“พูดเรื่องนี้อีกแล้ว เจ้านายมุกจ้างมาเท่าไหร่ล่ะ หื้ม”
“จ้างอะไร ก็แค่ถามพลอยดูเท่านั้น ถ้าพลอยไม่โอเค. บอสก็จ้างคนอื่นแค่นั้นเอง” ‘แค่นั้นเองเหรอ’ พลอยมุกเจ็บแปลบในอกอย่างไม่รู้สาเหตุ นั้นสินะ เธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย คนอย่างกวิวัชร์คงไม่ขาดแคลนผู้หญิงขนาดต้องตามเทียวไล้เทียวขื่อกับเธอหรอก เสียงกริ่งหน้าบ้านทำให้สองสาวหันมามองหน้ากัน พราวมุกพยักเพยิดให้พลอยดาวไปดูหน้าบ้าน ส่วนเธอเช็ดจานที่เหลืออีกสองสามใบก็เสร็จ พลอยดาวเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนแล้วเดินมาที่หน้าบ้าน ใบหน้าหวานระบายยิ้มแล้วเดินไปเปิดประตูรั้วให้ “พี่คิม ไม่ได้เห็นหน้านานเลยนะคะ” “น้องพลอย” คิมหันต์ยิ้มรับ “อาจารย์อยู่ไหมครับ” “อยู่ค่ะ เข้ามาได้เลยค่ะ ทำเหมือนไม่เคยมา” คิมหันต์หัวเราะเก้อๆ แล้วเหมือนนึกได้ก็รีบยื่นถุงผลไม้ส่งให้พลอยดาว “พี่ซื้อมาฝาก จำได้ว่าน้องพลอยชอบกินผลไม้มากกว่าขนมหวาน” “ขอบคุณค่ะ เข้ามาในบ้านเถอะ ข้างนอกร้อน” “ครับๆ” ชายหนุ่มผงกศีรษะเดินเข้ามาด้านในด้วยความเคยชิน เขาเองก็เข้าๆ ออกๆ บ้านอาจารย์มาหลายปี ตั้งแต่พลอยดาวเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ ยิ่งได้รู้จักกันมากขึ้น เขาก็นึกเอ็นดูพลอยดาวเหมือนน้องสาวแท้ๆ ของตัวเองเลยทีเดียว แต่การสนิทสนมแบบพี่น้องนี้ ทำให้ใครบางคนที่นั่งอยู่บนรถเก๋งคันหรูสีไวน์แดงเผลอขบกรามแน่นด้วยความไม่พอใจ นี่เขาจีบผู้หญิงไม่เก่ง หรือผู้หญิงคนนั้นความรู้สึกช้ากันแน่นะ ยัยพลอยดาว! .... เลขาฯ คนสวยนั่งพิมพ์สรุปการประชุมอย่างคล่องแคล่ว อีกสิบนาทีก็บ่ายสามโมงแล้ว พราวมุกไม่อยากทำงานล่วงเวลา แม้ที่บริษัทจ่ายโอทีให้ แต่เธอมีอย่างอื่นที่ต้องทำหลังเลิกงาน มือเรียวดึงลิ้นชักโต๊ะทำงานแอบหยิบคุกกี้ส่งเข้าปาก แต่ไม่คิดว่ายังไม่ทันเคี้ยวก็เห็นเจ้าหน้าหน้านิ่งเดินออกมาจากห้องทำงานและจ้องมองเธอ กวิวัชร์จ้องเหมือนจับผิดทำเอาพราวมุกไม่กล้าเคี้ยวทำได้แค่อมคุกกี้ในปาก ‘ให้ตายสิ! รู้งี้ให้ยัยพลอยทำคุกกี้ชิ้นเล็กๆดีกว่า’ แต่พราวมุกลืมไปว่า แค่เธอหักคุกกี้เป็นคำเล็กๆ ก็ไม่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้ ‘เป็นฝาแฝดที่นิสัยต่างกันมากจริงๆ’ กวิวัชร์ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว เขาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตให้อีกฝ่ายเคี้ยวสิ่งที่อยู่ในปาก “วันนี้คงไม่มีอะไรแล้ว ผมมีธุระจะไปข้างนอกและไม่กลับเข้ามาอีก ถ้ามีอะไรด่วนค่อยโทรหาผมหรือวางไว้บนโต๊ะทำงานได้” พราวมุกกลืนคุกกี้ชิ้นนั้นแล้วพยักหน้ารับ “บอสค่ะ ไม่ทราบว่าที่กลุ่มวรรณศิลป์ของมหาวิทยาลัยขอทุนไว้ บอสจะให้คำตอบได้เมื่อไหร่คะ” “ผมก็อยากสนับสนุนกิจกรรมนักศึกษานะ แต่โครงการนี้มันไม่น่าสนใจเลย ให้พวกเขาไปเขียนมาใหม่แล้วเสนอผมอีกทีก็แล้วกัน” “ได้ค่ะ มุกจะได้บอกพี่พลอย” “คุณมุกว่าอะไรนะครับ” แค่ได้ยินชื่อพลอยดาว เขาก็ตาวาวขึ้นทันที พราวมุกแสร้งทำเป็นไม่เห็นท่าทีแตกตื่นของเจ้านาย เธอเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะมาเปิดออกให้เขาดูรายชื่อในหน้าแรก “พี่พลอยเป็นศิษย์เก่าก็เลยรับเป็นที่ปรึกษาให้รุ่นน้อง” พราวมุกยังพูดไม่ทันจบ กวิวัชร์ก็คว้าแฟ้มเอกสารนั้นมาไว้ในมือแล้ว “เดี๋ยวผมจะเอาไปทบทวนอีกที แล้วผมจะโทรไปหาเอง” ‘บอสจะโทรหาเองเลยเหรอ อันที่จริงน่าจะโทรหานานแล้วนะ’ “ทราบแล้วค่ะ” พราวมุกยังคงสีหน้าเดิมไม่คิดพูดอะไรที่ใจคิด ยังไงเขาก็เจ้านายที่เธอฝากชีวิตไว้ว่าจะได้ทำงานที่นี่ แต่เพราะเขาเป็นเจ้านายนั้นแหละ ถ้าทำให้พี่สาวฝาแฝดของเธอเสียใจ เธอก็พร้อมจะขยำเขาเหมือนกัน “นั้น...คุกกี้ฝีมือคุณพลอยหรือเปล่า” “เอ่อ...ใช่ค่ะ” พราวมุกรีบหยิบกล่องคุกกี้ออกมาจากลิ้นชักโต๊ะ เปิดกล่องแล้วยื่นให้เจ้านาย “ฝีมือทำอาหารของพี่พลอยไม่เป็นรองเซฟกระทะเหล็กเลยค่ะ คุ้กกี้โฮมเมดนี่ก็...” “ผมขอทั้งกล่องก็แล้วกัน ขอบคุณครับ” พราวมุกอ้าปากค้างได้แต่มองร่างสูงใหญ่ในชุดสูทเรียบหรู เขาหยิบแฟ้มเอกสารในซอกแขนและถือกล่องคุกกี้สีชมพูหวานแหววติดมือออกไปด้วย บอสเดินเข้าลิฟต์ไปแล้วพราวมุกจึงได้สติแล้วร้องโอดครวญในอก โดนปล้นคุกกี้ไปหมดเลย! รู้งี้ซ่อนไว้สักสองชิ้นก่อนก็ยังดี! … พลอยดาวนั่งหน้าตึงในห้องสมุดเอกชน รู้สึกว่ากวิวัชร์กำลังก่อสงครามประสาทอยู่ เธอไม่อยากเจอเขา เขาก็หาเรื่องมาเจอแบบที่ปฏิเสธไม่ได้ “ห้ามกินขนมในห้องสมุดค่ะ” เธอมองกล่องคุกกี้ในมือของเขา และรู้ว่ามันเป็นคุกกี้ที่เธอทำให้พราวมุก “คุณก็ออกไปข้างนอกกับผมสิ” “ฉันไม่อยากไปกับคุณ” “พี่กั้ง” เขาแก้ให้ “ผมยังพูดเพราะๆ กับคุณเลย คุณก็พูดดีๆกับผมหน่อย” “นี่ดีที่สุดแล้วค่ะ” เธอขยับแว่นสายตาชิดใบหน้า “คุณจะคุยธุระอะไรก็คุยมาเถอะค่ะ” กวิวัชร์แสร้งทำเป็นถอนหายใจเหนื่อยๆ “ถ้ารุ่นน้องรู้ว่าโครงการนี้ไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุนเพราะรุ่นพี่ไม่ให้ความร่วมมือจะเป็นยังไงนะ” “คุณ!” “เรียกพี่กั้งสิครับ” พลอยดาวเม้มปากเน้นข่มความโมโหไว้ในอก ทำไมเขาเหมือนเด็กเอาแต่ใจอย่างนี้นะ “ถามจริงๆ เถอะค่ะ คุณต้องการอะไรกันแน่” พลอยดาวอ่อนใจ “ฉันไม่สเปกคุณ คุณไม่ต้องแกล้งสนใจฉันขนาดนี้” “คุณว่าผมแกล้งสนใจเหรอ” คราวนี้น้ำเสียงเขาจริงจังและดังขึ้นเล็กน้อย แต่เพราะในห้องสมุดค่อนข้างเงียบทำให้เสียงของเขาดังมากจนพลอยดาวตกใจยื่นมือไปปิดปากเขาอย่างรวดเร็ว “เบาหน่อยสิค่ะ” ทว่าชายหนุ่มกลับจับข้อมือเธอไว้ แล้วจูบกึ่งกลางฝ่ามือของหญิงสาว พลอยดาวพยายามดึงมือกลับแต่เขาไม่ยอมปล่อย แววตารุ่มร้อนที่จ้องมองทำเอาพลอยดาวร้อนผ่าวไปหมด และเผลอคิดถึงค่ำคืนเร่าร้อนคืนนั้น กวิวัชร์พอใจที่เห็นใบหน้าหวานแดงระเรื่อ เธอไม่ได้แข็งกระด้างอย่างที่เห็น “ถ้างั้นหาที่เงียบๆ คุยกันนะ” พลอยดาวรู้ว่าหลบไม่ได้อีกแล้วจึงไม่หลบอีก “แค่คุยนะคะ” “หรือคุณต้องการมากกว่าคุยก็ได้” “คุณนี่! ปล่อยได้แล้วค่ะ” “พี่กั้ง” เขายึดข้อมือเธอไว้ไม่ยอมปล่อย ทำให้เธอต้องเรียกชื่อตามที่เขาต้องการ “ปล่อยมือพลอยได้แล้วค่ะพี่กั้ง” เสียงหวานทำให้กวิวัชร์อารมณ์ดีและยอมปล่อยข้อมือของพลอยดาว เขาชอบเวลาที่เธอพูดน้ำเสียงแบบนี้กับเขา มันทำให้หัวใจของชุ่มชื้นอย่างบอกไม่ถูก “ขอเวลาพลอยเก็บของสักสิบนาทีนะคะ” เธอไม่รู้จะตั้งป้อมกับเขาไปทำไม อีกหน่อยเขาก็คงเบื่อเธอเองนั้นแหละ ขณะที่สองมือเก็บหนังสือหลายเล่มตรงหน้าและสมุดโน้ต สายตาของเธออดมองไปที่กล่องคุกกี้ไม่ได้“ถ้าชอบคราวหน้าจะฝากมุกไปให้นะคะ กล่องนั้นของมุก มุกเขากลัวอ้วนเลยทำสูตรพิเศษให้ค่ะ”“ไม่ต้องฝากคุณมุกมาหรอกครับ” เขายิ้มกริ่ม “น้องพลอยมาหาพี่กั้งได้ตลอดเวลา”จู่ๆ เขาก็ทำตัวหวานเลี่ยนขึ้นมา ทำให้พลอยดาวหลุดหัวเราะพรืดออกมา