อเล็กซ์ ดิอังเจโล(Alex D'Angelo) รูปร่างสูงใหญ่สง่างามในแบบของผู้ดีอิตาลีแท้ ๆ ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาราวกับภาพวาดจากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ทุกอณูของเครื่องแต่งกายถูกจัดสรรอย่างประณีต สูทสีดำที่เขาสวมใส่ถูกตัดเย็บมาอย่างดีเข้ารูปพอดีตัว บ่งบอกถึงความพิถีพิถันและสถานะที่สูงส่ง
เขายืนอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ ภาพแสงไฟของเมืองอันสว่างไสวทอดยาวออกไปไกลสุดสายตา สายตาของเขาจ้องมองออกไปยังทิวทัศน์ด้านนอก แต่ภายในจิตใจกลับเต็มไปด้วยความคิดถึงเหตุการณ์หนึ่งที่เขาไม่อาจลืมได้ วันที่ชายหนุ่มเอเชียผู้เรียบง่าย แต่กล้าหาญและเด็ดเดี่ยวคนนั้นก้าวเข้ามาช่วยเหลือเขา จีน ชื่อของชายหนุ่มนั้นสะท้อนก้องในหัวของอเล็กซ์ ความทรงจำของการช่วยเหลือในวันที่อันตรายโอบล้อมยังคงชัดเจนในใจ แม้ว่าจะมีเหตุผลหลายประการที่ทำให้คนอย่างเขาไม่ต้องพึ่งพาใคร แต่ในวันนั้น จีนก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของเขา การพบเจอในครั้งนั้นทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ในใจของอเล็กซ์ ความรู้สึกที่ยากจะนิยามได้ ระหว่างความรู้สึกขอบคุณและความชื่นชมในความกล้าหาญของชายหนุ่มผู้แสนธรรมดาแต่พิเศษเหลือเกิน อเล็กซ์หลับตาลงครู่หนึ่ง ปล่อยให้ความคิดและความรู้สึกเหล่านั้นผ่านไปช้า ๆ ทว่าไม่จางหายไปจากความทรงจำ อาเล็กซ์ที่ยืนอยู่ริมหน้าต่างของห้องทำงาน มืดสลัว เสียงลมพัดผ่านเข้ามาอย่างเงียบงัน เขายกซิการ์ขึ้นจุดไฟ แสงจากไฟทำให้เขารู้สึกถึงความร้อนที่เริ่มลามไปทั่วร่างกาย กลิ่นหอมของยาสูบลอยฟุ้งในอากาศ ควันพวยพุ่งขึ้นไปในความมืดรอบตัวเขา ภายนอก หน้าต่างที่เปิดกว้างเผยให้เห็นวิวของฟลอเรนซ์ในยามค่ำคืน เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา แม้ว่าภายในใจของเขาจะเต็มไปด้วยความเครียดและความวิตกกังวล ในระหว่างที่ควันจากซิการ์ลอยออกไป อาเล็กซ์รู้สึกเหมือนเขากำลังปล่อยให้ความกังวลทั้งหมดออกไปด้วย เขานึกถึงเหตุการณ์ลอบทำร้ายเมื่อสองสัปดาห์ก่อน จิตใจของเขายังคงเต็มไปด้วยความโกรธและความอยากเอาคืน แต่เหตุการณ์นั้นกลับเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล เขาได้พบกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง “เราจะได้เจอกันอีก” เขาพูดเสียงเบาๆกับตัวเอง ขณะที่พยายามสูดหายใจเข้าให้เต็มปอด และในวินาทีนั้นเอง ภาพของจึนก็ผุดขึ้นมาในความคิดของอาเล็กซ์ เขาจำใบหน้านั้นได้ไม่ลืม เด็กหนุ่มร่างบางชาวเอเชียที่เข้ามาช่วยเหลือเขาในช่วงวิกฤตการณ์ ดวงตากลมโตของเด็กนั่นมีความมุ่งมั่นและความกล้าหาญอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ขณะที่เขาถูกดึงขึ้นจากพื้นและพาเขาหนีจากการไล่ล่าของศัตรู เด็กนั่นพาอาเล็กซ์ไปซ่อนในมุมอับของตรอกเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ขณะที่เสียงปืนและเสียงโวยวายดังอยู่ไกล ๆ เขากระซิบด้วยเสียงที่เบาแต่ชัดเจน “อยู่นิ่ง ๆ นะ ฉันจะไปล่อพวกมันเอง” อาเล็กซ์รู้สึกถึงความกังวลในใจ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากนั่งอยู่ในความมืดที่มีฝนโปรยปราย เด็กหนุ่มหายไปในเงามืด ทิ้งให้เขารออย่างหวาดกลัว เวลาเหมือนจะหยุดนิ่ง ขณะที่อาเล็กซ์ได้แต่ภาวนาให้เด็กนั่นปลอดภัย ในหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวลและความเครียด เขาไม่รู้ว่าเด็กนั่นจะกลับมาไหม หรือจะถูกจับได้ในขณะที่พยายามล่อพวกนั้นไปทางอื่น แต่แล้ว เสียงของการต่อสู้ก็เริ่มจางลง ในที่สุดอาเล็กซ์ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้ เขากำลังจะได้รู้ว่าเด็กนั่นทำสำเร็จหรือไม่ ในขณะนั้น ความรู้สึกขอบคุณที่มีต่อเขาก็เริ่มก่อตัวขึ้น “ไม่ว่ายังไง ฉันต้องหาคุณให้พบ” เสียงในใจของเขาดังก้อง ขณะที่เขาเตรียมตัวรอคอยการกลับมาของเด็กหนุ่มผู้กล้าหาญ จีนกลับมาพร้อมกับหายใจหอบ ร่างบางของเขาเปียกโชกไปด้วยฝนและเลือดที่ไหลจากแผลเล็ก ๆ บนมือ เขาสบตากับอาเล็กซ์ที่นั่งอยู่ในมุมมืดของตรอก ขณะเสียงการต่อสู้เริ่มจางหายไปอย่างช้า ๆ ความโล่งใจไหลเข้ามาในใจของอาเล็กซ์เมื่อเขาเห็นเด็กหนุ่มนั้นกลับมา “ฉันกลับมาแล้ว” จีนกล่าวเสียงแหบเบา แต่แสดงถึงความมุ่งมั่น เขายิ้มให้แม้จะเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า “ตามที่ฉันสัญญา” อาเล็กซ์พยักหน้า เขาไม่สามารถพูดอะไรได้เพียงแต่รู้สึกขอบคุณ เขายืดแขนออกไปเพื่อให้จีนเข้ามาช่วยพยุงตัวเอง จีนเข้ามาใกล้และยิ้มให้ ก่อนจะพาอาเล็กซ์เข้าไปในห้องของเขา …………………………………………………………. ในย่านที่มีชื่อเสียงของฟลอเรนซ์ Piazza della Signoria จัตุรัสหลักที่ดึงดูดผู้คนจากทุกมุมโลก จีนและแซมนั่งอยู่ที่โต๊ะเล็กๆ กลางแจ้ง จิบกาแฟที่หอมกรุ่นขณะที่แสงแดดอ่อนๆ ส่องกระทบผิว ทำให้บรรยากาศอบอุ่นและมีชีวิตชีวา รอบๆ พวกเขา ผู้คนต่างเดินไปมาพูดคุยและหัวเราะ เสียงหัวเราะและบทสนทนาสลับกับเสียงนกร้องและเสียงกาแฟที่ถูกชงอย่างมีจังหวะ โอบล้อมด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม เช่น Palazzo Vecchio ที่สูงตระหง่าน และ Loggia dei Lanzi ที่ประดับไปด้วยประติมากรรมสุดล้ำค่า ทั้งสองได้ยินเสียงซุบซิบของนักท่องเที่ยวที่ตื่นตาตื่นใจต่อความงามของเมืองนี้ จีนยิ้มให้กับแซม ขณะยกกาแฟขึ้นจิบ "นึกถึงคาเฟ่ในบ้านเราแล้ว รู้สึกอบอุ่นจังนะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความสุข แซมหันมามองจีน