ลมหายใจมังกร

ลมหายใจมังกร

last updateLast Updated : 2025-02-14
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
10
1 rating. 1 review
91Chapters
1.4Kviews
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เรื่องราวระหว่างเทพมังกรดิน ฮวงหลง และหญิงสาวเดินดินนามซิ่นฮวา เมื่อโชคชะตาเล่นตลกให้หญิงสาวมองเห็น ‘เทพมังกรดิน’ เขาจำ(ใจ)ต้องปรากฏกายทุกครั้งที่นางเรียกขานนามของเขา ทำให้เทพเซียนชั้นฟ้ากลายเป็นพี่เลี้ยงของเด็กหญิงตัวน้อย จวบจนนางเติบโตเป็นหญิงสาวงามสะพรั่ง กฎสวรรค์ทำให้เขาต้องหักห้ามใจ แต่เพราะนางและเขามีชะตาที่ต้องชดใช้กรรมร่วมกัน และมีเพียง ‘ลมหายใจมังกร’ เท่านั้น ที่จะต่อลมหายใจของนางได้ เส้นทางที่เขาเลือกมิใช่สิ่งที่นางปรารถนา เพียงหนึ่งชาติภพเพื่อให้ใจได้ ‘รัก’ แม้ช่วงเวลานั้นจะแสนสั้น.... นางก็ยินดี จาก ‘ท่อนแขนมังกร’ สู่ ‘ลมหายใจมังกร’ (ท่อนแขนมังกรรุ่นลูก)

View More

Chapter 1

Chapter 1. ก่อนเริ่มเรื่องราวทั้งหมด

สงคราม ‘ทรายย้อมโลหิต’ องค์รัชายาทเกือบสิ้นชีพในสงครามครั้งนั้น ทว่าเพื่อให้ทหารที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัวได้กลับบ้าน จึงบังอาจเรียกปีศาจมังกรเพลิงมาเพื่อใช้ทำสัญญาแลกเปลี่ยน ‘บางสิ่ง’ เปลี่ยนให้กลายเป็นครึ่งคนครึ่งปีศาจ แม้ชนะศึกสงครามแต่ถูกปลดจากตำแหน่งรัชทายาท หากแต่สวรรค์มิได้ทอดทิ้ง ส่งคู่ชีวิตมาให้หัวใจที่เยียบเย็นได้กลับสู่ความเป็นมนุษย์อีกครั้ง

          เพื่อปกป้องนางในดวงใจ ทำให้อ๋องเฟยเทียนขัดราชโองการ กว่าจะเดินทางจากตุนหวงกลับสู่เมืองหลวงกินเวลานานมากกว่าปกติ กระนั้นเมื่อได้พบ

พระพักตร์องค์ฮ่องเต้อีกครั้ง คราวนี้ได้สลายความไม่เข้าใจระหว่างพ่อลูกที่มีมานานนับสิบปี องค์รัชทายาทองค์ปัจจุบันมีใจกำจัดอ๋องเฟยเทียนเพราะเกรงกำลังทหารในมือและคิดว่าอีกฝ่ายจะตั้งตนเป็นกบฏโดยอาศัยราชโองการขององค์ฮ่องเต้

จึงยืมมือทหารฝ่ายมองโกลกำจัด ทว่าไม่อาจเอาชีวิตชินอ๋องเฟยเทียนได้ กลับกลายเป็นว่าอ๋องเฟยเทียนได้กำจัดปีศาจมังกรเพลิงในตนเองไปสิ้น และยังรู้ตัวผู้บงการแผนร้าย เพียงแต่ไม่คิดยื่นมือเข้าไปวุ่นวาย ปล่อยให้องค์ฮ่องเต้ทรงตัดสินพระทัยเอง

          หลังจากกลับจากเมืองหลวงพร้อมข่าวลือแพร่สะบัดไปดุจสายลมในท้องนภา องค์ฮ่องเต้ปลดรัชทายาทและเลื่อนลำดับองค์ชายอีกพระองค์ขึ้นรับตำแหน่งองค์รัชทายาทองค์ใหม่ ส่วนอดีตรัชทายาทนั้นถูกเนรเทศไปไกลถึงชายแดนในเขตทุรกันดาร ข่าวแว่วว่าเพราะการเดินทางที่แสนยากลำบากทำให้อดีตองค์รัชทายาทสิ้นพระชนม์ระหว่างการเดินทาง

          ชินอ๋องเฟยเทียนยังคงรั้งตำแหน่งแม่ทัพใหญ่แห่งทิศอุดร และปกครองเมืองตุนหวง เมืองที่ถูกโอบล้อมด้วยทะเลทรายเช่นเคย

