Share

บทที่ 6

ขบวนเจ้าสาวของนาง ไปชนกับขบวนของเซ่อเจิ้งอ๋องได้อย่างไร? ทั้ง ๆ ที่ชาติที่แล้วไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น…

หรือเป็นเพราะชาตินี้นางเรียกร้องสินเดิมของท่านแม่ ทำให้เสียเวลา จนบังเอิญมาเจอกันพอดี?

อวิ๋นชิงฮวนมิทันได้คิดอะไรมาก ได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก ก็แอบเปิดมุมผ้าม่านเล็กน้อย แล้วมองออกไปข้างนอก

ในเวลาเดียวกัน เซียวเหยียนขี่ม้าอยู่นั้นมีสีหน้ามิสู้ดีนัก

ตรงข้ามกับขบวนเจ้าสาว มีขบวนรถม้าเหล็กขนาดใหญ่คันหนึ่ง มีกองทหารเกราะหนักติดอาวุธครบมือคอยคุ้มกันขบวนรถม้าอย่างแน่นหนา ขวางอยู่กลางถนน มิยอมหลีกทางให้แม้แต่น้อย

ท่าทางแบบนั้น บรรยากาศแบบนั้น คนที่มิรู้อาจจะคิดว่ามาชิงเจ้าสาว

ชาวบ้านที่อยู่ข้างทางต่างพากันซุบซิบ

“ข้าน้อยคือเซียวเหยียนแห่งจวนอ๋องฉู่ใต้ วันนี้ข้าน้อยมาเพื่อรับพระชายาตามพระราชโองการ มินึกว่าจะขวางทางของเซ่อเจิ้งอ๋อง ขอเซ่อเจิ้งอ๋องโปรดทรงอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

เซียวเหยียนกล่าวพร้อมกับโค้งคำนับ

ภายในรถม้าที่ทำจากเหล็กดำนั้นเงียบสนิท ไม่มีผู้ใดสนใจเขา

“จวนอ๋องฉู่ใต้นับว่าเป็นอะไร?” หัวหน้าองครักษ์ เจี่ยงหยวนซิ่ง ผู้ยืนอยู่หน้าแถวพูดอย่างดูถูก “คิดว่ามีราชโองการแล้วจะใหญ่โตหรือ? ท่านหมายความว่า จะให้ท่านอ๋องของพวกเราหลีกทางให้ท่านงั้นหรือ?”

“มิกล้า แต่ฤกษ์มงคลของงานแต่งงานได้กำหนดไว้แล้ว องค์รัชทายาทและองค์ชายต่าง ๆ กำลังรออยู่ในจวนอ๋อง...”

เจี่ยงหยวนซิ่งเยาะเย้ยและขัดจังหวะ “ท่านจะเอาองค์รัชทายาทมากดดันพวกเรางั้นหรือ? ท่านอ๋องของพวกเราเป็นคนขัดขวางมิให้ท่านแต่งงานหรือ? ท่านต่างหากที่ขวางทางท่านอ๋อง! แค่จวนอ๋องฉู่ใต้เล็ก ๆ ท่านกล้าให้เซ่อเจิ้งอ๋องหลีกทางให้ท่านงั้นหรือ? ช่างกล้าหาญนัก”

เซียวเหยียน “...”

อวิ๋นชิงฮวนในเกี้ยวเจ้าสาวเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา

นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นมีคนมิให้เกียรติเซียวเหยียนเช่นนี้

“เลิกพูดพล่ามเถอะ! ทางที่ดีพวกท่านหลีกทางไปเงียบ ๆ ไม่งั้น… หากท่านอ๋องของเราอารมณ์มิดี วันมงคลเช่นนี้จะต้องได้เห็นเลือด ชุดเจ้าบ่าวของท่านยังแดงมิพอหรือ?”

ทั้งราชสำนักรู้ดีว่า เซ่อเจิ้งอ๋องเซียวจื๋อเยี่ยนเป็นคนอารมณ์ร้าย

เขามิเคยรังแกชาวบ้าน แต่ชอบที่จะลงโทษขุนนางในราชสำนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อพระวงศ์

ยิ่งมีฐานันดรสูง เขาก็ยิ่งชอบ โดยเฉพาะพวกหัวแข็ง

เขาเป็นคนนิสัยแปลก อารมณ์แปรปรวน

พวกนี้มันข่มเหงคนอื่นเพราะมีอำนาจ!

