15
ชิงหรางที่ตามหาต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกดูแลจากเผ่าสัตว์อสูรตามบัญชาเทพสวรรค์ นางใช้เวลาสามวันสามคืนในที่สุดนางก็พบที่ซ่อนของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ ห่างออกไปจากหมู่บ้านฉิงอี้ 1 ลี้ ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ถูกซ่อนเอาไว้ในถ้ำลึก บริเวณปากถ้ำถูกร่ายค่ายกลบังตาเอาไว้หากเป็นมนุษย์ธรรมดาหรือเป็นปีศาจที่บำเพ็ญตบะน้อยนิดก็มิอาจเห็นทางเข้าของถ้ำนี้ได้ รอบต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มีแสงสีทองอร่ามเปล่งออกมาอยู่ตลอด ผลิผลสีแดงออกมามากมาย บริเวณโคนก้านของผลจะมีปีก 5 ปีก เป็นรูปขอบขนาน เชื่อมอยู่ระหว่างโคนปีกและผลยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร ภายในถ้ำแห่งนี้จะมีคริสตัลสีแดงงอกออกมากระจัดกระจายตลอดทางเดิน ซึ่งคริสตัลเหล่านี้มีแสงเปล่งออกมาทำให้ถ้ำมิมืดและน่ากลัวแถมยังมีสมุนไพรหายากบางชนิดเกิดภายในถ้ำแห่งนี้ด้วย บริเวณปากถ้ำจะมิมีผู้คุ้มกันจะมีก็แต่เพียงบริเวณต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น สัตว์อสูรที่คุ้มกันมีทั้งหมดหกตน ยืนล้อมต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ทำให้ตัวนางมิสามารถเข้าไปใกล้ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ได้ในตอนนี้ ทำได้เพียงถอยหลังออกมาจากที่แห่งนี้ก่อน ยังไงซะต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องตกเป็นของเผ่าปีศาจแต่เพียงเผ่าเดียว ส่วนความดีความชอบและส่วนแบ่งของนางก็ต้องได้มากกว่าผู้อื่นอยู่แล้ว ดีมิดีนางอาจจะได้เลื่อนขั้นเป็นสตรีของท่านจอมราชาปีศาจก็ได้ ถึงตอนนั้นนางจะใช้อำนาจกำจัดผู้ที่ขวางทางนางให้หมดสิ้น ชีวิตนางที่เคยต้อยต่ำจากนี้ไปก็จะสูงขึ้นอยู่เหนือผู้อื่นทั้งปวง นางจะมิยอมกลับไปใช้ชีวิตแสนอัปยศเฉกเช่นแต่ก่อนอีก ตลอดระยะทางที่ชิงหรางเดินกลับมายังเรือนของแม่ทัพเหยาชู นางก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง ตลอดเส้นทางที่นางเดินมาผู้คนที่ส่วนใหญ่มักจะออกมาเดินพลุ่งพล่านจับจ่ายซื้อของกัน บัดนี้กลับมีเพียงน้อยนิด เด็กน้อยที่เคยออกมาวิ่งเล่นอยู่บริเวณนี้เพลานี้กลับหายไปมิเหลือสักผู้เดียว หรือว่าพวกสัตว์อสูรจะพากันรู้ตัวแล้ว เป็นไปมิได้พวกสัตว์อสูรพวกนั้นมิมีทางรู้ตัวได้เป็นแน่ ไอปีศาจของนางก็กลมกลืนเข้ากับร่างของมนุษย์ผู้นี้มานานแล้ว มิมีทางที่สัตว์อสูรจะรู้ได้ว่านางเป็นปีศาจแฝงตัวเข้ามา มันจะต้องมีอันใดที่ผิดพลาดเป็นแน่แท้ มิได้การนางจะต้องแอบถามไถ่เหยาชูผู้นั้นให้รู้ความ นางจะมิยอมให้แผนการของนางเกิดความผิดพลาดโดยเด็ดขาด นางจะมิยอมกลับไปเป็นเบี้ยล่างของผู้ใดอีก ความปรารถนาที่นางต้องการนางจะต้องทำให้มันเป็นจริงให้ได้ ผู้ใดที่มันกล้ามาขวางทางความสำเร็จของนาง นางจะฆ่าพวกมันทิ้งให้หมด เรือนแม่ทัพเหยาชู ภายในห้องแม่ทัพเหยาชู " ท่านเหยาชูนางหาที่ซ่อนของต้นรักใหญ่พบแล้วขอรับ " หลินเยว่กล่าวรายงานต่อผู้เป็นนายตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย " เล่นตามน้ำของนางต่อไปจนกว่าท่านผู้นำจะกลับมา " มือหนาวางแก้วชาบนโต๊ะ คิดมิผิดจริง ๆ ว่านางจะต้องเป็นคนของเผ่าปีศาจ หากมิใช่คำสั่งของท่านผู้นำตนคงฆ่านางให้สิ้นไปแล้ว " ขอรับท่านเหยาชู หากนางสังเกตเห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในหมู่บ้านท่านจะทำเช่นไรต่อขอรับ " หลินเยว่เอ่ยถามด้วยความอยากรู้ หากรู้เจตนาของท่านแม่ทัพและท่านผู้นำตนก็จะมิทำให้แผนการของท่านทั้งสองล่ม " หึ เรื่องนี้เจ้ามิต้องเป็นกังวลไป ข้ามีแผนการรับมือสำหรับเรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนแผนการใหญ่เพียงแค่รอท่านผู้นำกลับมาแล้วเจ้าจะรู้เองหลินเยว่ " " ขอรับท่านเหยาชู " " ท่านแม่ทัพเจ้าค่ะแม่นางชิงหรางต้องการขอพบท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ " เสียงของสาวรับใช้ที่อยู่ภายในเรือนนี้มานานดังเข้ามาภายในห้องทำให้แม่ทัพเหยาชูและหลินเยว่มือขวาของเขาต้องจบบทสนทนาที่พูดกันก่อนหน้านี้ทั้งหมด " เจ้าออกไปก่อนหลินเยว่แล้วทำตัวให้เป็นปกติด้วย " เหยาชูมิลืมหันมากำชับมือขวาของตน " ขอรับท่านเหยาชู " หลินเยว่รับคำแล้วโค้งตัวคำนับผู้บัญชาการของตน จากนั้นจึงเดินออกไปจากห้องของท่าน " ให้นางเข้ามาได้ " " เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ เชิญเจ้าค่ะแม่นางชิงหราง " สิ้นเสียงของท่านแม่ทัพสาวรับใช้จึงเปิดประตูให้แม่นางชิงหรางเข้ามาภายในห้องของท่าน จากนั้นนางจึงเดินออกมาปล่อยให้ท่านทั้งสองอยู่ภายในห้องกันตามลำพัง " เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอันใดรือ " พลางยื่นมือหนามาหยิบแก้วชาขึ้นดื่ม แล้ววางแก้วชาลงเช่นเดิม ชิงหรางเห็นเช่นนั้นจึงเดินมารินน้ำชาลงใส่แก้วให้กับเหยาชูใหม่ " วันนี้อากาศดีหรางเอ๋อร์เลยออกไปเดินเล่นนอกเรือนมา หากแต่มีบางสิ่งที่หรางเอ๋อร์มิเข้าใจว่าเหตุใดผู้คนที่เคยเดินจับจ่ายซื้อของกันอย่างพลุ่งพล่าน บัดนี้กลับเหลือเพียงน้อยนิดมันเกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเจ้าคะ ท่านเหยาชูพอทราบหรือไม่ " " แน่นอนว่าข้าต้องรู้สาเหตุพวกนี้อยู่แล้วมันเป็นธรรมเนียมของหมู่บ้านข้านี่ ก่อนคืนพระจันทร์สีเลือดจะมาเยือนสตรี คนชราและเด็กจะถูกห้ามออกจากเรือนของตน จนกว่าคืนพระจันทร์สีเลือดจะผ่านพ้นไป " สิ่งที่เหยาชูกล่าวมาล้วนแต่เป็นเรื่องที่เขาแต่งขึ้นมาหวังล่อลวงสตรีนางนี้ทั้งหมด ในเมื่อคิดจะเล่นไปตามแผนของนางตนก็จะต้องใช้เล่ห์กลกับนางให้มากจึงจะสามารถเอาชนะนางได้ " เป็นเช่นนั้นเองหรือเจ้าคะ " ชิงหรางหลงเชื่อคำโกหกของเหยาชูเต็ม ๆ " หลังจากนี้เจ้าเองก็จะต้องอยู่แต่ภายในเรือนของข้าเช่นกัน จนกว่าพระจันทร์สีเลือดจะผ่านพ้นไป " " หรางเอ๋อร์เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ เช่นนั้นหรางเอ๋อร์มิรบกวนท่านเหยาชูแล้วเจ้าค่ะ " หากเป็นดั่งที่สัตว์อสูรผู้นี้กล่าวมามันก็ดีสำหรับนางน่ะสิ คืนนี้เป็นการดีที่นางจะส่งสารไปให้แก่ท่านจ้าว (ปีศาจงูดำผู้น้อง) เพื่อให้ท่านจ้าวได้นำกองกำลังของเผ่าปีศาจเข้ามาโจมตีเผ่าสัตว์อสูรให้สิ้นซาก ส่วนเรื่องค่ายกลป้องกันก็มิยากเกินความสามารถของเผ่าปีศาจหรอก " อืม... " เหยาชูพยักหน้าให้กับนางอย่างรับรู้ หากเป็นไปตามที่ท่านผู้นำได้คาดการณ์เอาไว้ คืนนี้นางจะต้องส่งสารลับไปให้แก่เผ่าของนางเป็นแน่แท้ ยังไงซะคืนนี้ตนจะต้องจับผู้ส่งสารลับให้ได้ เพื่อจะได้ล่วงรู้ถึงแผนการร้ายของเผ่าปีศาจและจะได้วางแผนการตั้งรับต่อแผนการร้ายเหล่านั้น ส่วนสตรีผู้นี้หากนางจะต้องตายนางจะต้องตายด้วยน้ำมือของตนเพียงผู้เดียวเท่านั้น ในยามค่ำคืนอันเงียบสงัดนกพิราบขนดำที่กำลังบินออกจากหลังเรือนของแม่ทัพเหยาชู จู่ ๆ ก็ถูกจู่โจมอย่างกะทันหัน มันพยายามส่งเสียงร้องแต่ก็มิเป็นผล มือหนาดึงแผ่นกระดาษออกมาจากขาของมันแล้วเปิดอ่านข้อความลับด้านใน จากนั้นจึงม้วนสอดเข้าไปที่ขาของมันเช่นเดิมแล้วปล่อยให้มันบินออกไปจากหมู่บ้าน ก่อนที่ตัวของเขาจะกระโดดออกไปอีกฝั่งของเรือน... เชิงอรรถ^ ต้นรักใหญ่หรือต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ : เผ่าสัตว์อสูรจะเรียกขานกันว่าต้นรักใหญ่เป็นส่วนมาก ต่างจากเผ่าปีศาจที่จะขานเรียกกันว่าต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์16ป่าลึกฐานลับของเผ่าปีศาจมุมปากหนาแสยะยิ้มออกมายามเห็นข้อความลับด้านในของแผ่นกระดาษ ในที่สุด...ในที่สุดก็หาเจอเสียที ฮ่า ฮ่า ฮ่า " หลงซูเจ้าจงไปบอกปีศาจทุกตนและมนุษย์ที่ติดตามให้เตรียมตัวให้พร้อมถึงเวลาที่เรารอคอยกันแล้ว "" ขอรับนายท่าน ปีศาจทุกตนและพวกมนุษย์ทั้งหลายจงฟัง พวกเจ้าจงเตรียมตัวกันให้พร้อมในอีกมิช้ากองกำลังเผ่าปีศาจจะมาถึงฐานลับของพวกเรา ต่อจากนี้ถึงเวลาที่เผ่าปีศาจจะบุกเข้าโจมตีพวกเผ่าสัตว์อสูรเสียทีและแย่งชิงต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มาเป็นของเผ่าปีศาจของพวกเราซะ เพื่อช่วยให้ท่านจอมราชาปีศาจของพวกเราฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ " " เฮ้! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! " ปีศาจติดตามพากันส่งเสียงดังสนั่นป่าทึบ นานเท่าใดแล้วที่พวกมันมิได้ออกไล่ล่าเช่นนี้ จึงทำให้พวกมันฮึกเหิมกันใหญ่" ท่านพ่อ " เซียวหลี่หันมาเอ่ยเรียกบิดาของตน หากเป็นเช่นนี้เผ่าสัตว์อสูรคงได้จบสิ้นจริง ๆ แน่" ทำตามแผนของพวกมันไปก่อนแล้วจากนั้นค่อยคิดหาวิธีกันใหม่ " ผู้อาวุโสเว่ยหันมาตอบบุตรชายเสียงแผ่ว จากสถานการณ์ตรงหน้าพวกตนจะต้องคิดหาวิธีการตั้งรับกับสถานการณ์นี้กันใหม่เสียแล
17หน้าประตูหมู่บ้านฉิงอี้พระจันทร์สีเลือดปรากฏขึ้นพร้อมกับกองกำลังปีศาจที่มาเยือนอยู่หน้าประตูของหมู่บ้านฉิงอี้ โดยมีจ้าวจื่อเหนียง (ปีศาจงูแดงผู้พี่) จ้าวซินเหว่ย (ปีศาจงูดำผู้น้อง) หลิวถาเอ๋อร์ (ปีศาจหงส์เพลิง-น้องสาวของจอมราชาปีศาจ) และหยี่หมิง (องค์หญิงเผ่ามนุษย์) นำทัพในครั้งนี้ ค่ายกลที่ถูกร่ายปกคลุมหมู่บ้านฉิงอี้ทำให้กองกำลังของเผ่าปีศาจไม่สามารถเข้าโจมตีหมู่บ้านได้ในทันที " หมู่บ้านแห่งนี้ถูกร่ายค่ายกลป้องกันเอาไว้ขอรับท่านจ้าว " ซิงซือหังปีศาจสามตากล่าวรายงานต่อนายท่านของตน หากต้องการทำลายค่ายกลป้องกันนี้จะต้องใช้พลังอยู่มิน้อย" เรื่องค่ายกลปล่อยให้ข้ากับซินเหว่ยเป็นผู้ทำลายเอง หากค่ายกลถูกทำลายแล้ว ท่านจ้าวและปีศาจทุกตนเข้าโจมตีหมู่บ้านแห่งนี้ได้เลย " หลิวถาเอ๋อร์กล่าวจบก็ลอยตัวขึ้นไปอยู่กลางอากาศคู่กับคู่หมั้นของนาง ก่อนที่ทั้งสองจะร่ายพลังใส่ค่ายกลของหมู่บ้านฉิงอี้ มินานค่ายกลป้องกันก็ถูกทำลายลง" ปีศาจทุกตนบุกเข้าโจมตีได้ ทำลายเผ่าสัตว์อสูรทิ้งให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่ตนเดียว! " จ้าวจื่อเหนียงสั่งการเสียงดัง" เย้! ฆ่า! ฆ่า!
