ทันทีที่บานประตูปิดลง มือแกร่งก็รวบร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอด แล้วโน้มหน้าลงประทับริมฝีปากอ่อนนุ่มที่เผยอขึ้นพอดี เขากลัวเธอเปลี่ยนใจ จึงรีบจูบเธอเสียก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกมา
พลอยดาวไม่คิดว่าตัวเองจะตอบรับเขาง่ายดายหลังจากไวน์พร่องไปครึ่งขวด เธอไม่ใช่คนคออ่อนนัก เวลาไปออกงานกับพ่อก็ดื่มนิดๆหน่อยๆ พอเข้าสังคม และเป็นคนขับรถให้พ่ออยู่บ่อยๆ อาจเพราะครั้งนี้เธอไม่ตามพ่อไปสัมมนาต่างจังหวัดด้วย อาจเพราะเธอรู้สึกอิสระมากขึ้นเพราะเรียนจบแล้ว หรือเพราะคำชวนอันเย้ายวนของเขา
‘ถ้าคุณยังไม่พร้อมจะคบกับผม ถ้างั้นคืนนี้เรามีความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์ไหม’
‘อะไรนะคะ’
‘แค่คืนนี้และไม่ผูกมัด’
พลอยดาวรู้ความหมายของประโยคนี้ดี แต่ไม่คิดว่าเขาเอ่ยปากชวนง่ายๆ หรือเพราะเขาทำให้มันเป็นเรื่องง่ายๆ เธอจึงตัดสินใจได้แทบจะในทันที เธอวางมือของตนบนฝ่ามือของเขาแทนคำตอบ และเขาก็กุมมือเธอเดินออกมาจากห้องอาหารชั้นที่สามสิบสี่มาห้องสวีทสุดหรูชั้นที่ห้าสิบสอง เพราะจิตใจจดจ่อกับมือที่กุมมือเธออยู่ทำให้ไม่ได้สนใจว่าเขาพาเธอมายังห้องสวีทนี้ได้ยังไง และเพียงบานประตูปิดลง ร่างของเธอก็ถูกเขากอดรัดแนบแน่น
เรียวลิ้นร้อนแทรกเข้ามาในโพรงปากไล่ต้อนลิ้นน้อยๆ ของหญิงสาวที่เพิ่งเคยสัมผัส ‘จูบแรก’ รสไวน์แดงยังอยู่ในปากและลมหายใจอุ่นร้อน พร้อมกับจับเอวคอดกิ่วขึ้นให้นั่งบนเคาน์เตอร์มินิบาร์ จากนั้น มือแกร่งลูบไล้แผ่นหลังจนเจอซิปที่ซ่อนอยู่แล้วรูดมันลงอย่างรวดเร็ว
ความเย็นของอากาศในห้องแตะแผ่นหลังเปลือยเปล่าทำให้เธอผงะไปเล็กน้อย มือเรียวเล็กยกขึ้นดันแผ่นอกอีกฝ่ายทันที แววตาของเขาร้อนแรงราวกับมีเปลวไฟพร้อมหลอมละลายให้มอดไหม้ แม้เขินอายแต่ใจใคร่รู้ว่าเขาต้องการทำอะไรกับร่างกายนี้ พลอยดาวได้ยินเพียงเสียงลมหายใจหนักหน่วง และเสียงหัวใจเต้นรัวของตัวเองเมื่อเขาโน้มหน้าลงจูบที่เนินอก เธอหลุดเสียงครางเบาๆ ที่เป็นสัญญาณเชื้อเชิญอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว กวิวัชร์ใช้มือข้างเดียวปลดตะขอบราเซียออกง่ายดาย เพียงผ้าลูกไม้หลุดออกเขาก็ใช้ปากครอบครองยอดอกสีชมพูหวาน หญิงสาวตัวสั่น เงยหน้าส่งเสียงครางหวานแต่กลับทำให้ชายหนุ่มรู้สึกดีไปด้วย ลิ้นร้อนไล้เลียจนเปียกชุ่ม สลับกับขบกัดเบาๆ แต่ยิ่งเพิ่มความเสียวซ่าน
“อ๊า! คุณ...”
