“อยู่ที่นี่แหละ” แฟรงค์ยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้รู้สึกเสียวสันหลังวาบ“ทะ...ทำไมทำแบบนี้”“เพราะเธอทำให้ฉันต้องทำแบบนี้”“แฟรงค์...ฉันไม่เข้าใจ ...นายปล่อยฉันก่อนได้ไหม เรา...เรามาคุยกันดีๆ ก่อนดีไหม”“มุก” น้ำเสียงเขาพร่าลง สายตาจับจ้องริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันแน่นจนเรียบตึง “ฉันทำดีกับเธอตั้งมากมาย เธอยังไม่สนใจฉัน ฉันเบื่อเล่นเป็นบทคนดีแล้ว ถึงเวลาที่เธอจะได้รู้ว่าตัวจริงของฉันเป็นยังไง บางที เธออาจจะชอบมันก็ได้”พราวมุกเบี่ยงหน้าหลบทันทีที่เห็นแฟรงค์โน้มหน้าลงมา เธอพยายามยกเท้าขึ้นเตะไปมาแต่กลับถูกเขาใช้ร่างตัวเองกดทับเธอไว้ ยิ่งดิ้นรนร่างกายก็ยิ่งแนบชิด เสียงลมหายใจของเขาแรงขึ้น สีหน้าก็ตื่นเต้นจนแก่นกายแข็งขันดุนดันจนเขาปวดหนึบไปหมด เขาครางอย่างพอใจที่เห็นเหยื่อตัวน้อยแสดงการขัดขืนชัดเจนถึงเพียงนี้ พราวมุกเข้าใจในทันทีว่าการขัดขืนของเธอกระตุ้นความต้องการทางเพศของเขา แต่เธอฝืนทำอยู่นิ่งไม่ได้ สีหน้าหื่นกระหายมันน่ารังเกียจ เธอขยะแขยงจนต้องพยายามบิดตัวหนี“ที่รัก! บอกแล้วคุณต้องชอบมัน”“แฟรงค์! ปล่อย!”เธอตวาดเขาเสียงสั่นแล้วถ่มน้ำลายใส่หน้าเขา แฟรงค์ผงะไปทันที ปล่อยมือจาก
“เหมือนเรื่องของเรานะเหรอ” “แค่กๆ ก็...ประมาณนั้น” “ทำไมพูดแค่นี้ก็ต้องเขิน” เธอมองเขาแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ “แล้วนายไม่เข้าใจประโยคไหนของฉัน” “ก็...เอ่อ...ที่น้องมุกบอกว่าไม่ชอบผู้ชายเหมือนพ่อ ...พี่ก็พยายามวิเคราะห์มาตลอดแต่ก็ยังไม่เข้าใจ” “ถึงขั้นต้องวิเคราะห์เลยเหรอ” เธอไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ฉลาดอย่างนายไม่เข้าใจจริงๆเหรอ” เขาพยักหน้าแทนคำตอบ ท่าทางเหมือนลูกศิษย์ที่รอรับคำสอนของคุณครูทำให้พราวมุกยันกายขึ้นนั่ง เขาหยิบหมอนให้เธอเอนหลังพิงหัวเตียง “ตั้งแต่เด็ก ฉันจะเห็นพ่อยุ่งกับงานตลอด แม่เล่าว่าพ่อกับแม่คบกันตั้งแต่เรียนมหา’ลัย พอจบก็แต่งงานกันทันที และเพื่อให้ได้เงินเดือนที่สูงขึ้น พ่อก็เรียนต่อปริญญาโทและทำงานไปด้วย รับงานวิจัยอีกสารพัด หลายครั้งที่แม่รู้สึกเหมือนเป็นคนนอก ไม่เข้าใจในงานของพ่อ จนสุดท้ายมันเกิดเป็นความเหินห่างและทำให้แม่เป็นฝ่ายขอเดินออกจากชีวิตของพ่อ ฉันเอง...เวลาอยู่กับพ่อก็ไม่ค่อยเข้าใจงานของพ่อ เวลาอยู่กันสามคน ฟังพ่อกับพลอยคุยกันก็ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรกัน ยิ่งเวลาที
