พลอยดาวถึงกับพูดอะไรไม่ออก เธอเห็นแค่แผ่นหลังกว้างที่ก้มๆ เงยๆ อยู่ที่ตู้แสดงหนังสือหายาก เธอพูดประโยคนั้นด้วยความเคยชิน ไม่คิดว่าพอเขาหันกลับมาจะกลายเป็น ‘กวิวัชร์’ เจ้านายหน้านิ่งของพราวมุก
“พราวมุก?ไม่ใช่สิ คุณไม่ใช่...” เป็นพราวมุกไม่ได้อย่างแน่นอน เวลานี้เลขาของเขาอยู่ที่บริษัทแน่ๆ กวิวัชร์ขมวดคิ้วอย่างงุนงง มีคนหน้าตาคล้าย เอ่อ ไม่สิต้องเรียกว่าเหมือน...เหมือนกันมาก
ด้วยสัญชาตญาณทำให้พลอยดาวถอยหลังหนี แต่แผ่นหลังไปชิดกับชั้นหนังสือ เธอตกใจหลุดอุทานออกมา หนังสือเล่มบนเหนือศีรษะทำท่าจะตกใจใส่ เธอยกมือขึ้นกุมศีรษะทันทีแต่หนังสือเล่มหนาอยู่ในมือของชายหนุ่มแล้ว
มีแต่คนทำผิดที่ร้อนรนขนาดนี้
กวิวัชร์บอกตัวเองในใจ แต่เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนนี้มาก่อน ไม่มีเหตุผลให้เธอต้องหวาดกลัวเขาขนาดนี้ เพราะไม่ชอบทำอะไรค้างคาใจ เขาคิดจะอ้าปากถาม แต่หางตารับรู้การเคลื่อนไหว เห็นเงาร่างของปภาวดีเดินเข้ามาในห้องสมุด ด้วยต้องการหลบไม่ให้ปภาวดีเห็นตัวเขาจึงดันร่างเล็กไปในซอกระหว่างตู้หนังสือ หญิงสาวอ้าปากเหมือนจะส่งเสียงร้องแต่เขายกมือปิดปากเธอไว้ก่อน
“ชู่ว์” เขาทำเสียงบอกให้เธอเงียบก่อน พลอยดาวแทบกลั้นหายใจเมื่อร่างกายใหญ่โตของเขาแนบชิดกับร่างของเธอ เธอไม่เคยเข้าใกล้ชิดผู้ชายคนไหนแบบนี้มาก่อน ดวงตากลมเบิกกว้างและเห็นว่าเขาเหลือบมองด้านข้างตลอดเวลา จนกระทั่งเหมือนใครบางคนก้าวไปพ้นสายตาแล้ว เขาจึงยอมยกมือออกแล้วถอยห่างออกมา
“ขอโทษ ผมแค่จะหลบคน” เขาถอยออกมาเล็กน้อยแต่ไม่ยอมให้เธอเดินหนีไปได้
“ค่ะ” เธอพูดได้แค่นั้น แต่เห็นเขายืนนิ่งเป็นตุ๊กตาหินก็ทำหน้าตึงใส่ “ช่วยหลบด้วยค่ะ”
“เดี๋ยวสิครับ” เห็นเธอเบี่ยงตัวไปทางซ้าย เขาก็ใช้ตัวเองบังไม่ให้เธอเดินออกมาได้ พอเธอขยับไปทางขวาเขาก็ทำเหมือนเดิม คราวนี้เธอคงโกรธแล้วแพราะเห็นแววตาที่จ้องเขม็งแบบจะเอาเรื่อง ทั้งที่ตัวเธอเล็กนิดเดียว และดูยังไงก็สู้แรงเขาไม่ได้
แต่เขากลับชอบท่าทีเหมือนแมวน้อยขู่จนขนพองแบบนี้
“นี่คุณจะเอายังไง”
“แค่อยากคุยด้วย”
“ฉันไม่รู้จักคุณ เราไม่มีเรื่องอะไรให้คุยกัน” เธอเชิดหน้าพูดทั้งที่ใจสั่น กลัวว่าเขาจะจับได้ว่าเธอไปทำงานแทนพราวมุก น้องหวังใจจะได้ทำงานที่นี่มาก เธอไม่อยากเป็นต้นเหตุให้น้องต้องหางานใหม่ทั้งที่ทำงานไม่ถึงสามเดือน
“แต่เมื่อกี้คุณมาคุยกับผมก่อน”
พลอยดาวอ้าปากค้าง ทำไมตอนเขาอยู่บริษัทไม่ใช่คนเซ้าซี้ขนาดนี้นะ “นั้นเพราะว่าฉันคิดว่าคุณต้องการความช่วยเหลือ”
“คุณเป็นเจ้าหน้าที่ห้องสมุดเหรอ” เขาถามแล้วดูหนังสือเล่มหนาในมือที่หยิบไว้ได้ทันก่อนมันจะหล่นใส่ศีรษะของเธอ
“เปล่าค่ะ ฉันแค่มาทำงานที่นี่บ่อยๆ” เธอฉวยหนังสือในมือเขา ออกแรงผลักเขาให้พ้นทาง เขายอมเบี่ยงตัวให้เธอเดินออกมาได้ แต่หญิงสาวแค่จะเอาหนังสือไปเสียบใส่ชั้นหนังสือตามเดิม พลอยดาวลองเขย่งปลายเท้าขึ้นแต่ความสูงก็ยังไม่พอจะเก็บหนังสือเข้าชั้นตามเดิม เธอเหลียวมองหาบันไดสำหรับปีนขึ้นไปหยิบหนังสือชั้นบน แต่มือใหญ่ข้างนั้นหยิบหนังสือเล่มเดิมไปเสียบในชั้นหนังสือตามเดิม
“ตรงนี้ใช่ไหม”
“ค่ะ” ผู้ชายคนนี้สูงเท่าไรกันนะ คราวก่อนเธอไม่ได้ยืนใกล้เขาขนาดนี้
“เรียบร้อย” กวิวัชร์พูดแล้วก้มมองคนตัวเล็ก “คำขอบคุณล่ะ”
“ขอบคุณอะไรคะ เป็นฉันที่ควรได้ยินคำขอบคุณจากปากคุณมากกว่า”
คราวนี้กวิวัชร์เลิกคิ้ว “เรื่องอะไรครับ”
“ก็เมื่อกี้คุณหลบคนไม่ใช่เหรอ” เธอขมวดคิ้วแล้วยกมือขึ้นกอดอก “และคุณควรขอโทษที่ทำให้ฉันตกใจด้วยค่ะ”
ท่าทางเรียบร้อยแต่ต่อปากต่อคำเก่ง ทำให้เขาเผลอยิ้มออกมา
“ได้”
พลอยดาวเห็นเขาตอบรับง่ายๆ ก็แปลกใจ แต่จู่ๆ เขาก็คว้าข้อมือเธอไว้ราวกับกลัวว่าเธอจะหนีหายไป
“คุณจะทำอะไร”
“จะพาคุณไปกินข้าว เลี้ยงข้าวไถ่โทษที่ทำให้คุณตกใจและขอบคุณที่คุณช่วยผม”
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้” เธอขืนตัวดึงมือตัวเองกลับแต่เขากลับกระตุกเบาๆ ร่างเล็กก็เซถลาเข้าไปในอ้อมอกของเขาอย่างง่ายดาย
“ไม่ได้ ผมเป็นพวกบุญคุณต้องทดแทน หนี้แค้นต้องชำระ”
ทำไมเขาต้องเน้นคำว่าแค้นด้วยล่ะ เธอไม่ได้มีความแค้นอะไรเสียหน่อย
ทว่าปลายนิ้วของเขาไล้ใบหูขวาของเธอเบาๆ แต่ทำให้เธอตกใจยกมือขึ้นแตะใบหูตัวเอง
“ใช่จริงๆด้วย”
“คุณจะเอาอะไรกันแน่ นี่ห้องสมุดนะ” พลอยดาวเสียงสั่นอย่างไม่รู้ตัว
“ก็คุณคือคนที่อยู่ห้องทำงานผมวันเสาร์ไงล่ะ”
“คุณ...คุณรู้ได้ยังไง” พลอยดาวอ้าปากค้าง น้อยคนที่จะแยกเธอกับพราวมุกได้ในเวลาเพียงแวบเดียว
“คุณมีไฝเม็ดเล็กๆ ที่หูขวา แต่เลขาของผมไม่มี” เขายิ้มแบบคนที่เหนือกว่า และกลายเป็นรอยยิ้มที่น่ากลัว “พวกคุณคิดจะทำอะไรกันแน่ มาขโมยความลับของบริษัทผมหรือไง”
“ไม่ใช่!” พลอยดาวส่ายหน้าไปมาเร็วๆ
“มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ หนูพลอยดาว” บรรณารักษ์สาวเดินผ่านมาเห็นเข้าจึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่มีอะไรคะคุณแอนนา” พลอยดาวรีบตอบ “พอดีพลอยเจอคนรู้จักค่ะ”
“อ่อ...”
