หญิงสาวในชุดเดรสสั้นลูกไม้สีชมพูกลีบบัว แม้ท่อนบนจะเป็นเสื้อแบบเปลือยไหล่ แต่ยังมีผ้าคลุมไหล่ไม่ให้รู้สึกเปิดเผยมากเกินไป เธอดูประหม่าและกระสับกระส่ายพลางขยับแว่นสายตาอยู่ตลอดเวลา
กวิวัชร์หรี่ตามองหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าห้องอาหารของโรงแรมหรูระดับห้าดาว มุมปากยกยิ้มแล้วสาวเท้าเข้าไปใกล้จึงเอ่ยปากทักทาย
“คุณพลอยดาว”
“ค่ะ!” หญิงสาวรีบตอบรับทันที สีหน้าดูแตกตื่นดูขัดกับชุดสวยที่เธอสวมอยู่
“มาแล้วทำไมไม่เข้าไปล่ะครับ ผมให้เลขา เอ่อ คุณพราวมุกจองโต๊ะให้เราแล้วนี่”
“พะ..พลอยเพิ่งมาถึงค่ะ” เธอไม่กล้าบอกว่ามารออยู่ราวยี่สิบนาทีแล้ว แต่เพราะไม่คุ้นชินกับร้านอาหารแบบนี้จึงคิดว่ารอเข้าไปพร้อมเขาดีกว่า
เขากวาดตามองเหมือนจับผิด แต่กระนั้นยังส่งยิ้มให้ก่อนผายมือเชิญให้เข้าไปด้านใน พนักงานต้อนรับคุ้นเคยกับกวิวัชร์เป็นอย่างดี เดินนำสองหนุ่มสาวมาที่โต๊ะพิเศษที่ถูกจองไว้แล้ว กวิวัชร์เป็นฝ่ายเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวด้วยตนเองก่อนจะนั่งตรงข้ามกับเธอ
“คุณพลอย...”
“ค่ะ!”
“ผมจะถามว่าผมเรียกคุณว่าพลอยได้ไหม” เขาพูดยิ้มๆ แล้วรับเมนูมาพลิกดู “อาหารที่นี่อร่อยทุกอย่าง ขึ้นชื่อที่สุดก็สเต็กไม่รู้ว่าคุณพลอยชอบแบบไหนครับ”
“อะไรก็ได้ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นผมขออนุญาตสั่งให้เลยนะครับ” เขาพูดยิ้มๆ แล้วสั่งอาหารกับบริกร “ขอไวน์ปิโนต์นัวร์ด้วยครับ”
“ดื่มไวน์เหรอคะ” หญิงสาวทำตาปริบๆ
“คุณพลอยก็ดื่มด้วยสิครับ เพื่อสุขภาพ” เขายังคงยิ้มเช่นเดิม แต่รอยยิ้มของเขาทำให้หญิงสาวหายใจไม่ทั่วท้อง
“คุณพลอยสนิทกับคุณพราวมุกไหมครับ” จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นพลางรับแก้วไวน์จากบริกรขึ้นดมกลิ่นก่อนจิบเล็กน้อย
“เราเป็นฝาแฝดกันก็ต้องสนิทกันสิค่ะ” เธอรับแก้วไวน์มาแล้วจิบเล็กน้อย รู้สึกว่าสายตาของเขายังจับจ้องที่ใบหู ทำให้เธอเผลอยกมือขึ้นแตะ
“ผมเป็นลูกคนเดียวเลยไม่รู้ว่าการมีพี่น้องเป็นยังไง” เขาพูดหลังจากดื่มไปอีกอึกใหญ่ “ไม่รู้ว่าพวกคุณเล่นสลับตัวกันบ่อยไหมครับ”
“แค่กๆ”
เสียงสำลักไวน์และท่าทางตกใจสุดขีดไม่อยู่เหนือการคาดหมายของกวิวัชร์เลยสักนิด เขายังหยิบผ้าเช็ดหน้าส่งให้เธอด้วยซ้ำ
“ว่าไงครับ คุณพราวมุก”
