เสียงของรถยูวีสีดำหลายคันดังขึ้นเมื่อมันจอดลงที่โกดังขนาดใหญ่ กลิ่นของน้ำมันและเหล็กเปลี่ยนเป็นกลิ่นอายที่คุ้นเคยในพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยความเงียบเหงาและความลึกลับ ไฟฟ้าในโกดังสลัวสลัว ทำให้เกิดเงาที่เคลื่อนไหวไปมาอย่างน่าสงสัย
เมื่อประตูรถเปิดออก ชายฉกรรจ์ในชุดดำเริ่มก้าวออกมาอย่างรวดเร็ว ทุกคนมีท่าทางมั่นใจและเป็นมืออาชีพ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีภารกิจสำคัญที่ต้องทำ การเคลื่อนไหวของพวกเขาเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ตรวจสอบพื้นที่!” เสียงหนึ่งตะโกนออกมา เขาสั่งการด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ทุกคนพยักหน้าและแยกย้ายกันไปตรวจสอบบริเวณรอบๆ ขณะที่บางคนเริ่มยกกล่องและอุปกรณ์ออกจากรถ โกดังนี้เป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ซึ่งใช้ในการทำธุรกิจที่ไม่เปิดเผย จึงไม่แปลกที่การเฝ้าระวังจะเข้มงวดและมีการเคลื่อนไหวที่แอบซ่อนอยู่ในเงามืด ความตึงเครียดในอากาศทำให้ทุกอย่างดูน่ากลัวและเต็มไปด้วยความคาดเดาไม่ได้ เสียงเหล็กกระทบกันและเสียงพึมพำของการสื่อสารระหว่างกันทำให้บรรยากาศในโกดังรู้สึกเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยเงามืดของความลับที่ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ การประสานงานกันของชายฉกรรจ์ทำให้รู้สึกถึงการเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ในมุมหนึ่งของโกดัง ริคยืนอยู่เงียบๆ เขาจับตามองการเคลื่อนไหวของลูกน้องด้วยสายตาเยือกเย็น ใบหน้าของเขาไม่แสดงอารมณ์ แต่ความเข้มแข็งที่อยู่ในแววตาทำให้ทุกคนรู้สึกได้ถึงอำนาจที่เขามี ริคคือหัวหน้าที่ไม่เคยยอมให้ใครข้ามเส้นที่เขาวางไว้ ทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา และวันนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น “ปืนพวกนั้นอยู่ที่ไหน!” ริคตะโกนเสียงดัง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและความกดดันที่เข้มข้น เขาเดินไปที่โต๊ะกลางโกดังที่มีเอกสารและอุปกรณ์กระจัดกระจายอยู่ และสายตาของเขาจับจ้องไปที่ลูกน้องที่ดูอึดอัดใจ “บอส… เรากำลังค้นหาอยู่ครับ” หนึ่งในลูกน้องรีบตอบเสียงสั่น ขณะเขาเหลือบมองไปที่เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ที่กำลังค้นหาอย่างกระวนกระวาย ความตึงเครียดในอากาศหนาแน่นขึ้น ทุกคนรู้ดีว่าความล้มเหลวในการหาปืนเหล่านั้นหมายถึงผลกระทบที่ร้ายแรง เสียงซ้อมในโกดังดังก้องไปทั่ว ขณะที่ชายคนหนึ่งยืนอยู่กลางห้องอย่างไร้เรี่ยวแรง เลือดไหลอาบทั่วใบหน้าของเขา ทำให้ตาของเขาปิดสนิท ไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้ ร่างของเขาสั่นเทา ข้อมือที่ถูกมัดแน่นกับเสาไม้ทำให้เขาไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ “บอกฉันว่าอยู่ไหน!” เสียงที่ดุเดือดของริคดังขึ้น เขาเดินเข้าไปใกล้ชายคนนี้ด้วยท่าทีที่น่ากลัว ร่างใหญ่ของเขาเต็มไปด้วยอำนาจและความกลัว “ผะ… ผมไม่รู้!” ชายคนนั้นตอบเสียงแหบแห้ง ก่อนที่จะคายคำตอบที่เต็มไปด้วยความสับสน ริคไม่สนใจคำพูดเหล่านั้น เขาเพียงแค่ต้องการข้อมูลเพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ได้ “หยุดการซ้อม! เราต้องการข้อมูล ไม่ใช่ชีวิต!” ริคตะโกนสั่งเสียงดัง ทุกคนในโกดังหยุดชะงัก เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เสียงกระซิบของลูกน้องจะดังขึ้น “บอสครับ เขาอาจจะรู้เรื่องที่เราไม่รู้…” หนึ่งในลูกน้องพูดอย่างระมัดระวัง แต่ริคไม่รอให้ใครพูดจบ “ยังไม่พอ!” ริคตะโกนออกมา ดวงตาของเขาเปล่งประกายความโกรธจัด “ฉันต้องการข้อมูล!” เสียงของเขาดังขึ้นทำให้ทุกคนในโกดังรู้สึกถึงแรงกดดันที่ไม่มีที่สิ้นสุด “ครับ บอส!” หนึ่งในลูกน้องตอบอย่างขวัญหนีดีฝ่อ ขณะที่พวกเขายังคงดำเนินการซ้อมต่อไป ริคยืนอยู่ในมุมหนึ่งของห้อง สังเกตการณ์ทุกอย่างด้วยความสนใจ ความโหดเหี้ยมที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกพอใจ และเขาเชื่อว่าการทรมานนี้จะทำให้ชายที่ถูกซ้อมพูดความจริงออกมาในที่สุด “ผม… ผมไม่รู้…” ชายคนนั้นพูดเสียงสั่น สายตาของเขายังเบิกกว้างด้วยความกลัว ริคขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ และหันไปบอกลูกน้อง “เพิ่มความรุนแรงเข้าไปอีก!” “ไปจับครอบครัวมันมา” ริคย้ำคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนและมั่นคง “ฉันต้องการให้มันรู้ว่าความลำบากของมันไม่ใช่เรื่องเดียวที่มันจะต้องเผชิญ” เขาพูดต่อไป ขณะที่ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความโหดเหี้ยม ริคหันมามองชายคนนั้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา "นายคิดว่าการบอกจะช่วยอะไรได้? ชีวิตนายอยู่ในมือฉันแล้ว" เสียงของเขาดังกังวานไปในโกดัง มีความดุดันแฝงอยู่ในน้ำเสียงที่ทำให้คนรอบข้างรู้สึกถึงความคุกคาม “ถ้านายต้องการให้นี้จบลง… บอกฉันว่าใครที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” ริคขยับเข้าไปใกล้ ชายที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าและเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำสั่นระริก "เพราะถ้านายไม่บอก ฉันจะทำให้ชีวิตของคนที่นายรักเป็นนรก" "ยะ อย่า ครับ ผม ผม บอก บอกแล้ว" เสียงของชายที่ถูกซ้อมดังออกมาด้วยความหวาดกลัว แสดงให้เห็นถึงความวิตกกังวลในขณะที่เขาถูกจับอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ เขาพยายามพูดอย่างสงบ แม้ว่าเสียงของเขาจะสั่นสะท้านไปด้วยความกลัวและเจ็บปวด “พะ พวก D'Angelo (ดิอังเจโล) ครับ” ชายที่ถูกซ้อมพูดเสียงสั่น ขณะเขารู้สึกว่าหมดทางเลือกแล้ว คำตอบของเขาดังออกมาพร้อมกับความหวาดกลัวที่ชัดเจนในน้ำเสียง ริคเลิกคิ้วขึ้นและยิ้มเย็นชา “อเล็กซ์ ดิอังเจโล แกเองใช่ไหม?” ริคพูดเสียงต่ำแฝงไปด้วยความโกรธแค้น …………………………………………………………… จีนรู้สึกถึงความเงียบงันที่รายล้อมเขาในคฤหาสน์หลังใหญ่ แม้สถานที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยความหรูหราและงดงาม แต่กลับสร้างความรู้สึกอ้างว้างลึก ๆ ในหัวใจของเขา เขาเดินออกจากห้องนอน ผ่านโถงทางเดินที่ประดับด้วยโคมไฟคริสตัลและผนังที่ตกแต่งด้วยภาพวาดสีน้ำมัน เมื่อแต่ละก้าวสะท้อนเสียงเบา ๆ บนพื้นหินอ่อนที่เย็นเฉียบ จีนอดคิดไม่ได้ว่าความงามเหล่านี้เป็นเพียงฉากหน้า ที่ปิดบังความเหงาอันซ่อนเร้น เขาเดินผ่านห้องนั่งเล่นที่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหรา โซฟาหนังขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง เตาผิงหินอ่อนถูกตกแต่งไว้อย่างดี แม้แต่ที่นี่ก็ไม่มีใคร จีนรู้สึกเหมือนบ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เขารู้สึกโดดเดี่ยวท่ามกลางความงาม เมื่อออกมาจากตัวบ้านหลัก จีนเดินไปยังเรือนริมหน้าผาที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว เส้นทางที่ทอดตัวลงไปสู่เรือนนี้ลัดเลาะผ่านสวนหย่อมที่ถูกตกแต่งอย่างวิจิตร แต่ยิ่งเขาก้าวเดินไปใกล้ริมหน้าผา ความเงียบก็ยิ่งถาโถมเข้ามา เสียงของทะเลสาบที่กระทบกับโขดหินเบื้องล่างแผ่วเบา สายลมที่พัดแรงขึ้นเรื่อย ๆ พาเอาความเย็นยะเยือกมาปกคลุมทั่วทั้งร่างของเขา เมื่อจีนมาถึงเรือนริมหน้าผา เขามองออกไปยังทิวทัศน์ที่กว้างใหญ่ไพศาล ทะเลสาบสีฟ้าใสทอดยาวไปจรดขอบฟ้า แต่ทิวทัศน์ที่งดงามกลับไม่ได้ทำให้ความเหงาของเขาบรรเทาลง กลับกัน มันยิ่งตอกย้ำถึงความอ้างว้างในจิตใจของเขา จีนรับรู้ได้ว่าตัวเขาเองอาจจะไม่มีทางหลุดพ้นจากอาณาจักรที่เหมือนกับกรงทองนี้ ไม่ว่าจะไปทางใด เขายังคงติดอยู่กับริค คอนติ เสมอ ยิ่งริคไม่อยู่ ความเงียบในคฤหาสน์ยิ่งชัดเจนจนทำให้จีนรู้สึกถึงความอ้างว้างที่ล้อมรอบตัวเขา เขาเดินไปตามระเบียงที่ทอดยาวเหนือหน้าผา ลมเย็นจากทะเลพัดผ่าน แต่ไม่อาจคลายความสับสนในใจได้ ทุกอย่างรอบตัวดูยิ่งใหญ่และงดงาม แต่กลับสร้างความรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้โดยไม่มีทางหนี “ทำไมฉันถึงรู้สึกแบบนี้?” ภาพของริคยังคงตามหลอกหลอนเขา ริคไม่ได้แค่จับตัวเขามา แต่ยังสอนให้เขารู้จักความรักในแบบที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้สัมผัส ความรักที่เกินกว่าความสัมพันธ์ธรรมดาระหว่างชายกับหญิง ความรู้สึกนั้นเป็นสิ่งที่โลกภายนอกอาจบอกว่าเข้าใจและยอมรับ แต่สำหรับจีน การได้เผชิญหน้ากับมันจริงๆ ด้วยตัวเองทำให้เขารู้สึกแตกต่าง มันเป็นการกระทบกระแทกทั้งจิตใจและร่างกายที่เขาไม่อาจหลีกเลี่ยง “ถ้าเพียงแต่ฉันสามารถลืมเรื่องนี้ได้…” เขาพูดเบาๆกับตัวเอง ขณะที่สายลมพัดผ่านร่าง ทำให้เขารู้สึกถึงความเย็นใจที่แทรกซึมเข้ามา การสัมผัสจากริคไม่ใช่แค่ทางกาย แต่เป็นการเปิดเผยหัวใจและความรู้สึกของเขาอย่างลึกซึ้ง ริคปลุกเร้าให้จีนรู้สึกถึงความปรารถนาที่เขาไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ จนถึงตอนนี้ จีนยังไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าริคได้เปลี่ยนบางสิ่งในตัวเขาไปแล้ว ยิ่งริคไม่อยู่ ความเงียบงันก็ยิ่งตอกย้ำว่าจีนคงไม่สามารถหนีจากความรู้สึกนี้ได้ ไม่ว่าจะพยายามต่อต้านแค่ไหน เขารู้สึกถูกดึงดูดไปกับสิ่งที่ริคทำ ทั้งความอ่อนโยนและความลึกลับที่แฝงในสัมผัสของริคยังคงตามหลอกหลอนเขา แม้ว่าเขาจะอยากหนีไปจากที่นี่ แต่ความจริงก็คือ…ไม่มีทางหนีจากริคและสิ่งที่เขาได้ทำกับหัวใจของจีนได้เลย ขณะนึกถึงความรู้สึกที่ถูกปลุกขึ้นในคืนที่ริคโน้มตัวเข้ามาใกล้ จูบเขาอย่างร้อนแรง ริมฝีปากของริคสอดคล้องกันอย่างลงตัวกับความปรารถนาของเขา ขณะที่มือของริคลูบไล้ไปตามผิวกาย ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกไฟเผา ริคที่โน้มตัวเข้ามาใกล้ ลิ้นของเขาเลียวนรอบริมฝีปากของจีนอย่างนุ่มนวล ทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความรู้สึกเหมือนถูกไฟเผาที่แผดเผา ทำให้เขาหายใจไม่ออก จีนยังจำได้ว่าลิ้นของริคขบกัดเบาๆ ที่ริมฝีปากเขา ทำให้เขาต้องการมากกว่านั้น ความร้อนแรงนั้นสาดซัดเข้าใส่หัวใจของเขา สร้างความรู้สึกที่ลึกซึ้งและน่าหลงใหลในเวลาเดียวกัน “บ้าเอ๊ย… ทำไมคุณถึงอยู่ในหัวฉันตลอดเวลา?”ริคยืนพิงราวสะพานริอัลโต (Rialto Bridge) อย่างสง่างาม ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปยังผืนน้ำของแกรนด์คาแนลที่ทอดยาวออกไป เรือกอนโดลาล่องลอยอย่างเงียบงาม ผืนน้ำสะท้อนเงาของอาคารเก่าแก่สไตล์เวนิสที่มีสีสันและแฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ สะพานหินอ่อนที่เขายืนอยู่ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ในตอนนี้ ริคมีความคิดเพียงอย่างเดียว—การรอคอยการมาถึงของจีนสายลมอ่อนๆ จากคลองพัดมากระทบใบหน้า เขาไม่แสดงอาการกังวลออกมาให้เห็นแม้เพียงน้อย แต่ภายในเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและแผนการที่หมุนวนอยู่ในหัว ขณะที่เขาสังเกตเรือกอนโดลาที่ลอยผ่านไปมาในน้ำ เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความสำคัญของสะพานแห่งนี้ สะพานริอัลโตเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อผู้คนของเวนิส นับตั้งแต่สร้างเสร็จในปลายศตวรรษที่ 16 จากการเป็นทางเชื่อมที่สำคัญของการค้า มาจนถึงวันนี้ที่ยังคงมีชีวิตชีวาด้วยตลาดอาหารทะเลสดๆ และสินค้าท้องถิ่นที่อีกฟากหนึ่งของสะพาน เสียงตลาดริอัลโตดังก้องด้วยความคึกคัก เสียงแม่ค้าพ่อค้าขายปลาสดๆ และผลไม้ตามฤดูกาลดังแทรกผ่านความเงียบของริค ทว่าเขาแทบไม่ได้ใส่ใจต่อบรรยากาศรอบตัวมากนัก ในใจเขากลับจดจ่ออยู่กับการประช
“อาา… ริค!” จีนส่งเสียงออกมาในขณะที่ริมฝีปากของริคสัมผัสกับผิวของเขา ร่างกายของเขาสั่นสะท้านเมื่อริคเริ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาอย่างไม่รีบร้อนในขณะที่ด้านนอกห้องทำงานกำลังคุกรุ่นด้วยสถานการณ์ที่ตึงเครียด เสียงกรีดร้องและการทะเลาะวิวาทดังมาจากข้างนอก แต่ภายในห้องกลับร้อนแรงดั่งไฟ สองร่างกำลังอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน“ให้ฉันทำให้มันร้อนขึ้นอีก” ริคกระซิบเสียงต่ำ ริมฝีปากของเขาไล่ต่ำลงไปตามแนวกรามของจีน ขณะที่มือของเขาก็สัมผัสไปที่ต้นขา ทำให้จีนรู้สึกถึงความร้อนที่เริ่มลามไปทั่วร่างกาย“ไม่… ริค…” จีนพยายามจะขัดขืน แต่เสียงของเขากลับเต็มไปด้วยความหวั่นไหว สถานการณ์ภายนอกดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหาในขณะนี้ เขารู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในบ่วงแห่งความเร่าร้อน“ไม่ต้องห่วง” ริคพูดเสียงลึกล้ำ “ไม่มีใครจะมารบกวนเรา” เขาใช้มืออีกข้างหนึ่งบีบแก้มของจีนอย่างเบามือ แต่เต็มไปด้วยความมั่นคง “แค่มีเรา… และความต้องการนี้”“อาา…” จีนครางออกมาอีกครั้งเมื่อริคโน้มตัวเข้ามาใกล้และจูบเขาอย่างดุเดือด จีนตอบสนองด้วยการยืดตัวเข้าหา ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยไฟที่ลุกโชนริคไม่สามารถควบคุมความต้องการของเขาได้อีกต่อไป
หลังจากงานเสร็จสิ้น มาร์คหันมาถามริคในรถด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ "ได้ข่าวว่ามีของเล่นใหม่?" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสนใจ ริคเหลือบมองมาร์คก่อนจะอมยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับ เพียงแค่ยิ้มอย่างมีเลศนัย มาร์คมองริคอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเป็นห่วง “ระวังไว้นะ... ของเล่นชิ้นนั้นอาจกลายมาเป็นจุดอ่อนของนาย” เขายิ้มมุมปาก แต่สายตากลับเต็มไปด้วยความจริงจัง ราวกับรู้ว่าเรื่องนี้อาจทำให้ริคสะดุดในเกมที่พวกเขาเล่นอยู่ริคนั่งนิ่งในรถ สายตาของเขาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่ความคิดกลับวนเวียนอยู่กับเด็กหนุ่มที่เขาเพิ่งจากมา เขายังไม่รู้... ริคคิดในใจ แต่ที่แน่ ๆ ฉันหวงเด็กนั่นมาก... มากจนไม่อยากให้ใครเข้าใกล้หรือแตะต้องความรู้สึกนี้มันล้ำลึกเกินกว่าที่เขาจะคาดคิด ความหวงแหนที่ไม่เคยมีต่อใครมาก่อน ริคกัดฟันเล็กน้อย รู้ดีว่าความรู้สึกนี้อาจกลายเป็นจุดอ่อน เป็นสิ่งที่เขาไม่ควรมีในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและการทรยศ แต่เขาห้ามตัวเองไม่ได้... …………………………………………………….. ริค คอนติ พาจีนมายืนอยู่หน้าสะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) สถานที่ที่โด่งดังแห่งเวนิส สะพานเชื่อมระหว่าง
พายุรักเร่าร้อนสงบลงและความเงียบสงบเริ่มแผ่ไปทั่วพื้นที่ ทั้งสองนั่งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่มองลงไปเห็น Rio di Palazzo คลองที่เชื่อมระหว่าง พระราชวังดอจ (Doge's Palace) กับ คุกเก่า (Old Prisons) โดยตรง แสงจันทร์ส่องสะท้อนบนผืนน้ำทำให้บรรยากาศโรแมนติกยิ่งขึ้นจีนซบอยู่บนร่างใหญ่ของริคอย่างเหนื่อยอ่อน รู้สึกถึงความอบอุ่นจากตัวเขา ริคนั่งพิงรถ มือข้างหนึ่งโอบรัดเอวของจีนแน่น ส่วนอีกมือยกซิการ์ขึ้นดูดพลางปล่อยควันออกมาอย่างเยือกเย็น"อย่าคิดหนีไปจากฉันอีก นายเป็นของฉันแล้ว" ริคพูดเสียงแหบพร่า ลมหายใจยังร้อนจากแรงปรารถนาที่คุกรุ่นอยู่ข้างใน เขาลูบแขนจีนเบาๆ ขณะจ้องมองใบหน้าของเด็กหนุ่มที่ยังคงหลงเหลือรอยอ่อนล้าจากช่วงเวลาที่ผ่านมาจีนหายใจหอบเล็กน้อย ขมวดคิ้วแล้วบ่นออกมา "อย่างกะคุณจะให้ผมหนีได้" เสียงของเขามีทั้งความขบถและความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน ทั้งดื้อรั้นและเง้างอนในเวลาเดียวกันริคหัวเราะหึๆ เสียงทุ้มลึกของเขาก้องไปในความมืด “ใช่แล้ว ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยนายไป” เขากระซิบเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงมาใกล้ สัมผัสริมฝีปากที่แข็งแรงของเขาแนบชิดกับใบหูของจีน ทำให้เด็กหนุ่มต้องหลับตาแน่น ปล่อยให
หลังจากจิบกาแฟหอมๆ จีนรู้สึกมีชีวิตชีวาและตื่นเต้นที่จะสำรวจพิพิธภัณฑ์คาเรซซิโอ (Ca' Rezzonico) พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ตั้งอยู่ริมคลองกรันเด เขาเดินออกจากคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นและเสียงหัวเราะของผู้คนที่มารวมตัวกัน ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงเมื่อเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ จีนถูกดึงดูดโดยความงดงามของสถาปัตยกรรมอันประณีตและงานศิลปะที่จัดแสดงอย่างพิถีพิถัน ภายในอาคารที่ส่องแสงทองอร่าม เขารู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่โลกแห่งประวัติศาสตร์และความสวยงามที่สร้างสรรค์มาอย่างช้านานจีนเดินไปตามห้องต่างๆ ที่เต็มไปด้วยภาพวาดที่มีชีวิตชีวา เขาหยุดมองภาพวาดที่สื่อถึงความรักและความงาม โดยเฉพาะภาพของหญิงสาวที่มีสีสันอ่อนโยน รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ซึ่งทำให้เขารู้สึกตื้นตัน ความรู้สึกนี้พาเขาย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่เขาเคยมีความรักอันงดงามและท้าทายเสียงก้าวเท้าของผู้คนและเสียงกระซิบเบาๆ ของนักท่องเที่ยวเป็นพื้นหลังที่ช่วยเติมเต็มบรรยากาศให้มีชีวิตชีวามากขึ้น เขาเฝ้าดูรายละเอียดของแต่ละชิ้นงาน ศิลปินได้ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกผ่านสีสันและเส้นสายทำให้เขารู้สึกถึงแรงบันดาลใจและความหลงใหลในศิลปะ
ริคที่มัวเมาอยู่กับร่างบอบบางที่เขาได้มาครอบครองครั้งแล้วครั้งเล่า รู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นมากกว่าการเสพติด มันกลายเป็นความต้องการที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จากที่เคยแค่ต้องการเขาในบางเวลา ตอนนี้กลับแทบต้องการตลอดเวลาทุกครั้งที่เขาได้สัมผัสกับผิวเนียนนุ่ม ความรู้สึกตื่นเต้นก็จะซัดเข้ามาในหัวใจ จนทำให้เขาหยุดคิดไม่ได้ ว่านี่มันอะไรกันแน่? ความรู้สึกนี้เหมือนกับไฟที่กำลังลุกโชน ลามไปทั่วร่างกาย ส่งผลให้เขาเกิดความร้อนรุ่มที่ไม่อาจหักห้ามใจได้คนอย่างริค ที่มักจะมีคนมาปรนเปรอรักให้แทบไม่ขาดสาย แต่ไม่มีใครเคยทำให้เขามัวเมาได้ขนาดนี้ เขาเคยมีความสัมพันธ์มากมายที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและอารมณ์ แต่กลับไม่มีใครที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าสู่ความลุ่มหลงอันลึกซึ้งแบบนี้ภายในห้องนอนกว้าง ริคยืนอยู่ริมหน้าต่าง มือหนึ่งถือแก้วไวน์แดงสีเข้ม ขณะที่อีกมือจุดซิการ์ ควันลอยฟุ้งในอากาศ สะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็นที่สาดส่องเข้ามา ร่างของจีนที่นอนหลับอยู่บนที่นอนสีเข้ม เขาดูสงบและน่าอภิรมย์ ผมสั้นเรียบเนียนแนบไปกับหมอน ริมฝีปากที่เคยส่งเสียงครวญครางในคืนที่เต็มไปด้วยความรักตอนนี้ถูกปิดเงียบพวกเขาอยู่
ริคยืนพิงราวสะพานริอัลโต (Rialto Bridge) อย่างสง่างาม ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปยังผืนน้ำของแกรนด์คาแนลที่ทอดยาวออกไป เรือกอนโดลาล่องลอยอย่างเงียบงาม ผืนน้ำสะท้อนเงาของอาคารเก่าแก่สไตล์เวนิสที่มีสีสันและแฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ สะพานหินอ่อนที่เขายืนอยู่ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ในตอนนี้ ริคมีความคิดเพียงอย่างเดียว—การรอคอยการมาถึงของจีน สายลมอ่อนๆ จากคลองพัดมากระทบใบหน้า เขาไม่แสดงอาการกังวลออกมาให้เห็นแม้เพียงน้อย แต่ภายในเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและแผนการที่หมุนวนอยู่ในหัว ขณะที่เขาสังเกตเรือกอนโดลาที่ลอยผ่านไปมาในน้ำ เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความสำคัญของสะพานแห่งนี้ สะพานริอัลโตเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อผู้คนของเวนิส นับตั้งแต่สร้างเสร็จในปลายศตวรรษที่ 16 จากการเป็นทางเชื่อมที่สำคัญของการค้า มาจนถึงวันนี้ที่ยังคงมีชีวิตชีวาด้วยตลาดอาหารทะเลสดๆ และสินค้าท้องถิ่น ที่อีกฟากหนึ่งของสะพาน เสียงตลาดริอัลโตดังก้องด้วยความคึกคัก เสียงแม่ค้าพ่อค้าขายปลาสดๆ และผลไม้ตามฤดูกาลดังแทรกผ่านความเงียบของริค ทว่าเขาแทบไม่ได้ใส่ใจต่อบรรยากาศรอบตัวมากนัก ในใจเขากลับจดจ่ออยู่กับการป
ริค คอนติ มาเฟียหนุ่มหล่อทรงอิทธิพลแห่งอิตาลี ขับรถสปอร์ตคันหรูฝ่าแสงแดดบ่ายที่สาดส่องลงมายังเมืองฟลอเรนซ์ รอยยิ้มเย็นชาแตะที่มุมปากขณะที่เขามุ่งหน้าไปทำธุรกิจที่เต็มไปด้วยความลับและอำนาจ ทุกสิ่งในชีวิตของริคถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน จนกระทั่งสายตาเฉียบคมของเขาหยุดนิ่งเมื่อเห็นร่างเล็ก ๆ ที่เดินอยู่ริมถนนเด็กหนุ่มคนนั้นทำให้หัวใจของริคสะดุด จีน หนุ่มน้อยจากประเทศไทยที่ย้ายมาเรียนต่อในอิตาลี ผิวขาวละเอียด ร่างบอบบาง และใบหน้าหวานจนเกินจะมองข้าม ท่ามกลางผู้คนมากมาย จีนกลับดูโดดเด่นราวกับแสงที่สาดส่องผ่านหมอกในยามเช้า ความงามอันบริสุทธิ์และท่าทีไร้เดียงสาเหล่านั้นทำให้ริคแทบจะลืมหายใจหัวใจของริคเต้นแรงขึ้น มือที่จับพวงมาลัยแน่นด้วยความปรารถนาที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเย็นชาที่เคยมีถูกแทนที่ด้วยความกระหายที่จะครอบครอง เขาเฝ้ามองร่างเล็กที่ก้าวเดินไปอย่างไร้เดียงสา จังหวะทุกย่างก้าวของจีนราวกับจะดึงริคให้ติดตาม จีนไม่เหมือนใครในโลกนี้ ริคไม่เคยพบใครที่ทำให้เขารู้สึกถูกท้าทายและล่อลวงได้เช่นนี้“เด็กคนนี้…” ริคพึมพำในลำคอ เสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความกระหาย เขารู้ทันทีว่าสิ่งที่เขาต้อง
ริคยืนพิงราวสะพานริอัลโต (Rialto Bridge) อย่างสง่างาม ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปยังผืนน้ำของแกรนด์คาแนลที่ทอดยาวออกไป เรือกอนโดลาล่องลอยอย่างเงียบงาม ผืนน้ำสะท้อนเงาของอาคารเก่าแก่สไตล์เวนิสที่มีสีสันและแฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ สะพานหินอ่อนที่เขายืนอยู่ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ในตอนนี้ ริคมีความคิดเพียงอย่างเดียว—การรอคอยการมาถึงของจีน สายลมอ่อนๆ จากคลองพัดมากระทบใบหน้า เขาไม่แสดงอาการกังวลออกมาให้เห็นแม้เพียงน้อย แต่ภายในเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและแผนการที่หมุนวนอยู่ในหัว ขณะที่เขาสังเกตเรือกอนโดลาที่ลอยผ่านไปมาในน้ำ เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความสำคัญของสะพานแห่งนี้ สะพานริอัลโตเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อผู้คนของเวนิส นับตั้งแต่สร้างเสร็จในปลายศตวรรษที่ 16 จากการเป็นทางเชื่อมที่สำคัญของการค้า มาจนถึงวันนี้ที่ยังคงมีชีวิตชีวาด้วยตลาดอาหารทะเลสดๆ และสินค้าท้องถิ่น ที่อีกฟากหนึ่งของสะพาน เสียงตลาดริอัลโตดังก้องด้วยความคึกคัก เสียงแม่ค้าพ่อค้าขายปลาสดๆ และผลไม้ตามฤดูกาลดังแทรกผ่านความเงียบของริค ทว่าเขาแทบไม่ได้ใส่ใจต่อบรรยากาศรอบตัวมากนัก ในใจเขากลับจดจ่ออยู่กับการป
ริคที่มัวเมาอยู่กับร่างบอบบางที่เขาได้มาครอบครองครั้งแล้วครั้งเล่า รู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นมากกว่าการเสพติด มันกลายเป็นความต้องการที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จากที่เคยแค่ต้องการเขาในบางเวลา ตอนนี้กลับแทบต้องการตลอดเวลาทุกครั้งที่เขาได้สัมผัสกับผิวเนียนนุ่ม ความรู้สึกตื่นเต้นก็จะซัดเข้ามาในหัวใจ จนทำให้เขาหยุดคิดไม่ได้ ว่านี่มันอะไรกันแน่? ความรู้สึกนี้เหมือนกับไฟที่กำลังลุกโชน ลามไปทั่วร่างกาย ส่งผลให้เขาเกิดความร้อนรุ่มที่ไม่อาจหักห้ามใจได้คนอย่างริค ที่มักจะมีคนมาปรนเปรอรักให้แทบไม่ขาดสาย แต่ไม่มีใครเคยทำให้เขามัวเมาได้ขนาดนี้ เขาเคยมีความสัมพันธ์มากมายที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและอารมณ์ แต่กลับไม่มีใครที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าสู่ความลุ่มหลงอันลึกซึ้งแบบนี้ภายในห้องนอนกว้าง ริคยืนอยู่ริมหน้าต่าง มือหนึ่งถือแก้วไวน์แดงสีเข้ม ขณะที่อีกมือจุดซิการ์ ควันลอยฟุ้งในอากาศ สะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็นที่สาดส่องเข้ามา ร่างของจีนที่นอนหลับอยู่บนที่นอนสีเข้ม เขาดูสงบและน่าอภิรมย์ ผมสั้นเรียบเนียนแนบไปกับหมอน ริมฝีปากที่เคยส่งเสียงครวญครางในคืนที่เต็มไปด้วยความรักตอนนี้ถูกปิดเงียบพวกเขาอยู่
หลังจากจิบกาแฟหอมๆ จีนรู้สึกมีชีวิตชีวาและตื่นเต้นที่จะสำรวจพิพิธภัณฑ์คาเรซซิโอ (Ca' Rezzonico) พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ตั้งอยู่ริมคลองกรันเด เขาเดินออกจากคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นและเสียงหัวเราะของผู้คนที่มารวมตัวกัน ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงเมื่อเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ จีนถูกดึงดูดโดยความงดงามของสถาปัตยกรรมอันประณีตและงานศิลปะที่จัดแสดงอย่างพิถีพิถัน ภายในอาคารที่ส่องแสงทองอร่าม เขารู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่โลกแห่งประวัติศาสตร์และความสวยงามที่สร้างสรรค์มาอย่างช้านานจีนเดินไปตามห้องต่างๆ ที่เต็มไปด้วยภาพวาดที่มีชีวิตชีวา เขาหยุดมองภาพวาดที่สื่อถึงความรักและความงาม โดยเฉพาะภาพของหญิงสาวที่มีสีสันอ่อนโยน รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ซึ่งทำให้เขารู้สึกตื้นตัน ความรู้สึกนี้พาเขาย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่เขาเคยมีความรักอันงดงามและท้าทายเสียงก้าวเท้าของผู้คนและเสียงกระซิบเบาๆ ของนักท่องเที่ยวเป็นพื้นหลังที่ช่วยเติมเต็มบรรยากาศให้มีชีวิตชีวามากขึ้น เขาเฝ้าดูรายละเอียดของแต่ละชิ้นงาน ศิลปินได้ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกผ่านสีสันและเส้นสายทำให้เขารู้สึกถึงแรงบันดาลใจและความหลงใหลในศิลปะ
พายุรักเร่าร้อนสงบลงและความเงียบสงบเริ่มแผ่ไปทั่วพื้นที่ ทั้งสองนั่งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่มองลงไปเห็น Rio di Palazzo คลองที่เชื่อมระหว่าง พระราชวังดอจ (Doge's Palace) กับ คุกเก่า (Old Prisons) โดยตรง แสงจันทร์ส่องสะท้อนบนผืนน้ำทำให้บรรยากาศโรแมนติกยิ่งขึ้นจีนซบอยู่บนร่างใหญ่ของริคอย่างเหนื่อยอ่อน รู้สึกถึงความอบอุ่นจากตัวเขา ริคนั่งพิงรถ มือข้างหนึ่งโอบรัดเอวของจีนแน่น ส่วนอีกมือยกซิการ์ขึ้นดูดพลางปล่อยควันออกมาอย่างเยือกเย็น"อย่าคิดหนีไปจากฉันอีก นายเป็นของฉันแล้ว" ริคพูดเสียงแหบพร่า ลมหายใจยังร้อนจากแรงปรารถนาที่คุกรุ่นอยู่ข้างใน เขาลูบแขนจีนเบาๆ ขณะจ้องมองใบหน้าของเด็กหนุ่มที่ยังคงหลงเหลือรอยอ่อนล้าจากช่วงเวลาที่ผ่านมาจีนหายใจหอบเล็กน้อย ขมวดคิ้วแล้วบ่นออกมา "อย่างกะคุณจะให้ผมหนีได้" เสียงของเขามีทั้งความขบถและความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน ทั้งดื้อรั้นและเง้างอนในเวลาเดียวกันริคหัวเราะหึๆ เสียงทุ้มลึกของเขาก้องไปในความมืด “ใช่แล้ว ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยนายไป” เขากระซิบเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงมาใกล้ สัมผัสริมฝีปากที่แข็งแรงของเขาแนบชิดกับใบหูของจีน ทำให้เด็กหนุ่มต้องหลับตาแน่น ปล่อยให
หลังจากงานเสร็จสิ้น มาร์คหันมาถามริคในรถด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ "ได้ข่าวว่ามีของเล่นใหม่?" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสนใจ ริคเหลือบมองมาร์คก่อนจะอมยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับ เพียงแค่ยิ้มอย่างมีเลศนัย มาร์คมองริคอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเป็นห่วง “ระวังไว้นะ... ของเล่นชิ้นนั้นอาจกลายมาเป็นจุดอ่อนของนาย” เขายิ้มมุมปาก แต่สายตากลับเต็มไปด้วยความจริงจัง ราวกับรู้ว่าเรื่องนี้อาจทำให้ริคสะดุดในเกมที่พวกเขาเล่นอยู่ริคนั่งนิ่งในรถ สายตาของเขาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่ความคิดกลับวนเวียนอยู่กับเด็กหนุ่มที่เขาเพิ่งจากมา เขายังไม่รู้... ริคคิดในใจ แต่ที่แน่ ๆ ฉันหวงเด็กนั่นมาก... มากจนไม่อยากให้ใครเข้าใกล้หรือแตะต้องความรู้สึกนี้มันล้ำลึกเกินกว่าที่เขาจะคาดคิด ความหวงแหนที่ไม่เคยมีต่อใครมาก่อน ริคกัดฟันเล็กน้อย รู้ดีว่าความรู้สึกนี้อาจกลายเป็นจุดอ่อน เป็นสิ่งที่เขาไม่ควรมีในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและการทรยศ แต่เขาห้ามตัวเองไม่ได้... …………………………………………………….. ริค คอนติ พาจีนมายืนอยู่หน้าสะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) สถานที่ที่โด่งดังแห่งเวนิส สะพานเชื่อมระหว่าง
“อาา… ริค!” จีนส่งเสียงออกมาในขณะที่ริมฝีปากของริคสัมผัสกับผิวของเขา ร่างกายของเขาสั่นสะท้านเมื่อริคเริ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาอย่างไม่รีบร้อนในขณะที่ด้านนอกห้องทำงานกำลังคุกรุ่นด้วยสถานการณ์ที่ตึงเครียด เสียงกรีดร้องและการทะเลาะวิวาทดังมาจากข้างนอก แต่ภายในห้องกลับร้อนแรงดั่งไฟ สองร่างกำลังอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน“ให้ฉันทำให้มันร้อนขึ้นอีก” ริคกระซิบเสียงต่ำ ริมฝีปากของเขาไล่ต่ำลงไปตามแนวกรามของจีน ขณะที่มือของเขาก็สัมผัสไปที่ต้นขา ทำให้จีนรู้สึกถึงความร้อนที่เริ่มลามไปทั่วร่างกาย“ไม่… ริค…” จีนพยายามจะขัดขืน แต่เสียงของเขากลับเต็มไปด้วยความหวั่นไหว สถานการณ์ภายนอกดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหาในขณะนี้ เขารู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในบ่วงแห่งความเร่าร้อน“ไม่ต้องห่วง” ริคพูดเสียงลึกล้ำ “ไม่มีใครจะมารบกวนเรา” เขาใช้มืออีกข้างหนึ่งบีบแก้มของจีนอย่างเบามือ แต่เต็มไปด้วยความมั่นคง “แค่มีเรา… และความต้องการนี้”“อาา…” จีนครางออกมาอีกครั้งเมื่อริคโน้มตัวเข้ามาใกล้และจูบเขาอย่างดุเดือด จีนตอบสนองด้วยการยืดตัวเข้าหา ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยไฟที่ลุกโชนริคไม่สามารถควบคุมความต้องการของเขาได้อีกต่อไป
ริคยืนพิงราวสะพานริอัลโต (Rialto Bridge) อย่างสง่างาม ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปยังผืนน้ำของแกรนด์คาแนลที่ทอดยาวออกไป เรือกอนโดลาล่องลอยอย่างเงียบงาม ผืนน้ำสะท้อนเงาของอาคารเก่าแก่สไตล์เวนิสที่มีสีสันและแฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ สะพานหินอ่อนที่เขายืนอยู่ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ในตอนนี้ ริคมีความคิดเพียงอย่างเดียว—การรอคอยการมาถึงของจีนสายลมอ่อนๆ จากคลองพัดมากระทบใบหน้า เขาไม่แสดงอาการกังวลออกมาให้เห็นแม้เพียงน้อย แต่ภายในเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและแผนการที่หมุนวนอยู่ในหัว ขณะที่เขาสังเกตเรือกอนโดลาที่ลอยผ่านไปมาในน้ำ เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความสำคัญของสะพานแห่งนี้ สะพานริอัลโตเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อผู้คนของเวนิส นับตั้งแต่สร้างเสร็จในปลายศตวรรษที่ 16 จากการเป็นทางเชื่อมที่สำคัญของการค้า มาจนถึงวันนี้ที่ยังคงมีชีวิตชีวาด้วยตลาดอาหารทะเลสดๆ และสินค้าท้องถิ่นที่อีกฟากหนึ่งของสะพาน เสียงตลาดริอัลโตดังก้องด้วยความคึกคัก เสียงแม่ค้าพ่อค้าขายปลาสดๆ และผลไม้ตามฤดูกาลดังแทรกผ่านความเงียบของริค ทว่าเขาแทบไม่ได้ใส่ใจต่อบรรยากาศรอบตัวมากนัก ในใจเขากลับจดจ่ออยู่กับการประช
เสียงของรถยูวีสีดำหลายคันดังขึ้นเมื่อมันจอดลงที่โกดังขนาดใหญ่ กลิ่นของน้ำมันและเหล็กเปลี่ยนเป็นกลิ่นอายที่คุ้นเคยในพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยความเงียบเหงาและความลึกลับ ไฟฟ้าในโกดังสลัวสลัว ทำให้เกิดเงาที่เคลื่อนไหวไปมาอย่างน่าสงสัยเมื่อประตูรถเปิดออก ชายฉกรรจ์ในชุดดำเริ่มก้าวออกมาอย่างรวดเร็ว ทุกคนมีท่าทางมั่นใจและเป็นมืออาชีพ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีภารกิจสำคัญที่ต้องทำ การเคลื่อนไหวของพวกเขาเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น“ตรวจสอบพื้นที่!” เสียงหนึ่งตะโกนออกมา เขาสั่งการด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ทุกคนพยักหน้าและแยกย้ายกันไปตรวจสอบบริเวณรอบๆ ขณะที่บางคนเริ่มยกกล่องและอุปกรณ์ออกจากรถโกดังนี้เป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ซึ่งใช้ในการทำธุรกิจที่ไม่เปิดเผย จึงไม่แปลกที่การเฝ้าระวังจะเข้มงวดและมีการเคลื่อนไหวที่แอบซ่อนอยู่ในเงามืด ความตึงเครียดในอากาศทำให้ทุกอย่างดูน่ากลัวและเต็มไปด้วยความคาดเดาไม่ได้เสียงเหล็กกระทบกันและเสียงพึมพำของการสื่อสารระหว่างกันทำให้บรรยากาศในโกดังรู้สึกเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยเงามืดของความลับที่ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ การประสานงานกันของชายฉกรรจ์ทำให้รู้สึกถึงการเตรียมพร้อมส
ริคที่ไม่เคยพอกับการรักจีน ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ไม่อิ่ม เหมือนถูกดึงเข้าไปในโลกที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและความร้อนแรงทุกครั้งที่เขาได้สัมผัสร่างบาง ร่างใหญ่ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายกับการค้นหาความรู้สึกใหม่ๆ ที่มาจากร่างบอบบางแต่แสนเร่าร้อนใต้ร่างนี้ ความรู้สึกนี้ไม่เคยลดน้อยลงเลย แต่กลับเพิ่มทวีความเร่าร้อนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆในที่สุด จีนก็เริ่มรู้สึกถึงการถูกหลอกที่ริคสร้างขึ้นมาอย่างมิดชิด หลังจากที่เขาได้ยินคำสัญญาเกี่ยวกับการพาไปนั่งเรือ เขาก็รู้สึกตื่นเต้นกับความคิดที่จะได้สัมผัสลมทะเลและแสงแดด แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาเผชิญคือความร้อนแรงจากการกระทำของริคที่ไม่ยอมหยุด“นี่… เราไม่ไปนั่งเรือกันเหรอ?” จีนถามอย่างไม่แน่ใจ ขณะที่เขานั่งอยู่บนเตียง ใบหน้าของเขายังคงร้อนระอุจากสัมผัสของริคที่ไม่ยอมห่างไปไหนริคหัวเราะในลำคอ รอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ “อืม… ฉันเปลี่ยนใจแล้ว” เขากระซิบเสียงต่ำ ในขณะที่มือเขาเริ่มเคลื่อนไหวอย่างชำนาญ“หลอกอีกแล้ว!” จีนพูดเสียงสั่นขณะที่โดนกระหน่ำรักจากด้านหลัง น้ำเสียงของเขาผสมไปด้วยความหวานและความหงุดหงิด ขณะที่แรงกระแทกทำให้เขารู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจ