“ก็ในมุมของน้องพลอย น้องพลอยคิดแทนพี่แล้วว่าพี่มองว่าน้องพลอยเป็นของแปลกในชีวิตพี่แต่ในมุมของน้องพลอยแล้ว พี่เป็นของแปลกในชีวิตของน้องพลอย จริงอยู่ที่วิถีการใช้ชีวิตของเราแทบไม่มีทางโคจรมาเจอกันได้เลย น้องพลอยทำงานด้านวิชาการ ส่วนพี่เป็นนักธุรกิจ หากไม่ใช่เพราะพราวมุกเราคงไม่ได้พบกัน แต่ไม่คิดบ้างหรือว่าโลกเหวี่ยงเราที่แตกต่างให้มาเจอกันที่ห้องสมุด พี่จำได้ว่าวันนั้นพี่พูดต่อหน้าพราวมุกไปแล้ว พี่ไม่ใช่เด็ก ถ้าสนใจใครก็ไม่อยากเสียเวลา ลองทำความรู้จักกันเลยดีกว่า ถ้าไม่เวิร์คก็แยกย้ายกันไป” “แล้วพี่กั้งคิดว่าความสัมพันธ์ของเรามันเวิร์คไหมคะ” “เวิร์คไม่เวิร์คไม่รู้ รู้แต่ว่า...” เขาวาดแขนโอบเอวบางเข้ามาแนบชิด “เราเข้ากันได้ทีเดียว” บางสิ่งในกางเกงแข็งขันดุนดันอย่างชัดเจน ทำเอาพลอยดาวหน้าเห่อร้อนขึ้นมา “พี่กั้ง...” “พี่คิดถึงน้องพลอยนะครับ” เขาพูดเสียงพร่าพลางโน้มหน้าลงมาขบใบหูอย่างหยอกล้อ “แค่คิดถึงมันก็เป็นแบบนี้แล้ว” หญิงสาวหลุดเสียงครางเมื่อลิ้นร้อนตวัดไล้เลียใบหู เธอเอียงตัวหนีแต่มือแกร่งโอบรัดร่างบางไว้แนบแน่น
“พี่อยากเห็นพลอยเสร็จ” เขากระซิบบอกแล้วจับจ้องหญิงสาวในกระจก เพิ่มนิ้วเข้าไปอีกนิ้ว ร่องรักตอดรัดถี่รัว มือใหญ่บีบเคล้นหน้าอกแรงขึ้น เธอขยับสะโพกรับจังหวะสาวนิ้วของเขา ริมฝีปากสวยเผยอขึ้นส่งเสียงครางเร่งเร้าให้นิ้วมือของเขายิ่งเร่งซอยถี่จนกระทั้งหญิงสาวหวีดร้องและกระตุกเกร็ง เขาถอนนิ้วแล้วส่งนิ้วที่เปื้อนน้ำรักเข้าปากตัวเองก่อนก้มหน้าจูบแก้มเร็วๆ ทีหนึ่ง “อาบน้ำกัน” พลอยดาวเหมือนเพิ่งได้สติ เธอชวนเขาอาบน้ำแต่ตอนนี้เธอเปียกชุ่มเพราะเขา เขารูดกางเกงของตนเองไปพ้นทาง เหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าและแก่นกายที่แข็งขันตั้งชันเหมือนเสาหิน เขาใช้ร่างกายใหญ่โตดันร่างเล็กเข้าไปใต้ฝักบัว เอื้อมมือเปิดน้ำให้น้ำอุ่นไหล่ผ่านทั่วร่างแล้วโน้มหน้าดูดกลีบปากสวย หน้าขาของเขาบดเบียดกึ่งกลางกายสาวมันเปียกร้อนขึ้นมาอีกครั้ง มือเรียวเล็กโอบกอดลูบไล้กล้ามเนื้อสวย เขาถอนจูบแล้วโน้มหน้าลงใช้ปากครอบครองยอดอกสีหวาน ลิ้นร้อนตวัดเลียสลับดูดดึงเรียกเสียงครางกระเส่า เขาออกแรงดูดดึงเหมือนหิวโหยและไม่อาจห้ามใจกับเนื้อหวานตรงหน้าได้ ผิวกายขาวละเอียดกลายเป็นรอยแดง ใต้สายน้ำที่พร่างพรมร
เครื่องครัวครบครันแบบที่คนชอบทำอาหารต้องร้องกรี๊ด แต่ดูเหมือนว่า แต่ละชิ้นแทบไม่เคยถูกใช้งานเลย พลอยดาวอุ่นอาหารด้วยเตาไมโครเวฟแล้วจัดใส่จานนำมาวางบนโต๊ะอาหาร เธอหันมาสบตากับดวงตาที่จ้องมองพร้อมรอยยิ้มกริ่ม “ยิ้มอะไรคะ” สายตาของเขาทำให้เธอเขินอาย รวมทั้งตอนนี้เธอสวมเสื้อยืดของเขาเพียงตัวเดียวเท่านั้น “ไม่คิดว่าการมีผู้หญิงอยู่ในบ้านจะรู้สึกดีอย่างนี้” เขาเท้าคางแล้วมองเธอยิ้มๆ “วิวดีด้วย” “ทะลึ่ง” เธอไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “กินได้แล้วค่ะ” “ครับๆ” เขาหัวเราะในลำคอมองดูเธอแบ่งสปาเก็ตตี้ใส่จานสองใบ แน่นอนว่าของเขาเยอะกว่าของเธอ “อิ่มเหรอ” “ยังมีสลัดกับปีกไก่อีกนะคะ”พลอยดาวดันแว่นตาชิดใบหน้า เพราะมัวแต่นัวเนียอยู่บนเตียงกว่าจะได้ลุกขึ้นมากินอาหารก็สองทุ่มแล้ว เธออาสาอุ่นอาหารที่เขาสั่งไว้ ถึงยังไงเธอก็ชอบกินของอุ่นร้อนมากกว่าเย็นชืด โทรศัพท์มือถือของพลอยดาวสั่นและมีข้อความใหม่ เธอใช้ปลายนิ้วเลื่อนอ่านข้อความขณะกินอาหารไปพร้อมกัน ดวงตางดงามเหลือบมองทางเขาเล็กน้อยก่อนหลุบตาลงแล้วพิมพ์ข้อความส่งไป
“ไม่ต้องห่วงนะ ถึงพ่อพี่เป็นคนเจ้าชู้ แต่พี่สัญญาว่าจะไม่เจ้าชู้เหมือนพ่อแน่นอน พี่ตั้งใจจะมีเมียคนเดียว ถ้าแต่งงานกันแล้วไม่มีคนอื่นแน่นอน”“หมายความว่า ถ้ายังไม่แต่งก็จะมีคนอื่น”“น้องพลอย” เขาครางอย่างอ่อนใจ แต่เธอกลับหัวเราะเสียงใส เสียงหัวเราะของเธอ ทำให้คืนวันของเขากระจ่างราวกับอยู่ใต้แสงตะวันยามเช้า“พี่จริงจังนะครับ” พลอยดาวพูดเลียนเสียงของกวิวัชร์ เธอได้ยินประโยคนี้นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เธอหยิบกระดาษทิชชู่แล้วเช็ดมุมปากให้เขา“พลอยเข้าใจแล้วค่ะ เราจะค่อยๆ เรียนรู้กัน”“ขอบคุณครับ” เขายิ้มรับ “ขอสารภาพว่าพี่ไม่เคยใช้ครัวในห้องนี้เลย”“ไม่มีคนอื่นมาหรือคะ”“นอกจากแม่บ้านที่จ้างมาทำความสะอาดรายสัปดาห์แล้วก็ไม่มีครับ” เขายืนยัน “นี่เป็นฐานลับของพี่เลยนะ น้องพลอยเป็นคนแรก แล้วพี่จะทำคีย์การ์ดให้”เธออยากบอกว่าไม่เป็นไร แต่เห็นท่าทางกระตือรือร้นแล้วก็ไม่กล้าปฏิเสธ จึงได้แต่พยักหน้ารับ เธอจ้องหน้าเขาครุ่นคิดเรื่องที่เขาพูดถึงพ่อแล้วก็หลุดหัวเราะพรืดออกมา“น้องพลอย” เขาไม่รู้ว่าเธอหัวเราะอะไรเลยทำหน้าไม่ถูก“ขอโทษค่ะ” เธอโบกมือไปมาแต่ยังหัวเราะไม่หยุด“พูดมาเดี๋ยวนี้นะ” เขาขู่แต่สีหน
“พ่อยังไม่เคยเจอเขาเสียหน่อยทำไมพูดแบบนั้นไปได้เล่าคะ” พลอยดาวส่ายหน้าไปมา “ต้องอาจารย์หนุ่มๆ หรือนักวิชาการ หรือสายNGO หรือคะถึงจะเหมาะกับพลอย” “พ่อไม่ได้หมายความแบบนั้น...” “พลอยล้อเล่นค่ะพ่อ” ลูกสาวอดหยอกพ่อไม่ได้ “พลอยเองก็ไม่รู้ว่าจะคบกันยาวแค่ไหนเลยยังไม่ได้แนะนำให้พ่อรู้จัก แต่ถ้าพ่ออยากเจอ พลอยนัดให้ดีไหมคะ” “ก็ดีลูก” พ่อรู้สึกสบายใจขึ้นมา “เสาร์หน้ามีงานแสดงศิลปะและเสวนาวรรณกรรมที่หอศิลป์ฯ ลูกไปอ่านบทกวีแทนพ่อหน่อยสิ” “เสาร์หน้าหรือคะ” พลอยดาวหยิบโทรศัพท์มือถือมาเลื่อนดูบันทึกที่ทำไว้ “ได้ค่ะพ่อ” “อ้อ! จำอังเดรได้ใช่ไหม เขาอยากเจอลูกนะ เห็นว่าจะคุยเรื่องทุนเรียนต่อ” “คุณอังเดรกลับมาเมืองไทยแล้วเหรอคะ ไม่ได้เจอตั้งสองปี นึกว่าลืมกันไปแล้ว” “วันเสาร์เขาก็จะไปด้วย ยังไงลองคุยกันดูแล้วกัน” “แล้วถ้าเกิดพลอยได้ทุนไปเรียนไกลๆ พ่อจะอยู่ยังไงคะ” “ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ พ่อต้องสนับสนุนให้ลูกได้เรียนสูงที่สุดอยู่แล้ว” “ถ้าพลอยไม่อยู่ ใครจะดูแลพ่อ พ่อนะ ถ้าไม่มีคนคอยเตือ
พลอยดาวอยู่ในชุดกระโปรงผ้าต่อทอลายพื้นเมืองและสวมเสื้อสีขาวปักลายดอกไม้เล็กๆ ผมยาวรวบเป็นมวยง่ายๆ ปักปิ่นไม้สลักลายดอกพิกุล ใบหน้าแต้มแต่งพอดีไม่จัดจ้านหรือจืดชืดจนเกินไป ริมฝีปากที่เคลือบลิปสติกสีอ่อนใสขับเน้นกลีบปากอิ่มชวนมอง คุณวิทยามองดูลูกสาวที่เติบโตขึ้นจากวัยเยาว์ ที่ผ่านมาเขาอยู่กับลูกสาวเพียงสองคน แต่ไม่ใช่เขาหรอกที่ดูแลลูก ในทุกๆวัน ลูกเป็นฝ่ายดูแลเขาต่างหาก ไม่ว่าจะเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดลำบากแค่ไหน พลอยดาวไม่เคยบ่น บางทีเขาก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อที่ใช้ไม่ได้เอาเสียเลย “มีอะไรหรือเปล่าคะพ่อ” พลอยดาวถามเมื่อเห็นสายตาพ่อจ้องมองเธออยู่ ในมือถือแท็บเล็ตรุ่นเก่าที่ใช้งานมานานแต่ยังคงสภาพดี “พ่อมองลูกสาวตัวเองไม่ได้หรือไง” คุณวิทยาทำหน้ายุ่ง ลูกสาวสวยขนาดนี้แล้วสินะ ก็ไม่แปลกที่มีหนุ่มมาจีบ “วันนี้พ่อแปลกๆนะคะ” พลอยดาวจ้องมองเหมือนจับผิด “ทำอะไรผิดแล้วไม่บอกลูกหรือเปล่าคะ” “มีที่ไหนล่ะ” พ่อทำหน้าตึง วาดมาดเป็นคุณพ่อจอมหวง “ลูกทำอะไรไม่เกรงใจพ่อแบบนี้นะสิ มีแฟนถึงไม่ได้พามาให้พ่อเห็นหน้า” “