          ทว่าในตำหนักดุจตะวันของชินอ๋องกลับอบอุ่นสว่างไสวด้วยหญิงสาวนามว่านหนิงเหมยซึ่งบัดนี้เป็นฮูหยินของชินอ๋องเฟยเทียนและเป็นมารดาของเด็กๆ ทั้งสาม เด็กชายหญิงฝาแฝดหน้าตาน่ารักนาม ซิ่นหลิงและซิ่นฮวา และบุตรชายคนเล็กอายุห่างจากคู่แฝดสามปีนามซิ่นสือ

          ตำหนักดุจตะวันที่เคยเยียบเย็น มาบัดนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะสดใสของเด็กน้อยที่เติบโตท่ามกลางความรักของบิดามารดาและชะตากรรมที่ไม่อาจฝืน

          ทุกชีวิตล้วนมีชะตากรรมไม่เว้นแม้แต่ปวงเทพ

          และนี่คือชะตากรรมของหญิงสาวที่ถูกเรียกขานว่าซิ่นฮวา

เริ่มต้น...

          ตุนหวงแม้ไม่ใช่เมืองใหญ่ เป็นเสมือนประตูสู่ดินแดนตะวันตก เส้นทางการค้านี้เรียกว่าเส้นทางสายไหม ผู้คนที่อาศัยที่นี่ได้เห็นสิ่งแปลกตาจนกลายเป็นความเคยชิน ทั้งสัตว์เลี้ยง แพรพรรณ เงินและทอง เครื่องเคลือบดินเผา ตลอดจนผู้คนต่างเผ่าที่มีรูปร่างลักษณะแปลกตา นอกจากเป็นเส้นทางการค้าแล้วยังเป็นเส้นทางเผยแผ่ศาสนาด้วย

          หลังจากชินอ๋องเฟยเทียนรับว่านหนิงเหมยเป็นพระชายา หลังจากผ่านเรื่องราววุ่นวายที่กลายเป็นเรื่องเล่าขานของเมืองตุนหวงไปแล้วนั้น ต้นปีถัดมา

พระชายาให้กำเนิดบุตรชายหญิงฝาแฝดใบหน้างดงามน่ารัก และอีกสามปีต่อมาก็ให้กำเนิดบุตรชายอีกคน ทั่วทั้งตุนหวงรับรู้กันดีว่า ชินอ๋องผู้นี้รักใคร่ในตัวพระชายามากมายยิ่งนัก มีนางเพียรหนึ่งเดียวเป็นชายาเอกไม่มีชายารองหรือแม้แต่สนมกำนัลหญิงปรนบัติ

          ระหว่างรักมากกับกลัวภรรยา บางทีก็แทบแยกไม่ออก

          พระชายาหนิงเหมยให้กำเนิดบุตรฝาแฝดที่มีใบหน้าเหมือนกันราวกับพิมพ์เดียว แม้เป็นหนึ่งชายหนึ่งหญิง ทว่าหลายครั้งที่เด็กทั้งสองซุกซนแอบแต่งกายแบบเดียวกันทำให้ผู้คนถึงกับสับสน บางคราแต่งเป็นหญิงทั้งคู่ บางครั้งทั้งสองก็แต่งเป็นชาย สร้างความปวดหัวให้บรรดาคนรับใช้ไม่น้อย

          ซิ่นหลิงแม้ยังเด็กแต่มีแววด้านการต่อสู้ บิดาเป็นผู้ฝึกสอนวรยุทธด้วยตนเอง เพียงห้าขวบเขาก็รำหมัดมวยได้คล่องแคล่วและยังสามารถฝึกเดินลมปราณได้ดียิ่ง ผิดกับซิ่นฮวาที่แสนน่ารักราวตุ๊กตาตัวน้อย ด้วยความที่บิดาเป็นกังวลว่านางจะถูกผู้อื่นรังแกจึงให้นางฝึกวรยุทธด้วยเช่นกัน แต่ซิ่นฮวาไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้เอาเสียเลย ไม่ว่าจะพยายามมากเพียงใด นางไม่สามารถทำได้ ชินอ๋องเฟยเทียนได้ขึ้นชื่อว่ารักลูกสาวยิ่งแก้วตาดวงใจยอมตามใจนาง สิ่งใดที่ลูกสาวไม่ปรารถนาก็ไม่ฝืนใจ ส่วนมารดานั้นได้แต่พร่ำสอนเรื่องมารยาทของหญิงงามแต่ดูเหมือนจะยากนัก กระนั้นซิ่นฮวาก็ชอบการอ่านเขียนไม่ต่างจากซิ่นหลิง สองพี่น้องฝาแฝดเรียนรู้ได้เร็วดุจมีพรสวรรค์ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด

          ฉากหน้าของซิ่นฮวาคือท่านหญิงน้อยๆ ที่แสนงดงามอ่อนหวาน เก่งโคลงกลอนและเขียนอักษร ฝีมือด้านบรรเลงกู่เจิงเยี่ยมยอดสมกับที่เป็น “ธิดาเทพ” อายุเพียงเจ็ดขวบนางสามารถเล่นกู่ฉินหรือพิณเจ็ดสายได้ไพเราะจับใจ อายุสิบสองขวบนางขึ้นเป็นผู้เชิญดอกไม้บูชาเทพมังกรดิน

          ตุนหวงมีธรรมเนียนที่เริ่มปฏิบัติไม่นาน เริ่มตั้งแต่ปีที่ชินอ๋องรับพระชายามาสู่ตำหนัก ในทุกปีจะมีพิธีบวงสรวงบูชาเทพมังกรอำนวยพรให้ผู้เดินทางปลอดภัย ในปีแรกๆ นั้น พระชายาเป็นผู้บรรเลงผีผาถวายบูชาเทพมังกรดิน ขอพรให้ผู้เดินทางได้ปลอดภัยรวมทั้งให้ตุนหวงสงบสุข ต่อมาเมื่อซิ่นฮวาแสดงความสามารถด้านดนตรีเป็นที่ประจักษ์ นางจึงให้บุตรสาวได้รับหน้าที่เชิญดอกไม้และบรรเลงดนตรีเพื่อบูชาเทพมังกรดิน ว่ากันว่าการบูชาเทพมังกรดินนั้นนอกจากนำความร่มเย็นสู่แผ่นดินแล้ว ยังให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล

          ฝนตกทั้งที่...ไม่ใช่ฤดูฝน

          กล่าวกันว่าเป็นเพราะธิดาเทพซิ่นฮวา

          ในปีที่ซิ่นฮวาขึ้นรับเป็นผู้เชิญดอกไม้บูชาเทพมังกรดินครั้งแรกนั้น ซิ่นหลิงพี่ชายฝาแฝดของนางออกเดินทางไปศึกษาร่ำเรียนกับอาจารย์เจี่ยง ผู้เคยเป็นอาจารย์ของบิดามาก่อน ‘ซิ่นหลิง’ เดินทางพร้อม ‘กันอี๋’ บุตรชายของชากกีผู้เป็นมือขวาของรองแม่ทัพซานม่านหวาและจื่อเหยี่ยนสาวใช้คนสนิทของพระชายา และ ‘ซาโม่’ บุตรชายของมาร์คัส ชายหนุ่มผู้มีประวัติไม่ชัดเจนกับรองแม่ทัพซานม่านหวา แม้เป็นเพียงเด็กชายแต่ทั้งสามกลับออกเดินทางอย่างไร้ความหวาดกลัว โดยมี

องครักษ์เจิ้งหู่เจิ้งไฉติดตามอารักขา ‘ซิ่นสือ’ อยากติดตามพี่ชายไปด้วยแต่เพราะเขายังเด็กนัก มารดาไม่อนุญาต แต่กระนั้นบิดาก็เชิญอาจารย์มาสอนบุตรสาวและบุตรชายคนเล็ก

          แม้ผู้คนเข้าใจว่าชินอ๋องผู้นี้ไม่เป็นที่โปรดปรานขององค์ฮ่องเต้ แต่ทรงแอบส่งบัณฑิตอันดับสามจากเมืองหลวงมาสอนเด็กๆ ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาถือเป็นเชื้อสาย ‘ตระกูลเซวียน’ มีสายเลือดมังกรเช่นกัน

          พระชายาหนิงเหมยมีนิสัยอ่อนโยน มีเมตตา ตั้งโรงทานทุกสิบห้าวัน

พระชายามีบ่าวติดตามกายมาตั้งแต่ออกจากเมืองหลวงคือ ‘จ้าวต้า’ เป็นเด็กกำพร้าที่นางซื้อตัวมาตั้งแต่ยังเด็ก บัดนี้ได้รับการส่งเสริม ทั้งอ่านเขียนเรียนหนังสือและฝึกวรยุทธ จากเด็กชายผอมกะหร่องมาบัดนี้เป็นรับตำแหน่งพ่อบ้านในตำหนักดุจตะวันด้วยวัยยี่สิบแปด ส่วนป้าหุยเหอนั้นเป็นบ่าวอาวุธโสที่พระชายาให้ความเคารพเสมือนเป็นญาติผู้ใหญ่