น้ำเสียงออดอ้อนอ่อนหวานทำเอาหัวใจของชายหนุ่มอ่อนยวบ เขาถอนหายใจแล้วหมุนตัวไปถอดเสื้อที่สวมอยู่ออก ปกติเขานอนไม่สวมเสื้อแล้วก้าวขึ้นไปนอนเคียงข้าง คนตัวเล็กพลิกตัวเข้ามากอด ซุกใบหน้าหาตำแหน่งที่พอเหมาะแล้วหลับตาพริ้ม เขาก้มมองแล้วยิ้มอย่างเป็นสุข การได้กอด ได้รักและปกป้องใครสักคน มันทำให้หัวใจอิ่มเอมได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ? ความรักเป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆ “รักนะคะ” “อะ..อ.ไรนะครับ” เขานึกว่าเธอหลับ แม้ได้ยินชัดแต่อยากได้ความมั่นใจอีกครั้ง “รักค่ะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้ “ขอบคุณที่มาให้รักนะคะ” “ครับ” เขาจูบหน้าผากเธอเบาๆ “พี่รักน้องมุก ขอบคุณที่ให้โอกาสผู้ชายธรรมดาคนนี้ได้รู้จักความรักนะครับ” “ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง มุกจะถนอมความรักของพี่คิมไว้นานๆ” “พี่ก็จะถนอมความรักที่น้องมุกให้พี่เก็บไว้ให้นานที่สุด” “อื้ม พี่คิมไม่กลัวพ่อของมุกจริงๆเหรอคะ เราคบกันแล้ว ไม่ต้องหลบๆมาเจอกัน เพราะฉะนั้นให้พ่อแม่รู้คงไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ” พราวมุกถาม ดวงตาเริ่มปิดลง คราวนี้เธอง่วงแล้
โทรศัพท์มือถือเครื่องบางเฉียบส่งเสียงอยู่นานแต่เจ้าของมือถือยังจดจ่ออยู่หน้าจอโน้ตบุ๊ค ซ้ำยังใส่หูฟังทำให้ไม่ได้ยินเสียง จนกระทั่งบิดาเดินเข้ามาแตะไหล่ลูกสาวเบาๆ ทำให้หญิงสาวรู้สึกตัว “มือถือดังนะลูก” “อุ้ย ขอบคุณค่ะพ่อ” พลอยดาวยิ้มให้พ่อแล้วรีบถอดหูฟังออก หยิบมือถือขึ้นมาดู แล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มให้พ่อ “ยัยมุกโทรมาค่ะพ่อ พ่ออยากคุยกับน้องไหมคะ” “ถ้ามุกอยากคุยกับพ่อคงโทรหาพ่อเองแหละ” พ่อยื่นมือไปลูบผมเบาๆ แล้วเดินออกมาจากห้องหนังสือที่ลูกสาวยึดเป็นห้องทำงาน หญิงสาวเห็นพ่อหันหลังเดินออกไปแล้วจึงกดรับสายของ ‘พราวมุก’ น้องสาวฝาแฝดของเธอเอง “ว่าไงยัยมุก” “รับสายช้ามาก ถ้ามุกเป็นอะไรไปจะทำยังไง” “ถ้าด่วนขนาดนั้น มุกก็โทรหาพ่อสิ” “ไม่เอา! พ่อไม่ชอบหน้ามุก” “จะเป็นไปได้ไง หน้ามุกกับหน้าพลอยเหมือนกันเป๊ะ ขนาดไปทำงานแทนมุกคนที่บริษัทยังไม่รู้เลย” พลอยดาวหัวเราะเสียงใสแล้วมองไปทางประตูอีกครั้งให้มั่นใจว่าพ่อไม่อยู่บริเวณนี้แล้วจริงๆ “งั้นมาช่วยมุกอีกครั้งนะ”
“จะไปไหนเหรอเจ้ากั้ง” “เข้าบริษัทครับแม่” ชายหนุ่มในชุดสูทสีเข้มเดินลงมาจากชั้นบนของคฤหาสน์หลังงาม มารดาของเขากำลังกินอาหารเช้า นางกวักมือเรียกลูกชายคนเดียวก่อนที่เขาจะเดินเลยออกไป “กินข้าวเช้ากับแม่ก่อนสิ” นางจันทนาถามแล้วพยักหน้าให้เด็กรับใช้วางแก้วน้ำส้มคั้น “ขอแค่กาแฟร้อนก็พอครับ” ‘กั้ง’หรือ ‘กวิวัชร์’ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณจันทนาและ สามีคือคุณองอาจ แต่เพราะสามีมีบ้านเล็กบ้านน้อย นางจึงทุ่มเทความรักทั้งหมดทั้งมวลที่ลูกชายคนเดียว แม้ว่าปีนี้เขาอายุยี่สิบแปดแล้ว แต่สำหรับมารดาแล้วลูกยังเป็นเด็กเสมอ “วันเสาร์ก็ต้องไปทำงานเหรอ” นางจันทนาถามพลางมองดูลูกที่นั่งลงเก้าอี้ว่างข้างกาย “บริษัทเราวันเสาร์ทำงานครึ่งวันนะครับแม่” กวิวัชร์ตอบพร้อมรอยยิ้ม ปกติสีหน้าเขานิ่งขรึมอยู่เสมอ แต่เมื่ออยู่กับมารดา เขายิ้มแย้มและพยายามไม่ขัดใจเพราะรู้ว่ามารดามีปัญหาเรื่องสุขภาพร่วมทั้งจิตใจที่หดหู่เรื่องบิดาของเขาด้วย “เรื่องนั้นแม่รู้แต่ลูกเพิ่งกลับมาจากไต้หวันไม่ใช่เหรอ” “ผมกักตัวครบ
“ว่าไง” กวิวัชร์เคาะปลายนิ้วกับโต๊ะทำงาน รอคำตอบอย่างคนใจเย็น “ตอนนี้ท่านประธานทำดิฉันเครียดมากค่ะ” พลอยดาวสารภาพไปตามตรงแล้ววางต้นไม้เล็กๆ ลงที่เดิม “ถ้าท่านไม่ชอบดิฉันจะเอาออกไป” “อุตส่าห์เอามาแล้วก็ตั้งไว้ที่ตรงนั้นเถอะ” ปกติเขาไม่คุยเล่นหัวกับพนักงาน ไม่ได้ทำตัวเย่อหยิ่งแต่เว้นระยะห่างไม่สนิทสนมจนเกินไป แต่วันนี้เขารู้สึกว่าตัวเองพูดเยอะ ทั้งที่ปกติเลขาคนใหม่จะเป็นคนพูดเก่งจนเขานึกปวดหัว “ค่ะ” พลอยดาวรับคำเบาๆ ไม่รู้ทำไมเขาจ้องขนาดนี้ หรือเขาจะรู้ว่าเธอไม่ใช่พราวมุก ไม่จริงน่า เธอสองคนเคยสลับตัวไปสอบด้วยซ้ำ อาจารย์ยังแยกไม่ออกเลย “ผมไม่เข้าบริษัทเกือบเดือนคิดว่าคงมีงานที่รออยู่ก็เลยเข้ามาดูก่อน วันจันทร์จะได้ไม่ยุ่งมาก” กวิวัชร์พูดไปแล้วก็แปลกใจตัวเอง ทำไมต้องอธิบายให้เลขาฟัง มันไม่ใช่หน้าที่ที่เขาต้องรายงานเธอนี่นะ “ค่ะ ดิฉันเตรียมไว้แล้ว” พลอยดาวเลื่อนแฟ้มเอกสารไปตรงหน้าเขา งานพวกนี้พราวมุกจัดการไว้ก่อนแล้ว เธอแค่เรียงลำดับวางตามความสำคัญ “โอเค.” เขาพยักหน้ารับ “อาหารเช้าผมล่ะ”
