พายุรักเร่าร้อนสงบลงและความเงียบสงบเริ่มแผ่ไปทั่วพื้นที่ ทั้งสองนั่งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่มองลงไปเห็น Rio di Palazzo คลองที่เชื่อมระหว่าง พระราชวังดอจ (Doge's Palace) กับ คุกเก่า (Old Prisons) โดยตรง แสงจันทร์ส่องสะท้อนบนผืนน้ำทำให้บรรยากาศโรแมนติกยิ่งขึ้น
จีนซบอยู่บนร่างใหญ่ของริคอย่างเหนื่อยอ่อน รู้สึกถึงความอบอุ่นจากตัวเขา ริคนั่งพิงรถ มือข้างหนึ่งโอบรัดเอวของจีนแน่น ส่วนอีกมือยกซิการ์ขึ้นดูดพลางปล่อยควันออกมาอย่างเยือกเย็น
"อย่าคิดหนีไปจากฉันอีก นายเป็นของฉันแล้ว"
ริคพูดเสียงแหบพร่า ลมหายใจยังร้อนจากแรงปรารถนาที่คุกรุ่นอยู่ข้างใน เขาลูบแขนจีนเบาๆ ขณะจ้องมองใบหน้าของเด็กหนุ่มที่ยังคงหลงเหลือรอยอ่อนล้าจากช่วงเวลาที่ผ่านมา
จีนหายใจหอบเล็กน้อย ขมวดคิ้วแล้วบ่นออกมา
"อย่างกะคุณจะให้ผมหนีได้"
เสียงของเขามีทั้งความขบถและความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน ทั้งดื้อรั้นและเง้างอนในเวลาเดียวกัน
ริคหัวเราะหึๆ เสียงทุ้มลึกของเขาก้องไปในความมืด
“ใช่แล้ว ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยนายไป”
เขากระซิบเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงมาใกล้ สัมผัสริมฝีปากที่แข็งแรงของเขาแนบชิดกับใบหูของจีน ทำให้เด็กหนุ่มต้องหลับตาแน่น ปล่อยให้ความร้อนวิ่งพล่านไปทั่วร่าง
"อย่าคิดหนี เพราะฉันจะตามนายไปทุกที่…จนกว่านายจะเป็นของฉันทั้งหมด"
ริคพูดเสียงต่ำ ลิ้นของเขากระตุกไปตามซอกคอของจีน ความร้อนในตัวพุ่งขึ้นพร้อมกับความดิบเถื่อนที่ไม่อาจปฏิเสธได้
“ฉันอยากอีกแล้ว…” ริคพูดพร้อมกัดเบาๆ ที่ใบหูของจีน
“ริค...”
จีนพึมพำออกมาอย่างอ่อนล้าและยอมจำนน เขาไม่อาจหนีไปจากชายคนนี้ได้ ไม่ใช่เพราะถูกรั้งไว้ด้วยความรุนแรง แต่เพราะใจของเขาเองที่ถูกดึงดูดอย่างแรงกล้า ริคไม่เพียงแต่เป็นความร้อนแรงที่เผาผลาญเขา แต่ยังเป็นที่พึ่งทางใจ เป็นความหวานที่เขาไม่เคยคิดว่าจะสัมผัสได้
ริคมองลงมาที่เด็กหนุ่มในอ้อมแขนของเขา
"นายเป็นของฉันแล้ว...อย่าลืมมันล่ะ"
จีนถอนหายใจยาว รู้ดีว่าในตอนนี้ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่มีทางหนีไปจาก "ไฟรัก" ที่แสนเอาแต่ใจของริค คอนติ ได้อีกแล้ว ริคไม่ใช่แค่มาเฟียผู้หล่อร้าย แต่เขาคือผู้ที่จุดประกายความปรารถนาในตัวจีน ความรู้สึกนั้นรุนแรงเกินจะดับลง
“ผมคงไม่มีทางหนีไปจากคุณได้... ใช่ไหม?”
จีนพึมพำออกมาอย่างยอมจำนน ในขณะที่หัวใจยังคงเต้นแรง ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถควบคุมได้
ริคยิ้มมุมปาก รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ เขาเอื้อมมือมาลูบไล้แก้มของจีนเบาๆ
“ใช่ นายไม่มีทางหนีจากฉันได้... และนายก็รู้ดีว่าตัวนายเองก็ไม่อยากหนี”
เสียงของเขาทุ้มต่ำ แต่แฝงด้วยความอ่อนโยนที่ลึกซึ้ง
จีนมองตาคนตรงหน้า แล้วปล่อยให้ความจริงนั้นซึมเข้าสู่หัวใจของเขา ตอนนี้...เขาคงไม่สามารถหนีไปจากความรักที่ร้อนแรงและดิบเถื่อนของริคได้อีกแล้ว
…………………………………………….
