Home / รักโบราณ / ลมหายใจมังกร / Chapter 5.พิธีบวงสรวงเทพมังกรดิน

Share

Chapter 5.พิธีบวงสรวงเทพมังกรดิน

last update Last Updated: 2025-01-02 06:22:15

          “อ้อ! อีกสามวันถึงพิธีบวงสรวงเทพมังกรดินนี่เอง ท่านแม่จึงโกรธเจ้าที่หนีออกไปนอกตำหนักเช่นนี้” ซิ่นหลิงแย่งถั่วเคลือบน้ำตาลในจานของน้องชายมากิน

          “ข้าเป็นผู้เชิญดอกไม้บูชาเทพมังกรดินทุกปี เรื่องแค่นี้ไม่มีวันทำผิดพลาด” นางเบ้ปากเล็กน้อยแล้วแหงนหน้าขึ้น “กันอี๋ เจ้าแกว่งแรงอีกหน่อยซิ”

          กันอี๋นิ่งงันไป เขาไม่กล้าออกแรงมากนัก เกรงว่าจะทำให้นางบาดเจ็บ แต่เสียงหัวเราะของซาโม่ทำให้เขาหงุดหงิด

          “นางไม่ตกชิงช้าง่ายดายหรอก” ซาโม่หัวเราะ เขารู้ว่ากันอี๋กังวลเรื่องใดอยู่ “แกว่งแรงอีกนิดเถิด ถ้านางร่วงลงไปข้าจะกระโดดไปรับให้เอง”

          “อย่าเลย หน้านางยิ่งขี้เหร่อยู่ เผลอตกชิงช้าหน้าคว่ำคะมำไป ความงามที่มีอยู่น้อยนิดนี่จะจมหายไปกับพื้นดินเสียหมด”

          “ซิ่นหลิง! ปากเจ้านี่มันปากสุนัขชัดๆ!” ซิ่นหลิงตวาดออกมาด้วยความโมโห หากไม่เพราะพวกเขาทั้งหมดเกิดและเติบโตพร้อมกัน คงไม่มีใครเชื่อว่าเทพธิดาน้อยๆ ผู้นี้จะมีอีกด้านที่เกรี้ยวกราดเอาแต่ใจ

          “เฮ้! คนปากสุนัขต้องเป็นซาโม่ต่างหากไม่ใช่ข้า” ซิ่นหลิงโบ้ยไปทางซาโม่ เพราะความสนิทสนมนั่นแหละที่ทำให้พวกเขากล้าต่อปากต่อคำได้เผ็ดร้อนเช่นนี้

          “ไม่เจอกันหลายปี เจ้าควบคุมตัวเองได้แล้วหรือซาโม่” ซิ่นฮวาถามอย่างเพิ่งนึกได้ ความลับหนึ่งที่น้อยคนจะรู้คือ มาร์คัสบิดาของซาโม่นั้นเป็นมนุษย์หมาป่า เมื่อแต่งงานกับซานม่านหวาไม่นานก็ได้กำเนิดบุตรชายคือซาโม่ ในปีที่ซาโม่อายุเจ็ดขวบ เขาแปลงกายเป็นหมาป่าครั้งแรก แต่เนื่องจากเป็นลูกครึ่งหมาป่าและมนุษย์ทำให้ยังไม่อาจควบคุมการแปลงกายของตนเองได้นัก อาจเป็นเพราะยังเด็กอยู่ และเมื่อแปลงกายเป็นหมาป่าเมื่อใด เขามักจำช่วงเวลานั้นไม่ได้ ชินอ๋องเฟยเทียนจึงเสนอให้ซาโม่เดินทางพร้อมกับซิ่นหลิง และกันอี๋ นอกจากร่ำเรียนศึกษาศาสตร์ด้านการปกครองแล้ว อาจารย์ฟู่ซิวอี๋ ผู้เคยเป็นอาจารย์ของท่านอ๋องมาก่อน เชื่อว่าการฝึกจิตสมาธิที่ดีและถูกต้องจะทำให้ซาโม่สามารถควบคุมการร่างกายของตนเองได้

          “ฮืม” ซาโม่เพียงรับคำในลำคอ หลายปีมานี้เขาทุกข์ทรมานกับการถูกฝึกฝนอย่างหนักหน่วง เพื่อควบคุมอีกร่างของตน เขาอยากวิ่งหนี อยากฉีกทึ้งอีกร่างของตน เมื่อครั้งแรกที่ตนเองแปลงกายเป็นหมาป่านั้น เขาจดจำอะไรไม่ได้เลย ตื่นมาพบคราบเลือดเต็มเนื้อตัว เขายังจำความรู้สึกชิงชังตัวเองได้อย่างดียิ่ง ทว่าอาจารย์ฟู่ซิวอี๋กลับอดทนสั่งสอนไม่ถอดใจกับศิษย์โง่คนนี้ เขาจึงสามารถเข้าถึงอีกร่างของคนและใช้มันได้ตามใจต้องการ

          ซิ่นฮวาเข้าใจไปว่าซาโม่ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ นางจึงไม่เอ่ยถามอะไรอีก ทั้งหมดพูดคุยกันจนดึกดื่น จนกระทั่งปี้เอ๋อร์-บ่าวรับใช้คนสนิทอีกคนของพระชายาหนิงเหมยมาตามให้กลับห้องพักผ่อน ทุกคนจึงเห็นควรยุติการสนทนาที่คล้ายไม่จบสิ้นเอาง่ายๆ

          กันอี๋หยุดชิงช้าและยื่นมือไปประคองซิ่นฮวาลงจากมา หญิงสาวหันมาส่งยิ้มกว้าง นางไม่เคยหวงรอยยิ้ม ไม่ว่ากับผู้ใดนางมักยิ้มให้เสมอ กันอี๋เผลอขวมดคิ้ว นางกับซิ่นหลิงเกิดพร้อมกัน เป็นฝาแฝดที่หน้าตาเหมือนกันมาก ยามเด็กเขาเองเคยจำซิ่นหลิงกับซิ่นฮวาสลับคนกัน แต่เพียงห้าปีที่เดินทางจากมา เวลานี้ซิ่นหลิงสูงใหญ่เป็นบุรุษที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายนักรบ ทว่าซิ่นฮวากลับเป็นหญิงสาวที่รูปร่างบอบบาง เวลานี้ทั้งสองไม่เหมือนฝาแฝดกันเลยสักนิด ความสูงของนางแค่ปลายคางของเขาเอง และนั้นทำให้เขาได้กลิ่นหอมจากเรือนผมของนาง

