Share

บทที่ 6

Author: หูเทียนเสี่ยว
last update Last Updated: 2024-04-30 14:54:00
จั๋วซือหรานแต่งกายด้วยชุดสีขาวบาง คุกเข่าอยู่ที่หน้าประตูของจวนจั๋ว

นางพูดกับผู้ที่เฝ้าหน้าประตูว่า "กรุณาบอกผู้อาวุโสใหญ่ว่า จั๋วจิ่วกลับมาเพื่อขออภัยโทษแล้ว"

องครักษ์กำลังจะเข้าไปรายงาน ทว่ากลับถูกใครบางคนห้ามไว้

“ห้ามไป” เจียงซาน ซึ่งเป็นคนของบิดาจั๋วหรูซิน เขาห้ามยามที่เฝ้าหน้าประตูไว้

เจียงซานพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า "คุณหนูจิ่วไม่เชื่อฟังแม้แต่ผู้อาวุโส ทั้งยังไม่สนใจชื่อเสียงของตระกูลด้วยซ้ำมิใช่หรือ ในเมื่อตอนนี้ออกเรือนแล้ว กลับมาด้วยเหตุใด"

จั๋วซือหรานเกิดมาพร้อมกับผิวพรรณเกลี้ยงเกลา คิ้วงดงามดังภาพวาด ด้วยรูปลักษณ์สตรีเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องง่ายที่ถูกมองเป็นสตรีผู้แสนน่าสงสารและอ่อนแอ

แต่นางไม่ใช่สตรีอ่อนแอ

เห็นได้ชัดว่า นางกำลังคุกเข่าอยู่ แต่บุคลลิกของนางดูสูงส่งกว่าตอนที่นางยืนด้วยซ้ำ นางพูดอย่างเย็นชา "เจ้ามีฐานะเช่นใด เจ้ากล้าเยาะเย้ยข้าหรือ เหรือจ้าคิดว่า ข้าเป็นคนอ่อนแอที่กลั่นแกล้งง่ายเช่นนั้นหรือ"

เจียงซาน "ผู้อาวุโสไม่อยากเห็นหน้าเจ้าเลย ต่อให้เจ้าคุกเข่าที่หน้าประตูจนตายก็ไร้ประโยชน์"

จั๋วซือหรานพูดอย่างเย็นชา"เจ้าควรพิจารณาให้ดีเสียก่อนว่า ผู้อาวุโสไม่อยากพบข้าเสียจริง และเจ้าต้องแน่ใจได้ว่า ข้าจะไม่มีวันกลับมาอีก มิเช่นนั้น..."

“คุณหนูจิ่วไม่จำเป็นต้องข่มขู่ข้าหรอก เจ้าปกป้องตัวเจ้าเองยังยากเลย”

เจียงซานเยาะเย้ยด้วยเสียงต่ำ "ตระกูลจั๋วไม่ปกป้องเจ้า และตระกูลเฟิงก็เกลียดเจ้า เมื่อคุณหนูของเราแต่งงานกับท่างอ๋องเฟิงแล้ว จะไม่มีใครจำได้ว่า คุณจั๋วจิ่วเป็นผู้ใด เจ้ายังกล้าที่จะข่มขู่ข้าอยู่อีกหรือ”

เจียงซานกำลังรอนางอโกรธเคือง รอนางคำรามออกมา และรอนางกระทำความอัปลักษณ์ทุกอย่าง

แต่นางเพียงแค่เสาะยิ้ม รอยยิ้มของนางแฝงด้วยความเจ้าเล่ห์เล็กน้อย นางพูดออกมาเสียงดังว่า "อ้าว ที่แท้จั๋วหรูซินอยากแต่งงานกับเฟิงเหยียนหรือ"

เจียงซานตระหนักว่า ตนเองเผลอพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา เขาตกใจไปชั่วขณะ

เดิมที่รอบข้างมีคนเฝ้าดูเรื่องน่าขันนี้อยู่แล้ว

แม้ระดับเสียงของจั๋วซือหรานไม่ดังหรือเบาเกินไป แต่เสียงนั้นสามารถทะลุทะลวงออกมาอย่างหนักแน่น โทนเสียงนั้นพอที่จะให้คนรอบข้างได้ยินคำพูดของนางอย่างชัดเจน

“ในเมื่อจั๋วหรูซินอยากแต่งงานกับท่านอ๋องเฟิง ให้นางอธิบายให้ชัดเจนสิ ผู้อาวุโสอาจให้นางสมปรารถนาก็ได้ ทำไมนางถึงใจร้ายกับข้าขนาดนี้กันนะ ใจร้ายเสียจนต้องใช้หนอนพิษกู่ดินแดนทางใต้”

“เมื่อวานนี้ หลายคนเห็นภาพที่ท่านอ๋องเฟิงกำจัดหนอนพิษกู่ให้ข้าแล้ว คนใช้ของข้าก็สารภาพมาว่า นางได้สินบนจากจั๋วหรูซิน”

จั๋วซือหรานเอาคิ้วลง นางมีสีหน้าที่ซีดเผือกเนื่องจากนางมีอาการป่วย

“ข้าถูกหนอนพิษกู่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บภายใน และยังไม่หายดี ข้าตื่นขึ้นมาก็รีบกลับมาเพื่อขออภัยโทษ นางกลับสั่งเจ้าห้ามข้าไว้ที่นี่ ไม่ให้ยามเข้าไปรายงาน เราเป็นพี่น้องกัน พี่ลิ่วทำมากเกินไปหรือเปล่า"

เจียงซานโกรธหุนหันพันแล่น รอบจวนของตระกูลจั๋วเป็นเรือนของขุนนางใหญ่ และคนส่วนใหญ่ที่ยืนดูเรื่องน่าขันนั้นนั้นต่างเป็นผู้ที่มาจากตระกูลใหญ่

ตราบใดที่คำพูดของจั๋วซือหรานในประเดี๋ยวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ในสังคมของผู้คนชนชั้นสูงของเมืองหลวง คุณหนูของเขาสูญเสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน

เจียงซานรีบกล่าวมา "เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไรอยู่"

ทันใดนั้นท้องฟ้าที่มีเมฆจำนวนอย่างมากมีน้ำฝนตกลงมาอย่างกะทันหัน

น้ำฝนที่เย็นฉ่ำทำให้หญิงสาวเปียกโชกไปทั้งตัว นางตัวสั่นแทบจำเป็นลม

ในที่สุดนางไอเบา ๆ เลือดสดที่นางไอออกเปื้อนเสื้อผ้าสีขาวของนาง และสีโลหิตนั้นกลายเป็นสีแดงที่ทำให้คนสะเทือนใจอย่างมาก

จั๋วหรูซินรีบกลับไปที่จวน เมื่อนางกลับถึงจวน นางได้ยินเสียงกระซิบจากผู้เห็นเหตุการณ์รอบข้าง