เซียวเหยียนมีสีหน้าเคร่งขรึม มิต้องการเสี่ยง จึงกัดฟันพูดว่า “องครักษ์เจี่ยงพูดถูก ข้า… จะหลีกทางให้”

ขบวนแต่งงานขนาดใหญ่หลีกทางไปทั้งสองข้าง แม้แต่เกี้ยวเจ้าสาวที่อยู่ตรงกลางก็ต้องขยับไปด้านข้าง

ตรงกลางจึงมีทางกว้างขวาง

ขบวนของจวนเซ่อเจิ้งอ๋องก็มิเกรงใจเช่นกัน เดินอย่างอวดเบ่งไปตามทางนี้ ผ่านขบวนแต่งงานไป

อวิ๋นชิงฮวนนั่งอยู่ในเกี้ยวเจ้าสาว ค่อย ๆ เปิดม่านหน้าต่างเพื่อมองออกไปข้างนอก

รถม้าเหล็กสีดำที่หรูหราและโอ่อ่าเคลื่อนผ่านมาอย่างช้า ๆ สวนกับเกี้ยวเจ้าสาวของนางที่ประดับด้วยผ้าไหมสีแดงและลวดลายทอง

ในขณะนั้นเอง อวิ๋นชิงฮวนที่กำลังมองออกไปจากเกี้ยวเจ้าสาว ได้เหลือบไปเห็นใบหน้าด้านข้างของบุรุษคนหนึ่งที่กำลังหลับตาพิงหน้าผากอยู่ที่หน้าต่างรถม้าที่เปิดอยู่ครึ่งบาน

ยังมิทันที่นางจะได้สติ

เซียวจื๋อเยี่ยนเหมือนจะรู้สึกตัวได้ จึงหันศีรษะไปทันที

แววตาคมกริบที่เย็นชาคู่หนึ่ง จ้องมองนางอย่างเย็นชาผ่านหน้าต่างรถม้า…

“!!” อวิ๋นชิงฮวนตกใจจนมือหดกลับ ม่านของเกี้ยวเจ้าสาวก็ตกลงมา ปิดบังใบหน้าของนาง

หัวใจเต้นแรง

เซียวจื๋อเยี่ยนที่อยู่บนรถม้ามีสีหน้าเฉยเมย เก็บสายตาแล้วหลับตาลงต่อไป

จนกระทั่งขบวนทั้งหมดของเซ่อเจิ้งอ๋องผ่านขบวนแต่งงานไปไกลแล้ว ขบวนแต่งงานจึงเริ่มเดินทางต่อ

เจี่ยงหยวนซิ่งขี่ม้าช้า ๆ มาถึงหน้าต่างรถม้า เสียงทุ้มต่ำดังมาจากภายใน “เซียวเหยียนแต่งงานกับใครหรือ?”

“ท่านอ๋องมิทรงทราบหรือพ่ะย่ะค่ะ? แต่งกับหลานสาวของนายท่านตระกูลถัง คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลอวิ๋น อวิ๋นชิงฮวนพ่ะย่ะค่ะ”

เจี่ยงหยวนซิ่งทำปากจู๋ “แม่นางผู้นี้ชื่อเสียงดี ได้ยินว่ารูปโฉมงดงามนัก น่าเสียดายที่ต้องแต่งกับคนเสแสร้งอย่างเซียวเหยียน ท่านอ๋องเห็นตอนผ่านขบวนเจ้าสาวหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ งดงามหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

ภายในรถม้าเงียบกริบ

เจี่ยงหยวนซิ่งทำปากจู๋อีกครั้ง “เซียวเหยียนนี่วาสนาดีจริง ๆ ข้าน้อยเห็นเขาอยู่กับสตรีผู้หนึ่งในภัตตาคารเมื่อสองวันก่อน กอดจูบกันมิหยุด สตรีผู้นั้นดูยังมิแต่งงานด้วย มิรู้ว่าเป็นลูกสาวบ้านไหน กล้ากอดบุรุษในภัตตาคารกลางวันแสก ๆ ทำไมข้ามิเจอเรื่องดี ๆ เช่นนี้บ้าง?”

“พูดมาก” เซียวจื๋อเยี่ยนในรถม้าฟังอย่างเบื่อหน่าย “เรื่องที่ให้เจ้าสืบเป็นอย่างไรบ้าง?”

เจี่ยงหยวนซิ่งลดเสียงลง “ท่านอ๋อง ข้าน้อยให้คนสืบหลายรอบแล้ว แต่ก็มิรู้ว่าสตรีที่วัดวันนั้นเป็นใคร... หาไปทั่วเมืองหลวงแล้ว ก็มิเห็นมีคุณหนูบ้านไหนออกนอกเมืองวันนั้นเลย หรือว่าจะเป็นสาวชาวบ้านพ่ะย่ะค่ะ?”

“เป็นไปมิได้ นางมิใช่คนธรรมดา”

เซียวจื๋อเยี่ยนพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่า ครอบครัวชาวบ้านธรรมดา เลี้ยงดูสตรีเช่นนางมิได้

ผิวของนางขาวราวกับหิมะ ไม่มีตำหนิใด ๆ และไม่มีร่องรอยของการทำงานหนัก

แม้ว่าข้าจะจำใบหน้าของนางมิได้ แต่เพียงแค่ผิวพรรณ รูปร่าง และกลิ่นหอมของยาที่เป็นเอกลักษณ์ของนาง…

เซียวจื๋อเยี่ยนสรุปได้ว่า นางมิน่าจะเป็นสตรีธรรมดาที่มาจากครอบครัวเล็กๆ

เจี่ยงหยวนซิ่งยังคงถามอย่างโง่เขลาว่า “ท่านอ๋องมั่นใจได้อย่างไร? ท่านมิรู้จักนางมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”

เซียวจื๋อเยี่ยนมิได้สนใจเขา

ครู่หนึ่ง เขาก็พูดอย่างเย็นชาว่า “หามิเจอก็หาต่อไป หากไม่มีในเมืองหลวงก็ไปหาแถวรอบ ๆ ขยายพื้นที่ค้นหา จนกว่าจะพบ”

“แล้วหากหามิเจอจริง ๆ เล่าพ่ะย่ะค่ะ? อย่างไรท่านอ๋องก็ต้องอภิเษกสมรส… องค์จักรพรรดิทรงเร่งท่านมาแปดร้อยครั้งแล้วหนาพ่ะย่ะค่ะ”

“มิใช่ว่าข้าให้ป้ายหยกแก่นางไปแล้วหรือ?”

“ให้ป้ายหยกไปแล้ว แต่คนหนีไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ! หาเป็นเดือนแล้วไม่มีข่าวอะไรเลย ข้าน้อยก็เป็นห่วงท่าน หากหามิเจอจริง ๆ แม้แต่ป้ายหยกก็หาย ต่อไปหากท่านอ๋องอภิเษกกับพระชายาในอนาคต จะใช้อะไรเป็นของหมั้นเล่าพ่ะย่ะค่ะ...”

เจี่ยงหยวนซิ่งยังพูดมิจบ ก็รู้สึกเย็นวาบที่หลัง

เมื่อหันกลับไปมอง ก็เห็นท่านอ๋องของเขากำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา

“ข้าน้อยพูดผิดไปแล้ว ตบปาก ตบปาก ท่านต้องหาเทพธิดาผู้นั้นพบ และแต่งเข้ามาเป็นพระชายาของเราได้แน่พ่ะย่ะค่ะ!”

เจี่ยงหยวนซิง่ยิ้มแห้ง ๆ แล้วตบปากตัวเองพลางรีบประจบประแจง

เซียวจื๋อเยี่ยนมองด้วยสายตาเหยียดหยามแล้วหันกลับไป

“รีบไปหา ลักษณะของนางข้าบอกเจ้าไปหมดแล้ว” ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วเตือนอีกครั้ง “ห้ามแพร่งพรายออกไป”

“พ่ะย่ะค่ะ...”

เจี่ยงหยวนซิ่งบ่นในใจ ‘อยากจะหา แต่ลักษณะที่ท่านให้มามันคืออะไรกัน?’

ผิวขาว มีกลิ่นหอมของยาบนตัว

มีแผลเป็นรูปดอกท้อสีแดงอ่อน ๆ ที่ไหล่……

จะให้เขาไปหาที่ใดกันเล่า?

เขามิสามารถไปเปิดอาภรณ์ของสตรีทุกคนที่ผิวขาวและมีกลิ่นหอมเพื่อดูแผลเป็นได้ หากหาผิด สตรีผู้นั้นและครอบครัวจะฆ่าเขา หากหาถูกคน… ท่านอ๋องก็จะฆ่าเขา

เฮ้อ ชีวิตเขานี่ช่างอาภัพเสียจริง!

เหล่าทหารองครักษ์คุ้มกันรถม้า ออกจากเมืองหลวงไป

ขบวนแต่งงานสิบลี้สีแดงของเมืองหลวงค่อย ๆ เลือนหายไป

เซียวจื๋อเยี่ยนถามขึ้นอีกครั้งว่า “เมื่อครู่เจ้าบอกว่า เซียวเหยียนแต่งงานกับผู้ใดนะ?”

“คุณหนูใหญ่ตระกูลอวิ๋นพ่ะย่ะค่ะ”

“เป็นหลานสาวคนเดียวของตระกูลถังงั้นหรือ?”

“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ” เจี่ยงหยวนซิ่งเกาหัวด้วยความงุนงง “มิเคยได้ยินว่าฮูหยินถังมีลูกคนอื่น ท่านอ๋องถามเรื่องนี้ด้วยเหตุใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

เซียวจื๋อเยี่ยนมิพูดอะไร หมุนแหวนหยกที่นิ้วช้า ๆ

“หรือว่าท่านอ๋องทรงโปรดนางเข้าแล้วพ่ะย่ะค่ะ? ตอนที่ผ่านเกี้ยวเจ้าสาวเมื่อครู่นี้ ท่านก็จ้องมองมาตลอด ภายในเวลามินานนี้ก็ถามซ้ำสองรอบแล้ว”

เจี่ยงหยวนซิ่งพูดพลางเลิกคิ้วขึ้น “หากท่านชอบจริง ๆ ตอนนี้กลับไปชิงตัวมาก็ยังทันพ่ะย่ะค่ะ ยังมิได้เข้าหอ…”

ยังมิทันได้พูดจบ

เซียวจื๋อเยี่ยนก็หยุดมือ เงยหน้าขึ้นอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “กลับขบวน ไปจวนอ๋องฉู่ใต้!”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status