“ไม่หรอก” พราวมุกหัวเราะร่าแล้วเดินไปหยิบรีโมทโทรทัศน์ “มุกรู้ว่าเดวิทอยากมีลูกของตัวเองกับแม่ของเรา แต่ติดที่ทั้งสองคนเป็นห่วงความรู้สึกของมุก ผู้หญิงไม่เหมือนผู้ชายนะ ถ้าท้องตอนอายุมากจะมีปัญหา มุกเลยหาเรื่องแยกตัวมาใช้ชีวิตคนเดียว แต่อยู่เมืองไทยแม่จะยังสบายใจกว่า เพราะถ้ามีอะไรก็ยังมีพ่อมีพลอยและครอบครัวฝั่งคุณตากับคุณยาย มุกก็เลยกลับมาไทยนี่แหละ” “แล้วมุกคิดจะทำงานประจำนี่จริงๆเหรอ” “พลอยถามมุกหลายรอบแล้วนะ” พราวมุกทำปากยื่นใส่ “มาดูหนังกัน” พลอยดาวขยับตัวไปนอนเบียดพราวมุก ทั้งสองไม่ได้เหมือนกันแค่หน้าตา แต่รูปร่างยังพอๆกันอีกด้วย พราวมุกใส่เสื้อผ้าของพลอยดาวได้ แต่พลอยดาวไม่ค่อยชอบเสื้อผ้าของพราวมุกนัก รู้สึกว่ามันสั้นไปนิด รัดรูปไปหน่อย ถ้าพ่อเห็นคงต้องบ่นแน่นอน “ถ้าทำงานประจำได้ ก็จะได้มีตังค์ใช้ทุกเดือนไง ส่วนงานอื่นเป็นรายได้เสริม และถือว่าหาประสบการณ์ไปด้วย” “อื้ม” พลอยดาวพยักหน้ารับ “ไม่ดูหนังผีนะ” “หนังฆาตกรรมต่างหาก” “ไม่เอา ดูหนังรักไม่ได้เหรอ” “ตามใจๆ ถือว่าวั
พลอยดาวถึงกับพูดอะไรไม่ออก เธอเห็นแค่แผ่นหลังกว้างที่ก้มๆ เงยๆ อยู่ที่ตู้แสดงหนังสือหายาก เธอพูดประโยคนั้นด้วยความเคยชิน ไม่คิดว่าพอเขาหันกลับมาจะกลายเป็น ‘กวิวัชร์’ เจ้านายหน้านิ่งของพราวมุก“พราวมุก?ไม่ใช่สิ คุณไม่ใช่...” เป็นพราวมุกไม่ได้อย่างแน่นอน เวลานี้เลขาของเขาอยู่ที่บริษัทแน่ๆ กวิวัชร์ขมวดคิ้วอย่างงุนงง มีคนหน้าตาคล้าย เอ่อ ไม่สิต้องเรียกว่าเหมือน...เหมือนกันมากด้วยสัญชาตญาณทำให้พลอยดาวถอยหลังหนี แต่แผ่นหลังไปชิดกับชั้นหนังสือ เธอตกใจหลุดอุทานออกมา หนังสือเล่มบนเหนือศีรษะทำท่าจะตกใจใส่ เธอยกมือขึ้นกุมศีรษะทันทีแต่หนังสือเล่มหนาอยู่ในมือของชายหนุ่มแล้วมีแต่คนทำผิดที่ร้อนรนขนาดนี้กวิวัชร์บอกตัวเองในใจ แต่เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนนี้มาก่อน ไม่มีเหตุผลให้เธอต้องหวาดกลัวเขาขนาดนี้ เพราะไม่ชอบทำอะไรค้างคาใจ เขาคิดจะอ้าปากถาม แต่หางตารับรู้การเคลื่อนไหว เห็นเงาร่างของปภาวดีเดินเข้ามาในห้องสมุด ด้วยต้องการหลบไม่ให้ปภาวดีเห็นตัวเขาจึงดันร่างเล็กไปในซอกระหว่างตู้หนังสือ หญิงสาวอ้าปากเหมือนจะส่งเสียงร้องแต่เขายกมือปิดปากเธอไว้ก่อน“ชู่ว์” เขาทำเสียงบอกให้เธอเงียบก่อน พลอยดาวแทบกลั้