“พลอยกำลังจะกลับแล้วค่ะ สัปดาห์หน้าพลอยจะมาใหม่นะคะ”
“ยินดีต้อนรับเสมอจ๊ะหนูพลอย”
พลอยดาวฉีกยิ้มกว้าง รอจนบรรณารักษ์เดินออกไปแล้วจึงหุบยิ้มแล้วหันมาขึงตาใส่ผู้ชายตัวโต
“พลอยดาว?” กวิวัชร์เลิกคิ้ว “พราวมุก?”
“ใช่ ฉันชื่อพลอยดาวเป็นพี่สาวฝาแฝดของพราวมุกเลขาของคุณ” พลอยดาวดันแว่นตาขึ้นชิดใบหน้าด้วยความเคยชิน “วันเสาร์ฉันไปทำงานแทนพราวมุก เพราะน้องสาวติดธุระจำเป็น”
“แค่ติดธุระก็ลางานได้” เขาไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูดนัก
“ก็พราวมุกทำงานยังไม่ครบสามเดือน ถ้าลาหยุดงานก็กลัวจะไม่ผ่านช่วงทดลองงาน คุณไม่เคยได้ยินสินะ เก้าสิบวันอันตรายทำงานยังไงให้ผ่านโปร”
คราวนี้เป็นกวิวัชร์ที่อึ้งไป เรื่องพวกนี้เป็นหน้าที่ของ HR หรือฝ่ายคัดเลือกบุคลากร แต่เท่าที่ทำงานร่วมกับพราวมุกมาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เว้นแต่ว่าเธอเพิ่งมาทำงานใหม่ ถ้าลาหยุดไม่มีเหตุผลก็ส่งผลต่อการประเมินเข้าทำงาน
“คุณเข้าใจแล้วใช่ไหมคะ” คราวนี้เสียงพลอยดาวอ่อนลง “ยัยมุกมีความจำเป็นจริงๆค่ะ เราไม่ได้เป็นสายลับให้บริษัทไหนเลย คุณดูสิ ฉันทำงานแปลเอกสารเขียนบทความ วันๆ ก็คลุกอยู่กับหนังสือพวกนี้ ไม่มีทางขโมยข้อมูลของบริษัทคุณแน่นอน”
“ผมจะเชื่อคุณได้ยังไง”
พลอยดาวสูดลมหายใจลึก “ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงให้คุณเชื่อนี่คะ”
กวิวัชร์กวาดตามองหญิงสาวอีกครั้ง มุมปากยกยิ้มร้ายๆ ทำให้พลอยดาวใจสั่นไหว
“ดินเนอร์”
“คะ?”
“ดินเนอร์กับผม ให้ผมพิจารณาก่อนว่าคุณพูดจริงแค่ไหน” เขายิ้มกริ่มแบบคนเอาแต่ใจ ไม่ได้รู้สึกสนุกแบบนี้มานานแล้ว
“อะไรนะคะ”
“แค่กินข้าวเย็น” เขาไหวไหล่ “เดี๋ยวผมให้เลขาผมนัดคุณก็แล้วกัน”
เลขาคุณก็น้องสาวฉันนี่!
พลอยดาวโมโหจนอยากกระทืบเท้าเร่าๆเป็นเด็ก แต่ทำได้แต่กัดริมฝีปากแน่นด้วยความโกรธ ผู้ชายตัวสูงยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วหมุนตัวเดินจากไป ทิ้งให้เธอยืนโมโหอยู่คนเดียว.
