“พี่อยากเห็นพลอยเสร็จ” เขากระซิบบอกแล้วจับจ้องหญิงสาวในกระจก เพิ่มนิ้วเข้าไปอีกนิ้ว ร่องรักตอดรัดถี่รัว มือใหญ่บีบเคล้นหน้าอกแรงขึ้น เธอขยับสะโพกรับจังหวะสาวนิ้วของเขา ริมฝีปากสวยเผยอขึ้นส่งเสียงครางเร่งเร้าให้นิ้วมือของเขายิ่งเร่งซอยถี่จนกระทั้งหญิงสาวหวีดร้องและกระตุกเกร็ง เขาถอนนิ้วแล้วส่งนิ้วที่เปื้อนน้ำรักเข้าปากตัวเองก่อนก้มหน้าจูบแก้มเร็วๆ ทีหนึ่ง “อาบน้ำกัน” พลอยดาวเหมือนเพิ่งได้สติ เธอชวนเขาอาบน้ำแต่ตอนนี้เธอเปียกชุ่มเพราะเขา เขารูดกางเกงของตนเองไปพ้นทาง เหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าและแก่นกายที่แข็งขันตั้งชันเหมือนเสาหิน เขาใช้ร่างกายใหญ่โตดันร่างเล็กเข้าไปใต้ฝักบัว เอื้อมมือเปิดน้ำให้น้ำอุ่นไหล่ผ่านทั่วร่างแล้วโน้มหน้าดูดกลีบปากสวย หน้าขาของเขาบดเบียดกึ่งกลางกายสาวมันเปียกร้อนขึ้นมาอีกครั้ง มือเรียวเล็กโอบกอดลูบไล้กล้ามเนื้อสวย เขาถอนจูบแล้วโน้มหน้าลงใช้ปากครอบครองยอดอกสีหวาน ลิ้นร้อนตวัดเลียสลับดูดดึงเรียกเสียงครางกระเส่า เขาออกแรงดูดดึงเหมือนหิวโหยและไม่อาจห้ามใจกับเนื้อหวานตรงหน้าได้ ผิวกายขาวละเอียดกลายเป็นรอยแดง ใต้สายน้ำที่พร่างพรมร
เครื่องครัวครบครันแบบที่คนชอบทำอาหารต้องร้องกรี๊ด แต่ดูเหมือนว่า แต่ละชิ้นแทบไม่เคยถูกใช้งานเลย พลอยดาวอุ่นอาหารด้วยเตาไมโครเวฟแล้วจัดใส่จานนำมาวางบนโต๊ะอาหาร เธอหันมาสบตากับดวงตาที่จ้องมองพร้อมรอยยิ้มกริ่ม “ยิ้มอะไรคะ” สายตาของเขาทำให้เธอเขินอาย รวมทั้งตอนนี้เธอสวมเสื้อยืดของเขาเพียงตัวเดียวเท่านั้น “ไม่คิดว่าการมีผู้หญิงอยู่ในบ้านจะรู้สึกดีอย่างนี้” เขาเท้าคางแล้วมองเธอยิ้มๆ “วิวดีด้วย” “ทะลึ่ง” เธอไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “กินได้แล้วค่ะ” “ครับๆ” เขาหัวเราะในลำคอมองดูเธอแบ่งสปาเก็ตตี้ใส่จานสองใบ แน่นอนว่าของเขาเยอะกว่าของเธอ “อิ่มเหรอ” “ยังมีสลัดกับปีกไก่อีกนะคะ”พลอยดาวดันแว่นตาชิดใบหน้า เพราะมัวแต่นัวเนียอยู่บนเตียงกว่าจะได้ลุกขึ้นมากินอาหารก็สองทุ่มแล้ว เธออาสาอุ่นอาหารที่เขาสั่งไว้ ถึงยังไงเธอก็ชอบกินของอุ่นร้อนมากกว่าเย็นชืด โทรศัพท์มือถือของพลอยดาวสั่นและมีข้อความใหม่ เธอใช้ปลายนิ้วเลื่อนอ่านข้อความขณะกินอาหารไปพร้อมกัน ดวงตางดงามเหลือบมองทางเขาเล็กน้อยก่อนหลุบตาลงแล้วพิมพ์ข้อความส่งไป