เสียงหัวเราะและท่าทางผ่อนคลายของเธอดึงดูดสายตาของชายหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว“พูดปกติก็ได้ค่ะ” พลอยดาวเก็บทุกอย่างลงกระเป๋าเรียบร้อย “ตอนทำงานไม่เป็นแบบนี้นี่คะ”“ก็นั้นมันตอนทำงานนี่” เขายิ้มแล้วช่วยเธอถือกระเป๋าใส่ของ “เอาอะไรมาเยอะแยะ”“พลอยแปลบทความอยู่ค่ะ มีบางส่วนไม่มั่นใจก็เลยมาทำงานที่ห้องสมุด ที่นี่มีเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติอยู่ด้วย ถ้าติดขัดอะไรก็พอสอบถามได้” “นึกว่าน้องพลอยชอบทำงานที่บ้านเสียอีก” ดีที่เขาโทรมาขู่ เอ๊ย! โทรมาเช็กว่าเธออยู่ที่ไหนก่อนจึงตามมาเจอที่นี่ ไม่งั้นบุกไปที่บ้านก็คงไม่ได้เจอกัน“ชอบค่ะ” พลอยดาวพยักหน้ารับ “แต่คนเราก็ต้องออกนอกบ้านบ้าง” หญิงสาวเดินผ่านเคาน์เตอร์ห้องสมุด เธอเอ่ยลาบรรณารักษ์สาวแล้วเดินออกมาพร้อมกวิวัชร์ เท้าของเธอไปสะดุดธรณีประตูเสียจังหวะไปเล็กน้อยแต่ดันไปคว้าแขนของกวิวัชร์ได้ทัน ท่าทางของเธอกับเขาในตอนนี้จึงเหมือนค
“ก็ในมุมของน้องพลอย น้องพลอยคิดแทนพี่แล้วว่าพี่มองว่าน้องพลอยเป็นของแปลกในชีวิตพี่แต่ในมุมของน้องพลอยแล้ว พี่เป็นของแปลกในชีวิตของน้องพลอย จริงอยู่ที่วิถีการใช้ชีวิตของเราแทบไม่มีทางโคจรมาเจอกันได้เลย น้องพลอยทำงานด้านวิชาการ ส่วนพี่เป็นนักธุรกิจ หากไม่ใช่เพราะพราวมุกเราคงไม่ได้พบกัน แต่ไม่คิดบ้างหรือว่าโลกเหวี่ยงเราที่แตกต่างให้มาเจอกันที่ห้องสมุด พี่จำได้ว่าวันนั้นพี่พูดต่อหน้าพราวมุกไปแล้ว พี่ไม่ใช่เด็ก ถ้าสนใจใครก็ไม่อยากเสียเวลา ลองทำความรู้จักกันเลยดีกว่า ถ้าไม่เวิร์คก็แยกย้ายกันไป” “แล้วพี่กั้งคิดว่าความสัมพันธ์ของเรามันเวิร์คไหมคะ” “เวิร์คไม่เวิร์คไม่รู้ รู้แต่ว่า...” เขาวาดแขนโอบเอวบางเข้ามาแนบชิด “เราเข้ากันได้ทีเดียว” บางสิ่งในกางเกงแข็งขันดุนดันอย่างชัดเจน ทำเอาพลอยดาวหน้าเห่อร้อนขึ้นมา “พี่กั้ง...” “พี่คิดถึงน้องพลอยนะครับ” เขาพูดเสียงพร่าพลางโน้มหน้าลงมาขบใบหูอย่างหยอกล้อ “แค่คิดถึงมันก็เป็นแบบนี้แล้ว” หญิงสาวหลุดเสียงครางเมื่อลิ้นร้อนตวัดไล้เลียใบหู เธอเอียงตัวหนีแต่มือแกร่งโอบรัดร่างบางไว้แนบแน่น
