ริคยืนพิงราวสะพานริอัลโต (Rialto Bridge) อย่างสง่างาม ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปยังผืนน้ำของแกรนด์คาแนลที่ทอดยาวออกไป เรือกอนโดลาล่องลอยอย่างเงียบงาม ผืนน้ำสะท้อนเงาของอาคารเก่าแก่สไตล์เวนิสที่มีสีสันและแฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ สะพานหินอ่อนที่เขายืนอยู่ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ในตอนนี้ ริคมีความคิดเพียงอย่างเดียว—การรอคอยการมาถึงของจีน
สายลมอ่อนๆ จากคลองพัดมากระทบใบหน้า เขาไม่แสดงอาการกังวลออกมาให้เห็นแม้เพียงน้อย แต่ภายในเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและแผนการที่หมุนวนอยู่ในหัว ขณะที่เขาสังเกตเรือกอนโดลาที่ลอยผ่านไปมาในน้ำ เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความสำคัญของสะพานแห่งนี้ สะพานริอัลโตเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อผู้คนของเวนิส นับตั้งแต่สร้างเสร็จในปลายศตวรรษที่ 16 จากการเป็นทางเชื่อมที่สำคัญของการค้า มาจนถึงวันนี้ที่ยังคงมีชีวิตชีวาด้วยตลาดอาหารทะเลสดๆ และสินค้าท้องถิ่น ที่อีกฟากหนึ่งของสะพาน เสียงตลาดริอัลโตดังก้องด้วยความคึกคัก เสียงแม่ค้าพ่อค้าขายปลาสดๆ และผลไม้ตามฤดูกาลดังแทรกผ่านความเงียบของริค ทว่าเขาแทบไม่ได้ใส่ใจต่อบรรยากาศรอบตัวมากนัก ในใจเขากลับจดจ่ออยู่กับการประชุมที่กำลังจะเกิดขึ้น การพาจีนมาที่นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกอย่างถูกวางแผนมาอย่างรัดกุม ตั้งแต่สถานที่ที่แวดล้อมไปด้วยผู้คนมากมายแต่ยังคงความเป็นส่วนตัว ไปจนถึงความงามของทิวทัศน์ที่ทำให้ทุกอย่างดูผ่อนคลายและชวนให้ละทิ้งความระแวง เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่นาที แต่ดูเหมือนจะยาวนานในความรู้สึกของริค จนในที่สุด ลูกน้องของเขาก็ปรากฏตัวจากอีกฟากหนึ่งของสะพาน จีนเดินตามมาด้วยท่าทางสงบ แม้จะอยู่ท่ามกลางสถานที่ที่คึกคัก แต่ใบหน้าของจีนกลับไม่มีความประหลาดใจหรือสงสัย ริคยกมือขึ้นเพียงเล็กน้อยเป็นสัญญาณให้ลูกน้องของเขาปล่อยจีนไว้ ลูกน้องเดินกลับไป เหลือเพียงเขากับจีนยืนอยู่บนสะพานที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ ริคยืนยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ พลางมองจีนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาด้วยท่าทีผ่อนคลายแต่แฝงไปด้วยความกวนเล็กๆ "คิดถึงฉันไหม?" ริคถามขณะที่สายตาของเขาจับจ้องที่ใบหน้าของจีน เห็นได้ชัดว่าเขาแกล้งถาม เขาเอื้อมมือไปจับมือจีนเบาๆ ลูบหลังมือของจีนด้วยนิ้วโป้ง ราวกับจะย้ำถึงความสัมพันธ์ที่ทั้งสองมี จีนหรี่ตาลงเล็กน้อย หน้าตางอนๆ ปรากฏขึ้น ดวงตาของเขามองไปรอบๆ สะพานและคลองใหญ่เบื้องล่าง ก่อนจะหันกลับมาที่ริค "คุณให้คนไปพาผมมานี่ทำไม” จีนถามเสียงเรียบ แต่น้ำเสียงของเธอกลับแฝงไปด้วยความตึงเครียดบางอย่าง ริคยิ้มเพียงเล็กน้อยก่อนจะขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น “ฉันก็ทำตามสัญญาไง ไม่ต้องกังวลหรอก” จีนขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้ดีว่าทุกครั้งที่ริคบอกว่า "ไม่มีอะไรต้องกังวล" มักจะมีบางสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่เสมอ เสียงของเรือกอนโดลาที่ผ่านไปมาเบื้องล่างผสานกับเสียงของฝูงชนที่เดินขวักไขว่บนสะพานริอัลโต บรรยากาศที่ควรจะผ่อนคลายกลับดูเหมือนจะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดให้กับจีน "แล้วเรามาพบกันที่นี่ทำไม?" จีนถามอีกครั้ง ดวงตาของยังคงจับจ้องริคไม่ละสายตา "เพราะที่นี่สวยงาม และเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับพาใครบางคนมาเที่ยวไง” ริคตอบขณะหันไปมองคลองใหญ่ แล้วดึงจีนให้เข้ามาใกล้กว่าเดิม แขนของเขาโอบรอบไหล่ร่างบางนั่นเบาๆ "เราจะเริ่มจากที่นี่ก่อน บนสะพานนี้... แล้วฉันจะพานายลงไปที่คลองใหญ่ นั่งเรือกอนโดลาไปรอบๆ เมือง แล้วก็... บางทีคืนนี้เราคงมีแผนที่ส่วนตัวมากกว่านั้น" ริคจับมือของจีนแน่นขณะที่พาเขาเดินไปยังท่าเรือใกล้สะพานริอัลโต ร่างใหญ่ของริคดูโดดเด่นเมื่อเทียบกับร่างเล็กของจีนที่ยังทำหน้างอเล็กน้อย แต่ก็ยอมให้ริคจูงมือไปโดยไม่ขัดขืน "ไม่ต้องหน้างอแล้ว" ริคพูดเสียงนุ่ม ยกมือของจีนขึ้นบีบเบาๆ พลางหันมามองพร้อมรอยยิ้มกวนๆ "ฉันสัญญาว่าวันนี้จะสนุก... ถ้านายไม่ดื้อกับฉันน่ะ" จีนถอนหายใจเงียบๆ แต่ในใจรู้สึกอบอุ่นกับสัมผัสที่ริคมอบให้ เขากลอกตาเล็กน้อยแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ "ฉันไม่ได้ดื้อ แค่นายมันขี้แหย่ต่างหาก" ทั้งสองเดินไปยังท่าเรือกอนโดลาที่จอดเรียงรายรอคอยผู้โดยสาร แสงแดดยามบ่ายสาดส่องลงมาอ่อนๆ ทำให้คลองแกรนด์คาแนลเปล่งประกายระยิบระยับ ริคช่วยพาจีนขึ้นเรือกอนโดลาพลางมองไปยังสายน้ำที่ไหลผ่านเมืองเก่าแก่ของเวนิส เรือเริ่มล่องไปตามคลองแกรนด์คาแนล ชายฝั่งสองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ที่งดงามไม่ว่าจะเป็น Palazzo Barbarigo ที่ตกแต่งด้วยโมเสกสีทองสะดุดตา หรือ Ca' d'Oro ที่มีสถาปัตยกรรมแบบโกธิคอันเลื่องชื่อ วิวทิวทัศน์รอบๆ ช่างเงียบสงบและมีมนต์ขลัง จีนเงยหน้าขึ้นมองอาคารเหล่านั้นอย่างชื่นชม แต่ก็ยังคงเก็บอาการไม่อยากแสดงให้ริครู้ว่าเขากำลังเพลิดเพลิน "สวยใช่ไหม?" ริคถาม พลางมองหน้าจีนด้วยรอยยิ้มที่รู้ดี "ก็...