“ตายแล้ว คุณหนูลิ่วใจร้ายเสียจริง อากาศหนาวเย็นเช่นนี้ คนยังบาดเจ็บอยู่ ยังคุกเข่าอยู่ที่นี่ แถมตัวยังถูกน้ำฝนเปียกโชกอีก แต่คนรับใช้ของคุณหนูลิ่วยังห้ามยามเฝ้าประตูไปรายงานอีก คนที่มีบิดาคุมครองไม่เหมือนกันเสียจริง"

“เจ้าพูดถูกนะ ต่อให้จั๋วจิ่วจะมีความสามารถเก่งแค่ไหน เด็กที่ไม่มีพ่อก็จะถูกรังแกได้ง่าย ๆ”

เมื่อจั๋วหรูซินได้ยินคำพูดของผู้คน นางโกรธอย่างมาก แต่นางทำได้เพียงอดไว้เท่านั้น

นางรีบวิ่งไปช่วยพยุงจั๋วซือหราน "เสี่ยวจิ่ว เสี่ยวจิ่ว เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม อย่าทำให้พี่ลิ่วตกใจสิ พี่ลิ่วจะพาเจ้าเข้าไปเดี๋ยวนี้ พี่จะช่วยพูด เให้ผู้อายุโสยกโทษให้เจ้า"

เจียงซานเห็นจั๋วหรูซินเดินมา "คุณหนู..."

“เจ้าหุบปากเลย เจ้ากล้าดูหมิ่นคุณหนูจิ่วได้อย่างไร เจ้าคุกเข่าที่นี่เลย หากเสี่ยวจิ่วเป็นอะไร ข้าจะไม่ไว้ชีวิตเจ้า”

นางไม่รู้หรอกว่า เมื่อครู้นี้ จั๋วซือหรานได้เปิดเผยความคิดของนางไปแล้ว ดังนั้นในสายตาของผู้อื่น พฤติกรรมที่กระตือรือร้นของนางในขณะนี้ดูเสแสร้งอย่างมาก

เข้าสู่จวนจั๋ว

จั๋วซือหรานพูดอย่างเย็นชาว่า "ปล่อยข้าได้หรือยัง จั๋วหรูซิน เจ้าพยายามสร้างภาพขนาดนี้ เจ้าไม่เหนื่อยหรือ ข้ารู้สึกหมั่นไส้จนอยากอาเจียนแล้ว"

จั๋วหรูซินกระตุกริมฝีปากของนางอย่างแข็งทื่อ "เสียวจิ่ว เจ้ามีอะไร... ที่เข้าใจข้าผิดหรือเปล่า"

จั๋วซือหราน "เข้าใจผิดอะไรหรือ ข้าเข้าใจผิดว่า เจ้าเป็นผู้ที่สั่งการฉินตวนหยาง ให้เขาใช้เสน่ห์หนอนพิษกู่เพื่อควบคุมข้าเช่นนั้นหรือ"

“เจ้าอย่าใส่ร้ายใครเลย ถึงอย่างไร ข้าเป็นพี่สาวในตระกูลของเจ้านะ ข้าจะยอมให้เจ้ามาใส่ร้ายข้าแบบนี้ได้อย่างไร” จั๋วหรูซินพูดด้วยความโกรธเคือง และนางยกมือเข้าไปหาจั๋วซือหราน

"เพี๊ยะ!--"

เสียงตบดังก้อง

“เจ้ากล้าตบหน้าข้าหรือ” จั๋วหรูซินบังหน้าตนเองด้วยความไม่เชื่อ

เดิมทีนางอยารกตบหน้าบจั๋วซือหรานแท้ ๆ แต่จั๋วซือหรานกลับคว้ามือของนางไว้กลางอากาศแล้วตบหน้านาง

“เจ้าทำร้ายข้าเช่นนี้แล้ว ยังอยากตบข้าก่อนอีก แล้วทำไมข้าถึงจะไม่กล้าตบเจ้าบ้างล่ะ” จั๋วซือหรานรู้สึกตลกไปเล็กน้อย นางหรี่ตาลงแล้วถามอีก “พี่ลิ่วลืมไปแล้วหรือ”

“อะ อะไรนะ” ตั้งแต่เด็ก จั๋วหรูซินไม่เคยถูกตีเลย และการตบครั้งนี้ทำให้นางรู้สึกโกรธและหวาดกลัว

“พี่ลิ่ว เจ้ายังคิดว่า ข้าคือจั๋วจิ่วที่ถูกเสน่ห์หนอนพิษกู่ควบคุมสติอยู่หรือ” จั๋วซือหรานยิ้มเยาะ

จั๋วหรูซินเคยชินกับจั๋วซือหรานที่ถูกเสน่ห์หนอนพิษกู่ควบคุมสติจริง ๆ และอีกอย่าง นางเห็นจั๋วซือหรานอ่อนแอเช่นนี้ นางก็ลืมไปว่า นางเป็นผู้แพ้ของจั๋วซือหรานมาโดยตลอด...

เมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้ จั๋วหรูซินก็โกรธมากยิ่งขึ้น "ข้าจะสู้ตายกับเจ้า"

“พอเหอะ” มีผู้หนึ่งห้ามนางไว้

ผู้อาวุโสใหญ่ จั๋วหลาน เดินเข้ามา เขามองไปที่จั๋วซือหราน และพูดโดยไม่โศกเศร้าหรือดีใจว่า "เจ้ายังรู้กลับมาอีกหรือ"

“ผู้อาวุโสใหญ่เจ้าคะ ข้ากลับมาคราวนี้เพื่อสารภาพความผิดและขอให้ท่านรักษาความยุติธรรม คราวนี้ข้าถูกคนทรยศทำร้าย และข้าเกือบถูกผู้ร้ายเหล่านั้นทำลายไปตลอดชีวิต”

จั๋วซือหรานกล่าว และนางค่อย ๆ จัดเสื้อที่เปียกชื้นขึ้น และค่อย ๆ คุกเข่าลงต่อหน้าผู้อาวุโสใหญ่

ผู้อาวุโสใหญ่จั๋วหลานมีความยุติธรรมมาโดยตลอด จั๋วซือหลานไม่ทันคุกเข่าลง เขาโบกมือแล้วพูดว่า "เจ้ามิต้องพิธีมาก แต่ผละกระทบที่ไม่ดีที่เจ้าสร้างแก่ตระกูลนั้นไม่สามารถลบล้างได้"

“ข้าเต็มใจที่จะรับการลงโทษเจ้าค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็ไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษเพื่อรับกฎตระกูลด้วยตัวเอง เสี่ยวจิ่ว อย่าโทษข้าที่โหดร้ายเลย เพราะบ้านเมืองมีขื่อมีแปร ตระกูลก็มีกฎเกณฑ์ด้วย”

“ข้ายอมรับผิดอันดี ข้าไม่ต่อต้าน”