“พี่อยากเห็นพลอยเสร็จ” เขากระซิบบอกแล้วจับจ้องหญิงสาวในกระจก เพิ่มนิ้วเข้าไปอีกนิ้ว ร่องรักตอดรัดถี่รัว มือใหญ่บีบเคล้นหน้าอกแรงขึ้น เธอขยับสะโพกรับจังหวะสาวนิ้วของเขา ริมฝีปากสวยเผยอขึ้นส่งเสียงครางเร่งเร้าให้นิ้วมือของเขายิ่งเร่งซอยถี่จนกระทั้งหญิงสาวหวีดร้องและกระตุกเกร็ง เขาถอนนิ้วแล้วส่งนิ้วที่เปื้อนน้ำรักเข้าปากตัวเองก่อนก้มหน้าจูบแก้มเร็วๆ ทีหนึ่ง “อาบน้ำกัน” พลอยดาวเหมือนเพิ่งได้สติ เธอชวนเขาอาบน้ำแต่ตอนนี้เธอเปียกชุ่มเพราะเขา เขารูดกางเกงของตนเองไปพ้นทาง เหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าและแก่นกายที่แข็งขันตั้งชันเหมือนเสาหิน เขาใช้ร่างกายใหญ่โตดันร่างเล็กเข้าไปใต้ฝักบัว เอื้อมมือเปิดน้ำให้น้ำอุ่นไหล่ผ่านทั่วร่างแล้วโน้มหน้าดูดกลีบปากสวย หน้าขาของเขาบดเบียดกึ่งกลางกายสาวมันเปียกร้อนขึ้นมาอีกครั้ง มือเรียวเล็กโอบกอดลูบไล้กล้ามเนื้อสวย เขาถอนจูบแล้วโน้มหน้าลงใช้ปากครอบครองยอดอกสีหวาน ลิ้นร้อนตวัดเลียสลับดูดดึงเรียกเสียงครางกระเส่า เขาออกแรงดูดดึงเหมือนหิวโหยและไม่อาจห้ามใจกับเนื้อหวานตรงหน้าได้ ผิวกายขาวละเอียดกลายเป็นรอยแดง ใต้สายน้ำที่พร่างพรมร
เครื่องครัวครบครันแบบที่คนชอบทำอาหารต้องร้องกรี๊ด แต่ดูเหมือนว่า แต่ละชิ้นแทบไม่เคยถูกใช้งานเลย พลอยดาวอุ่นอาหารด้วยเตาไมโครเวฟแล้วจัดใส่จานนำมาวางบนโต๊ะอาหาร เธอหันมาสบตากับดวงตาที่จ้องมองพร้อมรอยยิ้มกริ่ม “ยิ้มอะไรคะ” สายตาของเขาทำให้เธอเขินอาย รวมทั้งตอนนี้เธอสวมเสื้อยืดของเขาเพียงตัวเดียวเท่านั้น “ไม่คิดว่าการมีผู้หญิงอยู่ในบ้านจะรู้สึกดีอย่างนี้” เขาเท้าคางแล้วมองเธอยิ้มๆ “วิวดีด้วย” “ทะลึ่ง” เธอไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “กินได้แล้วค่ะ” “ครับๆ” เขาหัวเราะในลำคอมองดูเธอแบ่งสปาเก็ตตี้ใส่จานสองใบ แน่นอนว่าของเขาเยอะกว่าของเธอ “อิ่มเหรอ” “ยังมีสลัดกับปีกไก่อีกนะคะ”พลอยดาวดันแว่นตาชิดใบหน้า เพราะมัวแต่นัวเนียอยู่บนเตียงกว่าจะได้ลุกขึ้นมากินอาหารก็สองทุ่มแล้ว เธออาสาอุ่นอาหารที่เขาสั่งไว้ ถึงยังไงเธอก็ชอบกินของอุ่นร้อนมากกว่าเย็นชืด โทรศัพท์มือถือของพลอยดาวสั่นและมีข้อความใหม่ เธอใช้ปลายนิ้วเลื่อนอ่านข้อความขณะกินอาหารไปพร้อมกัน ดวงตางดงามเหลือบมองทางเขาเล็กน้อยก่อนหลุบตาลงแล้วพิมพ์ข้อความส่งไป