ตอบด้วยรอยยิ้ม "ฟลอเรนซ์มีเสน่ห์ไม่แพ้กันเลยนะ แต่กาแฟที่นี่อร่อยกว่าที่ไหน" “เอาล่ะ หลังจากนี้เราจะไปไหนกันต่อดี?” จีนถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ขณะมองไปรอบๆ ที่เต็มไปด้วยผู้คนและบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา แซมยิ้มกว้าง “ฉันได้ยินมาว่าที่ Uffizi Gallery มีนิทรรศการใหม่เปิดอยู่ เราอาจจะไปดูศิลปะที่นั่นกันไหม?” เขาเสนอความคิดขึ้นมาอย่างกระตือรือร้น “น่าสนใจมาก!” จีนตอบเสียงใส “แต่ถ้าหากเราจะไปที่นั่น เราควรหาอาหารกลางวันก่อนหรือเปล่า? ฉันยังหิวอยู่เลย” “จริงด้วย! มีร้านอาหารที่ฉันเคยไปเมื่อครั้งก่อนอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ มันมีพาสต้าที่อร่อยมาก” แซมเสนอ “หลังจากทานข้าวเสร็จ เราค่อยไปดูงานศิลปะกัน” “เยี่ยมไปเลย! จะได้เดินเล่นในฟลอเรนซ์ต่อด้วย” จีนพูดพร้อมยิ้มอย่างมีความสุข “แล้วถ้าเราไปหาร้านที่มีวิวสวยๆ ล่ะ? อยากนั่งดูผู้คนเดินผ่านไปมา” “แน่นอน! ฉันรู้จักร้านหนึ่งที่มีระเบียงอยู่ด้านนอก มองเห็นจัตุรัสได้ชัดเจน” แซมพูด ขณะเขาหยิบสมุดวาดภาพขึ้นมา “เราจะไม่เพียงแค่สนุกกับอาหาร แต่ยังได้แรงบันดาลใจในการวาดภาพด้วย” “เยี่ยมเลย!” จีนยิ้ม “ไปกันเถอะ! ฉันพร้อมแล้ว!” แช๊ะ แช๊ะ... ในขณะที่จีนและแซมนั่งพูดคุยกันอย่างมีความสุขที่ Piazza della Signoria เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจากมุมหนึ่งของจัตุรัส ที่นั่นมีชายคนหนึ่งยืนอยู่ ท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงหัวเราะของผู้คน เขามีหน้าที่ติดตามจีนตามคำสั่งของริค ชายคนนั้น ขณะกดชัตเตอร์เก็บภาพทุกอิริยาบถของจีนเอาไว้ จีนที่กำลังหัวเราะหรือยิ้มให้แซม ไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนคอยบันทึกทุกช่วงเวลาในชีวิตประจำวันของเขา อยู่ตลอดเวลา ควันซิการ์ลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ มือใหญ่เลื่อนดูรูปที่ถูกส่งมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสายตาของริคหรี่ตามองอย่างตั้งใจ เขารู้สึกถึงความไม่สบายใจที่เกิดขึ้นในใจ ไม่ได้การละ คงต้องพาตัวมาเลย เขาตัดสินใจทันที ความคิดที่จะทำให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเริ่มชัดเจนขึ้นในหัว คงไม่ใช่แค่ริคสินะที่หลงกลใบหน้าหวานๆ นั่น แต่ไม่มีทาง ไม่มีใครมาแย่งเขาได้หรอก ริคยิ้มเยาะในใจเมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขารู้ว่าจีนเป็นเหมือนดอกไม้ที่ดึงดูดทุกสายตา แต่เขาเป็นคนเดียวที่ได้สัมผัสความงามนั้นอย่างใกล้ชิด ในขณะที่ควันซิการ์ยังคงลอยฟุ้ง ริคพยายามควบคุมอารมณ์ภายใน เขาไม่ต้องการให้ใครมาเข้ามาใกล้ชิดกับจีนมากเกินไป