“ส่วนของความยุติธรรม แม้ว่าคนของเจ้าได้พาสางรับใช้มา และรายงานว่า สางรับใช้คนนั้นติดสินบนมา ข้าจะฟังคำพูดของเจ้าเพียงฝ่ายเดียวมิได้ เมื่อข้าสืบสวนและได้ความจริง ข้าจะให้ความยุติธรรมแก่เจ้า”

“ขอบพระคุณท่านผู้อาวุโส” จั๋วซือหรานกล่าวคำนับ

จั๋วหรูซินอยู่ด้านข้าง นางถามด้วยเสียงต่ำ "อะไรนะ... ถึงถูกฆ่าโดยคนทรยศ คนใช้อะไรที่ติดสินบน เรื่องของเสี่ยวจิ่ว เป็นเพราะบัณฑิตฉินมีเจตนาชั่วร้ายมิใช่หรือ"

จั๋วหรูซินด่าเจียงซานในใจ นางด่าเขาช่างไม่ได้เรื่องเสียจริง เฝ้าที่หน้าประตู และห้ามจั๋วซือหรานเข้าบ้าน แล้วช่วยอะไรได้ล่ะ หลิ่วเย่ถูกปล่อยเข้าไปได้อย่างไร

จั๋วซือหรานหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า "พี่ลิ่วทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อเลย "

“เจ้า” จั๋วหรูซินพูดด้วยความโกรธ “เจ้าหมายความว่า ข้าอยากฆ่าเจ้าหรือ เราเป็นพี่เป็นน้องกัน เป็นสมาชิกของตระกูลจั๋วด้วยกัน หากข้าทำร้านเจ้า ข้าจะได้ประโยชน์อะไร แถมหากช้าทำเชานนั้นเสียจริง กลายเป็นว่า ข้าทำลายชื่อเสียงของครอบครัวเปล่า ๆ "

จั๋วซือหรานยิ้มและพูดว่า "ใช่สิ เจ้าจะได้ประโยชน์อะไรกัน นอกเสียจากในการฝึกฝนของตระกูลที่กำลังจะมาถึง เจ้าไม่มีคู่แข่งอย่างข้า"

จั๋วซือหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย นางโกรธเคืองอย่างมาก คำพูดของนางแทบจะถูกบีบออกมาจากช่องว่างของฟันของนาง "ข้าจะไม่มีวันลืมสิ่งที่พี่ลิ่วทำ ไม่ต้องกังวล ต่อให้ข้าจะป่วยมากแค่ไหน ต่อให้ข้าต้องคลาน ข้าก็ต้องคลานให้ถึงที่สนามการฝึกฝนของตระกูล มิฉะนั้น ก็จะเสียดายน้ำใจของเจ้า ในเมื่อเจ้าอุส่าห์วางแผนอย่างรอบครอบ”
Comments (3)
goodnovel comment avatar
อุทัยวรรณ มีเอี่ยม
ช่วยแปลให้เข้าใจถูกต้องตามไวยากรณ์หน่อยค่ะต้องใช้ความเข้าใจเองมันไม่สนุกค่ะ
goodnovel comment avatar
Funnyped
เสียเงินไปแล้วยังเจอคำแปลผิดอ่านสะดุด แย่มาก
goodnovel comment avatar
Somratai Ying
สะกดผิด เขียนผิดเยอะจัง
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 7

    จั๋วหรูซินตะโกนด้วยความโกรธ "จั๋วซือหราน เจ้า"“พอแล้ว” ผู้อาวุโสใหญ่ขมวดคิ้วและตะโกนจั๋วหรูซินยังอยากฟ้องต่อ "ผู้อาวุโสใหญ่ นาง..."จั๋วซือหรานกลับโค้งคำนับเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพ "ข้าจะไปรับการลงโทษที่ห้องโถงบรรพบุรุษเจ้าค่ะ"ทิ้งจั๋วหรูซินอยู่นั่นผู้เดียว ปล่อยนางโกรธจนหน้าซีดระหว่างทางไปห้องโถงบรรพบุรุษ จั๋วซือหรานเจอฝูซูและฝูซาง“หลิ่วเย่ล่ะ” จั๋วซือหรานถามฝูซางตอบ “พวกเราหลบสายตาของผู้อื่น พานางเข้าเดินผ่านประตูหลังและเดินเข้าจวน มัดนางไปหาผู้อาวุโสใหญ่เพื่ออธิบายรายละเอียดต่าง ๆ จากนั้นผู้อาวุโสใหญ่ก็สั่งให้ขังนางไว้ในห้องเก็บฟืนที่ลานด้านข้างจนกว่าเขาจะสอบปากคำ”ฝูซูถาม "คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูลิ่วกำจัดหลิ่วเย่หรือไม่เจ้าคะ มิเช่นนั้นข้าไปคอยคุ้มกันไว้ดีไหมเจ้าคะ"จั๋วซือหรานยกริมฝีปากขึ้นและยิ้ม "หากนางฆ่าอีนังนั้นเสียจริง นั่นก็หมายความว่า หาเรื่องใส่ตัวแล้วน่ะสิ ในเมื่อผู้อาวุโสใหญ่สั่งขังหลิ่วเย่อยู่ในห้องเก็บฟืนที่ลานด้านข้าง แสดงว่าท่านต้องแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว"หากจั๋วหรูซินจิตใจลุกลี้ลุกลน แล้วไปฆ่าหลิ่วเย่จริง ๆ เรื่องน่าจะสนุกน่าดูสินะฝูซางกังวล"คุณหนูเจ้าค

    Last Updated : 2024-04-30
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 8

    เมื่อจั๋วซือหรานเห็นฝูซูกลับมา นางคิดว่าฝูซูพาคุณหมอมาถึงบ้านแล้ว ผู้ใดจะทราบได้ว่า ชายหนุ่มแสนหล่อเหลาที่กล่าวถึงในเมื่อวานนี้ว่า จะต่างคนต่างอยู่ เวลานี้ชายผู้นี้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำและกำลังนั่งหน้าโต๊ะแปดเซียนจั๋วซือหราน "ทำไมถึงเป็นเจ้าล่ะ"เฟิงเหยียนเหลือบมองถ้วยชาในมือของเขา "ผู้ดูแลของเจ้าไปตามคุรหมอที่เรือนหมอของตระกูลเหยียน"“ข้าไปตามคุณหมอที่บ้านมิได้หรือเจ้าคะ” จั๋วซือหรานลากเก้าอี้หนึ่งตัวออกมาแล้วนั่งลง ใบหน้าของนางซีดเซียว นางริมชาเองและดื่มหมดถ้วย“เพราะคนที่ไปเชิญคุณหมอเป็นผู้ติดตามของเจ้า ดังนั้นตระกูลเหยียนจึงส่งข่าวข้า ข้านึกว่าเจ้าจะมีกลอุบายใหม่ ๆ ดังนั้นจึงเข้ามาดูเสียหน่อย” เฟิงเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีอารมณ์ใด ๆ“แล้วคุณหมอล่ะ เจ้าไม่ได้ให้คุณหมอตามมาด้วยหรือ ” จั๋วซือหรานถามเฟิงเกยียนไม่ได้พูดอะไร นั่นหมายถึงจั๋วซือหรานพูดได้ถูกเพราะเมื่อวานเหยียนฉีบอกว่า ชีพจรของนางแข็งแรงมากและถึงแม้จะมีอาการบาดเจ็บภายใน แต่ปัญหาก็ไม่ร้ายแรง ยิ่งไปกว่านั้น พลังทางจิตวิญญาณและความสามารถในการฟื้นฟูของลูกหลานตระกูลจั๋วนั้นเหนือกว่าคนทั่วไปมากเมื่อรวมกับยาน้ำค้

    Last Updated : 2024-04-30
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 9

    มีใบมีดคมที่เย็นเฉียบขึ้นจากหลังคอ และบัดนี้กระบี่เล่มนั้นกำลังถูกวางที่คอขององครักษ์เขาไม่กล้าขยับตัว เสียงของเขาก็สั่นเครือ “ จิ่ว คุณหนูจิ่ว ท่าน…มีอะไรจะพูด…ก็พูดกันดี ๆ เสียก่อน อย่าหุนหันพลันแล่นไปเลย... ““ข้าไม่ได้หุนหันพลันแล่น ข้าใจเย็นแล้วนะ” จั๋วซือหรานเสาะยิ้ม “แต่พวกเจ้าต่างหาก ตอนนี้พร้อมจะคุยกับข้าดี ๆ ยัง”“จิ่ว คุณหนูจิ่ว ท่านเป็นคนใจกว้าง อย่า อย่าคิดเล็กคิดน้อยกับพวกข้าเลยขอรับ” ยามอ่อนแรงจนขาสั่น เขากลัวมือของจั๋วซือหรานจะสั่น“ตอนนี้ ข้าถามอะไร พวกเจ้าต้องตอบ เข้าใจหรือไม่”"เข้า เข้าใจแล้วขอรับ"“น้องชายของข้าอยู่ที่ไหน”“คุณท่านลิ่วนำตัวไปแล้ว”“นำตัวไปที่ไหน”“พวกเราไม่ทราบขอรับ” องครักษ์เกรงว่านางจะไม่เชื่อ จึงย้ำอีกครั้งว่า "พวกเราไม่รู้จริง ๆ และคุณท่านลิ่วก็ไม่จำเป็นต้องให้พวกเราทราบการเดินทางของท่าน"“คำถามสุดท้าย จั๋วหรูซินอยู่ที่ไหน พาข้าไปหานางหน่อย” จั๋วหรูซินพูดอย่างเย็นชาโดยไม่ให้โอกาสผู้คุมปฏิเสธ นางกดกระบี่ลงจนทำให้เกิดรอยเลือดขึ้น*"ไร้ประโยชน์ ไร้ประโยชน์ทั้งสิ้น"ในห้องด้านใน จั๋วหรูซินทุบถ้วยชาในมือของนางออย่างแรง "ถังหยวนอ่อนให้

    Last Updated : 2024-04-30
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 10

    จั๋วซือหรานเหลือบมองกระบี่เรียบง่ายที่ดูธรรมดาในมือของนางความจริงนี่คือกระบี่ประจำตระกูลของเฟิงเหยียน และกระบี่เล่มนี้มีชื่อเดียวกับแหวนเสวียนเหยียนของนางจริง ๆในวันที่ลูกหลานของตระกูลกำเนิด ห้องกระบี่ประจำตระกูลจะเริ่มตีเหล็กเข้ารูปเพื่อทำกระบี่ให้ทารก รูปแบบของกระบี่จะแตกต่างกันไป แต่ตราประจำตระกูลเฟิงจะถูกสลักไว้ที่ด้ามจับ และชื่อของเด็กคนนั้นจะถูกสลักไว้ที่ส่วนท้ายของด้ามจับจั๋วซือหรานมองกระบี่เสวียนเหยียนที่อยู่ในมือของนางและไม่พูดอะไรความเงียบของนางทำให้จั๋วหรูซินโกรธมากขึ้น “เจ้าพูดมาสิ ทำไมเจ้าจึงมีกระบี่ประจำตระกูลของท่านอ๋องเฟิง”จั๋วซือหรานเงยหน้าขึ้นและมองหน้านาง "เจ้ายังต้องถามอีกหรือ แน่นอนว่าเขาให้ข้ามา"นางหยุดครู่หนึ่งและพูดทีละคำ "ของ ขวัญ แทน ใจ"“เป็นไปไม่ได้” จั๋วหรูซินโกรธแค้น นางกัดฟัน “เจ้าไม่ต้องพูดไร้สาระ ท่านอ๋องเฟิงเบื่อหน่ายกับการถูกบงการมากกว่าใคร ๆ ก่อนหน้านี้ เจ้ายกเลิกการหมั้นหมายและต้องการแต่งงานกับคนอื่น สมหวังเขาพอดี นางคิดว่าเขาอยากแต่งงานกับเจ้าหรือ เขาอยากแต่งงานกับเจ้าเพียงเพราะเจ้า…”“ซินเอ๋อร์ หยุดพูดได้แล้ว” จู่ ๆ คุณท่านจั๋วลิ่วก็พู

    Last Updated : 2024-04-30
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 11

    เมื่อได้ยินคำพูดของชายผู้นี้ ผู้สูงอายุใหญ่ก็ขมวดคิ้วรอยยิ้มบนใบหน้าของผู้สูงอายุสามแข็งทื่อ "เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร จวนของข้าจะขาดแคลนยาของเสี่ยวจิ่วได้เช่นไร ทว่าข้ายังคงขอบคุณสำหรับน้ำใจของท่าน"จั๋วซือหราน "ขอบพระทัยท่านอ๋องแทนข้าด้วย"“ขอรับ เมื่อข้าส่งมอบของเรียบร้อยแล้ว ข้าจะกลับไปรายงานเดี๋ยวนี้ ข้าขอลา และข้าขอคุณหนูจิ่วหายดีเร็ว ๆ ขอรับ”หลังจากผู้ติดตามของตระกูลเฟิงจากไปผู้สูงอายุใหญ่กล่าวอย่างเคร่งขรึม "ผู้ใดเข้ากะของคลัง นำตัวมา"จั๋วซือหรานยิ้มอย่างสงบ นางกล่าวว่า "ผู้อาวุโสใหญ่เจ้าคะ ผู้ที่ดูแลคลังของจวนแค่มองว่าใครมีฐานะสูงกว่ากัน และจะฟังคำสั่งของคนผู้นั้น หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากใครบางคน ก็จะมิกล้าทำเช่นนี้หรอก"ผู้อาวุโสใหญ่"ข้ารู้ว่าเจ้ามีความคับแค้นอยู่ในใจ เจ้าได้สสั่งสอนเสี่ยวลิ่วแล้ว เจ้าก็ยกโทษให้นางไปเสีย อย่าทำให้คนภายในตระกูลเสียความรู้สึกต่อกันเลย "จั๋วซือหรานพูดต่อ "หนูเทียบกับพี่ลิ่วมิได้หรอก นางยุยงให้คนนอกทำหนอนพิษกู่ใส่ข้า การกระทำเช่นนี้ ข้ายังไม่เรียกร้องความยุติธรรมเลย"“ทั้งหมดนี้ไม่มีที่เป็นยหลักฐานอันใด เหตุใดจึงต้องทำร้ายความส้มพัน

    Last Updated : 2024-04-30
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 12

    ที่จริงแล้วเฟิงเหยียนไม่มา จั๋วซือหรานกลับรู้สึกสบายใจขึ้นมากนางมีเวลาว่างพอดี นางจะได้วิเคราห์ชะตากรรมเดิมของเจ้าของร่างเดิมที่อยู่ในหัวในชะตาเดิมของเจ้าของร่าง เวลานี้นางได้แต่งงานกับฉินตวนหยางแล้ว ซึ่งตามมารยาท นางไม่ได้มาร่วมงานดอกไม้ในวังแน่นอน รู้เพียงในงานดอกไม้ครั้งนี้ จั๋วหรูซินทดลองยาให้ไทเฮาด้วยตัวเอง เพราะไทเฮานอนติดเตียงเป็นเวลานาน และนางได้รับการยกย่องสรรเสริญเป็นเสียงเอกฉันท์แต่ ณ ตอนนี้ หลังจากงานเลี้ยงเริ่มต้นได้ไม่นาน จั๋วหรูซินก็ลุกขึ้น“ฮองเฮาเพคะ หม่อมฉันทราบมาว่า ไทเฮาทรงประชวรนอนติดเตียงมานานแล้ว ซึ่งทำให้ท่านกังวลเป็นอย่างมาก...”แต่โครงเรื่องต่อไปไม่ได้เป็นไปตามโครงเรื่องเดิมเนื่องจากจั๋วหรูอหรานเปลี่ยนบทสนทนา "น้องสาวจิ่วของหม่อมฉันมีพรสวรรค์อย่างมาก มากเสียจนสามารถรักษาตัวจากแส้หนามของครอบครัวได้ภายในหนึ่งหรือสองวันหลังจากได้รับเฆี่ยนตีเก้าครั้ง ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งและพลังทางจิตวิญญาณ หากนางได้เป็นผู้ทดลองยายาของไทเฮา อาการเจ็บป่วยของไทเฮาจะหายขาดในไม่ช้า”ก่อนเข้าร่วมงานดอกไม้ในวัง บิดาและผู้อาวุโสสามให้นางเสนอจั๋วซือหรานให้เป็นผู้ทดลองยาให้แก่

    Last Updated : 2024-04-30
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 13

    ตำหนักหย่งโซ่วเมื่อครึ่งเดือนก่อน ไทเฮาจู่ ๆ ก็ล้มป่วยลงอย่างกะทันหันและตกอยู่ในอาการขั้นร้ายแรงเมื่อฮองเฮาพาคนมาที่ตำหนักหย่งโซ่ว แม่นมยวี่ที่อยู่เคียงข้างไทเฮาก็ระมัดระวังมากขึ้นเมื่อนางรู้ว่า จั๋วซือหรานมาที่นี่เพื่อวินิจฉัยและรักษาไทเฮา ดวงตาของแม่นมยวี่เป็นประกาย แต่ก็หรี่ลงอย่างรวดเร็วฮองเฮาจะใจดีขนาดนี้ได้อย่างไรนางยังเคยได้ยินชื่อเสียงของคุณหนูจั๋วจิ่วมาก่อน คนเล่ากันว่า คุณหนูจั๋วจิ่วมีความอัจฉริยะ แต่น่าเสียดายที่คุณหนูจั๋วจิ่วเป็นคนของตระกูลจั๋ว มีใครหรือที่มิทราบว่า แท้จริงแล้วตระกูลเหยียนเป็นหมอเทวดาตั้งแต่บรรพบุรุษหรือ ตระกูลจั๋วไม่เคยมีใครรับตำแหน่งเป็นคุณหมออย่างจริงจังเลยเหยียนชาง ผู้เป็นหัวหน้าของห้องหมอหลวงยืนอยู่ข้าง ๆ "จั๋วจิ่ว เจ้าพูดเบาเลยนะ เจ้ามีวิชาหมอด้วยหรือ"เขาเชื่อจั๋วจิ่วไม่มีปัญญารักษาไทเฮาได้ และเนื่องจากเรื่องอื้อฉาวเมื่อไม่นานมานี้ เหยียนชางดูถูกจั๋วซือหรานอย่างมากจั๋วซือหรานยิ้มเบา ๆ และพูดว่า "ข้าพอรู้มานิดหน่อย ขอแสดงฝีมืออันน่าอับอายเสียหน่อย"นางยกแขนเสื้อขึ้นแล้วยื่นมือออก มือของนางขาวราวหยก นิ้วของนางอยู่ห่างจากผิวหนังข้อมือของ

    Last Updated : 2024-04-30
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 14

    เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งที่ไทเฮาพูด ทุกคนก็อดไม่ได้ที่ต้องมองไปที่ท่านอ๋องเฟิงเฟิงเหยียนมองจั๋วซือหรานอย่างไม่กระตือรือร้นจั๋วซือหรานรู้สึกดวงตาที่เย็นชาและลึกล้ำของชายคนนี้ดูเหมือนสื่อสานได้ ราวกับว่า เขากำลังเยาะเย้ยนางอย่างเงียบ ๆ เหมือนเขากำลังเยาะเย้ยนางตอบแทนความเมตตาด้วยความเกลียดชัง และนางกลับคำพูดของนางทั้ง ๆ ที่เมื่อสองวันก่อน นางยังบอกเขาว่า จะไม่กวนเขาและจะไม่ให้เขารับผิดชอบจั๋วหรูซินกำลังอยากโล่งอก อย่างน้อยนางก็ไม่ต้องคู่กับฉินตวนหยางแต่นางยังไม่ทันโลง่อก และจั๋วซือหรานจะไม่ยอมให้นางสมหวังแน่นอน "ขอบพระทัยที่ไทเฮาเมตตา แต่สิ่งที่หม่อมฉันต้องการไม่ใช่พระราชโองการการสมรสกับท่านอ๋องเฟิงเพคะ"ทันใดนั้นจั๋วหรูซินตกตะลึงจนดวงตาของนางเบิกกว้างขึ้น และนางก็จ้องมองไปที่จั๋วซือหรานไทเฮาตรัสว่า “หรือ”จั๋วซือหรานยังคงสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของชายคนนั้น สายตานั้นราวกับเป็นประกาย เหมือนมีไฟลุกอยู่แผ่นหลังของนาง แต่เมื่อคิดถึงภัยคุกคามครั้งก่อนของผู้อาวุโสใหญ่ นางทำได้เพียงกัดกระสุนและพูดซ้ำสิ่งที่นางพูดในวันงานเลี้ยงแต่งงาน "หม่อมฉันมีความรักที่หยั่งรากลึกต่อท่านอ๋องเฟิงโดยไม

    Last Updated : 2024-04-30

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 906

    แพทย์ทหารเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "ข้าข้ามีทักษะเช่นนี้...ทหารราบเหล่านั้นก็คงไม่ตายกันแล้ว..."เสียงของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เขาประจักษ์กับตาแล้วถึงการเปลี่ยนสิ่งเน่าเสียกลายเป็นสิ่งอัศจรรย์ของแม่นางจั๋วจิ่วแล้วพอเห็นว่านางทำตัวราวกับเป็นช่างยอดฝีมือ จัดการเย็บช่องท้องของคนผู้นี้ราวกับเย็บกระเป๋าขาดยิ่งไปกว่านั้นยังจัดการรักษาส่วนที่บาดเจ็บของอวัยวะภายในไปแล้วด้วยนี่ทำให้เขาอดคิดไปถึงทหารที่ตายอย่างน่าเวทนาเหล่านั้น ต่อมาถูกก็ถูกพวกคนเถื่อนเอาหัวขึ้นไปแขวนบนคาน...เขาอดคิดไม่ได้เลย ถ้าหากตนเองมีฝีมือเสียหน่อย ไม่แน่คนเหล่นั้นอาจจะช่วยไว้ได้กระมังคำพูดนี้มีอารมณ์อยู่ด้วย เพราะตอนนี้อารมณ์ของเขาถูกส่งผลกระทบอยู่จริงๆแต่เสียงของจั๋วซือหรานกลับสงบ นางก้มหน้าพูดว่า "ไม่หรอก ถ้าหากเจ็บหนักเกินไป อย่างเช่นหัวขาดออกจากกัน ต่อให้เทพเจ้าก็ทำอะไรไม่ได้ แน่นอนว่าข้าเองก็ไม่มีวิธีเหมือนกัน ข้าเป็นแค่แพทย์ ไม่ใช่พระเจ้า"แม้คำพูดนี้จะดูใจเย็น ราวกับกำลังอธิบายข้อเท็จจริงอยู่ แต่คำพูดนี้ก็ยังทำให้แพทย์ทหารที่ยังรู้สึกโทษตัวเองอยู่ก่อนหน้านี้ อารมณ์ผ่อนคลายลงมาบ้างแล้วจั๋วซือหรานเย็บเข็มส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 905

    สถานการณืเช่นนี้ ทำให้คนรู้สึกไม่อยากเชื่อจริงๆ!เดิมทีในใจก็เห็นความหวังแล้ว ตอนนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นมาใหญ่ในดวงตาเขาเมหือนมีพลังชีวิตเปล่งออกมาจั๋วซือหรานพอใจกับสถานการณ์เช่นนี้ พลังชีวิตเช่นนี้ อันที่จริงก็มีประโยชน์กับอาการบาดเจ็บของเขาคนอื่นๆ อันที่จริงก็รู้สึกสนใจกับวิธีการรักษษของจั๋วซือหรานมากแต่ว่า...วิชาและขั้นตอนการรักษษ ในบางระดับ ก็ถือว่าเป็นความลับของแพทย์ด้วยดังนั้น ต่อให้จะอยากรู้อยากเห็นแค่ไหน พวกเขาก็ทำได้แค่รออยู่ด้านนอกฉากกั้นลมเพียงแต่ว่า พวกเขาก่อนหน้านี้ยังได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดของคนเจ็บอยู่เลยตอนนี้กลับค่อยๆ สงบลงมาแล้วนี่ทำเอาทุกคนมีการคาดเดาขึ้น...ว่าคนคนนั้น...คงจะไม่ได้ตายไปแล้วกระมัง?มีแพทย์ทหารที่ทนไม่ไหว ต่อให้รู้ว่าหน้าไม่อาย แต่เขาก็ยังเปิดปากขึ้นอย่างหน้าด้านๆบอกว่า "แม่นางจิ่ว ข้าอยากรู้จริงๆ ให้ข้าเข้าไปดูด้วยได้ไหม?"ตอนที่พูดคำนี้จบ แพทย์ทหารคนอื่นที่อยู่รอบๆ สายตาก็เผยสีหน้าไม่อยากเชื่อจ้องมองเขาเจ้าไหวไหมน่ะ? หน้าตาน่ะมีไหม?แต่คนผู้นี้ก็ยังกัดฟัน ไร้เกียรติก็ช่างมัน!ยิ่งไปกว่นั้นด้านในก็ไม่มีปฏิกิริยาใด ทุกคนจึงรู้สึกว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 904

    ถ้าในชาติที่แล้วคือไม่น้อยเลยต่อให้ไม่ใช่ชาติที่แล้ว ในโลกที่การรักษาล้าหลังอย่างที่นี่ จั๋วซือหรานเองก็เคยมีประสบการณ์มาแล้วแพทย์ทหารพอได้ยินคำนี้ก็งงงันไป น่าจะเพราะคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำตอบมั่นใจนี้จากปากจั๋วซือหราน"อะ อะ...อะไรนะ?" แพทย์ทหารมีสีหน้าไม่อยากเชื่อ เขาจ้องจั๋วซือหรานนิ่งจากนั้นนึงดึงผ้าที่คลุมบนตัวคนเจ็บผืนนั้นออก เอ่ยขึ้นว่า "ท่านว่าอาการอย่างนี้น่ะนะ?!"การกระทำที่ตามมาหลังคำพูด คือการเปิดเผยอาการบาดเจ็บออกมายังสายตาคนทั้งหมดบาดแผลที่น่ากลัว ช่องท้องเปิดโหว่ ประจักษ์เข้ามาในสายตาคนทั้งหมดคนทั้งหมดในนี้ล้วนเป็นขุนพลสายบู๊ทุกคนไม่กลัวกับภาพสยดสยองที่เลือดเนื้อเหวอะหวะแต่ไม่กลัวมันก็ส่วนไม่กลัวแต่เพระาเคยเห็นเลือดกับความตายมาแล้ว ตอนที่เจอกับอาการบาดเจ็บเช่นนี้ก็แทบจะคิดถึงปลายทางได้เลย ถ้าหากจากความคิดพวกเขา แค่รู้สึกว่า...มอบความเมตตาให้เขาไปสบายจะดีกว่าไหม?ใครจะคิดว่าคำตอบที่จั๋วซือหรานให้มากลับเป็น..."อืม บาดแผลแบบนี้เลย คุ้มค่าที่จะลองดู" จั๋วซือหรานยิ้มเรียบๆ นางเดินขึ้นไปก้าวหนึ่งส่วนน้องชายคนเจ็บ เดิมทีถูกปฏิกิริยาของแพทย์ทหารเมื่อครู่ทำ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 903

    ใกล้จะตายแล้วฉีฮ่าวมากับจั๋วซือหราน ตอนที่ตามคนผู้นี้มาด้วยกัน แค่เห็นน้องชายเขาผาดเดียวก็มองออกแล้ว ว่าคนผู้นี้กำลังจะตายสีหน้าเขาไม่มีสีเลือดแล้ว เขียวคล้ำ หายใจออกแรงหายใจเข้าเบา...บางทีไม่ควรพูดว่าหายใจออกแรงหายใจเข้าเบาด้วยซ้ำ นี่เหมือนไม่ได้ยินเสียงหายใจเข้าของเขาด้วยซ้ำตอนที่พวกเขาเข้าไป ทหารราบที่มาโขกศีรษะกับจั๋วซือหรานก่อนหน้าคนนั้น ก็รีบตะโกนขึ้นว่า "ท่านพี่! ท่านพี่! เจ้ารีบตื่นเร็ว! ข้าพาคนมาแล้ว ข้าพาคนมาช่วยเจ้าแล้ว! ข้าพาแม่นางจิ่วมาช่วยเจ้าแล้ว!"ไม่รู้ว่าเพราะได้ยินเสียงที่คุ้นเคยหรือเปล่า หรือว่าได้ยินคำว่าแม่นางจิ่ว จึงทำให้เขาเชื่อมั่นขึ้นมาเขาที่เดิมทีตาปรืออยู่แล้ว ตอนนี้ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาเล็กน้อยดวงตาที่พร่ามัว ฝืนตัวเพ่งสมาธิขึ้นมาอีกครั้งตกมาอยู่บนตัวจั๋วซือหรานหลังจากนั้นก็เหมือนว่าจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อยฉีฮ่าวขมวดคิ้วอยู่ข้างๆ มองด้านบนผ้าที่คลุมร่างเขาไว้ เลือดสดดวงใหญ่นั่น...ฉีฮ่าวเอ่ยขึ้นกับทหารที่โขกศีรษะคนนั้นก่อน "พี่ชายเจ้าสภาพแบบนี้..."ทหารคนนี้ขยี้ตาอย่างแรง เอ่ยขึ้นว่า "พี่ชายข้ายังพอช่วยไหวไหม..."ฉีฮ่าวเอ่ยตอบ "เกรงว่าจะ...ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 902

    แต่ว่าเนื้อหาในคำพูด กลับมีเหตุผล และชัดเจนมากเหล่าขุนพลไม่มีใครฟังไม่เข้าใจเข้าใจความคิดที่ฉีฮ่าวต้องการแสดงออกมาในทันที ถ้าหากพวกเขาเหล่านี้เป็นทหาร หากสูญเสียจิตใจปวงประชาไป เช่นนั้นก็จบสิ้นกันแล้ว...เช่นนั้นพวกเขาจะต่างอะไรกับโจรขโมย?จั๋วซือหรานยืนอยู่ข้างๆ ฟังฉีฮ่าวพูดประโยคเหล่านี้นางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่า ฉีฮ่าวแม้จะเป็นชายชาติทหารร่างใหญ่กักขฬะ แต่ในจุดนี้กลับเข้าใจเป็นอย่างดีนางไม่ได้คิดจะมอบให้เปล่าๆ นางไม่ใช่พวกทำการกุศลอะไรแคว้นชางอะไร กองทหารอะไร นั่นโน่นนี่ถ้าเจ้าของร่างเดิมก็อาจจะมีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งอยู่กระมัง?แต่จั๋วซือหรานอย่างนางนั้นไม่มีนางไม่ใช่ว่าคิดจะไม่มอบให้ เพียงแต่ว่านางคิดจะทำขึ้นเอง ถ้าเป็นไปได้ก็จะหขายให้กับกองทหารมีทักษะเช่นนี้ แน่นอนว่าอยู่ในมือตนเองจะมั่นคงกว่านางมาจากต่างโลก ต่างโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้ากว่าโลกใบนี้พูดได้ว่ายืนอยู่บนบ่าของยักษ์ใหญ่แล้วยักษ์ใหญ่ก็ไม่ได้มีไว้ให้คนอื่นขโมยไป...คนคนนั้นเดินเข้ามา คุกเข่าลงตรงหน้าจั๋วซือหราน"ข้าขอโทษ แม่นางจิ่ว ข้ายอมรับโทษแล้ว!" ขุนพลเอ่ยขึ้น เขาหยิบหน้าไม้กลสอง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 901

    และเพราะนางยิ้มอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังยิ้มอย่างอัธยาศัยดีด้วย ทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่านางตอบรับแล้วอย่างน้อยปฏิกิริยาแรกของฉีฮ่าวก็คือนางตอนรับแล้ว ดังนั้นจึงพูดขึ้นว่า "เช่นนั้นก็ขอบคุณ..."พูดไปได้แค่ครึ่งเดียว ฉีฮ่าวจึงเพิ่งตั้งตัวได้ ว่านางบอกว่าไม่ได้นี่นาชั่วขณะหนึ่งก็งงงันไป"ไม่ ไม่...ไม่ได้หรือ?" ฉีฮ่าวถามงึมงำขึ้นมาจั๋วซือหรานพยักหน้า "อืม ไม่ได้"ข้างๆ มีขุนพล ที่น่าจะรู้สึกหวั่นไหวกับอาวุธนี้จริงๆบวกกับอาการร้อนรน จึงเอ่ยขึ้นทันที "ทำไมจึงไม่ได้หรือ? ถ้าหากอาวุธเช่นนี้สามารถมอบให้กับกองทหารได้ จะยกระดับความสามารถการทำสงครามขึ้นมหาศาลเลย...""แต่นั้นเกี่ยวอะไรกับข้าหรือ" จั๋วซือหรานมองไปทางเขาขุนพลคนนี้ถูกคำพูดของนางทำให้ชะงัก ชั่วขณะหนึ่งพูดอะไรไม่ออกแต่ก็มองออกไม่ยาก สีหน้าแข็งกร้าวขึ้นมาแล้ว ครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้นว่า "ท่านเป็นประชาชนของต้าชาง ของเช่นนี้ หากมอบให้กับกงอทหาร จะนำคุณประโยชน์มาได้มากมาย"จั๋วซือหรานมองเขาเย็นชา "ตอนที่ข้าถูกคนเป็นหมื่นตำหนิ ก็ไม่เห็นว่าพวกเจ้าจะมาปกป้องข้าในฐานะคนของต้าชางเลย"ฉีฮ่าวพอได้ยินน้ำเสียงของจั๋วซือหราน ในใจก็สั่นกึก ฉั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 900

    "จั๋วจิ่ว! เจ้าคิดว่าเจ้าจะมีจุดจบอย่างไรกัน?! แดนใต้ไม่มีทางปล่อยเจ้าไว้แน่""สำนักพวกเราเองก็จะไม่ปล่อยเจ้าด้วย!""สภาผู้อาวุโสก็จะไม่ปล่อยเจ้า!""จั๋วจิ่วเจ้าจะไม่ตายดี! เจ้าจะไม่ได้ตายดี!"จั๋วซือหรานได้ยินเสียงก่นด่าของพวกเขา สีหน้ายังคงเรียบเฉยแต่รองแม่ทัพที่อยู่ข้างๆ นาง พอได้ยินคำนี้ กระทั่งคิ้วก็ยังขมวดขึ้นมาเขากำลังจะเตือนจั๋วซือหรานว่าไม่ต้องโกรธ อย่าไปใส่ใจคำพูดของคนพวกนี้แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูด ก็ได้ยินหญิงสาวข้างกาย เอ่ยขึ้นมาเบาๆ ด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ "โอ้ ถ้าอย่างนั้นตอนเจ้าไปเข้าฝันพวกเขาก็อย่าจำผิดล่ะ ข้าชื่อจั๋วซือหราน"เพียงไม่นาน คนเหล่านี้ก็ตอบอะไรนางไม่ได้อีกรองแม่ทัพดูจนใจขึ้นมา "ท่านไม่ได้โกรธเลยสินะ...""จะไปโกรธอะไรกับคนใกล้ตายกัน" จั๋วซือหรานกลอกตามองรองแม่ทัพ "มาหาข้ามีอะไรหรือ?"รองแม่ทัพพยักหน้า "ท่านแม่ทัพเชิญท่านเข้าไปน่ะ"จั๋วซือหรานขานรับคำหนึ่ง เงยหน้าเหลือบมองคานหัวมนุษย์ผาดหนึ่ง แล้วจึงหมุนตัวขึ้นม้ากลับไปในค่ายในกระโจมค่าย ฉีฮ่าวนั่งอยู่ที่นั่น ไม่ใช่แค่ฉีฮ่าว แต่ยังมีกลุ่มขุนพลของเขาด้วยอยู่กันครบองค์ประชุม"คึกครื้นขนาดนี้เชี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 899

    จักรพรรดิเฒ่ามองไปทางซือคงเซี่ยน ถามขึ้นมาคำหนึ่ง "น้องเจ็ด เจ้าว่าอย่างไรล่ะ?"ซือคงเซี่ยนมองออกว่า เสด็จพ่อประทับใจคำพูดเมื่อครู่ของจั๋วซือหรานเข้าแล้วยิ่งไปกว่านั้นในคำพูดเมื่อครู่ของจั๋วซือหราน ซือคงเซี่ยนเองก็สังเกตออก ว่านางมีท่าทีไม่ยอมรับต่อการการมอบงานอภิเษกของเสด็จพ่อดังนั้นซือคงเซี่ยนจึงเอ่ยว่า "ลูก...ไม่มีความเห็น แล้วแต่เสด็จพ่อจะจัดวางเลย"จักรพรรดิเฒ่าได้ยินคำนี้ของซือคงเซี่ยน ในใจก็อดถอนใจไม่ได้อันที่จริงถ้าหากน้องเจ็ดกัดฟันพูดว่าต้องการงานอภิเษกนี้ล่ะก็จักรพรรดิเฒ่าคิดว่า ตนเองจะยอมรับอยู่แต่ว่าลูกชายของตนเองนั้น...ถ้าหากบอกว่าน้องห้าทะเยอทะยานเกินไป เช่นนั้นน้องเจ็ดก็...ไม่มีความทะเยอะทะยานเอาเสียเลยน่าจะเพราะพระสนมเอกคิดได้อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่แรกนางรู้ว่าฐานะของตัวเองและอำนาจทางตระกูลฝ่ายแม่ จะสร้างความระแวงต่อนางและอ๋องเซี่ยนรวมถึงตระกูลฝ่ายแม่ของนางกับองค์จักรพรรดิภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สิ่งแรกที่ต้องวางลงมาก็คือความทะเยอทะยานที่ไม่เหมาะสมสรุปคือ จักรพรรดิเฒ่าไม่เห็นความเร่งร้อนกับความปรารถนาใดจากในตาของซือคงเซี่ยน เห็นแค่ความผิดหวังรางๆ เท่านั้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 898

    นางอดมองไปบนกำแพงสูงไม่ได้คนของ...ตระกูลเฟิงหรือ? หรือว่า...ในลานเกิดความวุ่นวายขึ้นทันที แต่เพราะจักรพรรดิเฒ่าไม่เป็นอะไร ในลานจึงสงบลงมาอย่างรวดเร็วแต่หัวข้อสนทนาเรื่องจะจัดอภิเษกเมื่อครู่ ก็ถูกปัดตกไปแล้วตอนนี้ถ้าถูกยกขึ้นมาใหม่ ก็ไม่ได้เป็นทางการแบบเมื่อครู่แล้วจั๋วซือหรานมองไปทางจักรพรรดิเฒ่า นางครุ่นคิด หลังจากคิดคำพูดอยู่พักหนึ่ง จึงเอ่ยขึ้นว่า "ฝ่าบาท ข้ารู้สึกว่า ตัวตนฐานะข้าตอนนี้เหมาะสมไหม ฝ่าบาทคิดว่าอย่างไร? ในเมืองหลวง...ยังวุ่นวายกันอยู่เลย"จักรพรรดิเฒ่าฉลาดเสียขนาดไหน พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน ก็เข้าใจความหมายที่นางคิดจะแสดงออกมาทันทีพริบตานี้ จักรพรรดิเฒ่าเองรู้สึกแค่ว่า...อยากจะถอนใจเสียเหลือเกิน หญิงสาวคนนี้ฉลาดจริงๆไม่ใช่คนธรรมดาเลยจริงๆยิ่งไปกว่านั้นยังไม่บอกว่าลูกเจ็ดคู่ควรกับนางหรือไม่ถ้าหากจะนำหญิงสาวแบบนี้ไปพันธนาการไว้ในกรงทองวังหลังล่ะก็ เท่ากับเป็นการทำลายของมีค่าไปหญิงสาวเช่นนี้ สมควรจะบินทะยานจักรพรรดิเฒ่าฟังความหมายคำพูดเมื่อครู่ของจั๋วซือหรานออกแน่นอนตัวตนตอนนี้ของนางเหมาะมากเพราะตัวตนของนางตอนนี้ ไม่ชัดเจนอย่างที่สุดจะบอก

DMCA.com Protection Status