พอได้" จีนตอบเบาๆ แต่ในใจรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เขาเริ่มปล่อยตัวเองให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของเมืองเวนิส และความรู้สึกที่มีต่อริคเริ่มแทรกซึมเข้ามาในใจอย่างเงียบๆ ริคโน้มตัวเข้าใกล้จีนอีกนิด "ถ้านายพูดว่ามันสวยกว่านี้ ฉันอาจจะพานายมาอีกครั้งก็ได้นะ" จีนหัวเราะเบาๆ พลางส่ายหัว "นายมันแค่ขี้แกล้งนั่นแหละ" แต่แววตาของเขาดูผ่อนคลายมากขึ้น ความรู้สึกระหว่างพวกเขาสองคนเริ่มชัดเจนขึ้นขณะที่เรือกอนโดลายังคงล่องไปตามสายน้ำของแกรนด์คาแนล ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของเวนิส บรรยากาศในเรือกอนโดลานั้นอบอุ่นและโรแมนติก แสงแดดอ่อนๆ ส่องลงมาบนผิวน้ำ ทำให้เกิดประกายระยิบระยับ ขณะที่คลองแกรนด์คาแนลลื่นไหลไปตามเวลา อาคารเก่าแก่ที่เรียงรายสองข้างทางสร้างความรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกแห่งฝัน ริคมองจีนที่นั่งอยู่ข้างหน้า ด้วยสายตาอันเต็มไปด้วยความปรารถนา เขาไม่สามารถต้านทานแรงดึงดูดนี้ได้อีกต่อไป ร่างใหญ่ของเขาเคลื่อนเข้ามาใกล้ ดึงจีนเข้ามากอดจากด้านหลัง แขนของเขาโอบรอบเอวเล็กแน่น รู้สึกถึงความอบอุ่นและนุ่มนวลจากร่างกายของจีนที่อยู่ในอ้อมกอด “หันมาสิ” ริคกระซิบเสียงแหบพร่า ขณะที่ริมฝีปากของเขาใกล้ชิดกับข้างหูของจีน เขารู้สึกถึงความตื่นเต้นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง เมื่อจีนหันมามองเขาด้วยตาเบิกกว้าง ริครู้ว่าเวลานี้คือเวลาที่เขาจะทำให้ทุกอย่างร้อนแรงยิ่งขึ้น ริมฝีปากของเขาไล่ตามแนวกรามของจีน ก่อนที่จะสัมผัสกับริมฝีปากของเขาอย่างเบาๆ ริครู้ว่าจีนมีความลังเลเล็กน้อย แต่เขาไม่ยอมให้โอกาสหลุดลอยไป มือของเขาขยับไปจับที่ท้ายทอยของจีน บังคับให้เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ ริครู้สึกถึงการเต้นของหัวใจที่รุนแรงขึ้นเมื่อเขากดจูบลงไปอีกครั้ง จูบของริคเริ่มจากความอ่อนโยน ก่อนจะเพิ่มความร้อนแรงขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อเขารู้สึกถึงการตอบสนองของจีน ร่างเล็กๆ เริ่มยอมให้ตัวเองลอยตามกระแสของความรู้สึก จูบนี้กลายเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้สึกที่ร้อนแรงและเร่าร้อน “ริค...” จีนพึมพำเมื่อริมฝีปากของเขาแยกจากกัน เสียงแหบพร่าทำให้ริครู้สึกยิ่งมีอำนาจเหนือกว่า เขายิ้มให้กับจีน พลางกระชับกอดให้แน่นขึ้น “ฉันไม่สามารถหยุดได้...เพราะนายคือทุกอย่างที่ฉันต้องการ” จีนไม่สามารถทำได้อีกต่อไป เขายอมให้ความรู้สึกอบอุ่นที่ไหลเข้าสู่ร่างกายครอบงำเขา มือของเขาค่อยๆ ขึ้นไปจับที่ใบหน้าของริค ดึงเขาเข้ามาใกล้จนไม่เหลือระยะห่างอีกแล้ว ในช่วงเวลาเช่นนี้ ทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่ง เหลือเพียงเสียงหัวใจที่เต้นเร่ง และความเร่าร้อนที่เติมเต็มอากาศ ในที่สุดจีนก็ยอมรับว่าเขากำลังตกหลุมรักริคอย่างเต็มตัว ริคหอมแก้มของจีนแล้วพูดเสียงแผ่ว “ยังไงวันนี้ก็เป็นของเรา” ความรู้สึกนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาทั้งสองไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น แต่ในชั่วขณะนี้ มันคือความสุขที่ไร้ขีดจำกัดในโลกของเวนิสที่พวกเขาได้แชร์ร่วมกัน เมื่อเรือจอดสนิท ริคจับมือจีนแน่น แล้วพาเขาเดินไปยังจัตุรัสเซนต์มาร์ก (Piazza San Marco) ที่เต็มไปด้วยความงดงามและความมีชีวิตชีวา บรรยากาศที่นี่ช่างมีเสน่ห์ พื้นหินอ่อนสะท้อนแสงแดดจนเปล่งประกาย สองข้างทางเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่กำลังตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของสถานที่ “ดูสิ ที่นี่คือหัวใจของเวนิส” ริคพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ขณะที่เขาชี้ไปยังมหาวิหารเซนต์มาร์ก (St. Mark's Basilica) ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า โดมทองคำของมหาวิหารดูเหมือนจะเปล่งประกายท่ามกลางแสงอาทิตย์ ขณะที่โมเสกอันงดงามเรียงรายสะท้อนสีสันสดใส จีนมองขึ้นไปอย่างหลงใหล “มันช่างสวยงามจริงๆ” เขาพูดออกมาเสียงเบา อดไม่ได้ที่จะรู้สึกทึ่งกับสถาปัตยกรรมที่สลับซับซ้อนและรายละเอียดอันละเอียดอ่อน ริคมองจีนด้วยรอยยิ้มอย่างมีเสน่ห์ “ไม่เท่ากับนายหรอก” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความรัก ขณะนั้นจีนรู้สึกถึงความร้อนที่เริ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ทำให้เขาหัวใจเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง ทั้งคู่เดินไปตามจัตุรัส มือของพวกเขายังคงจับกันแน่น รู้สึกถึงการเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ริคพาจีนไปที่พระราชวังดอจ (Doge’s Palace) ที่มีความอลังการและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ “นี่คือที่พักของผู้ปกครองเวนิสในอดีต” เขาอธิบาย พลางนำจีนไปสำรวจรายละเอียดของอาคาร จีนรู้สึกถึงกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ในอากาศ ขณะที่พวกเขายืนอยู่ต่อหน้าอาคารที่เต็มไปด้วยเรื่องราว “รู้ไหมว่าฉันอ่านเรื่องราวของเวนิสมาเยอะ แต่เมื่อได้มาเห็นด้วยตาตนเอง มันทำให้ฉันรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของมันจริงๆ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหลงใหล ริคพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่เลย ที่นี่ทำให้รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของอดีต” เขาหันไปมองจีนที่ยิ้มอย่างสดใส “และที่สำคัญคือ…วันนี้มีนายอยู่ข้างๆ ฉันก็รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน” จีนหัวเราะเบาๆ รู้สึกยินดีเมื่อได้ยินคำพูดนี้ “งั้นเรามาทำให้วันของเราที่นี่เป็นความทรงจำที่ดีและน่าประทับใจที่สุดกันเถอะ” “ขอให้เป็นแบบนั้น” ริคกล่าวตอบเสียงกระซิบ เขาดึงจีนเข้าไปใกล้อีกครั้ง แอบยิ้มให้กับความรักที่เปล่งประกายระหว่างพวกเขา ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความสวยงามนี้ ทั้งสองจึงเดินต่อไปด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักและความสุข รอคอยการผจญภัยที่ยังคงอยู่ข้างหน้า ขณะที่ริคและจีนเดินมือจูงกันไปยังจัตุรัสเซนต์มาร์ก เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของนักท่องเที่ยวรอบข้างดูเหมือนจะจางหายไปเมื่อทั้งคู่ได้อยู่ใกล้กัน ริคแอบยิ้มเมื่อเห็นจีนก้มหน้ามองพื้นอย่างเขินอาย เขาจึงตัดสินใจหยอกล้อเขาเบาๆ “ทำไมถึงได้เขินขนาดนี้? คิดถึงจูบเมื่อกี้หรือไง?” ริคพูดเสียงกระซิบพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ทำให้จีนหันมามองด้วยความตกใจ “ไม่ใช่สักหน่อย!” จีนตอบกลับเสียงสูง พลางทำหน้าเหมือนจะไม่พอใจ แต่ไม่อาจปกปิดรอยยิ้มที่กระตุ้นให้ริคยิ่งแหย่เข้าไปอีก “ใช่สิ! ฉันรู้ว่านายสนุกกับมัน” ริคแกล้งทำเสียงจริงจัง ก่อนจะยิ้มกว้าง “ถ้าหากนายไม่สนใจ เราคงไม่เดินมาอยู่ตรงนี้” จีนรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้า เขากระแอมไอเบาๆ เพื่อปรับอารมณ์ “ก็บอกแล้วไงว่านายมันหยิ่ง” ริคยักไหล่ “หยิ่งหรือ? ฉันแค่พูดความจริง” เขาขยับเข้าใกล้จีนมากขึ้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความท้าทาย “ไม่อย่างนั้น นายจะตอบฉันได้ไหม ว่าทำไมไม่ยอมมองตาฉัน?” “ก็…เพราะนายทำให้ฉันรู้สึก…” จีนพูดไม่ออก นึกถึงอารมณ์ที่ตีกันอยู่ในใจ รู้สึกเหมือนถูกริคดึงดูดอยู่ตลอดเวลา “รู้สึกอะไร? ร้อนใจ? หรือว่าหัวใจเต้นแรง?” ริคยังคงหยอกล้อ พร้อมกับทำท่าทางซุกซน เขาแกล้งดึงจีนเข้ามาใกล้อีกครั้ง ทำให้จีนรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านจากร่างใหญ่ “หยุดเถอะ! นี่ไม่ใช่ที่นะ” จีนพูดเสียงต่ำขณะพยายามผลักริคออก แต่ความตื่นเต้นทำให้เขาไม่สามารถขัดขืนได้ “ทำไมล่ะ? ที่นี่มันคือเวนิส นี่คือช่วงเวลาของเรา” ริคยิ้มอย่างเย้ายวนใจ ก่อนจะกระซิบข้างหูของจีน “เราสามารถทำอะไรก็ได้ที่เราต้องการ” จีนรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง เมื่อริคพูดแบบนี้ เขาหันหน้าหนีไปทางอื่น เพื่อปกปิดอาการเขินอาย แต่ริคไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป “ถ้านายไม่กลัวที่จะมีฉันอยู่ข้างๆ ทำไมไม่ลองลืมทุกอย่างแล้วสนุกกับมันล่ะ?” ริคยื่นข้อเสนอ เขาแนบหน้าผากเข้ากับจีน สร้างความใกล้ชิดที่ทำให้หัวใจของจีนเต้นไม่เป็นจังหวะ “นาย…ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ” จีนตอบเสียงแผ่ว ความรู้สึกที่ร้อนรุ่มที่ริคสร้างขึ้นมาทำให้เขาไม่รู้จะทำอย่างไร “แปลกดีออก” ริคพูดพร้อมกับยิ้ม “หมายความว่านายกำลังชอบฉันมากขึ้นเรื่อยๆ ใช่ไหม?” จีนแทบจะกลั้นหายใจ “นายอย่ามาเพ้อเจ้อสิ!” “เพ้อเจ้อหรือเปล่า ก็ลองพิจารณาดูสิ” ริคยิ้มอย่างมีเสน่ห์ ขณะที่พวกเขายังคงเดินต่อไป โดยรอบข้างเต็มไปด้วยผู้คน แต่ในหัวใจของทั้งคู่กลับมีเพียงความรู้สึกที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จนทำให้พวกเขาตกอยู่ในโลกแห่งความรักที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและความสนุกสนาน ในขณะที่ริคและจีนเดินจูงมือกันอยู่ที่จัตุรัสเซนต์มาร์ก เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยของผู้คนรอบข้างยังคงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน จู่ๆ ลูกน้องคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน “คุณริค! มีเรื่องด่วน!” ริคหันไปมอง พร้อมกับดึงจีนเข้ามาใกล้ เขารู้สึกไม่พอใจที่ถูกขัดจังหวะ “พูดมา!” เสียงเขาดูเข้มขึ้นขณะเผชิญหน้ากับลูกน้อง “สถานการณ์ไม่ปกติที่สำนักงานครับ! เราต้องรีบกลับ!” ลูกน้องพูดอย่างเร่งรีบ สายตาเขาเต็มไปด้วยความตึงเครียด “เหรอ?” ริคเลิกคิ้ว ไม่พอใจที่ต้องหยุดช่วงเวลาที่น่าจดจำ แต่ในใจเขารู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ต้องจัดการ “ให้ฉันไปทำความสะอาดความยุ่งเหยิงของเรา” เขาหันมองจีนด้วยสายตาที่ดุดัน “น่าเสียดายที่เราต้องขัดจังหวะ แต่ก็ไม่มีทางเลือก” ริคพูดเสียงต่ำ ก่อนจะกระชากมือของจีนแล้วดึงเข้าหาตัว “นายจะไปไหน?!” จีนถามเสียงสูง ขณะริคพาเขาเดินไปยังรถยูวีที่จอดรออยู่ “ไปขึ้นรถ!” ริคสั่งเสียงเด็ดขาด เขาดึงจีนขึ้นรถอย่างแรง ก่อนจะตามเข้าไปนั่งข้างๆ เขาไม่สนใจคำพูดที่ไม่เป็นระเบียบของลูกน้องอื่นๆ รอบตัว “เร็วๆ!” ริคตะโกนไปที่คนขับ ขณะที่เขากดปิดประตูเสียงดัง ทำให้ทุกคนในรถต้องหยุดชะงัก รถยูวีเริ่มเคลื่อนที่ ขณะที่บรรยากาศในรถตึงเครียด หันไปที่ลูกน้องคนอื่นๆ “ใครก็ได้ บอกสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ทุกคนในรถพยายามรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น “ฉันจะจัดการกับพวกเขาให้เร็วที่สุด” ริคกล่าว เขายังคงมีความตั้งใจแน่วแน่ “และเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ฉันจะพานายไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ที่นายอยากไป” “จะไปที่ไหน?” จีนถามเสียงตื่นเต้น แต่ในใจเขารู้ว่าริคมักจะมอบเซอร์ไพรส์ที่ทำให้เขาแทบหยุดหายใจ “ฉันจะพานายไปสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จัก นั่นคือคำสัญญา” ริคตอบด้วยน้ำเสียงมีเสน่ห์ ขณะที่เขาหยุดมองจีนด้วยความร้อนแรง ในใจของจีนรู้สึกตื่นเต้นปนกลัว แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากริคได้ เขารู้สึกเหมือนอยู่ในสงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่หัวใจของเขายังคงเต้นแรงเมื่อได้ยินคำพูดของริค “บอสครับ!” ลูกน้องคนหนึ่งตะโกนเข้ามาในขณะที่ริคกำลังจัดการกับสถานการณ์ในรถ และรถยูวีคันใหญ่กำลังเคลื่อนตัวไปยังสำนักงาน เสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวล “เรามีปัญหาใหญ่!” ริคหันไปมองอย่างไม่พอใจ “พูดมาเร็ว!” เสียงเขาเข้มขึ้น ขณะที่ร่างกายใหญ่โตของเขาโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างไม่พอใจ “กลุ่มที่เราเคยมีปัญหาด้วยกลับมาแล้วครับ! พวกเขาต้องการข้อตกลงที่เรามีอยู่!” ลูกน้องกล่าวอย่างตื่นตระหนก ลูกน้องรายงานเรื่องราวอย่างดุเดือดในรถ ขณะที่ริคและจีนยังนั่งอยู่ในยูวีคันใหญ่ ความตึงเครียดในอากาศทำให้ทุกคนรู้สึกได้ถึงสถานการณ์ที่ลุกลาม “บอสครับ! พวกเขาเตรียมตัวที่จะโจมตีเรา! ข้อมูลที่เราได้มาคือพวกเขามีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว!” ลูกน้องพูดเสียงดัง ขณะที่เขาเปิดแฟ้มข้อมูลขึ้นมาให้ริคดู “ไม่ให้พวกมันมาใกล้ตัวเราเด็ดขาด!” ริคตะคอกตอบ เขายังคงไม่สามารถขจัดความรู้สึกดิบเถื่อนที่อยู่ในตัวออกไปได้ “เราต้องวางแผนตอบโต้ทันที” “เรามีตำแหน่งที่ดีในเมืองนี้ เราสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้” ลูกน้องเสนออย่างรวดเร็ว ขณะที่ริคจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นบรรยากาศของเวนิสที่สวยงาม แต่กลับรู้สึกถึงความตึงเครียดที่เกิดขึ้นภายในตัวเขา “เราจะไม่รอให้มันเกิดขึ้น” ริคตัดสินใจ “จัดการกับมันก่อนที่พวกมันจะคิดจะเคลื่อนไหว!” จีนที่นั่งอยู่ข้างๆ รู้สึกถึงความเครียดที่ทวีคูณ เขารู้ว่าริคต้องการที่จะปกป้องเขาและทีมงาน แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามันทำให้เขากลัว “ริค… เราต้องระวังตัว” “ฉันไม่ต้องการให้นายต้องกังวล” ริคพูดเสียงต่ำ พลางหันไปมองจีนด้วยสายตาที่มั่นคง “ฉันจะทำให้มันเรียบร้อย แต่ตอนนี้นายต้องอยู่ข้างๆ ฉัน” “เข้าใจแล้ว” จีนตอบเสียงเบา แต่ในใจเขารู้สึกถึงความหนักหน่วงของสถานการณ์ “เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน” “ใช่!” ริคยิ้มให้จีน พร้อมกับจิตใจที่มุ่งมั่น เขารู้ว่าต้องทำอะไรและไม่มีทางกลับหลัง เขาจะปกป้องคนที่เขารักและทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย แม้ในสถานการณ์ที่ดุเดือดและอันตรายนี้ “ลูกน้องทุกคน เตรียมตัวให้พร้อม!” ริคสั่งเสียงแข็ง “เราไม่สามารถยอมให้พวกมันได้เปรียบเรา” “ครับ บอส!” ทุกคนในรถตอบรับพร้อมกัน “และถ้าใครคิดจะมาขวางเรา… ฉันจะให้พวกเขารู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ!” ริคพูดด้วยความเข้มข้น ขณะที่เขารู้สึกถึงพลังที่พุ่งพล่านอยู่ในตัว “ไปจัดการให้เสร็จ แล้วฉันจะพานายไปที่ที่เราได้วางแผนไว้” ริคหันไปหาจีนอีกครั้งด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ “เมื่อไหร่ที่นายจะหยุดทำให้ฉันรู้สึกอย่างนี้” จีนพูดเสียงเบา แต่มีน้ำหนักมาก แววตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสนและความรู้สึกที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ “เมื่อไหร่ที่นายจะยอมรับว่าความรู้สึกนี้มันมีจริง” ริคตอบกลับอย่างไม่ลังเล ขณะที่เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าของจีนด้วยความรุนแรงและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน สัมผัสที่ร้อนแรงทำให้จีนรู้สึกถึงการดึงดูดที่ไม่อาจควบคุมได้ “อย่าลืมว่านี่คือเวนิส เราจะทำทุกอย่างที่เราต้องการ” ริคพูดอย่างมั่นใจ เสียงของเขามีความทรงพลัง ขณะที่เขาดึงจีนเข้ามาใกล้อีกครั้ง ใบหน้าของทั้งสองคนชิดใกล้กัน จนรู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน “เราไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนี้ตอนนี้” จีนพูดเสียงแผ่ว แต่เขาก็รู้สึกถึงแรงดึงดูดที่เขาไม่สามารถต้านทานได้ “ไปจัดการเรื่องที่เหลือในสำนักงานให้เสร็จเร็วๆ แล้วเราจะกลับมาสานต่อ” ริคสั่งเสียงแข็ง ขณะที่ความรู้สึกดิบเถื่อนยังคงครอบงำหัวใจของเขา ร่างกายของเขาตอบสนองต่อความรู้สึกที่มีต่อจีนอย่างรุนแรง แม้ว่าเขาจะพยายามควบคุมสถานการณ์ “บ้าเอ๊ย…” ริคคิดในใจ ขณะที่เขารู้สึกถึงความตื่นเต้นที่พุ่งพล่านใต้กางเกงเพียงแค่ร่างเด็กหนุ่มนั่งเบียดอยู่ข้างๆ เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าความรู้สึกนี้มันรุนแรงเกินกว่าจะมองข้ามริค คอนติ มาเฟียหนุ่มหล่อทรงอิทธิพลแห่งอิตาลี ขับรถสปอร์ตคันหรูฝ่าแสงแดดบ่ายที่สาดส่องลงมายังเมืองฟลอเรนซ์ รอยยิ้มเย็นชาแตะที่มุมปากขณะที่เขามุ่งหน้าไปทำธุรกิจที่เต็มไปด้วยความลับและอำนาจ ทุกสิ่งในชีวิตของริคถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน จนกระทั่งสายตาเฉียบคมของเขาหยุดนิ่งเมื่อเห็นร่างเล็ก ๆ ที่เดินอยู่ริมถนนเด็กหนุ่มคนนั้นทำให้หัวใจของริคสะดุด จีน หนุ่มน้อยจากประเทศไทยที่ย้ายมาเรียนต่อในอิตาลี ผิวขาวละเอียด ร่างบอบบาง และใบหน้าหวานจนเกินจะมองข้าม ท่ามกลางผู้คนมากมาย จีนกลับดูโดดเด่นราวกับแสงที่สาดส่องผ่านหมอกในยามเช้า ความงามอันบริสุทธิ์และท่าทีไร้เดียงสาเหล่านั้นทำให้ริคแทบจะลืมหายใจหัวใจของริคเต้นแรงขึ้น มือที่จับพวงมาลัยแน่นด้วยความปรารถนาที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเย็นชาที่เคยมีถูกแทนที่ด้วยความกระหายที่จะครอบครอง เขาเฝ้ามองร่างเล็กที่ก้าวเดินไปอย่างไร้เดียงสา จังหวะทุกย่างก้าวของจีนราวกับจะดึงริคให้ติดตาม จีนไม่เหมือนใครในโลกนี้ ริคไม่เคยพบใครที่ทำให้เขารู้สึกถูกท้าทายและล่อลวงได้เช่นนี้“เด็กคนนี้…” ริคพึมพำในลำคอ เสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความกระหาย เขารู้ทันทีว่าสิ่งที่เขาต้อง
