Share

บทที่ 5

ลูกในท้องของนาง

ในชาติที่แล้วถูกเซียวเหยียนและเจียงเสวี่ยลั่วประณามว่าเป็นลูกนอกสมรส เพิ่งเกิดก็ถูกฆ่าตายในสระบัว

นางช่างมิเอาไหน แม้แต่ลูกของตนก็ยังปกป้องมิได้

เมื่อได้กลับมาอีกครั้ง นางจะมิยอมทำผิดซ้ำอีก แม้ว่าจะต้องฝ่าฝืนพระราชโองการ นางจะต้องแต่งงานเข้าจวนอ๋องฉู่ใต้ นางต้องต่อสู้เพื่อหาทางรอดให้ตัวเองและลูกในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยอันตราย

อวิ๋นชิงฮวนไม่มีเวลาจมอยู่กับความเจ็บปวดและความเสียใจ

ในเวลานี้ เจียงเสวี่ยลั่วรู้ว่านางเสียความบริสุทธิ์แล้ว และบอกเรื่องนี้กับเซียวเหยียน เพื่อให้เซียวเหยียนรังเกียจนางตั้งแต่แรก

แต่เจียงเสวี่ยลั่วยังมิรู้เรื่องที่นางอตั้งครรภ์

หนึ่งเดือนก่อน นางถูกเจียงเสวี่ยลั่วหลอกไปเที่ยวชมธรรมชาติที่ชานเมือง แล้วถูกพาเข้าไปในป่าจนหลงทางอยู่คนเดียว

นางเจอกับกลุ่มชายสกปรก เกือบจะถูกข่มขืน นางพยายามหนีออกมาและซ่อนตัวอยู่ในวัดร้าง แต่เพราะความตกใจทำให้นางมีไข้สูง ในขณะที่นางมีไข้และเบลอ ก็มีบุรุษผู้หนึ่งที่เต็มไปด้วยเลือดบุกเข้ามา......

บุรุษผู้นั้นถูกวางยาอย่างแรงจนหมดสติไป และเขาก็พบนาง

จากนั้น… เขาก็ขืนใจนาง

ตลอดเวลาที่เกิดเรื่อง จิตใจของอวิ๋นชิงฮวนเลือนราง นางจำได้เพียงว่าถูกกระทำอย่างโหดร้าย อาภรณ์ก็ถูกฉีกขาด

เมื่อตื่นขึ้นมา นางพบว่าตัวเองนอนอยู่ในมุมลับตาของวัดร้าง สวมอาภรณ์ของบุรุษผู้นั้น ข้างกายมีเพียงหยกแผ่นหนึ่งสลักตัวอักษร “เซียว” นางจำได้ราง ๆ ว่าบุรุษผู้นั้นให้รออยู่ที่นี่ แล้วเขาจะส่งคนมารับนาง

แต่ในตอนนั้นนางตกใจอย่างมาก จะกล้าอยู่ต่อไปได้อย่างไร?

จึงรีบพันอาภรณ์แล้วหนีออกจากวัดร้างด้วยความหวาดกลัว

ระหว่างทางกลับบ้าน นางได้พบเจียงเสวี่ยลั่วที่กำลังตามหานาง

เมื่อเจียงเสวี่ยลั่วเห็นนางอยู่ในสภาพอาภรณ์ของบุรุษที่ดูยับเยิน และมีร่องรอยบนร่างกาย จึงรีบถามว่าเกิดอะไรขึ้น

ด้วยความตื่นตระหนก นางจึงเล่าทุกอย่างให้เจียงเสวี่ยลั่วฟังโดยมิทันคิด

เจียงเสวี่ยลั่วบอกว่าจะช่วยนางหาอาภรณ์มาให้ พานางกลับบ้านอย่างเงียบ ๆ และปกปิดร่องรอยต่าง ๆ ราวกับว่าเรื่องนี้มิเคยเกิดขึ้น

อวิ๋นชิงฮวนก็อยากจะทำเหมือนว่าเรื่องนี้มิเคยเกิดขึ้น

แต่เพียงครึ่งเดือนต่อมา นางก็เริ่มอาเจียนมิหยุด

แม่ของนางมาจากตระกูลแพทย์ นางเรียนแพทย์กับแม่มาตั้งแต่เด็ก เพียงแค่จับชีพจรก็รู้แล้วว่าตัวเองตั้งครรภ์

เป็นลูกของบุรุษผู้นั้น!

อวิ๋นชิงฮวนตกใจมาก

การเสียพรหมจรรย์ในเรือนนั้นนับว่าเป็นความผิดถึงตาย หากยังมีลูกอีก มิเพียงแต่นางจะไม่มีหน้าไปเผชิญผู้คน แม้แต่ชื่อเสียงของตระกูลถังและตระกูลอวิ๋นก็จะต้องมัวหมองไปด้วย

นางอยากจะแอบเอาเด็กออก แต่ก็ทำใจมิได้

ในตอนนั้นเอง เจียงเสวี่ยลั่วก็มาหานาง และบอกนางว่า นางเจอบุรุษผู้นั้นในวันนั้นแล้ว

เขาคือ เซียวเหยียน อ๋องแห่งฉู่ใต้

…...ซึ่งเป็นคนที่อวิ๋นชิงฮวนแอบชอบมาห้าปี เป็นคนที่อยู่ในใจ

อวิ๋นชิงฮวนตกใจมาก มิกล้าเชื่อเลย

เจียงเสวี่ยลั่วกล่าวว่า “ป้ายหยกลายมังกรและตัวอักษรเซียว เป็นหยกที่ราชวงศ์เท่านั้นที่สามารถสวมใส่ได้ ทั่วเมืองหลวงก็มีมิกี่ชิ้น วันที่พี่หญิงเกิดเรื่อง มีเพียงท่านอ๋องฉู่ใต้ที่ไปไหว้พระนอกเมืองหลวง มิใช่ท่านอ๋องแล้วจะเป็นผู้ใดได้อีกเล่า?”

นางยังพูดอีกว่า “บางทีนี่อาจเป็นสวรรค์ที่สงสารพี่หญิง จึงมอบพรหมลิขิตนี้ให้”

ด้วยการชักชวนอย่างมิลดละของเจียงเสวี่ยลั่ว นางที่เดิมทีก็มิอยากจะเอาเด็กออก จึงอดมิได้ที่จะมีความหวังขึ้นมา

นางแอบไปขอร้องท่านตา ขอให้ท่านช่วยไปขอพระราชทานสมรสจากองค์จักรพรรดิ

นางมิได้ต้องการบังคับเซียวเหยียน เพียงแต่กลัวว่าเซียวเหยียนจะรังเกียจนาง จึงอยากขอพระราชโองการ เพื่อให้ตัวเองและลูกมีกำลังใจมากขึ้น

หากมีพระราชทานสมรส จวนอ๋องก็จะต้องมองนางในแง่ดีขึ้นบ้าง

แต่นางมิคิดว่า พระราชโองการจะลงมาอย่างรวดเร็ว ท่านตาแอบส่งคนมาบอกนางว่า องค์จักรพรรดิได้ถามความเห็นของเซียวเหยียนแล้ว เขาเต็มใจที่จะแต่งงานกับนาง และเขาตอบตกลงในทันที

อวิ๋นชิงฮวานมิเคยมีความสุขมากขนาดนี้มาก่อน

นางกอดพระราชโองการไว้แน่น ทั้งร้องไห้พลางหัวเราะไปพร้อมกัน ความหวาดกลัวและความมิสบายใจก่อนหน้านี้หายไปจนหมดสิ้น

ในตอนนั้น นางเชื่อคำพูดของเจียงเสวี่ยลั่วอย่างสนิทใจ คิดว่าชายที่บาดเจ็บในวันนั้นคือเซียวเหยียน

อีกทั้งเขาก็ยังจำนางได้ และยินดีที่จะรับผิดชอบนางและลูก

นางยังรู้สึกดีใจที่ตัวเองกล้าหาญสักครั้งหนึ่ง กลั้นความอายขอให้ท่านตาไปสู่ขอ

แต่นางมิเคยคิดเลยว่า… สิ่งที่นางพยายามอย่างระมัดระวังเพื่อให้ได้มา กลับเป็นหนทางสู่ความตายอันแสนสาหัส!

ในคืนแต่งงาน นางถูกวางยาจนหมดสติ

ตื่นมาในวันรุ่งขึ้น คนรับใช้ทุกคนต่างแสดงความยินดี และเรียกนางว่าพระชายา

นางไม่มีประสบการณ์ คิดว่านางและเซียวเหยียนได้ร่วมหอกันแล้ว จึงทุ่มเทความรักให้เขาในฐานะภรรยา

เวลาผ่านไปหนึ่งเดือน

นางจึงค่อย ๆ บอกเซียวเหยียนเรื่องที่ตัวเองตั้งครรภ์อย่างระมัดระวัง

สีหน้าของเซียวเหยียนแข็งค้าง แต่นางที่จมอยู่ในความสุขและความยินดี กลับมิรู้สึกอะไรเลย…

ตอนนี้นางเข้าใจทุกอย่างแล้ว

ลึก ๆ แล้วเซียวเหยียนรังเกียจนาง แล้วจะเต็มใจแตะต้องนางได้อย่างไร?

มิเพียงแต่ในคืนแต่งงาน แต่ตลอดทั้งเดือนหลังจากแต่งงาน เซียวเหยียนออกไปแต่เช้า กลับดึก มิเคยแตะต้องนางแม้แต่เส้นผม

แต่นางกลับโง่เขลา ไปบอกเขาว่านางท้อง……

อวิ๋นชิงฮวนก้มหน้าลง ยิ้มเยาะตัวเอง

ตอนนั้นเซียวเหยียนมิฆ่านางด้วยมือของเขาเอง เพราะเขาใจดีงั้นหรือ?

ไม่! เขารู้คุณค่าของตระกูลถัง เพื่อช่วยองค์รัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์ เขาจึงอดทนต่อความอัปยศอดสู

ยิ่งไปกว่านั้น เขาต้องการแก้แค้นนางด้วยวิธีที่โหดร้ายที่สุด

…ปล่อยให้ลูกที่เพิ่งเกิดของนางจมน้ำตายในสระบัวก็เพื่อแก้แค้น ปล่อยให้นางตายอย่างน่าอับอายที่สุด ก็เพื่อแก้แค้น ปล่อยให้ทุกคนในตระกูลถังถูกประหาร ก็ยิ่งเพื่อแก้แค้น!

เซียวเหยียนผู้นี้… ช่างใจร้ายเหลือเกิน!

อดทนสามปี ตอบแทนเป็นร้อยเท่า

เขาเป็นคนพูดแล้วทำ

ปลายจมูกของอวิ๋นชิงฮวนเริ่มแสบร้อน น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว

นางเชิดหน้าขึ้นอย่างดื้อรั้น พยายามเบิกตากว้าง

น้ำตาไหลพรากอาบแก้ม

ขบวนแห่เต็มไปด้วยความรื่นเริงและเสียงโห่ร้องของผู้คน แต่ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าสาวที่นั่งอยู่ในเกี้ยว กัดริมฝีปากแน่น ร้องไห้เงียบ ๆ อย่างอดกลั้น

ความคับข้องใจและความเสียใจตลอดชีวิตของนาง กลายเป็นหยาดน้ำตาหยดลงบนชุดแต่งงานสีแดงสด

แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว!

อวิ๋นชิงฮวนสาบานกับตัวเอง นางจะร้องไห้แค่เพียงครั้งนี้

หลังจากเกี้ยวเจ้าสาวถูกวางลง นางจะใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง ต่อสู้เพื่อชีวิตของลูกในท้อง หลีกเลี่ยงกับดักเพื่อตระกูลถัง ชดเชยความโง่เขลาและความผิดพลาดที่ทำไว้ในชาติที่แล้ว

ทันใดนั้น เสียงโกลาหลที่มิคาดคิดก็ดังขึ้น ทำให้นางหยุดร้องไห้

“ขบวนเสด็จของเซ่อเจิ้งอ๋อง[footnoteRef:0] ใครกล้าขวาง! ยังมิรีบหลีกทางไปอีก!” [0: เซ่อเจิ้งอ๋อง หมายถึง อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ

]

เสียงตะโกนอย่างอวดดีดังขึ้น เกี้ยวเจ้าสาวสั่นสะท้าน ก่อนที่จะหยุดลง

อวิ๋นชิงฮวนเกือบจะตกจากเกี้ยว นางรีบคว้าผนังเกี้ยวไว้โดยมิสนใจผ้าคลุมหน้าที่ตกลงพื้น

แววตาของนางมีความตื่นตระหนก

ขบวนเสด็จเซ่อเจิ้งอ๋อง….. เซ่อเจิ้งอ๋องงั้นหรือ?!

ทันใดนั้น ภาพของวังหลวงที่เต็มไปด้วยซากศพและเปลวเพลิงที่ลุกโชนก็แวบเข้ามาในหัวของนางอีกครั้ง

ชายหนุ่มรูปงามราวกับเทพเจ้าสวมชุดคลุมสีดำสนิท ก้าวเดินบนพรมแดงราวกับกำลังเหยียบย่ำไปบนกองเลือด ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ทีละก้าว ก่อนจะหันกลับมาพร้อมกับเสียงโห่ร้อง อายุยืนหมื่นปี ดังกึกก้อง

แต่เขามิได้มองใครเลย

กลับเงยหน้าขึ้นมองวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ

อวิ๋นชิงฮวนรู้สึกเย็นวาบที่ปลายนิ้ว

ทั้ง ๆ ที่เป็นแววตาของชาติที่แล้ว แต่กลับเหมือนมองเห็นปัจจุบัน ทำให้นางรู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลัง

เซ่อเจิ้งอ๋อง เซียวจื๋อเยี่ยน นั่นเป็นบุรุษที่โหดเหี้ยมและเย็นชาไร้ความปรานียิ่งกว่าเซียวเหยียนเสียอีก

หากมิจำเป็นจริง ๆ อวิ๋นชิงฮวนมิอยากจะข้องเกี่ยวกับเขาเลยแม้แต่น้อย เพราะตั้งแต่เด็กจนโตในเมืองหลวง สิ่งที่นางได้ยินบ่อยที่สุดก็คือความโหดเหี้ยมทารุณของเซียวจื๋อเยี่ยน

ฝ่ายราชสำนักและฝ่ายราษฎร ไม่มีใครกล้าหาญพอที่จะไปยั่วยุเขา แม้กระทั่งองค์รัชทายาทยังต้องหลีกทางให้

แต่ว่า… มิถูกต้อง! สถานการณ์นี้มันมิชอบมาพากล!

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status