“ไม่ต้องห่วงนะ ถึงพ่อพี่เป็นคนเจ้าชู้ แต่พี่สัญญาว่าจะไม่เจ้าชู้เหมือนพ่อแน่นอน พี่ตั้งใจจะมีเมียคนเดียว ถ้าแต่งงานกันแล้วไม่มีคนอื่นแน่นอน”“หมายความว่า ถ้ายังไม่แต่งก็จะมีคนอื่น”“น้องพลอย” เขาครางอย่างอ่อนใจ แต่เธอกลับหัวเราะเสียงใส เสียงหัวเราะของเธอ ทำให้คืนวันของเขากระจ่างราวกับอยู่ใต้แสงตะวันยามเช้า“พี่จริงจังนะครับ” พลอยดาวพูดเลียนเสียงของกวิวัชร์ เธอได้ยินประโยคนี้นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เธอหยิบกระดาษทิชชู่แล้วเช็ดมุมปากให้เขา“พลอยเข้าใจแล้วค่ะ เราจะค่อยๆ เรียนรู้กัน”“ขอบคุณครับ” เขายิ้มรับ “ขอสารภาพว่าพี่ไม่เคยใช้ครัวในห้องนี้เลย”“ไม่มีคนอื่นมาหรือคะ”“นอกจากแม่บ้านที่จ้างมาทำความสะอาดรายสัปดาห์แล้วก็ไม่มีครับ” เขายืนยัน “นี่เป็นฐานลับของพี่เลยนะ น้องพลอยเป็นคนแรก แล้วพี่จะทำคีย์การ์ดให้”เธออยากบอกว่าไม่เป็นไร แต่เห็นท่าทางกระตือรือร้นแล้วก็ไม่กล้าปฏิเสธ จึงได้แต่พยักหน้ารับ เธอจ้องหน้าเขาครุ่นคิดเรื่องที่เขาพูดถึงพ่อแล้วก็หลุดหัวเราะพรืดออกมา“น้องพลอย” เขาไม่รู้ว่าเธอหัวเราะอะไรเลยทำหน้าไม่ถูก“ขอโทษค่ะ” เธอโบกมือไปมาแต่ยังหัวเราะไม่หยุด“พูดมาเดี๋ยวนี้นะ” เขาขู่แต่สีหน
“พ่อยังไม่เคยเจอเขาเสียหน่อยทำไมพูดแบบนั้นไปได้เล่าคะ” พลอยดาวส่ายหน้าไปมา “ต้องอาจารย์หนุ่มๆ หรือนักวิชาการ หรือสายNGO หรือคะถึงจะเหมาะกับพลอย” “พ่อไม่ได้หมายความแบบนั้น...” “พลอยล้อเล่นค่ะพ่อ” ลูกสาวอดหยอกพ่อไม่ได้ “พลอยเองก็ไม่รู้ว่าจะคบกันยาวแค่ไหนเลยยังไม่ได้แนะนำให้พ่อรู้จัก แต่ถ้าพ่ออยากเจอ พลอยนัดให้ดีไหมคะ” “ก็ดีลูก” พ่อรู้สึกสบายใจขึ้นมา “เสาร์หน้ามีงานแสดงศิลปะและเสวนาวรรณกรรมที่หอศิลป์ฯ ลูกไปอ่านบทกวีแทนพ่อหน่อยสิ” “เสาร์หน้าหรือคะ” พลอยดาวหยิบโทรศัพท์มือถือมาเลื่อนดูบันทึกที่ทำไว้ “ได้ค่ะพ่อ” “อ้อ! จำอังเดรได้ใช่ไหม เขาอยากเจอลูกนะ เห็นว่าจะคุยเรื่องทุนเรียนต่อ” “คุณอังเดรกลับมาเมืองไทยแล้วเหรอคะ ไม่ได้เจอตั้งสองปี นึกว่าลืมกันไปแล้ว” “วันเสาร์เขาก็จะไปด้วย ยังไงลองคุยกันดูแล้วกัน” “แล้วถ้าเกิดพลอยได้ทุนไปเรียนไกลๆ พ่อจะอยู่ยังไงคะ” “ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ พ่อต้องสนับสนุนให้ลูกได้เรียนสูงที่สุดอยู่แล้ว” “ถ้าพลอยไม่อยู่ ใครจะดูแลพ่อ พ่อนะ ถ้าไม่มีคนคอยเตือ