ในยามเช้าของฟลอเรนซ์ เมืองที่เปี่ยมไปด้วยศิลปะและความงดงาม เสียงนกร้องประสานกับลมเบาๆ ทำให้บรรยากาศสดใสยิ่งขึ้น ถนนที่ปูด้วยหินเรียบถูกตัดผ่านด้วยแสงแดดทองอร่าม อาคารสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าทั้งหลายตั้งตระหง่าน ดึงดูดสายตาผู้คนที่เดินผ่านมา จีน เด็กหนุ่มที่มีหัวใจเต็มไปด้วยความรักศิลปะ เดินผ่านเส้นทางที่เคยเป็นความฝัน เขามาอยู่ที่นี่เพื่อค้นหาตัวตนใหม่ หลังจากสูญเสียพ่อแม่ไปจากอุบัติเหตุ เขาเลือกฟลอเรนซ์ เมืองที่มีแต่ศิลปะ และประวัติศาสตร์เพื่อหลบหนีจากความเจ็บปวดในอดีต ทุกก้าวของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อเขาหยุดยืนหน้าโบสถ์ซานตามาเรียเดลฟิโอเร โดมที่งดงามและประติมากรรมที่ประณีตทำให้หัวใจเขาเต้นรัว ภาพของศิลปินอย่างเลโอนาร์โด ดา วินชี และไมเคิลแองเจโลปรากฏในจินตนาการ ราวกับว่าเขาได้ยินเสียงของพวกเขาเชื้อเชิญให้เขาเข้าไปในโลกแห่งความคิดสร้างสรรค์“ฟลอเรนซ์…” เขาพึมพำกับตัวเอง รู้สึกถึงพลังแห่งความฝันที่ลอยอยู่ในอากาศ “เมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะ ทุกสิ่งในที่นี้มีชีวิต”กลิ่นหอมของกาแฟและขนมอบยั่วยวนใจเขา ในขณะที่เสียงหัวเราะและการพูดคุยของผู้คนรอบตัวทำให้เขารู้สึกสดชื่น และขณะนั้น
เสียงปืนดังขึ้นอย่างกึกก้องในตรอกแคบ เสียงที่แทรกเข้าไปในความตึงเครียดของการต่อสู้ กระแทกใจทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น เสียงปืนแต่ละนัดแผดออกมาอย่างเฉียบขาด สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้“ปัง!” เสียงปืนแรกดังขึ้น เสียงปืนที่คมชัดเหมือนฟ้าผ่าท่ามกลางความเงียบ ทุกคนหันไปมองยังจุดที่เสียงนั้นเกิดขึ้น ด้วยความหวาดกลัวและตื่นเต้น เมื่อการต่อสู้เริ่มจะเลวร้ายลง“ปัง! ปัง!” เสียงปืนอีกสองนัดตามมาทันที บรรยากาศที่แวดล้อมไปด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงเหล็กกระทบกัน ทำให้เกิดความสับสนอย่างมาก สมาชิกในแก๊งต่างพยายามหาที่กำบัง ขณะเสียงปืนสะท้อนทั่วบริเวณ เสียงของกระสุนที่พุ่งเข้าชนกับผนังและพื้นถนนสร้างเสียงดังที่น่าหวาดกลัว“ระวัง!” เสียงหนึ่งตะโกน ขณะที่คนหนึ่งวิ่งหลบกระสุนที่พุ่งผ่านไปอย่างเฉียดฉิว“ปัง! ปัง!” เสียงปืนยังคงดังก้อง ทุกคนต่างพยายามหาทางหนีหรือหาที่กำบัง สายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวในความไม่แน่นอนของสถานการณ์ ขณะที่อาเล็กซ์และพวกพ้องของเขาเข้ามาในภาพ การเคลื่อนไหวของพวกเขาเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีระเบียบ ในเมืองเก่าแก่ที่ตระกูล ดิอังเจโล และ คอนติ ต่างมีรากฐานที่หยั
อเล็กซ์ ดิอังเจโล(Alex D'Angelo) รูปร่างสูงใหญ่สง่างามในแบบของผู้ดีอิตาลีแท้ ๆ ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาราวกับภาพวาดจากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ทุกอณูของเครื่องแต่งกายถูกจัดสรรอย่างประณีต สูทสีดำที่เขาสวมใส่ถูกตัดเย็บมาอย่างดีเข้ารูปพอดีตัว บ่งบอกถึงความพิถีพิถันและสถานะที่สูงส่งเขายืนอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ ภาพแสงไฟของเมืองอันสว่างไสวทอดยาวออกไปไกลสุดสายตา สายตาของเขาจ้องมองออกไปยังทิวทัศน์ด้านนอก แต่ภายในจิตใจกลับเต็มไปด้วยความคิดถึงเหตุการณ์หนึ่งที่เขาไม่อาจลืมได้ วันที่ชายหนุ่มเอเชียผู้เรียบง่าย แต่กล้าหาญและเด็ดเดี่ยวคนนั้นก้าวเข้ามาช่วยเหลือเขาจีน ชื่อของชายหนุ่มนั้นสะท้อนก้องในหัวของอเล็กซ์ ความทรงจำของการช่วยเหลือในวันที่อันตรายโอบล้อมยังคงชัดเจนในใจ แม้ว่าจะมีเหตุผลหลายประการที่ทำให้คนอย่างเขาไม่ต้องพึ่งพาใคร แต่ในวันนั้น จีนก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของเขา การพบเจอในครั้งนั้นทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ในใจของอเล็กซ์ ความรู้สึกที่ยากจะนิยามได้ ระหว่างความรู้สึกขอบคุณและความชื่นชมในความกล้าหาญของชายหนุ่มผู้แสนธรรมดาแต่พิเศษเหลือเกินอเล็กซ์หลับตาลงครู่หนึ่ง ปล่อยให้ความคิดและความรู้สึกเหล
ในสำนักงานอันหรูหราของเขา ริคยืนอยู่ท่ามกลางความเงียบสงัด หลอดไฟสีอบอุ่นทำให้เกิดเงาเล็กน้อยที่ใบหน้าของเขา สะท้อนถึงความเคร่งเครียดของความคิดที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความโกรธ อาการกระวนกระวายกำลังเริ่มก่อตัวเมื่อเขาได้ยินข่าวเกี่ยวกับจีน ชายหนุ่มจากมหาวิทยาลัยศิลปะที่มีเสน่ห์ดึงดูด“อเล็กซ์...” ริคพึมพำชื่อที่ทำให้เขารู้สึกถึงไฟแห่งความหึงหวง “ไอ้นั่นมันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเลยจริงๆ”เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มือของเขาสั่นเล็กน้อย แต่ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เป็นเพราะความโกรธที่เขาไม่สามารถระงับได้ “ไปเอาตัวจีนมา” เขาสั่งเสียงเรียบ แต่ภายในกลับสั่นสะเทือน “พาเขามาที่นี่โดยเร็วที่สุด และทำให้แน่ใจว่าเขาไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง”เสียงของเขาแฝงไปด้วยความเชื่อมั่นที่เต็มเปี่ยม รู้ดีว่าคนของเขาจะทำตามคำสั่งนี้อย่างเงียบเชียบ“อย่าลืม... ต้องทำให้เขาไม่มีทางหนี” เขาพูดต่อ เสียงของเขาห้วนขึ้น แต่มีความนุ่มนวลที่แฝงอยู่ มันเหมือนกับการพยายามควบคุมอารมณ์ในใจ ริคคิดถึงสิ่งที่เขาจะทำกับจีนเมื่อได้เขามา สายลมเย็นของยามค่ำคืนพัดผ่านมาเบา ๆ ขณะที่จีนเดินออกจากบ้าน เขามองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้