“เรียกชื่อผม” เขาถอนปากจากทรวงอกข้างหนึ่งมาหยอกเย้าอีกข้าง
“กวิ...วัชร์”
“ชื่อเล่นสิครับ” เขากระซิบเสียงพร่า “กั้ง”
“คุณกั้ง อึก..อ๊า”
พลอยดาวครางสะอึกสะอื้น ฝ่ามือของเขานวดคลึงอกอิ่มและยังปากร้ายกายที่ดูดดึงปลายถัน บางครั้งเขาอมไว้ในโพรงปากแล้วตวัดลิ้นรัวจนเธอส่ายหน้าไปมาเพราะเสียวซ่าน แอ่นอกให้เขาดื่มกินอย่างไม่รู้ตัว สองแขนเท้าไปที่เคาน์เตอร์เพื่อพยุงตัวไม่ให้แผ่หราลงไป เขาละมือจากอกคู่สวยเลื่อนไปปลดสายรัดถุงน่อง เขาผละจากร่างที่หอบหายใจแรงพลางเลียริมฝีปากตนเอง เธอหวานหอมกว่าที่เขาคิดไว้มาก หญิงสาวมองเขาถอดรองเท้าและรูดถุงน่องออกไปพ้นเรียวขา กางเกงชั้นในตัวน้อยเปียกชุ่มอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ฝ่ามือหนาลูบไล้เบาๆ แต่เรียกเสียงครวญคราง เขาเอื้อมมือลงไประหว่างเรียวขาทั้งสอง นิ้วยาวแตะต้องส่วนที่เธอไม่เคยให้ใครสัมผัส เขาดันนิ้วเข้าไปในร่องรักที่เปียกชุ่ม ร่างเล็กสั่นสะท้านและเกร็งตัวเพราะไม่เคยกับเรื่องแบบนี้มาก่อน
กวิวัชร์จับจ้องสีหน้าของหญิงสาวที่เวลานี้พวงแก้มแดงระเรื่อ ดวงตาหลังแว่นตาพร่ามัวคล้ายมีหยดน้ำเอ่อคลอ เธอกัดริมฝีปากในบางครั้ง และส่งเสียงสะอึกสะอื้นเมื่อเขาขยับนิ้วเข้าออกพร้อมกับบดขยี้จุดอ่อนไหว
“คุณกั้ง..อื้อ...พลอย..พลอยไม่ไหวแล้วค่ะ”
แค่นิ้วยังรัดเขาแน่นขนาดนี้ กวิวัชร์ได้แต่ครางในอก แล้วเพิ่มนิ้วเป็นสองนิ้ว เขาอยากเห็นเธอเสร็จสมเหมือนเวลานี้ที่สะโพกสวยส่ายร่อนรับจังหวะซอยนิ้วของเขา เขาเร่งเร้าและพาเธอไปถึงจุดสุดยอด
“อร๊ายยย” พลอยดาวหลุดหวีดร้องเมื่อตัวเองถูกส่งไปถึงจุดสุดยอด เธอหอบหายใจจนตัวโยนในขณะที่เขาจ้องมองเธอตาไม่กะพริบ เขาถอนนิ้วออกแล้วส่งนิ้วที่เปื้อนคราบรักวาวใสเข้าปากตัวเองแล้วใช้อีกมือที่ว่างดึงแว่นตาของเธอออก
“สายตาพลอยสั้นมากนะคะ”
“ดีสิครับ” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ “ผมจะได้อยู่ใกล้ๆ ให้คุณมองเห็นผมได้ชัดเจน”
ภายนอกกวิวัชร์คือผู้ชายสุขุม แต่เวลานี้เขาเหมือนเด็กหนุ่มเจ้าเล่ห์อย่างไรไม่รู้ พลอยดาวไม่คิดว่าตัวเองจะได้เห็นอีกด้านของเขา
กวิวัชร์ไม่คิดว่าตัวเองจะกลายเป็นเสือหิวขนาดนี้ เขาแทบอยากกระชากเธอมากอดตั้งแต่อยู่ในลิฟต์แล้วแต่ต้องข่มใจไว้ และเมื่อเสื้อผ้าของพลอยดาวหล่นลงมากองที่เท้า ทำให้เขาพบว่าเบื้องหน้าคือเรือนร่างแสนเย้ายวน เขาช้อนร่างอรชรอุ้มเข้าไปในห้องนอน ว่างร่างเปลือยเปล่าบนที่นอนขนาดคิงส์ไซด์ เขาถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว ดวงตาคู่นั้นกวาดตามองเขา ลิ้นสีชมพูแลบออกมาเลียริมฝีปากเหมือนหิวโหยยิ่งทำให้เขาแทบกระโจนใส่ทันที กวิวัชร์ปีนขึ้นเตียงแล้วคร่องหญิงสาวไว้ โน้มหน้าลงจูบกลีบปากนุ่มขบเม้มจนพอใจแล้วแทรกลิ้นเข้าไปชิมความหวานในโพรงปากอีกครั้ง ครั้งแรกเธอเงอะงะจนเขาแปลกใจ แต่เมื่อได้จูบอีกเขากลับรู้สึกพอใจและอยากจูบอีก ร่างกายกำยำบดเบียดร่างอ่อนนุ่มจนร้อนระอุไปทั่วทุกอณู แก่นกายที่แข็งขึงถูไถกลีบดอกไม้สาวที่คายน้ำหวานจนเปียกชุ่ม
“อื้อ...คุณกั้ง...ดะ...เดี๋ยวก่อนค่ะ...” เธอกำลังเตลิดกับสิ่งเย้ายวนเบื้องล่าง แต่ยังพอรั้งสติไว้ได้และผลักอกเขาเบาๆ
“ผมรู้” เขาพูดเสียงพร่า ขยับตัวออกอย่างจากหญิงสาวไปควานหากล่องถุงยางอนามัยที่พกติดตัวมาด้วย แวบแรกเขาคิดหาข้อแก้ตัวดีๆ เกรงว่าพลอยดาวจะเข้าใจผิดว่า เขาวางแผนดินเนอร์เพื่อจบลงบนเตียง เขาเองก็อยากค่อยเป็นค่อยไป แต่ไม่รู้ว่าหลังจากดื่มไวน์ไปแก้วที่เท่าไหร่ เขากลับชวนเธอวันไนท์ฯ เสียอย่างนั้น
พลอยดาวหลุบตาลงอย่างเขินอาย อายเหรอ? อายตอนนี้จะทันไหมเนี้ย ขึ้นเตียงมาขนาดนี้แล้ว แค่เห็นขนาดของน้องชายเขาแวบๆ เธอก็ตัวสั่นขึ้นมา และเมื่อเขาขยับตัวกลับมาอยู่เหนือร่างเธออีกครั้งก็ทำให้รู้ว่าเธอไม่สามารถถอยหนีได้อีก หรือจะพูดให้ตรงกับใจ เธอไม่คิดอยากหนีไปจากสิ่งที่เขากำลังมอบให้
มือแกร่งลูบไล้ไปตามเรือนร่างอ่อนนุ่มที่ทำให้เขารุ่มร้อน เขากอบกุมความเป็นชายที่สวมปราการไว้พร้อมรบถูไถกับร่องรักที่คับแคบ เรียวขางามแยกออกอย่างรอคอยเขากดแก่นกายแทรกลงไปในโพรงถ้ำสีหวาน“อึก...” ความเจ็บแปลบแล่นผ่านพร้อมกับแก่นกายร้อนระอุที่แทรกเข้ามา มือใหญ่กุมสะโพกเธอไว้มั่นไม่ให้ถอยหนี“อา” กวิวัชร์ครางเสียงต่ำเมื่อถูกบีบรัด เขาจ้องมองหญิงสาวที่กัดริมฝีปากแน่นเพื่อกลั้นเสียงร้อง เขาจึงโน้มหน้าลงจูบเธออีกครั้งพลางดันตัวตนเข้าไป ผนังอ่อนนุ่มโอบรัดแก่นกายเขาแน่น มันคับแคบจนเขาต้องถอนตัวออกช้าๆ แล้วค่อยๆ ดันกลับเข้าไปใหม่ เขาถอนแก่นกายออกเกือบสุดแล้วดันกลับเข้าไปอีก ซ้ำไปซ้ำมาจนหญิงสาวส่ายสะโพกอย่างไม่รู้ตัว ความอ่อนหวานที่ได้รับทำให้เขากดกระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุด หญิงสาวผวาเฮือกกอดไหล่เขาไว้แน่นสวรรค์! กวิวัชร์ตื่นตะลึงเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ แต่ไม่ใช่เวลาที่จะเอ่ยถาม เขาขยับสะโพกสอบเคลื่อนไหว ความเป็นชายของเขาฝังลึกในตัวเธอ นำพาความเสียวซ่านจนแทบคลั่ง เขาโยกเอวดุดันและซอยถี่ทำเอาหญิงสาวได้แต่ครางจนเสียงแหบแห้ง “ผ่อนคลายหน่อย ซี๊ด...แบบนั้นแหละ คุณน่ารักมาก พระเจ้า! คุ
กลิ่นอาหารหอมกรุ่นชวนน้ำลายสอ ทำเอาพราวมุกแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ พลอยดาวหัวเราะเบาๆ แล้วยกชามแกงส้มกุ้งมาวางตรงหน้า บนโต๊ะอาหารมีกับข้าวของโปรดน้องสาวฝาแฝดอีกสองอย่างคือปีกไก่กลางทอดและยำไข่เยี่ยวม้า ส่วนของพ่อเป็นผัดผักรวมมิตร “สุดยอดเลย” พราวมุกกุลีกุจอตักข้าวใส่จานทั้งสามใบ “มุกก็กลับมาอยู่บ้านสิ พลอยทำกับข้าวให้กินจะได้อ้วนๆ ลูกผอมไปนะ” คุณวิทยาบ่นแต่ก็อดยิ้มกับท่าทางซุกซนของลูกสาวไม่ได้ ส่วนอีกคนก็ดูเรียบร้อยสุขุมเป็นผู้ใหญ่เกินวัย ทั้งที่เป็นพี่น้องฝาแฝดกันแท้ๆ แต่นิสัยต่างกันมาก “ไปๆ มาๆ แบบนี้ดีกว่าค่ะ” พราวมุกยิ้มทะเล้นแล้วตักกุ้งในแกงส้มใส่จานข้าวของพ่อ “พ่อก็กินข้าวเยอะๆ นะคะ เห็นพลอยบอกว่าพ่อทำงานยุ่งกินข้าวไม่ค่อยเป็นเวลา” “ขอบใจลูก” พ่อยิ้มบางๆ “แล้วงานลูกเป็นไงบ้าง” “สนุกมากค่ะพ่อ เจ้านายพราวใจดีมากค่ะ” พราวมุกสบตากับพลอยดาว “ใช่ไหมพลอย” “หือ?” พ่อแปลกใจที่เห็นพราวมุกส่งสายตาซุกซนไปทางพลอยดาว เขามองลูกสาวอีกคนที่นั่งกินข้าวเงียบๆ “มีเรื่องอะไรที่พ่อไม่รู้หรือเปล่า” “ไม่มีค่ะ”
“พูดเรื่องนี้อีกแล้ว เจ้านายมุกจ้างมาเท่าไหร่ล่ะ หื้ม” “จ้างอะไร ก็แค่ถามพลอยดูเท่านั้น ถ้าพลอยไม่โอเค. บอสก็จ้างคนอื่นแค่นั้นเอง” ‘แค่นั้นเองเหรอ’ พลอยมุกเจ็บแปลบในอกอย่างไม่รู้สาเหตุ นั้นสินะ เธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย คนอย่างกวิวัชร์คงไม่ขาดแคลนผู้หญิงขนาดต้องตามเทียวไล้เทียวขื่อกับเธอหรอก เสียงกริ่งหน้าบ้านทำให้สองสาวหันมามองหน้ากัน พราวมุกพยักเพยิดให้พลอยดาวไปดูหน้าบ้าน ส่วนเธอเช็ดจานที่เหลืออีกสองสามใบก็เสร็จ พลอยดาวเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนแล้วเดินมาที่หน้าบ้าน ใบหน้าหวานระบายยิ้มแล้วเดินไปเปิดประตูรั้วให้ “พี่คิม ไม่ได้เห็นหน้านานเลยนะคะ” “น้องพลอย” คิมหันต์ยิ้มรับ “อาจารย์อยู่ไหมครับ” “อยู่ค่ะ เข้ามาได้เลยค่ะ ทำเหมือนไม่เคยมา” คิมหันต์หัวเราะเก้อๆ แล้วเหมือนนึกได้ก็รีบยื่นถุงผลไม้ส่งให้พลอยดาว “พี่ซื้อมาฝาก จำได้ว่าน้องพลอยชอบกินผลไม้มากกว่าขนมหวาน” “ขอบคุณค่ะ เข้ามาในบ้านเถอะ ข้างนอกร้อน” “ครับๆ” ชายหนุ่มผงกศีรษะเดินเข้ามาด้านในด้วยความเคยชิน เขาเองก็เข้าๆ ออกๆ บ้านอาจารย์มาหลายปี ตั้งแต่พลอยดาวเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ ยิ่งได้รู้จักกันมากขึ้น เขาก็
“ถ้าชอบคราวหน้าจะฝากมุกไปให้นะคะ กล่องนั้นของมุก มุกเขากลัวอ้วนเลยทำสูตรพิเศษให้ค่ะ”“ไม่ต้องฝากคุณมุกมาหรอกครับ” เขายิ้มกริ่ม “น้องพลอยมาหาพี่กั้งได้ตลอดเวลา”จู่ๆ เขาก็ทำตัวหวานเลี่ยนขึ้นมา ทำให้พลอยดาวหลุดหัวเราะพรืดออกมา เสียงหัวเราะและท่าทางผ่อนคลายของเธอดึงดูดสายตาของชายหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว“พูดปกติก็ได้ค่ะ” พลอยดาวเก็บทุกอย่างลงกระเป๋าเรียบร้อย “ตอนทำงานไม่เป็นแบบนี้นี่คะ”“ก็นั้นมันตอนทำงานนี่” เขายิ้มแล้วช่วยเธอถือกระเป๋าใส่ของ “เอาอะไรมาเยอะแยะ”“พลอยแปลบทความอยู่ค่ะ มีบางส่วนไม่มั่นใจก็เลยมาทำงานที่ห้องสมุด ที่นี่มีเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติอยู่ด้วย ถ้าติดขัดอะไรก็พอสอบถามได้” “นึกว่าน้องพลอยชอบทำงานที่บ้านเสียอีก” ดีที่เขาโทรมาขู่ เอ๊ย! โทรมาเช็กว่าเธออยู่ที่ไหนก่อนจึงตามมาเจอที่นี่ ไม่งั้นบุกไปที่บ้านก็คงไม่ได้เจอกัน“ชอบค่ะ” พลอยดาวพยักหน้ารับ “แต่คนเราก็ต้องออกนอกบ้านบ้าง” หญิงสาวเดินผ่านเคาน์เตอร์ห้องสมุด เธอเอ่ยลาบรรณารักษ์สาวแล้วเดินออกมาพร้อมกวิวัชร์ เท้าของเธอไปสะดุดธรณีประตูเสียจังหวะไปเล็กน้อยแต่ดันไปคว้าแขนของกวิวัชร์ได้ทัน ท่าทางของเธอกับเขาในตอนนี้จึงเหมือนค