หญิงสาวในชุดเดรสสั้นลูกไม้สีชมพูกลีบบัว แม้ท่อนบนจะเป็นเสื้อแบบเปลือยไหล่ แต่ยังมีผ้าคลุมไหล่ไม่ให้รู้สึกเปิดเผยมากเกินไป เธอดูประหม่าและกระสับกระส่ายพลางขยับแว่นสายตาอยู่ตลอดเวลา กวิวัชร์หรี่ตามองหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าห้องอาหารของโรงแรมหรูระดับห้าดาว มุมปากยกยิ้มแล้วสาวเท้าเข้าไปใกล้จึงเอ่ยปากทักทาย “คุณพลอยดาว” “ค่ะ!” หญิงสาวรีบตอบรับทันที สีหน้าดูแตกตื่นดูขัดกับชุดสวยที่เธอสวมอยู่ “มาแล้วทำไมไม่เข้าไปล่ะครับ ผมให้เลขา เอ่อ คุณพราวมุกจองโต๊ะให้เราแล้วนี่” “พะ..พลอยเพิ่งมาถึงค่ะ” เธอไม่กล้าบอกว่ามารออยู่ราวยี่สิบนาทีแล้ว แต่เพราะไม่คุ้นชินกับร้านอาหารแบบนี้จึงคิดว่ารอเข้าไปพร้อมเขาดีกว่า เขากวาดตามองเหมือนจับผิด แต่กระนั้นยังส่งยิ้มให้ก่อนผายมือเชิญให้เข้าไปด้านใน พนักงานต้อนรับคุ้นเคยกับกวิวัชร์เป็นอย่างดี เดินนำสองหนุ่มสาวมาที่โต๊ะพิเศษที่ถูกจองไว้แล้ว กวิวัชร์เป็นฝ่ายเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวด้วยตนเองก่อนจะนั่งตรงข้ามกับเธอ “คุณพลอย...” “ค่ะ!” “ผมจะถามว่าผมเรียกคุณว่าพลอย
ทันทีที่บานประตูปิดลง มือแกร่งก็รวบร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอด แล้วโน้มหน้าลงประทับริมฝีปากอ่อนนุ่มที่เผยอขึ้นพอดี เขากลัวเธอเปลี่ยนใจ จึงรีบจูบเธอเสียก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกมา พลอยดาวไม่คิดว่าตัวเองจะตอบรับเขาง่ายดายหลังจากไวน์พร่องไปครึ่งขวด เธอไม่ใช่คนคออ่อนนัก เวลาไปออกงานกับพ่อก็ดื่มนิดๆหน่อยๆ พอเข้าสังคม และเป็นคนขับรถให้พ่ออยู่บ่อยๆ อาจเพราะครั้งนี้เธอไม่ตามพ่อไปสัมมนาต่างจังหวัดด้วย อาจเพราะเธอรู้สึกอิสระมากขึ้นเพราะเรียนจบแล้ว หรือเพราะคำชวนอันเย้ายวนของเขา ‘ถ้าคุณยังไม่พร้อมจะคบกับผม ถ้างั้นคืนนี้เรามีความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์ไหม’ ‘อะไรนะคะ’ ‘แค่คืนนี้และไม่ผูกมัด’พลอยดาวรู้ความหมายของประโยคนี้ดี แต่ไม่คิดว่าเขาเอ่ยปากชวนง่ายๆ หรือเพราะเขาทำให้มันเป็นเรื่องง่ายๆ เธอจึงตัดสินใจได้แทบจะในทันที เธอวางมือของตนบนฝ่ามือของเขาแทนคำตอบ และเขาก็กุมมือเธอเดินออกมาจากห้องอาหารชั้นที่สามสิบสี่มาห้องสวีทสุดหรูชั้นที่ห้าสิบสอง เพราะจิตใจจดจ่อกับมือที่กุมมือเธออยู่ทำให้ไม่ได้สนใจว่าเขาพาเธอมายังห้องสวีทนี้ได้ยังไง และเพียงบานประตูปิดลง ร่าง