          ทว่าเบื้องหลังรั้วกำแพงจวนชินอ๋องนั้นมักปรากฏความวุ่นวายอยู่เสมอ ใครเลยจะรู้ว่าเด็กหญิงที่แสนงดงามดุจเทพธิดานั้น มีนิสัยซุกซนให้บิดามารดาต้องปวดหัวกันเล่า? แม้ปีนี้นางจะอายุสิบเจ็ดแล้วก็ตาม เพียงพริบตาจาก เด็กหญิงตัวน้อยผู้นั้นก็กลายเป็นหญิงสาวงดงามอ่อนหวาน ความงามของนางดุจกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ส่งกลิ่นขจรขจายไปไกล แต่เนื่องจากบิดารักและหวงลูกสาวคนนี้เหลือเกิน แม้นางอายุสิบเจ็ดแล้วยังไม่คิดสนใจให้นางมีคู่ครองออกเรือน

          หญิงสาวในยามนี้ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเช่นกัน เพราะหัวใจของนางมีผู้อื่นอยู่แล้ว เป็นคนที่นางหมายมั่นจะเป็น ‘เจ้าสาว’ ให้เขาแต่เพียงผู้เดียว

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

Comments

user avatar
Matura Thong
ชอบคะ แต่งได้น่าอ่าน
2025-01-19 21:12:15
2
91 Chapters
Chapter 1. ก่อนเริ่มเรื่องราวทั้งหมด
สงคราม ‘ทรายย้อมโลหิต’ องค์รัชายาทเกือบสิ้นชีพในสงครามครั้งนั้น ทว่าเพื่อให้ทหารที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัวได้กลับบ้าน จึงบังอาจเรียกปีศาจมังกรเพลิงมาเพื่อใช้ทำสัญญาแลกเปลี่ยน ‘บางสิ่ง’ เปลี่ยนให้กลายเป็นครึ่งคนครึ่งปีศาจ แม้ชนะศึกสงครามแต่ถูกปลดจากตำแหน่งรัชทายาท หากแต่สวรรค์มิได้ทอดทิ้ง ส่งคู่ชีวิตมาให้หัวใจที่เยียบเย็นได้กลับสู่ความเป็นมนุษย์อีกครั้ง เพื่อปกป้องนางในดวงใจ ทำให้อ๋องเฟยเทียนขัดราชโองการ กว่าจะเดินทางจากตุนหวงกลับสู่เมืองหลวงกินเวลานานมากกว่าปกติ กระนั้นเมื่อได้พบพระพักตร์องค์ฮ่องเต้อีกครั้ง คราวนี้ได้สลายความไม่เข้าใจระหว่างพ่อลูกที่มีมานานนับสิบปี องค์รัชทายาทองค์ปัจจุบันมีใจกำจัดอ๋องเฟยเทียนเพราะเกรงกำลังทหารในมือและคิดว่าอีกฝ่ายจะตั้งตนเป็นกบฏโดยอาศัยราชโองการขององค์ฮ่องเต้ จึงยืมมือทหารฝ่ายมองโกลกำจัด ทว่าไม่อาจเอาชีวิตชินอ๋องเฟยเทียนได้ กลับกลายเป็นว่าอ๋องเฟยเทียนได้กำจัดปีศาจมังกรเพลิงในตนเองไปสิ้น และยังรู้ตัวผู้บงการแผนร้าย เพียงแต่ไม่คิดยื่นมือเข้าไปวุ่นวาย ปล่อยให้องค์ฮ่องเต้ทรงตัดสินพระทัยเอง หลังจากกลับจากเมืองหลวงพร้อมข่าวลือแพร่สะบ
last updateLast Updated : 2025-01-02
Read more
Chapter 2. ว่ากันว่า...
หญิงสาวร่างเล็กในชุดของบุรุษเสื้อผ้าเนื้อหยาบวิ่งหน้าตาตื่นมาจากด้านหลังของตำหนักชินอ๋อง ดวงหน้าอ่อนหวานปรากฏเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นราวกับตากฝน และเพราะนางมุดรอดรอยแยกของกำแพงด้านหลัง ทำให้เส้นผมที่เกล้ามวยเยี่ยงบุรุษนั้นหลุดลุ่ยลงมาเคลียบ่า ทว่ากลับขับเน้นความงามบนใบหน้าจิ้มลิ้มดุจหญิงสาววัยสิบเจ็ดปี “คุณหนู ทางนี้เจ้าค่ะ” “น้าจื่อเหยี่ยน” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเห็นบ่าวคนสนิทของมารดามายืนรอด้วยอาการกระสับกระส่าย นางยิ้มกว้างแล้วรีบวิ่งเข้าไปหา จื่อเหยี่ยนส่ายหน้าไปมาพลางยื่นมือไปหยิบเศษใบไม้ออกจากศีรษะและลูบผมให้อย่างรวดเร็ว “ไยคุณหนูกลับมาช้านักเจ้าคะ” “ท่านแม่ออกมาจากห้องสวดมนต์แล้วหรือ?” “ยังเจ้าค่ะ ตอนนี้ปี้เอ๋อร์คอยดูต้นทางให้อยู่ คุณหนูรีบกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า” “อืม” หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างโล่งอก ทันใดนั้นเอง นางเสียวสันหลังวาบจนไม่กล้าหันไปมองไอเย็นที่แผ่มากระทบแผ่นหลังของนาง “ดูต้นทาง? ดีมาก ดีจริงๆ” “ทะ...ท่านแม่” หญิงสาวโอดครวญในใจไม่กล้าหันกลับไปมองเจ้าของเสีย
last updateLast Updated : 2025-01-02
Read more
Chapter 3. หญิงสาวในชุดบุรุษ
หญิงสาวในชุดบุรุษทำหน้างุนงงแล้วยกแขนขึ้นดมกลิ่นกายตัวเอง นางถึงกับทำหน้าแหย เพราะเกรงว่าจะกลับมาไม่ทันเวลา นางถึงกับมุดรอดรูทางหมารอดตรงกำแพงด้านหลังตำหนัก ท่าทางของนางทำให้บุรุษทั้งหมดส่งเสียงหัวเราะพรืดอย่างไม่เกรงใจ หญิงสาวหันมาขึงตาใส่แต่ดูเหมือนไม่อาจหยุดเสียงหัวเราะนั้นได้ นางจึงเชิดใบหน้าขึ้นยืดแผ่นหลังตรงแล้วเดินอย่างสง่ารีบกลับเรือนของตนเองทันที บุรุษวัยสี่สิบห้าลอบถอนหายใจเบาๆ เมื่อเห็นภรรยาสุดที่รักยอมลดความโกรธเคืองในตัวลูกสาวคนเดียวลง แม้เวลานี้ภรรยาของเขาจะอายุสามสิบหกแล้วและเป็นมารดาของบุตรสามคน ทว่ายังคงใบหน้าอ่อนเยาว์และอ่อนโยนไม่ต่างจากวันวาน ทว่าเมื่อเห็นสีหน้าของผู้เป็นสามี นางกลับขึงตาใส่ พาลเอาความโมโหมาลงที่ตัวผู้เป็นบิดาแทน “เพราะท่านพี่ตามใจนางนัก นางจึงเอาแต่ใจตัวเอง ทำอะไรไม่คิดถึงผู้อื่นเลยสักนิด” “ได้ๆ เป็นข้าที่ผิดเอง” มือใหญ่หยาบกร้านลูบไหล่ภรรยาอย่างเอาอกเอาใจ ยามนี้ไม่มีผู้อื่นอยู่ หากใครมาเห็นเข้าคงนึกไม่ถึงว่า ชินอ๋องเฟยเทียนผู้เคยได้ชื่อว่าเป็นครึ่งปีศาจในอดีตนั้น เพียงแค่เอ่ยชื่อเขาก็ทำให้ผู้คนหวาด
last updateLast Updated : 2025-01-02
Read more
Chapter 4.  มิใช่สิ่งที่สมควรกล่าวเล่นพร่ำเพรื่อ
ชื่อของปวงเทพมิใช่สิ่งที่สมควรกล่าวเล่นพร่ำเพรื่อ แต่ซิ่นฮวามิได้สนใจเรื่องนั้น ตั้งแต่ห้าขวบ นางก็เรียก ‘พี่ชายผมเงิน’ มาเป็นเพื่อนเล่นของนาง เรื่องนี้เกิดความคาดหมายของนางนัก ในคืนหนึ่ง เทพมังกรปรากฏตัวเบื้องหน้านางด้วยสีหน้าฉาบความไม่พอใจอยู่หลายส่วนแต่ไม่ได้โกรธเกรี้ยวถึงขนาดจะเผาเมือง ‘เจ้าให้ลูกสาวของเจ้ารู้ชื่อของข้า’ ‘เรื่องนั้น...’ ยังไม่ทันจะอธิบายอะไร เทพมังกรดินผู้แสนสง่างามองอาจเดินวนไปมาเหมือนหนูติดจั่น คล้ายเจอคู่ปรับที่ไม่อาจต่อกรได้ ‘นางเป็นเด็กแต่เจ้าเล่ห์มากกลอุบายนัก ข้าจะทำอะไรก็มิได้ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก’ เทพมังกรเดินพร่ำบ่นเดินวนไปวนมาเบื้องหน้านาง ยามนี้เขามองนางมิใช่ด้วยสายตาของบุรุษที่มองหญิงสาวอีกแล้ว แต่เป็นสายตาที่มองกันอย่างมิตรสหายมากกว่า ‘ท่านมิได้ใช้เวทมนตร์พรางกายกับนางหรือ?’ ‘เคยแล้ว ปกติข้าใช้เวทพรางกายย่อมไม่มีผู้ใดมองเห็น แต่เด็กนั่นกลับยังเห็นข้าแถมโบกไม้โบกมือให้ข้าอีก’ เขาถูกเด็กห้าขวบปั่นหัวจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน เด็กคนนี้ช่าง! ไม่เหมือนมารดาที่เรียบร้อยอ่อนหวานเลยสักน
last updateLast Updated : 2025-01-02
Read more
Chapter 5.พิธีบวงสรวงเทพมังกรดิน
“อ้อ! อีกสามวันถึงพิธีบวงสรวงเทพมังกรดินนี่เอง ท่านแม่จึงโกรธเจ้าที่หนีออกไปนอกตำหนักเช่นนี้” ซิ่นหลิงแย่งถั่วเคลือบน้ำตาลในจานของน้องชายมากิน “ข้าเป็นผู้เชิญดอกไม้บูชาเทพมังกรดินทุกปี เรื่องแค่นี้ไม่มีวันทำผิดพลาด” นางเบ้ปากเล็กน้อยแล้วแหงนหน้าขึ้น “กันอี๋ เจ้าแกว่งแรงอีกหน่อยซิ” กันอี๋นิ่งงันไป เขาไม่กล้าออกแรงมากนัก เกรงว่าจะทำให้นางบาดเจ็บ แต่เสียงหัวเราะของซาโม่ทำให้เขาหงุดหงิด “นางไม่ตกชิงช้าง่ายดายหรอก” ซาโม่หัวเราะ เขารู้ว่ากันอี๋กังวลเรื่องใดอยู่ “แกว่งแรงอีกนิดเถิด ถ้านางร่วงลงไปข้าจะกระโดดไปรับให้เอง” “อย่าเลย หน้านางยิ่งขี้เหร่อยู่ เผลอตกชิงช้าหน้าคว่ำคะมำไป ความงามที่มีอยู่น้อยนิดนี่จะจมหายไปกับพื้นดินเสียหมด” “ซิ่นหลิง! ปากเจ้านี่มันปากสุนัขชัดๆ!” ซิ่นหลิงตวาดออกมาด้วยความโมโห หากไม่เพราะพวกเขาทั้งหมดเกิดและเติบโตพร้อมกัน คงไม่มีใครเชื่อว่าเทพธิดาน้อยๆ ผู้นี้จะมีอีกด้านที่เกรี้ยวกราดเอาแต่ใจ “เฮ้! คนปากสุนัขต้องเป็นซาโม่ต่างหากไม่ใช่ข้า” ซิ่นหลิงโบ้ยไปทางซาโม่ เพราะความสนิทสนมนั่นแหละที่ทำให้พวกเขากล้า
last updateLast Updated : 2025-01-02
Read more
Chapter 6. จะกล้าดูหนังสือแบบนั้น
ซิ่นหลิงไม่คิดว่า... ซิ่นฮวาจะกล้าดูหนังสือแบบนั้น ซิ่นฮวาเข้าใจสายตาของซิ่นหลิง นางทำจมูกย่นเหมือนแมวน้อย ท่าทางน่าเอ็นดูแต่หารู้ไม่ว่าใช้ไม้นี้กับซิ่นหลิงมิได้ “ถ้าข้าไม่ช่วย เจ้าก็ให้คนอื่นช่วยอยู่ดีใช่หรือไม่” ซิ่นฮวาพยักหน้ารับ นั่นทำให้ซิ่นหลิงหลับตาโอดครวญในใจ ที่เขาเห็นนางแต่งกายเป็นบุรุษถูกมารดาวิ่งไล่หมายทำโทษในวันนี้ คงเพราะความคิดแปลกประหลาดเช่นนี้เป็นแน่ “เอาเถอะ ข้าจะหาทางให้ก็แล้วกัน” “เร็วๆ ด้วย ข้าอยากไปก่อนวันบวงสรวงเทพมังกรดิน” “หา!” ใช้งานผู้อื่นแล้วยังมีการมาเร่งอีก “ไยรีบร้อนถึงเพียงนี้ นี่เจ้าวางแผนร้ายอันใดอยู่หรือไม่” “ไม่ใช่แผนร้ายเสียหน่อย” นางลูบปลายจมูกตัวเอง “เอาเป็นว่าเจ้ารับปากแล้ว ต้องช่วยให้ถึงที่สุด” ซิ่นหลิงได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วง ที่เขาไปร่ำเรียนมาไม่มีกลวิธีรับมือหญิงดื้อและซุกซนอย่างนางเลย แล้วนี่ชายใดหนอที่จะถูกนางรังแกกลั่นแกล้งเอา หรือว่าจะเป็น... ป่านนี้แล้ว นางยังไม่ตัดใจอีกหรือ? ร่างบอบบางเร้นกายในความมืดกลับเข้ามาในห้องนอนของตน
last updateLast Updated : 2025-01-05
Read more
Chapter 7. พี่ชาย
“พี่ชาย!” ซิ่นฮวาลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้ววิ่งไปทางบุรุษหนุ่มเจ้าของเส้นผมสีเงินยวง เพราะนางเป็นแค่เด็กห้าขวบจึงได้แต่แหงนหน้าคอตั้งบ่าเพื่อได้เห็นแววตาประหลาดใจของเขา “เจ้ามองเห็นข้ารึ” ชายหนุ่มถามแล้วค่อยๆ นั่งลงบนส้นเท้า ทำให้เด็กหญิงไม่ต้องแหงนหน้าขึ้นมองเขา “ข้ามีสองตาย่อมมองเห็นพี่ชาย” เด็กหญิงยิ้มกว้างดวงตาเป็นประกายวาววับ “ข้าเห็นพี่ชายหลายครั้งแล้ว ไยพี่ชายชอบทำเป็นมองไม่เห็นข้า” บุรุษหนุ่มไม่รู้ว่าควรทำหน้าอย่างไร เขามองเห็นนางตั้งแต่วันที่นางกับพี่ชายฝาแฝดของนางลืมตาแล้ว คอยเฝ้ามองนางเติบโตเช่นเดียวกับที่มองดูมารดาของนาง แต่เขาไม่รู้เลยว่า เด็กหญิงตัวเล็กผู้นี้มองเห็นเขาเช่นกัน เด็กหญิงยื่นมือไปจับเส้นผมนุ่มสลวยของเขาขึ้นดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เหมือนที่ท่านแม่เล่าให้ฟังเลย” เด็กหญิงส่งยิ้มกว้าง “ท่านแม่บอกว่าพี่ชายเป็นสหายของท่านแม่” “ฮืม” เขาเพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น “คนอื่นมองไม่เห็นท่าน มีแต่ข้าที่มองเห็น” ราวกับค้นพบของล้ำค่า เด็กหญิงตัวน้อยแสดงความดีใจเป็นรอยยิ้มจนแก้มของนางเหมือนก้อนแป้ง
last updateLast Updated : 2025-01-05
Read more
Chapter 8.พี่ชายไม่เห็นรึ
“พี่ชาย” นางคลี่ยิ้มอ่อนหวานแล้วรีบลุกขึ้นยืน แม้ตอนนี้จะอายุสิบห้าแล้ว แต่เมื่อยื่นใกล้เขานางก็ยังดูตัวเล็กไม่ต่างจากตอนที่นางห้าขวบนัก “ข้าบอกกี่ครั้ง นามของข้ามิใช่จะให้เจ้าเรียกพร่ำเพรื่อ” “ข้ามิได้พร่ำเพรื่อเสียหน่อย” นางย่นจมูกใส่ “เมื่อสองวันก่อนเจ้าก็เรียกข้า” เขาขมวดคิ้วแต่ใบหน้ายังเรียบนิ่งเช่นเคย “ก็คราวนั้นไฟไหม้ที่ตลาดนี่ ข้าก็ต้องเรียกพี่ชายให้มาช่วยดับไฟสิ” พี่ชายเป็นเทพมังกรดินผู้เป็นใหญ่ในหมู่มังกร นางก็แค่ขอให้มีฝนมาช่วยดับไฟ สิ่งที่นางทำล้วนมีเหตุผลแล้วจะเรียกว่านางเรียกเขาพร่ำเพรื่อได้อย่างไรเล่า “แล้วคราวนี้เจ้าเรียกข้ามาเพื่อสิ่งใด” เขาแสร้งทำหน้าเบื่อหน่าย ซ่อนความรู้สึกภายใน ต่อให้นางไม่เรียกเขา เขาคอยติดตามดูแลนางเสมออยู่แล้ว นางรีบยื่นหลังมือให้เขา ชายหนุ่มจ้องมองแต่ไม่เห็นสิ่งใดผิดปกติจึงย้ายสายตามาสบตากับดวงตาสุกใสของนาง “พี่ชายไม่เห็นรึ” “เห็นมือของเจ้า” “มือของข้าบวมแดงเพราะถูกผึ้งต่อย ท่านยังแกล้งทำเป็นไม่เห็นอีก” นางทำหน้างอง้ำ “ผึ้งต
