16
ป่าลึก ฐานลับของเผ่าปีศาจ มุมปากหนาแสยะยิ้มออกมายามเห็นข้อความลับด้านในของแผ่นกระดาษ ในที่สุด...ในที่สุดก็หาเจอเสียที ฮ่า ฮ่า ฮ่า " หลงซูเจ้าจงไปบอกปีศาจทุกตนและมนุษย์ที่ติดตามให้เตรียมตัวให้พร้อมถึงเวลาที่เรารอคอยกันแล้ว " " ขอรับนายท่าน ปีศาจทุกตนและพวกมนุษย์ทั้งหลายจงฟัง พวกเจ้าจงเตรียมตัวกันให้พร้อมในอีกมิช้ากองกำลังเผ่าปีศาจจะมาถึงฐานลับของพวกเรา ต่อจากนี้ถึงเวลาที่เผ่าปีศาจจะบุกเข้าโจมตีพวกเผ่าสัตว์อสูรเสียทีและแย่งชิงต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มาเป็นของเผ่าปีศาจของพวกเราซะ เพื่อช่วยให้ท่านจอมราชาปีศาจของพวกเราฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ " " เฮ้! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! " ปีศาจติดตามพากันส่งเสียงดังสนั่นป่าทึบ นานเท่าใดแล้วที่พวกมันมิได้ออกไล่ล่าเช่นนี้ จึงทำให้พวกมันฮึกเหิมกันใหญ่ " ท่านพ่อ " เซียวหลี่หันมาเอ่ยเรียกบิดาของตน หากเป็นเช่นนี้เผ่าสัตว์อสูรคงได้จบสิ้นจริง ๆ แน่ " ทำตามแผนของพวกมันไปก่อนแล้วจากนั้นค่อยคิดหาวิธีกันใหม่ " ผู้อาวุโสเว่ยหันมาตอบบุตรชายเสียงแผ่ว จากสถานการณ์ตรงหน้าพวกตนจะต้องคิดหาวิธีการตั้งรับกับสถานการณ์นี้กันใหม่เสียแล้ว มิเช่นนั้นพวกตนมิสามารถที่จะฆ่าปีศาจพวกนี้ได้แน่ " อืม " เซียวหลี่พยักหน้าให้บิดาอย่างรับรู้ จริงอย่างที่ท่านพ่อกล่าวมา หากพวกตนต้องการที่จะช่วยเผ่าสัตว์อสูร พวกตนก็จะต้องคิดหาวิธีที่จะฆ่าพวกปีศาจเหล่านี้ให้ได้ด้วย มิเช่นนั้นพวกตนก็จะตายเปล่าโดยที่ช่วยอันใดเผ่าสัตว์อสูรมิได้ สิ่งนั้นจะทำให้พวกตนเสียใจมากกว่า " โม่เฉินเจ้าจงจับตาดูพวกมนุษย์อย่าให้พวกมันทำอันใดมิเข้าท่า หากพวกมันคิดจะทำเจ้าก็ฆ่าพวกมันทิ้งซะ " " หากพวกเราฆ่ามนุษย์พวกนี้ทิ้ง แล้วผู้ใดจะเป็นผู้ทำลายค่ายกลที่ปกคลุมต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ล่ะขอรับนายท่าน " " เจ้าโง่เจ้าลืมแล้วหรือไงว่าข้างกายของพี่ชายข้ายังมีองค์หญิงจากแดนมนุษย์นั่นอยู่ เจ้ามิต้องกลัวว่าจะมิมีผู้ใดทำลายค่ายกลนั่นหรอก " " ขอรับนายท่าน ข้าจะฆ่ามิให้เหลือแม้แต่ผู้เดียวเลยขอรับ " พร้อมทำท่าปาดคอของตัวเองให้นายท่านดู เรียกเสียงหัวเราะของปีศาจลูกสมุนที่ยืนอยู่ข้างกายท่านจ้าว (ปีศาจงูดำผู้น้อง) ได้เป็นอย่างดี ยามเฉิน หมู่บ้านฉิงอี้ เรือนผู้นำหูหลี่ " ในที่สุดท่านผู้นำก็กลับมาเสียที " หลินเยว่เอ่ยขึ้นด้วยความดีใจ ในเมื่อท่านผู้นำอยู่ที่นี่ก็มิมีอันใดให้น่ากลัว " ยามที่ข้ามิอยู่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือไม่ท่านแม่ทัพเหยาชู " หูหลี่เอ่ยถามแม่ทัพหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับตนถึงความเคลื่อนไหวภายในหมู่บ้าน " ยังมิมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นภายในหมู่บ้านขอรับท่านผู้นำ ส่วนเรื่องที่ท่านให้ข้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของชิงหรางเอาไว้เป็นดั่งที่ท่านเสี่ยวลู่ได้กล่าวมาจริงทั้งหมด เมื่อคืนนางได้ส่งสารลับไปให้เผ่าปีศาจคาดว่าคืนพระจันทร์สีเลือดที่เผ่าปีศาจหมายถึงในสารลับจะเป็นคืนของวันพรุ่ง นอกจากนี้ยังมีกองกำลังปีศาจอีกมากมาย ท่านผู้นำ ท่านคิดแผนการที่จะรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้อย่างไรขอรับ " " บัดนี้เราได้อพยพชาวบ้านที่มิสามารถต่อสู้ไปยังหมู่บ้านใหม่หมดแล้ว ฉะนั้นมิมีอันใดให้ต้องเป็นกังวล ส่วนแผนการรับมือกับเผ่าปีศาจฟูเหรินได้เตรียมความพร้อมเอาไว้ทั้งหมดแล้ว ยามนี้ต้องขอแรงจากพวกเจ้าทุกคนแล้วล่ะ " " พวกเราพร้อมที่จะช่วยอย่างเต็มกำลังขอรับ " แม่ทัพเหยาชู " ใช่ขอรับท่านผู้นำ " หลินเยว่ทหารมือขวาของท่านแม่ทัพเหยาชู ทางเดินกลางหมู่บ้านฉิงอี้ " ทุกคนมารวมตัวกันทั้งหมดแล้วขอรับท่านผู้นำ " แม่ทัพเหยาชูเดินเข้ามารายงานต่อหูหลี่ " เช่นนั้นให้ทุกคนจับกลุ่มกันแล้วเดินมาเอาตะกร้าที่วางอยู่ตรงหน้าของข้าไป หลังจากนี้ข้าจะเริ่มอธิบายแผนการทั้งหมดให้พวกเจ้าฟัง " สัตว์อสูรทุกตนทำตามคำสั่งของหัวหน้าเผ่าหรือผู้นำหมู่บ้านอย่างกระฉับกระเฉงอย่างมิมีผู้ใดโต้แย้ง " นี่คือสิ่งใดหรือขอรับท่านผู้นำ " หลินเยว่เอ่ยถามด้วยความสงสัยใคร่รู้ ไอ้เจ้าลูกกลม ๆ สีดำเช่นนี้มันคือสิ่งใดดูแล้วมันมิน่าทำอันตรายต่อผู้ใดได้เลย " เจ้าลูกกลม ๆ สีดำที่เจ้าเอ่ยถามข้าเมื่อครู่ฟูเหรินบอกว่ามันคือระเบิด นางให้ข้าร่ายค่ายกลใส่ทุกลูก แต่พวกเจ้ามิต้องเป็นห่วงมันจะมิทำอันตรายใด ๆ ต่อพวกเจ้าในตอนนี้ พวกเจ้ารีบนำเจ้าระเบิดพวกนี้ไปฝังตามจุดต่าง ๆ ภายในหมู่บ้านเถอะ หากพวกเจ้าทำเสร็จแล้ว ข้าจะเคลื่อนย้ายพวกเจ้าทุกคนออกจากหมู่บ้านแห่งนี้ทันที " " หากพวกเราทุกคนไปหมดแล้วผู้ใดจะอยู่ปกป้องต้นรักใหญ่ล่ะขอรับท่านผู้นำ " " ท่านแม่ทัพเหยาชู เจ้ามิต้องเป็นห่วงไปเรื่องต้นรักใหญ่ ข้าจะเป็นผู้จัดการเอง " " เช่นนั้นให้ข้าไปกับท่านนะขอรับ " " ข้าน้อยก็จะไปกับท่านด้วยเช่นกันขอรับท่านผู้นำ ข้าน้อยจะมิทิ้งท่านผู้นำและท่านแม่ทัพเหยาชูเด็ดขาดขอรับ " หลินเยว่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ต่อให้ตนต้องตายตนก็จะมิทิ้งท่านผู้นำและท่านแม่ทัพเหยาชูเด็ดขาด " เฮ่ย...ตามใจของพวกเจ้าก็แล้วกัน ต่อให้ข้าเอ่ยห้ามพวกเจ้า พวกเจ้าก็มิฟังข้าอยู่ดี " หูหลี่ถอนหายใจออกมาด้วยความอ่อนใจ เจ้าพวกนี้มันจริง ๆ เลย " พวกเจ้าพากันแยกย้ายไปทำหน้าที่ของพวกเจ้าได้แล้ว " " ขอรับท่านแม่ทัพเหยาชู " " พวกเจ้าทั้งสองเองก็รีบตามข้ามาเถอะ " ตนหวังว่าทางโมลู่หานจะดูแลภรรยาของตนเป็นอย่างดีนะ มิเช่นนั้นหากตนกลับไปตนจะตอบแทนสหายรักอย่างสาสมเลยคอยดู " ขอรับท่านผู้นำ/ขอรับท่านผู้นำ " ทั้งสองตนตามหูหลี่ไปติด ๆ เหยาชูและหลินเยว่มิรู้ว่าท่านผู้นำจะมีแผนการอันใดอยู่อีกหรือไม่ หากแต่มันสามารถปกป้องต้นรักใหญ่เอาไว้ได้สำเร็จและมิตกไปเป็นของเผ่าปีศาจก็ถือว่าเป็นการดีมากแล้ว หูหลี่นำสัตว์อสูรทั้งสองตนมายังถ้ำที่ซ่อนต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ที่เทพสวรรค์ได้บัญชาการให้เผ่าสัตว์อสูรช่วยปกปักรักษาดูแลคุ้มครองให้รอดพ้นจากเนื้อมือของเผ่าปีศาจและเผ่ามนุษย์ แต่มิว่าจะผ่านไปกี่ปีกี่ร้อยปีกี่พันปีกี่หมื่นปีเผ่าสัตว์อสูรที่อุทิศตน เพื่อปกปักรักษาคุ้มครองต้นรักใหญ่สักเท่าใดก็มิอาจปกป้องคุ้มครองต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์นี้เอาไว้ได้ เผ่าสัตว์อสูรต้องสละชีวิตไปตั้งมิรู้เท่าใด แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงรักษาซึ่งสัจจะมาตลอด สัตว์อสูรรุ่นหลังจะต้องสืบปณิธานของบรรพชนรุ่นก่อนเอาไว้คงมั่น หูหลี่และลู่ปิงปิงคิดว่าหากมิสามารถรักษาต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ได้จริง ๆ อย่างน้อยก็ต้องมิปล่อยให้เหล่าปีศาจได้ส่วนของแก่นกลางของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ไปได้ แถมเผ่าสัตว์อสูรยังสามารถใช้แก่นกลางของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์บ่มเพาะให้กลับกลายมาเป็นต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์เฉกเช่นเดิมได้อีกครั้ง หากแต่มันจะต้องใช้เวลานานหลายสิบปีถึงจะงอกเงยต้นอ่อนขึ้นมาใหม่ได้ " ข้าน้อยพึ่งรู้ว่าทำเช่นนี้ได้ด้วย " หลินเยว่จ้องมองด้วยสายตาเปล่งประกายระยิบระยับ " เหตุใดข้าจึงคิดมิออกกันนะว่าทำเช่นนี้ได้ สมแล้วที่เป็นท่านผู้นำของหมู่บ้านเรา ข้ามิผิดหวังในตัวท่านจริง ๆ ขอรับท่านหูหลี่ " พร้อมนั่งลงคุกเข่าลงข้างหนึ่งไปกับพื้น เพื่อทำการคารวะด้วยความสัตย์จริง " พวกเจ้าทุกตนออกให้ห่างจากต้นรักใหญ่ ข้าจะใช้วิชาลวงตาสร้างทหารคุ้มกันที่นี่แทนพวกเจ้า " " ขอรับท่านผู้นำ " ทหารทั้งหกตนเอ่ยขึ้นรับอย่างพร้อมเพรียงกัน หลังจากร่ายวิชาลวงตาเสร็จสิ้น หูหลี่จึงพาคนของตนออกจากถ้ำแห่งนี้ เพื่อไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายใต้ดิน หลังจากนี้ที่แห่งนี้จะกลายเป็นที่ฝังศพของเหล่าปีศาจที่รุกรานเข้ามา...17หน้าประตูหมู่บ้านฉิงอี้พระจันทร์สีเลือดปรากฏขึ้นพร้อมกับกองกำลังปีศาจที่มาเยือนอยู่หน้าประตูของหมู่บ้านฉิงอี้ โดยมีจ้าวจื่อเหนียง (ปีศาจงูแดงผู้พี่) จ้าวซินเหว่ย (ปีศาจงูดำผู้น้อง) หลิวถาเอ๋อร์ (ปีศาจหงส์เพลิง-น้องสาวของจอมราชาปีศาจ) และหยี่หมิง (องค์หญิงเผ่ามนุษย์) นำทัพในครั้งนี้ ค่ายกลที่ถูกร่ายปกคลุมหมู่บ้านฉิงอี้ทำให้กองกำลังของเผ่าปีศาจไม่สามารถเข้าโจมตีหมู่บ้านได้ในทันที " หมู่บ้านแห่งนี้ถูกร่ายค่ายกลป้องกันเอาไว้ขอรับท่านจ้าว " ซิงซือหังปีศาจสามตากล่าวรายงานต่อนายท่านของตน หากต้องการทำลายค่ายกลป้องกันนี้จะต้องใช้พลังอยู่มิน้อย" เรื่องค่ายกลปล่อยให้ข้ากับซินเหว่ยเป็นผู้ทำลายเอง หากค่ายกลถูกทำลายแล้ว ท่านจ้าวและปีศาจทุกตนเข้าโจมตีหมู่บ้านแห่งนี้ได้เลย " หลิวถาเอ๋อร์กล่าวจบก็ลอยตัวขึ้นไปอยู่กลางอากาศคู่กับคู่หมั้นของนาง ก่อนที่ทั้งสองจะร่ายพลังใส่ค่ายกลของหมู่บ้านฉิงอี้ มินานค่ายกลป้องกันก็ถูกทำลายลง" ปีศาจทุกตนบุกเข้าโจมตีได้ ทำลายเผ่าสัตว์อสูรทิ้งให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่ตนเดียว! " จ้าวจื่อเหนียงสั่งการเสียงดัง" เย้! ฆ่า! ฆ่า!
18หมู่บ้านใหม่ฉิงอี้ลู่ปิงปิงยืนอยู่บนเรือนไม้ไผ่สองมือจับราวกั้นของเรือนเอาไว้ ใบหน้ากลมสวยแหงนขึ้นมองพระจันทร์เต็มดวงสีเลือด หวนคิดถึงสามีที่อยู่ต่อสู้กลับเผ่าปีศาจ ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม หวังว่าการย้อนมาในอดีตของเธอจะทำให้เผ่าสัตว์อสูรแคล้วคลาดจากภัยพิบัติในครั้งนี้ไปได้ เพราะเธอไม่อยากสูญเสียใครไปอย่างในภพชาติของเธออีกแล้ว หูหลี่กลับมาอย่างปลอดภัยตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเธอด้วย ขอร้องล่ะ" คุณหนูดึกมากแล้วเข้าไปพักผ่อนเถอะนะเจ้าค่ะ หากคุณหนูมิสบายขึ้นมาแล้วท่านหูหลี่กลับมาพบเข้า ซูซู่อาจจะโดนท่านหูหลี่ทำโทษเอาได้นะเจ้าคะ " ซูซู่พยายามหาคำกล่าวให้สมเหตุสมผล เพื่อให้คุณหนูของนางได้พักผ่อนบ้าง ตั้งแต่มาที่นี่คุณหนูของนางก็เอาแต่เป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม นางมั่นใจว่าท่านเขยจะต้องชนะศึกในครั้งนี้เป็นแน่ มิใช่เพียงแค่นางเท่านั้น แต่ทว่าสัตว์อสูรที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน" ข้าอยากอยู่ตรงนี้อีกสักประเดี๋ยว ซูซู่เจ้าคิดว่าท่านพี่จะชนะศึกในครั้งนี้ได้หรือไม่ " ลู่ปิงปิงเอ่ยถามสาวรับใช้ในขณะที่ใบหน
19จ้าวจื่อเหนียงนั่งอยู่บนโขดหินจ้องมองการต่อสู้ของลูกสมุนอยู่เงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าภรรยากำลังจะทำลายค่ายกลที่ปกป้องต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์จึงกระโดดลงจากโขดหินมุ่งตรงไปหาภรรยาทันที หยี่หมิงใช้พลังของนางที่มีทั้งหมดไปยังค่ายกลหวังทำลาย นางใช้เวลาอยู่สักพักแผงค่ายกลก็เริ่มร้าวและแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ก่อนที่ร่างของนางจะลงไปนั่งฟุบกับพื้นดินด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากที่ใช้พลังไปมาก