หลังจากเกิดอุบัติเหตุบนถนน กว่าที่ขบวนแต่งงานจะมาถึงจวนอ๋องฉู่ใต้ ท้องฟ้าก็มืดค่ำแล้วอวิ๋นชิงฮวนถูกพาลงจากเกี้ยวเจ้าสาว ก้าวข้ามกระถางไฟ และเข้าประตูหลักทำพิธีคารวะหลังจากเสร็จพิธี แขกเหรื่อทั้งหลายต่างแสดงความยินดี เสียงดนตรีและประทัดดังสนั่นหวั่นไหวเจ้าบ่าว เซียวเหยียน กล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน จากนั้นก็จูงมืออวิ๋นชิงฮวนที่ถือผ้าไหมสีแดงเข้าห้องหอตามประเพณีงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสเริ่มต้นขึ้นอย่างราบรื่นอวิ๋นชิงฮวนนั่งตัวตรงบนเตียงแต่งงาน ผ้าคลุมหน้าปักลายหงส์สีทองแดงคลุมศีรษะ สาวใช้และแม่สื่อในห้องต่างยิ้มแย้ม“เชิญให้เจ้าบ่าวเปิดผ้าคลุมหน้า”เซียวเหยียนหยิบผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวขึ้นอย่างเย็นชา แล้วเปิดผ้าคลุมสีแดงบนศีรษะของนางขึ้นทันใดนั้น ห้องทั้งห้องก็สว่างไสวอวิ๋นชิงฮวนสวมชุดแต่งงานสีแดงเพลิง สวมเครื่องประดับศีรษะและผ้าคลุมหน้า นางมีใบหน้าที่งดงาม ผิวขาวราวหิมะ รูปร่างที่งดงามไร้ที่ติ และลวดลายดอกท้อบนหน้าผากของนางยิ่งทำให้นางดูสวยสง่าและมีเสน่ห์ บุคลิกสง่างามแฝงความเย็นชาเล็กน้อย...นี่คืออวิ๋นชิงฮวนงั้นหรือ?เซียวเหยียนเหม่อไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติกลับ
คู่หงส์ป่าพลันตกใจเจียงเสวี่ยลั่วตกใจสุดขีด รีบหลบไปอยู่ข้างหลังเซียวเหยียนทันทีเซียวเหยียนยื่นมือออกไปปกป้องนาง สีหน้าเคร่งขรึมมองไปที่ปากซอย “องครักษ์เจี่ยง? เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”ที่ปากทางตรอก แสงไฟสว่างไสวกองทหารเกราะหนักที่ดูคุ้นเคยดีกำลังคุ้มกันขบวนรถม้าหุ้มเหล็กสุดหรูหราโอ่อ่าที่จอดอยู่ตรงปากทางตรอก หน้าต่างรถม้าเปิดออกครึ่งหนึ่ง แต่ก็มองมิเห็นว่าผู้ใดนั่งอยู่ข้างในเจี่ยงหยวนซิ่งยืนอยู่หน้ารถม้า กอดอก พลางพูดจาเยาะเย้ย“อ๋องฉู่ใต้ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้! ก่อนหน้านี้ยังแอบพบหญิงงามที่ภัตตาคาร วันนี้ก็เพิ่งแต่งงานกับพระชายาองค์ใหม่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง บัดนี้ยังมิทันเข้าหอ ก็มาพบปะกับหญิงงามในตรอกมืดอีก โชคดีเรื่องสตรีเช่นนี้ ไฉนมิสอนกระหม่อมบ้างเล่า?”“ท่านพี่เซียวเหยียน...”เจียงเสวี่ยลั่วได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจ รีบจับอาภรณ์ของเขา“หากองครักษ์เจี่ยงอยากมาดื่มเหล้าฉลองที่จวนของข้า ข้ายินดีต้อนรับ แต่เรื่องส่วนตัวของข้า มิต้องลำบากเจ้ามาสนใจหรอก” เซียวเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเจี่ยงหยวนซิ่งคิดในใจ คนหน้าไหว้หลังหลอกผู้นี้หน้าหนาจริงๆ “ท่านอ๋องของเรามาแสดงความยินด