18หมู่บ้านใหม่ฉิงอี้ลู่ปิงปิงยืนอยู่บนเรือนไม้ไผ่สองมือจับราวกั้นของเรือนเอาไว้ ใบหน้ากลมสวยแหงนขึ้นมองพระจันทร์เต็มดวงสีเลือด หวนคิดถึงสามีที่อยู่ต่อสู้กลับเผ่าปีศาจ ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม หวังว่าการย้อนมาในอดีตของเธอจะทำให้เผ่าสัตว์อสูรแคล้วคลาดจากภัยพิบัติในครั้งนี้ไปได้ เพราะเธอไม่อยากสูญเสียใครไปอย่างในภพชาติของเธออีกแล้ว หูหลี่กลับมาอย่างปลอดภัยตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเธอด้วย ขอร้องล่ะ" คุณหนูดึกมากแล้วเข้าไปพักผ่อนเถอะนะเจ้าค่ะ หากคุณหนูมิสบายขึ้นมาแล้วท่านหูหลี่กลับมาพบเข้า ซูซู่อาจจะโดนท่านหูหลี่ทำโทษเอาได้นะเจ้าคะ " ซูซู่พยายามหาคำกล่าวให้สมเหตุสมผล เพื่อให้คุณหนูของนางได้พักผ่อนบ้าง ตั้งแต่มาที่นี่คุณหนูของนางก็เอาแต่เป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม นางมั่นใจว่าท่านเขยจะต้องชนะศึกในครั้งนี้เป็นแน่ มิใช่เพียงแค่นางเท่านั้น แต่ทว่าสัตว์อสูรที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน" ข้าอยากอยู่ตรงนี้อีกสักประเดี๋ยว ซูซู่เจ้าคิดว่าท่านพี่จะชนะศึกในครั้งนี้ได้หรือไม่ " ลู่ปิงปิงเอ่ยถามสาวรับใช้ในขณะที่ใบหน
19จ้าวจื่อเหนียงนั่งอยู่บนโขดหินจ้องมองการต่อสู้ของลูกสมุนอยู่เงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าภรรยากำลังจะทำลายค่ายกลที่ปกป้องต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์จึงกระโดดลงจากโขดหินมุ่งตรงไปหาภรรยาทันที หยี่หมิงใช้พลังของนางที่มีทั้งหมดไปยังค่ายกลหวังทำลาย นางใช้เวลาอยู่สักพักแผงค่ายกลก็เริ่มร้าวและแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ก่อนที่ร่างของนางจะลงไปนั่งฟุบกับพื้นดินด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากที่ใช้พลังไปมาก จ้าวจื่อเหนียงและหลิวถาเอ๋อร์มิรอช้ารีบเข้ามายืนอยู่ข้างต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่ผนึกค่ายกลถูกทำลาย ทั้งสองหวังนำเอาแก่นกลางต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำไปปลดผนึกหวังคืนชีพให้กับจอมราชาปีศาจอย่างซีจ้าวเหว่ยและนำส่วนที่เหลือของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ไปทำเป็นโอสถขายให้กับปีศาจในเผ่าชิงหรางที่ปราบร่างโคลนมายาที่หูหลี่สร้างขึ้นได้ทั้งหมดแล้วก็ลอยตัวมายืนอยู่ข้างกายของหลิวถาเอ๋อร์ โดยมีปีศาจลูกสมุนที่บำเพ็ญตบะถึงขั้นกลางสิบกว่าตนยืนอยู่ข้างหลังจ้าวจื่อเหนียงและหลิวถาเอ๋อร์รวมพลังกันเพื่อดึงเอาแก่นกลางต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ โดยมิสนใจหยี่หมิงที่เป็นภรรยาแถมยังสูญเส
บทนำ ภพปัจจุบัน... หญิงสาวร่างเพรียวที่กำลังเร่งรีบ เนื่องจากเธอกำลังจะไปทำงานสาย สาเหตุไม่ใช่อะไรเพราะเธอดันเผลอไปปิดนาฬิกาปลุก ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่ามันเป็นเวลา 7 โมงกว่าไปเสียแล้ว หญิงสาวมีนามว่า ซิน ลู่ปิงปิง อาศัยอยู่ตัวคนเดียวมาตั้งแต่อายุ 23 ปีบริบูรณ์ สาเหตุที่เธอต้องอยู่ตัวคนเดียว เพราะว่าบิดามารดาของเธอได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างกระทันหัน ญาติพี่น้องทางฝั่งบิดาและมารดาไม่มีใครยื่นมือเข้ามาดูแลหญิงสาวเลยสักคนเดียว เธอยังโชคดีที่บิดามารดายังเหลือสมบัติให้กับเธออยู่ไม่น้อย ทำให้เธอใช้ชีวิตอยู่คนเดียวอย่างไม่ลำบากยากเย็นมากนัก ซิน ลู่ปิงปิง ทำงานอยู่ที่บริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์บรรจุเครื่องประดับตั้งอยู่ใจกลางเมือง เธอวิ่งมาขึ้นรถเมล์ประจำทางได้ทันท่วงที พลางยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาอยู่บ่อยครั้ง ได้แต่ภาวนาอยู่ในใจว่าขอให้เธอไปทำงานทันเวลาด้วยเถิด หญิงสาวภาวนาอยู่อย่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภายในใจรู้สึกกระวนกระวายเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทนี้เข้มงวดกับเวลามาก เวลาทำงานจะต้องมาทำงานให้ตรงเวลาอยู่เสมอไม่อย่างนั้นจะถูกเชิญออกทันที ซึ่งเธอไม่อยากจะถูกเชิญออกในตอนนี้หรอกนะ เศ