มือแกร่งลูบไล้ไปตามเรือนร่างอ่อนนุ่มที่ทำให้เขารุ่มร้อน เขากอบกุมความเป็นชายที่สวมปราการไว้พร้อมรบถูไถกับร่องรักที่คับแคบ เรียวขางามแยกออกอย่างรอคอยเขากดแก่นกายแทรกลงไปในโพรงถ้ำสีหวาน“อึก...” ความเจ็บแปลบแล่นผ่านพร้อมกับแก่นกายร้อนระอุที่แทรกเข้ามา มือใหญ่กุมสะโพกเธอไว้มั่นไม่ให้ถอยหนี“อา” กวิวัชร์ครางเสียงต่ำเมื่อถูกบีบรัด เขาจ้องมองหญิงสาวที่กัดริมฝีปากแน่นเพื่อกลั้นเสียงร้อง เขาจึงโน้มหน้าลงจูบเธออีกครั้งพลางดันตัวตนเข้าไป ผนังอ่อนนุ่มโอบรัดแก่นกายเขาแน่น มันคับแคบจนเขาต้องถอนตัวออกช้าๆ แล้วค่อยๆ ดันกลับเข้าไปใหม่ เขาถอนแก่นกายออกเกือบสุดแล้วดันกลับเข้าไปอีก ซ้ำไปซ้ำมาจนหญิงสาวส่ายสะโพกอย่างไม่รู้ตัว ความอ่อนหวานที่ได้รับทำให้เขากดกระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุด หญิงสาวผวาเฮือกกอดไหล่เขาไว้แน่นสวรรค์! กวิวัชร์ตื่นตะลึงเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ แต่ไม่ใช่เวลาที่จะเอ่ยถาม เขาขยับสะโพกสอบเคลื่อนไหว ความเป็นชายของเขาฝังลึกในตัวเธอ นำพาความเสียวซ่านจนแทบคลั่ง เขาโยกเอวดุดันและซอยถี่ทำเอาหญิงสาวได้แต่ครางจนเสียงแหบแห้ง “ผ่อนคลายหน่อย ซี๊ด...แบบนั้นแหละ คุณน่ารักมาก พระเจ้า! คุ
กลิ่นอาหารหอมกรุ่นชวนน้ำลายสอ ทำเอาพราวมุกแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ พลอยดาวหัวเราะเบาๆ แล้วยกชามแกงส้มกุ้งมาวางตรงหน้า บนโต๊ะอาหารมีกับข้าวของโปรดน้องสาวฝาแฝดอีกสองอย่างคือปีกไก่กลางทอดและยำไข่เยี่ยวม้า ส่วนของพ่อเป็นผัดผักรวมมิตร “สุดยอดเลย” พราวมุกกุลีกุจอตักข้าวใส่จานทั้งสามใบ “มุกก็กลับมาอยู่บ้านสิ พลอยทำกับข้าวให้กินจะได้อ้วนๆ ลูกผอมไปนะ” คุณวิทยาบ่นแต่ก็อดยิ้มกับท่าทางซุกซนของลูกสาวไม่ได้ ส่วนอีกคนก็ดูเรียบร้อยสุขุมเป็นผู้ใหญ่เกินวัย ทั้งที่เป็นพี่น้องฝาแฝดกันแท้ๆ แต่นิสัยต่างกันมาก “ไปๆ มาๆ แบบนี้ดีกว่าค่ะ” พราวมุกยิ้มทะเล้นแล้วตักกุ้งในแกงส้มใส่จานข้าวของพ่อ “พ่อก็กินข้าวเยอะๆ นะคะ เห็นพลอยบอกว่าพ่อทำงานยุ่งกินข้าวไม่ค่อยเป็นเวลา” “ขอบใจลูก” พ่อยิ้มบางๆ “แล้วงานลูกเป็นไงบ้าง” “สนุกมากค่ะพ่อ เจ้านายพราวใจดีมากค่ะ” พราวมุกสบตากับพลอยดาว “ใช่ไหมพลอย” “หือ?” พ่อแปลกใจที่เห็นพราวมุกส่งสายตาซุกซนไปทางพลอยดาว เขามองลูกสาวอีกคนที่นั่งกินข้าวเงียบๆ “มีเรื่องอะไรที่พ่อไม่รู้หรือเปล่า” “ไม่มีค่ะ”