จีนรู้สึกเหมือนว่าหัวของเขาหนักอึ้ง เมื่อเปลือกตาค่อยๆ เปิดออก ความสลัวจากแสงที่ส่องเข้ามาทำให้เขาต้องขยี้ตาเพื่อปรับสายตาให้คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ก่อนที่เขาจะค้นพบว่าเขาอยู่ในห้องนอนที่หรูหราเกินกว่าที่เขาจะเคยเห็น ห้องนี้มีสไตล์บาโรกที่เต็มไปด้วยความโอ่อ่าและความละเอียดอ่อน เขาหันไปมองรอบๆ สายตาของเขาสัมผัสกับผนังที่ปูด้วยไม้แกะสลักที่มีลวดลายอันวิจิตร คานไม้บนเพดานก็ถูกตกแต่งด้วยรายละเอียดที่งดงาม การประดับด้วยโคมไฟคริสตัลทำให้ห้องนี้ดูเปล่งประกายระยิบระยับ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เตียงที่มีขนาดใหญ่ อบอุ่นและหรูหราด้วยผ้าปูที่นอนเนื้อดีที่มีสีทองสลับกับสีม่วงเข้ม“ที่นี่…ที่ไหนกัน?” เขาคิดในใจ ขณะที่ความสับสนเข้ามาแทนที่ความง่วงงุนในตัวเขา สัญชาตญาณของเขาตื่นตัวอย่างเต็มที่เมื่อเขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา จีนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย เมื่อเขาตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่โอ่อ่าและหรูหราอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ห้องนี้กว้างขวาง ยิ่งใหญ่ และเต็มไปด้วยรายละเอียดที่น่าทึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศที่ทั้งงด
ก๊อกๆๆสาวใช้ก้าวเข้ามาในห้องนอนของจีนอย่างเงียบ ๆ เธอสวมชุดเครื่องแบบเรียบหรูสีดำที่ตัดเย็บอย่างปราณีต เสียงประตูที่เปิดเบา ๆ ดึงความสนใจของจีนที่นั่งอยู่ริมเตียง ใบหน้าของเขาฉายแววครุ่นคิดและเคร่งเครียด ก่อนที่สาวใช้จะพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่แฝงความเคารพ"คุณริคให้มาช่วยคุณจีนอาบน้ำค่ะ" เธอกล่าวอย่างสุภาพ สายตาทอดต่ำอย่างนอบน้อมจีนเงยหน้าขึ้นมองเธอ แววตายังมีความประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ยังคงนิ่งเงียบอยู่ในความคิดของตัวเอง การมีคนเข้ามาดูแลเช่นนี้ในช่วงเวลาที่เขารู้สึกเปราะบาง อาจเป็นสิ่งที่เขาต้องการโดยไม่รู้ตัวสาวใช้ก้าวเข้าไปในห้องน้ำ เปิดประตูเผยให้เห็นอ่างอาบน้ำหินอ่อนขนาดใหญ่ น้ำอุ่นถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ไอน้ำลอยขึ้นบาง ๆ เติมกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์และโรสแมรี่อบอวลอยู่ทั่วห้อง อ่างน้ำประดับด้วยดอกไม้ขาวที่ลอยเบา ๆ บนผิวน้ำ"ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วค่ะ" สาวใช้เอ่ยพลางถอยออกมาเล็กน้อย ปล่อยให้จีนลุกขึ้นเพื่อไปที่ห้องน้ำภายในห้องน้ำที่หรูหรา อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง น้ำในอ่างเต็มไปด้วยฟองสบู่ที่ฟูฟ่อง ละลายตัวช้า ๆ ในอุณหภูมิอุ่นพอดี กลิ่นหอมของน้ำมั
บ้านของริค คอนติ เป็นคฤหาสน์สุดหรูที่ตั้งอยู่บนหน้าผา ริมทะเลสาบสีฟ้าใส ซึ่งเป็นภาพที่งดงามสุดขีด สถานที่นี้ถูกล้อมรอบด้วยป่าสนหนาทึบและภูเขาที่ทอดตัวเป็นฉากหลัง สร้างบรรยากาศให้รู้สึกถึงการหลีกหนีจากโลกภายนอกอย่างแท้จริง ตัวบ้านออกแบบในสไตล์ยุโรปคลาสสิก โครงสร้างยิ่งใหญ่และแข็งแรง ประดับด้วยเสาและซุ้มโค้งที่ทำจากหินอ่อน ซึ่งยืนตระหง่านอย่างโอ่อ่าเมื่อมองไปที่ภายนอก บ้านหลังนี้มีหลังคาสีอิฐแดงทรงสูงที่ตัดกับผนังสีขาวสะอาดตา มีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่เรียงรายเป็นแนว ทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกได้อย่างชัดเจน ขอบหน้าต่างและประตูตกแต่งด้วยไม้สีเข้มอย่างประณีต บันไดหินอ่อนกว้างทอดลงจากประตูหน้าของบ้านไปยังสนามหญ้าสีเขียวชอุ่ม สนามหญ้ากว้างนี้รายล้อมไปด้วยพุ่มไม้ที่ตัดแต่งเป็นรูปทรงเรขาคณิตและกระถางต้นไม้ทรงสูงที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีทางเดินจากสนามหญ้าลงไปถึงท่าเรือส่วนตัว ที่ทำจากไม้เนื้อดี ทอดตัวออกไปในทะเลสาบ มีเรือยอชต์สีขาวจอดอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งสะท้อนกับน้ำในทะเลสาบอย่างงดงาม ทิวทัศน์ของภูเขาและน้ำที่ล้อมรอบสร้างความรู้สึกสันโดษแต่มีเสน่ห์ดึงดูดแบบธรรมชาติบรรยากาศโดยรอบถูกเติมเต็มด้วยต้
ริคยืนพิงราวสะพานริอัลโต (Rialto Bridge) อย่างสง่างาม ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปยังผืนน้ำของแกรนด์คาแนลที่ทอดยาวออกไป เรือกอนโดลาล่องลอยอย่างเงียบงาม ผืนน้ำสะท้อนเงาของอาคารเก่าแก่สไตล์เวนิสที่มีสีสันและแฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ สะพานหินอ่อนที่เขายืนอยู่ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ในตอนนี้ ริคมีความคิดเพียงอย่างเดียว—การรอคอยการมาถึงของจีน สายลมอ่อนๆ จากคลองพัดมากระทบใบหน้า เขาไม่แสดงอาการกังวลออกมาให้เห็นแม้เพียงน้อย แต่ภายในเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและแผนการที่หมุนวนอยู่ในหัว ขณะที่เขาสังเกตเรือกอนโดลาที่ลอยผ่านไปมาในน้ำ เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความสำคัญของสะพานแห่งนี้ สะพานริอัลโตเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อผู้คนของเวนิส นับตั้งแต่สร้างเสร็จในปลายศตวรรษที่ 16 จากการเป็นทางเชื่อมที่สำคัญของการค้า มาจนถึงวันนี้ที่ยังคงมีชีวิตชีวาด้วยตลาดอาหารทะเลสดๆ และสินค้าท้องถิ่น ที่อีกฟากหนึ่งของสะพาน เสียงตลาดริอัลโตดังก้องด้วยความคึกคัก เสียงแม่ค้าพ่อค้าขายปลาสดๆ และผลไม้ตามฤดูกาลดังแทรกผ่านความเงียบของริค ทว่าเขาแทบไม่ได้ใส่ใจต่อบรรยากาศรอบตัวมากนัก ในใจเขากลับจดจ่ออยู่กับการป