01ณ หมู่บ้านเล็กท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามและเงียบสงบในยามเช้าตรู่ มีเสียงสัตว์ตัวน้อย ๆ ส่งเสียงร้องต่อกันไปทั่วบริเวณ เป็นสัญญาณให้กับเหล่าผู้อาศัยได้รู้ถึงเพลาในยามเหม่าและยามโหย่ว หญิงสาวผู้ที่หลับใหลมาเป็นเวลาหลายวัน เนื่องจากพิษไข้เริ่มขยับเปลือกตาลืมขึ้นช้า ๆ ก่อนจะกระพริบตาถี่หวังปรับแสงของดวงตาให้คุ้นชิน ลำคอแห้งผาก นางค่อย ๆ พยุงตัวขึ้นนั่งพลางกวาดสายตากลมโตไปทั่วเรือนไม้เก่า โดยไม่ลืมที่จะมองสำรวจร่างกายของเธอด้วย ไม่นานนักคิ้วโค้งสวยได้รูปก็เริ่มขมวดขึ้นด้วยความขุ่นงง ริมฝีปากอวบซีดขยับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง" ที่นี่ที่ไหนกันแล้วทำไมฉันถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ โอ๊ยปวดหัวจัง! " หญิงสาวจำได้ว่าเธอวิ่งขึ้นรถเมล์มาทำงานแล้วรถเมล์ที่เธอนั่งมันก็เกิดพลิกคว่ำขึ้น ขณะนั้นเธอรู้สึกเบลอและชาไปหมดทั้งตัว ไม่นานสติของเธอก็ดับวูบลงไม่รับรู้อะไรอีกเลยแต่ทว่าเมื่อสักครู่เธอกลับรู้สึกปวดหัวขึ้นมาฉับพลันพร้อมกับความทรงจำใหม่ไหลเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว ถ้าเดาไม่ผิดมันน่าจะเป็นความทรงจำของเจ้าของร่างที่เธอเข้ามาอยู่อย่างแน่นอน หญิงสาวยังคงใช้มือ
02" เสี่ยวลู่เจ้าหิวหรือไหม " หลังจากป้อนน้ำให้กับเสี่ยวลู่เสร็จหูหลี่ก็เอ่ยถามนางในทันท่วงที ลู่ปิงปิงในร่างเสี่ยวลู่ไม่ได้เอ่ยตอบหูหลี่ เธอทำเพียงพยักหน้าให้กับเขาเท่านั้น ก่อนที่เขาจะหันไปสั่งการต่อสาวรับใช้ของฟูเหรินอย่างซูซู่ให้นำสำรับอาหารเข้ามาให้นางทาน" ซูซู่เจ้าจงออกไปนำสำรับมาให้กับคุณหนูของเจ้าได้ทานเถอะ "" เจ้าค่ะท่านหูหลี่ "ซูซู่โค้งรับคำสั่งของหูหลี่แล้วถอยหลังลุกออกไปจากเรือนไม้เก่า วันนี้นางทำของโปรดคุณหนูเอาไว้หลายอย่าง นางดีใจมากที่คุณหนูฟื้นขึ้นมาแล้วได้ทานอาหารฝีมือของนางเสียที นางลงมือทำอาหารเองทุกครั้งตั้งแต่คุณหนูของนางเป็นไข้ป่า แต่ทว่านางก็ต้องนำอาหารเหล่านี้ไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านได้ทานแทน เนื่องจากคุณหนูของนางไม่ฟื้นเอาแต่นอนซมด้วยพิษไข้ป่า จนเวลาล่วงเลยมาเป็นเวลาสามวัน คุณหนูของนางจึงได้ฟื้นขึ้นมาอย่างที่นางได้เห็นเมื่อสักครู่นี้ซูซู่จัดสำรับอาหารให้กับคุณหนูของนางอย่างพิถีพิถัน แล้วนำมาให้กับคุณหนูของนางที่เรือนไม้เก่า จากนั้นจึงค่อย ๆ เดินออกไปจากเรือนไม้เก่าเฉียดเช่นเดิมหูหลี่คอยป้อนอาหารให้เสี่ยว
03หูหลี่กลับมายังห้องทำงานของตน พลางใช้มือข้างขวาขึ้นมาจับไว้ที่คางแล้วใช้มือข้างซ้ายแนบกับหน้าท้องของตนขบคิดถึงรอยเท้าปีศาจที่เจอเมื่อสักครู่ บริเวณชายป่าใกล้หมู่บ้านที่ตนเป็นผู้นำ การที่มีเหล่าปีศาจเริ่มเข้ามาใกล้หมู่บ้านฉิงอี้อย่างนี้ นั่นแปลว่าปีศาจเหล่านั้นเริ่มรู้ถึงต้นรักใหญ่แล้ว ต้นรักใหญ่เป็นต้นไม้ที่เป็นยารักษาโรคทั้งต้น มีสรรพคุณแตกต่างกันออกไปหลายอย่าง จึงเป็นที่ต้องการของใครหลาย ๆ คน หมู่บ้านฉิงอี้ถูกตั้งขึ้นเพื่อรักษาต้นรักใหญ่ต้นนี้ให้ห่างจากเหล่าปีศาจและมนุษย์มายาวนานกว่า 30 ปี ซึ่งบิดามารดาของหูหลี่เองก็ถูกเหล่ามนุษย์ฆ่าตายเพราะเหตุนี้เช่นกัน สมัยเมื่อ 10 ปีก่อนหูหลี่ยังเป็นเด็ก หมู่บ้านฉินอี้ที่หูหลี่และครอบครัวได้อาศัยอยู่ซึ่งห่างออกไปจากหมู่บ้านแห่งนี้ 2 ลี้ ซึ่งบิดาของหูหลี่เป็นถึงประมุขของหมู่บ้านฉินอี้แห่งนั้น เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ชาวบ้านต่างล้มตายกันมากมายและทำให้หมู่บ้านแห่งนั้นต้องล่มสลายไปในช่วงค่ำคืน ส่วนชาวบ้านที่เหลือรอดก็ต่างแตกแยกจากกันไปคนละทิศละทาง หูหลี่ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในที่ลับตามคำสั่งของบิดามารดา หลั