last updateLast Updated : 2025-01-06
Read more
Chapter 9 . มีที่ไหนกัน! ว่าที่ลูกเขยอายุมากกว่าว่าที่พ่อตา
แม้งานราชกิจมากมายเพียงใด ชินอ๋องผู้นี้ไม่เคยละเลยครอบครัวเลยสักคราเดียว ว่านหนิงเหมยซึ่งบัดนี้เป็นพระชายาขององค์ชายเฟยเทียนหรือชินอ๋อง นิ้วเรียวกำลังนวดคลึงกึ่งกลางหน้าผากให้ผู้เป็นสามีซึ่งเอนกายนอนบนตักของนางอยู่ “ดีขึ้นหรือไม่เพคะ” “ฮืม” เสียงครางรับคำในลำคอดังขึ้นก่อนที่จะเปิดเปลือกตาขึ้นและมองชายารักของตน “มองหม่อมฉันแบบนี้หมายความว่าอย่างไรเพคะ” ว่านหนิงเหมยถามกลบเกลื่อนความเขินอายที่ทำให้แก้มเนียนแดงระเรื่อ แม้อยู่กันมากว่าสิบเจ็ดปีแล้ว แต่นางยังคงเขินอายเมื่อถูกสายตาคมวาวคู่นี้จ้องมอง บุรุษวัยสี่สิบห้ายันกายลุกขึ้น มุมปากยกยิ้มโปรยเสน่ห์ แม้ยามนี้จะไม่มีรอยสักปีศาจมังกรเพลิงที่แขนซ้ายแล้ว แต่ร่างกายยังคงมีกรุ่นอายร้อนอยู่เสมอ เขาจึงมักสวมชุดนอนเนื้อผ้าบางเบาและยามนี้เสื้อตัวหลวมเผยแผ่นอกให้เห็นรำไร แม้จะมีลูกด้วยกันสามคนแล้ว เป็นสามีภรรยากันมาสิบเจ็ดปี แต่นางอดเขินอายกับการเย้ายวนของเขาไม่ได้เสียที เฟยเทียนพอใจกับการเห็นแก้มภรรยาแดงระเรื่อและเริ่มลามลำคอของนางแล้ว เขาหัวเราะในลำคอยื่นหน้าไปกดจุมพิตที่แก้มนุ่มเบาๆ คลอเ
last updateLast Updated : 2025-01-06
Read more
Chapter 10.สองสามีภรรยาหัวเราะให้กัน
“ตอนนี้ซิ่นหลิงถอดแบบท่านมาจนแทบจะเรียกได้ว่าพิมพ์เดียวกัน คงใส่ชุดสตรีทำอะไรพิเรนทร์ตามใจซิ่นฮวาไม่ได้อีกแล้ว” สองสามีภรรยาหัวเราะให้กัน เขาเป็นคนรักลูกมาก ใครก็ดูออก และเขาไม่ปิดบังความรักที่มีต่อลูกๆ เลย ในวัยเด็กที่บิดาผู้เป็นถึงฮ่องเต้หมางเมินต่อเขาที่เป็นลูกชายของผู้หญิงที่บิดาไม่รักใคร่ แทบจำความรู้สึกที่บิดาจับมือจูงเดินไม่ได้เลย เมื่อถึงเวลาที่เขาได้กลายเป็นบิดา เขาไม่ลังเลหรือเกรงคำติฉินนินทาของผู้ใด อุ้มเจ้าตัวเล็กไว้ในวงแขน ถ้าลูกร้องอยากขี่คอเขาก็ยอมให้ขี่คอ ลูกป่วยไข้ไม่สบาย เขาก็คอยเฝ้าช่วยเช็ดตัวให้ลูกด้วยสองมือของตนเอง จูงมือพวกเขาเดิน จับมือพวกเขาฝึกเขียนชื่อตัวเอง จดจำได้แม้กระทั่งวันที่ลูกๆ เปล่งเสียงเรียก ‘พ่อ’ ‘แม่’ ครั้งแรก ทั้งสองพึงพอใจที่ให้เด็กๆ เรียก ‘ท่านพ่อ’ ‘ท่านแม่’ ใช่ชีวิตครอบครัวแสนธรรมดา ละทิ้งคำว่าเชื้อพระวงศ์และยศศักดิ์ไว้เบื้องหลัง กินอาหารมื้อเย็นร่วมกัน และมักมีเสียงหัวเราะทุกครั้ง มือเรียวยื่นไปแตะแก้มของชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า ดวงตาที่มองมีความหมายลึกซึ้ง “หม่อมฉันทำความดีใดไว้หนอจึงได้ครองคู่กับท่านอ๋อง
last updateLast Updated : 2025-01-06
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status