ริคที่มัวเมาอยู่กับร่างบอบบางที่เขาได้มาครอบครองครั้งแล้วครั้งเล่า รู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นมากกว่าการเสพติด มันกลายเป็นความต้องการที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จากที่เคยแค่ต้องการเขาในบางเวลา ตอนนี้กลับแทบต้องการตลอดเวลาทุกครั้งที่เขาได้สัมผัสกับผิวเนียนนุ่ม ความรู้สึกตื่นเต้นก็จะซัดเข้ามาในหัวใจ จนทำให้เขาหยุดคิดไม่ได้ ว่านี่มันอะไรกันแน่? ความรู้สึกนี้เหมือนกับไฟที่กำลังลุกโชน ลามไปทั่วร่างกาย ส่งผลให้เขาเกิดความร้อนรุ่มที่ไม่อาจหักห้ามใจได้คนอย่างริค ที่มักจะมีคนมาปรนเปรอรักให้แทบไม่ขาดสาย แต่ไม่มีใครเคยทำให้เขามัวเมาได้ขนาดนี้ เขาเคยมีความสัมพันธ์มากมายที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและอารมณ์ แต่กลับไม่มีใครที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าสู่ความลุ่มหลงอันลึกซึ้งแบบนี้ภายในห้องนอนกว้าง ริคยืนอยู่ริมหน้าต่าง มือหนึ่งถือแก้วไวน์แดงสีเข้ม ขณะที่อีกมือจุดซิการ์ ควันลอยฟุ้งในอากาศ สะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็นที่สาดส่องเข้ามา ร่างของจีนที่นอนหลับอยู่บนที่นอนสีเข้ม เขาดูสงบและน่าอภิรมย์ ผมสั้นเรียบเนียนแนบไปกับหมอน ริมฝีปากที่เคยส่งเสียงครวญครางในคืนที่เต็มไปด้วยความรักตอนนี้ถูกปิดเงียบพวกเขาอยู่
หลังจากจิบกาแฟหอมๆ จีนรู้สึกมีชีวิตชีวาและตื่นเต้นที่จะสำรวจพิพิธภัณฑ์คาเรซซิโอ (Ca' Rezzonico) พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ตั้งอยู่ริมคลองกรันเด เขาเดินออกจากคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นและเสียงหัวเราะของผู้คนที่มารวมตัวกัน ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงเมื่อเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ จีนถูกดึงดูดโดยความงดงามของสถาปัตยกรรมอันประณีตและงานศิลปะที่จัดแสดงอย่างพิถีพิถัน ภายในอาคารที่ส่องแสงทองอร่าม เขารู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่โลกแห่งประวัติศาสตร์และความสวยงามที่สร้างสรรค์มาอย่างช้านานจีนเดินไปตามห้องต่างๆ ที่เต็มไปด้วยภาพวาดที่มีชีวิตชีวา เขาหยุดมองภาพวาดที่สื่อถึงความรักและความงาม โดยเฉพาะภาพของหญิงสาวที่มีสีสันอ่อนโยน รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ซึ่งทำให้เขารู้สึกตื้นตัน ความรู้สึกนี้พาเขาย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่เขาเคยมีความรักอันงดงามและท้าทายเสียงก้าวเท้าของผู้คนและเสียงกระซิบเบาๆ ของนักท่องเที่ยวเป็นพื้นหลังที่ช่วยเติมเต็มบรรยากาศให้มีชีวิตชีวามากขึ้น เขาเฝ้าดูรายละเอียดของแต่ละชิ้นงาน ศิลปินได้ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกผ่านสีสันและเส้นสายทำให้เขารู้สึกถึงแรงบันดาลใจและความหลงใหลในศิลปะ
พายุรักเร่าร้อนสงบลงและความเงียบสงบเริ่มแผ่ไปทั่วพื้นที่ ทั้งสองนั่งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่มองลงไปเห็น Rio di Palazzo คลองที่เชื่อมระหว่าง พระราชวังดอจ (Doge's Palace) กับ คุกเก่า (Old Prisons) โดยตรง แสงจันทร์ส่องสะท้อนบนผืนน้ำทำให้บรรยากาศโรแมนติกยิ่งขึ้นจีนซบอยู่บนร่างใหญ่ของริคอย่างเหนื่อยอ่อน รู้สึกถึงความอบอุ่นจากตัวเขา ริคนั่งพิงรถ มือข้างหนึ่งโอบรัดเอวของจีนแน่น ส่วนอีกมือยกซิการ์ขึ้นดูดพลางปล่อยควันออกมาอย่างเยือกเย็น"อย่าคิดหนีไปจากฉันอีก นายเป็นของฉันแล้ว" ริคพูดเสียงแหบพร่า ลมหายใจยังร้อนจากแรงปรารถนาที่คุกรุ่นอยู่ข้างใน เขาลูบแขนจีนเบาๆ ขณะจ้องมองใบหน้าของเด็กหนุ่มที่ยังคงหลงเหลือรอยอ่อนล้าจากช่วงเวลาที่ผ่านมาจีนหายใจหอบเล็กน้อย ขมวดคิ้วแล้วบ่นออกมา "อย่างกะคุณจะให้ผมหนีได้" เสียงของเขามีทั้งความขบถและความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน ทั้งดื้อรั้นและเง้างอนในเวลาเดียวกันริคหัวเราะหึๆ เสียงทุ้มลึกของเขาก้องไปในความมืด “ใช่แล้ว ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยนายไป” เขากระซิบเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงมาใกล้ สัมผัสริมฝีปากที่แข็งแรงของเขาแนบชิดกับใบหูของจีน ทำให้เด็กหนุ่มต้องหลับตาแน่น ปล่อยให
หลังจากงานเสร็จสิ้น มาร์คหันมาถามริคในรถด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ "ได้ข่าวว่ามีของเล่นใหม่?" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสนใจ ริคเหลือบมองมาร์คก่อนจะอมยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับ เพียงแค่ยิ้มอย่างมีเลศนัย มาร์คมองริคอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเป็นห่วง “ระวังไว้นะ... ของเล่นชิ้นนั้นอาจกลายมาเป็นจุดอ่อนของนาย” เขายิ้มมุมปาก แต่สายตากลับเต็มไปด้วยความจริงจัง ราวกับรู้ว่าเรื่องนี้อาจทำให้ริคสะดุดในเกมที่พวกเขาเล่นอยู่ริคนั่งนิ่งในรถ สายตาของเขาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่ความคิดกลับวนเวียนอยู่กับเด็กหนุ่มที่เขาเพิ่งจากมา เขายังไม่รู้... ริคคิดในใจ แต่ที่แน่ ๆ ฉันหวงเด็กนั่นมาก... มากจนไม่อยากให้ใครเข้าใกล้หรือแตะต้องความรู้สึกนี้มันล้ำลึกเกินกว่าที่เขาจะคาดคิด ความหวงแหนที่ไม่เคยมีต่อใครมาก่อน ริคกัดฟันเล็กน้อย รู้ดีว่าความรู้สึกนี้อาจกลายเป็นจุดอ่อน เป็นสิ่งที่เขาไม่ควรมีในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและการทรยศ แต่เขาห้ามตัวเองไม่ได้... …………………………………………………….. ริค คอนติ พาจีนมายืนอยู่หน้าสะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) สถานที่ที่โด่งดังแห่งเวนิส สะพานเชื่อมระหว่าง