19จ้าวจื่อเหนียงนั่งอยู่บนโขดหินจ้องมองการต่อสู้ของลูกสมุนอยู่เงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าภรรยากำลังจะทำลายค่ายกลที่ปกป้องต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์จึงกระโดดลงจากโขดหินมุ่งตรงไปหาภรรยาทันที หยี่หมิงใช้พลังของนางที่มีทั้งหมดไปยังค่ายกลหวังทำลาย นางใช้เวลาอยู่สักพักแผงค่ายกลก็เริ่มร้าวและแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ก่อนที่ร่างของนางจะลงไปนั่งฟุบกับพื้นดินด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากที่ใช้พลังไปมาก จ้าวจื่อเหนียงและหลิวถาเอ๋อร์มิรอช้ารีบเข้ามายืนอยู่ข้างต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่ผนึกค่ายกลถูกทำลาย ทั้งสองหวังนำเอาแก่นกลางต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำไปปลดผนึกหวังคืนชีพให้กับจอมราชาปีศาจอย่างซีจ้าวเหว่ยและนำส่วนที่เหลือของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ไปทำเป็นโอสถขายให้กับปีศาจในเผ่าชิงหรางที่ปราบร่างโคลนมายาที่หูหลี่สร้างขึ้นได้ทั้งหมดแล้วก็ลอยตัวมายืนอยู่ข้างกายของหลิวถาเอ๋อร์ โดยมีปีศาจลูกสมุนที่บำเพ็ญตบะถึงขั้นกลางสิบกว่าตนยืนอยู่ข้างหลังจ้าวจื่อเหนียงและหลิวถาเอ๋อร์รวมพลังกันเพื่อดึงเอาแก่นกลางต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ โดยมิสนใจหยี่หมิงที่เป็นภรรยาแถมยังสูญเส
18หมู่บ้านใหม่ฉิงอี้ลู่ปิงปิงยืนอยู่บนเรือนไม้ไผ่สองมือจับราวกั้นของเรือนเอาไว้ ใบหน้ากลมสวยแหงนขึ้นมองพระจันทร์เต็มดวงสีเลือด หวนคิดถึงสามีที่อยู่ต่อสู้กลับเผ่าปีศาจ ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม หวังว่าการย้อนมาในอดีตของเธอจะทำให้เผ่าสัตว์อสูรแคล้วคลาดจากภัยพิบัติในครั้งนี้ไปได้ เพราะเธอไม่อยากสูญเสียใครไปอย่างในภพชาติของเธออีกแล้ว หูหลี่กลับมาอย่างปลอดภัยตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเธอด้วย ขอร้องล่ะ" คุณหนูดึกมากแล้วเข้าไปพักผ่อนเถอะนะเจ้าค่ะ หากคุณหนูมิสบายขึ้นมาแล้วท่านหูหลี่กลับมาพบเข้า ซูซู่อาจจะโดนท่านหูหลี่ทำโทษเอาได้นะเจ้าคะ " ซูซู่พยายามหาคำกล่าวให้สมเหตุสมผล เพื่อให้คุณหนูของนางได้พักผ่อนบ้าง ตั้งแต่มาที่นี่คุณหนูของนางก็เอาแต่เป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม นางมั่นใจว่าท่านเขยจะต้องชนะศึกในครั้งนี้เป็นแน่ มิใช่เพียงแค่นางเท่านั้น แต่ทว่าสัตว์อสูรที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน" ข้าอยากอยู่ตรงนี้อีกสักประเดี๋ยว ซูซู่เจ้าคิดว่าท่านพี่จะชนะศึกในครั้งนี้ได้หรือไม่ " ลู่ปิงปิงเอ่ยถามสาวรับใช้ในขณะที่ใบหน
17หน้าประตูหมู่บ้านฉิงอี้พระจันทร์สีเลือดปรากฏขึ้นพร้อมกับกองกำลังปีศาจที่มาเยือนอยู่หน้าประตูของหมู่บ้านฉิงอี้ โดยมีจ้าวจื่อเหนียง (ปีศาจงูแดงผู้พี่) จ้าวซินเหว่ย (ปีศาจงูดำผู้น้อง) หลิวถาเอ๋อร์ (ปีศาจหงส์เพลิง-น้องสาวของจอมราชาปีศาจ) และหยี่หมิง (องค์หญิงเผ่ามนุษย์) นำทัพในครั้งนี้ ค่ายกลที่ถูกร่ายปกคลุมหมู่บ้านฉิงอี้ทำให้กองกำลังของเผ่าปีศาจไม่สามารถเข้าโจมตีหมู่บ้านได้ในทันที " หมู่บ้านแห่งนี้ถูกร่ายค่ายกลป้องกันเอาไว้ขอรับท่านจ้าว " ซิงซือหังปีศาจสามตากล่าวรายงานต่อนายท่านของตน หากต้องการทำลายค่ายกลป้องกันนี้จะต้องใช้พลังอยู่มิน้อย" เรื่องค่ายกลปล่อยให้ข้ากับซินเหว่ยเป็นผู้ทำลายเอง หากค่ายกลถูกทำลายแล้ว ท่านจ้าวและปีศาจทุกตนเข้าโจมตีหมู่บ้านแห่งนี้ได้เลย " หลิวถาเอ๋อร์กล่าวจบก็ลอยตัวขึ้นไปอยู่กลางอากาศคู่กับคู่หมั้นของนาง ก่อนที่ทั้งสองจะร่ายพลังใส่ค่ายกลของหมู่บ้านฉิงอี้ มินานค่ายกลป้องกันก็ถูกทำลายลง" ปีศาจทุกตนบุกเข้าโจมตีได้ ทำลายเผ่าสัตว์อสูรทิ้งให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่ตนเดียว! " จ้าวจื่อเหนียงสั่งการเสียงดัง" เย้! ฆ่า! ฆ่า!
16ป่าลึกฐานลับของเผ่าปีศาจมุมปากหนาแสยะยิ้มออกมายามเห็นข้อความลับด้านในของแผ่นกระดาษ ในที่สุด...ในที่สุดก็หาเจอเสียที ฮ่า ฮ่า ฮ่า " หลงซูเจ้าจงไปบอกปีศาจทุกตนและมนุษย์ที่ติดตามให้เตรียมตัวให้พร้อมถึงเวลาที่เรารอคอยกันแล้ว "" ขอรับนายท่าน ปีศาจทุกตนและพวกมนุษย์ทั้งหลายจงฟัง พวกเจ้าจงเตรียมตัวกันให้พร้อมในอีกมิช้ากองกำลังเผ่าปีศาจจะมาถึงฐานลับของพวกเรา ต่อจากนี้ถึงเวลาที่เผ่าปีศาจจะบุกเข้าโจมตีพวกเผ่าสัตว์อสูรเสียทีและแย่งชิงต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มาเป็นของเผ่าปีศาจของพวกเราซะ เพื่อช่วยให้ท่านจอมราชาปีศาจของพวกเราฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ " " เฮ้! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! " ปีศาจติดตามพากันส่งเสียงดังสนั่นป่าทึบ นานเท่าใดแล้วที่พวกมันมิได้ออกไล่ล่าเช่นนี้ จึงทำให้พวกมันฮึกเหิมกันใหญ่" ท่านพ่อ " เซียวหลี่หันมาเอ่ยเรียกบิดาของตน หากเป็นเช่นนี้เผ่าสัตว์อสูรคงได้จบสิ้นจริง ๆ แน่" ทำตามแผนของพวกมันไปก่อนแล้วจากนั้นค่อยคิดหาวิธีกันใหม่ " ผู้อาวุโสเว่ยหันมาตอบบุตรชายเสียงแผ่ว จากสถานการณ์ตรงหน้าพวกตนจะต้องคิดหาวิธีการตั้งรับกับสถานการณ์นี้กันใหม่เสียแล
15 ชิงหรางที่ตามหาต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกดูแลจากเผ่าสัตว์อสูรตามบัญชาเทพสวรรค์ นางใช้เวลาสามวันสามคืนในที่สุดนางก็พบที่ซ่อนของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ ห่างออกไปจากหมู่บ้านฉิงอี้ 1 ลี้ ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ถูกซ่อนเอาไว้ในถ้ำลึก บริเวณปากถ้ำถูกร่ายค่ายกลบังตาเอาไว้หากเป็นมนุษย์ธรรมดาหรือเป็นปีศาจที่บำเพ็ญตบะน้อยนิดก็มิอาจเห็นทางเข้าของถ้ำนี้ได้ รอบต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มีแสงสีทองอร่ามเปล่งออกมาอยู่ตลอด ผลิผลสีแดงออกมามากมาย บริเวณโคนก้านของผลจะมีปีก 5 ปีก เป็นรูปขอบขนาน เชื่อมอยู่ระหว่างโคนปีกและผลยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร ภายในถ้ำแห่งนี้จะมีคริสตัลสีแดงงอกออกมากระจัดกระจายตลอดทางเดิน ซึ่งคริสตัลเหล่านี้มีแสงเปล่งออกมาทำให้ถ้ำมิมืดและน่ากลัวแถมยังมีสมุนไพรหายากบางชนิดเกิดภายในถ้ำแห่งนี้ด้วย บริเวณปากถ้ำจะมิมีผู้คุ้มกันจะมีก็แต่เพียงบริเวณต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น สัตว์อสูรที่คุ้มกันมีทั้งหมดหกตน ยืนล้อมต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ทำให้ตัวนางมิสามารถเข้าไปใกล้ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ได้ในตอนนี้ ทำได้เพียงถอยหลังออกมาจากที่แห่งนี้ก่อน ยังไงซะต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องตกเป็นของเผ่าป
14เรือนแม่ทัพเหยาชูร่างสูงกำยำของผู้เป็นเจ้าเรือนกำลังนั่งจิบชาอยู่ที่ศาลาไม่ไกลจากห้องของตัวเองและห้องของสตรีที่พามารักษามากนัก สายตาคมเฉี่ยวทำการกวาดมองไปทั่วบริเวณของเรือน หวังหาผู้ร้ายที่แอบรุกรานเข้ามาในยามวิกาล แต่แท้จริงแล้วกลับกำลังมองหาสตรีที่เจ้าตัวได้นำออกมาจากป่า เพื่อพามารักษาอาการบาดเจ็บเมื่อไม่นานมานี้ต่างหาก ซึ่งนางมีนามว่าชิงหราง นางอ้างว่าตัวของนางเป็นชาวบ้านมนุษย์ธรรมดาที่ออกมาเก็บสมุนไพรไปขายเพื่อประทังชีวิตก่อนยามโหย่วสตรีนางนี้ได้มาขอตนออกไปซื้อของกับสาวรับใช้ที่อยู่ในเรือนมานาน กระทั่งบัดนี้เข้ายามซวีแล้วทั้งสองยังมิกลับมากันเลย หรือไม่ทั้งสองก็อาจจะเกิดเหตุมิคาดฝันขึ้นกลางทาง มิได้ตนจะต้องออกไปตามหาทั้งสอง คืนปล่อยไว้แบบนี้มิดีแน่ เหยาชูวางแก้วชาลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นจากเกาอี้กำลังจะเดินออกจากศาลา แต่ทว่าเจ้าตัวยังไม่ได้ก้าวเท้าออกจากศาลาเลยแม้แต่ก้าวเดียว ชิงหรางกับสาวรับใช้ก็เดินเข้ามาภายในเรือนเสียก่อน ชิงหรางเข้ามาภายในเรือนของแม่ทัพได้ก็สั่งให้สาวรับใช้นำของที่ซื้อมาไปเก็บภายในห้องนาง ก่อนจะก้าวเดินเข้ามาหาท่านแ
13อีกฝั่งของป่ากลุ่มบุรุษมนุษย์ที่เดินทางมากับปีศาจสามตน เพื่อค้นหาหมู่บ้านลึกลับ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้มีสิ่งล้ำค่าซุกซ่อนเอาไว้และเป็นสิ่งที่เผ่าปีศาจต้องการมาก สิ่งนี้สามารถทำให้จอมราชาปีศาจที่ถูกผนึกฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง หากแต่ว่าบุรุษมนุษย์กลุ่มนี้กลับมิได้จงรักภักดีต่อเผ่าปีศาจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เนื่องจากพวกเขามิอยากตกเป็นทาสของเผ่าปีศาจไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่และอยากลบล้างความผิดของตนที่ก่อขึ้นในอดีต" นี่พวกเราก็เดินมากันหลายวันแล้วนะทำไมถึงยังมิเจอหมู่บ้านลึกลับแห่งนี้สักที " บุรุษมนุษย์ผู้หนึ่งภายในกลุ่มกล่าวขึ้นเมื่อเริ่มเหนื่อยล้า" นั่นสิหรือว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะมีค่ายกลปกปิดเอาไว้เพื่อกันผู้บุกรุก หากต้องการที่จะเข้าไปภายในหมู่บ้านก็จะต้องเป็นคนในหมู่บ้านพาเข้าไป " บุรุษมนุษย์อีกคนกล่าวขึ้นเสริม หากเป็นดั่งที่ตนคิดจริงคงเป็นเรื่องยากเสียแล้วล่ะ" หากเป็นเช่นที่เจ้ากล่าวมางานนี้เราคงยากที่จะเข้าไปแล้ว " ผู้อาวุโสเว่ยเริ่มมีสีหน้าวิตกกังวล ก่อนจะหันหน้าไปมองปีศาจที่มาเพื่อควบคุมกลุ่มของตน " นายท่านจะทำเช่นไรต่อดี ถ้าเป็นอย่างที่ลู
12สตรีงามที่หลับไหลมาเป็นเวลาสามวัน เริ่มขยับตัวช้า ๆ เปลือกตาค่อย ๆ เปิดออกกวาดมองไปทั่วทุกมุมห้อง จากนั้นจึงชันร่างกายขึ้นนั่งพิงไปกับหัวเตียง ความสงสัยก่อนหน้านี้ของนางกลับมลายหายไปจนหมดสิ้น เมื่อบุรุษหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเรือนเดินเข้ามาภายในห้อง เขาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนางทั้งหมดให้นางฟัง บุรุษหนุ่มมิได้เอ่ยปากไล่สตรีออกจากเรือนของตนแต่อย่างใด เขายังให้นางพักจนกว่านางจะหายเป็นปกติ หากแต่เขาเองก็คอยจับสังเกตนางอยู่ตลอดเช่นกัน นี่ก็เพื่อความปลอดภัยของเผ่า บุรุษหนุ่มมิลืมที่จะนำเรื่องที่สตรีนางนี้ฟื้นขึ้น มารายงานผู้นำและฟูเหรินอย่างที่เคยรับปากก่อนหน้านี้ ซึ่งท่านทั้งสองเองก็มีความคิดเช่นเดียวกับเขา การที่ให้สตรีนางนี้ได้พักฟื้น จนกว่าร่างกายของนางจะหายดี แต่หากสืบสาวราวเรื่องว่านางเป็นสายลับของเผ่าปีศาจ พวกตนเองก็มีวิธีที่จะตั้งรับกับนางเช่นกัน หากนางเป็นคนธรรมดามิใช่คนของเผ่าปีศาจ พวกตนก็จะปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดีใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มิว่าเช่นไรเผ่ามนุษย์ เผ่าสัตว์อสูรหรือแม้แต่เผ่าปีศาจเองก็มีทั้งดีและชั่วเช่นเดียวกัน
11" ท่านผู้นำ ท่านผู้นำขอรับ ข้าน้อยขอคารวะท่านผู้นำ ข้าน้อยขอคารวะท่านเสี่ยวลู่ ท่านผู้นำขอรับท่านเหยาชูให้ข้าน้อยมารายงานต่อท่านผู้นำว่าพวกข้าน้อยได้พบสตรีมนุษย์นางหนึ่งนอนสลบอยู่ในป่าห่างออกไปจากหมู่บ้านของเรามิมากนักตอนออกไปลาดตะเวนในยามเช้าตรู่ นางได้รับบาดเจ็บสาหัสคาดว่านางน่าจากออกมาหาสมุนไพรหรือไม่ก็ของป่าไปกินแล้วโดนสัตว์ป่าทำร้ายขอรับ " บุรุษหนุ่มนามหลินเยว่ เป็นทหารมากฝีมือเป็นมือขวาของแม่ทัพเหยาชู " ฮึ่ม...มนุษย์เช่นนั้นรึ " ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ทว่าภายในใจกลับคิดคาดคะเนต่อสตรีผู้นี้ " ไปกันเถอะ "" เหล่ากงท่านคิดเช่นไรกับสตรีผู้นี้รึ " ลู่ปิงปิงก้าวเดินไปตามทางใบหน้าเชิดตรงมองไปด้านหน้ายามเอ่ยถาม" คิดว่านางมิน่าไว้วางใจ เจ้าล่ะคิดเห็นเช่นไร " " ไม่รู้สิเจ้าค่ะ " เธอกระตุกยิ้มมุมปาก ไม่น่าไว้ใจอย่างนั้นเหรอ หึ สามีของเสี่ยวลู่ช่างน่าสนใจนัก แต่เอะตอนนี้เธอเองก็อยู่ในร่างของเสี่ยวลู่นี้น่า ฉะนั้นตอนนี้เขาเองก็เป็นสามีของเธอด้วยเหมือนนกัน" เช่นนั้นรึ " มุมปากหยักหนากระตุกยิ้มขึ้น ฟูเหรินของตนช่างน่าสนใจยิ่งขึ้นทุกวันเสียจริง" คา