Share

รักครั้งใหม่กับเสด็จอา
รักครั้งใหม่กับเสด็จอา
ผู้แต่ง: หมิงหมิง

บทที่ 1

จวนอ๋องฉู่ใต้

ภายในห้องเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง อาภรณ์ขาดกระจัดกระจายเต็มพื้น และเปื้อนไปด้วยคราบเลือด

หญิงสาวนอนอยู่บนเตียงไม้แกะสลัก ริมฝีปากมีเลือดซึม ร่างกายขาวผ่องเต็มไปด้วยร่องรอยการถูกทำร้าย แววตาเหม่อลอยจ้องมองไปในความว่างเปล่า “เซียวเหยียน…”

“ท่านพี่เซียวเหยียน พี่หญิงเรียกท่านอยู่เพคะ”

เสียงหวานใสดังขึ้น พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ร่าเริงเดินเข้ามาในห้อง

อวิ๋นชิงฮวนหันไปมอง นางจ้องมองชายหญิงคู่หนึ่งกำลังโอบกอดกันอย่างใกล้ชิดด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

“พี่หญิง เมื่อคืนชายพวกนั้น พี่หญิงพอใจหรือไม่?”

เจียงเสวี่ยลั่วถามด้วยรอยยิ้ม “ท่านพี่เซียวเหยียนเป็นคนเลือกพวกเขามาเอง กลัวว่าจะมิถูกใจพี่หญิง พี่หญิงชอบหรือไม่?”

เมื่อนึกถึงความอัปยศอดสูและการทรมานเมื่อคืน น้ำตาอวิ๋นชิงฮวนก็ไหลอาบแก้ม

แต่ชายผู้ซึ่งเป็นสามีของนางนั้น กลับโอบกอดน้องสาวของนาง นั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน และจิบน้ำชาอยู่หน้าประตูบ้าน ฟังเสียงกรีดร้องของนางที่ถูกทรมานอยู่ในบ้าน…

“เซียวเหยียน หม่อมฉันทำอะไรผิดต่อท่านหรือ? เพราะเหตุใดกัน!”

แต่งงานเข้าจวนอ๋องมาสามปีแล้ว นางคิดว่าตัวเองเป็นคนดี มีคุณธรรม ดูแลแม่สามี เอาใจสามี และใจดีกับคนรับใช้

นางทำอะไรผิดต่อเขาอย่างนั้นหรือ?!

ในฐานะสามี เขาถึงกับสั่งให้คนใช้ดูถูกและทรมานนาง ทุกคนในจวนอ๋องต่างก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของนาง

เซียวเหยียนมีสีหน้ารังเกียจและเย็นชา “เจ้ายังมีหน้ามาถามอีกรึว่าเพราะเหตุใด? ตอนที่เจ้าแอบมีสัมพันธ์กับผู้อื่นจนตั้งครรภ์ แล้วบังคับให้ตัวข้าแต่งงานกับเจ้า เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าจะมีวันนี้?”

“ว่ากระไรนะ...”

“เจ้าคิดว่าตัวข้ามิรู้งั้นรึ?”

เขาเดินเข้าไปใกล้ ๆ อย่างช้า ๆ ดวงตาของเขาราวกับมีดที่กรีดไปบนร่างกายซึ่งเต็มไปด้วยความอัปยศของนาง ด้วยความรังเกียจอย่างที่สุด

“เจ้ารู้ทั้งรู้ว่าข้ารักแต่เสวี่ยลั่ว แต่เจ้ากลับแย่งชิงการแต่งงานของนาง ตั้งครรภ์ลูกคนอื่นแล้วยังกล้าใส่ร้ายป้ายสีตัวข้า!”

“ท่านกำลังตรัสเรื่องอันใด? ลูกของหม่อมฉันในตอนนั้น เป็นลูกของท่าน…”

“ถึงตอนนี้แล้ว พี่หญิง ท่านก็อย่าปากแข็งอีกเลย ท่านอ๋องทรงทราบเรื่องนี้มานานแล้ว”

เจียงเสวี่ยลั่วพูดด้วยความสงสาร “ตอนนั้นพี่หญิงเสียความบริสุทธิ์ มิรู้ว่าท้องกับผู้ใด แล้วยืนกรานหนักแน่นว่าเป็นลูกของท่านอ๋อง อีกทั้งยังใช้บารมีของตระกูลถังบังคับให้ท่านอ๋องแต่งงานกับท่าน ท่านอ๋องทรงอดทนเงียบ ๆ และมิเอ่ยอันใดมาโดยตลอด ทรงอนุญาตให้พี่หญิงเป็นพระชายามาสามปี ก็เป็นการแสดงพระทัยอันกว้างขวางอย่างหาที่เปรียบมิได้แล้ว”

“เจ้าพูดเหลวไหล! ข้าท้องลูกของเซียวเหยียน ตอนนั้นที่ชานเมือง...”