          “ขอบใจนะ”

          “อะ..อืม” กันอี๋พยายามปรับสีหน้าตนเอง เขาเห็นนางเป็นน้องแม้จะไม่เรียกว่าน้องก็ตาม ตลอดเวลาที่ผ่านมา มารดาของเขามักพร่ำบอกถึงฐานะที่แตกต่างของเขากับนาง วันนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไม

เห็นนหญิงสาวหมุนตัวเดินออกไป เขาอยากอาสาเดินไปส่งแต่กลับกัดริมฝีปากของตน มองแผ่นหลังของหญิงสาวเดินไปพร้อมกับปี้เอ๋อร์ นิสัยซุกซนของซิ่นฮวา มีเพียงปี้เอ๋อร์หญิงรับใช้ของพระชายาหนิงเหมยที่กล้าห้ามปรามซิ่นฮวา นางจึงไม่มีหญิงรับใช้มากมายเช่นบุตรสาวตระกูลใหญ่ เพราะต่อให้มีมากเพียงใดก็ไม่อาจรับมือท่านหญิงผู้ซุกซนคนนี้ได้

          “จะทำอะไรก็รีบๆ เถิด นางงดงามเช่นนี้ ใครก็ต่างหมายเด็ดดอมดอกไม้งาม” ซาโม่พูดเหมือนกระซิบข้างกันอี๋ ไม่ได้หันมามองอีกฝ่าย แต่เดินแยกกลับไปเรือนพักของตัวเอง บิดามารดาเป็นคนสนิทของท่านอ๋อง ท่านอ๋องจึงประทานเรือนพักให้ไว้เป็นการส่วนตัว รวมทั้งชากกีและจื่อเหยี่ยนด้วย

          ซิ่นหลิงเดินแยกไปเรือนของตน แม้กลับมากะทันหันแต่เรือนของเขาสะอาดสะอ้านราวกับมีคนอาศัยอยู่ตลอดเวลา นานหลายปีที่ต้องฝึกฝนตนเองในป่าเขา ท่ามกลางความหนาวเหน็บของฤดูกาลและความร้อนแรงของแดดกล้า ไม่ได้หลับนอนบนฟูกนุ่มนานเพียงใดแล้วหนอ ชายหนุ่มรำพึงกับตนเอง หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย เขาหยิบตำราขึ้นหวังจะอ่านก่อนนอนสักนิดหน่อยก่อนเข้านอน แต่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวที่นอกหน้าต่าง ดวงตาคมหรี่มองอย่างระวัง

          “หลิงเอ๋อร์! เจ้ารีบเปิดหน้าต่างเดี๋ยวนี้นะ”

          เสียงของซิ่นฮวาร้องเรียกอยู่ด้านนอกทำให้เขารีบโยนหนังสือไว้ที่โต๊ะ ก้าวยาวๆ ไปเปิดหน้าต่าง เห็นน้องสาวฝาแฝดของตนแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว แต่ช่วยประคองให้นางปีนเข้ามาในห้องของเขา

          “เจ้าเข้ามาทำอะไรอีก” บ่นทั้งที่หัวเราะ นางไม่มีพรสวรค์ด้านการฝึกยุทธเลยสักนิด ที่เอาตัวรอดได้นี่มันวิชาวานรชัดๆ เรื่องปีนป่ายต้นไม้นี่เป็นความคิดของนางทั้งนั้น

          “ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วย” นางอยากพูดคุยกับเขาตั้งแต่อยู่ในสวนกระจ่างใจ แต่คนเยอะเกินไปนางไม่กล้าปริปากขอร้อง

          “ข้าเพิ่งกลับมา เจ้าก็จะใช้งานข้าเลยรึ” ซิ่นหลิงส่ายหน้าไปมา “ว่ามาซิ”

          “คือ...หลังเสร็จพิธีบวงสรวงก็จะถึงวันเกิดของข้า”

          “ของข้าด้วย” ซิ่นหลิงพูดเติมให้ นางลืมไปหรือไรว่าเขาและนางเกิดวันเดือนเดียวกัน

          “ก็นั่นแหละ ปีนี้ข้าสิบเจ็ดแล้ว”

          “ใช่ ข้าก็อายุสิบเจ็ดเท่าเจ้านั่นแหละ?”

          “คือ...” นางอ้ำอึ้ง ใบหน้าหวานแดงระเรื่อขึ้นมา “ข้ามีเรื่องให้เจ้าช่วย”

          “ช่วยสิ่งใด?” คนปากเก่งอย่างนางนี่ ยามนี้ทำไมพูดจาวกวนนัก เขาบ่นในใจพลางรินน้ำชาให้ตัวเอง แล้วยกขึ้นดื่ม

          “ช่วยพาข้าไปหอนางโลมหน่อยสิ”

          พรวด!

          “ตายจริง ไยเจ้าพ่นน้ำชาเป็นเด็กอย่างนี้ล่ะ” ซิ่นฮวาหยิบผ้าเช็ดหน้าของตนส่งให้อีกฝ่ายรับมาซับมุมปาก

          “เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ”

          “เจ้าได้ยินชัดแล้วไม่ต้องถามซ้ำหรอก” นางเบ้ปาก “ตกลงจะช่วยหรือไม่”

          “เหตุใดเจ้าอยากไปหอนางโลม”

          “ข้า...” นางกลอกตาไปมาก่อนพูดเสียงเบา “ข้าอยากรู้ว่าระหว่างชายหญิง ‘มีอะไร’ กันอย่างไร” หากมารดามาได้ยินเข้า เห็นทีคงถึงขั้นเป็นลมล้มพับเป็นแน่

          ซิ่นหลิงพยายามสงบใจ เขาเป็นบุรุษเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างผ่าเผย แต่นางเป็นหญิงจะอยากรู้ไปทำไมกัน ที่สำคัญนางยังมิได้ออกเรือน

          “เรื่องแบบนี้ให้ว่าที่สามีของเจ้าสอนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปศึกษาหาความรู้ที่หอนางโลม” เขาส่ายหน้าไปมา น้องสาวของเขาซุกซนเกินไปแล้ว “ถ้าเจ้าอยากรู้จริงๆ ข้าจะหาหนังสือมาให้”

          “ข้าเคยดูแล้วแต่ยังไม่เข้าใจ”

          “......”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 6. จะกล้าดูหนังสือแบบนั้น

    ซิ่นหลิงไม่คิดว่า... ซิ่นฮวาจะกล้าดูหนังสือแบบนั้น ซิ่นฮวาเข้าใจสายตาของซิ่นหลิง นางทำจมูกย่นเหมือนแมวน้อย ท่าทางน่าเอ็นดูแต่หารู้ไม่ว่าใช้ไม้นี้กับซิ่นหลิงมิได้ “ถ้าข้าไม่ช่วย เจ้าก็ให้คนอื่นช่วยอยู่ดีใช่หรือไม่” ซิ่นฮวาพยักหน้ารับ นั่นทำให้ซิ่นหลิงหลับตาโอดครวญในใจ ที่เขาเห็นนางแต่งกายเป็นบุรุษถูกมารดาวิ่งไล่หมายทำโทษในวันนี้ คงเพราะความคิดแปลกประหลาดเช่นนี้เป็นแน่ “เอาเถอะ ข้าจะหาทางให้ก็แล้วกัน” “เร็วๆ ด้วย ข้าอยากไปก่อนวันบวงสรวงเทพมังกรดิน” “หา!” ใช้งานผู้อื่นแล้วยังมีการมาเร่งอีก “ไยรีบร้อนถึงเพียงนี้ นี่เจ้าวางแผนร้ายอันใดอยู่หรือไม่” “ไม่ใช่แผนร้ายเสียหน่อย” นางลูบปลายจมูกตัวเอง “เอาเป็นว่าเจ้ารับปากแล้ว ต้องช่วยให้ถึงที่สุด” ซิ่นหลิงได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วง ที่เขาไปร่ำเรียนมาไม่มีกลวิธีรับมือหญิงดื้อและซุกซนอย่างนางเลย แล้วนี่ชายใดหนอที่จะถูกนางรังแกกลั่นแกล้งเอา หรือว่าจะเป็น... ป่านนี้แล้ว นางยังไม่ตัดใจอีกหรือ? ร่างบอบบางเร้นกายในความมืดกลับเข้ามาในห้องนอนของตน

    Last Updated : 2025-01-05
  • ลมหายใจมังกร   Chapter 7. พี่ชาย

    “พี่ชาย!” ซิ่นฮวาลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้ววิ่งไปทางบุรุษหนุ่มเจ้าของเส้นผมสีเงินยวง เพราะนางเป็นแค่เด็กห้าขวบจึงได้แต่แหงนหน้าคอตั้งบ่าเพื่อได้เห็นแววตาประหลาดใจของเขา “เจ้ามองเห็นข้ารึ” ชายหนุ่มถามแล้วค่อยๆ นั่งลงบนส้นเท้า ทำให้เด็กหญิงไม่ต้องแหงนหน้าขึ้นมองเขา “ข้ามีสองตาย่อมมองเห็นพี่ชาย” เด็กหญิงยิ้มกว้างดวงตาเป็นประกายวาววับ “ข้าเห็นพี่ชายหลายครั้งแล้ว ไยพี่ชายชอบทำเป็นมองไม่เห็นข้า” บุรุษหนุ่มไม่รู้ว่าควรทำหน้าอย่างไร เขามองเห็นนางตั้งแต่วันที่นางกับพี่ชายฝาแฝดของนางลืมตาแล้ว คอยเฝ้ามองนางเติบโตเช่นเดียวกับที่มองดูมารดาของนาง แต่เขาไม่รู้เลยว่า เด็กหญิงตัวเล็กผู้นี้มองเห็นเขาเช่นกัน เด็กหญิงยื่นมือไปจับเส้นผมนุ่มสลวยของเขาขึ้นดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เหมือนที่ท่านแม่เล่าให้ฟังเลย” เด็กหญิงส่งยิ้มกว้าง “ท่านแม่บอกว่าพี่ชายเป็นสหายของท่านแม่” “ฮืม” เขาเพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น “คนอื่นมองไม่เห็นท่าน มีแต่ข้าที่มองเห็น” ราวกับค้นพบของล้ำค่า เด็กหญิงตัวน้อยแสดงความดีใจเป็นรอยยิ้มจนแก้มของนางเหมือนก้อนแป้ง

    Last Updated : 2025-01-05
  • ลมหายใจมังกร   Chapter 8.พี่ชายไม่เห็นรึ

    “พี่ชาย” นางคลี่ยิ้มอ่อนหวานแล้วรีบลุกขึ้นยืน แม้ตอนนี้จะอายุสิบห้าแล้ว แต่เมื่อยื่นใกล้เขานางก็ยังดูตัวเล็กไม่ต่างจากตอนที่นางห้าขวบนัก “ข้าบอกกี่ครั้ง นามของข้ามิใช่จะให้เจ้าเรียกพร่ำเพรื่อ” “ข้ามิได้พร่ำเพรื่อเสียหน่อย” นางย่นจมูกใส่ “เมื่อสองวันก่อนเจ้าก็เรียกข้า” เขาขมวดคิ้วแต่ใบหน้ายังเรียบนิ่งเช่นเคย “ก็คราวนั้นไฟไหม้ที่ตลาดนี่ ข้าก็ต้องเรียกพี่ชายให้มาช่วยดับไฟสิ” พี่ชายเป็นเทพมังกรดินผู้เป็นใหญ่ในหมู่มังกร นางก็แค่ขอให้มีฝนมาช่วยดับไฟ สิ่งที่นางทำล้วนมีเหตุผลแล้วจะเรียกว่านางเรียกเขาพร่ำเพรื่อได้อย่างไรเล่า “แล้วคราวนี้เจ้าเรียกข้ามาเพื่อสิ่งใด” เขาแสร้งทำหน้าเบื่อหน่าย ซ่อนความรู้สึกภายใน ต่อให้นางไม่เรียกเขา เขาคอยติดตามดูแลนางเสมออยู่แล้ว นางรีบยื่นหลังมือให้เขา ชายหนุ่มจ้องมองแต่ไม่เห็นสิ่งใดผิดปกติจึงย้ายสายตามาสบตากับดวงตาสุกใสของนาง “พี่ชายไม่เห็นรึ” “เห็นมือของเจ้า” “มือของข้าบวมแดงเพราะถูกผึ้งต่อย ท่านยังแกล้งทำเป็นไม่เห็นอีก” นางทำหน้างอง้ำ “ผึ้งต