พลอยดาวอยู่ในชุดกระโปรงผ้าต่อทอลายพื้นเมืองและสวมเสื้อสีขาวปักลายดอกไม้เล็กๆ ผมยาวรวบเป็นมวยง่ายๆ ปักปิ่นไม้สลักลายดอกพิกุล ใบหน้าแต้มแต่งพอดีไม่จัดจ้านหรือจืดชืดจนเกินไป ริมฝีปากที่เคลือบลิปสติกสีอ่อนใสขับเน้นกลีบปากอิ่มชวนมอง คุณวิทยามองดูลูกสาวที่เติบโตขึ้นจากวัยเยาว์ ที่ผ่านมาเขาอยู่กับลูกสาวเพียงสองคน แต่ไม่ใช่เขาหรอกที่ดูแลลูก ในทุกๆวัน ลูกเป็นฝ่ายดูแลเขาต่างหาก ไม่ว่าจะเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดลำบากแค่ไหน พลอยดาวไม่เคยบ่น บางทีเขาก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อที่ใช้ไม่ได้เอาเสียเลย “มีอะไรหรือเปล่าคะพ่อ” พลอยดาวถามเมื่อเห็นสายตาพ่อจ้องมองเธออยู่ ในมือถือแท็บเล็ตรุ่นเก่าที่ใช้งานมานานแต่ยังคงสภาพดี “พ่อมองลูกสาวตัวเองไม่ได้หรือไง” คุณวิทยาทำหน้ายุ่ง ลูกสาวสวยขนาดนี้แล้วสินะ ก็ไม่แปลกที่มีหนุ่มมาจีบ “วันนี้พ่อแปลกๆนะคะ” พลอยดาวจ้องมองเหมือนจับผิด “ทำอะไรผิดแล้วไม่บอกลูกหรือเปล่าคะ” “มีที่ไหนล่ะ” พ่อทำหน้าตึง วาดมาดเป็นคุณพ่อจอมหวง “ลูกทำอะไรไม่เกรงใจพ่อแบบนี้นะสิ มีแฟนถึงไม่ได้พามาให้พ่อเห็นหน้า” “
ไม่ต้องอธิบายมากความไป ดูเหมือนทุกคนเข้าใจความสัมพันธ์ของเธอกับเขาได้เป็นอย่างดี “แล้วนี่แยกยัยพลอยกับยัยมุกออกได้ยังไงล่ะ สองคนหน้าเหมือนกันมากเลยนะ” เพื่อนพ่อคนหนึ่งเอ่ยถามเหมือนอยากลองใจมากกว่าอยากได้คำตอบ กวิวัชร์เผลอสบตากับพ่อของพลอยดาว เห็นสีหน้าดุดันแบบหวงลูกสาวก็อดยิ้มในใจไม่ได้ แน่ละ เขาเจอแต่คนที่แทบจะถวายลูกสาวใส่พานให้ แต่พอเจออะไรแบบนี้กลับรู้สึกดีชอบกล เหมือนได้สิ่งของล้ำค่ามาอยู่กับมือ และต้องรักษาทะนุถนอมให้ดี “ความรู้สึกครับ” เขาตอบไปตามที่คิด “พราวมุกร่าเริงไม่ชอบอยู่นิ่งแต่พลอยดาวมีความสุขุม เป็นคนมีเหตุผลและใจเย็น อยู่ใกล้แล้วทำให้ใจสงบครับ” คำตอบของเขาเรียกเสียงผิวปากจากบรรดาศิลปินรุ่นลุง พวกเขาตบไหล่กวิวัชร์อย่างเป็นกันเองชวนพูดคุยอย่างไม่ถือตัวว่าอายุห่างกันรุ่นลูกรุ่นหลาน พลอยดาวเห็นพ่อนิ่งไปก็อดยื่นมือไปแตะแขนพ่อไม่ได้ “พ่อ...” คุณวิทยายิ้มให้ลูกสาว พลอยดาวกับพราวมุกเหมือนกันมาก แม้จะโตเป็นสาวแล้วก็เรียกว่าพิมพ์เดียวกันได้ มีแค่ลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน คนที่ใช้ใจมองจะเห็นความ
พลอยดาวพูดประโยคเดียวกับน้องสาวฝาแฝด พราวมุกพยักหน้าแล้วแล้วจับไหล่พยุงพี่สาวฝาแฝดให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เธอเดินวนดูรอบๆ วันนี้พลอยดาวไปงานเลี้ยงกับกวิวัชร์ เรียกว่าเปิดตัวหรูหรากันเลยทีเดียว เธอจึงเนรมิตพลอยดาวให้สวยหวานด้วยชุดราตรีเกาะอกกระโปรงด้านหน้าสั้นด้านหลังยาวอวดเรียวขาสวยด้วยสีม่วงลาเวนเดอร์ ผมยาวม้วนเป็นริ้วคลื่นประดับกิ๊บมุกสีขาวเข้ากับต่างหูและสร้อยคอ “ชุดสร้อยมุกของแม่ ชุดเดรสเช่ามา” พราวมุกหัวเราะเสียงใส