“อาา… ริค!” จีนส่งเสียงออกมาในขณะที่ริมฝีปากของริคสัมผัสกับผิวของเขา ร่างกายของเขาสั่นสะท้านเมื่อริคเริ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาอย่างไม่รีบร้อนในขณะที่ด้านนอกห้องทำงานกำลังคุกรุ่นด้วยสถานการณ์ที่ตึงเครียด เสียงกรีดร้องและการทะเลาะวิวาทดังมาจากข้างนอก แต่ภายในห้องกลับร้อนแรงดั่งไฟ สองร่างกำลังอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน“ให้ฉันทำให้มันร้อนขึ้นอีก” ริคกระซิบเสียงต่ำ ริมฝีปากของเขาไล่ต่ำลงไปตามแนวกรามของจีน ขณะที่มือของเขาก็สัมผัสไปที่ต้นขา ทำให้จีนรู้สึกถึงความร้อนที่เริ่มลามไปทั่วร่างกาย“ไม่… ริค…” จีนพยายามจะขัดขืน แต่เสียงของเขากลับเต็มไปด้วยความหวั่นไหว สถานการณ์ภายนอกดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหาในขณะนี้ เขารู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในบ่วงแห่งความเร่าร้อน“ไม่ต้องห่วง” ริคพูดเสียงลึกล้ำ “ไม่มีใครจะมารบกวนเรา” เขาใช้มืออีกข้างหนึ่งบีบแก้มของจีนอย่างเบามือ แต่เต็มไปด้วยความมั่นคง “แค่มีเรา… และความต้องการนี้”“อาา…” จีนครางออกมาอีกครั้งเมื่อริคโน้มตัวเข้ามาใกล้และจูบเขาอย่างดุเดือด จีนตอบสนองด้วยการยืดตัวเข้าหา ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยไฟที่ลุกโชนริคไม่สามารถควบคุมความต้องการของเขาได้อีกต่อไป
ริคยืนพิงราวสะพานริอัลโต (Rialto Bridge) อย่างสง่างาม ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปยังผืนน้ำของแกรนด์คาแนลที่ทอดยาวออกไป เรือกอนโดลาล่องลอยอย่างเงียบงาม ผืนน้ำสะท้อนเงาของอาคารเก่าแก่สไตล์เวนิสที่มีสีสันและแฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ สะพานหินอ่อนที่เขายืนอยู่ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ในตอนนี้ ริคมีความคิดเพียงอย่างเดียว—การรอคอยการมาถึงของจีนสายลมอ่อนๆ จากคลองพัดมากระทบใบหน้า เขาไม่แสดงอาการกังวลออกมาให้เห็นแม้เพียงน้อย แต่ภายในเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและแผนการที่หมุนวนอยู่ในหัว ขณะที่เขาสังเกตเรือกอนโดลาที่ลอยผ่านไปมาในน้ำ เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความสำคัญของสะพานแห่งนี้ สะพานริอัลโตเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อผู้คนของเวนิส นับตั้งแต่สร้างเสร็จในปลายศตวรรษที่ 16 จากการเป็นทางเชื่อมที่สำคัญของการค้า มาจนถึงวันนี้ที่ยังคงมีชีวิตชีวาด้วยตลาดอาหารทะเลสดๆ และสินค้าท้องถิ่นที่อีกฟากหนึ่งของสะพาน เสียงตลาดริอัลโตดังก้องด้วยความคึกคัก เสียงแม่ค้าพ่อค้าขายปลาสดๆ และผลไม้ตามฤดูกาลดังแทรกผ่านความเงียบของริค ทว่าเขาแทบไม่ได้ใส่ใจต่อบรรยากาศรอบตัวมากนัก ในใจเขากลับจดจ่ออยู่กับการประช
เสียงของรถยูวีสีดำหลายคันดังขึ้นเมื่อมันจอดลงที่โกดังขนาดใหญ่ กลิ่นของน้ำมันและเหล็กเปลี่ยนเป็นกลิ่นอายที่คุ้นเคยในพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยความเงียบเหงาและความลึกลับ ไฟฟ้าในโกดังสลัวสลัว ทำให้เกิดเงาที่เคลื่อนไหวไปมาอย่างน่าสงสัยเมื่อประตูรถเปิดออก ชายฉกรรจ์ในชุดดำเริ่มก้าวออกมาอย่างรวดเร็ว ทุกคนมีท่าทางมั่นใจและเป็นมืออาชีพ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีภารกิจสำคัญที่ต้องทำ การเคลื่อนไหวของพวกเขาเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น“ตรวจสอบพื้นที่!” เสียงหนึ่งตะโกนออกมา เขาสั่งการด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ทุกคนพยักหน้าและแยกย้ายกันไปตรวจสอบบริเวณรอบๆ ขณะที่บางคนเริ่มยกกล่องและอุปกรณ์ออกจากรถโกดังนี้เป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ซึ่งใช้ในการทำธุรกิจที่ไม่เปิดเผย จึงไม่แปลกที่การเฝ้าระวังจะเข้มงวดและมีการเคลื่อนไหวที่แอบซ่อนอยู่ในเงามืด ความตึงเครียดในอากาศทำให้ทุกอย่างดูน่ากลัวและเต็มไปด้วยความคาดเดาไม่ได้เสียงเหล็กกระทบกันและเสียงพึมพำของการสื่อสารระหว่างกันทำให้บรรยากาศในโกดังรู้สึกเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยเงามืดของความลับที่ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ การประสานงานกันของชายฉกรรจ์ทำให้รู้สึกถึงการเตรียมพร้อมส
ริคที่ไม่เคยพอกับการรักจีน ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ไม่อิ่ม เหมือนถูกดึงเข้าไปในโลกที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและความร้อนแรงทุกครั้งที่เขาได้สัมผัสร่างบาง ร่างใหญ่ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายกับการค้นหาความรู้สึกใหม่ๆ ที่มาจากร่างบอบบางแต่แสนเร่าร้อนใต้ร่างนี้ ความรู้สึกนี้ไม่เคยลดน้อยลงเลย แต่กลับเพิ่มทวีความเร่าร้อนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆในที่สุด จีนก็เริ่มรู้สึกถึงการถูกหลอกที่ริคสร้างขึ้นมาอย่างมิดชิด หลังจากที่เขาได้ยินคำสัญญาเกี่ยวกับการพาไปนั่งเรือ เขาก็รู้สึกตื่นเต้นกับความคิดที่จะได้สัมผัสลมทะเลและแสงแดด แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาเผชิญคือความร้อนแรงจากการกระทำของริคที่ไม่ยอมหยุด“นี่… เราไม่ไปนั่งเรือกันเหรอ?” จีนถามอย่างไม่แน่ใจ ขณะที่เขานั่งอยู่บนเตียง ใบหน้าของเขายังคงร้อนระอุจากสัมผัสของริคที่ไม่ยอมห่างไปไหนริคหัวเราะในลำคอ รอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ “อืม… ฉันเปลี่ยนใจแล้ว” เขากระซิบเสียงต่ำ ในขณะที่มือเขาเริ่มเคลื่อนไหวอย่างชำนาญ“หลอกอีกแล้ว!” จีนพูดเสียงสั่นขณะที่โดนกระหน่ำรักจากด้านหลัง น้ำเสียงของเขาผสมไปด้วยความหวานและความหงุดหงิด ขณะที่แรงกระแทกทำให้เขารู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจ