Share

Chapter 10  ไม่รู้สาเหตุ

 “พูดเรื่องนี้อีกแล้ว เจ้านายมุกจ้างมาเท่าไหร่ล่ะ หื้ม”

 “จ้างอะไร ก็แค่ถามพลอยดูเท่านั้น ถ้าพลอยไม่โอเค. บอสก็จ้างคนอื่นแค่นั้นเอง”

 ‘แค่นั้นเองเหรอ’

 พลอยมุกเจ็บแปลบในอกอย่างไม่รู้สาเหตุ นั้นสินะ เธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย  คนอย่างกวิวัชร์คงไม่ขาดแคลนผู้หญิงขนาดต้องตามเทียวไล้เทียวขื่อกับเธอหรอก 

 เสียงกริ่งหน้าบ้านทำให้สองสาวหันมามองหน้ากัน พราวมุกพยักเพยิดให้พลอยดาวไปดูหน้าบ้าน ส่วนเธอเช็ดจานที่เหลืออีกสองสามใบก็เสร็จ  พลอยดาวเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนแล้วเดินมาที่หน้าบ้าน ใบหน้าหวานระบายยิ้มแล้วเดินไปเปิดประตูรั้วให้

 “พี่คิม ไม่ได้เห็นหน้านานเลยนะคะ”

 “น้องพลอย”  คิมหันต์ยิ้มรับ “อาจารย์อยู่ไหมครับ”

 “อยู่ค่ะ เข้ามาได้เลยค่ะ ทำเหมือนไม่เคยมา” 

 คิมหันต์หัวเราะเก้อๆ แล้วเหมือนนึกได้ก็รีบยื่นถุงผลไม้ส่งให้พลอยดาว “พี่ซื้อมาฝาก จำได้ว่าน้องพลอยชอบกินผลไม้มากกว่าขนมหวาน”

 “ขอบคุณค่ะ เข้ามาในบ้านเถอะ ข้างนอกร้อน”

 “ครับๆ”  ชายหนุ่มผงกศีรษะเดินเข้ามาด้านในด้วยความเคยชิน  เขาเองก็เข้าๆ ออกๆ บ้านอาจารย์มาหลายปี ตั้งแต่พลอยดาวเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ ยิ่งได้รู้จักกันมากขึ้น เขาก็นึกเอ็นดูพลอยดาวเหมือนน้องสาวแท้ๆ ของตัวเองเลยทีเดียว 

 แต่การสนิทสนมแบบพี่น้องนี้ ทำให้ใครบางคนที่นั่งอยู่บนรถเก๋งคันหรูสีไวน์แดงเผลอขบกรามแน่นด้วยความไม่พอใจ  นี่เขาจีบผู้หญิงไม่เก่ง หรือผู้หญิงคนนั้นความรู้สึกช้ากันแน่นะ ยัยพลอยดาว! 

....

 เลขาฯ คนสวยนั่งพิมพ์สรุปการประชุมอย่างคล่องแคล่ว อีกสิบนาทีก็บ่ายสามโมงแล้ว  พราวมุกไม่อยากทำงานล่วงเวลา แม้ที่บริษัทจ่ายโอทีให้ แต่เธอมีอย่างอื่นที่ต้องทำหลังเลิกงาน มือเรียวดึงลิ้นชักโต๊ะทำงานแอบหยิบคุกกี้ส่งเข้าปาก  แต่ไม่คิดว่ายังไม่ทันเคี้ยวก็เห็นเจ้าหน้าหน้านิ่งเดินออกมาจากห้องทำงานและจ้องมองเธอ  กวิวัชร์จ้องเหมือนจับผิดทำเอาพราวมุกไม่กล้าเคี้ยวทำได้แค่อมคุกกี้ในปาก 

 ‘ให้ตายสิ! รู้งี้ให้ยัยพลอยทำคุกกี้ชิ้นเล็กๆดีกว่า’ 

 แต่พราวมุกลืมไปว่า แค่เธอหักคุกกี้เป็นคำเล็กๆ ก็ไม่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้

 ‘เป็นฝาแฝดที่นิสัยต่างกันมากจริงๆ’

 กวิวัชร์ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว เขาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตให้อีกฝ่ายเคี้ยวสิ่งที่อยู่ในปาก 

 “วันนี้คงไม่มีอะไรแล้ว ผมมีธุระจะไปข้างนอกและไม่กลับเข้ามาอีก ถ้ามีอะไรด่วนค่อยโทรหาผมหรือวางไว้บนโต๊ะทำงานได้”

 พราวมุกกลืนคุกกี้ชิ้นนั้นแล้วพยักหน้ารับ “บอสค่ะ ไม่ทราบว่าที่กลุ่มวรรณศิลป์ของมหาวิทยาลัยขอทุนไว้ บอสจะให้คำตอบได้เมื่อไหร่คะ”  

 “ผมก็อยากสนับสนุนกิจกรรมนักศึกษานะ แต่โครงการนี้มันไม่น่าสนใจเลย ให้พวกเขาไปเขียนมาใหม่แล้วเสนอผมอีกทีก็แล้วกัน”

 “ได้ค่ะ มุกจะได้บอกพี่พลอย”

 “คุณมุกว่าอะไรนะครับ” แค่ได้ยินชื่อพลอยดาว เขาก็ตาวาวขึ้นทันที

 พราวมุกแสร้งทำเป็นไม่เห็นท่าทีแตกตื่นของเจ้านาย เธอเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะมาเปิดออกให้เขาดูรายชื่อในหน้าแรก

 “พี่พลอยเป็นศิษย์เก่าก็เลยรับเป็นที่ปรึกษาให้รุ่นน้อง” พราวมุกยังพูดไม่ทันจบ กวิวัชร์ก็คว้าแฟ้มเอกสารนั้นมาไว้ในมือแล้ว 

 “เดี๋ยวผมจะเอาไปทบทวนอีกที แล้วผมจะโทรไปหาเอง”

 ‘บอสจะโทรหาเองเลยเหรอ อันที่จริงน่าจะโทรหานานแล้วนะ’

 “ทราบแล้วค่ะ” พราวมุกยังคงสีหน้าเดิมไม่คิดพูดอะไรที่ใจคิด ยังไงเขาก็เจ้านายที่เธอฝากชีวิตไว้ว่าจะได้ทำงานที่นี่ แต่เพราะเขาเป็นเจ้านายนั้นแหละ ถ้าทำให้พี่สาวฝาแฝดของเธอเสียใจ เธอก็พร้อมจะขยำเขาเหมือนกัน

 “นั้น...คุกกี้ฝีมือคุณพลอยหรือเปล่า”

 “เอ่อ...ใช่ค่ะ” พราวมุกรีบหยิบกล่องคุกกี้ออกมาจากลิ้นชักโต๊ะ เปิดกล่องแล้วยื่นให้เจ้านาย “ฝีมือทำอาหารของพี่พลอยไม่เป็นรองเซฟกระทะเหล็กเลยค่ะ คุ้กกี้โฮมเมดนี่ก็...”

 “ผมขอทั้งกล่องก็แล้วกัน ขอบคุณครับ”

 พราวมุกอ้าปากค้างได้แต่มองร่างสูงใหญ่ในชุดสูทเรียบหรู เขาหยิบแฟ้มเอกสารในซอกแขนและถือกล่องคุกกี้สีชมพูหวานแหววติดมือออกไปด้วย บอสเดินเข้าลิฟต์ไปแล้วพราวมุกจึงได้สติแล้วร้องโอดครวญในอก 

 โดนปล้นคุกกี้ไปหมดเลย! รู้งี้ซ่อนไว้สักสองชิ้นก่อนก็ยังดี!