ริคอยากลองดู เมื่อเขาได้เด็กหนุ่มนั่นมาครอบครองแล้ว ความอยากที่คุกรุ่นในใจนี่อาจจะหายไป แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกนี้ก็ทำให้เขาเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวเอง ว่าทำไมถึงรู้สึกเช่นนี้ถึงจีนนัก? เขามองไปยังภาพของจีนที่ปรากฏบนหน้าจอ มันเหมือนดั่งแรงดึงดูดที่ไม่อาจต้านทานได้ ใบหน้าหวานๆ รอยยิ้มสดใส และแววตาที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ ทำให้เขารู้สึกอยากเป็นเจ้าของ อยากให้จีนนั้นเป็นของเขาเพียงคนเดียว “ถ้าฉันได้เขามาครอบครอง คงจะไม่รู้สึกว้าวุ่นอีก” ริคคิดในใจ ขณะที่ความรู้สึกดิบเถื่อนเริ่มก่อตัวขึ้นในตัวเขา เขาต้องการให้จีนรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ “บ้าเอ๊ย “แค่คิดความใหญ่โตก็พองแทบจะล้นกางเกงออกมาแล้ว ริครู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เมื่อลมหายใจของเขาเริ่มถี่ขึ้น ความรู้สึกนี้ยากจะควบคุม เขาต้องการจีน เขาบ่นกับตัวเอง ขณะที่ความคิดพล่านไปทั่ว ไม่สามารถแยกแยะความรู้สึกได้ชัดเจน ริครู้ว่าเขาต้องไปหาจีนให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องทนอยู่ในสภาพนี้อีกต่อไป เมื่อรู้ว่าความต้องการของเขาไม่ได้จะหายไป แต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะได้เป็นเจ้าของเด็กหนุ่มที่เขาหลงใหลอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ในสำนักงานอันหรูหราของเขา ริคยืนอยู่ท่ามกลางความเงียบสงัด หลอดไฟสีอบอุ่นทำให้เกิดเงาเล็กน้อยที่ใบหน้าของเขา สะท้อนถึงความเคร่งเครียดของความคิดที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความโกรธ อาการกระวนกระวายกำลังเริ่มก่อตัวเมื่อเขาได้ยินข่าวเกี่ยวกับจีน ชายหนุ่มจากมหาวิทยาลัยศิลปะที่มีเสน่ห์ดึงดูด“อเล็กซ์...” ริคพึมพำชื่อที่ทำให้เขารู้สึกถึงไฟแห่งความหึงหวง “ไอ้นั่นมันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเลยจริงๆ”เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มือของเขาสั่นเล็กน้อย แต่ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เป็นเพราะความโกรธที่เขาไม่สามารถระงับได้ “ไปเอาตัวจีนมา” เขาสั่งเสียงเรียบ แต่ภายในกลับสั่นสะเทือน “พาเขามาที่นี่โดยเร็วที่สุด และทำให้แน่ใจว่าเขาไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง”เสียงของเขาแฝงไปด้วยความเชื่อมั่นที่เต็มเปี่ยม รู้ดีว่าคนของเขาจะทำตามคำสั่งนี้อย่างเงียบเชียบ“อย่าลืม... ต้องทำให้เขาไม่มีทางหนี” เขาพูดต่อ เสียงของเขาห้วนขึ้น แต่มีความนุ่มนวลที่แฝงอยู่ มันเหมือนกับการพยายามควบคุมอารมณ์ในใจ ริคคิดถึงสิ่งที่เขาจะทำกับจีนเมื่อได้เขามา สายลมเย็นของยามค่ำคืนพัดผ่านมาเบา ๆ ขณะที่จีนเดินออกจากบ้าน เขามองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้
จีนรู้สึกเหมือนว่าหัวของเขาหนักอึ้ง เมื่อเปลือกตาค่อยๆ เปิดออก ความสลัวจากแสงที่ส่องเข้ามาทำให้เขาต้องขยี้ตาเพื่อปรับสายตาให้คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ก่อนที่เขาจะค้นพบว่าเขาอยู่ในห้องนอนที่หรูหราเกินกว่าที่เขาจะเคยเห็น ห้องนี้มีสไตล์บาโรกที่เต็มไปด้วยความโอ่อ่าและความละเอียดอ่อน เขาหันไปมองรอบๆ สายตาของเขาสัมผัสกับผนังที่ปูด้วยไม้แกะสลักที่มีลวดลายอันวิจิตร คานไม้บนเพดานก็ถูกตกแต่งด้วยรายละเอียดที่งดงาม การประดับด้วยโคมไฟคริสตัลทำให้ห้องนี้ดูเปล่งประกายระยิบระยับ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เตียงที่มีขนาดใหญ่ อบอุ่นและหรูหราด้วยผ้าปูที่นอนเนื้อดีที่มีสีทองสลับกับสีม่วงเข้ม“ที่นี่…ที่ไหนกัน?” เขาคิดในใจ ขณะที่ความสับสนเข้ามาแทนที่ความง่วงงุนในตัวเขา สัญชาตญาณของเขาตื่นตัวอย่างเต็มที่เมื่อเขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา จีนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย เมื่อเขาตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่โอ่อ่าและหรูหราอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ห้องนี้กว้างขวาง ยิ่งใหญ่ และเต็มไปด้วยรายละเอียดที่น่าทึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศที่ทั้งงด
ก๊อกๆๆสาวใช้ก้าวเข้ามาในห้องนอนของจีนอย่างเงียบ ๆ เธอสวมชุดเครื่องแบบเรียบหรูสีดำที่ตัดเย็บอย่างปราณีต เสียงประตูที่เปิดเบา ๆ ดึงความสนใจของจีนที่นั่งอยู่ริมเตียง ใบหน้าของเขาฉายแววครุ่นคิดและเคร่งเครียด ก่อนที่สาวใช้จะพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่แฝงความเคารพ"คุณริคให้มาช่วยคุณจีนอาบน้ำค่ะ" เธอกล่าวอย่างสุภาพ สายตาทอดต่ำอย่างนอบน้อมจีนเงยหน้าขึ้นมองเธอ แววตายังมีความประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ยังคงนิ่งเงียบอยู่ในความคิดของตัวเอง การมีคนเข้ามาดูแลเช่นนี้ในช่วงเวลาที่เขารู้สึกเปราะบาง อาจเป็นสิ่งที่เขาต้องการโดยไม่รู้ตัวสาวใช้ก้าวเข้าไปในห้องน้ำ เปิดประตูเผยให้เห็นอ่างอาบน้ำหินอ่อนขนาดใหญ่ น้ำอุ่นถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ไอน้ำลอยขึ้นบาง ๆ เติมกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์และโรสแมรี่อบอวลอยู่ทั่วห้อง อ่างน้ำประดับด้วยดอกไม้ขาวที่ลอยเบา ๆ บนผิวน้ำ"ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วค่ะ" สาวใช้เอ่ยพลางถอยออกมาเล็กน้อย ปล่อยให้จีนลุกขึ้นเพื่อไปที่ห้องน้ำภายในห้องน้ำที่หรูหรา อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง น้ำในอ่างเต็มไปด้วยฟองสบู่ที่ฟูฟ่อง ละลายตัวช้า ๆ ในอุณหภูมิอุ่นพอดี กลิ่นหอมของน้ำมั