“ไม่ต้องห่วงนะ ถึงพ่อพี่เป็นคนเจ้าชู้ แต่พี่สัญญาว่าจะไม่เจ้าชู้เหมือนพ่อแน่นอน พี่ตั้งใจจะมีเมียคนเดียว ถ้าแต่งงานกันแล้วไม่มีคนอื่นแน่นอน”“หมายความว่า ถ้ายังไม่แต่งก็จะมีคนอื่น”“น้องพลอย” เขาครางอย่างอ่อนใจ แต่เธอกลับหัวเราะเสียงใส เสียงหัวเราะของเธอ ทำให้คืนวันของเขากระจ่างราวกับอยู่ใต้แสงตะวันยามเช้า“พี่จริงจังนะครับ” พลอยดาวพูดเลียนเสียงของกวิวัชร์ เธอได้ยินประโยคนี้นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เธอหยิบกระดาษทิชชู่แล้วเช็ดมุมปากให้เขา“พลอยเข้าใจแล้วค่ะ เราจะค่อยๆ เรียนรู้กัน”“ขอบคุณครับ” เขายิ้มรับ “ขอสารภาพว่าพี่ไม่เคยใช้ครัวในห้องนี้เลย”“ไม่มีคนอื่นมาหรือคะ”“นอกจากแม่บ้านที่จ้างมาทำความสะอาดรายสัปดาห์แล้วก็ไม่มีครับ” เขายืนยัน “นี่เป็นฐานลับของพี่เลยนะ น้องพลอยเป็นคนแรก แล้วพี่จะทำคีย์การ์ดให้”เธออยากบอกว่าไม่เป็นไร แต่เห็นท่าทางกระตือรือร้นแล้วก็ไม่กล้าปฏิเสธ จึงได้แต่พยักหน้ารับ เธอจ้องหน้าเขาครุ่นคิดเรื่องที่เขาพูดถึงพ่อแล้วก็หลุดหัวเราะพรืดออกมา“น้องพลอย” เขาไม่รู้ว่าเธอหัวเราะอะไรเลยทำหน้าไม่ถูก“ขอโทษค่ะ” เธอโบกมือไปมาแต่ยังหัวเราะไม่หยุด“พูดมาเดี๋ยวนี้นะ” เขาขู่แต่สีหน
“พ่อยังไม่เคยเจอเขาเสียหน่อยทำไมพูดแบบนั้นไปได้เล่าคะ” พลอยดาวส่ายหน้าไปมา “ต้องอาจารย์หนุ่มๆ หรือนักวิชาการ หรือสายNGO หรือคะถึงจะเหมาะกับพลอย” “พ่อไม่ได้หมายความแบบนั้น...” “พลอยล้อเล่นค่ะพ่อ” ลูกสาวอดหยอกพ่อไม่ได้ “พลอยเองก็ไม่รู้ว่าจะคบกันยาวแค่ไหนเลยยังไม่ได้แนะนำให้พ่อรู้จัก แต่ถ้าพ่ออยากเจอ พลอยนัดให้ดีไหมคะ” “ก็ดีลูก” พ่อรู้สึกสบายใจขึ้นมา “เสาร์หน้ามีงานแสดงศิลปะและเสวนาวรรณกรรมที่หอศิลป์ฯ ลูกไปอ่านบทกวีแทนพ่อหน่อยสิ” “เสาร์หน้าหรือคะ” พลอยดาวหยิบโทรศัพท์มือถือมาเลื่อนดูบันทึกที่ทำไว้ “ได้ค่ะพ่อ” “อ้อ! จำอังเดรได้ใช่ไหม เขาอยากเจอลูกนะ เห็นว่าจะคุยเรื่องทุนเรียนต่อ” “คุณอังเดรกลับมาเมืองไทยแล้วเหรอคะ ไม่ได้เจอตั้งสองปี นึกว่าลืมกันไปแล้ว” “วันเสาร์เขาก็จะไปด้วย ยังไงลองคุยกันดูแล้วกัน” “แล้วถ้าเกิดพลอยได้ทุนไปเรียนไกลๆ พ่อจะอยู่ยังไงคะ” “ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ พ่อต้องสนับสนุนให้ลูกได้เรียนสูงที่สุดอยู่แล้ว” “ถ้าพลอยไม่อยู่ ใครจะดูแลพ่อ พ่อนะ ถ้าไม่มีคนคอยเตือ