สำนักงานของริคตั้งอยู่ในตึกสูงระฟ้าใจกลางเมือง อาคารที่เต็มไปด้วยความหรูหราและบ่งบอกถึงอำนาจของเขาในทุกๆ ด้าน ตัวตึกกระจกใสสะท้อนแสงอาทิตย์เป็นประกายระยิบระยับ มองเห็นได้จากระยะไกล ริมฝั่งถนนที่พลุกพล่านด้วยผู้คน แต่ภายในนั้นกลับแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
เมื่อเข้าสู่ชั้นสูงสุดของตึก จะพบกับสำนักงานส่วนตัวของริค ตกแต่งด้วยโทนสีเข้ม มีเฟอร์นิเจอร์หนังหรูหราสั่งทำพิเศษ มุมหนึ่งของห้องมีโต๊ะไม้โอ๊คสีดำขนาดใหญ่ที่ดูสง่างาม ประดับด้วยงานศิลป์ราคาแพงจากทั่วโลก ด้านหลังกระจกบานใหญ่ของห้อง มองเห็นทิวทัศน์ของเมืองในมุมสูง ราวกับบ่งบอกถึงการครอบครองอาณาจักรของเขาในทุกแง่มุม
ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์บัญชาการของริค สถานที่ที่เขาควบคุมธุรกิจและความสัมพันธ์อันซับซ้อน ที่นี่เขาคือผู้มีอำนาจสูงสุด ใครก็ตามที่เข้ามาในสำนักงานนี้ ย่อมต้องเผชิญหน้ากับออร่าอันน่ากลัวและเสน่ห์ที่ทรงพลังของริค คอนติ
ถัดจากโต๊ะทำงานของริคในสำนักงาน มีประตูบานใหญ่ที่แทบจะกลมกลืนไปกับผนังด้านหลัง มันเป็นประตูที่ออกแบบมาให้ดูเรียบหรู แต่เมื่อเปิดออก จะนำไปสู่ห้องลับส่วนตัว ซึ่งเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ ที่ริคใช้พักผ่อนในช่วงเวลาที่ต้องทำงานดึกดื่นหรือเมื่อเขาต้องการความเป็นส่วนตัว
ห้องนอนนี้ตกแต่งด้วยโทนสีเข้มและหรูหราเช่นเดียวกับส่วนสำนักงาน เตียงขนาดคิงไซส์ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง หุ้มด้วยผ้าไหมสีดำเงา ตกแต่งด้วยหมอนและผ้าคลุมเตียงที่สั่งทำพิเศษจากต่างประเทศ ด้านหนึ่งของห้องมีหน้าต่างกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน มองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองยามค่ำคืนที่เปล่งประกายด้วยแสงไฟ
มุมหนึ่งของห้องมีบาร์เครื่องดื่มส่วนตัว ตู้เย็นเล็กซ่อนอยู่หลังบานตู้ไม้วอลนัทเงางาม ที่นี่คือสถานที่ที่ริคมักจะพาคนที่เขาไว้ใจมากที่สุดมาพักผ่อน หรือบางครั้งก็นำคนสำคัญของเขามาที่นี่เพื่อใช้เวลาที่เป็นส่วนตัวอย่างลึกซึ้ง ห้องนอนนี้สะท้อนถึงความทรงพลังและการควบคุมทุกอย่างในชีวิตของริค ไม่มีที่ไหนที่เขารู้สึกว่าเป็น "อาณาจักร" ของเขาได้มากเท่าที่นี่อีกแล้ว
จากห้องนอนส่วนตัวของริคในสำนักงานชั้นบนสุด วิวที่เปิดออกไปจากหน้าต่างบานใหญ่สามารถมองเห็นหอระฆังเซนต์มาร์ค (Campanile di San Marco) ได้อย่างชัดเจน สถานที่ที่ตั้งตระหง่านเหนือจัตุรัสเซนต์มาร์ค เป็นสัญลักษณ์ที่งดงามของเวนิส แม้ยามค่ำคืน แสงไฟจากหอระฆังและจัตุรัสด้านล่างยังส่องสว่างอาบไล้เมืองด้วยบรรยากาศลึกลับและโรแมนติก
จากมุมนี้ วิวของเมืองและแม่น้ำที่คดเคี้ยวไกลออกไปทำให้ห้องดูเหมือนถูกลอยอยู่เหนือเวนิส ริคมักยืนอยู่ตรงหน้าต่างนี้ มองออกไปยังทิวทัศน์ที่คุ้นเคย
ในช่วงนี้ ริคแทบจะไม่ปล่อยให้จีนคลาดสายตา เขาพาเด็กหนุ่มมาอยู่ข้างกายแทบตลอดเวลา ทั้งในห้องทำงานและในห้องนอนที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังประตูบานลับ เพราะในขณะนี้ ริคกำลังเผชิญกับความตึงเครียดจากการขัดแย้งระหว่างสองอำนาจใหญ่ที่คุมพื้นที่ของเขา สถานการณ์เสี่ยงต่อการเกิดสงครามระหว่างแก๊ง ทำให้เขาต้องระมัดระวังทุกย่างก้าว
"ขอกลับไปใช้ชีวิตปกติที่ฟลอเรนซ์ได้ไหม... ริค?" จีนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"ไม่มีทาง, จีน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
"ริค ครับ..." จีนเอ่ยเสียงสั่นเล็กน้อย ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความหวานซึ้ง รู้ดีว่าคำพูดนี้จะดึงดูดความสนใจจากริคได้
"นะ... นะ... ให้ผมกลับไปได้ไหม"
"ไม่ได้" ริคย้ำเสียงหนักแน่น ทำให้จีนรู้สึกเหมือนโดนกดดันจากแรงกดดันที่เข้ามาอย่างไม่มีทางหนี
“แต่... ฉันแค่ต้องการกลับไปใช้ชีวิตปกติ...” จีนพูดเสียงต่ำ รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าในใจ
จีนทำหน้างอ ขนตายาวของเขาโบกสะบัดตามการเคลื่อนไหวที่ไม่พอใจ ริครู้สึกหัวใจสั่นอย่างไม่คาดคิด เขามองเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความคัดค้านและความไม่พอใจ
“ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย?” จีนถามเสียงต่ำ สัญญาณของความไม่พอใจดังก้องอยู่ในอากาศ “ฉันไม่อยากรู้สึกเหมือนเป็นนักโทษในที่ที่ควรจะเป็นบ้าน”
“หนูน้อย...” เขาเอ่ยเรียก จีนไม่หันมามอง เขาจับข้อมือของจีนไว้เบาๆ “นายคิดว่าฉันอยากให้มันเป็นแบบนี้เหรอ? ฉันแค่... ฉันแค่ไม่สามารถเสี่ยงให้เกิดอันตรายกับนายได้”
“แต่ฉันรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในกรง” จีนยังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง รู้สึกถึงความไม่ชอบใจที่กัดกร่อนหัวใจของเขา
ริคต้องการที่จะเข้าใกล้เขามากขึ้น แต่เขากลัวว่าจีนจะไม่เข้าใจ เขาจึงตัดสินใจพูดด้วยเสียงที่นุ่มนวล “ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้นายรู้สึกปลอดภัย แม้ว่ามันจะหมายถึงการทำให้เราต้องอยู่ห่างกันสักพัก”
“นายรู้ว่าฉันเป็นใครและมันเสี่ยง” ริคกล่าว น้ำเสียงของเขาหนักแน่นและเต็มไปด้วยความกังวล “เสี่ยงที่จะให้ใครมาจับตัวนายมาต่อรองกับฉันไม่ได้ เพราะตอนนี้นายเป็นจุดอ่อนของฉันแล้ว”
“ ก็ได้ งั้นผมขอติดต่อแซมได้ไหม”
ริคฟังคำถามนั้น ดวงตาของเขาเริ่มเป็นประกายวาววับ เขาแทบจะระงับความรู้สึกหึงหวงที่พุ่งขึ้นมาในใจไม่ได้ “จีน…” เขาถามเสียงตึงเครียด “ระหว่างนายกับแซม มันเป็นอะไรกัน?”
“แค่เพื่อนกัน” จีนตอบเสียงเบา แต่เขารู้ดีว่ามันอาจจะไม่เพียงพอเพื่อทำให้ริคคลายความกังวล
“เพื่อน? หือ?” ริคเลิกคิ้ว มองจีนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “เพื่อนที่ไหนกันถึงได้อยากติดต่อกันอีก? ในเมื่อมีฉันอยู่ตรงนี้?”