อวิ๋นชิงฮวนตะโกนด้วยความโกรธ และร่างกายของนางก็แข็งทื่ออย่างฉับพลัน

นางนึกถึงลูกที่นางอุ้มท้องมาเก้าเดือน ดูแลอย่างระมัดระวังแต่กลับคลอดก่อนกำหนดอย่างมิทราบสาเหตุ นางอยู่ในห้องคลอด ทรมานและเกือบเสียเลือดมากก่อนที่จะคลอดลูก…

นางได้ยินเสียงร้องของลูกที่เกิดมาอย่างชัดเจน

แต่ว่า เมื่อนางฟื้นจากอาการหมดสติหลังคลอด คนรับใช้กลับบอกนางว่าลูกตายตั้งแต่คลอดออกมาแล้ว

ท่านอ๋องตรัสว่าเด็กที่ตายมิเป็นมงคล จึงนำไปฝังแล้ว

นางเสียใจอย่างสุดซึ้ง แต่ด้วยความไว้ใจสามีนางจึงมิได้ถามอะไรมาก

หากเซียวเหยียนคิดว่าเด็กคนนั้นมิใช่ลูกของเขา ระหว่างที่นางหมดสตินั้น ลูกของนาง…

ทันใดนั้น ความคิดที่น่ากลัวก็แวบเข้ามาในหัว

“พี่หญิงเดาออกแล้วรึ? ลูกนอกคอกที่พี่หญิงคลอดในตอนนั้น มิใช่เด็กตาย แต่เป็นเพราะท่านอ๋องทรงทราบว่าต้นกำเนิดมิชัดเจน จึงสั่งให้คนไปจัดการแล้ว”

เจียงเสวี่ยลั่วพูดอย่างสงสาร “ตอนนั้นข้ายืนดูอยู่ข้าง ๆ น่าสงสารจริง ๆ เด็กผู้ชายที่แข็งแรง ร่าเริงน่ารักมาก ตอนที่ถูกจุ่มลงไปในสระบัว ยังโบกมือเล็ก ๆ ร้องไห้เสียงดังอีกด้วย”

เลือดสด ๆ พุ่งขึ้นมาในอกทันที อวิ๋นชิงฮวนกระอักเลือดออกมา นิ้วทั้งห้ากระตุกเกร็งขณะกำผ้าห่มแน่น

“พวกเจ้า… ฆ่าลูกของข้า! พวกเจ้าฆ่าเขา!”

“ลูกนอกสมรสคนหนึ่ง มิฆ่าแล้วเจ้ายังหวังให้ตัวข้าเลี้ยงเขาอีกรึ?”

เซียวเหยียนสะบัดแขนเสื้ออย่างรังเกียจ “ตอนนี้องค์จักรพรรดิทรงประชวรหนัก องค์รัชทายาทกำลังจะขึ้นครองบัลลังก์ ตระกูลท่านตาของเจ้าถูกกล่าวหาว่าวางยาพิษองค์จักรพรรดิ จึงถูกประหารทั้งครอบครัวไปแล้ว ตัวข้ามิจำเป็นต้องเก็บเจ้าไว้ ใครก็ได้ มานี่!”

สาวใช้สองคนยกถาดเข้ามา ในถาดมีเหล้าพิษ ผ้าขาว และมีดสั้น

“เมื่อคืนเจ้าล่วงประเวณีกับคนรับใช้ในจวนอ๋อง เสื่อมเสียศีลธรรม ข้าจะให้เจ้าตายอย่างมีเกียรติ จัดการตัวเองซะ”

ได้ยินเสียงเย็นชาและโหดเหี้ยมของเซียวเหยียน อวิ๋นชิงฮวนที่ปากเต็มด้วยเลือด ก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา

“ล่วงประเวณีกับชายอื่น? เสื่อมเสียศีลธรรม? นี่เป็นเพราะผู้ใดกัน? เซียวเหยียน ท่านหลงเชื่อคำใส่ร้าย ถ่วงน้ำสังหารลูกของหม่อมฉัน ร่วมมือกับองค์รัชทายาทใส่ความท่านตาของหม่อมฉันจนถูกประหารทั้งครอบครัว แล้วยังใช้วิธีเช่นนี้ทำร้ายหม่อมฉันที่แต่งเข้ามาอย่างถูกต้อง ท่านมันมิใช่ลูกผู้ชาย!”

“บังอาจ!”

สาวใช้พุ่งเข้าไปแล้วตบหน้านางสองครั้งอย่างแรง

“ถุย นางตัวต่ำช้าหน้ามิอาย! กล้าดีอย่างไรมาต่อว่าท่านอ๋อง!”

อวิ๋นชิงฮวนถูกทรมานจนเหลือลมหายใจรวยริน หลังจากถูกตบสองครั้ง ก็หัวเราะอย่างน่าเวทนาและล้มลงบนเตียงใหญ่

“ท่านพี่เซียวเหยียน พี่หญิงมิสำนึกผิด แต่หม่อมฉันกับพี่หญิงก็เป็นพี่น้องกัน ในวาระสุดท้ายนี้ หม่อมฉันขอเป็นคนส่งพี่หญิงเองเพคะ”

“เสวี่ยลั่ว เจ้าเป็นคนจิตใจดี อ่อนโยน ระวังอย่าให้สตรีวิปลาสผู้นี้ทำร้ายเจ้าได้” เซียวเหยียนจับมือนางอย่างเอ็นดู

เจียงเสวี่ยลั่วหัวเราะเบาๆ “นางเป็นเช่นนี้แล้ว จะทำร้ายหม่อมฉันได้อย่างไร? ท่านพี่เซียวเหยียนวางใจเถิด”

“ดี ข้าจะรอเจ้าหน้าประตู”

พูดจบ เขาก็มิมองอวิ๋นชิงฮวนแม้แต่หางตา และหันหลังเดินออกไป

อวิ๋นชิงฮวนจ้องมองแผ่นหลังเขาด้วยตาแดงก่ำ จนกระทั่งประตูปิดดังปัง เจียงเสวี่ยลั่วก็เปลี่ยนสีหน้าจากอ่อนแอเป็นเยาะเย้ยในทันที

“พี่หญิง เจ้านี่มันช่างโง่เง่าสิ้นดี ถึงตอนนี้ยังมิเข้าใจอีกรึ?”

“เป็นเจ้า...”

ความตายใกล้เข้ามาแล้ว อวิ๋นชิงฮวนยังจะมีอะไรที่มิเข้าใจอีก

“เป็นข้าเอง!” เจียงเสวี่ยลั่วยอมรับอย่างภาคภูมิใจ “ข้าเป็นคนหลอกท่านออกจากเมือง และทำให้เจ้าต้องเสียพรหมจรรย์ ใครใช้ให้พี่หญิงโง่เง่าเช่นนี้เล่า? แค่ประจบประแจงเจ้าสองสามคำ เจ้าก็คิดว่าข้าเป็นน้องสาวเจ้าแล้วจริง ๆ เสียใจที่ข้าอุตส่าห์เตรียมขอทานไว้ให้เจ้าเป็นกลุ่ม แต่เจ้ากลับหนีไปเอง มิรู้ว่าไปท้องกับชายคนไหนมา แล้วยังคิดว่าเป็นลูกของท่านพี่เซียวเหยียนอีกต่างหาก ฮ่าฮ่าฮ่า...”

“ข้าเองที่บอกท่านพี่เซียวเหยียนว่าเจ้ากำลังอุ้มท้องลูกของชายชู้ แล้วใส่ร้ายว่าเป็นลูกของเขา ท่านพี่เซียวเหยียนเกลียดเจ้ามาก แต่เพราะเห็นแก่ตระกูลของเจ้าที่ท่านตาได้รับความไว้วางใจจากองค์จักรพรรดิ ท่านพี่เซียวเหยียนต้องคอยสนับสนุนองค์รัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์ จึงได้ใช้ประโยชน์จากเจ้า”

“ตอนนี้ องค์จักรพรรดิทรงประชวร ตระกูลถังถูกประหาร องค์รัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์แล้ว ท่านพี่เซียวเหยียนก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้มีส่วนในการสนับสนุน และจวนอ๋องฉู่ใต้ก็จะได้เลื่อนขั้นเป็นจวนชินอ๋อง[footnoteRef:0]” [0: ชินอ๋อง ผู้ที่จะได้รับตำแหน่งชินอ๋องส่วนมากเป็นพระโอรส พระเชษฐา หรือพระอนุชาในองค์จักรพรรดิ เป็นตำแหน่งเชื้อพระวงศ์ชายลำดับที่ 1

]

“ท่านพี่เซียวเหยียนรับปากกับข้าแล้วว่า เขาจะแต่งข้าเข้าด้วยฐานะพระชายาชินอ๋อง”

“ดังนั้น… พวกเจ้าถึงต้องใช้วิธีสกปรกเยี่ยงนี้ ทำลายชื่อเสียงของข้าให้ย่อยยับ แม้ตายไปก็ไม่มีวันได้ผุดได้เกิด!”

อวิ๋นชิงฮวนกัดฟันแน่น ความเกลียดชังท่วมท้นในอก

นางนึกถึงชีวิตแต่งงานสามปีที่ผ่านมา นางเอาใจเซียวเหยียนทุกอย่าง คิดถึงแต่เขาเป็นอันดับแรก ขอให้ตระกูลท่านตาช่วยเหลือเขา นางคิดว่าความจริงใจของนางจะทำให้เขาเห็นใจนางบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเป็นอย่างไร?

เขาฆ่าลูกของนาง และฆ่าคนในตระกูลท่านตาทั้งหมด

นางสูญเสียทุกอย่าง เพื่อแลกกับจุดจบที่น่าอนาถเช่นนี้

เจียงเสวี่ยลั่วพูดถูก……

นางโง่เขลาถึงเพียงนี้! เบาปัญญาถึงเพียงนี้!!

ความเกลียดชังและความเสียใจโถมเข้าใส่หัวใจอย่างรุนแรง

อวิ๋นชิงฮวนรู้สึกเจ็บปวดที่ใจราวกับถูกบีบ ร่างกายราวกับจมอยู่ในเลือดเย็น วิญญาณค่อย ๆ หลุดลอยออกมา

หากมีชีวิตหน้า… นางจะมิโง่เขลาเช่นนี้ และจะมิเชื่อใจผู้อื่นอีก

“คุณหนูเสวี่ยลั่ว นางคนชั้นต่ำนี่สิ้นใจแล้วเจ้าค่ะ!” สาวใช้อุทานด้วยความประหลาดใจ

เจียงเสวี่ยลั่วแสดงความมิพอใจออกมา “แค่นี้ก็ตายแล้วรึ? ปล่อยนางไปง่ายเกินไปแล้ว ลากนางลงไปเร็วเข้า…”

อวิ๋นชิงฮวนรู้สึกเหมือนวิญญาณของตัวเองลอยขึ้นไปในอากาศ มองดูร่างที่น่าสงสารบนเตียงที่ยังมิหลับตา

นางมองดูร่างของตัวเองถูกคนรับใช้ห่อด้วยผ้าป่านแล้วโยนทิ้งไปที่ป่าช้ารกร้างนอกเมือง ไม่มีใครฝังศพนาง ร่างกายค่อย ๆ เน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นไปวัน ๆ จนสุนัขป่าเข้ามากัดกิน

จนกระทั่งวันหนึ่ง ร่างกายก็มิเหลืออะไรเลย

วิญญาณของนางเลื่อนลอยกลับสู่เมืองหลวง เห็นจวนอ๋องฉู่ใต้ประดับประดาไปด้วยสีแดงฉาน เพื่อต้อนรับพระชายาองค์ใหม่

นางเห็นเจียงเสวี่ยลั่วในชุดเจ้าสาว ท่านพ่อและเจียงอี๋เหนียง[footnoteRef:1]นั่งบนเก้าอี้ของพ่อแม่ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม [1: อี๋เหนียง เป็นคำเรียกอนุภรรยา]

ตอนเซียวเหยียนและเจียงเสวี่ยลั่วทำพิธีคำนับฟ้าดิน แม่สามีที่เคยเย็นชาใส่นางกลับจับมือเจียงเสวี่ยลั่ว รอยยิ้มราวกับได้เจอลูกสาวแท้ ๆ

นางเห็นจักรพรรดิกำลังจะสิ้นลมหายใจ องค์รัชทายาทยิ้มแย้มเตรียมขึ้นครองบัลลังก์ เซียวเหยียนและเจียงเสวี่ยลั่วเป็นคนแรกที่คุกเข่าแสดงความยินดี

แต่ทว่า ในคืนนั้น……

ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการก่อกบฏ บุกเข้าวังหลวง สังหารองค์จักรพรรดิและองค์รัชทายาท……

เหยียบย่ำกองเลือดขึ้นสู่บัลลังก์

วิญญาณของอวิ๋นชิงฮวนล่องลอยอย่างเลื่อนลอยในอากาศ มองดูจักรพรรดิองค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์ ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง ทรงพระเจริญหมื่นปี ที่ดังกึกก้องไปทั่วทั้งขุนเขา

จักรพรรดิผู้สง่างามและเย็นชา เหลือบมองขึ้นไปบนฟ้า

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status