จ้าวจื่อเหนียงและหลิวถาเอ๋อร์มิรอช้ารีบเข้ามายืนอยู่ข้างต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่ผนึกค่ายกลถูกทำลาย ทั้งสองหวังนำเอาแก่นกลางต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำไปปลดผนึกหวังคืนชีพให้กับจอมราชาปีศาจอย่างซีจ้าวเหว่ยและนำส่วนที่เหลือของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ไปทำเป็นโอสถขายให้กับปีศาจในเผ่าชิงหรางที่ปราบร่างโคลนมายาที่หูหลี่สร้างขึ้นได้ทั้งหมดแล้วก็ลอยตัวมายืนอยู่ข้างกายของหลิวถาเอ๋อร์ โดยมีปีศาจลูกสมุนที่บำเพ็ญตบะถึงขั้นกลางสิบกว่าตนยืนอยู่ข้างหลังจ้าวจื่อเหนียงและหลิวถาเอ๋อร์รวมพลังกันเพื่อดึงเอาแก่นกลางต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ โดยมิสนใจหยี่หมิงที่เป็นภรรยาแถมยังสูญเส
บทนำ ภพปัจจุบัน... หญิงสาวร่างเพรียวที่กำลังเร่งรีบ เนื่องจากเธอกำลังจะไปทำงานสาย สาเหตุไม่ใช่อะไรเพราะเธอดันเผลอไปปิดนาฬิกาปลุก ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่ามันเป็นเวลา 7 โมงกว่าไปเสียแล้ว หญิงสาวมีนามว่า ซิน ลู่ปิงปิง อาศัยอยู่ตัวคนเดียวมาตั้งแต่อายุ 23 ปีบริบูรณ์ สาเหตุที่เธอต้องอยู่ตัวคนเดียว เพราะว่าบิดามารดาของเธอได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างกระทันหัน ญาติพี่น้องทางฝั่งบิดาและมารดาไม่มีใครยื่นมือเข้ามาดูแลหญิงสาวเลยสักคนเดียว เธอยังโชคดีที่บิดามารดายังเหลือสมบัติให้กับเธออยู่ไม่น้อย ทำให้เธอใช้ชีวิตอยู่คนเดียวอย่างไม่ลำบากยากเย็นมากนัก ซิน ลู่ปิงปิง ทำงานอยู่ที่บริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์บรรจุเครื่องประดับตั้งอยู่ใจกลางเมือง เธอวิ่งมาขึ้นรถเมล์ประจำทางได้ทันท่วงที พลางยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาอยู่บ่อยครั้ง ได้แต่ภาวนาอยู่ในใจว่าขอให้เธอไปทำงานทันเวลาด้วยเถิด หญิงสาวภาวนาอยู่อย่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภายในใจรู้สึกกระวนกระวายเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทนี้เข้มงวดกับเวลามาก เวลาทำงานจะต้องมาทำงานให้ตรงเวลาอยู่เสมอไม่อย่างนั้นจะถูกเชิญออกทันที ซึ่งเธอไม่อยากจะถูกเชิญออกในตอนนี้หรอกนะ เศ
01ณ หมู่บ้านเล็กท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามและเงียบสงบในยามเช้าตรู่ มีเสียงสัตว์ตัวน้อย ๆ ส่งเสียงร้องต่อกันไปทั่วบริเวณ เป็นสัญญาณให้กับเหล่าผู้อาศัยได้รู้ถึงเพลาในยามเหม่าและยามโหย่ว หญิงสาวผู้ที่หลับใหลมาเป็นเวลาหลายวัน เนื่องจากพิษไข้เริ่มขยับเปลือกตาลืมขึ้นช้า ๆ ก่อนจะกระพริบตาถี่หวังปรับแสงของดวงตาให้คุ้นชิน ลำคอแห้งผาก นางค่อย ๆ พยุงตัวขึ้นนั่งพลางกวาดสายตากลมโตไปทั่วเรือนไม้เก่า โดยไม่ลืมที่จะมองสำรวจร่างกายของเธอด้วย ไม่นานนักคิ้วโค้งสวยได้รูปก็เริ่มขมวดขึ้นด้วยความขุ่นงง ริมฝีปากอวบซีดขยับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง" ที่นี่ที่ไหนกันแล้วทำไมฉันถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ โอ๊ยปวดหัวจัง! " หญิงสาวจำได้ว่าเธอวิ่งขึ้นรถเมล์มาทำงานแล้วรถเมล์ที่เธอนั่งมันก็เกิดพลิกคว่ำขึ้น ขณะนั้นเธอรู้สึกเบลอและชาไปหมดทั้งตัว ไม่นานสติของเธอก็ดับวูบลงไม่รับรู้อะไรอีกเลยแต่ทว่าเมื่อสักครู่เธอกลับรู้สึกปวดหัวขึ้นมาฉับพลันพร้อมกับความทรงจำใหม่ไหลเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว ถ้าเดาไม่ผิดมันน่าจะเป็นความทรงจำของเจ้าของร่างที่เธอเข้ามาอยู่อย่างแน่นอน หญิงสาวยังคงใช้มือ