เรื่องแต่งหน้าทำผมเธอถนัดนักล่ะ “บอกพระเอกด้วยห้ามฉีกทึ้งเสื้อผ้านางเอกเด็ดขาด” “ยัยมุก!” พลอยดาวเขินจัดยกมือขึ้นตีแขนพราวมุกแก้เขิน พราวมุกกระโดดหลบแล้วหัวเราะออกมาเป็นจังหวะที่โทรศัพท์มือถือของพลอยดาวดังขึ้นจึงเดินไปรับสาย พราวมุกจึงได้หยุดหอบหายใจเบาๆ “พี่กั้ง เอ่อ ท่านประธานมารับแล้ว พลอยไปก่อนนะ” “จ้า โชคดีนะ ต้องการความช่วยส่งSOS ขึ้นท้องฟ้าแล้วมุกจะไปหาทันที” พลอยดาวหัวเราะเสียงใส คว้ากระเป๋าถือแล้วเดินออกจากห้องของพราวมุกไป หญิงสาวเจ้าของห้องถอนหายใจเบาๆ เธอเป็นห่วงพลอยดาว มีแฟนคนแรกก็เป็นท่านประธานพั
“ฉันก็ว่าเสียงคุ้นๆ ไม่คิดว่าหนูพลอยดาวจะมางานนี้ด้วย” “สวัสดีค่ะมาดามพิมพ์” พลอยดาวยกมือไหว้ “ไม่เจอกันนานเลยนะคะ” “นั้นนะสิ ฉันก็ยังคิดอยู่ว่าจะติดต่อหนูยังไง พ่อเธอก็หวงลูกสาวเหลือเกิน” หญิงวัยสี่สิบก้าวเข้ามาพร้อมยื่นมือไปจับมือของพลอยดาวด้วยท่าทีสนิทสนม “ขอบใจมากนะ ขายได้หลายภาพเลย” “พลอยไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ คุณๆ ที่นี่ใจดีอยากช่วยเด็กๆ กันอยู่แล้ว” เธอยิ้มแล้วปรายตามองทางกวิวัชร์ที่ยิ้มไม่หุบ ไม่รู้เขาจะยิ้มอะไรนักหนา มาดามพิมพ์มองตามสายตาของหญิงสาวแล้วก็เข้าใจ “กวิวัชร์ใช่ไหมจ๊ะ” “สวัสดีครับ” กวิวัชร์รีบยกมือไหว้ “ไม่ต้องทำเป็นคนอื่นคนไกล เมื่อครู่ฉันเห็นพ่อเธอด้วยนี่ ไม่ได้มาพร้อมกันเหรอ” “คุณพ่อมาด้วยหรือครับ” ปกติพ่อไม่ค่อยออกงานสังคมถ้าไม่จำเป็นจริงๆ “วันนี้ผมมากับน้องพลอย” “หนุ่มหล่อสาวสวยเหมาะสมกันจริงๆ” มาดามพิมพ์อดหยอกเย้าไม่ได้ “ตามสบายนะจ๊ะ” พลอยดาวยิ้มรับแล้วแอบขึงตาใส่กวิวัชร์แก้เขิน “ผมไม่รู้ว่าคุณพ่อมา น้องพลอยเจอคุณพ่อของพี่หน่อยนะครั
น้ำเสียงออดอ้อนอ่อนหวานทำเอาหัวใจของชายหนุ่มอ่อนยวบ เขาถอนหายใจแล้วหมุนตัวไปถอดเสื้อที่สวมอยู่ออก ปกติเขานอนไม่สวมเสื้อแล้วก้าวขึ้นไปนอนเคียงข้าง คนตัวเล็กพลิกตัวเข้ามากอด ซุกใบหน้าหาตำแหน่งที่พอเหมาะแล้วหลับตาพริ้ม เขาก้มมองแล้วยิ้มอย่างเป็นสุข การได้กอด ได้รักและปกป้องใครสักคน มันทำให้หัวใจอิ่มเอมได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ? ความรักเป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆ “รักนะคะ” “อะ..อ.ไรนะครับ” เขานึกว่าเธอหลับ แม้ได้ยินชัดแต่อยากได้ความมั่นใจอีกครั้ง “รักค่ะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้ “ขอบคุณที่มาให้รักนะคะ” “ครับ” เขาจูบหน้าผากเธอเบาๆ “พี่รักน้องมุก ขอบคุณที่ให้โอกาสผู้ชายธรรมดาคนนี้ได้รู้จักความรักนะครับ” “ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง มุกจะถนอมความรักของพี่คิมไว้นานๆ” “พี่ก็จะถนอมความรักที่น้องมุกให้พี่เก็บไว้ให้นานที่สุด” “อื้ม พี่คิมไม่กลัวพ่อของมุกจริงๆเหรอคะ เราคบกันแล้ว ไม่ต้องหลบๆมาเจอกัน เพราะฉะนั้นให้พ่อแม่รู้คงไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ” พราวมุกถาม ดวงตาเริ่มปิดลง คราวนี้เธอง่วงแล้วจริงๆ
“เหมือนเรื่องของเรานะเหรอ” “แค่กๆ ก็...ประมาณนั้น” “ทำไมพูดแค่นี้ก็ต้องเขิน” เธอมองเขาแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ “แล้วนายไม่เข้าใจประโยคไหนของฉัน” “ก็...เอ่อ...ที่น้องมุกบอกว่าไม่ชอบผู้ชายเหมือนพ่อ ...พี่ก็พยายามวิเคราะห์มาตลอดแต่ก็ยังไม่เข้าใจ” “ถึงขั้นต้องวิเคราะห์เลยเหรอ” เธอไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ฉลาดอย่างนายไม่เข้าใจจริงๆเหรอ” เขาพยักหน้าแทนคำตอบ ท่าทางเหมือนลูกศิษย์ที่รอรับคำสอนของคุณครูทำให้พราวมุกยันกายขึ้นนั่ง เขาหยิบหมอนให้เธอเอนหลังพิงหัวเตียง “ตั้งแต่เด็ก ฉันจะเห็นพ่อยุ่งกับงานตลอด แม่เล่าว่าพ่อกับแม่คบกันตั้งแต่เรียนมหา’ลัย พอจบก็แต่งงานกันทันที และเพื่อให้ได้เงินเดือนที่สูงขึ้น พ่อก็เรียนต่อปริญญาโทและทำงานไปด้วย รับงานวิจัยอีกสารพัด หลายครั้งที่แม่รู้สึกเหมือนเป็นคนนอก ไม่เข้าใจในงานของพ่อ จนสุดท้ายมันเกิดเป็นความเหินห่างและทำให้แม่เป็นฝ่ายขอเดินออกจากชีวิตของพ่อ ฉันเอง...เวลาอยู่กับพ่อก็ไม่ค่อยเข้าใจงานของพ่อ เวลาอยู่กันสามคน ฟังพ่อกับพลอยคุยกันก็ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรกัน ยิ่งเวลาที
“อยู่ที่นี่แหละ” แฟรงค์ยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้รู้สึกเสียวสันหลังวาบ“ทะ...ทำไมทำแบบนี้”“เพราะเธอทำให้ฉันต้องทำแบบนี้”“แฟรงค์...ฉันไม่เข้าใจ ...นายปล่อยฉันก่อนได้ไหม เรา...เรามาคุยกันดีๆ ก่อนดีไหม”“มุก” น้ำเสียงเขาพร่าลง สายตาจับจ้องริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันแน่นจนเรียบตึง “ฉันทำดีกับเธอตั้งมากมาย เธอยังไม่สนใจฉัน ฉันเบื่อเล่นเป็นบทคนดีแล้ว ถึงเวลาที่เธอจะได้รู้ว่าตัวจริงของฉันเป็นยังไง บางที เธออาจจะชอบมันก็ได้”พราวมุกเบี่ยงหน้าหลบทันทีที่เห็นแฟรงค์โน้มหน้าลงมา เธอพยายามยกเท้าขึ้นเตะไปมาแต่กลับถูกเขาใช้ร่างตัวเองกดทับเธอไว้ ยิ่งดิ้นรนร่างกายก็ยิ่งแนบชิด เสียงลมหายใจของเขาแรงขึ้น สีหน้าก็ตื่นเต้นจนแก่นกายแข็งขันดุนดันจนเขาปวดหนึบไปหมด เขาครางอย่างพอใจที่เห็นเหยื่อตัวน้อยแสดงการขัดขืนชัดเจนถึงเพียงนี้ พราวมุกเข้าใจในทันทีว่าการขัดขืนของเธอกระตุ้นความต้องการทางเพศของเขา แต่เธอฝืนทำอยู่นิ่งไม่ได้ สีหน้าหื่นกระหายมันน่ารังเกียจ เธอขยะแขยงจนต้องพยายามบิดตัวหนี“ที่รัก! บอกแล้วคุณต้องชอบมัน”“แฟรงค์! ปล่อย!”