“ก็ในมุมของน้องพลอย น้องพลอยคิดแทนพี่แล้วว่าพี่มองว่าน้องพลอยเป็นของแปลกในชีวิตพี่แต่ในมุมของน้องพลอยแล้ว พี่เป็นของแปลกในชีวิตของน้องพลอย จริงอยู่ที่วิถีการใช้ชีวิตของเราแทบไม่มีทางโคจรมาเจอกันได้เลย น้องพลอยทำงานด้านวิชาการ ส่วนพี่เป็นนักธุรกิจ หากไม่ใช่เพราะพราวมุกเราคงไม่ได้พบกัน แต่ไม่คิดบ้างหรือว่าโลกเหวี่ยงเราที่แตกต่างให้มาเจอกันที่ห้องสมุด พี่จำได้ว่าวันนั้นพี่พูดต่อหน้าพราวมุกไปแล้ว พี่ไม่ใช่เด็ก ถ้าสนใจใครก็ไม่อยากเสียเวลา ลองทำความรู้จักกันเลยดีกว่า ถ้าไม่เวิร์คก็แยกย้ายกันไป” “แล้วพี่กั้งคิดว่าความสัมพันธ์ของเรามันเวิร์คไหมคะ” “เวิร์คไม่เวิร์คไม่รู้ รู้แต่ว่า...” เขาวาดแขนโอบเอวบางเข้ามาแนบชิด “เราเข้ากันได้ทีเดียว” บางสิ่งในกางเกงแข็งขันดุนดันอย่างชัดเจน ทำเอาพลอยดาวหน้าเห่อร้อนขึ้นมา “พี่กั้ง...” “พี่คิดถึงน้องพลอยนะครับ” เขาพูดเสียงพร่าพลางโน้มหน้าลงมาขบใบหูอย่างหยอกล้อ “แค่คิดถึงมันก็เป็นแบบนี้แล้ว” หญิงสาวหลุดเสียงครางเมื่อลิ้นร้อนตวัดไล้เลียใบหู เธอเอียงตัวหนีแต่มือแกร่งโอบรัดร่างบางไว้แนบแน่น
“พี่อยากเห็นพลอยเสร็จ” เขากระซิบบอกแล้วจับจ้องหญิงสาวในกระจก เพิ่มนิ้วเข้าไปอีกนิ้ว ร่องรักตอดรัดถี่รัว มือใหญ่บีบเคล้นหน้าอกแรงขึ้น เธอขยับสะโพกรับจังหวะสาวนิ้วของเขา ริมฝีปากสวยเผยอขึ้นส่งเสียงครางเร่งเร้าให้นิ้วมือของเขายิ่งเร่งซอยถี่จนกระทั้งหญิงสาวหวีดร้องและกระตุกเกร็ง เขาถอนนิ้วแล้วส่งนิ้วที่เปื้อนน้ำรักเข้าปากตัวเองก่อนก้มหน้าจูบแก้มเร็วๆ ทีหนึ่ง “อาบน้ำกัน” พลอยดาวเหมือนเพิ่งได้สติ เธอชวนเขาอาบน้ำแต่ตอนนี้เธอเปียกชุ่มเพราะเขา เขารูดกางเกงของตนเองไปพ้นทาง เหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าและแก่นกายที่แข็งขันตั้งชันเหมือนเสาหิน เขาใช้ร่างกายใหญ่โตดันร่างเล็กเข้าไปใต้ฝักบัว เอื้อมมือเปิดน้ำให้น้ำอุ่นไหล่ผ่านทั่วร่างแล้วโน้มหน้าดูดกลีบปากสวย หน้าขาของเขาบดเบียดกึ่งกลางกายสาวมันเปียกร้อนขึ้นมาอีกครั้ง มือเรียวเล็กโอบกอดลูบไล้กล้ามเนื้อสวย เขาถอนจูบแล้วโน้มหน้าลงใช้ปากครอบครองยอดอกสีหวาน ลิ้นร้อนตวัดเลียสลับดูดดึงเรียกเสียงครางกระเส่า เขาออกแรงดูดดึงเหมือนหิวโหยและไม่อาจห้ามใจกับเนื้อหวานตรงหน้าได้ ผิวกายขาวละเอียดกลายเป็นรอยแดง ใต้สายน้ำที่พร่างพรมร
