งรินทร์ไม่ต้องห่วงพี่ รินทร์สบายใจได้เชื่อสิขอเวลาพี่อีกหน่อยมันต้องผ่านไปได้” “ โถ พี่โต” ตรีรินทร์น้ำตาคลอด้วยความสงสารนายตำรวจหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า วีวี้นางแบบสาวที่มารับอีเว้นท์ในห้างเดียวกันกำลังเดินหาเพื่อนนางแบบอีกสองคนที่มาโซ้ยส้มตำพลันสายตาเหลือบไปเห็นหญิงสาวหน้าตาคุ้นๆ นั่งอยู่กับผู้ชายที่สวมเครื่องแบบแทบจะกรี๊ด “ ต๊ายมันส์แน่ส่งรูปให้ จีจี้ดีกว่าได้ข่าวเด็ดเผื่อจะได้กระเป๋าอีกสักใบ” จามิกาซึ่งกำลังแต่งตัวในห้องเตรียมตัว ถึงกลับกรี๊ดเสียงดังเมื่อได้รับรูปสามสี่รูป ในมุมต่างๆจามิการีบโทรกลับไปหาวีวี้ด้วยความดีใจที่สามารถได้ข่าวเด็ด “ วี้แกส่งรูปนี้เข้ามือถือกานต์ด่วน แต่อย่าใช้มือถือแกนะเดี๋ยวพี่กานต์สงสัยรีบส่งตอนนี้เลยนะฉันให้แกหมื่นหนึ่งค่าเสียเวลา” วีวี้แทบกรี๊ดในความโชคดีของตน ก่อนจะยืมโทรศัพท์เพื่อนนางแบบกดส่งรูปจากเครื่องตนไปอีกเครื่องแล้วกดส่งเข้าเครื่องนักธุรกิจหนุ่มอดีตคู่ควงของเพื่อนสาวอย่างรวดเร็ว โรงแรมEifel star ธมกานต์ขมวดคิ้วเมื่อได้รับข้อความก่อนจะกดเปิดภาพที่เห็นคือภาพของตรีรินทร์คู่หมั้นของตนกำลังจับมือนายตำรวจหนุ่มแฟนเก่าในอิริยาบถต่างๆ อยู่สามสี่รูป ธมกานต์กัดฟันพร้อมกับตาลุกโพลงมือกำไว้แน่นด้วยความโกรธพร้อมกับขว้างโทรศัพท์ลงบนโซฟาอย่างระบายแค้น “ ไม่ไปลองชุดแต่งงานเพราะไปเที่ยวกับแฟนเก่านี่เอง” ธมกานต์กัดฟันพูด สิบนาทีผ่านไปธมกานต์เดินไปเดินมาพร้อมกับกดส่งข้อความหาหญิงสาว ผู้เป็นคู่หมั้น “ แม่ผมมีธุระด่วนอยากคุยด้วยมาหาที่บ้านด่วนธมกานต์” เมื่อตรีรินทร์ได้รับข้อความก็ขมวดคิ้วก่อนจะลุกขึ้นยืน “ เฮ๊ยอร กลับก่อนนะคุณป้ามณีมีธุระด่วนจะคุยด้วยไปก่อนนะ” บ้านพิพัฒนพงค์ ตรีรินทร์ก้าวลงแท็กซี่ก่อนจะเดินเข้ามาบริเวณบ้านก่อนจะยิ้มทักทายคนขับรถของชายหนุ่ม “ สวัสดีค่ะพี่เข้มคุณป้ามณีล่ะคะท่านนัดให้รินทร์มาพบ” เข้มยิ้มเจื่อนก่อนจะตอบอ้อมแอ้มว่า “ ท่านรอที่สระว่ายน้ำครับ” ตรีรินทร์ขมวดคิ้วสงสัย แต่ก็เดินไปตามทางก่อนจะถอนใจเฮือกเมื่อผู้ที่ยืนรอไม่ใช่คุณหญิงมณีจันทร์แต่เป็นคู่หมั้นหนุ่มที่ยืนหันหลังด้วยชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้า กางเกงสแลคสีดำ ตรีรินทร์กระแอม ก่อนจะพูดว่า “ ฉันมาหาคุณหญิงป้าท่านอยู่ที่ไหนท่านให้ฉันมาพบค่ะ “ ธมกานต์หันหน้ามามองหญิงสาวที่เป็นคู่หมั้นด้วยแววตาแข็งกระด้าง “ ผมเป็นคนแมสเสจเอง ถ้าไม่ใช้แม่มาอ้างคุณจะรีบมาแบบนี้ไหม ถ้าผมบอกว่าผมอยากคุยด้วยคุณก็ต้องโยกโย้ผลัดเป็นวันนู้นวันนี้อีก ผมก็ต้องใช้วิธีนี้แหละ” ธมกานต์กล่าวหน้าตายังเรียบเฉย “ บ้าคนเจ้าเล่ห์” ตรีรินทร์หันหลังกลับ “ เดี๋ยวผมยังไม่เสร็จธุระผมมีเรื่องต้องถามคุณเมื่อกี้คุณไปทานข้าวกับใครนะ ไปตั้งแต่กี่โมง” น้ำเสียงเข้มทำเอาตรีรินทร์คอแข็งก่อนจะตอบว่า “ นี่คุณธมกานต์คุณมาเป็นผู้ปกครองฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไปไหนมาไหนฉันต้องรายงานคุณหรือไงฉันไม่ชอบที่คุณมาเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตฉัน ฉันจะไปไหนกับใครมันเรื่องของฉันแล้วเมื่อเย็นฉันบอกว่าฉันไปกับใครล่ะจำไม่ได้หรือไงหรือความจำสั้น” ตรีรินทร์ร่ายยาวตามอารมณ์ที่มันอัดแน่น “ คุณบอกว่าไปกับคุณอรแต่ดูนี่นี่มันรูปแฟนเก่าคุณทำไมต้องมาโกหกกันด้วยผมเกลียดที่สุดคนโกหก” “ ฉันไปกับอรวิสาจริงๆแต่บังเอิญไปเจอพี่เค้าที่นั่น คุยกันแค่ห้านาทีพี่เค้าก็กลับพอใจหรือยัง ฉันกลับล่ะขี้เกียจพูดกับคนพาล” “ ยังกลับไม่ได้ผมยังไม่ให้ไปต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน” ตรีรินทร์เดินหันหลังกลับแต่ต้องตกใจเมื่อโดนกระชากแขนด้วยเพราะหญิงสาวใส่รองเท้าส้นสูงและพื้นที่ยืนเป็นพื้นลาดที่ฉาบด้วยคอนกรีตหินที่ลาดจากสูงลงต่ำทำให้ ตรีรินทร์เสียหลักกลิ้งตก ธมกานต์ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจกับอุบัติเหตุที่เกิดกับหญิงสาว ตรีรินทร์กลิ้งๆจนไปสลบแน่นิ่ง ธมกานต์ก้าวเท้าเร็วเพื่อไปประคองร่างหญิงสาวศีรษะไปโขกที่ขอบบันไดหิน “ รินทร์ รินทร์คุณเป็นยังไงบ้างโถรินทร์” ธมกานต์ร้องเรียกด้วยความตกใจ “ โอ๊ยเจ็บข้อมือ “ ธมกานต์ตะโกนเรียกคนขับรถคนสนิท “เข้มเข้มเอารถออกเอาคุณรินทร์ไปหาหมอ” เข้มได้ยินเสียงเจ้านายเรียกรีบไปถอยรถบ้านมนัสสุกานต์ เสียงรถมาจอดหน้าบ้านสักครู่ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้าบริเวณบ้านแม่แก้วที่มือกำลังร้อยมาลัยเงยหน้ามองแต่ต้องตกใจเมื่อเห็นลูกสาวถูกประคองมากับแฟนหนุ่ม แม่แก้ววางเข็มพวงมาลัยก่อนจะทำหน้าตาตกใจเมื่อเห็นสภาพของลูกสาว “ รินทร์ไปทำอะไรมาลูกทำไมแขนเป็นแบบนั้น” ธมกานต์ชิงพูดก่อนว่า “ รินทร์หกล้มที่บ้านผมครับผมขอโทษครับคุณแม่ที่ดูแลรินทร์ไม่ดี” แม่แก้วขมวดคิ้วก่อนจะเดินเข้ามาดู “ โห ตายล่ะแล้วนี่ก็ใกล้วันแต่ง นี่รินทร์ต้องเป็นเจ้าสาวแขนด้วนหรือนี่” “ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับแม่อีกห้าหกวันก็หายครับ” ธมกานต์รีบตอบแทนในขณะที่ตรีรินทร์อ้าปากแต่ก็พูดไม่ทันชายหนุ่มทำให้ตรีรินทร์แอบค้อนด้วยความหมั่นไส้ “ ตายล่ะพรุ่งนี้แม่มีนัดทำบุญเก้าวัดกับเพื่อนในหมู่บ้านแล้วจะทำไงเนี่ย” “ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงครับเดี๋ยวผมจะส่งเด็กที่บ้านมาดูแลแล้วกลางวัน ผมจะมาอยู่เป็นเพื่อนรินทร์ครับ” “ ไม่ต้องฉันไม่ต้องการทำไมคุณไม่บอกแม่ไปล่ะว่าที่ฉันเป็นแบบนี้เพราะคุณทำไมไม่พูด” ตรีรินทร์ตวาด “ จุ๊ๆ ยัยรินทร์ทำไมพูดกับพี่เค้าแบบนั้นไม่น่ารักเลย งั้นตามสบายนะจ๊ะหนุ่มสาวแม่ไปเตรียมตัวก่อน” แม่แก้วเ
สองวันผ่านไป ธมกานต์ได้เดินทางไปทำงานด่วนที่สิงค์โปร์ได้สองวันแล้วตลอดเวลาที่ชายหนุ่มไปสิงค์โปร์ได้ส่งคนขับรถที่บ้านมาคอยรับส่งคู่หมั้นสาวแรกๆตรีรินทร์ขัดขืนแต่ก็ต้องยอมในที่สุด ทุกๆสามชั่วโมงชายหนุ่มต้องโทรศัพท์มาคุยจนตรีรินทร์รู้สึกหงุดหงิดเหมือนต้องกลับไปเป็นนักเรียนประถมที่ต้องมีผู้ปกครองติดตามทุกย่างก้าวบางครั้งตรีรินทร์จึงแกล้ง ปิดเครื่องบ้าง เมื่อตนต้องใช้สมาธิในการทำงาน ตรีรินทร์รู้สึกตื่นเต้นที่ต้องไปงานเลี้ยงแสดงความยินดี สำหรับนายร้อยที่ได้ทำการติดยศใหม่หญิงสาวหมุนตัวไปมาที่หน้ากระจกเมื่อแต่งตัวเสร็จชุดนี้เป็นชุดสีครีมงาช้างที่ เปลือยไหล่ข้างซ้ายทำให้เห็นบ่าหญิงสาวที่สวยงามลำคองามระหง ตรีรินทร์รวบผมมวยเกล้าอย่างปราณีตแต่งหน้าเล็กน้อยและทาริมฝีปากสีชมพู ตรีรินทร์นัดให้โตมรมารับที่บ้านทุ่มครึ่ง แหวนช่วยตรีรินทร์แต่งตัวพร้อมกับกล่าวอย่างชื่นชมว่า “ คุณรินทร์สวยจังค่ะ” “ขอบคุณค่ะพี่แหวน” “ พี่แหวนเหงาไหมที่ต้องมาอยู่กับรินทร์ที่บ้านนี้บ้านรินทร์เล็กไม่เหมือนบ้านคุณกานต์” “ โถคุณรินทร์ไม่ต้องห่วงพี่แหวนนะคะก็อีกไม่กี่วันพี่แหวนก็จะได้กลับบ้านแล้วหลังคุณรินทร์แต่งงาน
“ เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันผมยังพูดกับคุณไม่จบ” ธมกานต์ผลักตรีรินทร์เข้าไปในห้องหญิงสาวเดินถอยหนีจนร่างไปกระทบกับโซฟาแววตาของตรีรินทร์บอกความรู้สึกหวาดกลัว ‘ อีตาบ้านี่จะทำอะไรเรานะ’ ตรีรินทร์คิดในใจ “ คุณทรยศความเชื่อใจของผมคุณทำลายความรู้สึกดีๆ ที่ผมมีต่อคุณต่อไปนี้ผมจะควบคุมคุณทุกฝีก้าวไม่เชื่อก็คอยดู” “ ไม่นะคุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น” “ ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ผมเป็นผัวคุณหรือคุณจะปฏิเสธว่าไม่ใช่” ธมกานต์ตะคอกพร้อมกับบีบไหล่ด้วยความโกรธที่ปะทุในใจอย่างรุนแรง “ หยาบคายฉันเกลียดคุณ” “ ผมก็เกลียดตัวเองทำไมต้องไปแคร์คนอย่างคุณเป็นไปได้หางตาผมก็ไม่อยากแล” “ งั้นก็ยกเลิกงานแต่งงานซะฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับคุณรู้ไว้ซะด้วย คนที่เอาแต่ใจไร้ซึ่งเหตุผลไม่รู้จักเห็นใจคนอื่นไม่เคยอยู่ในสายตาฉัน” “ ไม่มีทางผมเดินหน้ามาเกินร้อยแล้วผมย้อนกลับไปไม่ได้ เมื่อพูดกันดีๆไม่รู้เรื่องผมก็ต้องทำโทษคุณ” ธมกานต์กระชากเสื้อเสียงดังแคว๊กตรีรินทร์ร้องกรี๊ดพร้อมกับระดมทุบไปที่ไหล่ธมกานต์ก้มลงระดมจูบอย่างรักใคร่ปนเคียดแค้นเมื่อเหมือนถูกหักหลัง ตรีรินทร์พยายามช่วยเหลือตัวเองด้วยการจิกเล็บที่เรียวยาวไปที่ไหล
“ ไอ้บ้ากานต์อย่าฟุ้งซ่านสิเค้ายังเจ็บอยู่อย่าคิดบ้าไม่เลือกสถานการณ์แบบนี้เดี๋ยวเธอจะคิดว่าแกเป็นไอ้บ้ากาม” ธมกานต์บ่นด่าตนเองในใจ ตรีรินทร์อาบน้ำก่อนจะใส่เสื้อผ้าชุดนอนอย่างรัดกุมก่อนจะออกห้องน้ำมาแบบเขยกๆ ธมกานต์ผลอยนอนหลับไปอย่างไม่รู้ตัวตรีรินทร์นอนลงที่ด้านตรงข้ามชายหนุ่มพร้อมกับเอาหมอนข้างมาวางตรงกลางก่อนจะมองชายหนุ่มอย่างไม่ค่อยไว้ใจแต่เสียงหายใจสม่ำเสมอทำให้รู้ว่าชายหนุ่มหลับสนิทไปแล้ว ตรีรินทร์ถอนหายใจแบบโล่งอกก่อนจะล้มตัวลงนอนพร้อมกับดึงผ้าห่มมาห่ม กลางดึกตรีรินทร์รู้สึกมีมือมากอดตนเองพร้อมกับจูบที่ซอกคอ “ ไม่ต้องกลัวผมแค่อยากนอนกอดคุณวันนี้หมดแรงจริงๆอีกอย่างผมไม่อยากรังแกคนป่วยคนขาเดี้ยง เดี๋ยวคุณจะมาตะโกนด่าว่าผมว่าใจร้าย วันนี้ผมยกให้คุณหนึ่งวัน พรุ่งนี้คุณต้องให้รางวัลผมทั้งต้นและดอก” ธมกานต์กระซิบที่ข้างหู ขณะที่ตรีรินทร์ยิ้มขำก่อนจะผลอยหลับไปในอ้อมกอดของชายหนุ่ม ตรีรินทร์ตื่นขึ้นมาตอนเช้าชายหนุ่มยังหลับสนิทตรีรินทร์พยายามแกะมือชายหนุ่มออกก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอนอย่างระมัดระวังไม่ให้รบกวนชายหนุ่ม ตรีรินทร์อาบน้ำเสร็จแต่งตัวและลงไปข้างล่างข้อเท้าของเธอยั
ตรีรินทร์หน้าชาด้วยความเขินอายในขณะที่ธมกานต์ก็จ้องมองภรรยาสาวด้วยสายตามีความหมายแต่ก็ยังเก็กหน้าเวลาสบตากัน ตรีรินทร์รู้สึกถึงความอึดอัดเหมือนระเบิดเวลาที่รอเวลาระเบิดตั้งแต่ทานอาหารเย็นเสร็จธมกานต์ก็แยกเข้าไปทำงานเหมือนเขาพยายามแยกตัวออกไป คุณหญิงมณีจันทร์พยายามคลี่คลาย สถานการณ์ที่ตึงเครียด “ ง้อเค้าหน่อยก็หายงอนแล้วนิสัยเสียตั้งแต่เด็กชอบเอาแต่ใจตัวเอง แต่พอเราง้อหน่อยแม่รับรองว่าเขาจะกลับมาน่ารักเหมือนเดิม ถ้าหนูรินทร์จะรอให้พ่อคนนี้มาง้อ สงสัยต้องรอนานพ่อคนนี้ใจแข็งเหมือนพ่อเขาไงแม่ไม่อยากให้หนูรินทร์ใจแข็งแล้วทิฐิเดี๋ยวจะเหมือนแม่นึกเสียใจเมื่อเหตุการณ์มันผ่านไป แล้วแล้วเลิกเรียกแม่ว่า “ ป้า”สักทีเรียกแม่เหมือนพ่อกานต์ตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว” คุณหญิงมณีจันทร์กล่าวแนะนำ ตรีรินทร์เอ่ยตอบเบาๆ ว่า “ ค่ะ คุณแม่ แต่รินทร์ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนนะคะ” คุณหญิงมณีจันทร์คิดในใจ “ หรือจะเจออีกคู่คู่รักใจแข็งขอภาวนาอย่าให้เป็นเหมือนตนกับท่านนายพลเลย” ตรีรินทร์เดินกลับไปเรือนหลังเล็กแต่เพียงลำพังระหว่างที่ขึ้นเตียงนอน ตรีรินทร์พยายามคิดว่าถ้าชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องเธอคว
“ รินทร์อาบเองก็ได้คุณกานต์ออกไปก่อน” ตรีรินทร์พยายามผลักชายหนุ่มออกไป ธมกานต์ขืนตัวพร้อมกับจับหญิงสาวไปที่อาบน้ำแล้วเปิดฝักบัว สาย น้ำจากฝักบัวรดมาที่ตัวเสื้อผ้าของหญิงสาวทำให้เห็นรูปร่างที่สวยงามของหญิงสาวอย่างชัดเจน ตรีรินทร์หน้าร้อนธมกานต์ถอดเสื้อผ้าหญิงสาวพยายามอ้าปากจะพูดแต่ถูกปิดด้วยริมฝีปากหนา ธมกานต์ดูดที่ริมฝีปากตรีรินทร์รู้สึกถึงการเรียกร้องของชายหนุ่มเมื่อร่างของชายหนุ่มแนบมาที่ร่างของตนความตื่นตัวของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวหน้าร้อน ธมกานต์เริ่มปลดเสื้อเชิ๊ตยกทรงสีชมพูหวานแหวว ธมกานต์หายใจแรงเมื่อมองเห็นดอกบัวสีขาวชมพูชูชันรอรับสัมผัสอันอ่อนหวาน เขาก้มลงไซ้ซอกคอแล้วขบกัดอย่างวาบหวามตรีรินทร์ครางก่อนจะใช้เล็บมือจิกที่กลางหลังของชายหนุ่มเมื่อธมกานต์ใช้มือไล้ครีมอาบน้ำไปทั่วอกอวบงามเขาไล้วนเบาๆ แล้วคลึงหนักหน่วงก่อนจะก้มลงดูดกลืน ตรีรินทร์หอบหายใจก่อนจะครางโหยหวนสองมือเอื้อมไปขยุ้มเรือนผมด้วยความร้อนรุ่ม “กานต์ อืมอื้อ” เสียงตรีรินทร์ครางเบาๆ ธมกานต์ดูดกลืนยอดอกอีกข้างอย่างไม่ให้น้อยหน้า บีบเคล้นจนตรีรินทร์ครางโหยหวนด้วยความเสียวซ่าน ร่างงามผวาเฮือกเมื่อเขากอบกุมเนื้
คุณหญิงมณีจันทร์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นลูกชายนอนอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่นขณะที่สวมเสื้อผ้าในชุดทำงาน “ตากานต์มานอนทำไมตรงนี้ไม่กลับบ้านตายแล้วเหม็นเหล้าตายแล้วลูกทะเลาะกับเมียสิท่าถึงได้มานอนกองอยู่ตรงนี้” ธมกานต์หรี่ตามองก่อนจะพูดเสียงอ้อแอ้ว่า “อ้าวแม่พูดอะไรกานต์ปวดหัวหมดแล้ว” คุณหญิงมณีจันทร์ลูบศีรษะลูกชายก่อนจะถามว่า “ทะเลาะอะไรกันมาถึงได้เมาแบบนี้” “ทะเลาะอะไร ไม่ได้ทะเลาะโถแม่เขาจะทำอะไรจะเอาอะไรผมก็ต้องตามใจเขาอยู่แล้วก็ผมรักเค้านี่แต่เค้าสิไม่เคยเห็นความสำคัญวันๆก็ทำแต่งานแม่เชื่อไหมอาทิตย์นี้เราเจอหน้ากันนับครั้งได้ แล้วจะทะเลาะกันได้ยังไง บอกให้ลาออก ก็ไม่เอาบอกให้มาทำงานด้วยกันก็ไม่เอาผมมันไม่สำคัญสำหรับเขาหรอกแม่”ธมกานต์พร่ำเพ้อก่อนจะเผลอหลับไป คุณหญิงมณีจันทร์ลูบไล้เส้นผมลูกชายสุดที่รักก่อนจะพูดอย่างเอ็นดูว่า “โถ ลูกรักเค้าแล้วหมดใจแล้วทำไมไม่บอกพอเค้าไม่ตามใจก็โวยวาย เมื่อไหร่จะโตสักทีทะเลาะกับเมียก็วิ่งออกจากบ้าน เฮ้อ ลูกหนอลูก” ตรีรินทร์ขึ้นมาบนตึกใหญ่ตามคำสั่งของคุณหญิงมณีจันทร์ “อ้าวเข้ามาสิจ๊ะ หนูรินทร์” “เมื่อคืนตากานต์ นอนที่นี่หนูคงรู้แล้วอย่าถือสาพี่เค้าเ
หกโมงเย็นฝกตกพรำ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเทลงมาเหมือนฟ้ากำลังพิโรธอะไรสักอย่างธมกานต์เดินอยู่เรือนหลังเล็กด้วยความกังวลเพราะด้านนอกฝนตกหนักติดต่อหญิงสาวไม่ได้ ในใจร้อนรุ่ม ตรีรินทร์ยังนั่งร้องไห้ท่ามกลางสายฝนก่อนจะตัดสินใจเดินขึ้นรถแล้วขับกลับบ้านด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว ฝนตกหนักเป็นระยะๆธมกานต์แทบจะกระโดดจากที่นั่งเมื่อได้ยินเสียงรถเลี้ยวเข้ามาในบริเวณบ้านตรีรินทร์จอดรถก่อนจะเดินลงจากรถอย่างใจลอยก่อนจะรู้สึกสะดุ้งเมื่อรู้สึกมีแมลงบินเข้าที่ดวงตาตรีรินทร์พยายามนั่งลงก่อนจะกระพริบตา ธมกานต์มองเห็นหญิงสาวนั่งยองๆลงนั่งแล้วรู้สึกโมโหแม่ตัวดีที่ทำให้ตนเองเป็นห่วง อยู่ครึ่งค่อนวัน ธมกานต์วิ่งออกไปท่ามกลางสายฝนก่อนจะเข้าไปกระชากไหล่ของหญิงสาวพร้อมกับตะโกนแข่งกับเสียงฟ้าร้อง “กลับมาถึงบ้านแล้วทำไมไม่เข้าบ้านมานั่งทำมิวสิคอยู่หรือไงบ้าจริงเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”ธมกานต์ตะเบ็งต่อว่าหญิงสาว “ใครเค้าบอกคุณว่าฉันมานั่งทำมิวสิค”ตรีรินทร์ตอบเสียงขึ้นจมูก “แล้วทำไมไม่เข้าบ้านไม่เห็นหรือไงว่าฝนมันตกแล้วตกหนักด้วย”ธมกานต์ยังตะโกนแข่งกับเสียงฟ้าร้อง “เห็นค่ะแต่แมลงเข้าตาแสบไปหมด”ตรีรินทร์ตอบเสียงเรียบ “อ้
บ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี
สองทุ่มเศษๆอาหารถูกลำเลียงมาพร้อมสมาชิกทุกคนนั่งพร้อมกันที่โต๊ะ อลงกรณ์เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ ขอโทษทีเพื่อน รถติดเป็นบ้าเลย”อลงกรณ์กล่าวขอโทษพร้อมกับตะลึงเมื่อเผชิญหน้ากับเลขาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดสองวันที่ผ่านมา“นั่งสิคะคุณกรณ์ นั่งข้างๆ พี่อาร์มนั่นแหละค่ะ”“ นั่งสิไอ้กรณ์ยืนบื้ออยู่ได้” เสียงอัครเดชตะโกนมาทางหัวโต๊ะอลงกรณ์นึกไม่ถึงคนที่ตนตามหาหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลับมานั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆระหว่างเลขาหนุ่มกับนายแพทย์เอกชัย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเลขาหนุ่มไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและเก้อเขินตรีรินทร์แอบสังเกตทั้งชายหนุ่มและเลขาหน้าหวานที่ต่างคนต่างเก้อเขินซึ่งกันและกันหญิงสาวอมยิ้มก่อนจะทักทายเพื่อนสามี“ คุณกรณ์หิวไหมคะ มาได้เวลาพอดี งั้นเราเริ่มลงมือกันเถอะค่ะ”“ พี่อาร์มตักยำทะเลให้คุณกรณ์สิคะ” ตรีรินทร์กล่าวนำเลขาหนุ่มตักยำทะเลแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตัวอลงกรณ์รู้สึกหมั่นไส้เลขาหนุ่มรุ่นน้องที่ทำท่าทางเหมือนกลัวจะสบตา แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกัน“ แกไปทำไรแถวโรงแรมเจ้ากานต์ว่ะ ปล่อยให้พวกข้ารอตั้งนาน” อัครเดชเอ่ยถาม
ตอนเย็น“นี่เราจะไปไหนกันครับ คุณกรณ์” อิทธิพลหรืออาร์ม เอ่ยถามเมื่อรถขับเลยหอพักไปอีกช่วงตึก“ เงียบๆเถอะ ถึงแล้วผมจะบอกเอง” อลงกรณ์หันมาตอบเลขารุ่นน้องอลงกรณ์เดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง ไม่ไกลจากหอพักของหนุ่มรุ่นน้องชายหนุ่มเดินไปหยิบของลงตระกร้า ท่ามกลางความงุนงงของเลขาหนุ่ม“ นี่คุณ จะซื้อของไปไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด”“ ซื้อไปไว้ที่หอคุณ”“ หา “ เสียงลากยาว“ ก็หอคุณ ไม่มีอะไรสักอย่าง กาแฟก็ไม่มี วิสกี้เบียร์ไม่มีสักอย่างแล้วผมก็เบื่ออาหารที่มีแต่ผักกับวิญญาณหมู วันนี้ผมทำงานหนักมาก ผมอยากทานอาหารดี ๆ สักหน่อยคุณช่วยทำอาหารให้หน่อย ผมเป็นคนจ่ายคุณเป็นคนทำ โอเคนะ”อาร์มยืนงงอยู่กับที่“ เร็วๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เจอรถติดตอนกลับอีกหรอก มาช่วยผมเลือกเนื้อหน่อยวันนี้ผมอยากทานเนื้อทอดกระเทียมพริกไทย”หลังจากอาหารค่ำผ่านไปอย่างชื่นมื่น อลงกรณ์ก็มานอนที่เก้าอี้ยาว ก่อนจะเผลอหลับไปอาร์มมานั่งพัดยุงที่คอยมาตอมตามแขนขาของชายหนุ่ม อลงกรณ์ลืมตาขึ้น ตาประสานตาก่อนที่อาร์มจะลุกขึ้นปัดกางเกงขาสั้น“ ดึกแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว กลับตอนนี้รถก็ไม่ติดแล้ว”อาร์มเฉไฉพูดกับอลงกรณ์“ ไล
อาร์มตกใจ พร้อมกับระล่ำระลักว่า “ ผมครับผมเป็นคนจัด ผมเห็นมันรกมากจนไม่รู้จะวางเอกสารการประชุมไว้ตรงไหน พอวางมันก็ลื่นล้ม ผมเลยจัดให้มันเป็นระเบียบ”“ อ้อ คุณจะว่าผมมันไม่มีระเบียบว่างั้นเถอะ แต่ขอบคุณทีหลังไม่ต้องห้ามคุณมายุ่งวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของผมอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมหาเอกสารของผมไม่เจอผมทำงานผมรู้ว่าวางเอกสารแบบไหนไว้ที่ตรงไหน ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามายุ่ง” อลงกรณ์ส่งเสียงดังอาร์มหลับตามือสั่นใจสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายตรงหน้าเวลาเขาโกรธเค้าเหมือนคนละคนกับที่ตนรู้จักเมื่อวาน“ ครับ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีก ขอโทษอีกครั้ง”“ คุณออกไปได้” อลงกรณ์เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าเสียก็นึกสงสารโบกมือให้ออกห้องไปเพราะอารมณ์ยังคุกรุ่นอาร์ม หรือ อิทธิพลมานั่งร้องไห้ ทำงานที่นี่มาแปดปียังไม่เคยโดนดุเสียงดังขนาดนี้มาก่อนชายหนุ่มเจ็บใจน้อยใจ อุตส่าห์จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยไม่ได้ดี แล้วยังโดนด่าอีก คอยดูต่อไปนี้จะทำเท่าที่สั่งเท่านั้น อาร์มคิดในใจอย่างว้าวุ่นอาร์มเช็ดน้ำตาพร้อมกับตั้งใจทำงานต่ออย่างมีทิฐิ อลงกรณ์เมื่อหาเอกสารพบก็ถอนหายใจเฮือก“ นี่เราพูดรุนแรงไปหรือเปล่าหว่า ป่านนี้ไม่นั่งร้องไห้ขี้