“บอส” คราวนี้หญิงสาวโอดครวญเบาๆ “บอสรู้ได้ไงว่าเป็นมุกคะ”
“ผมยอมรับว่าคุณสองคนเหมือนกันมากนะ แต่เอาจริงๆ ก็แยกได้ไม่ยากนัก ต่อให้คุณมุกแกล้งทำเป็นประหม่า ขัดเขิน แต่ผมรู้ว่าคุณพลอยดาวถึงจะดูเงียบๆ แต่ไม่ใช่คนขี้อายจนขาดความมั่นใจ” กวิวัชร์พูดตามที่ใจคิด “คุณกลัวผมจะหลอกพี่สาวคุณหรือครับคุณพราวมุก”
“ก็...ค่ะ” ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ถึงจะถูกไล่ออกก็ยอม ยังไงเธอไม่ยอมให้ใครมารังแกพลอยดาวได้เด็ดขาด
“นี่คุณไม่คิดว่าผมจะจริงใจกับคุณพลอยดาวเลยเหรอ” ได้เปิดอกคุยกันแล้วเขาก็ไม่ต้องอ้อมค้อม
“แต่บอสเจอพี่สาวมุกแค่สองครั้งเองนะคะ บอสถึงขนาดนัดดินเนอร์หรูแบบนี้เลยเหรอ ไม่น่าไว้ใจสักนิด”
“ถ้านัดแรกไม่หรูไม่ประทับใจจะมีครั้งต่อไปไหมล่ะครับ” กวิวัชร์หัวเราะอารมณ์ดีไม่นึกโกรธที่เลขาทำแบบนี้ “คุณพลอยดาวเป็นคนใจเย็นใช่ไหม ผมรู้สึกว่าถ้าได้อยู่ใกล้คนแบบนี้แล้วทำให้ใจสงบดี”
“อย่างนี้เอง” พราวมุกถอนหายใจโล่งอก มือเรียวเล็กหยิบสมาร์ทโฟนออกมาวางบนโต๊ะแล้วส่งเสียงถึงคนปลายสาย “ได้ยินแล้วใช่ไหม...พลอย”
“ผมแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันได้” กวิวัชร์ส่ายหน้าไปมา “อีกอย่างผมก็ไม่ใช่เด็ก ถ้าสนใจใครก็ไม่อยากเสียเวลา ลองทำความรู้จักกันเลยดีกว่า ถ้าไม่เวิร์คก็แยกย้ายกันไป”
“คุณแน่ใจหรือคะว่าพลอยจะไม่ทำให้คุณเสียเวลาอันมีค่าของคุณไป ทั้งที่รู้ว่าเราแตกต่างกันมาก”
กวิวัชร์เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงหวานใส เธอสวมชุดกระโปรงแบบเดียวกับพราวมุก สองคนนี้พอแต่งตัวเหมือนกันแทบแยกไม่ออกเลยจริงๆ แต่แววตาไม่ยอมคนคู่นั้น ทำให้เขารู้ว่าเธอคือพลอยดาว ไม่ใช่พราวมุก
พราวมุกลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วแตะไหล่พลอยดาวเบาๆ “เอาไงดี”
“พลอยจัดการเองได้”
“งั้นมุกกลับก่อนนะ ถ้ามีอะไรตามมุกได้ทันที”
“อืม” พลอยดาวพยักหน้ารับ
พราวมุกสูดลมหายใจลึก ยังไงก็ไม่ใช่เด็กแล้ว ถึงจะเป็นห่วงยังไง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของพลอยดาวต้องตัดสินใจเอง พราวมุกมองหน้ากวิวัชร์แล้วพูดขึ้น
“ถ้าบอสรังแกพี่สาวมุกล่ะก็ เจอดีแน่”
กวิวัชร์รับคำหนักแน่นแต่สายตาหยุดที่เจ้าของร่างอรชร พลอยดาวรอจนพราวมุกเดินออกไปแล้วจึงนั่งลงแทนที่น้องสาว นิ้วเรียวดันแว่นตาอย่างเคยชินไม่มีท่าทีหลบสายตาของเขา
“ผมสั่งริบอาย (Ribeye Steak)สเต็กไว้ คิดว่าคุณคงชอบ” เขายิ้มอารมณ์ดี “เปลี่ยนแก้วไหมครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” พลอยดาวไม่ถือที่จะดื่มแก้วเดียวกับน้องสาว ไวน์แก้วแรกผ่านลงคอกระตุ้นให้หัวใจเต้นแรง แต่พลอยดาวกลับรู้สึกสมองโล่งขึ้น “วิวชั้นสามสิบสี่นี่สวยดีเหมือนกันนะคะ”
“ครับ ผมมากินข้าวที่นี่หลายครั้ง บางทีการได้มองอะไรไกลๆ มันก็สบายตาดี”
“มองตอนมืดๆ ก็เห็นแต่ไฟดวงเล็กๆ กรุงเทพฯ นี่เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับจริงๆ” พลอยดาวเบ้ปาก “มองต้นไม้ยังสบายตากว่าอีก”
“อ้อ! เจ้าต้นอะไรนั้นยังอยู่ดีนะครับ” เขาหัวเราะเบาๆ รอจนบริกรยกอาหารมาเสิร์ฟออกไปแล้วจึงพูดต่อ “คุณไม่คิดถึงต้นไม้นั้นเหรอ มันชื่อต้นอะไรนะ”
“เศรษฐีเรือนในค่ะ”
หญิงสาวตอบแล้วลงมือกินอาหาร ไหนๆ ก็มีเจ้ามือแล้ว จะกินให้อิ่มหนำสำราญใจเลยทีเดียว แต่ท่าทางกินอย่างมีความสุขทำให้กวิวัชร์พอใจไม่น้อย เขาไม่ชอบเห็นคนกินเหมือนกลัวอ้วน มันพลอยทำให้ไม่อยากอาหารไปด้วย
ไม่รู้ว่าเพราะบริกรรินไวน์ให้ต่อเนื่องหรือเพราะบรรยากาศพาไป แก้มนวลจึงฝาดสีเลือดแดงเรื่อและแววตาอ่อนลง เสียงหัวเราะของเธอก็ถี่ขึ้น รวมทั้งท่าทางผ่อนคลายมากขึ้น
ไวน์แดงมีรสฝาดนำและเปรี้ยวหวานผสานซ่อนอยู่ภายใน เหมาะกับอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ใหญ่ เพราะความฝาดจะไปตัดความมันที่ปนในเนื้อไม่ให้เลี่ยน แต่ไม่เหมาะกับรสเผ็ดเพราะความฝาดจะเปลี่ยนเป็นรสขม และไม่เข้ากับอาหารทะเล เพราะความฝาดจะดันกลิ่นคาวออกมา ส่วนไวน์ขาวจะตรงกันข้ามกัน
ตอนนี้กวิวัชร์รู้สึกกลายร่างเป็นสัตว์กินเนื้อ อยากกินเจ้ากระต่ายน้อยขึ้นมาแล้วสิ
ทันทีที่บานประตูปิดลง มือแกร่งก็รวบร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอด แล้วโน้มหน้าลงประทับริมฝีปากอ่อนนุ่มที่เผยอขึ้นพอดี เขากลัวเธอเปลี่ยนใจ จึงรีบจูบเธอเสียก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกมา พลอยดาวไม่คิดว่าตัวเองจะตอบรับเขาง่ายดายหลังจากไวน์พร่องไปครึ่งขวด เธอไม่ใช่คนคออ่อนนัก เวลาไปออกงานกับพ่อก็ดื่มนิดๆหน่อยๆ พอเข้าสังคม และเป็นคนขับรถให้พ่ออยู่บ่อยๆ อาจเพราะครั้งนี้เธอไม่ตามพ่อไปสัมมนาต่างจังหวัดด้วย อาจเพราะเธอรู้สึกอิสระมากขึ้นเพราะเรียนจบแล้ว หรือเพราะคำชวนอันเย้ายวนของเขา ‘ถ้าคุณยังไม่พร้อมจะคบกับผม ถ้างั้นคืนนี้เรามีความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์ไหม’ ‘อะไรนะคะ’ ‘แค่คืนนี้และไม่ผูกมัด’พลอยดาวรู้ความหมายของประโยคนี้ดี แต่ไม่คิดว่าเขาเอ่ยปากชวนง่ายๆ หรือเพราะเขาทำให้มันเป็นเรื่องง่ายๆ เธอจึงตัดสินใจได้แทบจะในทันที เธอวางมือของตนบนฝ่ามือของเขาแทนคำตอบ และเขาก็กุมมือเธอเดินออกมาจากห้องอาหารชั้นที่สามสิบสี่มาห้องสวีทสุดหรูชั้นที่ห้าสิบสอง เพราะจิตใจจดจ่อกับมือที่กุมมือเธออยู่ทำให้ไม่ได้สนใจว่าเขาพาเธอมายังห้องสวีทนี้ได้ยังไง และเพียงบานประตูปิดลง ร่าง
มือแกร่งลูบไล้ไปตามเรือนร่างอ่อนนุ่มที่ทำให้เขารุ่มร้อน เขากอบกุมความเป็นชายที่สวมปราการไว้พร้อมรบถูไถกับร่องรักที่คับแคบ เรียวขางามแยกออกอย่างรอคอยเขากดแก่นกายแทรกลงไปในโพรงถ้ำสีหวาน“อึก...” ความเจ็บแปลบแล่นผ่านพร้อมกับแก่นกายร้อนระอุที่แทรกเข้ามา มือใหญ่กุมสะโพกเธอไว้มั่นไม่ให้ถอยหนี“อา” กวิวัชร์ครางเสียงต่ำเมื่อถูกบีบรัด เขาจ้องมองหญิงสาวที่กัดริมฝีปากแน่นเพื่อกลั้นเสียงร้อง เขาจึงโน้มหน้าลงจูบเธออีกครั้งพลางดันตัวตนเข้าไป ผนังอ่อนนุ่มโอบรัดแก่นกายเขาแน่น มันคับแคบจนเขาต้องถอนตัวออกช้าๆ แล้วค่อยๆ ดันกลับเข้าไปใหม่ เขาถอนแก่นกายออกเกือบสุดแล้วดันกลับเข้าไปอีก ซ้ำไปซ้ำมาจนหญิงสาวส่ายสะโพกอย่างไม่รู้ตัว ความอ่อนหวานที่ได้รับทำให้เขากดกระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุด หญิงสาวผวาเฮือกกอดไหล่เขาไว้แน่นสวรรค์! กวิวัชร์ตื่นตะลึงเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ แต่ไม่ใช่เวลาที่จะเอ่ยถาม เขาขยับสะโพกสอบเคลื่อนไหว ความเป็นชายของเขาฝังลึกในตัวเธอ นำพาความเสียวซ่านจนแทบคลั่ง เขาโยกเอวดุดันและซอยถี่ทำเอาหญิงสาวได้แต่ครางจนเสียงแหบแห้ง “ผ่อนคลายหน่อย ซี๊ด...แบบนั้นแหละ คุณน่ารักมาก พระเจ้า! คุ
กลิ่นอาหารหอมกรุ่นชวนน้ำลายสอ ทำเอาพราวมุกแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ พลอยดาวหัวเราะเบาๆ แล้วยกชามแกงส้มกุ้งมาวางตรงหน้า บนโต๊ะอาหารมีกับข้าวของโปรดน้องสาวฝาแฝดอีกสองอย่างคือปีกไก่กลางทอดและยำไข่เยี่ยวม้า ส่วนของพ่อเป็นผัดผักรวมมิตร “สุดยอดเลย” พราวมุกกุลีกุจอตักข้าวใส่จานทั้งสามใบ “มุกก็กลับมาอยู่บ้านสิ พลอยทำกับข้าวให้กินจะได้อ้วนๆ ลูกผอมไปนะ” คุณวิทยาบ่นแต่ก็อดยิ้มกับท่าทางซุกซนของลูกสาวไม่ได้ ส่วนอีกคนก็ดูเรียบร้อยสุขุมเป็นผู้ใหญ่เกินวัย ทั้งที่เป็นพี่น้องฝาแฝดกันแท้ๆ แต่นิสัยต่างกันมาก “ไปๆ มาๆ แบบนี้ดีกว่าค่ะ” พราวมุกยิ้มทะเล้นแล้วตักกุ้งในแกงส้มใส่จานข้าวของพ่อ “พ่อก็กินข้าวเยอะๆ นะคะ เห็นพลอยบอกว่าพ่อทำงานยุ่งกินข้าวไม่ค่อยเป็นเวลา” “ขอบใจลูก” พ่อยิ้มบางๆ “แล้วงานลูกเป็นไงบ้าง” “สนุกมากค่ะพ่อ เจ้านายพราวใจดีมากค่ะ” พราวมุกสบตากับพลอยดาว “ใช่ไหมพลอย” “หือ?” พ่อแปลกใจที่เห็นพราวมุกส่งสายตาซุกซนไปทางพลอยดาว เขามองลูกสาวอีกคนที่นั่งกินข้าวเงียบๆ “มีเรื่องอะไรที่พ่อไม่รู้หรือเปล่า” “ไม่มีค่ะ”
“พูดเรื่องนี้อีกแล้ว เจ้านายมุกจ้างมาเท่าไหร่ล่ะ หื้ม” “จ้างอะไร ก็แค่ถามพลอยดูเท่านั้น ถ้าพลอยไม่โอเค. บอสก็จ้างคนอื่นแค่นั้นเอง” ‘แค่นั้นเองเหรอ’ พลอยมุกเจ็บแปลบในอกอย่างไม่รู้สาเหตุ นั้นสินะ เธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย คนอย่างกวิวัชร์คงไม่ขาดแคลนผู้หญิงขนาดต้องตามเทียวไล้เทียวขื่อกับเธอหรอก เสียงกริ่งหน้าบ้านทำให้สองสาวหันมามองหน้ากัน พราวมุกพยักเพยิดให้พลอยดาวไปดูหน้าบ้าน ส่วนเธอเช็ดจานที่เหลืออีกสองสามใบก็เสร็จ พลอยดาวเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนแล้วเดินมาที่หน้าบ้าน ใบหน้าหวานระบายยิ้มแล้วเดินไปเปิดประตูรั้วให้ “พี่คิม ไม่ได้เห็นหน้านานเลยนะคะ” “น้องพลอย” คิมหันต์ยิ้มรับ “อาจารย์อยู่ไหมครับ” “อยู่ค่ะ เข้ามาได้เลยค่ะ ทำเหมือนไม่เคยมา” คิมหันต์หัวเราะเก้อๆ แล้วเหมือนนึกได้ก็รีบยื่นถุงผลไม้ส่งให้พลอยดาว “พี่ซื้อมาฝาก จำได้ว่าน้องพลอยชอบกินผลไม้มากกว่าขนมหวาน” “ขอบคุณค่ะ เข้ามาในบ้านเถอะ ข้างนอกร้อน” “ครับๆ” ชายหนุ่มผงกศีรษะเดินเข้ามาด้านในด้วยความเคยชิน เขาเองก็เข้าๆ ออกๆ บ้านอาจารย์มาหลายปี ตั้งแต่พลอยดาวเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ ยิ่งได้รู้จักกันมากขึ้น เขาก็