“ริค... ผมแค่คิดถึงฟลอเรนซ์” จีนพยายามอธิบาย แต่เสียงของเขากลับฟังดูไม่มั่นใจนัก
“ทำไมต้องฟลอเรนซ์?” ริคสวนกลับ “นั่นมันหมายความว่าอะไร? หรือว่าแซมทำให้นายรู้สึกดีมากกว่าฉัน?”
“ไม่ใช่แบบนั้น!” จีนอึกอัก
“ริค...” จีนพยายามยิ้มเพื่อบรรเทาความตึงเครียด แต่รู้สึกว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้าของริคที่เต็มไปด้วยอารมณ์ “นายไม่ต้องหึงหวง...”
“หึง? นายคิดว่าฉันแค่หึงเหรอ?” ริคขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม “นายรู้ไหมว่าฉันหวงนายแค่ไหน? นายคือของฉัน และฉันจะไม่ยอมให้ใครมามีอิทธิพลเหนือชีวิตของนายได้อีก”
ริคจ้องมองจีนด้วยความหึงหวง เขาไม่สามารถซ่อนความรู้สึกที่ลุกลามอยู่ในใจได้อีกต่อไป
“หรือว่านายกับแซมเคย...”
“เคยอะไร?” จีนทำเสียงงง แต่ในใจเขารู้ว่าริคหมายถึงอะไร
“เคยเป็นมากกว่านั้นไหม?” ริคถาม ตาเขาเต็มไปด้วยความกดดันที่ชัดเจน “ถ้านายเคยมีความสัมพันธ์กับแซม... ถ้านายเคยอยู่ในอ้อมแขนของเขา... ฉันจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก”
จีนรู้สึกใจสั่น เขาไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่ต้องเผชิญกับคำถามนี้จากริค ร่างบางเริ่มรู้สึกถึงความหนักแน่นที่ดึงเขาเข้าหาริคมากขึ้น “ริค... ผม..”
“นายตอบฉันมา” ริคขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม น้ำเสียงของเขาห้าวหาญและเต็มไปด้วยความต้องการ
“คุณเป็นคนแรกของผม พอใจรึยัง?”
จีนกอดอกเง้างอนหนัก เมื่อต้องเผชิญกับแรงหึงหวงของริคที่ดูเหมือนจะลุกลามเกินไป
“เคยจูบกันไหม?” ริคถาม
“ฉัน... ฉันไม่เคย...” จีนพูดเสียงเบา และสีหน้าเขาเริ่มแดงขึ้น “ไม่เคยกับใครเลย...”
“น่ารักจัง...” ริคยิ้มออกมาอย่างถูกใจ “แล้วฉันเป็นคนแรกกับจูบแรกใช่ไหม?”
“ริค!” จีนร้องเสียงสูง
“ทำไมล่ะ” ริคขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น
“ก็ฉันเป็นคนแรกของนาย... ฉันควรจะได้เป็นคนแรกที่ได้สัมผัสความหวานนี้เช่นกัน”
“ดีมาก...” ริคตอบอย่างมีความสุข พร้อมกับยิ้มที่แสดงถึงความมั่นใจ ในที่สุดเขาก็สามารถทำให้จีนก้าวข้ามไปสู่อีกช่วงของความรู้สึกได้แล้ว
ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกันอย่างนุ่มนวล ริครู้สึกได้ถึงความหวานซึ้งจากจูบที่เต็มไปด้วยความรักและความต้องการ ทั้งคู่รู้สึกเหมือนโลกภายนอกได้หายไป ราวกับว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความรู้สึกที่พวกเขาแบ่งปันกันในขณะนี้
“นายรู้ไหม...” ริคพูดเสียงแผ่ว ขณะที่เขาเลื่อนมือไปตามแนวกรามของจีน “การที่นายตอบจูบฉันแบบนี้ มันทำให้ฉันรู้ว่าฉันไม่ผิดหวังที่เลือกนาย”
จีนรู้สึกตัวเบาเหมือนล่องลอยในอากาศ หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก เขารู้สึกเหมือนถูกล้อมรอบด้วยความรักที่อบอุ่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ เมื่อริคโน้มตัวเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น
“ริค...” จีนเอ่ยเสียงสั่น เผลอหลับตาให้กับความรู้สึกที่ท่วมท้นในใจ เขาไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนี้คืออะไร แต่ก็รู้ว่ามันทำให้เขาอยากอยู่ใกล้ ๆ ริคตลอดไป
“อย่ากังวล...” ริคกระซิบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ฉันจะทำให้แน่ใจว่านายจะไม่ต้องการอะไรอีกเลย”
ทันใดนั้น ริคโน้มตัวเข้ามาหาจีนอีกครั้ง จูบที่ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การแลกเปลี่ยนสัมผัส แต่เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกที่ลึกซึ้ง จีนรู้สึกเหมือนกำลังถูกไฟรักที่แผดเผาเขาไว้ ทั้งสองถูกดึงดูดให้เข้าใกล้กันมากขึ้น ความร้อนแรงในใจของพวกเขาไม่อาจต้านทานได้
“ริค...” จีนครางออกมาเมื่อรู้สึกถึงแรงดึงดูดที่ไม่อาจต้านทานได้ ริคยิ้มให้กับความอ่อนหวานที่เขารู้สึกจากจีน
“ใช่... นายคือทั้งหมดของฉัน” ริคตอบกลับ และก้าวเข้าสู่โลกแห่งความรักที่เขาไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่จริง
……………………………………..