เซียวเหยียนถึงกับพูดมิออกปี้เถาเห็นท่ามิดี กำลังจะร้องขอความเมตตาแต่อวิ๋นชิงฮวนกลับสั่งว่า “นำตัวปี้เถาออกไป ตบปากห้าสิบที”แม่นมซุนส่งสายตาให้ เหล่าสาวใช้ที่ติดตามมาในขบวนเจ้าสาวก็พุ่งเข้าไปลากตัวปี้เถาออกไปลงโทษทันทีเซียวเหยียนมิได้ขัดขวางเซียวจื๋อเยี่ยน องค์รัชทายาท และแขกเหรื่อคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ตรงประตู ต่างมองดูพระชายาฉู่ใต้ที่เพิ่งเข้าพิธีมาใหม่ จัดการสาวใช้คนสนิทของเซียวเหยียนอย่างมิไยดี มิไว้หน้าเขาแม้แต่น้อยดูเหมือนคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลอวิ๋นผู้นี้จะมิใช่หมูให้เคี้ยวง่าย ๆ เสียแล้ว!เซียวจื๋อเยี่ยนก้าวเข้าไปข้างใน องค์รัชทายาทและคนอื่น ๆ ก็รีบตามเข้าไป“อาเหยียนนี่ได้พระชายาที่ดีจริง ๆ รู้จักให้รางวัลและลงโทษอย่างยุติธรรม เด็ดเดี่ยวแต่มิแข็งกระด้าง สมกับเป็นภรรยาเอกของตระกูล เห็นได้ชัดว่าตระกูลอวิ๋นสั่งสอนบุตรีได้ดีจริง ๆ”เมื่อรัชทายาทเอ่ยปาก แขกเหรื่อคนอื่น ๆ ก็เริ่มกล่าวคำยกย่องตามกันมา“ใช่แล้ว พระชายาอ๋องฉู่ใต้ช่างสง่างาม สมกับเป็นคู่ที่ฟ้าสร้างมาจริง ๆ”“องค์จักรพรรดิช่างมีสายพระเนตรที่เฉียบแหลมยิ่งนัก”อวิ๋นชิงฮวนก้าวไปข้างหน้า ค้อมกายคำนับอย่างสง่างาม ท
ในชั่วพริบตา ดวงตาของเซียวเหยียนหดเกร็ง เขาคว้าคอเสื้อของเซียวจื๋อเยี่ยนอย่างแรง เสียงของเขาเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง“เซียวจื๋อเยี่ยน!”เซียวจื๋อเยี่ยนมิตกใจเลยแม้แต่น้อย เขาสูงกว่าเซียวเหยียนเล็กน้อย ดวงตาที่เรียวยาวมองลงมาที่เขา นั่นคือการดูถูกเหยียดหยามจากเบื้องบน…และความเย่อหยิ่งดูถูกที่เพิกเฉยต่อผู้อื่นโดยสิ้นเชิง“อาเหยียน!”“เหยียนเอ๋อร์!”องค์รัชทายาท ไท่เฟยฉู่ใต้ และแขกผู้มีเกียรติต่างตกตะลึง องค์รัชทายาทรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดเขา “อาเหยียน เจ้ากำลังทำอะไร? อย่าได้แสดงความมิเคารพต่อเสด็จอา รีบปล่อยมือเดี๋ยวนี้!”“เหยียนเอ๋อร์ เขาคือเซ่อเจิ้งอ๋อง เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ?”เซียวเหยียนมิได้ยิน และจ้องมองเซียวจื๋อเยี่ยนด้วยความโกรธราวกับอยากจะต่อยหน้าเขา“เซียวเหยียน!” องค์รัชทายาทก็โกรธเช่นกันเมื่อเห็นสถานการณ์ชุลมุน แขกเหรื่อจึงรีบเข้ามาห้ามปรามอวิ๋นชิงฮวนเองก็ทนดูต่อไปมิไหว นางขมวดคิ้วเล็กน้อย ก้าวไปข้างหน้าจับแขนของเซียวเหยียน“เซียวเหยียน ท่านปล่อยเขาก่อน สงบลงหน่อย”เซียวเหยียนกัดฟันกรอด ปล่อยมือ แล้วมองไปที่อวิ๋นชิงฮวนอีกครั้งอวิ๋นชิงฮวนกำลังมองเซียวจื๋อเยี่
เซียวเหยียนโกรธจนตัวสั่นนี่มันเรือนหอของเขา คืนเข้าหอของเขา!องค์รัชทายาทกระชากแขนเขาแล้วลากออกไป “เสด็จป้าพูดถูกแล้ว เจ้าดื่มมากไปแล้ว รีบไปข้างนอกกับข้าให้สร่างเมาหน่อยดีกว่า”ไท่เฟยฉู่ใต้รีบเรียกสาวใช้ให้ตามไป เจียงเสวี่ยลั่วก็แอบปะปนไปด้วยเมื่อเห็นดังนั้น เจี่ยงหยวนซิ่งก็เดินออกไปพลางหัวเราะ “แกล้งบ่าวสาวก็แล้ว ดูเจ้าสาวก็แล้ว ก็ควรกลับไปดื่มต่อได้แล้ว!”“ใช่ ๆ ๆ พวกเราก็ควรกลับไปที่งานเลี้ยงได้แล้ว”“ขอตัวก่อน...”แขกที่อยู่ด้านล่างเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน วิ่งหนีกันเหมือนภัยจะมา“นี่!” อวิ๋นชิงฮวนยังมิทันได้ห้าม ก็มีเสียงดังปัง!ประตูเรือนหอปิดลงแล้วเหลือเพียงนางและเซียวจื๋อเยี่ยนสองคนที่ยืนอยู่ในเรือนหอซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขเมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของบุรุษที่อยู่ด้านหลัง จิตใจของอวิ๋นชิงฮวนก็เริ่มสั่นคลอนในคืนแต่งงานของชาติที่แล้ว นางสลบไปหลังจากดื่มเหล้าเพียงแก้วเดียว อย่างน้อยก็ได้นอนหลับสบายแล้วครั้งนี้เล่า?แย่ยิ่งกว่าเดิม ทุกอย่างวุ่นวายไปหมดและต้นเหตุของทั้งหมดนี้ ก็เพราะคนที่อยู่ข้างหลังนาง... เซ่อเจิ้งอ๋องที่นางมิสามารถยั่วยุได้!อวิ๋นชิงฮวนห
เซียวจื๋อเยี่ยนพยักหน้า “เจ้าโกรธข้า ก็สมควรแล้ว”อวิ๋นชิงฮวนแปลกใจเล็กน้อย แต่มิกล้าเชื่อ “หม่อมฉันล้อเล่นเพคะ ท่านอ๋องอย่าถือสา หม่อมฉันมิได้โกรธจริง ๆ เพคะ”“เจ้าชอบเซียวเหยียนมากขนาดนั้นเลยหรือ?”เซียวจื๋อเยี่ยนขมวดคิ้วในความคิดของเขา คนที่อดทนได้ถึงขนาดนี้แล้วยังมิโกรธ ต้องเป็นคนโง่หรือไม่ก็ซื่อบื้อเขามองไปที่ใบหน้าของอวิ๋นชิงฮวนที่ยังคงแต่งหน้าเจ้าสาว รู้สึกว่านางมิเหมือนคนแบบนั้น เช่นนั้นก็คงเป็นรักแท้อวิ๋นชิงฮวนมองเขาอย่างประหลาดใจ มิได้ตอบอะไรนางดึงหัวข้อสนทนากลับมา “ท่านอ๋อง ท่านมาหาหม่อมฉันเพราะเรื่องตระกูลถังหรือเพคะ?”“มิใช่” เซียวจื๋อเยี่ยนปฏิเสธโดยตรงหยุดชะงักครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “อาจจะเกี่ยวข้องกันบ้าง”“หม่อมฉันขอฟังรายละเอียดเพคะ”เซียวจื๋อเยี่ยนหมุนแหวนหยกที่นิ้วของเขา “ข้าได้ยินมาว่าตอนที่แม่ของเจ้าออกเรือน ตระกูลถังได้มอบโสมหิมะพันปีหายากเป็นสินเดิม เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวชีวิต หลังจากที่นางเสียชีวิต ของหมั้นเหล่านั้นก็ตกเป็นของเจ้า”อวิ๋นชิงฮวนเข้าใจในทันที “ท่านอ๋องต้องการโสมหิมะหรือเพคะ?”เซียวจื๋อเยี่ยนพยักหน้าและพูดว่า “เจ้าสามารถเสนอเงื
เซียวเหยียนมิใช่ว่ามิอยากช่วยหาคู่ให้กับองค์รัชทายาทหรอกกระมังแต่เมื่อนึกถึงสายตาที่เซียวจื๋อเยี่ยนมองอวิ๋นชิงฮวนนั้น…เซียวเหยียนก็รู้สึกอึดอัด“เหยียนเอ๋อร์!”ไท่เฟยฉู่ใต้รีบร้อนเข้ามา จับเซียวเหยียนสำรวจดู “เจ้ามิเป็นไรใช่หรือไม่? มีบาดแผลตรงไหนหรือไม่? มิเช่นนั้นให้หมอหลวงมาดูเจ้าหน่อย...”“มิต้องแล้ว ข้ามิเป็นไร”เซียวเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“ปกติเห็นเจ้าสุขุมเยือกเย็น วันนี้ไฉนจึงได้โง่เขลาเช่นนี้? รู้ทั้งรู้ว่าเซียวจื๋อเยี่ยนเป็นคนอารมณ์ร้าย เจ้ายังจะไปหาเรื่องเขาอีก โชคดีที่เขายังเกรงใจตระกูลพระชายาของเจ้าอยู่บ้าง มิเช่นนั้นเจ้าจะมิแย่เลยรึ?”ไท่เฟยฉู่ใต้พร่ำบ่นสีหน้าของเซียวเหยียนดูแย่มาก“แล้วก็เจียงเสวี่ยลั่วคนนั้น รีบส่งนางกลับไปเสีย! ต่อไปห้ามไปมาหาสู่กับนางอีก มิเช่นนั้นจะทำให้ชื่อเสียงของเจ้าเสียหาย”ไท่เฟยฉู่ใต้พูดขึ้นอีก“เสด็จป้าวางใจเถิด อาเหยียนรู้ว่าต้องทำอย่างไร ท่านควรกลับไปต้อนรับแขกที่ลานหน้าได้แล้ว” องค์รัชทายาทกล่าวด้วยรอยยิ้ม“เช่นนั้น ก็ขอฝากองค์รัชทายาทด้วยเพคะ”หลังจากที่ไท่เฟยฉู่ใต้จากไปพร้อมกับนางรับใช้ เจียงเสวี่ยลั่วที่ร้องไห้ตาแ
เหล่าสาวใช้ต่างตกตะลึง เมื่อเห็นว่านางเดินออกไปพร้อมกับแม่นมซุนแล้ว จึงรีบตามไปอวิ๋นชิงฮวนเดินนำสาวใช้และป้า ๆ อย่างสง่างามพร้อมตะเกียงไฟผ่านจวนอ๋องฉู่ใต้ไปยังสวนดอกไม้ด้านตะวันตกที่นี่มีสระบัวอันเงียบสงบ ซึ่งเป็นสถานที่โปรดของเจียงเสวี่ยลั่วในชาติที่แล้วจากระยะไกลทุกคนเห็นชายหญิงคู่หนึ่งอิงแอบแนบชิดกันอยู่ริมสระบัวชุดเจ้าบ่าวสีแดงสดของชายหนุ่มนั้นสะดุดตามาก หญิงสาวในอ้อมแขนของเขาสวมชุดสีขาวพลิ้วไหว ดูราวกับคู่รักใต้แสงจันทร์สาวใช้ทั้งหลายหน้าถอดสี หันไปมองพระชายาโดยมิรู้ตัวแต่อวิ๋นชิงฮวนยังคงมีสีหน้าสงบนิ่ง เดินตรงไปพร้อมกับแม่นมซุน แสงสว่างจากตะเกียงจำนวนมากทำให้คนสองคนที่อยู่ริมสระบัวพลันตกใจ“อวิ๋นชิงฮวน เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”เซียวเหยียนหันมาเห็นนาง สีหน้าเคร่งขรึม แต่ก็มิได้ตื่นตระหนกทว่าเจียงเสวี่ยลั่วมีปฏิกิริยาที่รุนแรงกว่ามากเมื่อเห็นอวิ๋นชิงฮวนเดินเข้ามา นางเหมือนกระต่ายตื่นตูม รีบผลักเซียวเหยียนออก และถอยไปด้านข้างอย่างหวาดกลัวและทำอะไรมิถูก อวิ๋นชิงฮวนมาที่นี่ได้อย่างไร? ในคืนแต่งงาน นางมิควรออกจากห้องหอมิใช่หรือ? นางหาที่นี่เจอได้อย่างไร…“มิเห็นท่า