บ้านของริค คอนติ เป็นคฤหาสน์สุดหรูที่ตั้งอยู่บนหน้าผา ริมทะเลสาบสีฟ้าใส ซึ่งเป็นภาพที่งดงามสุดขีด สถานที่นี้ถูกล้อมรอบด้วยป่าสนหนาทึบและภูเขาที่ทอดตัวเป็นฉากหลัง สร้างบรรยากาศให้รู้สึกถึงการหลีกหนีจากโลกภายนอกอย่างแท้จริง ตัวบ้านออกแบบในสไตล์ยุโรปคลาสสิก โครงสร้างยิ่งใหญ่และแข็งแรง ประดับด้วยเสาและซุ้มโค้งที่ทำจากหินอ่อน ซึ่งยืนตระหง่านอย่างโอ่อ่าเมื่อมองไปที่ภายนอก บ้านหลังนี้มีหลังคาสีอิฐแดงทรงสูงที่ตัดกับผนังสีขาวสะอาดตา มีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่เรียงรายเป็นแนว ทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกได้อย่างชัดเจน ขอบหน้าต่างและประตูตกแต่งด้วยไม้สีเข้มอย่างประณีต บันไดหินอ่อนกว้างทอดลงจากประตูหน้าของบ้านไปยังสนามหญ้าสีเขียวชอุ่ม สนามหญ้ากว้างนี้รายล้อมไปด้วยพุ่มไม้ที่ตัดแต่งเป็นรูปทรงเรขาคณิตและกระถางต้นไม้ทรงสูงที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีทางเดินจากสนามหญ้าลงไปถึงท่าเรือส่วนตัว ที่ทำจากไม้เนื้อดี ทอดตัวออกไปในทะเลสาบ มีเรือยอชต์สีขาวจอดอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งสะท้อนกับน้ำในทะเลสาบอย่างงดงาม ทิวทัศน์ของภูเขาและน้ำที่ล้อมรอบสร้างความรู้สึกสันโดษแต่มีเสน่ห์ดึงดูดแบบธรรมชาติบรรยากาศโดยรอบถูกเติมเต็มด้วยต้
ริค คอนติ มาเฟียหนุ่มหล่อทรงอิทธิพลแห่งอิตาลี ขับรถสปอร์ตคันหรูฝ่าแสงแดดบ่ายที่สาดส่องลงมายังเมืองฟลอเรนซ์ รอยยิ้มเย็นชาแตะที่มุมปากขณะที่เขามุ่งหน้าไปทำธุรกิจที่เต็มไปด้วยความลับและอำนาจ ทุกสิ่งในชีวิตของริคถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน จนกระทั่งสายตาเฉียบคมของเขาหยุดนิ่งเมื่อเห็นร่างเล็ก ๆ ที่เดินอยู่ริมถนนเด็กหนุ่มคนนั้นทำให้หัวใจของริคสะดุด จีน หนุ่มน้อยจากประเทศไทยที่ย้ายมาเรียนต่อในอิตาลี ผิวขาวละเอียด ร่างบอบบาง และใบหน้าหวานจนเกินจะมองข้าม ท่ามกลางผู้คนมากมาย จีนกลับดูโดดเด่นราวกับแสงที่สาดส่องผ่านหมอกในยามเช้า ความงามอันบริสุทธิ์และท่าทีไร้เดียงสาเหล่านั้นทำให้ริคแทบจะลืมหายใจหัวใจของริคเต้นแรงขึ้น มือที่จับพวงมาลัยแน่นด้วยความปรารถนาที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเย็นชาที่เคยมีถูกแทนที่ด้วยความกระหายที่จะครอบครอง เขาเฝ้ามองร่างเล็กที่ก้าวเดินไปอย่างไร้เดียงสา จังหวะทุกย่างก้าวของจีนราวกับจะดึงริคให้ติดตาม จีนไม่เหมือนใครในโลกนี้ ริคไม่เคยพบใครที่ทำให้เขารู้สึกถูกท้าทายและล่อลวงได้เช่นนี้“เด็กคนนี้…” ริคพึมพำในลำคอ เสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความกระหาย เขารู้ทันทีว่าสิ่งที่เขาต้อง