เครื่องครัวครบครันแบบที่คนชอบทำอาหารต้องร้องกรี๊ด แต่ดูเหมือนว่า แต่ละชิ้นแทบไม่เคยถูกใช้งานเลย พลอยดาวอุ่นอาหารด้วยเตาไมโครเวฟแล้วจัดใส่จานนำมาวางบนโต๊ะอาหาร เธอหันมาสบตากับดวงตาที่จ้องมองพร้อมรอยยิ้มกริ่ม “ยิ้มอะไรคะ” สายตาของเขาทำให้เธอเขินอาย รวมทั้งตอนนี้เธอสวมเสื้อยืดของเขาเพียงตัวเดียวเท่านั้น “ไม่คิดว่าการมีผู้หญิงอยู่ในบ้านจะรู้สึกดีอย่างนี้” เขาเท้าคางแล้วมองเธอยิ้มๆ “วิวดีด้วย” “ทะลึ่ง” เธอไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “กินได้แล้วค่ะ” “ครับๆ” เขาหัวเราะในลำคอมองดูเธอแบ่งสปาเก็ตตี้ใส่จานสองใบ แน่นอนว่าของเขาเยอะกว่าของเธอ “อิ่มเหรอ” “ยังมีสลัดกับปีกไก่อีกนะคะ”พลอยดาวดันแว่นตาชิดใบหน้า เพราะมัวแต่นัวเนียอยู่บนเตียงกว่าจะได้ลุกขึ้นมากินอาหารก็สองทุ่มแล้ว เธออาสาอุ่นอาหารที่เขาสั่งไว้ ถึงยังไงเธอก็ชอบกินของอุ่นร้อนมากกว่าเย็นชืด โทรศัพท์มือถือของพลอยดาวสั่นและมีข้อความใหม่ เธอใช้ปลายนิ้วเลื่อนอ่านข้อความขณะกินอาหารไปพร้อมกัน ดวงตางดงามเหลือบมองทางเขาเล็กน้อยก่อนหลุบตาลงแล้วพิมพ์ข้อความส่งไป
“ไม่ต้องห่วงนะ ถึงพ่อพี่เป็นคนเจ้าชู้ แต่พี่สัญญาว่าจะไม่เจ้าชู้เหมือนพ่อแน่นอน พี่ตั้งใจจะมีเมียคนเดียว ถ้าแต่งงานกันแล้วไม่มีคนอื่นแน่นอน”“หมายความว่า ถ้ายังไม่แต่งก็จะมีคนอื่น”“น้องพลอย” เขาครางอย่างอ่อนใจ แต่เธอกลับหัวเราะเสียงใส เสียงหัวเราะของเธอ ทำให้คืนวันของเขากระจ่างราวกับอยู่ใต้แสงตะวันยามเช้า“พี่จริงจังนะครับ” พลอยดาวพูดเลียนเสียงของกวิวัชร์ เธอได้ยินประโยคนี้นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เธอหยิบกระดาษทิชชู่แล้วเช็ดมุมปากให้เขา“พลอยเข้าใจแล้วค่ะ เราจะค่อยๆ เรียนรู้กัน”“ขอบคุณครับ” เขายิ้มรับ “ขอสารภาพว่าพี่ไม่เคยใช้ครัวในห้องนี้เลย”“ไม่มีคนอื่นมาหรือคะ”“นอกจากแม่บ้านที่จ้างมาทำความสะอาดรายสัปดาห์แล้วก็ไม่มีครับ” เขายืนยัน “นี่เป็นฐานลับของพี่เลยนะ น้องพลอยเป็นคนแรก แล้วพี่จะทำคีย์การ์ดให้”เธออยากบอกว่าไม่เป็นไร แต่เห็นท่าทางกระตือรือร้นแล้วก็ไม่กล้าปฏิเสธ จึงได้แต่พยักหน้ารับ เธอจ้องหน้าเขาครุ่นคิดเรื่องที่เขาพูดถึงพ่อแล้วก็หลุดหัวเราะพรืดออกมา“น้องพลอย” เขาไม่รู้ว่าเธอหัวเราะอะไรเลยทำหน้าไม่ถูก“ขอโทษค่ะ” เธอโบกมือไปมาแต่ยังหัวเราะไม่หยุด“พูดมาเดี๋ยวนี้นะ” เขาขู่แต่สีหน