“พูดเรื่องนี้อีกแล้ว เจ้านายมุกจ้างมาเท่าไหร่ล่ะ หื้ม” “จ้างอะไร ก็แค่ถามพลอยดูเท่านั้น ถ้าพลอยไม่โอเค. บอสก็จ้างคนอื่นแค่นั้นเอง” ‘แค่นั้นเองเหรอ’ พลอยมุกเจ็บแปลบในอกอย่างไม่รู้สาเหตุ นั้นสินะ เธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย คนอย่างกวิวัชร์คงไม่ขาดแคลนผู้หญิงขนาดต้องตามเทียวไล้เทียวขื่อกับเธอหรอก เสียงกริ่งหน้าบ้านทำให้สองสาวหันมามองหน้ากัน พราวมุกพยักเพยิดให้พลอยดาวไปดูหน้าบ้าน ส่วนเธอเช็ดจานที่เหลืออีกสองสามใบก็เสร็จ พลอยดาวเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนแล้วเดินมาที่หน้าบ้าน ใบหน้าหวานระบายยิ้มแล้วเดินไปเปิดประตูรั้วให้ “พี่คิม ไม่ได้เห็นหน้านานเลยนะคะ” “น้องพลอย” คิมหันต์ยิ้มรับ “อาจารย์อยู่ไหมครับ” “อยู่ค่ะ เข้ามาได้เลยค่ะ ทำเหมือนไม่เคยมา” คิมหันต์หัวเราะเก้อๆ แล้วเหมือนนึกได้ก็รีบยื่นถุงผลไม้ส่งให้พลอยดาว “พี่ซื้อมาฝาก จำได้ว่าน้องพลอยชอบกินผลไม้มากกว่าขนมหวาน” “ขอบคุณค่ะ เข้ามาในบ้านเถอะ ข้างนอกร้อน” “ครับๆ” ชายหนุ่มผงกศีรษะเดินเข้ามาด้านในด้วยความเคยชิน เขาเองก็เข้าๆ ออกๆ บ้านอาจารย์มาหลายปี ตั้งแต่พลอยดาวเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ ยิ่งได้รู้จักกันมากขึ้น เขาก็
“ถ้าชอบคราวหน้าจะฝากมุกไปให้นะคะ กล่องนั้นของมุก มุกเขากลัวอ้วนเลยทำสูตรพิเศษให้ค่ะ”“ไม่ต้องฝากคุณมุกมาหรอกครับ” เขายิ้มกริ่ม “น้องพลอยมาหาพี่กั้งได้ตลอดเวลา”จู่ๆ เขาก็ทำตัวหวานเลี่ยนขึ้นมา ทำให้พลอยดาวหลุดหัวเราะพรืดออกมา เสียงหัวเราะและท่าทางผ่อนคลายของเธอดึงดูดสายตาของชายหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว“พูดปกติก็ได้ค่ะ” พลอยดาวเก็บทุกอย่างลงกระเป๋าเรียบร้อย “ตอนทำงานไม่เป็นแบบนี้นี่คะ”“ก็นั้นมันตอนทำงานนี่” เขายิ้มแล้วช่วยเธอถือกระเป๋าใส่ของ “เอาอะไรมาเยอะแยะ”“พลอยแปลบทความอยู่ค่ะ มีบางส่วนไม่มั่นใจก็เลยมาทำงานที่ห้องสมุด ที่นี่มีเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติอยู่ด้วย ถ้าติดขัดอะไรก็พอสอบถามได้” “นึกว่าน้องพลอยชอบทำงานที่บ้านเสียอีก” ดีที่เขาโทรมาขู่ เอ๊ย! โทรมาเช็กว่าเธออยู่ที่ไหนก่อนจึงตามมาเจอที่นี่ ไม่งั้นบุกไปที่บ้านก็คงไม่ได้เจอกัน“ชอบค่ะ” พลอยดาวพยักหน้ารับ “แต่คนเราก็ต้องออกนอกบ้านบ้าง” หญิงสาวเดินผ่านเคาน์เตอร์ห้องสมุด เธอเอ่ยลาบรรณารักษ์สาวแล้วเดินออกมาพร้อมกวิวัชร์ เท้าของเธอไปสะดุดธรณีประตูเสียจังหวะไปเล็กน้อยแต่ดันไปคว้าแขนของกวิวัชร์ได้ทัน ท่าทางของเธอกับเขาในตอนนี้จึงเหมือนค