    Last Updated : 2025-01-06
  • ลมหายใจมังกร   Chapter 9 . มีที่ไหนกัน! ว่าที่ลูกเขยอายุมากกว่าว่าที่พ่อตา

    แม้งานราชกิจมากมายเพียงใด ชินอ๋องผู้นี้ไม่เคยละเลยครอบครัวเลยสักคราเดียว ว่านหนิงเหมยซึ่งบัดนี้เป็นพระชายาขององค์ชายเฟยเทียนหรือชินอ๋อง นิ้วเรียวกำลังนวดคลึงกึ่งกลางหน้าผากให้ผู้เป็นสามีซึ่งเอนกายนอนบนตักของนางอยู่ “ดีขึ้นหรือไม่เพคะ” “ฮืม” เสียงครางรับคำในลำคอดังขึ้นก่อนที่จะเปิดเปลือกตาขึ้นและมองชายารักของตน “มองหม่อมฉันแบบนี้หมายความว่าอย่างไรเพคะ” ว่านหนิงเหมยถามกลบเกลื่อนความเขินอายที่ทำให้แก้มเนียนแดงระเรื่อ แม้อยู่กันมากว่าสิบเจ็ดปีแล้ว แต่นางยังคงเขินอายเมื่อถูกสายตาคมวาวคู่นี้จ้องมอง บุรุษวัยสี่สิบห้ายันกายลุกขึ้น มุมปากยกยิ้มโปรยเสน่ห์ แม้ยามนี้จะไม่มีรอยสักปีศาจมังกรเพลิงที่แขนซ้ายแล้ว แต่ร่างกายยังคงมีกรุ่นอายร้อนอยู่เสมอ เขาจึงมักสวมชุดนอนเนื้อผ้าบางเบาและยามนี้เสื้อตัวหลวมเผยแผ่นอกให้เห็นรำไร แม้จะมีลูกด้วยกันสามคนแล้ว เป็นสามีภรรยากันมาสิบเจ็ดปี แต่นางอดเขินอายกับการเย้ายวนของเขาไม่ได้เสียที เฟยเทียนพอใจกับการเห็นแก้มภรรยาแดงระเรื่อและเริ่มลามลำคอของนางแล้ว เขาหัวเราะในลำคอยื่นหน้าไปกดจุมพิตที่แก้มนุ่มเบาๆ คลอเ

    Last Updated : 2025-01-06
  • ลมหายใจมังกร   Chapter 10.สองสามีภรรยาหัวเราะให้กัน

    “ตอนนี้ซิ่นหลิงถอดแบบท่านมาจนแทบจะเรียกได้ว่าพิมพ์เดียวกัน คงใส่ชุดสตรีทำอะไรพิเรนทร์ตามใจซิ่นฮวาไม่ได้อีกแล้ว” สองสามีภรรยาหัวเราะให้กัน เขาเป็นคนรักลูกมาก ใครก็ดูออก และเขาไม่ปิดบังความรักที่มีต่อลูกๆ เลย ในวัยเด็กที่บิดาผู้เป็นถึงฮ่องเต้หมางเมินต่อเขาที่เป็นลูกชายของผู้หญิงที่บิดาไม่รักใคร่ แทบจำความรู้สึกที่บิดาจับมือจูงเดินไม่ได้เลย เมื่อถึงเวลาที่เขาได้กลายเป็นบิดา เขาไม่ลังเลหรือเกรงคำติฉินนินทาของผู้ใด อุ้มเจ้าตัวเล็กไว้ในวงแขน ถ้าลูกร้องอยากขี่คอเขาก็ยอมให้ขี่คอ ลูกป่วยไข้ไม่สบาย เขาก็คอยเฝ้าช่วยเช็ดตัวให้ลูกด้วยสองมือของตนเอง จูงมือพวกเขาเดิน จับมือพวกเขาฝึกเขียนชื่อตัวเอง จดจำได้แม้กระทั่งวันที่ลูกๆ เปล่งเสียงเรียก ‘พ่อ’ ‘แม่’ ครั้งแรก ทั้งสองพึงพอใจที่ให้เด็กๆ เรียก ‘ท่านพ่อ’ ‘ท่านแม่’ ใช่ชีวิตครอบครัวแสนธรรมดา ละทิ้งคำว่าเชื้อพระวงศ์และยศศักดิ์ไว้เบื้องหลัง กินอาหารมื้อเย็นร่วมกัน และมักมีเสียงหัวเราะทุกครั้ง มือเรียวยื่นไปแตะแก้มของชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า ดวงตาที่มองมีความหมายลึกซึ้ง “หม่อมฉันทำความดีใดไว้หนอจึงได้ครองคู่กับท่านอ๋อง

    Last Updated : 2025-01-06
  • ลมหายใจมังกร   Chapter 11.เป็นอะไรไปหรือเปล่านะ

    กลีบดอกสีขาวพิสุทธิ์กับกลิ่นหอมอ่อนจาง เคยเห็นจนชินตา แต่เมื่อวันหนึ่งไม่เห็นจึงรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง เช่นเดียวกับที่รู้สึกว่าระยะนี้ไร้ ‘เสียงเรียก’ ที่ทำให้เขารำคาญใจนัก เจ้าของเส้นผมสีเงินยวงส่ายหน้าไปมา มองดอกไม้อยู่ดีๆ ไฉนคิดถึงเจ้าเด็กดื้อรั้นคนนั้นไปได้ นั้นสิ! เงียบหายไปเลย เป็นอะไรไปหรือเปล่านะ ฮวงหลงมองกล่องใส่ใบชาในมือเผลอระบายลมหายใจอย่างไม่รู้ตัว แล้วพาตัวเองกลับมาตำหนักของตน แม้เขาจะเป็นเทพมังกรดินที่มนุษย์ให้ความเคารพบูชา แต่เมื่อนับศักดิ์ในเผ่าพันธุ์มังกร เขาเป็นเพียงเทพนักรบเท่านั้น หน้าที่เขาของคือจัดการเหล่าภูตมารปีศาจและเทพมังกรแตกแถว เมื่อร่างสูงโปร่งเดินออกมานอกตำหนักของเทพหนี่วาแล้ว เขาหยุดอยู่ครู่หนึ่ง ภูติวิหคนาม ‘ส่านเตี้ยน’ (ฟ้าแลบ) โบยบินผ่านกลีบเมฆมาปรากฏเบื้องหน้า ปีกสีฟ้าสดสวยยามกระพือปีกราวกับมีรัศมีอยู่รอบตัว ฮวงหลงเพียงยกมุมปากเป็นรอยยิ้ม “กลับไปก่อนเถิด ข้าจะแวะไปเยี่ยมเยือนสหายสักหน่อย” ภูติวิหคทำท่าคล้ายไม่พอใจ แต่มันยอมกระพือปีกอีกสองสามครั้งกลายร่างเป็นเพียงนกน้อยตัวหนึ่งเท่านั้