ไม่ต้องอธิบายมากความไป ดูเหมือนทุกคนเข้าใจความสัมพันธ์ของเธอกับเขาได้เป็นอย่างดี “แล้วนี่แยกยัยพลอยกับยัยมุกออกได้ยังไงล่ะ สองคนหน้าเหมือนกันมากเลยนะ” เพื่อนพ่อคนหนึ่งเอ่ยถามเหมือนอยากลองใจมากกว่าอยากได้คำตอบ กวิวัชร์เผลอสบตากับพ่อของพลอยดาว เห็นสีหน้าดุดันแบบหวงลูกสาวก็อดยิ้มในใจไม่ได้ แน่ละ เขาเจอแต่คนที่แทบจะถวายลูกสาวใส่พานให้ แต่พอเจออะไรแบบนี้กลับรู้สึกดีชอบกล เหมือนได้สิ่งของล้ำค่ามาอยู่กับมือ และต้องรักษาทะนุถนอมให้ดี “ความรู้สึกครับ” เขาตอบไปตามที่คิด “พราวมุกร่าเริงไม่ชอบอยู่นิ่งแต่พลอยดาวมีความสุขุม เป็นคนมีเหตุผลและใจเย็น อยู่ใกล้แล้วทำให้ใจสงบครับ” คำตอบของเขาเรียกเสียงผิวปากจากบรรดาศิลปินรุ่นลุง พวกเขาตบไหล่กวิวัชร์อย่างเป็นกันเองชวนพูดคุยอย่างไม่ถือตัวว่าอายุห่างกันรุ่นลูกรุ่นหลาน พลอยดาวเห็นพ่อนิ่งไปก็อดยื่นมือไปแตะแขนพ่อไม่ได้ “พ่อ...” คุณวิทยายิ้มให้ลูกสาว พลอยดาวกับพราวมุกเหมือนกันมาก แม้จะโตเป็นสาวแล้วก็เรียกว่าพิมพ์เดียวกันได้ มีแค่ลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน คนที่ใช้ใจมองจะเห็นความ
พลอยดาวพูดประโยคเดียวกับน้องสาวฝาแฝด พราวมุกพยักหน้าแล้วแล้วจับไหล่พยุงพี่สาวฝาแฝดให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เธอเดินวนดูรอบๆ วันนี้พลอยดาวไปงานเลี้ยงกับกวิวัชร์ เรียกว่าเปิดตัวหรูหรากันเลยทีเดียว เธอจึงเนรมิตพลอยดาวให้สวยหวานด้วยชุดราตรีเกาะอกกระโปรงด้านหน้าสั้นด้านหลังยาวอวดเรียวขาสวยด้วยสีม่วงลาเวนเดอร์ ผมยาวม้วนเป็นริ้วคลื่นประดับกิ๊บมุกสีขาวเข้ากับต่างหูและสร้อยคอ “ชุดสร้อยมุกของแม่ ชุดเดรสเช่ามา” พราวมุกหัวเราะเสียงใส เรื่องแต่งหน้าทำผมเธอถนัดนักล่ะ “บอกพระเอกด้วยห้ามฉีกทึ้งเสื้อผ้านางเอกเด็ดขาด” “ยัยมุก!” พลอยดาวเขินจัดยกมือขึ้นตีแขนพราวมุกแก้เขิน พราวมุกกระโดดหลบแล้วหัวเราะออกมาเป็นจังหวะที่โทรศัพท์มือถือของพลอยดาวดังขึ้นจึงเดินไปรับสาย พราวมุกจึงได้หยุดหอบหายใจเบาๆ “พี่กั้ง เอ่อ ท่านประธานมารับแล้ว พลอยไปก่อนนะ” “จ้า โชคดีนะ ต้องการความช่วยส่งSOS ขึ้นท้องฟ้าแล้วมุกจะไปหาทันที” พลอยดาวหัวเราะเสียงใส คว้ากระเป๋าถือแล้วเดินออกจากห้องของพราวมุกไป หญิงสาวเจ้าของห้องถอนหายใจเบาๆ เธอเป็นห่วงพลอยดาว มีแฟนคนแรกก็เป็นท่านประธานพั