“ถ้าชอบคราวหน้าจะฝากมุกไปให้นะคะ กล่องนั้นของมุก มุกเขากลัวอ้วนเลยทำสูตรพิเศษให้ค่ะ”“ไม่ต้องฝากคุณมุกมาหรอกครับ” เขายิ้มกริ่ม “น้องพลอยมาหาพี่กั้งได้ตลอดเวลา”จู่ๆ เขาก็ทำตัวหวานเลี่ยนขึ้นมา ทำให้พลอยดาวหลุดหัวเราะพรืดออกมา เสียงหัวเราะและท่าทางผ่อนคลายของเธอดึงดูดสายตาของชายหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว“พูดปกติก็ได้ค่ะ” พลอยดาวเก็บทุกอย่างลงกระเป๋าเรียบร้อย “ตอนทำงานไม่เป็นแบบนี้นี่คะ”“ก็นั้นมันตอนทำงานนี่” เขายิ้มแล้วช่วยเธอถือกระเป๋าใส่ของ “เอาอะไรมาเยอะแยะ”“พลอยแปลบทความอยู่ค่ะ มีบางส่วนไม่มั่นใจก็เลยมาทำงานที่ห้องสมุด ที่นี่มีเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติอยู่ด้วย ถ้าติดขัดอะไรก็พอสอบถามได้” “นึกว่าน้องพลอยชอบทำงานที่บ้านเสียอีก” ดีที่เขาโทรมาขู่ เอ๊ย! โทรมาเช็กว่าเธออยู่ที่ไหนก่อนจึงตามมาเจอที่นี่ ไม่งั้นบุกไปที่บ้านก็คงไม่ได้เจอกัน“ชอบค่ะ” พลอยดาวพยักหน้ารับ “แต่คนเราก็ต้องออกนอกบ้านบ้าง” หญิงสาวเดินผ่านเคาน์เตอร์ห้องสมุด เธอเอ่ยลาบรรณารักษ์สาวแล้วเดินออกมาพร้อมกวิวัชร์ เท้าของเธอไปสะดุดธรณีประตูเสียจังหวะไปเล็กน้อยแต่ดันไปคว้าแขนของกวิวัชร์ได้ทัน ท่าทางของเธอกับเขาในตอนนี้จึงเหมือนค
“ก็ในมุมของน้องพลอย น้องพลอยคิดแทนพี่แล้วว่าพี่มองว่าน้องพลอยเป็นของแปลกในชีวิตพี่แต่ในมุมของน้องพลอยแล้ว พี่เป็นของแปลกในชีวิตของน้องพลอย จริงอยู่ที่วิถีการใช้ชีวิตของเราแทบไม่มีทางโคจรมาเจอกันได้เลย น้องพลอยทำงานด้านวิชาการ ส่วนพี่เป็นนักธุรกิจ หากไม่ใช่เพราะพราวมุกเราคงไม่ได้พบกัน แต่ไม่คิดบ้างหรือว่าโลกเหวี่ยงเราที่แตกต่างให้มาเจอกันที่ห้องสมุด พี่จำได้ว่าวันนั้นพี่พูดต่อหน้าพราวมุกไปแล้ว พี่ไม่ใช่เด็ก ถ้าสนใจใครก็ไม่อยากเสียเวลา ลองทำความรู้จักกันเลยดีกว่า ถ้าไม่เวิร์คก็แยกย้ายกันไป” “แล้วพี่กั้งคิดว่าความสัมพันธ์ของเรามันเวิร์คไหมคะ” “เวิร์คไม่เวิร์คไม่รู้ รู้แต่ว่า...” เขาวาดแขนโอบเอวบางเข้ามาแนบชิด “เราเข้ากันได้ทีเดียว” บางสิ่งในกางเกงแข็งขันดุนดันอย่างชัดเจน ทำเอาพลอยดาวหน้าเห่อร้อนขึ้นมา “พี่กั้ง...” “พี่คิดถึงน้องพลอยนะครับ” เขาพูดเสียงพร่าพลางโน้มหน้าลงมาขบใบหูอย่างหยอกล้อ “แค่คิดถึงมันก็เป็นแบบนี้แล้ว” หญิงสาวหลุดเสียงครางเมื่อลิ้นร้อนตวัดไล้เลียใบหู เธอเอียงตัวหนีแต่มือแกร่งโอบรัดร่างบางไว้แนบแน่น
“พี่อยากเห็นพลอยเสร็จ” เขากระซิบบอกแล้วจับจ้องหญิงสาวในกระจก เพิ่มนิ้วเข้าไปอีกนิ้ว ร่องรักตอดรัดถี่รัว มือใหญ่บีบเคล้นหน้าอกแรงขึ้น เธอขยับสะโพกรับจังหวะสาวนิ้วของเขา ริมฝีปากสวยเผยอขึ้นส่งเสียงครางเร่งเร้าให้นิ้วมือของเขายิ่งเร่งซอยถี่จนกระทั้งหญิงสาวหวีดร้องและกระตุกเกร็ง เขาถอนนิ้วแล้วส่งนิ้วที่เปื้อนน้ำรักเข้าปากตัวเองก่อนก้มหน้าจูบแก้มเร็วๆ ทีหนึ่ง “อาบน้ำกัน” พลอยดาวเหมือนเพิ่งได้สติ เธอชวนเขาอาบน้ำแต่ตอนนี้เธอเปียกชุ่มเพราะเขา เขารูดกางเกงของตนเองไปพ้นทาง เหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าและแก่นกายที่แข็งขันตั้งชันเหมือนเสาหิน เขาใช้ร่างกายใหญ่โตดันร่างเล็กเข้าไปใต้ฝักบัว เอื้อมมือเปิดน้ำให้น้ำอุ่นไหล่ผ่านทั่วร่างแล้วโน้มหน้าดูดกลีบปากสวย หน้าขาของเขาบดเบียดกึ่งกลางกายสาวมันเปียกร้อนขึ้นมาอีกครั้ง มือเรียวเล็กโอบกอดลูบไล้กล้ามเนื้อสวย เขาถอนจูบแล้วโน้มหน้าลงใช้ปากครอบครองยอดอกสีหวาน ลิ้นร้อนตวัดเลียสลับดูดดึงเรียกเสียงครางกระเส่า เขาออกแรงดูดดึงเหมือนหิวโหยและไม่อาจห้ามใจกับเนื้อหวานตรงหน้าได้ ผิวกายขาวละเอียดกลายเป็นรอยแดง ใต้สายน้ำที่พร่างพรมร
เครื่องครัวครบครันแบบที่คนชอบทำอาหารต้องร้องกรี๊ด แต่ดูเหมือนว่า แต่ละชิ้นแทบไม่เคยถูกใช้งานเลย พลอยดาวอุ่นอาหารด้วยเตาไมโครเวฟแล้วจัดใส่จานนำมาวางบนโต๊ะอาหาร เธอหันมาสบตากับดวงตาที่จ้องมองพร้อมรอยยิ้มกริ่ม “ยิ้มอะไรคะ” สายตาของเขาทำให้เธอเขินอาย รวมทั้งตอนนี้เธอสวมเสื้อยืดของเขาเพียงตัวเดียวเท่านั้น “ไม่คิดว่าการมีผู้หญิงอยู่ในบ้านจะรู้สึกดีอย่างนี้” เขาเท้าคางแล้วมองเธอยิ้มๆ “วิวดีด้วย” “ทะลึ่ง” เธอไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “กินได้แล้วค่ะ” “ครับๆ” เขาหัวเราะในลำคอมองดูเธอแบ่งสปาเก็ตตี้ใส่จานสองใบ แน่นอนว่าของเขาเยอะกว่าของเธอ “อิ่มเหรอ” “ยังมีสลัดกับปีกไก่อีกนะคะ”พลอยดาวดันแว่นตาชิดใบหน้า เพราะมัวแต่นัวเนียอยู่บนเตียงกว่าจะได้ลุกขึ้นมากินอาหารก็สองทุ่มแล้ว เธออาสาอุ่นอาหารที่เขาสั่งไว้ ถึงยังไงเธอก็ชอบกินของอุ่นร้อนมากกว่าเย็นชืด โทรศัพท์มือถือของพลอยดาวสั่นและมีข้อความใหม่ เธอใช้ปลายนิ้วเลื่อนอ่านข้อความขณะกินอาหารไปพร้อมกัน ดวงตางดงามเหลือบมองทางเขาเล็กน้อยก่อนหลุบตาลงแล้วพิมพ์ข้อความส่งไป