“ก็ในมุมของน้องพลอย น้องพลอยคิดแทนพี่แล้วว่าพี่มองว่าน้องพลอยเป็นของแปลกในชีวิตพี่แต่ในมุมของน้องพลอยแล้ว พี่เป็นของแปลกในชีวิตของน้องพลอย จริงอยู่ที่วิถีการใช้ชีวิตของเราแทบไม่มีทางโคจรมาเจอกันได้เลย น้องพลอยทำงานด้านวิชาการ ส่วนพี่เป็นนักธุรกิจ หากไม่ใช่เพราะพราวมุกเราคงไม่ได้พบกัน แต่ไม่คิดบ้างหรือว่าโลกเหวี่ยงเราที่แตกต่างให้มาเจอกันที่ห้องสมุด พี่จำได้ว่าวันนั้นพี่พูดต่อหน้าพราวมุกไปแล้ว พี่ไม่ใช่เด็ก ถ้าสนใจใครก็ไม่อยากเสียเวลา ลองทำความรู้จักกันเลยดีกว่า ถ้าไม่เวิร์คก็แยกย้ายกันไป” “แล้วพี่กั้งคิดว่าความสัมพันธ์ของเรามันเวิร์คไหมคะ” “เวิร์คไม่เวิร์คไม่รู้ รู้แต่ว่า...” เขาวาดแขนโอบเอวบางเข้ามาแนบชิด “เราเข้ากันได้ทีเดียว” บางสิ่งในกางเกงแข็งขันดุนดันอย่างชัดเจน ทำเอาพลอยดาวหน้าเห่อร้อนขึ้นมา “พี่กั้ง...” “พี่คิดถึงน้องพลอยนะครับ” เขาพูดเสียงพร่าพลางโน้มหน้าลงมาขบใบหูอย่างหยอกล้อ “แค่คิดถึงมันก็เป็นแบบนี้แล้ว” หญิงสาวหลุดเสียงครางเมื่อลิ้นร้อนตวัดไล้เลียใบหู เธอเอียงตัวหนีแต่มือแกร่งโอบรัดร่างบางไว้แนบแน่น
“พี่อยากเห็นพลอยเสร็จ” เขากระซิบบอกแล้วจับจ้องหญิงสาวในกระจก เพิ่มนิ้วเข้าไปอีกนิ้ว ร่องรักตอดรัดถี่รัว มือใหญ่บีบเคล้นหน้าอกแรงขึ้น เธอขยับสะโพกรับจังหวะสาวนิ้วของเขา ริมฝีปากสวยเผยอขึ้นส่งเสียงครางเร่งเร้าให้นิ้วมือของเขายิ่งเร่งซอยถี่จนกระทั้งหญิงสาวหวีดร้องและกระตุกเกร็ง เขาถอนนิ้วแล้วส่งนิ้วที่เปื้อนน้ำรักเข้าปากตัวเองก่อนก้มหน้าจูบแก้มเร็วๆ ทีหนึ่ง “อาบน้ำกัน” พลอยดาวเหมือนเพิ่งได้สติ เธอชวนเขาอาบน้ำแต่ตอนนี้เธอเปียกชุ่มเพราะเขา เขารูดกางเกงของตนเองไปพ้นทาง เหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าและแก่นกายที่แข็งขันตั้งชันเหมือนเสาหิน เขาใช้ร่างกายใหญ่โตดันร่างเล็กเข้าไปใต้ฝักบัว เอื้อมมือเปิดน้ำให้น้ำอุ่นไหล่ผ่านทั่วร่างแล้วโน้มหน้าดูดกลีบปากสวย หน้าขาของเขาบดเบียดกึ่งกลางกายสาวมันเปียกร้อนขึ้นมาอีกครั้ง มือเรียวเล็กโอบกอดลูบไล้กล้ามเนื้อสวย เขาถอนจูบแล้วโน้มหน้าลงใช้ปากครอบครองยอดอกสีหวาน ลิ้นร้อนตวัดเลียสลับดูดดึงเรียกเสียงครางกระเส่า เขาออกแรงดูดดึงเหมือนหิวโหยและไม่อาจห้ามใจกับเนื้อหวานตรงหน้าได้ ผิวกายขาวละเอียดกลายเป็นรอยแดง ใต้สายน้ำที่พร่างพรมร