พลอยดาวอยู่ในชุดกระโปรงผ้าต่อทอลายพื้นเมืองและสวมเสื้อสีขาวปักลายดอกไม้เล็กๆ ผมยาวรวบเป็นมวยง่ายๆ ปักปิ่นไม้สลักลายดอกพิกุล ใบหน้าแต้มแต่งพอดีไม่จัดจ้านหรือจืดชืดจนเกินไป ริมฝีปากที่เคลือบลิปสติกสีอ่อนใสขับเน้นกลีบปากอิ่มชวนมอง คุณวิทยามองดูลูกสาวที่เติบโตขึ้นจากวัยเยาว์ ที่ผ่านมาเขาอยู่กับลูกสาวเพียงสองคน แต่ไม่ใช่เขาหรอกที่ดูแลลูก ในทุกๆวัน ลูกเป็นฝ่ายดูแลเขาต่างหาก ไม่ว่าจะเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดลำบากแค่ไหน พลอยดาวไม่เคยบ่น บางทีเขาก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อที่ใช้ไม่ได้เอาเสียเลย “มีอะไรหรือเปล่าคะพ่อ” พลอยดาวถามเมื่อเห็นสายตาพ่อจ้องมองเธออยู่ ในมือถือแท็บเล็ตรุ่นเก่าที่ใช้งานมานานแต่ยังคงสภาพดี “พ่อมองลูกสาวตัวเองไม่ได้หรือไง” คุณวิทยาทำหน้ายุ่ง ลูกสาวสวยขนาดนี้แล้วสินะ ก็ไม่แปลกที่มีหนุ่มมาจีบ “วันนี้พ่อแปลกๆนะคะ” พลอยดาวจ้องมองเหมือนจับผิด “ทำอะไรผิดแล้วไม่บอกลูกหรือเปล่าคะ” “มีที่ไหนล่ะ” พ่อทำหน้าตึง วาดมาดเป็นคุณพ่อจอมหวง “ลูกทำอะไรไม่เกรงใจพ่อแบบนี้นะสิ มีแฟนถึงไม่ได้พามาให้พ่อเห็นหน้า” “
ไม่ต้องอธิบายมากความไป ดูเหมือนทุกคนเข้าใจความสัมพันธ์ของเธอกับเขาได้เป็นอย่างดี “แล้วนี่แยกยัยพลอยกับยัยมุกออกได้ยังไงล่ะ สองคนหน้าเหมือนกันมากเลยนะ” เพื่อนพ่อคนหนึ่งเอ่ยถามเหมือนอยากลองใจมากกว่าอยากได้คำตอบ กวิวัชร์เผลอสบตากับพ่อของพลอยดาว เห็นสีหน้าดุดันแบบหวงลูกสาวก็อดยิ้มในใจไม่ได้ แน่ละ เขาเจอแต่คนที่แทบจะถวายลูกสาวใส่พานให้ แต่พอเจออะไรแบบนี้กลับรู้สึกดีชอบกล เหมือนได้สิ่งของล้ำค่ามาอยู่กับมือ และต้องรักษาทะนุถนอมให้ดี “ความรู้สึกครับ” เขาตอบไปตามที่คิด “พราวมุกร่าเริงไม่ชอบอยู่นิ่งแต่พลอยดาวมีความสุขุม เป็นคนมีเหตุผลและใจเย็น อยู่ใกล้แล้วทำให้ใจสงบครับ” คำตอบของเขาเรียกเสียงผิวปากจากบรรดาศิลปินรุ่นลุง พวกเขาตบไหล่กวิวัชร์อย่างเป็นกันเองชวนพูดคุยอย่างไม่ถือตัวว่าอายุห่างกันรุ่นลูกรุ่นหลาน พลอยดาวเห็นพ่อนิ่งไปก็อดยื่นมือไปแตะแขนพ่อไม่ได้ “พ่อ...” คุณวิทยายิ้มให้ลูกสาว พลอยดาวกับพราวมุกเหมือนกันมาก แม้จะโตเป็นสาวแล้วก็เรียกว่าพิมพ์เดียวกันได้ มีแค่ลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน คนที่ใช้ใจมองจะเห็นความ