    Last Updated : 2025-01-08
  • ลมหายใจมังกร   Chapter 12. ครุ่นคิด

    “ได้ยินว่าเจ้าเมืองจะทำพิธีขอฝน” เยี่ยนหรงเหยาพูดอย่างไม่ใคร่ใส่ใจนัก เขาคร้านจะจดจำว่ากี่ครั้งแล้วที่ทำให้ไปแล้วก็ยังไร้เม็ดฝนสักหยด ฮวงหลงเคาะปลายนิ้วที่โต๊ะอย่างครุ่นคิด เขาไม่มีหน้าที่บันดาลฝน เขาเป็นเทพมังกรดินที่ดูแลพื้นดินและสายน้ำ ทว่าอดแปลกใจไม่ได้ที่เมืองที่ชุ่มชื้นแห่งนี้แล้งยาวนานถึงเพียงนี้ ดวงตาคู่คมปิดเปลือกตาลง เยี่ยนหรงเหยามองบุรุษเบื้องหน้า สิบปีมานี่จากร่างกายสภาพเด็กชายผอมบางที่ยื่นเท้าข้างหนึ่งเข้าไปประตูปรโลกแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะมีชีวิตยืนยาวมาถึงวันนี้ เขาชาชินกับความเป็นและความตายของตนเอง อาศัยว่าตระกูลเยี่ยนร่ำรวยจากเหมืองแร่เงิน ท่านลุงเป็นอัครเสนาบดี ลูกพี่ลูกน้องเป็นสนมขององค์ฮ่องเต้ เรื่องเหล่านี้เขาไม่ได้สนใจนัก ด้วยสภาพร่างกายอ่อนแอตั้งแต่กำเนิด เขาเป็นบุตรชายของฮูหยินใหญ่ ทว่ามารดาตั้งครรภ์แรกเมื่ออายุมาก การให้กำเนิดเขาเป็นเรื่องเสี่ยงต่อสภาพร่างกายนัก แต่กระนั้น สตรีผู้หนึ่งก็ใฝ่ฝันจะเป็นมารดาคนจึงสู้อดทนอุ้มท้องให้กำเนิดบุตรชาย ทว่ากลับเป็นลูกชายที่เสมือนโถยาเช่นเขา เพราะบารมีตระกูลเดิมของมารดา ความมั่งคั่งและฐาน

    Last Updated : 2025-01-08
  • ลมหายใจมังกร   Chapter 13. ทำไมพวกเจ้าถึงตัวสูงใหญ่กว่าข้านักนะ

    “ทำไมพวกเจ้าถึงตัวสูงใหญ่กว่าข้านักนะ” หญิงสาวบ่นอุบอิบแต่กระนั้นคนที่อยู่ด้านหลังยังได้ยิน กันอี๋ไม่เอ่ยอะไร ได้แต่สูดเอากลิ่นหอมจากเรือนกายของหญิงสาวไว้เต็มปอด เขาเดินทางไปพร้อมกับซิ่นหลิงและซาโม่ ครั้งสุดท้ายที่เห็นนางก็เป็นเพียงเด็กหญิงอายุสิบสอง ห้าปีผ่านมาจากเด็กผู้หญิงคนนั้นมาบัดนี้นางกลายเป็นหญิงสาวงดงามเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทว่าดวงตาคู่นี้ของนางยังคงประกายระยิบระยับ ยามนางยิ้มหรือหัวเราะ ดวงตาจะให้ประกายแวววาวเป็นความงามที่ตรึงคนที่เผลอสบตาให้ต้องลุ่มหลงไปในดวงตาคู่นี้ กันอี๋ควบม้าอย่างไม่เร่งรีบนัก ซิ่นหลิงนัดหมายเวลาและห้องที่เลือกไว้แล้ว เพื่อให้เขาพาซิ่นฮวาตามไปพอดี เขายอมรับว่าความคิดของนางช่างแปลกประหลาดนัก แต่ก็นั่นแหละ มันไม่แปลกเลยถ้าหากเป็นความคิดที่มาจากสมองน้อยๆ ของซิ่นฮวา เพราะนางมักมีความคิดแปลกประหลาดเช่นนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ใบหน้าที่มักเรียบเฉยอยู่เสมอปรากฏรอยยิ้ม นางเป็นเช่นนี้ตั้งแต่ยังเด็กจนเติบโตเป็นหญิงสาวงามสะพรั่งยังคงเป็นเช่นเดิม แม้เป็นบุตรีแสนรักของท่านอ๋องเฟยเทียนแต่นางกลับไม่เคย...ไม่เคยสักครั้งที่ใช้ยศศักดิ์

    Last Updated : 2025-01-08

Latest chapter

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 92.   จบ.

    ยังไม่ทันเอ่ยถามสิ่งใด นางรู้สึกว่าร่างของตนถูกส่งขึ้นบนหลังม้า คล้ายได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายของซาโม่ ตามด้วยเสียงของซิ่นหลิงห้ามไม่ให้ติดตามนางมา ม้าควบทะยานไปในความมืดมีแสงจันทราเต็มดวงส่องนำทาง สายลมปะทะร่างของนางแต่ไม่ได้ทำให้นางเหน็บหนาวเพราะผู้ที่บังคับม้านั้นกระชับเสื้อคลุมห่อหุ้มนางไว้มิดชิด นางแนบหน้ากับอกอุ่นวางความไว้ใจไว้ในอุ้งมือของชายที่ตนรัก ไม่ถึงครึ่งชั่วยามม้าก็ชะลอฝีเท้าลงจนหยุดนิ่ง ร่างของนางถูกประคองลงจากหลังม้าแล้วจึงแกะผ้าผูกตาของนางออก ซิ่นฮวาประหลาดใจกับภาพกระโจมเบื้องหน้า นางกวาดตามองไปรอบๆ กระโจมหลังใหญ่ตั้งใกล้สระน้ำขนาดใหญ่คล้ายจันทร์เสี้ยวที่ยามนี้ผิวน้ำสะท้อนแสงจันทรางดงาม “อ๊ะ!” ซิ่นฮวาหลุดปากหวีดร้องด้วยความตกใจที่จู่ๆ ร่างของนางก็ถูกแบกขึ้นบ่า นางเห็นรอยยิ้มและเสียงอวยพรของผู้คนที่ก้มศีรษะให้ระหว่างที่บุรุษหนุ่มแบกร่างเจ้าสาวเข้ากระโจมที่ถูกเตรียมไว้ ใบหน้าของชายหนุ่มเปี่ยมรอยยิ้มแห่งความสุข เขาพานางเข้ามาด้านในแล้ววางนางลงบนเตียงที่ปูด้วยผ้าไหมเรียบรื่น ภายนอกเป็นกระโจมที่แลดูเรียบง่ายแต่ด้านในมีเครื่องใช้หรูหราและอบอุ่

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 91.   ความปรารถนาของเจ้าสาว

    “ข้าไม่ปรารถนาพิธีใหญ่โต ขอแค่ท่านพ่อท่านแม่ยอมรับก็พอ” ความปรารถนาของเจ้าสาวคือพิธีแต่งงานอย่างเรียบง่าย ทว่าในเวลาเพียงเจ็ดวันตระกูลได้แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งร่ำรวยจัดงานแต่งงานขึ้นที่ตุนหวงตามคำร้องขอของบิดาเจ้าสาว เมื่อเสร็จพิธีจึงเดินทางกลับแคว้นหาน เจ็ดวันที่ตระเตรียมงานมงคล หญิงสาวไม่ได้รับอนุญาตให้พบหน้าบุรุษที่จะเป็นสามีในอนาคต ซิ่นหลิง ซิ่นสือ กันอี๋ และซาโม่ที่คอยส่งข่าวให้นางรู้ว่าเขาสบายดี ว่านหนิงเหมยมองดูบุตรสาวที่ยามนี้สวมชุดเจ้าสาวสีแดงมงคล หากจะกล่าวว่านางเตรียมชุดมงคลนี้ไว้ให้บุตรสาวนานแล้วก็เกรงว่าจะเป็นที่หัวเราะ คนเป็นมารดาหวังเพียงเห็นลูกๆ มีความสุขในชีวิตคู่ ครั้งที่นางแต่งงานนั้นเป็นสมรสพระราชทาน มารดาของนางไม่ได้ช่วยเหลือใดๆ ไม่มีสินเดิมให้ติดตัวมากนัก เมื่อถึงคราวลูกสาวของตนแต่งงาน นางจัดเตรียมไว้เต็มที่ มิใช่เพื่ออวดความร่ำรวยแต่เพื่อให้ลูกสาวไม่ลำบากในภายภาคหน้า ทว่านางมั่นใจว่าเจ้าบ่าวหรือว่าที่ลูกเขยคนนี้จะรักและดูแลแก้วตาดวงใจนางอย่างดียิ่ง นางเชื่อใจว่าเพราะคนผู้นั้นได้ยอมสละลมหายใจของตนเองเพื่อรักษาชีวิตของซิ

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 90.   สามีกอดภรรยาจะเป็นอะไรไป

    “อย่ากลัว มันจะปกป้องเจ้า” ดวงตางดงามเบิกตากว้าง น้ำตาที่เหือดแห้งไปหลั่งออกมาอีกระลอก “เป็นท่าน” ซิ่นฮวาจ้องมองเขา ระหว่างที่นางคลุกคลีในบ้านตระกูลเยี่ยน นางลอบถามบรรดาบ่าวไพร่ รับรู้มาว่าเยี่ยนหรงเหยาหมดสติไปนานห้าวัน ท่านหมอไม่อาจรั้งชีวิตได้ พลันจู่ๆ เขาก็ฟื้นขึ้นมา และร่างกายเกือบจะแข็งแรงดี ห้าวันที่เขาหมดสติไปคือวันที่เทพมังกรดินสูญสลายกลายเป็นหมอกสีเงินสลายมนตร์ดำที่ปกคลุมแคว้นหาน “ใจร้าย!” นางต่อว่าแล้วทำมือทุบแผ่นอกของเขาหลายครั้ง “ไยท่านไม่บอกข้าตั้งแต่แรก” ฮวงหลงเพิ่งรู้ว่ามือเรียวของนางมีน้ำหนักไม่น้อย แต่เขายอมให้นางทุบตีอยู่เช่นนั้นโดยไม่ปัดป้อง “สภาพข้าเช่นนี้ เจ้ายอมรับได้หรือ?” “ข้าเคยพูดแล้ว” นางฝืนกลั้นเสียงสะอื้น “ข้ารักท่านไม่ว่าท่านจะเป็นอย่างไรก็ตาม ข้ารักที่จิตใจของท่าน...แต่ท่าน...ท่านอยู่ตรงหน้าข้าแท้ๆ แต่ไม่ยอมเปิดเผยตัวเองแก่ข้า” “ฮวาเอ๋อร์ เขาเรียกนางอย่างอ่อนโยน รวบมือน้อยๆ ของนางไว้แล้วถอนหายใจแผ่วเบา “ข้ากำลังรับเคราะห์กรรมที่ทำไว้กับเจ้า ข้าเห็นเจ้า จดจำเจ้าได้ แต่เจ้ามองข

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 89.   ไม่มีวันลืม

    “ข้าจะไม่วันลืม” “อืม” ซ่งซีเหมยพยักหน้าและยิ้มรับถ้อยคำของเขา หัวใจเด็กหญิงพองโตอย่างน่าประหลาดใจ นางกลอกตาไปมาแล้วคิดได้ว่าเสร็จสิ้นภารกิจของตนแล้ว จึงหมุนตัวเดินออกมา แต่เดินจากมาได้ไม่กี่ก้าว นางก็นึกได้ว่าลืมกล่าวลาเขาจึงหมุนตัวกลับไปโบกไม้โบกมือ แล้วรีบหมุนตัวกลับออกวิ่งทันที กันอี๋ลุกขึ้นยืนช้าๆ มองร่างเล็กวิ่งไปจนสุดสายตา เขากังวลว่านางจะหกล้มอีก แต่ครั้งนี้นางวิ่งไปทางบุรุษผู้หนึ่งที่เหมือนจะยืนรออยู่นานแล้ว แม้จะเห็นไกลๆ แต่กันอี๋ก็เห็นสายตาของซ่งเหว่ยหนานจ้องมองมาทางเขา ก่อนจะยื่นมือไปรับน้องสาวให้เดินไปพร้อมกัน เด็กคนนั้นอายุเท่าไรกันนะ อายุสิบสองใช่ไหม? อายุน้อยกว่าเขาตั้งห้าปี เขาตบอกตัวเองเบาๆ ปิ่นหยกธรรมดาแต่เมื่อคนที่มอบให้เขานั้นไม่ธรรมดาเอาเสียเลย หรือว่าเขาควรจะสมัครเป็นองครักษ์ของเด็กน้อยคนนั้นดีนะ “เราไม่ได้เดินเล่นกันแบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ” ซ่งซีเหมยส่งเสียงเจื้อยแจ้วถามซ่งเหว่ยหนานที่จูงมือนางเดินดูโคมไฟหลากสีสันและน่าตาแปลกประหลาด “นั่นสินะ นานเพียงใดกันหนอ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ “พี่ช่างเป็นพี่ชายที่ไม่

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 88.  ไฉนกลับรู้สึกอาลัยอาวรณ์

    “พบสหายรู้ใจถือเป็นวาสนา” ฮวงหลงยิ้มบางๆ เขาไม่กล้าหาญพอที่จะเอ่ยกับนางว่าเขาคือ ‘ฮวงหลง’ และด้วยสภาพร่างกายที่อาศัยอยู่นี้ เส้นผมสีขาวโพลนเหมือนคนแก่ชรา ร่างกายยังอ่อนแอ และฐานะด้อยกว่านางมาก แม้รู้ว่านางไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยเรื่องเหล่านี้ ทว่า นางคิดว่าเขาจากนางไปแล้ว นางมีคนให้เลือกเคียงข้างมากนัก เขาได้แต่หวังว่าจะ...มีเยื่อใยใดบ้างที่นางจะสัมผัสถึงตัวเขาได้ ซ่งซีเหมยนั่งใกล้ๆ ซิ่นฮวา นางจิบน้ำชาและกินของว่างอย่างเพลิดเพลิน ช่วงเวลาที่นางป่วยอยู่นั้นกินอะไรไม่ค่อยได้มากนัก ซ้ำยังรู้สึกขมปลายลิ้นตลอดเวลาทำให้เบื่ออาหารไปด้วย แต่หลังจากปีศาจงูดำตายไป ร่างกายของนางก็ดีขึ้นหลายส่วน นางกลับมากินอาหารได้ปกติ อีกไม่นานร่างกายผ่ายผอมเหมือนเด็กโตไม่เต็มวัยนั้นคงสมบูรณ์ดีแลเป็นหญิงสาวกับคนอื่นบ้างกระมัง เด็กหญิงคิดในใจแอบลอบมองทางองครักษ์ของซิ่นฮวาหลายครั้ง เมื่อครู่นางแย่งปิ่นที่ซื้อมาจากมือแม่นมเก็บไว้ในอกเสื้ออย่างดี หวังใจว่าตัวเองจะมีความกล้าพอที่จะมอบให้... ซ่งเหวยหนานเดินเข้ามา สีหน้าอิดโรยอยู่บ้างแต่ยังคงประดับรอยยิ้ม ในฐานะผู้ปกครองแคว้นหาน แม้รับหน้า

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 87. สีหน้าเขินอายของเด็กหญิง

    “หายตกใจแล้วหรือไม่” กันอี๋เอ่ยขึ้นแต่ยังยืนนิ่ง ใบหน้าและน้ำเสียงเรียบเฉย เขาคว้าเอวบางของเด็กหญิงไว้ได้ทันก่อนที่หน้าคว่ำลงพื้นไป “อืม” ซ่งซีเหมยพยักหน้าหงึกหงัก คำตอบของนางทำให้สองมือที่จับเอวของนางอยู่นั้นยกตัวนางให้ปลายเท้ายืนบนพื้นดินแล้วค่อยคลายมือออก แต่ยังคงรอจนนางยืนได้มั่นคงแล้วจึงถอยออกไป เด็กหญิงทำตาปริบๆ นอกจากพี่ชายและท่านพ่อแล้ว นางไม่เคยใกล้ชิดบุรุษใดเช่นนี้มาก่อน กันอี๋ถอยห่างออกมารอจนเด็กหญิงตัวน้อยยืนได้มั่นคง ทว่าดวงตาคู่นั้นที่จ้องมองเขาและตามด้วยพวงแก้มที่แดงระเรื่อขึ้นมาอย่างช้าๆ ทำให้เขาเผลอขมวดคิ้ว ‘นางบาดเจ็บหรือไร?’ ขยับตัวเข้าไปใกล้หมายจะเอ่ยถาม แต่เด็กหญิงถอยหลังแล้ววิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังของซิ่นฮวา ทำให้เขาได้แต่อ้าปากค้างอย่างงุนงง “เป็นอะไรไปรึซีเหม่ย” ซิ่นฮวากลั้นหัวเราะ เข้าใจว่าเด็กน้อยคงเขินอายที่ตัวเองซุ่มซ่ามต่อหน้าผู้อื่น “ไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ” นางส่ายหน้าไปมาเร็วๆ ไม่กล้ามองไปทางองครักษ์ของซิ่นฮวา “ได้ยินว่าพี่สาวจะไปงานเลี้ยง ข้าจึงมาขอติดตามไปด้วย” “พี่ชายเจ้ารู้หรือไม่ที่จะไปกับข้า”

