เกี้ยวเจ้าสาวที่ประดับประดาอย่างวิจิตรจอดอยู่หน้าประตูจวนอวิ๋นรอบ ๆ เต็มไปด้วยชาวบ้านที่มามองดูเสียงดนตรีบรรเลงยังคงดังมิขาดสาย แต่ก็กลบเสียงซุบซิบมิได้“เวลาอันเป็นมงคลผ่านไปตั้งนานแล้ว เหตุใดเจ้าสาวยังมิออกมาอีกเล่า?”“นั่นสิ เกี้ยวก็รอมาตั้งครึ่งค่อนวันแล้ว...”เซียวเหยียนสวมชุดเจ้าบ่าวสีแดงสด ใบหน้าหล่อเหลาและสง่างามเย็นชาดุจน้ำแข็ง ยืนกอดอกอยู่ในห้องโถงใหญ่ แววตาเย็นยะเยือก โกรธจนแทบหัวเราะ“ช่างเป็นการต้อนรับที่ยอดเยี่ยมเสียจริง!”ภายในใจของเขาโกรธอย่างมากจวนอ๋องส่งขบวนมารับเจ้าสาว แต่เกี้ยวกลับต้องรออยู่หน้าประตูจวนตั้งนานโดยมิเห็นแม้แต่เงาของเจ้าสาวนี่มันเรื่องอันใดกัน?นี่เป็นการตบหน้าเขาชัด ๆ ให้คนทั้งเมืองหลวงหัวเราะเยาะจวนอ๋องฉู่ใต้!ใครที่มิรู้คงคิดว่าเขาเป็นฝ่ายวิ่งตามขอแต่งงานกับอวิ๋นชิงฮวนวางท่าใหญ่โตจริงเชียว!พ่อบ้านข้าง ๆ เหงื่อแตกพลั่กพร้อมใบหน้าซีดเผือด ก้มหัวขอโทษขอโพยมิหยุด “ท่านอ๋องโปรดระงับความพิโรธด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ มิใช่ว่าจวนอวิ๋นของเราจงใจละเลย แต่คุณหนูใหญ่… เดิมทีเตรียมจะออกเรือนแล้ว แต่คุณหนูใหญ่กลับบอกว่าสินเดิมยังมิพอ ขอให้จวนอวิ๋นเพิ่
ลูกในท้องของนางในชาติที่แล้วถูกเซียวเหยียนและเจียงเสวี่ยลั่วประณามว่าเป็นลูกนอกสมรส เพิ่งเกิดก็ถูกฆ่าตายในสระบัวนางช่างมิเอาไหน แม้แต่ลูกของตนก็ยังปกป้องมิได้เมื่อได้กลับมาอีกครั้ง นางจะมิยอมทำผิดซ้ำอีก แม้ว่าจะต้องฝ่าฝืนพระราชโองการ นางจะต้องแต่งงานเข้าจวนอ๋องฉู่ใต้ นางต้องต่อสู้เพื่อหาทางรอดให้ตัวเองและลูกในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยอันตรายอวิ๋นชิงฮวนไม่มีเวลาจมอยู่กับความเจ็บปวดและความเสียใจในเวลานี้ เจียงเสวี่ยลั่วรู้ว่านางเสียความบริสุทธิ์แล้ว และบอกเรื่องนี้กับเซียวเหยียน เพื่อให้เซียวเหยียนรังเกียจนางตั้งแต่แรกแต่เจียงเสวี่ยลั่วยังมิรู้เรื่องที่นางอตั้งครรภ์หนึ่งเดือนก่อน นางถูกเจียงเสวี่ยลั่วหลอกไปเที่ยวชมธรรมชาติที่ชานเมือง แล้วถูกพาเข้าไปในป่าจนหลงทางอยู่คนเดียวนางเจอกับกลุ่มชายสกปรก เกือบจะถูกข่มขืน นางพยายามหนีออกมาและซ่อนตัวอยู่ในวัดร้าง แต่เพราะความตกใจทำให้นางมีไข้สูง ในขณะที่นางมีไข้และเบลอ ก็มีบุรุษผู้หนึ่งที่เต็มไปด้วยเลือดบุกเข้ามา......บุรุษผู้นั้นถูกวางยาอย่างแรงจนหมดสติไป และเขาก็พบนาง จากนั้น… เขาก็ขืนใจนางตลอดเวลาที่เกิดเรื่อง จิตใจของอวิ๋นชิงฮ
ขบวนเจ้าสาวของนาง ไปชนกับขบวนของเซ่อเจิ้งอ๋องได้อย่างไร? ทั้ง ๆ ที่ชาติที่แล้วไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น… หรือเป็นเพราะชาตินี้นางเรียกร้องสินเดิมของท่านแม่ ทำให้เสียเวลา จนบังเอิญมาเจอกันพอดี?อวิ๋นชิงฮวนมิทันได้คิดอะไรมาก ได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก ก็แอบเปิดมุมผ้าม่านเล็กน้อย แล้วมองออกไปข้างนอกในเวลาเดียวกัน เซียวเหยียนขี่ม้าอยู่นั้นมีสีหน้ามิสู้ดีนักตรงข้ามกับขบวนเจ้าสาว มีขบวนรถม้าเหล็กขนาดใหญ่คันหนึ่ง มีกองทหารเกราะหนักติดอาวุธครบมือคอยคุ้มกันขบวนรถม้าอย่างแน่นหนา ขวางอยู่กลางถนน มิยอมหลีกทางให้แม้แต่น้อยท่าทางแบบนั้น บรรยากาศแบบนั้น คนที่มิรู้อาจจะคิดว่ามาชิงเจ้าสาวชาวบ้านที่อยู่ข้างทางต่างพากันซุบซิบ“ข้าน้อยคือเซียวเหยียนแห่งจวนอ๋องฉู่ใต้ วันนี้ข้าน้อยมาเพื่อรับพระชายาตามพระราชโองการ มินึกว่าจะขวางทางของเซ่อเจิ้งอ๋อง ขอเซ่อเจิ้งอ๋องโปรดทรงอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ”เซียวเหยียนกล่าวพร้อมกับโค้งคำนับภายในรถม้าที่ทำจากเหล็กดำนั้นเงียบสนิท ไม่มีผู้ใดสนใจเขา“จวนอ๋องฉู่ใต้นับว่าเป็นอะไร?” หัวหน้าองครักษ์ เจี่ยงหยวนซิ่ง ผู้ยืนอยู่หน้าแถวพูดอย่างดูถูก “คิดว่ามีราชโองการแล้วจะให
หลังจากเกิดอุบัติเหตุบนถนน กว่าที่ขบวนแต่งงานจะมาถึงจวนอ๋องฉู่ใต้ ท้องฟ้าก็มืดค่ำแล้วอวิ๋นชิงฮวนถูกพาลงจากเกี้ยวเจ้าสาว ก้าวข้ามกระถางไฟ และเข้าประตูหลักทำพิธีคารวะหลังจากเสร็จพิธี แขกเหรื่อทั้งหลายต่างแสดงความยินดี เสียงดนตรีและประทัดดังสนั่นหวั่นไหวเจ้าบ่าว เซียวเหยียน กล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน จากนั้นก็จูงมืออวิ๋นชิงฮวนที่ถือผ้าไหมสีแดงเข้าห้องหอตามประเพณีงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสเริ่มต้นขึ้นอย่างราบรื่นอวิ๋นชิงฮวนนั่งตัวตรงบนเตียงแต่งงาน ผ้าคลุมหน้าปักลายหงส์สีทองแดงคลุมศีรษะ สาวใช้และแม่สื่อในห้องต่างยิ้มแย้ม“เชิญให้เจ้าบ่าวเปิดผ้าคลุมหน้า”เซียวเหยียนหยิบผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวขึ้นอย่างเย็นชา แล้วเปิดผ้าคลุมสีแดงบนศีรษะของนางขึ้นทันใดนั้น ห้องทั้งห้องก็สว่างไสวอวิ๋นชิงฮวนสวมชุดแต่งงานสีแดงเพลิง สวมเครื่องประดับศีรษะและผ้าคลุมหน้า นางมีใบหน้าที่งดงาม ผิวขาวราวหิมะ รูปร่างที่งดงามไร้ที่ติ และลวดลายดอกท้อบนหน้าผากของนางยิ่งทำให้นางดูสวยสง่าและมีเสน่ห์ บุคลิกสง่างามแฝงความเย็นชาเล็กน้อย...นี่คืออวิ๋นชิงฮวนงั้นหรือ?เซียวเหยียนเหม่อไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติกลับ
คู่หงส์ป่าพลันตกใจเจียงเสวี่ยลั่วตกใจสุดขีด รีบหลบไปอยู่ข้างหลังเซียวเหยียนทันทีเซียวเหยียนยื่นมือออกไปปกป้องนาง สีหน้าเคร่งขรึมมองไปที่ปากซอย “องครักษ์เจี่ยง? เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”ที่ปากทางตรอก แสงไฟสว่างไสวกองทหารเกราะหนักที่ดูคุ้นเคยดีกำลังคุ้มกันขบวนรถม้าหุ้มเหล็กสุดหรูหราโอ่อ่าที่จอดอยู่ตรงปากทางตรอก หน้าต่างรถม้าเปิดออกครึ่งหนึ่ง แต่ก็มองมิเห็นว่าผู้ใดนั่งอยู่ข้างในเจี่ยงหยวนซิ่งยืนอยู่หน้ารถม้า กอดอก พลางพูดจาเยาะเย้ย“อ๋องฉู่ใต้ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้! ก่อนหน้านี้ยังแอบพบหญิงงามที่ภัตตาคาร วันนี้ก็เพิ่งแต่งงานกับพระชายาองค์ใหม่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง บัดนี้ยังมิทันเข้าหอ ก็มาพบปะกับหญิงงามในตรอกมืดอีก โชคดีเรื่องสตรีเช่นนี้ ไฉนมิสอนกระหม่อมบ้างเล่า?”“ท่านพี่เซียวเหยียน...”เจียงเสวี่ยลั่วได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจ รีบจับอาภรณ์ของเขา“หากองครักษ์เจี่ยงอยากมาดื่มเหล้าฉลองที่จวนของข้า ข้ายินดีต้อนรับ แต่เรื่องส่วนตัวของข้า มิต้องลำบากเจ้ามาสนใจหรอก” เซียวเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเจี่ยงหยวนซิ่งคิดในใจ คนหน้าไหว้หลังหลอกผู้นี้หน้าหนาจริงๆ “ท่านอ๋องของเรามาแสดงความยินด
เซียวเหยียนถึงกับพูดมิออกปี้เถาเห็นท่ามิดี กำลังจะร้องขอความเมตตาแต่อวิ๋นชิงฮวนกลับสั่งว่า “นำตัวปี้เถาออกไป ตบปากห้าสิบที”แม่นมซุนส่งสายตาให้ เหล่าสาวใช้ที่ติดตามมาในขบวนเจ้าสาวก็พุ่งเข้าไปลากตัวปี้เถาออกไปลงโทษทันทีเซียวเหยียนมิได้ขัดขวางเซียวจื๋อเยี่ยน องค์รัชทายาท และแขกเหรื่อคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ตรงประตู ต่างมองดูพระชายาฉู่ใต้ที่เพิ่งเข้าพิธีมาใหม่ จัดการสาวใช้คนสนิทของเซียวเหยียนอย่างมิไยดี มิไว้หน้าเขาแม้แต่น้อยดูเหมือนคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลอวิ๋นผู้นี้จะมิใช่หมูให้เคี้ยวง่าย ๆ เสียแล้ว!เซียวจื๋อเยี่ยนก้าวเข้าไปข้างใน องค์รัชทายาทและคนอื่น ๆ ก็รีบตามเข้าไป“อาเหยียนนี่ได้พระชายาที่ดีจริง ๆ รู้จักให้รางวัลและลงโทษอย่างยุติธรรม เด็ดเดี่ยวแต่มิแข็งกระด้าง สมกับเป็นภรรยาเอกของตระกูล เห็นได้ชัดว่าตระกูลอวิ๋นสั่งสอนบุตรีได้ดีจริง ๆ”เมื่อรัชทายาทเอ่ยปาก แขกเหรื่อคนอื่น ๆ ก็เริ่มกล่าวคำยกย่องตามกันมา“ใช่แล้ว พระชายาอ๋องฉู่ใต้ช่างสง่างาม สมกับเป็นคู่ที่ฟ้าสร้างมาจริง ๆ”“องค์จักรพรรดิช่างมีสายพระเนตรที่เฉียบแหลมยิ่งนัก”อวิ๋นชิงฮวนก้าวไปข้างหน้า ค้อมกายคำนับอย่างสง่างาม ท
ในชั่วพริบตา ดวงตาของเซียวเหยียนหดเกร็ง เขาคว้าคอเสื้อของเซียวจื๋อเยี่ยนอย่างแรง เสียงของเขาเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง“เซียวจื๋อเยี่ยน!”เซียวจื๋อเยี่ยนมิตกใจเลยแม้แต่น้อย เขาสูงกว่าเซียวเหยียนเล็กน้อย ดวงตาที่เรียวยาวมองลงมาที่เขา นั่นคือการดูถูกเหยียดหยามจากเบื้องบน…และความเย่อหยิ่งดูถูกที่เพิกเฉยต่อผู้อื่นโดยสิ้นเชิง“อาเหยียน!”“เหยียนเอ๋อร์!”องค์รัชทายาท ไท่เฟยฉู่ใต้ และแขกผู้มีเกียรติต่างตกตะลึง องค์รัชทายาทรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดเขา “อาเหยียน เจ้ากำลังทำอะไร? อย่าได้แสดงความมิเคารพต่อเสด็จอา รีบปล่อยมือเดี๋ยวนี้!”“เหยียนเอ๋อร์ เขาคือเซ่อเจิ้งอ๋อง เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ?”เซียวเหยียนมิได้ยิน และจ้องมองเซียวจื๋อเยี่ยนด้วยความโกรธราวกับอยากจะต่อยหน้าเขา“เซียวเหยียน!” องค์รัชทายาทก็โกรธเช่นกันเมื่อเห็นสถานการณ์ชุลมุน แขกเหรื่อจึงรีบเข้ามาห้ามปรามอวิ๋นชิงฮวนเองก็ทนดูต่อไปมิไหว นางขมวดคิ้วเล็กน้อย ก้าวไปข้างหน้าจับแขนของเซียวเหยียน“เซียวเหยียน ท่านปล่อยเขาก่อน สงบลงหน่อย”เซียวเหยียนกัดฟันกรอด ปล่อยมือ แล้วมองไปที่อวิ๋นชิงฮวนอีกครั้งอวิ๋นชิงฮวนกำลังมองเซียวจื๋อเยี่
เซียวเหยียนโกรธจนตัวสั่นนี่มันเรือนหอของเขา คืนเข้าหอของเขา!องค์รัชทายาทกระชากแขนเขาแล้วลากออกไป “เสด็จป้าพูดถูกแล้ว เจ้าดื่มมากไปแล้ว รีบไปข้างนอกกับข้าให้สร่างเมาหน่อยดีกว่า”ไท่เฟยฉู่ใต้รีบเรียกสาวใช้ให้ตามไป เจียงเสวี่ยลั่วก็แอบปะปนไปด้วยเมื่อเห็นดังนั้น เจี่ยงหยวนซิ่งก็เดินออกไปพลางหัวเราะ “แกล้งบ่าวสาวก็แล้ว ดูเจ้าสาวก็แล้ว ก็ควรกลับไปดื่มต่อได้แล้ว!”“ใช่ ๆ ๆ พวกเราก็ควรกลับไปที่งานเลี้ยงได้แล้ว”“ขอตัวก่อน...”แขกที่อยู่ด้านล่างเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน วิ่งหนีกันเหมือนภัยจะมา“นี่!” อวิ๋นชิงฮวนยังมิทันได้ห้าม ก็มีเสียงดังปัง!ประตูเรือนหอปิดลงแล้วเหลือเพียงนางและเซียวจื๋อเยี่ยนสองคนที่ยืนอยู่ในเรือนหอซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขเมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของบุรุษที่อยู่ด้านหลัง จิตใจของอวิ๋นชิงฮวนก็เริ่มสั่นคลอนในคืนแต่งงานของชาติที่แล้ว นางสลบไปหลังจากดื่มเหล้าเพียงแก้วเดียว อย่างน้อยก็ได้นอนหลับสบายแล้วครั้งนี้เล่า?แย่ยิ่งกว่าเดิม ทุกอย่างวุ่นวายไปหมดและต้นเหตุของทั้งหมดนี้ ก็เพราะคนที่อยู่ข้างหลังนาง... เซ่อเจิ้งอ๋องที่นางมิสามารถยั่วยุได้!อวิ๋นชิงฮวนห