ในยามเช้าของฟลอเรนซ์ เมืองที่เปี่ยมไปด้วยศิลปะและความงดงาม เสียงนกร้องประสานกับลมเบาๆ ทำให้บรรยากาศสดใสยิ่งขึ้น ถนนที่ปูด้วยหินเรียบถูกตัดผ่านด้วยแสงแดดทองอร่าม อาคารสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าทั้งหลายตั้งตระหง่าน ดึงดูดสายตาผู้คนที่เดินผ่านมา จีน เด็กหนุ่มที่มีหัวใจเต็มไปด้วยความรักศิลปะ เดินผ่านเส้นทางที่เคยเป็นความฝัน เขามาอยู่ที่นี่เพื่อค้นหาตัวตนใหม่ หลังจากสูญเสียพ่อแม่ไปจากอุบัติเหตุ เขาเลือกฟลอเรนซ์ เมืองที่มีแต่ศิลปะ และประวัติศาสตร์เพื่อหลบหนีจากความเจ็บปวดในอดีต ทุกก้าวของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อเขาหยุดยืนหน้าโบสถ์ซานตามาเรียเดลฟิโอเร โดมที่งดงามและประติมากรรมที่ประณีตทำให้หัวใจเขาเต้นรัว ภาพของศิลปินอย่างเลโอนาร์โด ดา วินชี และไมเคิลแองเจโลปรากฏในจินตนาการ ราวกับว่าเขาได้ยินเสียงของพวกเขาเชื้อเชิญให้เขาเข้าไปในโลกแห่งความคิดสร้างสรรค์“ฟลอเรนซ์…” เขาพึมพำกับตัวเอง รู้สึกถึงพลังแห่งความฝันที่ลอยอยู่ในอากาศ “เมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะ ทุกสิ่งในที่นี้มีชีวิต”กลิ่นหอมของกาแฟและขนมอบยั่วยวนใจเขา ในขณะที่เสียงหัวเราะและการพูดคุยของผู้คนรอบตัวทำให้เขารู้สึกสดชื่น และขณะนั้น
เสียงปืนดังขึ้นอย่างกึกก้องในตรอกแคบ เสียงที่แทรกเข้าไปในความตึงเครียดของการต่อสู้ กระแทกใจทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น เสียงปืนแต่ละนัดแผดออกมาอย่างเฉียบขาด สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้“ปัง!” เสียงปืนแรกดังขึ้น เสียงปืนที่คมชัดเหมือนฟ้าผ่าท่ามกลางความเงียบ ทุกคนหันไปมองยังจุดที่เสียงนั้นเกิดขึ้น ด้วยความหวาดกลัวและตื่นเต้น เมื่อการต่อสู้เริ่มจะเลวร้ายลง“ปัง! ปัง!” เสียงปืนอีกสองนัดตามมาทันที บรรยากาศที่แวดล้อมไปด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงเหล็กกระทบกัน ทำให้เกิดความสับสนอย่างมาก สมาชิกในแก๊งต่างพยายามหาที่กำบัง ขณะเสียงปืนสะท้อนทั่วบริเวณ เสียงของกระสุนที่พุ่งเข้าชนกับผนังและพื้นถนนสร้างเสียงดังที่น่าหวาดกลัว“ระวัง!” เสียงหนึ่งตะโกน ขณะที่คนหนึ่งวิ่งหลบกระสุนที่พุ่งผ่านไปอย่างเฉียดฉิว“ปัง! ปัง!” เสียงปืนยังคงดังก้อง ทุกคนต่างพยายามหาทางหนีหรือหาที่กำบัง สายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวในความไม่แน่นอนของสถานการณ์ ขณะที่อาเล็กซ์และพวกพ้องของเขาเข้ามาในภาพ การเคลื่อนไหวของพวกเขาเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีระเบียบ ในเมืองเก่าแก่ที่ตระกูล ดิอังเจโล และ คอนติ ต่างมีรากฐานที่หยั