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 86. ใจอ่อน 

    “ข้าเดินกับสหายผู้หนึ่ง” เขาเอ่ยตอบไม่ได้โกหก เขาชอบเดินหมาก นอกจากมารดาของซิ่นฮวาที่เขาเองก็ไม่ได้เดินหมากกับนางมาหลายสิบปี เขาก็บังเอิญพบเยี่ยนหรงเหยาที่กลายเป็นสหายร่วมเดินหมาก เขาเอ่ยตอบแล้วประคองไหล่กลมมนให้นั่งลงที่เก้าอี้กลม เยี่ยนหรงเหยามิให้ใครแตะต้องหมากกระดานนี้ เฝ้ารอเพียงเดินหมากกับเขาเท่านั้น “ท่านหญิง เดินหมากกับข้าสักกระดานได้หรือไม่” นางเงยหน้าขึ้นมองเขา น้ำเสียงราบเรียบแต่ฟังแล้วชวนให้รู้สึกใจอ่อน นางพยักหน้ารับกวาดตามองหมากขาวดำบนหมากกระดาน กลวิธีเดินหมากวางเม็ดหมากตีวงล้อมก่อนค่อยๆ กินพื้นที่อีกฝ่ายอย่างใจเย็น ใบหน้าหวานระบายยิ้มอย่างไม่รู้ตัว หลายวันมานี้นางร้องไห้จนแทบหลงวันคืน นางไม่ได้ถามเขาว่าสหายที่เขาเดินหมากด้วยเป็นใคร แต่นางไม่แปลกใจถ้าสหายที่เคยเดินหมากกระดานนี้คือคนเดียวกับที่สอนนางจับเม็ดหมาก “เจ้าอยากเดินต่อจากหมากกระดานนี้หรือ?” เขาถามแล้วหันไปพยักหน้าเรียกบ่าวรับใช้ให้นำน้ำชาเข้ามา “จะดีหรือ?” “เจ้าเดินหมากขาว ข้าเดินหมากดำ” “ได้!” นางเงยหน้าขึ้นยิ้มด้วยดวงตาพราวระยับ นางรู้ว่ามันไม่เหมาะไม่ควร แต่การได้เดินหมากกระดานเดียวกับคนที่นางคิดถ

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 85.    ของที่นางโปรดปราน

    ซิ่นฮวาออกจะแปลกใจที่เห็นอาหารเบื้องหน้ามีแต่ของที่นางโปรดปราน นางชอบกินของทอดเป็นที่สุด ชอบมากพอๆ กับกินเนื้อแพะตุ๋นเครื่องยาจีนดีๆ ที่ทำให้เนื้อนุ่มจนแทบละลายในปาก และนางชอบกินผลไม้สดมากกว่าผลไม้ที่นำไปทำเป็นของหวาน เมื่อครั้งที่ลอบหลบหนีไปเที่ยวเล่นกับเทพมังกรดิน เขาจะนำผิงกั๋ว (แอปเปิ้ล) สีแดงสุกให้นางกัดกินบนหลังมังกรเสมอ แคว้นหานเพิ่งผ่านภัยแล้งมาได้ไม่กี่วัน แต่บ้านสกุลเยี่ยนดูจะไม่ขาดแคลนอาหารการกิน แน่นอนว่ายอมมีพอเหลือแจกจ่ายในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่ถูกเชื้อเชิญในมานั่งกินอาหารมื้อเที่ยงกับเยี่ยนหรงเหยา บิดาของเขาได้เข้ามาพูดคุยกับนางเล็กน้อยแต่ท่าทางเกรงอกเกรงใจเสียจนนางรู้สึกย่ำแย่เสียเอง กระนั้นนางย่อมเข้าใจดี ลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลเพิ่งฟื้นจากอาการเจ็บป่วยหนักที่เรียกว่าได้ไปก้าวเท้าข้างหนึ่งข้ามประตูปรโลกแล้วนั้น คนเป็นบิดาย่อมต้องเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ นางเองไม่คิดว่าการกินอาหารมื้อเที่ยงร่วมกันจะเป็นเรื่องสลักสำคัญอันใด จึงมิได้ปฏิเสธ นัยต์ตาดำขลับคู่นั้นทอดมองอย่างอ่อนโยน ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดในใจของหญิงสาวไม่น้อย ไม่ใช่สิ่งท

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 84.    เคยพบกันมาก่อน

    “นางเคยพบคุณชายเยี่ยนมาก่อนรึ” “เคยพบขอรับ” กันอี๋ตอบพลางระบายลมหายใจ ‘แต่ไม่คิดว่าจะยอมรั้งอยู่แคว้นหานเพื่อคนที่พบหน้าเพียงครู่เดียว’ ซิ่นหลิงได้แต่พยักหน้ารับ “นางเป็นคนใจอ่อน เห็นผู้อื่นเดือดร้อนย่อมยื่นมือช่วยเหลือ และในเวลาเช่นนี้ หากนางทำสิ่งใดแล้วสบายใจก็ปล่อยให้นางทำเถิด อย่างไรเจ้าช่วยดูแลนางด้วย เข้าใจหรือไม่ กันอี๋” “รับทราบ” กันอี๋รับคำหนักแน่นแต่ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอไม่พอใจของซาโม่ “เจ้ามันก็ตามใจนางนัก” ซาโม่พ่นลมออกทางจมูก “เจ้าไม่ได้เป็นแค่องครักษ์ของนาง แต่ยังเป็นสหายอีกด้วย สหายที่ดีย่อมค่อยตักเตือนกันมิใช่หรือ” ซาโม่ตำหนิต่อหน้าและรู้ดีว่ากันอี๋ไม่โต้ตอบ เขาโคลงศีรษะอย่างหงุดแล้วก้าวออกไปอย่างรวดเร็วราวกับภูติผีวิญญาณที่ไร้ร่องรอย ซิ่นหลิงยื่นมือไปแตะไหล่กันอี๋เป็นเชิงปลอบใจ เขารู้ดีว่ากันอี๋คิดอย่างไรกับซิ่นฮวาและความรู้สึกของกันอี๋นั้นเขาเชื่อเหลือเกินว่ากันอี๋จะไม่มีวันให้ซิ่นฮวารับรู้ เพราะสหายผู้นี้เจียมเนื้อเจียมตนยิ่งกว่าผู้ใด เขาไม่ได้สนับสนุนหรือส่งเสริมและไม่ได้ขัดขวาง แต่ด้วยนิสัยของกันอี๋ เข

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status