จีนเดินลงไปที่ Caffè Florian คาเฟ่เก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในจัตุรัสเซนต์มาร์ค สถานที่นี้เปิดมาตั้งแต่ปี 1720 และถือเป็นหนึ่งในคาเฟ่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุโรป เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปภายใน กลิ่นหอมของกาแฟสดและขนมหวานอบใหม่ตลบอบอวลอยู่ในอากาศ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าหลงใหล
ภายในร้านถูกตกแต่งด้วยสไตล์คลาสสิกที่ยังคงความเก่าแก่ ส่องสว่างด้วยโคมไฟคริสตัลที่ระยิบระยับ ประดับด้วยภาพวาดสวยงามบนเพดานและผนัง รายล้อมด้วยโต๊ะไม้ที่มีผ้าปูโต๊ะลายดอกไม้ที่ดูงดงาม การตกแต่งนี้ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในอีกยุคสมัย
จีนเลือกนั่งที่โต๊ะด้านนอก มองเห็นจัตุรัสเซนต์มาร์คที่มีนักท่องเที่ยวเดินผ่านไปมาจำนวนมาก เสียงพูดคุยและหัวเราะของผู้คนดังขึ้นเป็นพื้นหลังขณะที่เขายิ้มให้กับบาริสต้า ขณะกาแฟถูกเสิร์ฟด้วยฟองนมที่สวยงามคล้ายลวดลายดอกไม้
“นี่คือกาแฟที่ดีที่สุดในเวนิส” เขาคิดในใจ ขณะที่ยกถ้วยขึ้นจิบ ชิมความหวานหอมที่แผ่กระจายอยู่ในปาก รสชาติกลมกล่อมของกาแฟยิ่งทำให้เขารู้สึกมีความสุขยิ่งขึ้น
เป็นเพราะความแง่งอนของหนุ่มน้อย ริคจึงตัดสินใจตามใจให้จีนออกไปไหนมาไหนคนเดียวได้ แต่แท้ที่จริงแล้ว มีคนเฝ้าตามอยู่ห่างๆ นับสิบคน ที่ถูกส่งมาเพื่อดูแลความปลอดภัยของเขา แม้ว่าจีนจะรู้สึกเป็นอิสระและมีความสุขที่ได้ออกไปใช้ชีวิต แต่ความจริงที่อยู่เบื้องหลังนั้นซับซ้อนกว่าที่เขาคิด
ในฐานะที่ริคเป็นมาเฟียหนุ่มที่มีอำนาจและศัตรูมากมาย การปล่อยให้จีนเดินคนเดียวในเมืองที่สวยงามแต่เต็มไปด้วยอันตรายเช่นนี้ ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายดาย ริครู้ดีว่าศัตรูของเขาหมายตาไปที่จีน หากพวกเขารู้ว่าร่างบางนี้คือจุดอ่อนของเขา พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะใช้มันเพื่อทำร้ายเขา
หลังจากจิบกาแฟหอมๆ จีนรู้สึกมีชีวิตชีวาและตื่นเต้นที่จะสำรวจพิพิธภัณฑ์คาเรซซิโอ (Ca' Rezzonico) พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ตั้งอยู่ริมคลองกรันเด เขาเดินออกจากคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นและเสียงหัวเราะของผู้คนที่มารวมตัวกัน ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงเมื่อเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ จีนถูกดึงดูดโดยความงดงามของสถาปัตยกรรมอันประณีตและงานศิลปะที่จัดแสดงอย่างพิถีพิถัน ภายในอาคารที่ส่องแสงทองอร่าม เขารู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่โลกแห่งประวัติศาสตร์และความสวยงามที่สร้างสรรค์มาอย่างช้านานจีนเดินไปตามห้องต่างๆ ที่เต็มไปด้วยภาพวาดที่มีชีวิตชีวา เขาหยุดมองภาพวาดที่สื่อถึงความรักและความงาม โดยเฉพาะภาพของหญิงสาวที่มีสีสันอ่อนโยน รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ซึ่งทำให้เขารู้สึกตื้นตัน ความรู้สึกนี้พาเขาย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่เขาเคยมีความรักอันงดงามและท้าทายเสียงก้าวเท้าของผู้คนและเสียงกระซิบเบาๆ ของนักท่องเที่ยวเป็นพื้นหลังที่ช่วยเติมเต็มบรรยากาศให้มีชีวิตชีวามากขึ้น เขาเฝ้าดูรายละเอียดของแต่ละชิ้นงาน ศิลปินได้ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกผ่านสีสันและเส้นสายทำให้เขารู้สึกถึงแรงบันดาลใจและความหลงใหลในศิลปะ
ริคที่มัวเมาอยู่กับร่างบอบบางที่เขาได้มาครอบครองครั้งแล้วครั้งเล่า รู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นมากกว่าการเสพติด มันกลายเป็นความต้องการที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จากที่เคยแค่ต้องการเขาในบางเวลา ตอนนี้กลับแทบต้องการตลอดเวลาทุกครั้งที่เขาได้สัมผัสกับผิวเนียนนุ่ม ความรู้สึกตื่นเต้นก็จะซัดเข้ามาในหัวใจ จนทำให้เขาหยุดคิดไม่ได้ ว่านี่มันอะไรกันแน่? ความรู้สึกนี้เหมือนกับไฟที่กำลังลุกโชน ลามไปทั่วร่างกาย ส่งผลให้เขาเกิดความร้อนรุ่มที่ไม่อาจหักห้ามใจได้คนอย่างริค ที่มักจะมีคนมาปรนเปรอรักให้แทบไม่ขาดสาย แต่ไม่มีใครเคยทำให้เขามัวเมาได้ขนาดนี้ เขาเคยมีความสัมพันธ์มากมายที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและอารมณ์ แต่กลับไม่มีใครที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าสู่ความลุ่มหลงอันลึกซึ้งแบบนี้ภายในห้องนอนกว้าง ริคยืนอยู่ริมหน้าต่าง มือหนึ่งถือแก้วไวน์แดงสีเข้ม ขณะที่อีกมือจุดซิการ์ ควันลอยฟุ้งในอากาศ สะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็นที่สาดส่องเข้ามา ร่างของจีนที่นอนหลับอยู่บนที่นอนสีเข้ม เขาดูสงบและน่าอภิรมย์ ผมสั้นเรียบเนียนแนบไปกับหมอน ริมฝีปากที่เคยส่งเสียงครวญครางในคืนที่เต็มไปด้วยความรักตอนนี้ถูกปิดเงียบพวกเขาอยู่