พลอยดาวนั่งหน้าตึงในห้องสมุดเอกชน รู้สึกว่ากวิวัชร์กำลังก่อสงครามประสาทอยู่ เธอไม่อยากเจอเขา เขาก็หาเรื่องมาเจอแบบที่ปฏิเสธไม่ได้ 

“ห้ามกินขนมในห้องสมุดค่ะ” เธอมองกล่องคุกกี้ในมือของเขา และรู้ว่ามันเป็นคุกกี้ที่เธอทำให้พราวมุก 

“คุณก็ออกไปข้างนอกกับผมสิ”

“ฉันไม่อยากไปกับคุณ”

“พี่กั้ง” เขาแก้ให้  “ผมยังพูดเพราะๆ กับคุณเลย คุณก็พูดดีๆกับผมหน่อย”

“นี่ดีที่สุดแล้วค่ะ”  เธอขยับแว่นสายตาชิดใบหน้า “คุณจะคุยธุระอะไรก็คุยมาเถอะค่ะ”

กวิวัชร์แสร้งทำเป็นถอนหายใจเหนื่อยๆ “ถ้ารุ่นน้องรู้ว่าโครงการนี้ไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุนเพราะรุ่นพี่ไม่ให้ความร่วมมือจะเป็นยังไงนะ”

“คุณ!”

“เรียกพี่กั้งสิครับ”

พลอยดาวเม้มปากเน้นข่มความโมโหไว้ในอก ทำไมเขาเหมือนเด็กเอาแต่ใจอย่างนี้นะ 

“ถามจริงๆ เถอะค่ะ คุณต้องการอะไรกันแน่” พลอยดาวอ่อนใจ “ฉันไม่สเปกคุณ คุณไม่ต้องแกล้งสนใจฉันขนาดนี้”

“คุณว่าผมแกล้งสนใจเหรอ” คราวนี้น้ำเสียงเขาจริงจังและดังขึ้นเล็กน้อย แต่เพราะในห้องสมุดค่อนข้างเงียบทำให้เสียงของเขาดังมากจนพลอยดาวตกใจยื่นมือไปปิดปากเขาอย่างรวดเร็ว

“เบาหน่อยสิค่ะ”

ทว่าชายหนุ่มกลับจับข้อมือเธอไว้ แล้วจูบกึ่งกลางฝ่ามือของหญิงสาว พลอยดาวพยายามดึงมือกลับแต่เขาไม่ยอมปล่อย แววตารุ่มร้อนที่จ้องมองทำเอาพลอยดาวร้อนผ่าวไปหมด และเผลอคิดถึงค่ำคืนเร่าร้อนคืนนั้น

กวิวัชร์พอใจที่เห็นใบหน้าหวานแดงระเรื่อ เธอไม่ได้แข็งกระด้างอย่างที่เห็น  

“ถ้างั้นหาที่เงียบๆ คุยกันนะ”

พลอยดาวรู้ว่าหลบไม่ได้อีกแล้วจึงไม่หลบอีก “แค่คุยนะคะ”

“หรือคุณต้องการมากกว่าคุยก็ได้”

“คุณนี่! ปล่อยได้แล้วค่ะ”

“พี่กั้ง”

เขายึดข้อมือเธอไว้ไม่ยอมปล่อย  ทำให้เธอต้องเรียกชื่อตามที่เขาต้องการ

“ปล่อยมือพลอยได้แล้วค่ะพี่กั้ง”

เสียงหวานทำให้กวิวัชร์อารมณ์ดีและยอมปล่อยข้อมือของพลอยดาว เขาชอบเวลาที่เธอพูดน้ำเสียงแบบนี้กับเขา มันทำให้หัวใจของชุ่มชื้นอย่างบอกไม่ถูก 

“ขอเวลาพลอยเก็บของสักสิบนาทีนะคะ”  เธอไม่รู้จะตั้งป้อมกับเขาไปทำไม อีกหน่อยเขาก็คงเบื่อเธอเองนั้นแหละ ขณะที่สองมือเก็บหนังสือหลายเล่มตรงหน้าและสมุดโน้ต สายตาของเธออดมองไปที่กล่องคุกกี้ไม่ได้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status