เธอตวาดเขาเสียงสั่นแล้วถ่มน้ำลายใส่หน้าเขา แฟรงค์ผงะไปทันที ปล่อยมือจาก
“อ้าว…แม่ก็นึกว่าลูกกับหนูพลอยดาว...” “ไม่ใช่ครับแม่ คิมกับน้องพลอยเป็นแค่พี่น้องกันครับ ไม่ได้คิดอย่างอื่นกันเลย แล้วตอนนี้น้องพลอยก็มีคนรักแล้วด้วย “แม่ก็นึกว่า...” แม่ยิ้มแหย คุณกานดาก็เห็นลูกชายเที่ยวรับส่งดูแลพลอยดาวมาตลอด หญิงสาวเองก็นิสัยดี น่ารัก ถ้าได้เป็นลูกสะใภ้ นางก็ไม่ขัดอะไร “เอ่อ...แม่ครับ แม่ว่า..ปกติผู้หญิงเขาจะชอบผู้ชายเหมือนพ่อใช่ไหม แบบมีพ่อเป็นต้นแบบอะไรอย่างนั้น” คุณกานดาฟังแล้วก็พยักหน้ารับ “ก็ทำนองนั้นแหละ” “แล้วถ้าผู้หญิงที่บอกว่าไม่ชอบผู้ชายเหมือนพ่อนี่...แม่คิดยังไงครับ” “แม่เคยเจอเคสเด็กผู้หญิงถูกพ่อทำร้ายร่างกายมาโรงพยาบาล ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่มีใครอยากได้แฟนแบบพ่อหรอก” คิมหันต์ขมวดคิ้วยุ่ง เป็นไปไม่ได้หรอก อาจารย์วิทยาไม่ใช่คนชอบใช้ความรุนแรงอยู่แล้ว เป็นคนใจเย็นและประนีประนอม ขนาดเจอนักศึกษาหัวเสียขึ้นเสียงใส่ อาจารย์ยังนิ่งเฉยไม่ตอบโต้ได้เลย “...หรือไม่ก็...” คุณกานดาพูดอย่างเพิ่งนึกออก “อาจจะเปรียบเปรยว่าทำตัวเหมือนพ่อ คอยคุมไปเสียทุกอย่างก็ได้”
“หา! นี่เราเห็นอะไรแบบนี้บ่อยๆเหรอ” “พี่คิม! มุกไม่ใช่คนชอบแอบดูคนอื่นนะ แค่สงสัยนิดๆหน่อยๆแต่ไม่มีหลักฐานเท่านั้นเอง” ได้ยินเธอเรียก ‘พี่คิม’ หัวใจก็ปลื้มปริ่มยินดี มันไม่เหมือนเวลาพลอยดาวเรียกเขาว่า ‘พี่’ เพราะนั้นคือความรู้สึกแบบพี่ชายน้องสาว แต่เมื่อได้ยินจากปากของพราวมุก เขารู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น ไม่ใช่ ‘นายนั้น นายนี่ หรืออาจารย์คิม’ เขาห็นใบหน้าเล็กๆ มีเหงื่อออกก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อให้“ให้พี่สตาร์ทรถให้ไหม” “ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวพวกเขารู้” โชคยังเข้าข้างที่ไม่กี่นาทีต่อมารถคันนั้นสงบลง อวัชลงจากรถเสื้อผ้ายับยู่เล็กน้อย เขาถอยห่างออกมาและไม่กี่นาทีต่อมารถคันนั้นก็เคลื่อนออกไป พราวมุกสะดุ้งโหยงเมื่ออวัชกวาดตามองมาทางเธอ หญิงสาวรีบก้มหัวลงต่ำแต่กลายเป็นว่าเธอซุกเข้าไปในอกแกร่งของคิมหันต์กลิ่นหอมจากตัวเขาทำให้เธอดิ้นขลุกขลักแต่ชายหนุ่มกอดรัดแน่นขึ้น “ชู่ว์...อย่าเพิ่งขยับ ให้เขาไปก่อน” คราวนี้พราวมุกจึงหยุดดิ้นแทบกลั้นหายใจเมื่อตกอยู่ในวงแขนที่โอบกอด อากาศน้อยเกินไปหรือเธอกำลังเ