02" เสี่ยวลู่เจ้าหิวหรือไหม " หลังจากป้อนน้ำให้กับเสี่ยวลู่เสร็จหูหลี่ก็เอ่ยถามนางในทันท่วงที ลู่ปิงปิงในร่างเสี่ยวลู่ไม่ได้เอ่ยตอบหูหลี่ เธอทำเพียงพยักหน้าให้กับเขาเท่านั้น ก่อนที่เขาจะหันไปสั่งการต่อสาวรับใช้ของฟูเหรินอย่างซูซู่ให้นำสำรับอาหารเข้ามาให้นางทาน" ซูซู่เจ้าจงออกไปนำสำรับมาให้กับคุณหนูของเจ้าได้ทานเถอะ "" เจ้าค่ะท่านหูหลี่ "ซูซู่โค้งรับคำสั่งของหูหลี่แล้วถอยหลังลุกออกไปจากเรือนไม้เก่า วันนี้นางทำของโปรดคุณหนูเอาไว้หลายอย่าง นางดีใจมากที่คุณหนูฟื้นขึ้นมาแล้วได้ทานอาหารฝีมือของนางเสียที นางลงมือทำอาหารเองทุกครั้งตั้งแต่คุณหนูของนางเป็นไข้ป่า แต่ทว่านางก็ต้องนำอาหารเหล่านี้ไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านได้ทานแทน เนื่องจากคุณหนูของนางไม่ฟื้นเอาแต่นอนซมด้วยพิษไข้ป่า จนเวลาล่วงเลยมาเป็นเวลาสามวัน คุณหนูของนางจึงได้ฟื้นขึ้นมาอย่างที่นางได้เห็นเมื่อสักครู่นี้ซูซู่จัดสำรับอาหารให้กับคุณหนูของนางอย่างพิถีพิถัน แล้วนำมาให้กับคุณหนูของนางที่เรือนไม้เก่า จากนั้นจึงค่อย ๆ เดินออกไปจากเรือนไม้เก่าเฉียดเช่นเดิมหูหลี่คอยป้อนอาหารให้เสี่ยว
03หูหลี่กลับมายังห้องทำงานของตน พลางใช้มือข้างขวาขึ้นมาจับไว้ที่คางแล้วใช้มือข้างซ้ายแนบกับหน้าท้องของตนขบคิดถึงรอยเท้าปีศาจที่เจอเมื่อสักครู่ บริเวณชายป่าใกล้หมู่บ้านที่ตนเป็นผู้นำ การที่มีเหล่าปีศาจเริ่มเข้ามาใกล้หมู่บ้านฉิงอี้อย่างนี้ นั่นแปลว่าปีศาจเหล่านั้นเริ่มรู้ถึงต้นรักใหญ่แล้ว ต้นรักใหญ่เป็นต้นไม้ที่เป็นยารักษาโรคทั้งต้น มีสรรพคุณแตกต่างกันออกไปหลายอย่าง จึงเป็นที่ต้องการของใครหลาย ๆ คน หมู่บ้านฉิงอี้ถูกตั้งขึ้นเพื่อรักษาต้นรักใหญ่ต้นนี้ให้ห่างจากเหล่าปีศาจและมนุษย์มายาวนานกว่า 30 ปี ซึ่งบิดามารดาของหูหลี่เองก็ถูกเหล่ามนุษย์ฆ่าตายเพราะเหตุนี้เช่นกัน สมัยเมื่อ 10 ปีก่อนหูหลี่ยังเป็นเด็ก หมู่บ้านฉินอี้ที่หูหลี่และครอบครัวได้อาศัยอยู่ซึ่งห่างออกไปจากหมู่บ้านแห่งนี้ 2 ลี้ ซึ่งบิดาของหูหลี่เป็นถึงประมุขของหมู่บ้านฉินอี้แห่งนั้น เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ชาวบ้านต่างล้มตายกันมากมายและทำให้หมู่บ้านแห่งนั้นต้องล่มสลายไปในช่วงค่ำคืน ส่วนชาวบ้านที่เหลือรอดก็ต่างแตกแยกจากกันไปคนละทิศละทาง หูหลี่ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในที่ลับตามคำสั่งของบิดามารดา หลั
04หูหลี่หันมาจ้องมองใบหน้าของเสี่ยวลู่ที่ยามนี้กำลังตั้งอกตั้งใจอ่านตำราอยู่ของกายตน นี้ถือเป็นครั้งแรกที่ตนกับนางได้นั่งอยู่ในห้องทำงานของตนเช่นนี้ นับว่าเป็นโชคดีสำหรับตนจริง ๆ " ฟูเหรินเจ้าอยากกลับไปพักผ่อนก่อนหรือไม่ "" สวามีนี้ท่านมิอยากให้ข้าอยู่กับท่านต่อรึ เหตุใดท่านจึงถามข้าเช่นนี้ " ลู่ปิงปิงแสร้งทำใบหน้าเศร้าสร้อยพลางใช้มือเรียวปิดตำราสมุนไพร" มิใช่เช่นนั้นข้าเพียงเป็นห่วงเจ้าเห็นว่าเจ้าพึ่งจะอาการดีขึ้นจึงมิอยากให้เจ้าต้องมานั่งหลังคดหลังแข็งเช่นนี้ "" สวามีข้าบอกท่านแล้วว่าท่านมิต้องเป็นห่วงข้า เหตุใดท่านจึงมิฟังข้าเลย ข้ารู้กำลังของตัวข้าดีนะเจ้าค่ะ "" มิเช่นไรเจ้าก็เริ่มดื้อรั้นเอาแต่ใจต่อข้าแล้ว "" สวามีท่านจะมากล่าวหาข้าเช่นนี้มิได้นะเจ้าค่ะ ข้าเพียงแค่เอ่ยออกมาตามความเป็นจริงเท่านั้น มิเชื่อท่านก็ลองหันไปถามท่านโมลู่หานดูสิเจ้าคะ ว่าสิ่งที่ข้าพูดมามันจริงหรือไม่ "" เอ่อ พอดีข้าพึ่งนึกได้ว่าข้าจะต้องออกไปหารือกับท่านจื่อหนาน ข้าขอตัวก่อนนะ เจ้าทั้งสองพูดคุยกันต่อเลย ข้ามิกวนเจ้าทั้งสองแล้ว " เอ่ยจบโมลู่หานก็รีบเดินออกม
19จ้าวจื่อเหนียงนั่งอยู่บนโขดหินจ้องมองการต่อสู้ของลูกสมุนอยู่เงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าภรรยากำลังจะทำลายค่ายกลที่ปกป้องต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์จึงกระโดดลงจากโขดหินมุ่งตรงไปหาภรรยาทันที หยี่หมิงใช้พลังของนางที่มีทั้งหมดไปยังค่ายกลหวังทำลาย นางใช้เวลาอยู่สักพักแผงค่ายกลก็เริ่มร้าวและแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ก่อนที่ร่างของนางจะลงไปนั่งฟุบกับพื้นดินด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากที่ใช้พลังไปมาก จ้าวจื่อเหนียงและหลิวถาเอ๋อร์มิรอช้ารีบเข้ามายืนอยู่ข้างต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่ผนึกค่ายกลถูกทำลาย ทั้งสองหวังนำเอาแก่นกลางต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำไปปลดผนึกหวังคืนชีพให้กับจอมราชาปีศาจอย่างซีจ้าวเหว่ยและนำส่วนที่เหลือของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ไปทำเป็นโอสถขายให้กับปีศาจในเผ่าชิงหรางที่ปราบร่างโคลนมายาที่หูหลี่สร้างขึ้นได้ทั้งหมดแล้วก็ลอยตัวมายืนอยู่ข้างกายของหลิวถาเอ๋อร์ โดยมีปีศาจลูกสมุนที่บำเพ็ญตบะถึงขั้นกลางสิบกว่าตนยืนอยู่ข้างหลังจ้าวจื่อเหนียงและหลิวถาเอ๋อร์รวมพลังกันเพื่อดึงเอาแก่นกลางต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ โดยมิสนใจหยี่หมิงที่เป็นภรรยาแถมยังสูญเส
18หมู่บ้านใหม่ฉิงอี้ลู่ปิงปิงยืนอยู่บนเรือนไม้ไผ่สองมือจับราวกั้นของเรือนเอาไว้ ใบหน้ากลมสวยแหงนขึ้นมองพระจันทร์เต็มดวงสีเลือด หวนคิดถึงสามีที่อยู่ต่อสู้กลับเผ่าปีศาจ ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม หวังว่าการย้อนมาในอดีตของเธอจะทำให้เผ่าสัตว์อสูรแคล้วคลาดจากภัยพิบัติในครั้งนี้ไปได้ เพราะเธอไม่อยากสูญเสียใครไปอย่างในภพชาติของเธออีกแล้ว หูหลี่กลับมาอย่างปลอดภัยตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเธอด้วย ขอร้องล่ะ" คุณหนูดึกมากแล้วเข้าไปพักผ่อนเถอะนะเจ้าค่ะ หากคุณหนูมิสบายขึ้นมาแล้วท่านหูหลี่กลับมาพบเข้า ซูซู่อาจจะโดนท่านหูหลี่ทำโทษเอาได้นะเจ้าคะ " ซูซู่พยายามหาคำกล่าวให้สมเหตุสมผล เพื่อให้คุณหนูของนางได้พักผ่อนบ้าง ตั้งแต่มาที่นี่คุณหนูของนางก็เอาแต่เป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม นางมั่นใจว่าท่านเขยจะต้องชนะศึกในครั้งนี้เป็นแน่ มิใช่เพียงแค่นางเท่านั้น แต่ทว่าสัตว์อสูรที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน" ข้าอยากอยู่ตรงนี้อีกสักประเดี๋ยว ซูซู่เจ้าคิดว่าท่านพี่จะชนะศึกในครั้งนี้ได้หรือไม่ " ลู่ปิงปิงเอ่ยถามสาวรับใช้ในขณะที่ใบหน
17หน้าประตูหมู่บ้านฉิงอี้พระจันทร์สีเลือดปรากฏขึ้นพร้อมกับกองกำลังปีศาจที่มาเยือนอยู่หน้าประตูของหมู่บ้านฉิงอี้ โดยมีจ้าวจื่อเหนียง (ปีศาจงูแดงผู้พี่) จ้าวซินเหว่ย (ปีศาจงูดำผู้น้อง) หลิวถาเอ๋อร์ (ปีศาจหงส์เพลิง-น้องสาวของจอมราชาปีศาจ) และหยี่หมิง (องค์หญิงเผ่ามนุษย์) นำทัพในครั้งนี้ ค่ายกลที่ถูกร่ายปกคลุมหมู่บ้านฉิงอี้ทำให้กองกำลังของเผ่าปีศาจไม่สามารถเข้าโจมตีหมู่บ้านได้ในทันที " หมู่บ้านแห่งนี้ถูกร่ายค่ายกลป้องกันเอาไว้ขอรับท่านจ้าว " ซิงซือหังปีศาจสามตากล่าวรายงานต่อนายท่านของตน หากต้องการทำลายค่ายกลป้องกันนี้จะต้องใช้พลังอยู่มิน้อย" เรื่องค่ายกลปล่อยให้ข้ากับซินเหว่ยเป็นผู้ทำลายเอง หากค่ายกลถูกทำลายแล้ว ท่านจ้าวและปีศาจทุกตนเข้าโจมตีหมู่บ้านแห่งนี้ได้เลย " หลิวถาเอ๋อร์กล่าวจบก็ลอยตัวขึ้นไปอยู่กลางอากาศคู่กับคู่หมั้นของนาง ก่อนที่ทั้งสองจะร่ายพลังใส่ค่ายกลของหมู่บ้านฉิงอี้ มินานค่ายกลป้องกันก็ถูกทำลายลง" ปีศาจทุกตนบุกเข้าโจมตีได้ ทำลายเผ่าสัตว์อสูรทิ้งให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่ตนเดียว! " จ้าวจื่อเหนียงสั่งการเสียงดัง" เย้! ฆ่า! ฆ่า!
16ป่าลึกฐานลับของเผ่าปีศาจมุมปากหนาแสยะยิ้มออกมายามเห็นข้อความลับด้านในของแผ่นกระดาษ ในที่สุด...ในที่สุดก็หาเจอเสียที ฮ่า ฮ่า ฮ่า " หลงซูเจ้าจงไปบอกปีศาจทุกตนและมนุษย์ที่ติดตามให้เตรียมตัวให้พร้อมถึงเวลาที่เรารอคอยกันแล้ว "" ขอรับนายท่าน ปีศาจทุกตนและพวกมนุษย์ทั้งหลายจงฟัง พวกเจ้าจงเตรียมตัวกันให้พร้อมในอีกมิช้ากองกำลังเผ่าปีศาจจะมาถึงฐานลับของพวกเรา ต่อจากนี้ถึงเวลาที่เผ่าปีศาจจะบุกเข้าโจมตีพวกเผ่าสัตว์อสูรเสียทีและแย่งชิงต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มาเป็นของเผ่าปีศาจของพวกเราซะ เพื่อช่วยให้ท่านจอมราชาปีศาจของพวกเราฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ " " เฮ้! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! " ปีศาจติดตามพากันส่งเสียงดังสนั่นป่าทึบ นานเท่าใดแล้วที่พวกมันมิได้ออกไล่ล่าเช่นนี้ จึงทำให้พวกมันฮึกเหิมกันใหญ่" ท่านพ่อ " เซียวหลี่หันมาเอ่ยเรียกบิดาของตน หากเป็นเช่นนี้เผ่าสัตว์อสูรคงได้จบสิ้นจริง ๆ แน่" ทำตามแผนของพวกมันไปก่อนแล้วจากนั้นค่อยคิดหาวิธีกันใหม่ " ผู้อาวุโสเว่ยหันมาตอบบุตรชายเสียงแผ่ว จากสถานการณ์ตรงหน้าพวกตนจะต้องคิดหาวิธีการตั้งรับกับสถานการณ์นี้กันใหม่เสียแล
15 ชิงหรางที่ตามหาต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกดูแลจากเผ่าสัตว์อสูรตามบัญชาเทพสวรรค์ นางใช้เวลาสามวันสามคืนในที่สุดนางก็พบที่ซ่อนของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ ห่างออกไปจากหมู่บ้านฉิงอี้ 1 ลี้ ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ถูกซ่อนเอาไว้ในถ้ำลึก บริเวณปากถ้ำถูกร่ายค่ายกลบังตาเอาไว้หากเป็นมนุษย์ธรรมดาหรือเป็นปีศาจที่บำเพ็ญตบะน้อยนิดก็มิอาจเห็นทางเข้าของถ้ำนี้ได้ รอบต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มีแสงสีทองอร่ามเปล่งออกมาอยู่ตลอด ผลิผลสีแดงออกมามากมาย บริเวณโคนก้านของผลจะมีปีก 5 ปีก เป็นรูปขอบขนาน เชื่อมอยู่ระหว่างโคนปีกและผลยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร ภายในถ้ำแห่งนี้จะมีคริสตัลสีแดงงอกออกมากระจัดกระจายตลอดทางเดิน ซึ่งคริสตัลเหล่านี้มีแสงเปล่งออกมาทำให้ถ้ำมิมืดและน่ากลัวแถมยังมีสมุนไพรหายากบางชนิดเกิดภายในถ้ำแห่งนี้ด้วย บริเวณปากถ้ำจะมิมีผู้คุ้มกันจะมีก็แต่เพียงบริเวณต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น สัตว์อสูรที่คุ้มกันมีทั้งหมดหกตน ยืนล้อมต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ทำให้ตัวนางมิสามารถเข้าไปใกล้ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ได้ในตอนนี้ ทำได้เพียงถอยหลังออกมาจากที่แห่งนี้ก่อน ยังไงซะต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องตกเป็นของเผ่าป
14เรือนแม่ทัพเหยาชูร่างสูงกำยำของผู้เป็นเจ้าเรือนกำลังนั่งจิบชาอยู่ที่ศาลาไม่ไกลจากห้องของตัวเองและห้องของสตรีที่พามารักษามากนัก สายตาคมเฉี่ยวทำการกวาดมองไปทั่วบริเวณของเรือน หวังหาผู้ร้ายที่แอบรุกรานเข้ามาในยามวิกาล แต่แท้จริงแล้วกลับกำลังมองหาสตรีที่เจ้าตัวได้นำออกมาจากป่า เพื่อพามารักษาอาการบาดเจ็บเมื่อไม่นานมานี้ต่างหาก ซึ่งนางมีนามว่าชิงหราง นางอ้างว่าตัวของนางเป็นชาวบ้านมนุษย์ธรรมดาที่ออกมาเก็บสมุนไพรไปขายเพื่อประทังชีวิตก่อนยามโหย่วสตรีนางนี้ได้มาขอตนออกไปซื้อของกับสาวรับใช้ที่อยู่ในเรือนมานาน กระทั่งบัดนี้เข้ายามซวีแล้วทั้งสองยังมิกลับมากันเลย หรือไม่ทั้งสองก็อาจจะเกิดเหตุมิคาดฝันขึ้นกลางทาง มิได้ตนจะต้องออกไปตามหาทั้งสอง คืนปล่อยไว้แบบนี้มิดีแน่ เหยาชูวางแก้วชาลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นจากเกาอี้กำลังจะเดินออกจากศาลา แต่ทว่าเจ้าตัวยังไม่ได้ก้าวเท้าออกจากศาลาเลยแม้แต่ก้าวเดียว ชิงหรางกับสาวรับใช้ก็เดินเข้ามาภายในเรือนเสียก่อน ชิงหรางเข้ามาภายในเรือนของแม่ทัพได้ก็สั่งให้สาวรับใช้นำของที่ซื้อมาไปเก็บภายในห้องนาง ก่อนจะก้าวเดินเข้ามาหาท่านแ
13อีกฝั่งของป่ากลุ่มบุรุษมนุษย์ที่เดินทางมากับปีศาจสามตน เพื่อค้นหาหมู่บ้านลึกลับ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้มีสิ่งล้ำค่าซุกซ่อนเอาไว้และเป็นสิ่งที่เผ่าปีศาจต้องการมาก สิ่งนี้สามารถทำให้จอมราชาปีศาจที่ถูกผนึกฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง หากแต่ว่าบุรุษมนุษย์กลุ่มนี้กลับมิได้จงรักภักดีต่อเผ่าปีศาจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เนื่องจากพวกเขามิอยากตกเป็นทาสของเผ่าปีศาจไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่และอยากลบล้างความผิดของตนที่ก่อขึ้นในอดีต" นี่พวกเราก็เดินมากันหลายวันแล้วนะทำไมถึงยังมิเจอหมู่บ้านลึกลับแห่งนี้สักที " บุรุษมนุษย์ผู้หนึ่งภายในกลุ่มกล่าวขึ้นเมื่อเริ่มเหนื่อยล้า" นั่นสิหรือว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะมีค่ายกลปกปิดเอาไว้เพื่อกันผู้บุกรุก หากต้องการที่จะเข้าไปภายในหมู่บ้านก็จะต้องเป็นคนในหมู่บ้านพาเข้าไป " บุรุษมนุษย์อีกคนกล่าวขึ้นเสริม หากเป็นดั่งที่ตนคิดจริงคงเป็นเรื่องยากเสียแล้วล่ะ" หากเป็นเช่นที่เจ้ากล่าวมางานนี้เราคงยากที่จะเข้าไปแล้ว " ผู้อาวุโสเว่ยเริ่มมีสีหน้าวิตกกังวล ก่อนจะหันหน้าไปมองปีศาจที่มาเพื่อควบคุมกลุ่มของตน " นายท่านจะทำเช่นไรต่อดี ถ้าเป็นอย่างที่ลู
12สตรีงามที่หลับไหลมาเป็นเวลาสามวัน เริ่มขยับตัวช้า ๆ เปลือกตาค่อย ๆ เปิดออกกวาดมองไปทั่วทุกมุมห้อง จากนั้นจึงชันร่างกายขึ้นนั่งพิงไปกับหัวเตียง ความสงสัยก่อนหน้านี้ของนางกลับมลายหายไปจนหมดสิ้น เมื่อบุรุษหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเรือนเดินเข้ามาภายในห้อง เขาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนางทั้งหมดให้นางฟัง บุรุษหนุ่มมิได้เอ่ยปากไล่สตรีออกจากเรือนของตนแต่อย่างใด เขายังให้นางพักจนกว่านางจะหายเป็นปกติ หากแต่เขาเองก็คอยจับสังเกตนางอยู่ตลอดเช่นกัน นี่ก็เพื่อความปลอดภัยของเผ่า บุรุษหนุ่มมิลืมที่จะนำเรื่องที่สตรีนางนี้ฟื้นขึ้น มารายงานผู้นำและฟูเหรินอย่างที่เคยรับปากก่อนหน้านี้ ซึ่งท่านทั้งสองเองก็มีความคิดเช่นเดียวกับเขา การที่ให้สตรีนางนี้ได้พักฟื้น จนกว่าร่างกายของนางจะหายดี แต่หากสืบสาวราวเรื่องว่านางเป็นสายลับของเผ่าปีศาจ พวกตนเองก็มีวิธีที่จะตั้งรับกับนางเช่นกัน หากนางเป็นคนธรรมดามิใช่คนของเผ่าปีศาจ พวกตนก็จะปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดีใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มิว่าเช่นไรเผ่ามนุษย์ เผ่าสัตว์อสูรหรือแม้แต่เผ่าปีศาจเองก็มีทั้งดีและชั่วเช่นเดียวกัน
11" ท่านผู้นำ ท่านผู้นำขอรับ ข้าน้อยขอคารวะท่านผู้นำ ข้าน้อยขอคารวะท่านเสี่ยวลู่ ท่านผู้นำขอรับท่านเหยาชูให้ข้าน้อยมารายงานต่อท่านผู้นำว่าพวกข้าน้อยได้พบสตรีมนุษย์นางหนึ่งนอนสลบอยู่ในป่าห่างออกไปจากหมู่บ้านของเรามิมากนักตอนออกไปลาดตะเวนในยามเช้าตรู่ นางได้รับบาดเจ็บสาหัสคาดว่านางน่าจากออกมาหาสมุนไพรหรือไม่ก็ของป่าไปกินแล้วโดนสัตว์ป่าทำร้ายขอรับ " บุรุษหนุ่มนามหลินเยว่ เป็นทหารมากฝีมือเป็นมือขวาของแม่ทัพเหยาชู " ฮึ่ม...มนุษย์เช่นนั้นรึ " ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ทว่าภายในใจกลับคิดคาดคะเนต่อสตรีผู้นี้ " ไปกันเถอะ "" เหล่ากงท่านคิดเช่นไรกับสตรีผู้นี้รึ " ลู่ปิงปิงก้าวเดินไปตามทางใบหน้าเชิดตรงมองไปด้านหน้ายามเอ่ยถาม" คิดว่านางมิน่าไว้วางใจ เจ้าล่ะคิดเห็นเช่นไร " " ไม่รู้สิเจ้าค่ะ " เธอกระตุกยิ้มมุมปาก ไม่น่าไว้ใจอย่างนั้นเหรอ หึ สามีของเสี่ยวลู่ช่างน่าสนใจนัก แต่เอะตอนนี้เธอเองก็อยู่ในร่างของเสี่ยวลู่นี้น่า ฉะนั้นตอนนี้เขาเองก็เป็นสามีของเธอด้วยเหมือนนกัน" เช่นนั้นรึ " มุมปากหยักหนากระตุกยิ้มขึ้น ฟูเหรินของตนช่างน่าสนใจยิ่งขึ้นทุกวันเสียจริง" คา