Share

บทที่ 8

คู่หงส์ป่าพลันตกใจ

เจียงเสวี่ยลั่วตกใจสุดขีด รีบหลบไปอยู่ข้างหลังเซียวเหยียนทันที

เซียวเหยียนยื่นมือออกไปปกป้องนาง สีหน้าเคร่งขรึมมองไปที่ปากซอย “องครักษ์เจี่ยง? เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”

ที่ปากทางตรอก แสงไฟสว่างไสว

กองทหารเกราะหนักที่ดูคุ้นเคยดีกำลังคุ้มกันขบวนรถม้าหุ้มเหล็กสุดหรูหราโอ่อ่าที่จอดอยู่ตรงปากทางตรอก หน้าต่างรถม้าเปิดออกครึ่งหนึ่ง แต่ก็มองมิเห็นว่าผู้ใดนั่งอยู่ข้างใน

เจี่ยงหยวนซิ่งยืนอยู่หน้ารถม้า กอดอก พลางพูดจาเยาะเย้ย

“อ๋องฉู่ใต้ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้! ก่อนหน้านี้ยังแอบพบหญิงงามที่ภัตตาคาร วันนี้ก็เพิ่งแต่งงานกับพระชายาองค์ใหม่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง บัดนี้ยังมิทันเข้าหอ ก็มาพบปะกับหญิงงามในตรอกมืดอีก โชคดีเรื่องสตรีเช่นนี้ ไฉนมิสอนกระหม่อมบ้างเล่า?”

“ท่านพี่เซียวเหยียน...”

เจียงเสวี่ยลั่วได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจ รีบจับอาภรณ์ของเขา

“หากองครักษ์เจี่ยงอยากมาดื่มเหล้าฉลองที่จวนของข้า ข้ายินดีต้อนรับ แต่เรื่องส่วนตัวของข้า มิต้องลำบากเจ้ามาสนใจหรอก” เซียวเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เจี่ยงหยวนซิ่งคิดในใจ คนหน้าไหว้หลังหลอกผู้นี้หน้าหนาจริงๆ “ท่านอ๋องของเรามาแสดงความยินดีกับท่านโดยเฉพาะ เมื่อได้พบกันแล้ว ก็ขอเชิญด้วย”

ก่อนหน้านี้ยังวางท่าแข็งกร้าว บังคับให้ขบวนแต่งงานหลีกทางให้เขา ตอนนี้กลับบอกว่ามาแสดงความยินดีงั้นหรือ?

ใครจะเชื่อเล่า?

แต่ท่านอ๋องเป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นชินอ๋อง มีฐานันดรศักดิ์สูงกว่าจวิ้นอ๋อง อีกทั้งยังเป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาท

เซียวเหยียนทำหน้าบึ้งตึง เชิญพวกเขาเข้าจวนทางประตูหน้า

เดิมทีตั้งใจจะให้เจียงเสวี่ยลั่วกลับไปก่อน ฐานะของนางมิเหมาะที่จะปรากฏตัวในงานมงคล

เจี่ยงหยวนซิ่งหัวเราะร่วนแล้วพูดว่า “ท่านอ๋องของเราบอกว่า เชิญสาวงามนิรนามท่านนี้เข้าจวนไปด้วยกัน เพราะอย่างไรเสียก็เป็นคนสนิทของท่านอ๋องฉู่ใต้ ท่านอภิเษกสมรสแล้ว นางก็ควรจะไปแสดงความยินดีด้วย”

“เรื่องนี้มิ...”

“ท่านอ๋องของเราตรัสด้วยพระองค์เอง” เจี่ยงหยวนซิ่งชี้ไปที่รถม้าด้านหลัง “ท่านมิเต็มใจจะสนทนากับท่านอ๋องของเราหรือ?”

สุดท้ายแล้ว เจียงเสวี่ยลั่วก็ยังคงหน้าซีดเผือด เดินตามทุกคนเข้าไปในจวนอ๋องด้วยความหวาดกลัว

เซ่อเจิ้งอ๋องเสด็จมาด้วยพระองค์เอง แขกผู้มีเกียรติทุกคนต่างตกตะลึง

องค์รัชทายาทและเหล่าองค์ชายที่ประทับอยู่บนที่นั่งสำหรับแขกผู้มีเกียรติต่างลุกขึ้นยืนและก้าวขึ้นไปต้อนรับด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“วันนี้เสด็จอาดูอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษ มิใช่ว่าจะไปพักผ่อนที่สวนน้ำพุร้อนสองสามวันหรอกหรือ? ไฉนจึงมาโดยมิบอกหลานล่วงหน้าเช่นนี้เล่าพ่ะย่ะค่ะ”

องค์รัชทายาทกระตือรือร้นมาก

เซ่อเจิ้งอ๋องคนก่อนเป็นลุงของจักรพรรดิ และเซียวจื๋อเยี่ยนเป็นบุตรชายคนสุดท้องของท่านอ๋องผู้เฒ่า

แม้ว่าเขาจะอายุน้อยกว่าองค์รัชทายาทถึงแปดปี แต่มีความอาวุโสกว่าองค์รัชทายาท

เป็นน้องชายของจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน

ดังนั้นองค์รัชทายาทและองค์ชายทั้งหมด รวมถึงเซียวเหยียนด้วย ตามหลักแล้วต้องเรียกเขาว่าเสด็จอา

เซียวจื๋อเยี่ยนตอบรับด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วถูกทุกคนพากันเข้าไปในห้องจัดงานเลี้ยง

เจียงเสวี่ยก็เผลอเดินตามเข้าไปด้วย

“หญิงสาวผู้นี้เป็นลูกหลานของใครกัน? เหตุใดจึงเดินมาฝั่งแขกบุรุษได้? แขกสตรีอยู่ที่อีกฝั่งนะ”

ในมิช้า ก็มีคนก็สังเกตเห็นนาง

เจียงเสวี่ยลั่วยังมิทันได้อธิบาย

เจี่ยงหยวนซิ่งก็หัวเราะเสียงดัง “นางมิใช่แขกผู้มีเกียรติที่มาแสดงความยินดี นางเป็นคนสนิทของท่านอ๋องฉู่ใต้ นางตั้งใจมาพบเขาในคืนวันแต่งงาน เพื่อแสดงความยินดีกับเขา”

แขกมองเจียงเสวี่ยลั่วด้วยสายตาแปลก ๆ

ทันใดนั้น เจียงเสวี่ยลั่วก็หน้าแดงก่ำ พูดอย่างลนลานว่า “ไม่ มิใช่... ข้ามิได้นัดพบท่านอ๋อง…”

“หรือว่าข้าตาฝาดไป? เจ้ามิได้ไปเจอกับท่านอ๋องฉู่ใต้ที่ประตูหลังเยี่ยงชายหญิงสองต่อสองหรอกหรือ?” เจี่ยงหยวนกะพริบตาแสร้งทำเป็นสับสน “หากข้าจำมิผิด คืนนี้เป็นคืนเข้าหอของท่านอ๋องฉู่ใต้มิใช่หรือ? เจ้ามิได้นัดพบท่านอ๋อง แล้วไฉนท่านอ๋องจึงทิ้งพระชายาไว้ในห้องหอ อีกทั้งมิไปดื่มเหล้ากับแขกเล่า แต่กลับวิ่งมาหาเจ้าที่ประตูหลังด้วยเหตุใดเล่า?”

“ข้า…”

เจียงเสวี่ยลั่วมิรู้จะอธิบายอย่างไร น้ำตาแห่งความคับข้องใจไหลรินลงมา

“พอแล้ว” เซียวเหยียนขมวดคิ้ว พลางก้าวมาบังนางไว้

“องครักษ์เจี่ยง โปรดระวังคำพูดด้วย นี่คือคุณหนูเสวี่ยลั่วแห่งตระกูลอวิ๋น น้องสาวของพระชายาของข้า นางตั้งใจมาที่นี่ เพียงเพื่อแสดงความยินดีกับพี่สาวด้วยความรักฉันพี่น้องเท่านั้น”

“แสดงความยินดีกับพี่สาว แต่กลับนัดพบกับพี่เขยงั้นหรือ?”

เจี่ยงหยวนซิ่งเบะปาก “วิธีแสดงความยินดีนี้แปลกดีพ่ะย่ะค่ะ”

แขกเหรื่อบางคนหัวเราะออกมา

ตอนนี้ในสายตาของทุกคน เจียงเสวี่ยลั่วกลายเป็นสตรีที่ล่อลวงพี่เขย เสเพล และถือดี

ใบหน้าของเจียงเสวี่ยลั่วเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดและแดงก่ำ อยากจะหาที่ซ่อนตัวด้วยความอับอาย

เซียวเหยียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ “มิทราบว่าวันนี้เสด็จอาเสด็จมาด้วยเหตุผลอันใดกันแน่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”

เซียวจื๋อเยี่ยนหมุนแหวนหยกบนนิ้วอย่างมิใส่ใจ แล้วกล่าวว่า “ได้ยินมาว่าคุณหนูตระกูลอวิ๋นทั้งสวยทั้งเก่ง ตัวข้าเลยอยากรู้อยากเห็น จึงอยากมาดูสักหน่อย”

คำพูดนี้ทำให้ผู้คนพูดมิออก

“เสด็จอา นั่นคือพระชายาของกระหม่อมที่เพิ่งเข้ามานะพ่ะย่ะค่ะ”

สายตาของเซียวเหยียนเปลี่ยนไป

“เจ้ากังวลเรื่องอันใด? เซียวจื๋อเยี่ยนมองเยือกเย็นไปยังเจียงเสวี่ยลั่วที่เขาปกป้องอยู่ด้านหลัง ซึ่งมีดวงตาแดงก่ำเหมือนกระต่าย “ตัวข้ามิสนใจรสนิยมของเจ้า”

นี่เขาชอบสตรีที่เสแสร้งแบบนี้ด้วยหรือ

รสนิยมแย่มาก

สีหน้าของเซียวเหยียนเปลี่ยนไป องค์รัชทายาทหัวเราะและโอบไหล่เขา “เสด็จอาล้อเล่นเก่งจริง ๆ ท่านเป็นผู้อาวุโส การพบปะกับภรรยาของหลานชายเป็นเรื่องที่ควรทำ อาเหยียนคงมิถือสาหรอก ใช่หรือไม่?”

เซียวเหยียนเห็นสายตาขององค์รัชทายาทที่บอกเป็นนัย รู้ว่าเซียวจื๋อเยี่ยนมิใช่คนที่ควรจะทำให้ขุ่นเคือง เขาจึงรู้สึกอึดอัดใจ

เซียวจื๋อเยี่ยนแม้จะเป็นผู้อาวุโส แต่จริง ๆ แล้วอายุเพียงยี่สิบปีเท่านั้น

ชายหนุ่มที่มีอำนาจสูงส่ง ต้องการมาพบกับภรรยาที่เพิ่งแต่งงานของเจ้าในคืนแต่งงาน และยังชมว่าภรรยาของเจ้าสวย นี่มิใช่การดูถูกแล้วคืออะไรเล่า?

เซียวเหยียนถึงกับสงสัยว่า นี่เป็นเพราะเซียวจื๋อเยี่ยนยังแค้นเขาเรื่องที่เขามิยอมหลีกทางให้แต่แรก จึงจงใจมาสร้างความวุ่นวายให้เขา

ทันใดนั้น สาวใช้คนหนึ่งก็วิ่งหน้าตาตื่นมาบอกว่า “ท่านอ๋อง มิดีแล้วเพคะ! พระชายาองค์ใหม่จะฆ่าพี่ปี้เถา ท่านรีบไปช่วยนางเถิดเพคะ!”

“เจ้าโวยวายอะไรกัน?”

สีหน้าของเซียวเหยียนมิสู้ดีนัก

เซียวจื๋อเยี่ยนลุกขึ้นยืน แล้วกล่าวว่า “ได้เวลาพอดี ไปดูด้วยกันเถอะ”

ทุกคนต่างสนใจและพากันเดินตามไปเป็นกลุ่มใหญ่ มุ่งหน้าไปยังเรือนหอหลังใหม่ในสวนด้านหลัง

เมื่อเข้าไปในเรือน ทุกคนก็ต้องตกตะลึงกับเศษกระเบื้องแตกกระจายเกลื่อนพื้น

อวิ๋นชิงฮวนในชุดแต่งงานสีแดงเพลิง ผมยาวสีดำขลับปล่อยสยาย ถูกแม่นมซุนและอิงเสวี่ยปกป้องอยู่ด้านหลัง ใบหน้าซีดเผือด บนพื้นยังมีสาวใช้หน้าตาสะสวยคุกเข่าร้องไห้ว่า

“พระชายาไว้ชีวิตด้วย! บ่าวมิได้ตั้งใจ ขอพระชายาอย่าฆ่าบ่าวเลยนะเจ้าคะ!”

เซียวเหยียนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา “พวกเจ้ากำลังทำอะไรกัน?”

“ท่านอ๋อง! ท่านอ๋องช่วยบ่าวด้วยเพคะ!” ปี้เถาโผเข้าไปกอดขาเขา ร้องไห้เสียงดัง “บ่าวทำโจ๊กที่พระชายาต้องการหกโดยมิตั้งใจ พระชายาจะสั่งให้คนมาตีบ่าวจนตาย ขอท่านอ๋องโปรดทรงช่วยบ่าวด้วยเพคะ!”

“พูดจาเหลวไหล!”

แม่นมซุนดุ “เจ้าประมาทเองมิใช่รึ? เจ้าจงใจเอาโจ๊กร้อน ๆ สาดใส่พระชายา โชคดีที่พระชายาหลบได้ทัน เจ้ายังกล้าบิดเบือนความจริงอีก!”

“บ่าวมิได้ทำ! บ่าวมิตั้งใจจริง ๆ! ฮือ ฮือ ท่านอ๋องโปรดทรงช่วยบ่าวด้วยเพคะ!”

เซียวเหยียนหันไปมองอวิ๋นชิงเยวี่ย “เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”

“นางถือโจ๊กร้อน ๆ จะมาสาดใส่หม่อมฉันแล้วทำชามแตก หม่อมฉันจะลงโทษนาง” อวิ๋นชิงฮวนพูดอย่างเรียบ ๆ “ง่าย ๆ แค่นั้นแหละ”

“ปี้เถาไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้หรอก”

“เช่นนั้น ท่านอ๋องคิดว่าหม่อมฉันโกหกเพื่อใส่ร้ายสาวใช้คนหนึ่งงั้นหรือเพคะ?”

เซียวเหยียนขมวดคิ้ว “นางมิได้ตั้งใจ เจ้าจะไปถือสาอะไรกับสาวใช้เล่า?”

“มิว่าจะด้วยเหตุผลใด นางเกือบทำหม่อมฉันบาดเจ็บ แล้วยังทำเรือนหอใหม่ของหม่อมฉันเละเทะ หม่อมฉันในฐานะพระชายา แม้แต่สิทธิ์ในการจัดการสาวใช้ที่ทำผิดก็ยังไม่มีงั้นหรือ?”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status