พราวมุกสะบัดหน้าไปมา บอกตัวเองให้ทุ่มเทกับงานและลืมผู้ชายที่คิมหันต์นั้นเสียที ทว่าอีกด้านหนึ่งที่พราวมุกไม่รู้ ฝ่ายอาจารย์หนุ่มก็หน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา แต่ทุกคนเข้าใจไปว่าเขาเครียดกับเรื่องวิทยานิพนธ์ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพราวมุกทำเหมือนไม่อยากติดต่อพูดคุย ทั้งที่เขาอยากเดินหน้า ‘จีบ’ อย่างเป็นทางการ แต่เธอกลับหลบหน้าเขาเสียอย่างนั้น มันเกิดอะไรขึ้น(วะ)เนี้ย! เขายกมือขึ้นนวดขมับเป็นจังหวะเดียวกับโทรศัพท์มือถือดังขึ้น รีบร้อนรับสายโดยไม่ดูว่าใครโทรเข้ามา เพราะใจหวังให้เป็นเสียงหวานใจ แต่กลายเป็นว่า “อาจารย์พี่คิม...” “ครับ” คิมหันต์ตอบรับแล้วยกมือถือดูหน้าจอแล้วค่อยพูดต่อ “อ้อ..นายนนท์มีอะไรเหรอ” “พอดีมีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือ รูปที่ขายได้ในงานนิทรรศการต้องเอาไปส่งที่บริษัท...แต่รถของพวกเราขนไปไม่หมด เลยอยากจะรบกวนอาจารย์คิม...” เพียงแค่ได้ยินชื่อบริษัทนั้น เขาก็ดีดตัวนั่งหลังตรงทันที เพราะมันคือบริษัทที่พราวมุกทำงานอยู่ “ได้ครับ เดี๋ยวพี่เอาไปส่งเอง” “ต้องรบกว
“ฮาโหล” “น้องมุก” “อืมมมม” “พี่อยู่หน้าคอนโดแล้วนะ นี่...เปิดกล้องคุยกันหน่อย ไม่สบายมากไหม” ครู่ต่อมาคิมหันต์ก็ได้เห็นพราวมุกที่นอนตะแคงกอดตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่ตัวนั้น ท่าทางดูไม่ดีเอาเสียเลย “กินยาหรือยัง ไม่สิ กินข้าวหรือยัง” “มุกไม่มีแรง” เธอพึมพำออกมาแทบฟังไม่เป็นคำพูด รู้สึกหนักศีรษะมาก “โอเค. เดี๋ยวพี่ขึ้นไปหา พี่ไปซื้อยากับของกินให้เราก่อน” พราวมุกได้แต่รับคำแล้วหลับต่อ คิดว่าตัวเองฝันไปด้วยซ้ำจนกระทั่ง ได้ยินเสียงเรียกเพรากับเคาะประตูห้องจนเธอสะดุ้งแล้วเดินไปเปิดประตูให้ ยังไม่ทันเอ่ยถามอะไร ฝ่ามือของเขาที่อังที่หน้าผากของเธอ “ตัวไม่ร้อน แต่วัดไข้เผื่อความแน่ใจก่อนแล้วกัน” “นาย...” คราวนี้พราวมุกตื่นเต็มตา เบี่ยงตัวให้เขาเข้ามาในห้อง เธอยืนงงๆ ว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าเธอไม่สบาย “พี่ซื้อโจ๊กมากินสักหน่อยแล้วค่อยกินยา จะตรวจATKไหม” “มุกตรวจแล้วขึ้นขีดเดียว” เธอเดินลากเท้ามานั่งที่เก้าอี้ในห้องครัวขนาดเล็ก แต่สายตาก็ถู
“อ่อ...ไม่...” “ไม่ต้องเขินน่า คนกันเองทั้งนั้น ใครก็รู้ว่าอาจารย์คิมจีบน้องพลอยดาวอยู่” “ไม่ใช่ครับ!” “อายุไม่น้อยแล้ว คบกันก็ไม่แปลกนี่ จริงสิงานเปิดนิทรรศการ อาจารย์คิมแวะไปรับสองพ่อลูกมางานพร้อมกันได้ไหม ปกติอาจารย์วิทยาไม่ค่อยชอบขับรถ” พราวมุกได้ยินชัดเจน ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยินเรื่องทำนองนี้ รู้สึกเจ็บแปลบที่อกจนต้องยกมือขึ้นกดตรงที่เจ็บ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เธอยังเด็กแล้ว แม้เธอกับพลอยดาวเป็นฝาแฝด หน้าตาและรูปร่างเหมือนกันมาก เคยสลับเปลี่ยนตัวกันและไม่ถูกจับได้ แต่ลึกๆ เธอรู้ดีว่าความชอบรวมทั้งการใช้ชีวิตของเธอไม่เหมือนพลอยดาว เวลาที่อยู่ด้วยกันสามคนพ่อลูก เธอรู้สึกเหมือนคุยกับพ่อไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ มีแต่พลอยดาวเท่านั้นที่เข้าสิ่งที่พ่อทำ บางที นี่อาจเป็นเหตุผลที่แม่หย่ากับพ่อ และเป็นเหตุผลที่แท้จริงที่เธอไม่อยากอยู่บ้านเดียวกับพ่อ เธอค่อยๆ ขยับเท้าและก้าวออกมาอย่างเงียบเฉียบ ราวกับไม่เคยยืนอยู่ตรงนั้น เธอเดินกลับมาที่ลานจอดรถ คล้ายลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่ตัดสินใจเข้าไปนั่งในรถ ไม่คิดจะโทษเขาในความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น
เอกสารของวันนี้เรียบร้อยหมดแล้ว พราวมุกทบทวนตารางงานของวันพรุ่งนี้แล้วเก็บของใช้ใส่กระเป๋าเตรียมตัวกลับ ใกล้งานนิทรรศการแล้ว เธอรับปากคนอื่นๆ จะไปช่วยดูความเรียบร้อย เลิกงานแล้วก็ต้องแวะไปดูสถานที่จัดงาน เธอเป็นคนทีทำอะไรแล้วต้องทำให้สุด ทั้งงานประจำก็ไม่ให้บกพร่อง “คุณมุกครับ” “คะบอส” พราวมุกวางกระเป๋าสะพายลงบนโต๊ะทันที “คือ...เอ่อ...” เขาอึกอักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อันที่จริงเขาไม่แน่ใจว่าพราวมุกรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับพลอยดาวหรือไม่ ตั้งแต่ตกลงคบกัน เขาไม่เห็นพราวมุกจะมีท่าทีเปลี่ยนไปเลยสักนิด เธอไม่เคยใช้สิทธิพิเศษหรือร้องขออะไรเป็นกรณีพิเศษเพียงเพราะเธอคือน้องสาวของผู้หญิงที่เขาคบหาดูใจ “มีอะไรหรือคะบอส” เห็นท่าทีอึกอักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธอก็ต้องสูดลมหายใจลึก หวังว่าจะไม่ให้เธอทำงานล่วงเวลานะ ‘เร็วๆนะบอส มุกมีนัด’ “เอ่อ คุณมุกเคยไปงานฟังบทกวีอะไรพวกนี้ไหมครับ” “เอ๋?” หญิงสาวทำตาโต “คือ...ธีมงานเป็นยังไงเหรอครับ ต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษไหม” “อ้อ”