ในยามเช้าของฟลอเรนซ์ เมืองที่เปี่ยมไปด้วยศิลปะและความงดงาม เสียงนกร้องประสานกับลมเบาๆ ทำให้บรรยากาศสดใสยิ่งขึ้น ถนนที่ปูด้วยหินเรียบถูกตัดผ่านด้วยแสงแดดทองอร่าม อาคารสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าทั้งหลายตั้งตระหง่าน ดึงดูดสายตาผู้คนที่เดินผ่านมา
จีน เด็กหนุ่มที่มีหัวใจเต็มไปด้วยความรักศิลปะ เดินผ่านเส้นทางที่เคยเป็นความฝัน เขามาอยู่ที่นี่เพื่อค้นหาตัวตนใหม่ หลังจากสูญเสียพ่อแม่ไปจากอุบัติเหตุ เขาเลือกฟลอเรนซ์ เมืองที่มีแต่ศิลปะ และประวัติศาสตร์เพื่อหลบหนีจากความเจ็บปวดในอดีต ทุกก้าวของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อเขาหยุดยืนหน้าโบสถ์ซานตามาเรียเดลฟิโอเร โดมที่งดงามและประติมากรรมที่ประณีตทำให้หัวใจเขาเต้นรัว ภาพของศิลปินอย่างเลโอนาร์โด ดา วินชี และไมเคิลแองเจโลปรากฏในจินตนาการ ราวกับว่าเขาได้ยินเสียงของพวกเขาเชื้อเชิญให้เขาเข้าไปในโลกแห่งความคิดสร้างสรรค์ “ฟลอเรนซ์…” เขาพึมพำกับตัวเอง รู้สึกถึงพลังแห่งความฝันที่ลอยอยู่ในอากาศ “เมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะ ทุกสิ่งในที่นี้มีชีวิต” กลิ่นหอมของกาแฟและขนมอบยั่วยวนใจเขา ในขณะที่เสียงหัวเราะและการพูดคุยของผู้คนรอบตัวทำให้เขารู้สึกสดชื่น และขณะนั้นเขาตระหนักว่าแม้ในความเจ็บปวด ยังมีความหวังที่รอคอยเขาอยู่ จีนเดินต่อไปยังแกลเลอรีเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยภาพวาดที่สวยงาม ผลงานของศิลปินที่ยิ่งใหญ่ในอดีตทำให้เขารู้สึกตื่นตาตื่นใจ เขารู้สึกเหมือนตัวเองได้ถูกดึงเข้าไปในโลกของศิลปะที่ไม่มีที่สิ้นสุด ท่ามกลางเสียงหัวเราะ เสียงพูดคุย และความงดงามที่ฟลอเรนซ์มอบให้ จีนตระหนักว่าการเดินทางของเขาเพิ่งเริ่มต้น และเมืองนี้จะเป็นเวทีให้เขาได้สร้างสรรค์และค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเขาผ่านศิลปะที่เขาหลงใหล เกือบสี่ปีแล้วที่จีนหนีความทุกข์ใจมาจากเมืองไทย เขาหลบหนีจากความเศร้าโศกที่เกาะกุมหัวใจ การจากไปของพ่อแม่จากอุบัติเหตุอันเลวร้ายยังคงเป็นแผลสดที่ไม่อาจเยียวยา ความเจ็บปวดนั้นได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาในหลายๆ ด้าน แต่เขาเลือกที่จะใช้เวลาในฟลอเรนซ์เพื่อค้นหาสิ่งใหม่ๆ แทนการยอมแพ้ต่อความเศร้า ตลอดเวลาที่เขาอยู่ที่นี่ จีนได้สัมผัสกับความงดงามของศิลปะและวัฒนธรรมที่มีอิทธิพลในทุกย่างก้าว ตั้งแต่ภาพวาดที่เล่าเรื่องราวในอดีต ไปจนถึงเสียงเพลงที่สะท้อนถึงความรู้สึก เขาได้เรียนรู้ที่จะใช้ศิลปะเป็นช่องทางในการแสดงออก ถึงแม้ว่าเขาจะยังคงมีความคิดถึงบ้านและความทรงจำที่เจ็บปวด แต่เขาก็พบว่าศิลปะช่วยให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ในฟลอเรนซ์ ตรอกเล็กๆ ที่แสนมีเสน่ห์ถูกซ่อนอยู่ภายในเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และศิลปะ ถนนแคบ ๆ ที่ปูด้วยหินเรียบซึ่งมีลวดลายเฉพาะตัว พาเราเข้าสู่โลกแห่งการค้นพบใหม่ เสียงของการพูดคุยและเสียงหัวเราะดังก้องอยู่ในอากาศ สะท้อนถึงชีวิตชีวาของผู้คนที่มาเยือน สองข้างทางของตรอกนั้นเต็มไปด้วยร้านค้าที่มีเอกลักษณ์มากมาย ตั้งแต่ร้านขายของที่ระลึกที่ประดับด้วยงานศิลปะท้องถิ่น ไปจนถึงคาเฟ่เล็กๆ ที่มีกลิ่นหอมของกาแฟและขนมอบที่อบสดใหม่ ร้านขายพาสต้าทำมือและซอสที่มีสูตรเฉพาะที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงร้านขายไวน์ที่มีบรรยากาศอบอุ่น ให้ผู้คนได้สัมผัสกับความหลากหลายของวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียน แสงแดดส่องสว่างลงมา ทำให้ทุกมุมของตรอกนี้เต็มไปด้วยสีสันที่สดใส ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเลือกซื้อของที่ระลึก ขณะที่นักท่องเที่ยวหยุดถ่ายภาพคู่กับงานศิลปะที่ประดับอยู่หน้าร้าน บรรยากาศที่คึกคักและอบอุ่นทำให้รู้สึกถึงการต้อนรับจากชาวเมือง เสียงของกีตาร์ที่บรรเลงโดยนักดนตรีข้างถนนเติมเต็มบรรยากาศให้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ผู้คนที่นั่งอยู่ที่ม้านั่งหินจิบกาแฟร้อนๆ พร้อมทั้งฟังเพลงอย่างเพลิดเพลิน บางคนยิ้มและพูดคุยกัน สร้างความรู้สึกเชื่อมโยงในทุกช่วงเวลา ในขณะที่จีนยืนอยู่หน้าร้านขายงานศิลปะเล็ก ๆ สายตาของเขาจับจ้องไปที่ภาพวาดที่มีสีสันสดใส ความคิดของเขาจมอยู่ในโลกแห่งศิลปะที่เต็มไปด้วยความหวังและแรงบันดาลใจ ทันใดนั้น เสียงของฝีเท้าดังขึ้นจากด้านหลัง ก่อนที่เขาจะรู้ตัว เสียงคุ้นเคยเรียกเขาเบา ๆ “จีน!” แซม เพื่อนสนิทของเขาแตะบ่าจีนเบา ๆ ทำให้เขาตกใจเล็กน้อย จีนหันไปพบกับรอยยิ้มสดใสของแซมที่ยืนอยู่ข้างหลัง “เฮ้! ทำไมถึงมาที่นี่?” จีนถาม พร้อมกับยิ้มตอบและรู้สึกโล่งใจที่ได้เห็นเพื่อน “เห็นนายเดินมาตรงนี้ เลยคิดว่าจะมาหา” แซมพูดพลางมองไปรอบ ๆ “ดูเหมือนว่านายกำลังเพลิดเพลินกับงานศิลปะอยู่” “ใช่ ฉันรักที่นี่มาก” จีนตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น “มันทำให้ฉันรู้สึกมีชีวิตชีวา” “ดีจัง” แซมยิ้มอย่างเข้าใจ “ไปเดินเล่นกันเถอะ ฉันอยากจะลองขนมอร่อย ๆ ที่ร้านตรงนั้น” จีนพยักหน้า ก่อนที่จะก้าวเดินไปพร้อมกับแซม ………………………………………………….. “ว่าแต่นายคนนี้เป็นใคร ทำไมดูสนิทสนมกัน?” ริคถามเสียงเข้ม ขณะมองภาพถ่ายที่ลูกน้องส่งมาให้ ในนั้นมีแซมยืนอยู่ข้างจีน กอดคอเขาแน่น ขณะยิ้มแย้มอย่างมีความสุขกลางตรอกเล็กในฟลอเรนซ์ “ดูเหมือนว่าทั้งสองจะสนิทกันมากเลยนะครับ” ลูกน้องตอบอย่างระมัดระวัง พลางเลื่อนดูภาพที่ถ่ายไว้ใกล้ ๆ “สนิทกัน?” ริคซ้ำคำพูด ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ เขารู้สึกถึงความหึงหวงที่เริ่มก่อตัวในใจ เขาไม่ชอบที่จะเห็นจีนแสดงออกถึงความใกล้ชิดกับคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแซมดูเหมือนจะเข้าใกล้เขามากเกินไป “ใช่ครับ ดูเหมือนว่าจีนจะมีความสุขกับเขา” ลูกน้องพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกลาง “แต่ก็น่าสังเกตว่าเขาก็เป็นเพื่อนของจีนมานานแล้ว” “เพื่อน?” ริคเลิกคิ้ว “ในโลกนี้มีเพื่อนแบบนี้ด้วยหรือ?” “อาจจะเป็นความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่ดีก็ได้ครับ” ลูกน้องตอบ แม้จะพยายามทำให้สถานการณ์ดูสบายใจ แต่ริคกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น ริคยกมือขึ้นขยี้หัวตัวเองอย่างรำคาญ ใจของเขายิ่งรู้สึกหนักอึ้งเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ที่จีนอาจจะให้ความสนใจแซมมากกว่าที่เขาคิด “ตามหาข้อมูลเกี่ยวกับเขาให้ฉัน” ริคพูดเสียงเรียบ แต่แฝงไปด้วยความจริงจัง “ฉันอยากรู้จักแซมให้มากกว่านี้” ………………………………………………………….. หลังจากที่ลูกน้องสองคนเดินออกไปได้สักพัก หนึ่งในนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขบขัน “สงสัยคนนี้จะชอบมากเลยนะ เห็นตามมาจะอาทิตย์แล้ว” “ไม่หรอก เดี๋ยวก็เบื่ออีก” อีกคนแย้ง พร้อมกับยักไหล่ “ปกติอยากได้ก็ลากมาเลย” หนึ่งในลูกน้องพูดขึ้น พร้อมกับหัวเราะ “คนนี้ดูจะวางแผนเข้าใกล้อยู่ไม่ใช่เหรอ” ลูกน้องคนที่สองกล่าวต่อ “ริคดูจะเครียดมาก แถมยังหึงหวงแบบนี้อีก” “นี่ขนาดยังไม่ได้รู้จักกันจริง ๆ นะ” หนึ่งในลูกน้องพูดพร้อมหัวเราะอย่างขบขัน เขาหันมามองเพื่อนอีกคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะจุดบุหรี่และยิ้มให้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น “ดูเหมือนริคจะมีความมุ่งมั่นจริง ๆ นะ” อีกคนตอบ ขณะที่ทั้งคู่ยิ้มให้กันด้วยความเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกน้องคนแรกจุดบุหรี่และหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเดินไปขึ้นรถ “เอาเถอะ ยังไงก็รอดูได้เลยว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป” เขาพูดเสียงเบา ขณะที่บิดกุญแจรถแล้วขับออกไปจากที่จอด เสียงของเครื่องยนต์เริ่มดังขึ้น เมื่อพวกเขาแล่นออกไป ริคนั่งอยู่ในสำนักงานที่เงียบสงัด สายตาจ้องไปยังแฟ้มเอกสารบนโต๊ะ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยภาพของจีนและแซม ความรู้สึกซับซ้อนผุดขึ้นในใจ เขารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขายังไม่แน่นอน แต่เขาไม่อาจปล่อยให้มันหลุดมือไปได้ “ไม่ว่าจะต้องทำอะไร ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งของที่ฉันหมายตาไป” ริคพึมพำกับตัวเอง ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ประตูสำนักงาน ด้วยความตั้งใจที่จะให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเขา ในขณะนั้น สาวสวยร่างอวบอัดแสนเซ็กซี่คนหนึ่งชื่อรีเบคก้าเดินเข้ามาในสำนักงาน ร่างกายของเธอถูกเสริมด้วยเสื้อผ้ารัดรูปที่เผยให้เห็นสัดส่วนชวนมอง ดวงตาสีฟ้าของเธอเปล่งประกายด้วยความมั่นใจ เธอคือคู่ขาคนประจำที่มาบำเรอริคเมื่อเขาต้องการความสนุก “ทำอะไรอยู่คะ?” รีเบคก้าถามด้วยน้ำเสียงยั่วยวน ขณะที่เดินเข้ามาใกล้ รีเบคก้า สาวผมบลอนด์ที่มีรูปร่างอวบอัด อกใหญ่ และดวงตาสีฟ้าแสนเซ็กซี่ตามแบบฉบับของสาวอิตาเลียน ยืนอยู่ตรงหน้าริค เธอเป็นคู่ขาคนประจำที่มาบำเรอเขาเมื่อเขาต้องการความสนุกสนาน แต่ตอนนี้ ริคกลับรู้สึกเฉย ๆ ต่อการยั่วยวนของเธอ “ออกไปเถอะ รีเบคก้า” เขาพูดเสียงหนักแน่น ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่เอกสารบนโต๊ะอย่างแน่วแน่ รีเบคก้าหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำพูดของเขา ดวงตาสีฟ้าของเธอแสดงความประหลาดใจและผิดหวัง เธอหวังว่าจะได้สร้างบรรยากาศที่ร้อนแรง แต่ริคกลับไม่สนใจสิ่งที่เธอนำเสนอ “คุณแน่ใจนะ? ฉันสามารถทำให้คุณรู้สึกดีได้” เธอพูดด้วยน้ำเสียงยั่วยวน แต่ริคก็ยังคงยืนกรานในความตั้งใจของตัวเอง “ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ” เขาเฉยเมยตอบ ก่อนจะหันหลังให้เธอและก้าวไปที่ประตู “ริคคะ คุณเป็นอะไรไป?” รีเบคก้าถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย เธอเห็นริคตั้งแต่แรกก็รู้ว่าเขามีบางอย่างที่ทำให้เขาดูห่างเหินและไม่สนใจ เมื่อริคหันมามอง รีเบคก้าก็เริ่มเปลื้องผ้าอย่างช้า ๆ เธอปลดเสื้อผ้าที่ปกคลุมร่างกายอันเซ็กซี่ของเธอทีละชิ้น เปิดเผยผิวที่เปล่งประกายและรูปร่างอันยั่วยวนให้เขาเห็น แต่ริคกลับไร้ซึ่งแรงดึงดูด แม้จะมีความงามอยู่ตรงหน้า ความคิดถึงจีนและแซมกลับทำให้เขารู้สึกไม่สนใจในสิ่งที่เกิดขึ้น “รีเบคก้า… หยุดเถอะ” ริคพูดเสียงเรียบ ดวงตาของเขายังคงนิ่งอยู่ แม้จะมีการกระทำที่ยั่วยวนใจ แต่ในใจของเขากลับมั่นคงและไม่หวั่นไหว “ทำไมล่ะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงยั่วยวน แต่ริคกลับรู้สึกว่าเขาไม่สามารถละทิ้งความตั้งใจของตนได้ “หรือว่าคุณได้คนใหม่มาแทนฉันแล้ว?” รีเบคก้าถามเสียงต่ำ ดวงตาสีฟ้าของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย ริคไม่ตอบอะไร เขาเพียงหันหลังเดินออกไปจากสำนักงาน คิดในใจ ใช่ เขามีคนที่หมายตาใหม่แล้ว เด็กนั่น! เพียงแค่คิดถึงร่างบอบบางนั่น ความต้องการของเขาก็พุ่งพล่านจนลุกฮือขึ้นภายใน เขาไม่อาจละเลยแรงดึงดูดนี้ได้ แม้จะมีรีเบคก้าอยู่ตรงหน้า แต่ทุกอย่างที่เขาอยากได้กลับเป็นแค่เงาของจีน ริครู้ว่าเขาจะต้องรีบลงมือเอาเด็กนั่นมาครอบครองให้ได้ เพราะความต้องการที่บีบอัดจนแทบทนไม่ไหว เขาต้องรีบทำให้ความปรารถนาที่จะคว้าเด็กนั่นมาไว้ในอ้อมแขนให้เร็วที่สุดเสียงปืนดังขึ้นอย่างกึกก้องในตรอกแคบ เสียงที่แทรกเข้าไปในความตึงเครียดของการต่อสู้ กระแทกใจทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น เสียงปืนแต่ละนัดแผดออกมาอย่างเฉียบขาด สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้“ปัง!” เสียงปืนแรกดังขึ้น เสียงปืนที่คมชัดเหมือนฟ้าผ่าท่ามกลางความเงียบ ทุกคนหันไปมองยังจุดที่เสียงนั้นเกิดขึ้น ด้วยความหวาดกลัวและตื่นเต้น เมื่อการต่อสู้เริ่มจะเลวร้ายลง“ปัง! ปัง!” เสียงปืนอีกสองนัดตามมาทันที บรรยากาศที่แวดล้อมไปด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงเหล็กกระทบกัน ทำให้เกิดความสับสนอย่างมาก สมาชิกในแก๊งต่างพยายามหาที่กำบัง ขณะเสียงปืนสะท้อนทั่วบริเวณ เสียงของกระสุนที่พุ่งเข้าชนกับผนังและพื้นถนนสร้างเสียงดังที่น่าหวาดกลัว“ระวัง!” เสียงหนึ่งตะโกน ขณะที่คนหนึ่งวิ่งหลบกระสุนที่พุ่งผ่านไปอย่างเฉียดฉิว“ปัง! ปัง!” เสียงปืนยังคงดังก้อง ทุกคนต่างพยายามหาทางหนีหรือหาที่กำบัง สายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวในความไม่แน่นอนของสถานการณ์ ขณะที่อาเล็กซ์และพวกพ้องของเขาเข้ามาในภาพ การเคลื่อนไหวของพวกเขาเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีระเบียบ ในเมืองเก่าแก่ที่ตระกูล ดิอังเจโล และ คอนติ ต่างมีรากฐานที่หยั
อเล็กซ์ ดิอังเจโล(Alex D'Angelo) รูปร่างสูงใหญ่สง่างามในแบบของผู้ดีอิตาลีแท้ ๆ ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาราวกับภาพวาดจากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ทุกอณูของเครื่องแต่งกายถูกจัดสรรอย่างประณีต สูทสีดำที่เขาสวมใส่ถูกตัดเย็บมาอย่างดีเข้ารูปพอดีตัว บ่งบอกถึงความพิถีพิถันและสถานะที่สูงส่งเขายืนอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ ภาพแสงไฟของเมืองอันสว่างไสวทอดยาวออกไปไกลสุดสายตา สายตาของเขาจ้องมองออกไปยังทิวทัศน์ด้านนอก แต่ภายในจิตใจกลับเต็มไปด้วยความคิดถึงเหตุการณ์หนึ่งที่เขาไม่อาจลืมได้ วันที่ชายหนุ่มเอเชียผู้เรียบง่าย แต่กล้าหาญและเด็ดเดี่ยวคนนั้นก้าวเข้ามาช่วยเหลือเขาจีน ชื่อของชายหนุ่มนั้นสะท้อนก้องในหัวของอเล็กซ์ ความทรงจำของการช่วยเหลือในวันที่อันตรายโอบล้อมยังคงชัดเจนในใจ แม้ว่าจะมีเหตุผลหลายประการที่ทำให้คนอย่างเขาไม่ต้องพึ่งพาใคร แต่ในวันนั้น จีนก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของเขา การพบเจอในครั้งนั้นทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ในใจของอเล็กซ์ ความรู้สึกที่ยากจะนิยามได้ ระหว่างความรู้สึกขอบคุณและความชื่นชมในความกล้าหาญของชายหนุ่มผู้แสนธรรมดาแต่พิเศษเหลือเกินอเล็กซ์หลับตาลงครู่หนึ่ง ปล่อยให้ความคิดและความรู้สึกเหล
ในสำนักงานอันหรูหราของเขา ริคยืนอยู่ท่ามกลางความเงียบสงัด หลอดไฟสีอบอุ่นทำให้เกิดเงาเล็กน้อยที่ใบหน้าของเขา สะท้อนถึงความเคร่งเครียดของความคิดที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความโกรธ อาการกระวนกระวายกำลังเริ่มก่อตัวเมื่อเขาได้ยินข่าวเกี่ยวกับจีน ชายหนุ่มจากมหาวิทยาลัยศิลปะที่มีเสน่ห์ดึงดูด“อเล็กซ์...” ริคพึมพำชื่อที่ทำให้เขารู้สึกถึงไฟแห่งความหึงหวง “ไอ้นั่นมันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเลยจริงๆ”เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มือของเขาสั่นเล็กน้อย แต่ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เป็นเพราะความโกรธที่เขาไม่สามารถระงับได้ “ไปเอาตัวจีนมา” เขาสั่งเสียงเรียบ แต่ภายในกลับสั่นสะเทือน “พาเขามาที่นี่โดยเร็วที่สุด และทำให้แน่ใจว่าเขาไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง”เสียงของเขาแฝงไปด้วยความเชื่อมั่นที่เต็มเปี่ยม รู้ดีว่าคนของเขาจะทำตามคำสั่งนี้อย่างเงียบเชียบ“อย่าลืม... ต้องทำให้เขาไม่มีทางหนี” เขาพูดต่อ เสียงของเขาห้วนขึ้น แต่มีความนุ่มนวลที่แฝงอยู่ มันเหมือนกับการพยายามควบคุมอารมณ์ในใจ ริคคิดถึงสิ่งที่เขาจะทำกับจีนเมื่อได้เขามา สายลมเย็นของยามค่ำคืนพัดผ่านมาเบา ๆ ขณะที่จีนเดินออกจากบ้าน เขามองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้
จีนรู้สึกเหมือนว่าหัวของเขาหนักอึ้ง เมื่อเปลือกตาค่อยๆ เปิดออก ความสลัวจากแสงที่ส่องเข้ามาทำให้เขาต้องขยี้ตาเพื่อปรับสายตาให้คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ก่อนที่เขาจะค้นพบว่าเขาอยู่ในห้องนอนที่หรูหราเกินกว่าที่เขาจะเคยเห็น ห้องนี้มีสไตล์บาโรกที่เต็มไปด้วยความโอ่อ่าและความละเอียดอ่อน เขาหันไปมองรอบๆ สายตาของเขาสัมผัสกับผนังที่ปูด้วยไม้แกะสลักที่มีลวดลายอันวิจิตร คานไม้บนเพดานก็ถูกตกแต่งด้วยรายละเอียดที่งดงาม การประดับด้วยโคมไฟคริสตัลทำให้ห้องนี้ดูเปล่งประกายระยิบระยับ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เตียงที่มีขนาดใหญ่ อบอุ่นและหรูหราด้วยผ้าปูที่นอนเนื้อดีที่มีสีทองสลับกับสีม่วงเข้ม“ที่นี่…ที่ไหนกัน?” เขาคิดในใจ ขณะที่ความสับสนเข้ามาแทนที่ความง่วงงุนในตัวเขา สัญชาตญาณของเขาตื่นตัวอย่างเต็มที่เมื่อเขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา จีนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย เมื่อเขาตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่โอ่อ่าและหรูหราอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ห้องนี้กว้างขวาง ยิ่งใหญ่ และเต็มไปด้วยรายละเอียดที่น่าทึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศที่ทั้งงด
ก๊อกๆๆสาวใช้ก้าวเข้ามาในห้องนอนของจีนอย่างเงียบ ๆ เธอสวมชุดเครื่องแบบเรียบหรูสีดำที่ตัดเย็บอย่างปราณีต เสียงประตูที่เปิดเบา ๆ ดึงความสนใจของจีนที่นั่งอยู่ริมเตียง ใบหน้าของเขาฉายแววครุ่นคิดและเคร่งเครียด ก่อนที่สาวใช้จะพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่แฝงความเคารพ"คุณริคให้มาช่วยคุณจีนอาบน้ำค่ะ" เธอกล่าวอย่างสุภาพ สายตาทอดต่ำอย่างนอบน้อมจีนเงยหน้าขึ้นมองเธอ แววตายังมีความประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ยังคงนิ่งเงียบอยู่ในความคิดของตัวเอง การมีคนเข้ามาดูแลเช่นนี้ในช่วงเวลาที่เขารู้สึกเปราะบาง อาจเป็นสิ่งที่เขาต้องการโดยไม่รู้ตัวสาวใช้ก้าวเข้าไปในห้องน้ำ เปิดประตูเผยให้เห็นอ่างอาบน้ำหินอ่อนขนาดใหญ่ น้ำอุ่นถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ไอน้ำลอยขึ้นบาง ๆ เติมกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์และโรสแมรี่อบอวลอยู่ทั่วห้อง อ่างน้ำประดับด้วยดอกไม้ขาวที่ลอยเบา ๆ บนผิวน้ำ"ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วค่ะ" สาวใช้เอ่ยพลางถอยออกมาเล็กน้อย ปล่อยให้จีนลุกขึ้นเพื่อไปที่ห้องน้ำภายในห้องน้ำที่หรูหรา อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง น้ำในอ่างเต็มไปด้วยฟองสบู่ที่ฟูฟ่อง ละลายตัวช้า ๆ ในอุณหภูมิอุ่นพอดี กลิ่นหอมของน้ำมั
บ้านของริค คอนติ เป็นคฤหาสน์สุดหรูที่ตั้งอยู่บนหน้าผา ริมทะเลสาบสีฟ้าใส ซึ่งเป็นภาพที่งดงามสุดขีด สถานที่นี้ถูกล้อมรอบด้วยป่าสนหนาทึบและภูเขาที่ทอดตัวเป็นฉากหลัง สร้างบรรยากาศให้รู้สึกถึงการหลีกหนีจากโลกภายนอกอย่างแท้จริง ตัวบ้านออกแบบในสไตล์ยุโรปคลาสสิก โครงสร้างยิ่งใหญ่และแข็งแรง ประดับด้วยเสาและซุ้มโค้งที่ทำจากหินอ่อน ซึ่งยืนตระหง่านอย่างโอ่อ่าเมื่อมองไปที่ภายนอก บ้านหลังนี้มีหลังคาสีอิฐแดงทรงสูงที่ตัดกับผนังสีขาวสะอาดตา มีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่เรียงรายเป็นแนว ทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกได้อย่างชัดเจน ขอบหน้าต่างและประตูตกแต่งด้วยไม้สีเข้มอย่างประณีต บันไดหินอ่อนกว้างทอดลงจากประตูหน้าของบ้านไปยังสนามหญ้าสีเขียวชอุ่ม สนามหญ้ากว้างนี้รายล้อมไปด้วยพุ่มไม้ที่ตัดแต่งเป็นรูปทรงเรขาคณิตและกระถางต้นไม้ทรงสูงที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีทางเดินจากสนามหญ้าลงไปถึงท่าเรือส่วนตัว ที่ทำจากไม้เนื้อดี ทอดตัวออกไปในทะเลสาบ มีเรือยอชต์สีขาวจอดอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งสะท้อนกับน้ำในทะเลสาบอย่างงดงาม ทิวทัศน์ของภูเขาและน้ำที่ล้อมรอบสร้างความรู้สึกสันโดษแต่มีเสน่ห์ดึงดูดแบบธรรมชาติบรรยากาศโดยรอบถูกเติมเต็มด้วยต้
ริค คอนติ มาเฟียหนุ่มหล่อทรงอิทธิพลแห่งอิตาลี ขับรถสปอร์ตคันหรูฝ่าแสงแดดบ่ายที่สาดส่องลงมายังเมืองฟลอเรนซ์ รอยยิ้มเย็นชาแตะที่มุมปากขณะที่เขามุ่งหน้าไปทำธุรกิจที่เต็มไปด้วยความลับและอำนาจ ทุกสิ่งในชีวิตของริคถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน จนกระทั่งสายตาเฉียบคมของเขาหยุดนิ่งเมื่อเห็นร่างเล็ก ๆ ที่เดินอยู่ริมถนนเด็กหนุ่มคนนั้นทำให้หัวใจของริคสะดุด จีน หนุ่มน้อยจากประเทศไทยที่ย้ายมาเรียนต่อในอิตาลี ผิวขาวละเอียด ร่างบอบบาง และใบหน้าหวานจนเกินจะมองข้าม ท่ามกลางผู้คนมากมาย จีนกลับดูโดดเด่นราวกับแสงที่สาดส่องผ่านหมอกในยามเช้า ความงามอันบริสุทธิ์และท่าทีไร้เดียงสาเหล่านั้นทำให้ริคแทบจะลืมหายใจหัวใจของริคเต้นแรงขึ้น มือที่จับพวงมาลัยแน่นด้วยความปรารถนาที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเย็นชาที่เคยมีถูกแทนที่ด้วยความกระหายที่จะครอบครอง เขาเฝ้ามองร่างเล็กที่ก้าวเดินไปอย่างไร้เดียงสา จังหวะทุกย่างก้าวของจีนราวกับจะดึงริคให้ติดตาม จีนไม่เหมือนใครในโลกนี้ ริคไม่เคยพบใครที่ทำให้เขารู้สึกถูกท้าทายและล่อลวงได้เช่นนี้“เด็กคนนี้…” ริคพึมพำในลำคอ เสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความกระหาย เขารู้ทันทีว่าสิ่งที่เขาต้อง