Share

บทที่7

last update Huling Na-update: 2025-03-23 13:16:05

สองสามวันที่ผ่าน เว่ยเหนียนเหยาได้ขอให้สามีพานางไปเลือกซื้อของที่ร้านเล็กๆ ในหมู่บ้าน เนื่องจากนางเห็นว่า ข้าวสารและเครื่องปรุงต่างๆ นั้นร่อยหรอจนแทบจะหมดลงไปแล้ว

หลังจากที่ช่วยกันขนข้าวของกลับมาเก็บไว้ที่บ้าน นางจึงขอให้สามีช่วยดูแลบุตรชายในช่วงนี้ โดยอ้างกับสามีไปว่า ในช่วงนี้ร่างกายของนางยังไม่แข็งแรง อีกทั้งบุตรชายทั้งสองยังเล็ก หากช่วงนี้สามีต้องออกไปขึ้นเขา เกรงว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

หานตงเองเห็นว่า ในเมื่อไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินไปอีกพักใหญ่ เรื่องที่ภรรยาขอร้องก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร ยังไงที่ผ่านมาเขาก็ดูแลบุตรชายทั้งสองมาเพียงคนเดียวอยู่แล้ว

เว่ยเหนียนเหยาเร่งมือปักผ้าตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน นางรู้ว่าตอนนี้ทางบ้านเหลือเงินอยู่ไม่มากแล้ว ที่ทางที่จะเอาไว้เพาะปลูกก็ไม่มี เนื่องจากทางบ้านสามีซื้อที่ให้เฉพาะเพียงพอปลูกบ้านหลังนี้เท่านั้น

หญิงสาวถอนหายใจ ก่อนจะมองดูผลงานที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า

เฮ้อ ในที่สุดก็เสร็จเสียที ร่างบางขยับคอขยับไหล่ไล่ความเมื่อยขบที่เกาะกินตามร่างกาย หลังจากตรวจทานความเรียบร้อยของงานอีกรอบ นางก็พาร่างที่ไร้เรี่ยวแรงจากการโหมงานมาตลอดวันไปนอนบนเตียงก่อนจะหลับใหลไปในที่สุด

"ท่านพี่เจ้าคะ วันนี้ข้าอยากจะเข้าไปในตัวเมืองสักหน่อย"

หานตงขมวดคิ้วมองหน้าภรรยาอย่างสงสัย แต่ยังไม่เอ่ยปากสอบถามอะไรเหมือนจะรอให้อีกฝ่ายพูดต่อ

"คือข้าปักผ้าเช็ดหน้า ถุงหอม และถุงเงินเอาไว้ ข้าอยากนำมันไปขายเจ้าค่ะ"

"ถ้าอย่างนั้นคงต้องรีบกันหน่อย ตอนยามซื่อจะมีเกวียนรับจ้างขนคนเข้าเมือง เดี๋ยวข้าจะเอาบุตรทั้งสองไปฝากไว้กับแม่อาเหยาก่อน จากนั้นจะกลับมารับเจ้าอีกที่"

"ไม่เจ้าค่ะท่านพี่ ครั้งนี้ข้าอยากพาเขาทั้งสองไปด้วย หากของพวกนั้นพอขายได้ราคา ข้าอยากซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้พวกเขาคนละชุด"

ชายหนุ่มหันมองหน้าบุตรชายทั้งสอง ซึ่งตอนนี้คนทั้งคู่ก็กำลังมองเขาอยู่เช่นกัน แววตาออดอ้อนและวาดหวังทำให้คำปฏิเสธทั้งหมดถูกกลืนลงไปในกระเพาะทันที

บัดนี้ลูกชายทั้งสองของเขาแม้จะไม่ได้อวบอ้วนแต่ก็ไม่ผอมแห้งเหมือนแต่ก่อนแล้ว เสื้อผ้าที่ใส่อยู่มองดูคับแคบจนแทบจะใส่ไม่ได้

เขาตัดสินใจแล้วว่า วันนี้หลังจากเข้าเมือง หากผ้าปักของภรรยาขายไม่ออก พรุ่งนี้เขาจะชวนเพื่อนๆ ออกขึ้นเขาล่าสัตว์ แม้อาจจะต้องเสี่ยงภัยเข้าไปลึกหน่อย แต่ยังไงต้องหาอะไรออกมาขายให้ได้ เช่นนี้ครอบครัวของเขาจึงจะมีเงินเพื่อนำมาซื้อเสื้อผ้าให้บุตรชายสักคนละชุด

เมื่อเห็นว่าได้เวลา หานตงเดินนำบุตรและภรรยาออกมารอรถตรงหน้าหมู่บ้าน รถเกวียนเล่มนี้เป็นรถของหมู่บ้านถัง ซึ่งจะออกรับคนที่จะเข้าตัวเมืองทุกๆ 3 วัน โชคดีที่วันนี้มีคนเข้าตัวเมืองน้อย ทางครอบครัวของหานตงจึงไม่ต้องเบียดเสียดกับคนอื่นมากนัก

ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ทั้งสี่ชีวิตก็สามารถเดินทางมาจนถึงตัวเมือง หลังจากลงจากรถ เว่ยเหนียนเหยาก็ให้สามีพาไปที่ร้านขายผ้าทันที

ตอนนี้ต้องลองดูว่า ผ้าของนางจะขายได้หรือไม่ นางพึงเคยมาที่นี่ ย่อมไม่รู้ว่ารสนิยมของผู้คนว่าเป็นอย่างไร การปักลวดลายจึงใช้ลายดอกไม้เป็นหลัก

หานตงพาภรรยาไปที่ร้านเชิงอี้ชิง ร้านนี้ไม่ถือว่าเป็นร้านใหญ่นัก หากแต่ความเป็นมากลับไม่ธรรมดา เนื่องจากร้านร้านนี้เป็นเพียงแค่สาขาย่อยแห่งหนึ่งเท่านั้น สาขาหลักที่แท้จริงกับตั้งมั่นคงอยู่ในเมืองหลวง

ว่ากันว่าหากสินค้าที่นำมาขาย สามารถทำให้คนดูแลที่นี่พอใจได้ อาจจะมีโอกาสนำไปขายที่สาขาหลักในเมืองหลวงเลยทีเดียว

เว่ยเหนียนเหยาก้าวเท้าเข้าไปในร้านด้วยความมั่นใจ ชีวิตที่ผ่านมา กว่านางจะประสบความสำเร็จ นางผ่านการทำงานมามากมาย เรื่องแค่นี้ถือว่าเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วสำหรับนาง

"ฮูหยิน คุณชาย ไม่ทราบว่าพวกท่านต้องการซื้อหาสิ่งใดเจ้าคะ"

สาวน้อยที่ดูแลหน้าร้าน ตรงเข้ามาสอบถามอย่างนอบน้อม

เว่ยเหนียนเหยารู้สึกพอใจในการอบรมคนงานของร้านนี้มาก ดูจากการแต่งตัวของนางและครอบครัวคนทางร้านก็น่าจะทราบว่า พวกนางน่าจะมีฐานะไม่ดีนัก แต่หญิงสาวนางนี้กลับไม่มีแววตาดูแคลน ซ้ำกับเข้ามาสอบถามอย่างนอบน้อม

"น้องสาว พวกข้าจะนำผ้าปักมาขาย ไม่ทราบว่าทางร้านพอจะรับซื้อหรือไม่"

"ถ้าอย่างนั้น ข้าขอดูชิ้นงานของท่านได้หรือไม่เจ้าคะฮูหยิน"

เว่ยเหนียนเหยาหยิบถุงใส่เงินส่งให้อีกฝ่ายดู เพียงแค่อีกฝ่ายเห็นถุงผ้าปักลายตรงหน้า สีหน้าก็ฉาบยิ้มขึ้นอีกเท่าตัว

"โอ้ ช่างงดงามเหลือเกินเจ้าค่ะ ข้าไม่เคยเห็นลายปักแบบนี้มาก่อนเลย เชิญฮูหยินและทุกท่านเข้ามานั่งด้านในก่อนนะเจ้าคะ ข้าจะรีบไปแจ้งข่าวกับนายหญิงสักครู่

หลังจากที่ให้อีกฝ่ายนั่งรออยู่ที่โถงต้อนรับ หญิงสาวนางนั้นก็หายเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นานนางก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับหญิงสาวอีกคน

หญิงสาวที่มาใหม่นี้ มีรูปร่างบอบบางสมส่วน ดวงตาแววหวาน มองดูก็รู้ว่าเป็นหญิงสาวที่มากความรู้ อายุอานามก็น่าจะมากกว่าเจ้าของร่างนี้ประมาณสองถึงสามปี

เว่ยเหนียนเหยารีบลุกขึ้นทำความเคารพผู้มาใหม่ทันที

"เถ้าแก่เนี้ย"

"เถ้าแก่เนี้ยอะไรกัน ข้ายังไม่แก่แบบนั้นเสียหน่อย เรียกข้าว่าพี่ชุนเหมยเถอะ"

หญิงสาวตรงหน้าเอ่ยอย่างอารมณ์ดี หึ หึ ก็จะไม่ให้นางอารมณ์ดีได้อย่างไร อยู่ๆ เงินก็ตกจากฟ้าลอยเข้ามาเข้ากระเป๋านางก้อนโตแบบนี้

ถุงเงินที่เด็กในร้านนำไปให้นางดู ล้วนตัดเย็บอย่างประณีต ลายปักดอกเหมยกุ้ยอ่อนช้อยราวกับจะผลิบานออกมาจากผ้า นางไม่เคยเห็นฝีเข็มที่ปักเย็บแบบนี้เลยสักครั้ง ครั้งนี้คาดว่านางจะเก็บเพชรเม็ดงามขึ้นมาจากโคลนตมแท้ๆ

"ไหน ไหน ข้าขอดูผ้าปักของเจ้าทั้งหมดหน่อย ไม่ทราบว่าน้องสาวเอาอะไรมาเสนอขายบ้าง"

เว่ยเหนียนเหยายิ้มรับถ้อยคำคนตรงหน้า ช่างเป็นยอดนักขายแท้ๆ เพียงคำพูดไม่กี่คำก็สามารถสร้างความสนิทสนมกับนางราวกับรู้จักกันมาเป็นแรมปี

"พี่ชุนเหมย วันนี้ข้านำ ถุงเงิน ถุงเครื่องหอม กับผ้าเช็ดหน้ามาให้ท่านดูเจ้าค่ะ"

หญิงสาวจัดเรียงสิ่งของรวมกันเป็นชุด เพื่อสะดวกในการเสนอขายสินค้า

ชุนเหมยรับของสามสิ่งเข้ามาดูรายละเอียด นางพบว่า ไม่ว่าจะเป็นถุงใส่เงิน ถุงใส่เครื่องหอม หรือผ้าเช็ดหน้า ล้วนแล้วแต่เป็นลวดลายเดียวกัน อีกทั้งการเก็บชายผ้าเช็ดหน้ากับมีการใช้ด้ายสร้างลวดลายสวยงามบนบริเวณริมผ้า ยิ่งทำให้ผ้านี้สวยงามแปลกตาขึ้นไปอีก

"พี่ชุนเหมยเจ้าคะ สิ่งที่ท่านเห็นนี้ข้าจะให้ท่านนำเสนอขายเป็นชุดเจ้าค่ะ ท่านเห็นว่าเป็นอย่างไรเจ้าคะ"

"ดี ดียิ่งนัก เจ้ารู้หรือไม่ว่า ทุกวันพวกคุณหนูพวกนั้นเข้ามารื้อค้นร้านค้าเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับลวดลายปักบนถุงหอมที่นางชอบบ้าง บนลายผ้าเช็ดหน้าบ้าง แบบนี้ต่อไป ข้าจะเสนอขายของไปให้ยกชุดซะเลย จะได้ไม่ต้องเรื่องมากกันอีก ว่าแต่วันนี้เจ้านำมาให้ข้ากี่ชุดละ"

"ทั้งหมดมี ห้าชุดเจ้าค่ะ มีลายดอกเหมยกุ้ยสามแบบ ดอกหลันฮวา2แบบเจ้าค่ะ"

"แล้วเจ้าจะขายสักเท่าไหร่"

"พี่ชุนเหมยข้าไม่เคยทำการค้าด้านนี้มาก่อน ได้แต่หวังความเมตตาจากพี่สาวเจ้าค่ะ"

ชุนเหมยเห็นหญิงสาวตรงหน้าเอ่ยขึ้นอย่างซื่อตรงไร้เล่ห์เหลี่ยม ในใจยิ่งเมตตา ประกอบกับมองเลยไปยังเด็กน้อยทั้งสองที่ส่งสายตาออดอ้อนคาดหวัง หัวใจยิ่งเหลวเป็นสายน้ำ

"เอาแบบนี้เถอะ ปรกติร้านข้าซื้อของพวกนี้ชิ้นหนึ่งมากที่สุดไม่เกิน สามร้อยอีแปะ แต่ลวดลายงานของเจ้าสวยงามแปลกตา ข้าจะซื้อเจ้าในราคาชุดละ ห้าตำลึงเงิน เจ้าว่ายังไง"

"ข้าเอาตามที่ท่านแนะนำเจ้าค่ะ"

เว่ยเหนียนเหยารู้ว่า ชุนเหมยให้ราคาที่ดีที่สุดแก่นางแล้ว ตอนแรกนางก็ไม่ได้หวังว่าจะขายได้ราคาดีขนาดนี้ ตอนนี้นางรู้สึกดีใจจนเนื้อเต้นเลยทีเดียว

"พี่ชุนเหมยไม่ทราบว่า ท่านมีเวลาหรือไม่ ข้ามีการค้าอีกอย่างจะขอคำแนะนำจากท่านเจ้าค่ะ"

"ได้สิ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวข้าจะให้เด็กๆ พาบุตรชายและสามีของเจ้าไปนั่งกินของว่างรอที่ในห้องโถงในก่อนดีหรือไม่"

"ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดียิ่งแล้ว หานชิง หานเหนียนยังไม่รีบเข้ามาขอบคุณท่านป้าอีก"

หานตงนำบุตรชายทั้งสองเดินเข้ามาขอบคุณ ก่อนจะแยกตัวเดินตามคนนำทางไปยังห้องโถงชั้นใน หญิงสาวเมื่อเห็นดังนั้น จึงหยิบผ้าชิ้นหนึ่งขึ้นมาวางตรงหน้าชุนเหมย บนผ้าปรากฏรูปแบบของเสื้อผ้าอยู่ชุดหนึ่ง

เว่ยเหนียนเหยาใช้ประสบการณ์เจ้าแม่ขายตรงอันดับหนึ่ง ก่อนร่างสร้างฝันให้ชุนเหมยจินตนาการรูปแบบเสื้อผ้าไปด้วยกัน ยิ่งฟังชุนเหมยยิ่งเห็นเงินทองร่วงหล่นมาจนเต็มห้องโถงเต็มไปหมด

"วิเศษ วิเศษ สิ่งที่เจ้าพูดมาวิเศษมาก นอกจากเราจะขายชุดพวกนี้ได้ ผ้าคาดเอว ผ้าเช็ดหน้า และสิ่งอื่นๆ ล้วนสามารถนำมาต่อยอดการขายได้ทั้งสิ้น"

"ใช่แล้วเจ้าค่ะ"

เนื่องจากภายในบ้าน เว่ยเหนียนเหยาหาได้เพียงเศษถ่านจึงนำมาวาดแบบลงบนผ้า ไม่สามารถหาดินสอ หรือดินสอสีมาช่วยสร้างจินตนาการได้ นางจึงต้องอาศัยทักษะในการพูด เพื่อให้ชุนเหมยสามารถจินตนาการเสื้อผ้าตามแบบที่นางเขียนขึ้นมาได้

"แล้วการค้าชิ้นนี้เจ้าจะขายข้ายังไง"

"การค้าชิ้นนี้ข้าจะขอไม่ขาย แต่จะขอเป็นการแบ่งกำไร สองในสิบส่วน ท่านเห็นว่าเป็นอย่างไรเจ้าค่ะ"

ชุนเหมยอึ้งไปเล็กน้อย ด้วยไม่คิดว่าจะได้รับข้อเสนอการค้ารูปแบบนี้

"พี่ชุนเหมยโปรดวางใจ หลังจากผ้าชุดนี้ออกไป ตัวข้ายังมีแบบอื่นๆ อีกมายมาย แน่นอนว่าต้องนำเสนอให้กับร้านท่านเพียงร้านเดียว"

"ได้ตกลงตามนี้ ข้าจะรีบตัดเย็บให้เรียบร้อย หลังจากนี้เจ็ดวัน ขอให้เจ้ากลับมาอีกครั้ง ข้าจะนำเสื้อที่ตัดเย็บเสร็จแล้ว มาให้เจ้าตรวจดู ส่วนของที่ซื้อขายกันในวันนี้เป็นเงิน2ตำลึงทองกับอีก5ตำลึงเงินเดียวข้าจะให้เด็กๆ นำเงินมาให้เจ้า"

"พี่ชุนเหมยเจ้าคะ ถ้ายังงั้นข้าจะขอซื้อเสื้อผ้าให้กับบุตรชายและสามีของข้าสักคนละสองชุด ไม่ทราบว่าราคาเสื้อผ้าอยู่ที่เท่าใดเจ้าคะ และข้าอยากได้ผ้ากับด้ายชั้นดีเพิ่มอีกด้วยเจ้าค่ะ"

"เอาอย่างนี้เถอะ เสื้อผ้าที่เจ้าต้องการ ถือว่าข้าให้เป็นของขวัญแรกพบ เดียวข้าจะให้เด็กในร้านพาเจ้าไปเลือกดู ส่วนผ้ากับด้ายนั้นประเดี๋ยวข้าจะให้เด็กๆ นำเจ้าเลือกดูอีกที่"

"เรื่องเสื้อผ้านั้นขอให้ข้าจ่ายเงินเถิดเจ้าค่ะ แค่ท่านเมตตาซื้อผ้าปักของข้าในราคาสูงเพียงนั้นก็ถือว่าช่วยข้ามากแล้ว"

"ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจเจ้าเถอะ"

ชุนเหมยกำชับเด็กในร้านให้พาหญิงสาวไปเลือกชุดเสื้อผ้า จากผ้าเนื้อดีโดยไม่ต้องบอกราคา จากนั้นให้พาเดินไปดูผับผ้าเนื้อดีกับด้านคุณภาพสูงที่ทางร้านมีอยู่ หลังจากเลือกอยู่ชั่วครู่ นางก็ได้ เสื้อผ้าเนื้อดีสีเขียวเข้ม กับสีเขียวขี้ม้ามาอย่างละ2 ชุด ให้กับบุตรทั้งสอง

ส่วนของสามีนางเลือกเป็นสีกรมท่า ซึ่งนางคิดว่าสามีของนางน่าจะชอบเสื้อผ้าสีแบบนี้มากกว่าสีที่สดใสเป็นแน่

เมื่อเลือกเสื้อผ้าเสร็จแล้ว นางจึงเดินไปเลือกผ้าเนื้อดีสีชมพูอ่อน สีเขียวอ่อน และสีเหลืองอ่อนมาอย่างละพับ จากนั้นจึงเลือกดูด้ายเพิ่มมาอีก 20สี นางสังเกตเห็นว่า ผ้าและด้ายที่นางเลือกมีสีและคุณภาพดีกว่าของที่นางมีอยู่เป็นอันมาก

เกรงว่าแค่ผ้าและด้ายที่ซื้อไปนี่เงินที่ได้มาก็แทบจะหมดแล้ว แต่อย่างไรก็ต้องตัดใจซื้อเพราะหากว่านางใช้ของที่มีคุณภาพดี คาดว่าผลงานที่ออกมาน่าจะได้ราคาสูงกว่าที่เป็นอยู่

นางเดินกลับมาที่ห้องโถงปรากฏว่า สามีและบุตรชายได้มานั่งรออยู่แล้ว นางจึงนำเสื้อผ้าที่เลือกมาลองทาบทับเข้ากับตัวบุคคลทั้งสาม ปรากฏว่าของบุตรชายหลวมไปเล็กน้อย ซึ่งนางก็เห็นว่ากำลังดี เพราะบุตรชายกำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโต ส่วนของสามีกับกำลังพอดีไม่คับไม่หลวมจนเกินไป

ชุนเหมยเมื่อเห็นหญิงสาวเลือกของจนครบแล้ว นางจึงบอกราคาเพียงครึ่งหนึ่งของราคาจริงทั้งหมด เว่ยเหนียนเหยามองชุนเหมยอย่างซาบซี้ง ก่อนจะรับเงินที่เหลือจากชุนเหมยมาสองตำลึงทอง

เว่ยชุนเหนียงกล่าวลาพร้อมทั้งขอฝากข้าวของไว้ที่ร้านก่อน เนื่องจากนางต้องการพาสามีและบุตรชายออกไปหาซื้อข้าวของก่อนจะกลับบ้าน

"ท่านแม่ขอรับ พวกเราไปกินข้าวกันเถอะขอรับ ข้าหิวเหลือเกิน"

"ใช่ ใช่ขอรับท่านแม่ ตอนนี้ท้องของข้าร้องดังจนข้าไม่สามารถห้ามได้แล้วขอรับ"

ตอนที่นั่งอยู่ในร้าน แม้จะมีของว่างมาให้กินแต่มันก็เป็นเพียงขนมไม่กี่ชิ้น เด็กน้อยทั้งสองอยู่ในวัยกำลังกินกำลังนอน ของแค่นั้นย่อมไม่สามารถขจัดความหิวที่เกิดขึ้นได้

หญิงสาวย่อตัวลงหยิกแก้มขาวขาวของลูกชายทั้งสองอย่างเอ็นดู

"งั้นวันนี้แม่จะพาเจ้าไปกินบะหมี่เนื้อตุ๋นดีหรือไม่"

เด็กชายทั้งสองไม่เคยกินเนื้อมาก่อน จึงจินตนาการถึงรสชาติของเนื้อไม่ออก ได้แต่คิดถึงเนื้อปลาขาวๆ ที่มารดาเคยทำให้กินเท่านั้น

"ท่านพี่เจ้าคะ เราพาลูกๆ ไปกินบะหมี่เนื้อตุ๋นตรงร้านที่เราผ่านมาดีหรือไม่เจ้าคะ เมื่อสักครู่ตอนเดินผ่านข้าสังเกตเห็นว่ามีคนนั่งกินอยู่ไม่น้อย รสชาติคงจะไม่เลวเลยทีเดียว"

"ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ"

สองผู้ใหญ่สองเด็กพากันเดินกลับไปทางร้านบะหมี่อย่างรวดเร็ว โชคดีที่ตอนนี้เป็นเวลาสายมากแล้ว ผู้คนจึงไม่ค่อยหยุดทานอาหารสักเท่าไหร่ ยังเหลือโต๊ะว่างอีกสองโต๊ะ

ครอบครัวของหานตง เข้าไปในยังโต๊ะที่ว่างอยู่ เว่ยเหนียนเหยาสั่งบะหมี่สำหรับผู้ใหญ่สองถ้วย สำหรับเด็กอีกสองถ้วย นางเน้นขอให้เถ้าแก่เพิ่มเนื้อแต่ละถ้วยเข้ามาเป็นพิเศษ

เมื่อบะหมี่มาถึง ความหอมหวานของน้ำซุปบวกกับความหอมของเนื้อตุ๋นตรงหน้า ทำให้เด็กๆ ต่างน้ำลายแตกออกเต็มปาก จนต้องกลืนน้ำลายลงคอไปเฮือกใหญ่

หญิงสาวนำบะหมี่ของผู้ใหญ่ทั้งสองถ้วยมาวางตรงหน้า ก่อนจะแบ่งบะหมี่จากถ้วยของนางใส่เพิ่มไปให้ถ้วยของสามีอีกครึ่งหนึ่ง จากนั้นจึงได้นำส่งให้หานตง

"ท่านพี่ ขอท่านอย่าได้ถือสา บะหมี่ในถ้วยของข้ามีมากนัก ถ้าข้ากินไม่หมดคงเสียดายเป็นอย่างมาก ท่านก็ช่วยข้ารับผิดชอบด้วยเถอะนะ"

หานตงรู้ดีว่า หญิงสาวตรงหน้าเพียงแต่ต้องการให้เขากินอิ่มอย่างสบายใจจึงได้พูดปลอบใจออกมาเช่นนี้ หารู้ไม่ว่าสิ่งที่นางพูดเป็นความจริงทุกคำ เจ้าของร่างเก่า รักษาทรวดทรงเป็นอย่างยิ่ง แต่ละมื้อกินข้าวแทบจะไม่กี่คำ ทำให้นางที่มาอยู่ใหม่ไม่สามารถจะกินข้าวได้มากตามความต้องการ

เมื่อเห็นสามีลงมือกินอย่างสุขใจ นางจึงส่งถ้วยให้บุตรชายทั้งสองโดยหยิบเนื้อในถ้วยของนางเพิ่มให้อีกคนละชิ้น

บุตรชายทั้งสองยิ้มตาหยี ก่อนจะพูดขอบคุณท่านแม่ด้วยเสียงอันดัง

บรรยายเรื่องบะหมี่ไป คิดถึงบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงนำ้หอมๆ ขี้นมาซะงั้น

ใครก็ได้โปรดดดดส่งมาาที

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่8

    หลังจากทั้งครอบครัวอิ่มหนำกันแล้ว เว่ยเหนียนเหยาให้หานตงพาไปร้านขายข้าวสารและของแห้ง เมื่อมาถึงร้านขายของหานตงเห็นว่านี่เป็นเวลายามเว่ยแล้ว เขากลับบุตรชายจะไปบอกคนขับเกวียนให้รอพวกเขาสักครู่ เนื่องจากเกรงว่าคนขับเกวียนจะกลับไปเสียก่อนหากแต่หญิงสาวกลับส่งเงินให้สามี1ตำลึง พร้อมกับบอกให้สามีไปเลือกซื้อหมูเนื้อแดงครึ่งชั่ง เนื้อติดมันครึ่งชั่ง ไขมันหมูหนึ่งชั่ง และกระดูกหมูสองชั่ง จากนั้นให้หารถม้ารับจ้างมาสักคัน โดยเน้นว่าให้หาคันที่ใหญ่สักหน่อยไปรับของที่ฝากที่ร้านผ้าไว้ แล้วค่อยกลับมารับนางหญิงสาวเดินเข้ามาในร้านข้าวสาร ร้านร้านนี้จัดวางข้าวของอย่างเป็นระเบียบ ของทุกชิ้นไม่มีฝุ่นเกาะ แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการทำงานเป็นอย่างมาก"ฮูหยินท่านนี้ ไม่ทราบว่า ต้องการซื้ออะไรบ้างขอรับ"ชายรูปร่างสันทัดเดินเข้ามาต้อนรับนางทันทีด้วยท่าทางอ่อนน้อม"เถ้าแก่ ข้าขอ ข้าวสารคุณภาพกลางสองชั่ง แป้งสาลีครึ่งชั่ง น้ำตาลทรายแดงครึ่งชั่ง เกลือสองจิน สารส้มครึ่งจิน เหล้าขม ซีอิ๊ว อย่างละไห อ๋อ ข้าขอเครื่องเทศต่างต่างอย่างละชุด และถ่านถุงเล็กหนึ่งถุงด้วยเจ้าค่ะ"เถ้าแก่ร้านอ้าปากค้าง เขาคิดไม่ถึงจริงจริง

    Huling Na-update : 2025-03-23
  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่9

    รถม้าคันใหญ่วิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน ชาวบ้านต่างออกมามองดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น เนื่องจากผู้คนในหมู่บ้านนี้มีอยู่ไม่น้อย หากแต่ไม่มีผู้ใดจะมีฐานะถึงขนาดเช่ารถม้าคันใหญ่โตมาส่งเลยสักครั้ง"โอ้ นั้นเป็นคนบ้านไหนกันนะ ทำไมถึงนั่งรถม้าคันใหญ่มาถึงหมู่บ้านเราได้""นั่นสินั่นสิ นานแล้วนะที่ข้าไม่เคยเห็นรถม้าคันใหญ่ถึงเพียงนี้ เป็นบุญตาข้าจริงๆ"เสียงรถม้าค่อยๆวิ่งผ่านไปพร้อมกับเสียงเล่าลือปนสงสัยก็ดังตามรถม้าออกไปเรื่อยๆ"อาเหยาตื่นเถอะถึงบ้านแล้ว"หญิงสาวค่อยๆกะพริบตา ก่อนจะหลับตาตั้งสติอยู่ชั่วครู่ ตายแล้ว นางเผลอตัวนอนหลับไปตอนไหนเนี่ย นางช้อนตาขึ้นมองสามีอย่างออดอ้อนปนขอโทษ"ข้าขอโทษเจ้าค่ะท่านพี่ ข้าไม่รู้ตัวว่าเผลอหลับไปตอนไหน"ชายหนุ่มหันมาลูบผมและจัดเสื้อผ้าให้กับผู้เป็นภรรยาอย่างอ่อนโยน"หากเจ้ายังไม่หายง่วงอีกประเดี๋ยวก็เข้าไปนอนพักผ่อนในห้องอีกสักครู่ ข้าวของพวกนี้เดี๋ยวข้าจะขนเข้าไปเก็บเอง"หญิงสาวหน้าแดงกับความอ่อนโยนที่ได้รับ นางรีบส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนจะหันไปปลุกบุตรชายทั้งสอง เด็กทั้งสองเมื่อเห็นว่าตนมาถึงบ้านแล้ว ต่างทำหน้าเสียดายที่มัวแต่นอนหลับ เลยไม่ได้ดูทิวทัศน์จากนอกหน้าต่

    Huling Na-update : 2025-03-23
  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่10

    "โอ๊ย ข้าไม่เคยกินอิ่มขนาดนี้มาก่อนเลย กับข้าวที่พี่สะใภ้ทำอร่อยทุกอย่างเลยขอรับ"เซียนย้งเปลี่ยนท่าที เขาพูดจากับเว่ยเหนียนเหยาอย่างอ่อนน้อมมากขึ้น หานตงมองเซียนย้งอย่างเหยียดหยาม ไหนเมื่อครู่เจ้ายังไม่เชื่อถือเมียของข้า เหตุใดจึงเปลี่ยนใจง่ายดายเพียงนี้เล่า"นี่ก็มืดแล้ว ข้าว่าลูกเมียเจ้าน่าจะกลับมาแล้วนะ"หานตงเอ่ยปากไล่กลายๆ เนื่องจากรู้ดีว่า วันนี้เมียของตนตรากตรำมาทั้งวัน"แล้วที่จะขึ้นเขาพรุ่งนี้"เซียนย้งกล่าวอย่างคาดหวัง ที่เขาอยากให้หานตงขึ้นไปด้วย เพราะหานตงเป็นพรานป่าที่ชำนาญทางและล่าสัตว์เก่งเป็นที่หนึ่ง หากแต่ชายหนุ่มกับขึ้นเขานับครั้งได้ เนื่องจากเป็นห่วงบุตรชายทั้งสองแต่ครั้งนี้เซียนย้งเห็นแล้วว่า เมียของหานตงดูแลเอาใจใส่บุตรชายเป็นอย่างดี หานตงน่าจะขึ้นเขาล่าสัตว์ได้อย่างไร้กังวลหานตงเอ่ยปากให้ลูกชายทั้งสองเข้าไปนอนก่อน เนื่องจากเห็นว่าเด็กทั้งสองตาปรือจนจะหลับกลางอากาศอยู่แล้ว ก่อนจะเบือนมาสบตาเว่ยเหนียนเหยา เขาเห็นความกังวลและหวาดกลัวในตาคู่งาม ชายหนุ่มตัดสินใจ"ข้าคงไปด้วยไม่ได้ อาเหยาเพิ่งจะหายป่วย ซ้ำยังรับงานชิ้นใหญ่มาจากในเมือง ข้าต้องอยู่ช่วยนาง"ง"จริงๆ ข้า

    Huling Na-update : 2025-03-23
  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่11

    ต้นยามเหมาชายหนุ่มจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้น เขาไม่เคยนอนหลับสนิทแบบนี้มานานแล้ว หานตงนอนมองหน้าภรรยาอย่างสุขใจ ก่อนจะตัดใจลุกขึ้น เขาค่อยๆขยับแขนออก เนื่องจากต้องการให้ผู้เป็นภรรยานอนพักต่อไปอีกหน่อยหากแต่แค่เขาขยับลงจากเตียง ร่างบางกลับขยับตัวลุกตาม"ท่านพี่นี่ยามไหนแล้วเจ้าคะ""เพิ่งต้นยามเหมาเอง เจ้านอนต่ออีกหน่อยเถิด เดี๋ยวข้าจะออกไปอาบน้ำและตักน้ำมาให้เจ้าอาบในตอนเช้า""ข้าลุกขึ้นเลยดีกว่าเจ้าค่ะ วันนี้เราจะขึ้นเขากัน ข้าอยากทำอะไรติดไว้ไปกินกันระหว่างทางด้วยเจ้าค่ะ "หานตงเห็นภรรยาเดินลงจากเตียง จึงเข้าไปช่วยจุดตะเกียง จากนั้นทั้งสองจึงช่วยกันเก็บพับที่นอนจนเรียบร้อย ก่อนที่ชายหนุ่มจะถือตะเกียงเดินจูงมือภรรยาออกจากห้องหลังจากจุดตะเกียงที่ห้องโถงกลางบ้านแล้ว ชายหนุ่มก็รีบใช้กะละมังไปตักน้ำมาให้ภรรยาล้างหน้าล้างตา"เจ้าทำอาหารรอพี่ไปก่อน เดี๋ยวพี่อาบน้ำเสร็จจะรีบตักน้ำมาให้เจ้าอาบที่นี่ ทางเดินไปลำธารไม่ค่อยจะเรียบนัก พี่ไม่อยากให้เจ้าออกไปด้วย"หญิงสาวพยักหน้าอย่างรู้ความ ก่อนจะบอกให้สามีช่วยจับปลาในลำธารมาให้สักสามสี่ตัว แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร นางเพียงแต่จะลองทำข้าวต้มปลาให้ครอบคร

    Huling Na-update : 2025-03-23
  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่12

    และแล้วกลุ่มคนทั้งหมดตอนนี้ก็ปรากฏตัวขึ้นหน้าผืนป่าไผ่"ท่านพี่เจ้าคะ ท่านลองขุดหน่อไม้ขึ้นมาให้พวกเขาดูว่า ต้องขุดแบบไหน และเลือกหน่อไม้แบบใด"หานตงไม่รอช้า เดินไปที่กอไผ่ที่สมบูรณ์กอหนึ่ง จากนั้นก็สังเกตดู เขาเลือกขุดหน่อที่เพิ่งจะแทงขึ้นมาจากดินเพียงไม่กี่คืบ ไม่นานหน่อไม้อวบอ้วน ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคนเมื่อทุกคนเข้าใจดีแล้ว ต่างก็แยกย้ายไปขุดโดยมีเว่ยเหนียนเหยาคอยกำกับให้ขุดไปแค่เพียงพอทำอาหารสัก 3-4วันหลังจากขุดหน่อไม้ได้พอสมควรแล้ว นางก็เดินนำทุกคนเข้าไปที่พุ่มมันฝรั่งที่ขึ้นกันหนาแน่น งานนี้นางต้องลงมือขุดให้ทุกคนดูเอง เนื่องจากสามีของนางไม่เคยเห็นตอนที่นางขุดขึ้นมาในครั้งก่อนเมื่อนางทำเป็นตัวอย่างให้ดู เหล่านักเรียนทั้งหลายก็ทำตามกันอย่างสนุกสนาน เมื่อเห็นว่าทุกคนมุ่งความสนใจไปที่การขุดมันฝรั่ง นางจึงเริ่มสำรวจบริเวณผืนป่าอีกครั้งนางเดินหยิบนั้นดูนี่ไปเรื่อย สายตาก็พบกับสิ่งที่ตนตามหา นี่มันพริกกับต้นกุหลาบนี่ โอ๊ยสวรรค์ เป็นใจ หญิงสาวกางผ้าเช็ดหน้าของตนออก ก่อนจะเด็ดดอกกุหลาบใส่ไปจนเต็มและห่อไว้อย่างเรียบร้อยแล้วพริกพวกนี้จะเอากลับยังไงดี นางมองไปโดยรอบก่อนจะตัดสินใจ ถ้า

    Huling Na-update : 2025-03-24
  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่13

    "ท่านพี่เจ้าคะ สงสัยตอนนี้พวกปลามันคงจะไม่ค่อยว่ายมาแถวนี้แล้วหรือไม่ เรารอมาตั้งนานพึ่งจะจับมาได้แค่สองตัวเอง""ถ้างั้นเราเดินขึ้นไปทางต้นลำธารอีกหน่อยดีไหมเจ้าคะพี่สะใภ้ แถวนั้นข้าเห็นปลาว่ายชุกชุมยิ่งนัก"หลังจากคิดไตร่ตรองชั่วครู่ ทั้งหมดจึงตกลงใจพากันเดินขึ้นไปที่ต้นลำธาร สายตาเว่ยเหนียนเหยาเบิกกว้าง แม่เจ้า นี่มันบึงบัวนี่ โชคดีแท้ๆ นางกำลังเบื่อมันฝรั่งกับหน่อไม้อยู่เลย วันนี้นางจะนำรากบัวสดมาทำกับข้าวด้วยดีกว่า อีกทั้งเกสรดอกบัวและดอกบัวพวกนี้ยังสามารถนำมาทำชาดื่มบำรุงร่างกายได้อีกต่างหาก"ท่านพี่เจ้าคะ ท่านพาเซียนย้งไปช่วยกันจับปลาที่ทางโน้นก่อน ส่วนข้าจะสอนซินเซียงเก็บรากบัวมาไว้ทำอาหาร พวกเราแยกกันทำงานจะได้กลับบ้านเร็วขึ้น ดีไหมเจ้าคะ"ทั้งหมดต่างเห็นสอดคล้อง จึงแยกย้ายเดินไปคนละที่ เว่ยเเหนียนเหยาถอดรองเท้าออก และเดินลุยลงไปในบึง น้ำในบึงลึกไม่มาก นางไม่ต้องการเดินออกไปไกล เพราะแค่บัวที่ขึ้นใกล้ๆ ริมบึงก็มีอยู่มากโขหญิงสาวใช้ประสบการณ์ กวานมือลงไปใต้กอบัวก่อนจะดึงขึ้นมาทั้งกอ"พี่สะใภ้ รีบทิ้งไปเจ้าค่ะ นั่นๆ งู งูเจ้าค่ะ"เว่ยเหนียนเหยา ตกใจจนแทบจะโยนกอบัวทิ้งไปจริงๆ แต่

    Huling Na-update : 2025-03-24
  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่14

    "อาตง อาตง เจ้าอยู่ไหม"เสียงเรียกชื่อดังกึกก้อง ตามด้วยการปรากฏตัวของชายหญิงคู่หนึ่ง ผู้ใหญ่ทั้งสามในบ้านที่กำลังอยู่ในกิจกรรมกินข้าวชะงักมือลงส่วนเด็กๆทั้งสามกับแสดงกิริยาหวาดกลัว ตัวหานชิงและหานเหนียนวิ่งเข้าไปกอดมารดาตัวสั่น ส่วนเซียนเหยาก็วิ่งเข้าไปหลบหลังมารดาของตน"หึ เจ้าใหญ่เจ้ารอง เจอลุงใหญ่กับป้าสะใภ้ใหญ่เหตุใดถึงไม่ทักทาย ช่างใช้ไม่ได้จริงๆ"น้ำเสียงดุดันเหยียดหยามของฝ่ายหญิงที่มา กล่าวขึ้นอย่างไม่ไว้หน้าเว่ยเหนียนเหยากอดปลอบลูกชายทั้งสองก่อนจะลุกขึ้น เฮ้อที่แท้ก็ญาติฝ่ายสามีนี้เอง"พี่สามี พี่สะใภ้ ไม่ทราบว่าท่านมีธุระอันใด ตอนนี้ท่านพี่ไม่อยู่เจ้าค่ะ"สองสามีภรรยาวางท่าเดินเข้ามาในบ้านอย่างไร้มารยาท มองดูกับข้าวบนโต๊ะตาวาว ดูท่าสิ่งที่ชาวบ้านร่ำลือจะเป็นจริง น้องชายของตนน่าจะได้โชคจากการเข้าป่า จนเปลี่ยนเป็นเงินก้อนโตเป็นแน่มิน่าล่ะ น้องสะใภ้คนนี้ถึงได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้ หานเวิ่นมองหญิงสาวด้วยสายตาเหยียดหยามดูแคลน"ท่านพ่อท่านแม่ เป็นห่วงเจ้ารองกับหลานๆเลยให้ข้าเข้ามาดู และให้บอกเจ้ารองด้วยว่า ให้พาหลานๆเข้าไปหาหน่อย เพราะนางคิดถึงหลานทั้งสองมาก"หานเว

    Huling Na-update : 2025-03-24
  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่15

    "ท่านพี่ ท่านจะเข้าไปหาท่านแม่ที่บ้านหรือไม่เจ้าคะ"หานตงส่ายหน้า เขายังทำใจไปพบหน้ามารดาไม่ได้ บาดแผลในครั้งนั้นบาดลึก จนยากจะเยียวยาในระยะเวลาอันสั้น"แม้ท่านจะไม่เข้าไป ข้าว่าอย่างไรคนพวกนั้นก็คงไม่หยุดก่อกวนเราแน่เจ้าค่ะ""พี่ได้ยินมาว่า พี่ใหญ่กำลังหาเงิน เพราะอีกไม่นานทางผู้ใหญ่บ้านน่าจะเปิดให้จองชื่อบุตรชายที่ต้องการเข้าเรียนในสถานศึกษา""หึ บุตรชายเขาต้องเรียน แล้วบุตรเราไม่ต้องเรียนหรือยังไง""ช่างเถอะ ยังไงพี่ก็จะไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบครอบครัวเราอีกแล้ว"หานตงดึงผู้เป็นภรรยามากอดอย่างปลอบโยน"ท่านพี่ ท่านเคยเห็นบันทึกการแยกครอบครัวของท่านหรือไม่เจ้าคะ""ไม่นะ วันนั้นมีเพียงบิดามารดา และผู้ใหญ่บ้านไปหาท่านผู้นำตระกูล ส่วนพี่มารดาให้ย้ายสิ่งของเข้ามาจัดที่บ้านหลังนี้""งั้นวันพรุ่งนี้ ท่านนำหมูไปฝากท่านผู้นำตระกูลสักหนึ่งจิน พร้อมทั้งขอบันทึกแผ่นนั้นกลับมาด้วยนะเจ้าคะ""เจ้าคิดว่า บันทึกนั้นมีปัญหา"หญิงสาวส่ายหน้าไม่กล้าแสดงความคิดเห็นออกไปตรงๆ"ข้าก็แค่อยากเตรียมรับมือไว้เท่านั้นเจ้าค่ะ เรื่องนี้ข้าอยากให้ท่านทำแบบเงียบๆ อย่าให้มากความได้หรือไม่เจ้าคะ""นี่ก็ยังไม่เย็นมากนั

    Huling Na-update : 2025-03-24

Pinakabagong kabanata

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่45

    "พี่สะใภ้ขอรับ สำหรับสบู่ของข้า ข้าคิดออกแล้วขอรับว่าจะทำยังไง"เซียนย้งเกิดความคิดขึ้นตอนที่เขาฟังพี่สะใภ้กับทุกคนวางแผนการค้าถ่านกัน"ไหนเจ้าลองว่ามาซิ อาย้ง""ตอนนี้สบู่ของข้ามีรูปร่างเหมือนสบู่ทั่วไปที่ขายอยู่ ข้าอยากให้ท่านช่วยข้าออกแบบแม่พิมพ์ขึ้นมาใหม่ นอกจากนั้นข้าอยากมีตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ที่จะให้คนทั่วไปรู้ว่า นี่เป็นสบู่ของพวกเราด้วยขอรับ""สัญลักษณ์?""ขอรับพี่สะใภ้ ข้าอยากตั้งชื่อทางการค้าให้คนรู้ว่า สินค้าพวกนี้มาจากครอบครัวของพวกเรา""ดีๆ ข้าเห็นด้วยกับเจ้า"อาเสิ้นตาโต เขาก็อยากให้ถ่านของเขามีชื่อร้านเหมือนกัน"แล้วเจ้าคิดชื่อไว้แล้วหรือยัง หรือจะให้พวกข้าช่วยคิดให้"หญิงสาวมองดูเด็กหนุ่มทั้งสองที่กระตือรือร้น ดวงตาเป็นประกายอย่างตื่นเต้น ก็ช่วยส่งเสริม"ข้าอยากให้ร้านของข้า ชื่อ เหนียนเหยา ขอรับ"หญิงสาวตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าเซียนย้งจะเสนอชื่อนางขึ้นมา"เจ้าพอจะบอกเหตุผลข้าได้หรือไม่อาย้ง"หานตงถามขึ้น เขาพอจะรู้ใจของน้องคนนี้ดี แต่ก็อยากจะรู้ว่า จะเหมือนที่เขาคิดไว้หรือไม่"เพราะพี่สะใภ้ เป็นเสมือนแสงสว่างที่สาดเข้ามาในชีวิตของครอบครัวข้า ขับไล่ความมืดมิด ช่วยให้ข้าเห

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่44

    เว่ยเหนียนเหยายืนอยู่บนระเบียง คิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา นางนับถือนางลี่สือหลินมาก แม้จะรักบุตรชายเพียงใดแต่ก็ไม่ยอมเห็นผิดเป็นถูก กัดฟันส่งบุตรชายเข้ารับโทษที่ก่อตอนแรกนางยังคิดว่า นางลี่สือหลินจะล้มป่วยเพราะตรอมใจอยู่หลายวัน หากเพียงแค่สองวัน นางลี่สือหลินกลับลุกขึ้นไปทำงาน นางกับซินเซียงพยายามห้ามปรามขอให้พักผ่อนอีกสักหน่อยรอยยิ้มเศร้าสร้อยปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากคู่นั้น ก่อนจะกล่าวว่า" อาเหยา คนเป็นแม่จะอ่อนแอไม่ได้ ตอนนี้บุตรชายของข้ากำลังหกล้ม ข้าหวังว่า สักวันเขาจะคิดได้ และลุกขึ้นยืนใหม่ เมื่อนั้นมือคู่นี้ของข้ายังต้องช่วยพยุงเขาให้ลุกขึ้น"เมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็น้ำตาคลอ ชาติที่แล้ว นางไม่มีพ่อแม่ ไม่เคยรับรู้ถึงความรักของพ่อแม่มาก่อน หญิงสาวคิดไปถึงต้นโสมเจ้าปัญหาต้นนั้น ที่บัดนี้ถูกนำไปเก็บไว้ในห้องของนางเป็นที่เรียบร้อยต้นโสมเพียงหนึ่งต้น แต่กลับลากดึงเอาความโลภโมโทสันภายในจิตใต้สำนึกของมนุษย์ออกมาตีแผ่ นางหวังเพียงแต่ว่า ลี่ห่าวฟง จะไม่ทำให้มารดาของเขาผิดหวัง"พี่สะใภ้ พี่หานตงให้ข้ามาบอกท่านว่า วันนี้เป็นวันที่นัดกับช่างเฟิ่งไว้ขอรับ""เจ้าช่วยไปเรียกอาเสิ้นมาพบข้าหน

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่43

    "ภรรยาเจ้าเร็วหน่อยเถอะ เราต้องรีบไปให้ทันรถเที่ยวเช้านะ""ท่านพี่จะรีบไปไหน ป่านนี้คนพวกนั้นยังไม่มีใครรู้หรอกน่า"นางลี่สือหลินยืนกำมือแน่นที่หน้าประตู จู่ๆประตูก็ถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ข้างใน ห่าวฟงเห็นมารดา พร้อมน้องเขย น้องสาวยืนอยู่ก็ตกใจ พยายามตั้งสติ"ท่านแม่ ท่าน มาได้ยังไงขอรับ"นางลี่สือหลินมองดูบุตรชายที่ก้าวเท้าถอยหลังเข้าไปในบ้าน ในมือถือห่อผ้าห่อหนึ่ง"เจ้าใหญ่ พวกเจ้ารีบร้อนจะไปไหนกันแต่เช้า"นางลี่สือหลินไม่ตอบ แต่ย้อนถามบุตรชายแทน"พอ ดี แม่ภรรยาไม่ค่อยสบาย ข้าเลยจะพานางไปเยี่ยมดูอาการขอรับ"สะใภ้ตระกูลลี่เมื่อเห็นสามีส่งสายตามาให้ ก็รีบเอ่ยเสริมคำ"ใช่เจ้าค่ะท่านแม่สามี ท่านแม่ข้าไม่สบาย ข้าจึงจะรีบไปเยี่ยม อีกอย่างข้าอยากจะนำข่าวดีไปบอกท่านด้วยตัวเอง""พวกเจ้าก็เลยทำตัวเป็นบุตรเขยบุตรสาวที่ดี เอาต้นโสมไปเยี่ยมซินะ"นางลี่สือหลิน ตวาดออกไปอย่างหมดความอดทน มองมือบุตรชายที่กุมห่อผ้าแน่นเข้าไปอีก"ท่านแม่ ท่านพูดเรื่องอะไร ข้าไม่เข้าใจขอรับ""ข้าก็พูดเรื่องที่เจ้าสองสามีภรรยาเข้าไปขโมยโสมที่บ้านของอาเหยาไงละ"ห่าวฟงหน้าซีด เขารู้ตั้งแต่เห็นหน้ามารดาที่หน้าประตูแล้ว ว่าม

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่42

    "มา มาลูกสะใภ้เจ้านั่งก่อน"นางลี่สือหลิน รีบบอกให้บุตรชายประคองลูกสะใภ้นั่งลงบนเก้าอี้"น้องสาว น้องเขยตอนนี้คงสบายดีสินะ ท่าทางจะร่ำรวยกันใหญ่"ลี่ห่าวฟงบุตรชายของนางลี่สือหลิน กล่าวออกมาอย่างประชดประชัน เขามองไปมองรอบๆบ้านหลังนี้ด้วยความอิจฉา ครั้งก่อนเขาเคยขอให้มารดา ช่วยพูดกับน้องสาวและน้องเขยว่าให้ตนและภรรยาเข้ามาอยู่ที่นี่ด้วย แต่คนพวกนี้ล้วนแล้งน้ำใจต่อเขากับภรรยา ดีว่ามารดาแอบส่งเงินทองไปให้เขาใช้อยู่เรื่อยๆ ชีวิตเขากับภรรยาจึงไม่ได้ลำบากอะไร"พวกข้าก็แค่มีกินมีใช้นะขอรับ ท่านพี่ภรรยา"เซียนย้งจริงๆ ไม่ค่อยจะชอบพี่ภรรยาคนนี้มากนะ เพราะเขาเป็นคนหยิบโหย่งไม่ค่อยชอบทำงานเท่าไหร่ แถมยังชอบใช้กำลังกับภรรยาของเขาและท่านแม่ยายอยู่บ่อยครั้ง"เอาละ เอาละ มากินข้าวกันเถอะ วันนี้พวกเจ้าต้องกินเยอะๆนะ อ้าวข้าลืม พวกเจ้ากินกันไปก่อน ข้าไปเอาน้ำแกงไก่ที่บ้านอาเหยาก่อน"นางลี่สือหลินออกไปไม่นานก็กลับมาพร้อมน้ำแกงไก่ถ้วยใหญ่"อาเซียงเมื่อกี้ตอนแม่ไปตักน้ำแกงไก่ เห็นกล่องใส่โสมยังวางอยู่ในครัว เห็นอาย้งบอกว่า โสมหัวนั้นราคาหลายร้อยตำลึงทอง ทำไมเอามาวางไว้อย่างนั้นละ"ซินเซียงแอบมองไปยังพี่ชาย

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่41

    ชุนเหมยเมื่อเห็นน้องสาวต่างสายเลือด กระวีกระวาดวิ่งออกไปหาสามีก็ส่ายหัวยิ้มๆ นางเดินออกจากห้องโถง มุ่งตรงกลับเข้าห้องนอนทันที"เวิ้นสุ่ย"เสียงราบเรียบของหญิงสาวคล้ายพูดคุยกับอากาศที่อยู่ภายในห้อง เงาดำสายหนึ่งเคลื่อนออกมาจากมุมห้องอย่างเงียบๆ"นายหญิง""เจ้าไปสืบเรื่องนั้นมาให้ข้า จำไว้ข้าต้องการเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียด"ไร้เสียงตอบรับใดๆ มีเพียงเงาดำสายนั้น ที่เลือนหายไปคล้ายไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน ชุนเหมย เดินออกจากห้องไปช้าๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"ท่านพี่ตอนที่อยู่ที่หอการค้ากลางทำไมท่านไม่ช่วยข้าออกความคิดเห็นบ้างเลยเจ้าค่ะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างแง่งอน ที่สามีไม่ช่วยนางออกความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับร้านค้าที่นางจะซื้อ"ก็พี่ไม่มีความรู้เรื่องนี้ พี่ว่าร้านไหนเจ้าเห็นว่าดีพี่ก็ว่าดี พี่ล้วนเชื่อฟังเจ้าเหยาเอ๋อ"เซียงย้งกลั้นหัวเราะหน้าแดง เมื่อเห็นพี่ชายกลายสภาพเป็นแมวหนุ่มช่างออดอ้อนต่อหน้าพี่สะใภ้ ก่อนจะรีบปรับสีหน้า เมื่อเห็นสายตาพิฆาตที่พี่ชายส่งตรงมาให้"พี่สะใภ้ในเมื่อท่านยังไม่ถูกใจ ก็ค่อยๆ หาไปก็ได้ขอรับ ข้าและ พี่หานตงล้วนเชื่อฟังท่าน""อะ นั่น นั่น น่าจะใช่ร้านเหล็กที่พี่ช

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่40

    เว่ยเหนียนเหยากำลังกล่าวขอตัวจากเหวินฉีและภรรยา แต่อาเสิ้นก็เดินเข้ามาในบ้านซะก่อน"พี่บุญธรรม ท่านพอจะมีเวลาสักครู่หรือไม่ขอรับ ถ่านเตาแรกตากแดดดีแล้ว ข้าอยากพาท่านไปดู""ได้สิ งั้นอาเซียงเจ้าไปโรงงานเถอะ เดี๋ยวพวกข้าจะไปกับอาเสิ้น"อาเสิ้นลากถ่านที่เขาเก็บใส่ตะกร้าแล้ว ออกมาให้ทุกคนดู หญิงสาวหยิบถ่านขึ้นมาตรวจดู เห็นว่าทุกก้อนแห้งสนิทแล้วจริงๆจึงให้อาเสิ้นลองก่อไฟขึ้นมาดู ถ่านนี้เป็นถ่านที่ทำจากเศษไม้ต่างๆที่เก็บมารวมกัน จึงทำให้มีควันไฟค่อนข้างมาก ซ้ำยังมีกลิ่นแรง แถมแรงไฟที่ได้ก็ไม่สม่ำเสมอนางบอกให้อาเสิ้นจดข้อเสียเหล่านี้ไว้ เพราะเตาต่อไปจะลองใช้ไม้ไผ่อย่างเดียว อาเสิ้นตื่นเต้นมากอยากจะรีบไปเก็บไม้ไผ่กลับมาทดลองแต่นางบอกว่า รอให้พวกนางกลับมาจากในเมืองก่อนจะดีกว่า จะได้มีคนขึ้นเขาไปเป็นเพื่อนเมื่อเห็นว่าไม่มีธุระอะไรที่ต้องทำในบ้านแล้ว เว่ยเหนียนเหยาจึงรีบเดินทางเข้าในเมือง วันนี้นางมีงานต้องทำมากมายเลยทีเดียวเมื่อมาถึงตัวเมือง นางให้สามีและเซียนย้ง นำปลาไหลที่ได้ไปขายก่อนหานตงจึงมุ่งหน้าไปที่ภัตตาคารที่เคยนำปลาไหลมาขายในครั้งก่อน เสี่ยวเอ้อจำพวกเขาได้ก็ร้องทักอย่างดีใจ"พวก

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่39

    "อาเซียง เจ้าเดินรอข้าด้วยสิ""อาย้งเจ้าก็เดินให้เร็วหน่อยสิ พี่สะใภ้กำลังรอไก่จากข้าอยู่นะ""เดี๋ยวนี้ เจ้าหายใจเข้าหายใจออกเป็นพี่สะใภ้ ข้าชักจะน้อยใจแล้วสิ""หึ แน่นอนว่า พี่สะใภ้ของข้า ต้องสำคัญกว่าเจ้า""เจ้าพูดเช่นนี้ คอยดูเถอะ คืนนี้ข้าจะลงโทษเจ้าเช่นไร""เจ้า! ไม่ต้องพูดแล้ว รีบเดินเร็ว นี่มันหน้าบ้านท่านป้าเจ้านี่ รีบเดินเร็วๆ เข้าเถอะ เจ้าไม่กลัวหรือยังไง"ซินเซียงหันซ้ายแลขวา เนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นบ้านของท่านป้าของเซียนย้ง แต่นางเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว ส่วนบุตรชายกับลูกสะใภ้ก็ทำงานที่เมืองหลวง จึงปล่อยบ้านทิ้งร้างไว้เคร้ง......ปึก ปึก ปึกซินเซียงหันไปเกาะแขนเซียนย้ง หน้าขาวซีด"อา...ย้ง เจ้า..ได้ยินเสียง อะไรไหม""คงจะเป็นเสียงหนูละมั้ง ข้าว่าเรารีบไปกันดีกว่าเนอะ"เซียนย้งที่หิ้วไก่อยู่ ใช้มืออีกข้างดึงให้ซินเซียงรีบเดินตาม"อาย้ง ....อาเซียง""อา...ย้ง ได้ยินเสียงคน คนเรียก พวกเราไหม"ตอนนี้ เซียนย้งเองก็เริ่มหน้าซีดไปเหมือนกัน จับมือซินเซียงเตรียมวิ่งออกไป"อาย้ง อาเซียง นี่ข้าเอง พี่ซีเม่ย ภรรยาท่านพี่เหวินฉีไง""พี่สะใภ้ เป็นท่าน แล้วท่านพี่เหวินฉีละขอรับ"เซียนย

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่38

    " พี่สะใภ้ท่านมาแล้ว ข้าจะออกไปตามก็ไม่กล้าวางมือ""อาย้ง นำโถที่ข้าเตรียมไว้ทางโน่นมา นำผ้ามาปูบนปากโถ แล้วเอาผ้าชิ้นเล็กที่ข้าตัดไว้แล้ว รัดผ้าที่วางตรงปากโถให้แน่น ข้าจะกรองน้ำมันหอมอีกรอบ"เซียนย้งทำงานคล่องแคล่ว เดี๋ยวเดียวโถพร้อมผ้ากรองก็อยู่ตรงหน้านาง นางจัดการตามขั้นตอนสุดท้ายอย่างรวดเร็วในที่สุดน้ำมันทั้งหมดก็ถูกเทใส่โถ และดอกกุหลาบก็ถูกวางใส่ผ้ากรองทิ้งไว้"พี่สะใภ้ ต้องวางไว้นานเท่าใดขอรับ""วางไว้จนกว่า น้ำมันในดอกไม้จะออกมาหมด""ดอกไม้กับน้ำมันยังเหลืออยู่ ท่านจะให้ข้าทำต่อเลยไหมขอรับ""น่าจะทำต่อได้อีกหนึ่งถังเจ้าจัดการเลย ข้าจะคอยดู"เซียนย้งจัดการตามวิธีที่จำได้ มีผิดไปบ้างแต่เว่ยเหนียนเหยาก็คอยบอกอยู่ข้างๆ จนตุ๋นน้ำมันหอมเรียบร้อย"เอาละทีนี้มาตัดสบู่กัน เจ้าไปหยิบถาดที่ใส่สบู่มา"เซียนย้งหยิบถาดที่ใส่สบู่มาหนึ่งถาด วันนี้พี่สะใภ้ทำสบู่สามถาด เขาทำเองอีกหนึ่งถาด รวมแล้วเป็นสี่ถาด เดี๋ยวถาดนี้ให้พี่สะใภ้ตัดให้เขาดู ส่วนถาดอื่นๆเขาจะขอลองตัดเองเว่ยเหนียนเหยารับถาดไม้มา จากนั้นก็ใช้มีดเล็กบางเลาะไปข้างๆถาดไม้แล้วคว่ำถาดลงเคาะเบาๆ สบู่ก็หลุดออกมา นางจับก้อนสบู่ก้อนใหญ่ไ

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่37

    หญิงสาวเล่าเรื่องที่เว่ยหานหมิงเข้าหานาง ทุกคำพูด ทุกการกระทำ นางล้วนเล่าออกมาทั้งหมด นางไม่ใช่นางเอก ที่จะยอมปิดบังเรื่องต่างๆ เพื่อความสบายใจของพระเอก จนบางครั้งก็เกิดเรื่องราวใหญ่โตสำหรับนางการพูดคุยกันทุกเรื่องจะช่วยให้ชีวิตคู่ของพวกนางมั่นคงขึ้นอีกก้าว"เจ้าบอกว่าน้องเล็กเรียกเจ้าว่า อาเหยา หรือ""เจ้าค่ะ""แถมยังทำท่าอาลัยอาวรณ์เจ้าอีก""เจ้าค่ะ""ถ้าอย่างนั้นต่อไป เจ้าก็ไม่ต้องตามพี่ไปที่บ้านนั้นอีก และต่อไปพี่จะไม่เรียกเจ้าว่า อาเหยา แล้ว"อ้าว นี่นางทำให้สามีทำไหน้ำส้มหกนองหรือไร หญิงสาวเอนกายซบอกแกร่งสามีอย่างออดอ้อน"ถ้าเช่นนั้น ท่านจะเรียกข้าว่าอะไรดีเจ้าคะ""เหยาเอ๋อ พี่จะเรียกเจ้าว่า เหยาเอ๋อ ต่อไปเจ้าจะเป็นเหยาเอ๋อของพี่เพียงคนเดียว เจ้ายังจำสัญญาได้หรือไม่ ครั้งนี้เจ้าต้องมีลูกสาวอวบอ้วนให้พี่สักหลายๆ คนนะ เหยาเอ๋อ"ชายหนุ่มจับคางภรรยาขึ้นรับจุมพิตอ่อนโยนที่เขามอบให้ เขารู้ว่า นางไม่ใช่อาเหยาในอดีตที่มีใจรักต่อเว่ยหานหมิงผู้เป็นน้องชายครั้งนี้เขาตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่า จะทำตามคำสั่งบิดา ไม่จำเป็นจะไม่ไปที่บ้านหลังนั้นอีกกลิ่นกายหอมกรุ่นในอ้อมแขน ดึงสติเขาออกจากความคิ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status