ริคยืนพิงราวสะพานริอัลโต (Rialto Bridge) อย่างสง่างาม ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปยังผืนน้ำของแกรนด์คาแนลที่ทอดยาวออกไป เรือกอนโดลาล่องลอยอย่างเงียบงาม ผืนน้ำสะท้อนเงาของอาคารเก่าแก่สไตล์เวนิสที่มีสีสันและแฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ สะพานหินอ่อนที่เขายืนอยู่ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ในตอนนี้ ริคมีความคิดเพียงอย่างเดียว—การรอคอยการมาถึงของจีน สายลมอ่อนๆ จากคลองพัดมากระทบใบหน้า เขาไม่แสดงอาการกังวลออกมาให้เห็นแม้เพียงน้อย แต่ภายในเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและแผนการที่หมุนวนอยู่ในหัว ขณะที่เขาสังเกตเรือกอนโดลาที่ลอยผ่านไปมาในน้ำ เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความสำคัญของสะพานแห่งนี้ สะพานริอัลโตเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อผู้คนของเวนิส นับตั้งแต่สร้างเสร็จในปลายศตวรรษที่ 16 จากการเป็นทางเชื่อมที่สำคัญของการค้า มาจนถึงวันนี้ที่ยังคงมีชีวิตชีวาด้วยตลาดอาหารทะเลสดๆ และสินค้าท้องถิ่น ที่อีกฟากหนึ่งของสะพาน เสียงตลาดริอัลโตดังก้องด้วยความคึกคัก เสียงแม่ค้าพ่อค้าขายปลาสดๆ และผลไม้ตามฤดูกาลดังแทรกผ่านความเงียบของริค ทว่าเขาแทบไม่ได้ใส่ใจต่อบรรยากาศรอบตัวมากนัก ในใจเขากลับจดจ่ออยู่กับการป
ริค คอนติ มาเฟียหนุ่มหล่อทรงอิทธิพลแห่งอิตาลี ขับรถสปอร์ตคันหรูฝ่าแสงแดดบ่ายที่สาดส่องลงมายังเมืองฟลอเรนซ์ รอยยิ้มเย็นชาแตะที่มุมปากขณะที่เขามุ่งหน้าไปทำธุรกิจที่เต็มไปด้วยความลับและอำนาจ ทุกสิ่งในชีวิตของริคถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน จนกระทั่งสายตาเฉียบคมของเขาหยุดนิ่งเมื่อเห็นร่างเล็ก ๆ ที่เดินอยู่ริมถนนเด็กหนุ่มคนนั้นทำให้หัวใจของริคสะดุด จีน หนุ่มน้อยจากประเทศไทยที่ย้ายมาเรียนต่อในอิตาลี ผิวขาวละเอียด ร่างบอบบาง และใบหน้าหวานจนเกินจะมองข้าม ท่ามกลางผู้คนมากมาย จีนกลับดูโดดเด่นราวกับแสงที่สาดส่องผ่านหมอกในยามเช้า ความงามอันบริสุทธิ์และท่าทีไร้เดียงสาเหล่านั้นทำให้ริคแทบจะลืมหายใจหัวใจของริคเต้นแรงขึ้น มือที่จับพวงมาลัยแน่นด้วยความปรารถนาที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเย็นชาที่เคยมีถูกแทนที่ด้วยความกระหายที่จะครอบครอง เขาเฝ้ามองร่างเล็กที่ก้าวเดินไปอย่างไร้เดียงสา จังหวะทุกย่างก้าวของจีนราวกับจะดึงริคให้ติดตาม จีนไม่เหมือนใครในโลกนี้ ริคไม่เคยพบใครที่ทำให้เขารู้สึกถูกท้าทายและล่อลวงได้เช่นนี้“เด็กคนนี้…” ริคพึมพำในลำคอ เสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความกระหาย เขารู้ทันทีว่าสิ่งที่เขาต้อง
ในยามเช้าของฟลอเรนซ์ เมืองที่เปี่ยมไปด้วยศิลปะและความงดงาม เสียงนกร้องประสานกับลมเบาๆ ทำให้บรรยากาศสดใสยิ่งขึ้น ถนนที่ปูด้วยหินเรียบถูกตัดผ่านด้วยแสงแดดทองอร่าม อาคารสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าทั้งหลายตั้งตระหง่าน ดึงดูดสายตาผู้คนที่เดินผ่านมา จีน เด็กหนุ่มที่มีหัวใจเต็มไปด้วยความรักศิลปะ เดินผ่านเส้นทางที่เคยเป็นความฝัน เขามาอยู่ที่นี่เพื่อค้นหาตัวตนใหม่ หลังจากสูญเสียพ่อแม่ไปจากอุบัติเหตุ เขาเลือกฟลอเรนซ์ เมืองที่มีแต่ศิลปะ และประวัติศาสตร์เพื่อหลบหนีจากความเจ็บปวดในอดีต ทุกก้าวของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อเขาหยุดยืนหน้าโบสถ์ซานตามาเรียเดลฟิโอเร โดมที่งดงามและประติมากรรมที่ประณีตทำให้หัวใจเขาเต้นรัว ภาพของศิลปินอย่างเลโอนาร์โด ดา วินชี และไมเคิลแองเจโลปรากฏในจินตนาการ ราวกับว่าเขาได้ยินเสียงของพวกเขาเชื้อเชิญให้เขาเข้าไปในโลกแห่งความคิดสร้างสรรค์“ฟลอเรนซ์…” เขาพึมพำกับตัวเอง รู้สึกถึงพลังแห่งความฝันที่ลอยอยู่ในอากาศ “เมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะ ทุกสิ่งในที่นี้มีชีวิต”กลิ่นหอมของกาแฟและขนมอบยั่วยวนใจเขา ในขณะที่เสียงหัวเราะและการพูดคุยของผู้คนรอบตัวทำให้เขารู้สึกสดชื่น และขณะนั้น
เสียงปืนดังขึ้นอย่างกึกก้องในตรอกแคบ เสียงที่แทรกเข้าไปในความตึงเครียดของการต่อสู้ กระแทกใจทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น เสียงปืนแต่ละนัดแผดออกมาอย่างเฉียบขาด สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้“ปัง!” เสียงปืนแรกดังขึ้น เสียงปืนที่คมชัดเหมือนฟ้าผ่าท่ามกลางความเงียบ ทุกคนหันไปมองยังจุดที่เสียงนั้นเกิดขึ้น ด้วยความหวาดกลัวและตื่นเต้น เมื่อการต่อสู้เริ่มจะเลวร้ายลง“ปัง! ปัง!” เสียงปืนอีกสองนัดตามมาทันที บรรยากาศที่แวดล้อมไปด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงเหล็กกระทบกัน ทำให้เกิดความสับสนอย่างมาก สมาชิกในแก๊งต่างพยายามหาที่กำบัง ขณะเสียงปืนสะท้อนทั่วบริเวณ เสียงของกระสุนที่พุ่งเข้าชนกับผนังและพื้นถนนสร้างเสียงดังที่น่าหวาดกลัว“ระวัง!” เสียงหนึ่งตะโกน ขณะที่คนหนึ่งวิ่งหลบกระสุนที่พุ่งผ่านไปอย่างเฉียดฉิว“ปัง! ปัง!” เสียงปืนยังคงดังก้อง ทุกคนต่างพยายามหาทางหนีหรือหาที่กำบัง สายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวในความไม่แน่นอนของสถานการณ์ ขณะที่อาเล็กซ์และพวกพ้องของเขาเข้ามาในภาพ การเคลื่อนไหวของพวกเขาเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีระเบียบ ในเมืองเก่าแก่ที่ตระกูล ดิอังเจโล และ คอนติ ต่างมีรากฐานที่หยั
อเล็กซ์ ดิอังเจโล(Alex D'Angelo) รูปร่างสูงใหญ่สง่างามในแบบของผู้ดีอิตาลีแท้ ๆ ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาราวกับภาพวาดจากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ทุกอณูของเครื่องแต่งกายถูกจัดสรรอย่างประณีต สูทสีดำที่เขาสวมใส่ถูกตัดเย็บมาอย่างดีเข้ารูปพอดีตัว บ่งบอกถึงความพิถีพิถันและสถานะที่สูงส่งเขายืนอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ ภาพแสงไฟของเมืองอันสว่างไสวทอดยาวออกไปไกลสุดสายตา สายตาของเขาจ้องมองออกไปยังทิวทัศน์ด้านนอก แต่ภายในจิตใจกลับเต็มไปด้วยความคิดถึงเหตุการณ์หนึ่งที่เขาไม่อาจลืมได้ วันที่ชายหนุ่มเอเชียผู้เรียบง่าย แต่กล้าหาญและเด็ดเดี่ยวคนนั้นก้าวเข้ามาช่วยเหลือเขาจีน ชื่อของชายหนุ่มนั้นสะท้อนก้องในหัวของอเล็กซ์ ความทรงจำของการช่วยเหลือในวันที่อันตรายโอบล้อมยังคงชัดเจนในใจ แม้ว่าจะมีเหตุผลหลายประการที่ทำให้คนอย่างเขาไม่ต้องพึ่งพาใคร แต่ในวันนั้น จีนก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของเขา การพบเจอในครั้งนั้นทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ในใจของอเล็กซ์ ความรู้สึกที่ยากจะนิยามได้ ระหว่างความรู้สึกขอบคุณและความชื่นชมในความกล้าหาญของชายหนุ่มผู้แสนธรรมดาแต่พิเศษเหลือเกินอเล็กซ์หลับตาลงครู่หนึ่ง ปล่อยให้ความคิดและความรู้สึกเหล
ในสำนักงานอันหรูหราของเขา ริคยืนอยู่ท่ามกลางความเงียบสงัด หลอดไฟสีอบอุ่นทำให้เกิดเงาเล็กน้อยที่ใบหน้าของเขา สะท้อนถึงความเคร่งเครียดของความคิดที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความโกรธ อาการกระวนกระวายกำลังเริ่มก่อตัวเมื่อเขาได้ยินข่าวเกี่ยวกับจีน ชายหนุ่มจากมหาวิทยาลัยศิลปะที่มีเสน่ห์ดึงดูด“อเล็กซ์...” ริคพึมพำชื่อที่ทำให้เขารู้สึกถึงไฟแห่งความหึงหวง “ไอ้นั่นมันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเลยจริงๆ”เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มือของเขาสั่นเล็กน้อย แต่ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เป็นเพราะความโกรธที่เขาไม่สามารถระงับได้ “ไปเอาตัวจีนมา” เขาสั่งเสียงเรียบ แต่ภายในกลับสั่นสะเทือน “พาเขามาที่นี่โดยเร็วที่สุด และทำให้แน่ใจว่าเขาไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง”เสียงของเขาแฝงไปด้วยความเชื่อมั่นที่เต็มเปี่ยม รู้ดีว่าคนของเขาจะทำตามคำสั่งนี้อย่างเงียบเชียบ“อย่าลืม... ต้องทำให้เขาไม่มีทางหนี” เขาพูดต่อ เสียงของเขาห้วนขึ้น แต่มีความนุ่มนวลที่แฝงอยู่ มันเหมือนกับการพยายามควบคุมอารมณ์ในใจ ริคคิดถึงสิ่งที่เขาจะทำกับจีนเมื่อได้เขามา สายลมเย็นของยามค่ำคืนพัดผ่านมาเบา ๆ ขณะที่จีนเดินออกจากบ้าน เขามองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้
ริคยืนพิงราวสะพานริอัลโต (Rialto Bridge) อย่างสง่างาม ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปยังผืนน้ำของแกรนด์คาแนลที่ทอดยาวออกไป เรือกอนโดลาล่องลอยอย่างเงียบงาม ผืนน้ำสะท้อนเงาของอาคารเก่าแก่สไตล์เวนิสที่มีสีสันและแฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ สะพานหินอ่อนที่เขายืนอยู่ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ในตอนนี้ ริคมีความคิดเพียงอย่างเดียว—การรอคอยการมาถึงของจีน สายลมอ่อนๆ จากคลองพัดมากระทบใบหน้า เขาไม่แสดงอาการกังวลออกมาให้เห็นแม้เพียงน้อย แต่ภายในเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและแผนการที่หมุนวนอยู่ในหัว ขณะที่เขาสังเกตเรือกอนโดลาที่ลอยผ่านไปมาในน้ำ เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความสำคัญของสะพานแห่งนี้ สะพานริอัลโตเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อผู้คนของเวนิส นับตั้งแต่สร้างเสร็จในปลายศตวรรษที่ 16 จากการเป็นทางเชื่อมที่สำคัญของการค้า มาจนถึงวันนี้ที่ยังคงมีชีวิตชีวาด้วยตลาดอาหารทะเลสดๆ และสินค้าท้องถิ่น ที่อีกฟากหนึ่งของสะพาน เสียงตลาดริอัลโตดังก้องด้วยความคึกคัก เสียงแม่ค้าพ่อค้าขายปลาสดๆ และผลไม้ตามฤดูกาลดังแทรกผ่านความเงียบของริค ทว่าเขาแทบไม่ได้ใส่ใจต่อบรรยากาศรอบตัวมากนัก ในใจเขากลับจดจ่ออยู่กับการป
ริคที่มัวเมาอยู่กับร่างบอบบางที่เขาได้มาครอบครองครั้งแล้วครั้งเล่า รู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นมากกว่าการเสพติด มันกลายเป็นความต้องการที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จากที่เคยแค่ต้องการเขาในบางเวลา ตอนนี้กลับแทบต้องการตลอดเวลาทุกครั้งที่เขาได้สัมผัสกับผิวเนียนนุ่ม ความรู้สึกตื่นเต้นก็จะซัดเข้ามาในหัวใจ จนทำให้เขาหยุดคิดไม่ได้ ว่านี่มันอะไรกันแน่? ความรู้สึกนี้เหมือนกับไฟที่กำลังลุกโชน ลามไปทั่วร่างกาย ส่งผลให้เขาเกิดความร้อนรุ่มที่ไม่อาจหักห้ามใจได้คนอย่างริค ที่มักจะมีคนมาปรนเปรอรักให้แทบไม่ขาดสาย แต่ไม่มีใครเคยทำให้เขามัวเมาได้ขนาดนี้ เขาเคยมีความสัมพันธ์มากมายที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและอารมณ์ แต่กลับไม่มีใครที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าสู่ความลุ่มหลงอันลึกซึ้งแบบนี้ภายในห้องนอนกว้าง ริคยืนอยู่ริมหน้าต่าง มือหนึ่งถือแก้วไวน์แดงสีเข้ม ขณะที่อีกมือจุดซิการ์ ควันลอยฟุ้งในอากาศ สะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็นที่สาดส่องเข้ามา ร่างของจีนที่นอนหลับอยู่บนที่นอนสีเข้ม เขาดูสงบและน่าอภิรมย์ ผมสั้นเรียบเนียนแนบไปกับหมอน ริมฝีปากที่เคยส่งเสียงครวญครางในคืนที่เต็มไปด้วยความรักตอนนี้ถูกปิดเงียบพวกเขาอยู่
หลังจากจิบกาแฟหอมๆ จีนรู้สึกมีชีวิตชีวาและตื่นเต้นที่จะสำรวจพิพิธภัณฑ์คาเรซซิโอ (Ca' Rezzonico) พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ตั้งอยู่ริมคลองกรันเด เขาเดินออกจากคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นและเสียงหัวเราะของผู้คนที่มารวมตัวกัน ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงเมื่อเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ จีนถูกดึงดูดโดยความงดงามของสถาปัตยกรรมอันประณีตและงานศิลปะที่จัดแสดงอย่างพิถีพิถัน ภายในอาคารที่ส่องแสงทองอร่าม เขารู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่โลกแห่งประวัติศาสตร์และความสวยงามที่สร้างสรรค์มาอย่างช้านานจีนเดินไปตามห้องต่างๆ ที่เต็มไปด้วยภาพวาดที่มีชีวิตชีวา เขาหยุดมองภาพวาดที่สื่อถึงความรักและความงาม โดยเฉพาะภาพของหญิงสาวที่มีสีสันอ่อนโยน รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ซึ่งทำให้เขารู้สึกตื้นตัน ความรู้สึกนี้พาเขาย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่เขาเคยมีความรักอันงดงามและท้าทายเสียงก้าวเท้าของผู้คนและเสียงกระซิบเบาๆ ของนักท่องเที่ยวเป็นพื้นหลังที่ช่วยเติมเต็มบรรยากาศให้มีชีวิตชีวามากขึ้น เขาเฝ้าดูรายละเอียดของแต่ละชิ้นงาน ศิลปินได้ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกผ่านสีสันและเส้นสายทำให้เขารู้สึกถึงแรงบันดาลใจและความหลงใหลในศิลปะ
พายุรักเร่าร้อนสงบลงและความเงียบสงบเริ่มแผ่ไปทั่วพื้นที่ ทั้งสองนั่งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่มองลงไปเห็น Rio di Palazzo คลองที่เชื่อมระหว่าง พระราชวังดอจ (Doge's Palace) กับ คุกเก่า (Old Prisons) โดยตรง แสงจันทร์ส่องสะท้อนบนผืนน้ำทำให้บรรยากาศโรแมนติกยิ่งขึ้นจีนซบอยู่บนร่างใหญ่ของริคอย่างเหนื่อยอ่อน รู้สึกถึงความอบอุ่นจากตัวเขา ริคนั่งพิงรถ มือข้างหนึ่งโอบรัดเอวของจีนแน่น ส่วนอีกมือยกซิการ์ขึ้นดูดพลางปล่อยควันออกมาอย่างเยือกเย็น"อย่าคิดหนีไปจากฉันอีก นายเป็นของฉันแล้ว" ริคพูดเสียงแหบพร่า ลมหายใจยังร้อนจากแรงปรารถนาที่คุกรุ่นอยู่ข้างใน เขาลูบแขนจีนเบาๆ ขณะจ้องมองใบหน้าของเด็กหนุ่มที่ยังคงหลงเหลือรอยอ่อนล้าจากช่วงเวลาที่ผ่านมาจีนหายใจหอบเล็กน้อย ขมวดคิ้วแล้วบ่นออกมา "อย่างกะคุณจะให้ผมหนีได้" เสียงของเขามีทั้งความขบถและความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน ทั้งดื้อรั้นและเง้างอนในเวลาเดียวกันริคหัวเราะหึๆ เสียงทุ้มลึกของเขาก้องไปในความมืด “ใช่แล้ว ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยนายไป” เขากระซิบเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงมาใกล้ สัมผัสริมฝีปากที่แข็งแรงของเขาแนบชิดกับใบหูของจีน ทำให้เด็กหนุ่มต้องหลับตาแน่น ปล่อยให
หลังจากงานเสร็จสิ้น มาร์คหันมาถามริคในรถด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ "ได้ข่าวว่ามีของเล่นใหม่?" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสนใจ ริคเหลือบมองมาร์คก่อนจะอมยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับ เพียงแค่ยิ้มอย่างมีเลศนัย มาร์คมองริคอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเป็นห่วง “ระวังไว้นะ... ของเล่นชิ้นนั้นอาจกลายมาเป็นจุดอ่อนของนาย” เขายิ้มมุมปาก แต่สายตากลับเต็มไปด้วยความจริงจัง ราวกับรู้ว่าเรื่องนี้อาจทำให้ริคสะดุดในเกมที่พวกเขาเล่นอยู่ริคนั่งนิ่งในรถ สายตาของเขาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่ความคิดกลับวนเวียนอยู่กับเด็กหนุ่มที่เขาเพิ่งจากมา เขายังไม่รู้... ริคคิดในใจ แต่ที่แน่ ๆ ฉันหวงเด็กนั่นมาก... มากจนไม่อยากให้ใครเข้าใกล้หรือแตะต้องความรู้สึกนี้มันล้ำลึกเกินกว่าที่เขาจะคาดคิด ความหวงแหนที่ไม่เคยมีต่อใครมาก่อน ริคกัดฟันเล็กน้อย รู้ดีว่าความรู้สึกนี้อาจกลายเป็นจุดอ่อน เป็นสิ่งที่เขาไม่ควรมีในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและการทรยศ แต่เขาห้ามตัวเองไม่ได้... …………………………………………………….. ริค คอนติ พาจีนมายืนอยู่หน้าสะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) สถานที่ที่โด่งดังแห่งเวนิส สะพานเชื่อมระหว่าง
“อาา… ริค!” จีนส่งเสียงออกมาในขณะที่ริมฝีปากของริคสัมผัสกับผิวของเขา ร่างกายของเขาสั่นสะท้านเมื่อริคเริ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาอย่างไม่รีบร้อนในขณะที่ด้านนอกห้องทำงานกำลังคุกรุ่นด้วยสถานการณ์ที่ตึงเครียด เสียงกรีดร้องและการทะเลาะวิวาทดังมาจากข้างนอก แต่ภายในห้องกลับร้อนแรงดั่งไฟ สองร่างกำลังอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน“ให้ฉันทำให้มันร้อนขึ้นอีก” ริคกระซิบเสียงต่ำ ริมฝีปากของเขาไล่ต่ำลงไปตามแนวกรามของจีน ขณะที่มือของเขาก็สัมผัสไปที่ต้นขา ทำให้จีนรู้สึกถึงความร้อนที่เริ่มลามไปทั่วร่างกาย“ไม่… ริค…” จีนพยายามจะขัดขืน แต่เสียงของเขากลับเต็มไปด้วยความหวั่นไหว สถานการณ์ภายนอกดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหาในขณะนี้ เขารู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในบ่วงแห่งความเร่าร้อน“ไม่ต้องห่วง” ริคพูดเสียงลึกล้ำ “ไม่มีใครจะมารบกวนเรา” เขาใช้มืออีกข้างหนึ่งบีบแก้มของจีนอย่างเบามือ แต่เต็มไปด้วยความมั่นคง “แค่มีเรา… และความต้องการนี้”“อาา…” จีนครางออกมาอีกครั้งเมื่อริคโน้มตัวเข้ามาใกล้และจูบเขาอย่างดุเดือด จีนตอบสนองด้วยการยืดตัวเข้าหา ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยไฟที่ลุกโชนริคไม่สามารถควบคุมความต้องการของเขาได้อีกต่อไป
ริคยืนพิงราวสะพานริอัลโต (Rialto Bridge) อย่างสง่างาม ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปยังผืนน้ำของแกรนด์คาแนลที่ทอดยาวออกไป เรือกอนโดลาล่องลอยอย่างเงียบงาม ผืนน้ำสะท้อนเงาของอาคารเก่าแก่สไตล์เวนิสที่มีสีสันและแฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ สะพานหินอ่อนที่เขายืนอยู่ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ในตอนนี้ ริคมีความคิดเพียงอย่างเดียว—การรอคอยการมาถึงของจีนสายลมอ่อนๆ จากคลองพัดมากระทบใบหน้า เขาไม่แสดงอาการกังวลออกมาให้เห็นแม้เพียงน้อย แต่ภายในเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและแผนการที่หมุนวนอยู่ในหัว ขณะที่เขาสังเกตเรือกอนโดลาที่ลอยผ่านไปมาในน้ำ เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความสำคัญของสะพานแห่งนี้ สะพานริอัลโตเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อผู้คนของเวนิส นับตั้งแต่สร้างเสร็จในปลายศตวรรษที่ 16 จากการเป็นทางเชื่อมที่สำคัญของการค้า มาจนถึงวันนี้ที่ยังคงมีชีวิตชีวาด้วยตลาดอาหารทะเลสดๆ และสินค้าท้องถิ่นที่อีกฟากหนึ่งของสะพาน เสียงตลาดริอัลโตดังก้องด้วยความคึกคัก เสียงแม่ค้าพ่อค้าขายปลาสดๆ และผลไม้ตามฤดูกาลดังแทรกผ่านความเงียบของริค ทว่าเขาแทบไม่ได้ใส่ใจต่อบรรยากาศรอบตัวมากนัก ในใจเขากลับจดจ่ออยู่กับการประช
เสียงของรถยูวีสีดำหลายคันดังขึ้นเมื่อมันจอดลงที่โกดังขนาดใหญ่ กลิ่นของน้ำมันและเหล็กเปลี่ยนเป็นกลิ่นอายที่คุ้นเคยในพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยความเงียบเหงาและความลึกลับ ไฟฟ้าในโกดังสลัวสลัว ทำให้เกิดเงาที่เคลื่อนไหวไปมาอย่างน่าสงสัยเมื่อประตูรถเปิดออก ชายฉกรรจ์ในชุดดำเริ่มก้าวออกมาอย่างรวดเร็ว ทุกคนมีท่าทางมั่นใจและเป็นมืออาชีพ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีภารกิจสำคัญที่ต้องทำ การเคลื่อนไหวของพวกเขาเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น“ตรวจสอบพื้นที่!” เสียงหนึ่งตะโกนออกมา เขาสั่งการด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ทุกคนพยักหน้าและแยกย้ายกันไปตรวจสอบบริเวณรอบๆ ขณะที่บางคนเริ่มยกกล่องและอุปกรณ์ออกจากรถโกดังนี้เป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ซึ่งใช้ในการทำธุรกิจที่ไม่เปิดเผย จึงไม่แปลกที่การเฝ้าระวังจะเข้มงวดและมีการเคลื่อนไหวที่แอบซ่อนอยู่ในเงามืด ความตึงเครียดในอากาศทำให้ทุกอย่างดูน่ากลัวและเต็มไปด้วยความคาดเดาไม่ได้เสียงเหล็กกระทบกันและเสียงพึมพำของการสื่อสารระหว่างกันทำให้บรรยากาศในโกดังรู้สึกเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยเงามืดของความลับที่ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ การประสานงานกันของชายฉกรรจ์ทำให้รู้สึกถึงการเตรียมพร้อมส
ริคที่ไม่เคยพอกับการรักจีน ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ไม่อิ่ม เหมือนถูกดึงเข้าไปในโลกที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและความร้อนแรงทุกครั้งที่เขาได้สัมผัสร่างบาง ร่างใหญ่ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายกับการค้นหาความรู้สึกใหม่ๆ ที่มาจากร่างบอบบางแต่แสนเร่าร้อนใต้ร่างนี้ ความรู้สึกนี้ไม่เคยลดน้อยลงเลย แต่กลับเพิ่มทวีความเร่าร้อนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆในที่สุด จีนก็เริ่มรู้สึกถึงการถูกหลอกที่ริคสร้างขึ้นมาอย่างมิดชิด หลังจากที่เขาได้ยินคำสัญญาเกี่ยวกับการพาไปนั่งเรือ เขาก็รู้สึกตื่นเต้นกับความคิดที่จะได้สัมผัสลมทะเลและแสงแดด แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาเผชิญคือความร้อนแรงจากการกระทำของริคที่ไม่ยอมหยุด“นี่… เราไม่ไปนั่งเรือกันเหรอ?” จีนถามอย่างไม่แน่ใจ ขณะที่เขานั่งอยู่บนเตียง ใบหน้าของเขายังคงร้อนระอุจากสัมผัสของริคที่ไม่ยอมห่างไปไหนริคหัวเราะในลำคอ รอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ “อืม… ฉันเปลี่ยนใจแล้ว” เขากระซิบเสียงต่ำ ในขณะที่มือเขาเริ่มเคลื่อนไหวอย่างชำนาญ“หลอกอีกแล้ว!” จีนพูดเสียงสั่นขณะที่โดนกระหน่ำรักจากด้านหลัง น้ำเสียงของเขาผสมไปด้วยความหวานและความหงุดหงิด ขณะที่แรงกระแทกทำให้เขารู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจ